• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Shopd2

#3161


ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ประกาศขยายระยะเวลาลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ขอรับความช่วยเหลือผ่าน 6 มาตรการ ดูแลลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ในโครงการ ธอส. รวมไทย สร้างชาติ ครอบคลุมทั้งมาตรการแบ่งจ่ายเงินงวดผ่อนชำระ (ตัดเงินต้น ตัดดอกเบี้ย) พักชำระเงินต้นและจ่ายเฉพาะดอกเบี้ย ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ผ่าน Application : GHB ALL หรือ GHB Buddy บน Application Line ได้ต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2564 พร้อมประกาศปิดลงทะเบียนเข้ามาตรการที่ 15 และ 16 พักชำระเงินต้นและพักชำระดอกเบี้ย เนื่องจากเต็มกรอบวงเงิน และตรวจสอบคุณสมบัติผู้ลงทะเบียนเข้ามาตรการ

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ตามที่ธนาคารได้ประกาศขยายระยะเวลาความช่วยเหลือลูกค้าที่อยู่ระหว่างการใช้มาตรการตาม "โครงการ ธอส. รวมไทย สร้างชาติ" ในมาตรการที่ 9, 10, 11, 11 New Entry, 13 และ 14 ให้ไปสิ้นสุดระยะเวลาความช่วยเหลือในวันที่ 31 ธันวาคม 2564 จากเดิมที่สิ้นสุดวันที่ 31 กรกฎาคม 2564 โดยเปิดให้ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เพื่อขยายระยะเวลาความช่วยเหลือผ่าน Application : GHB ALL หรือ GHB Buddy บน Application Line ระหว่างวันที่ 1-29 กรกฎาคม 2564 และภายหลังครบกำหนดระยะเวลาลงทะเบียน พบว่ามีจำนวนลูกค้าลงทะเบียนแจ้งความประสงค์รวมกว่า 85,900 บัญชี เงินต้นคงเหลือ 85,700 ล้านบาท แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในปัจจุบันยังคงมีจำนวนผู้ติดเชื้อในระดับสูง ทำให้ภาครัฐยังคงยกระดับมาตรการป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เพื่อเป็นการช่วยเหลือลูกค้าของธนาคารที่ได้รับผลกระทบ ธนาคารจึงได้ขยายระยะเวลาการลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เพื่อเข้ามาตรการ จำนวน 6 มาตรการ ผู้มีสิทธิ์เข้ามาตรการยังขยายให้ครอบคลุมทั้งลูกค้าเดิมที่อยู่ในมาตรการ และลูกค้าที่ยังไม่ได้อยู่ในมาตรการ โดยต้องเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการประกอบอาชีพ หรือทำธุรกิจ หรือการค้า เนื่องจาก COVID-19 และไม่สามารถผ่อนชำระเงินงวดให้ธนาคารได้ตามสัญญาเงินกู้



สำหรับรายละเอียดของมาตรการ ดังนี้

มาตรการที่ 9, 10, 11 และ 11 New Entry : แบ่งจ่ายเงินงวดผ่อนชำระ (ตัดเงินต้น ตัดดอกเบี้ย) เหลือ 25% หรือ 50% หรือ 75% ของเงินงวดผ่อนชำระในปัจจุบัน โดยทั้ง 4 มาตรการ ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าที่มีสถานะบัญชีปกติ สถานะ NPL และลูกหนี้สถานะ NPL ที่อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างหนี้ และต้องเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการประกอบอาชีพ หรือทำธุรกิจ หรือการค้า เนื่องจาก COVID-19 และไม่สามารถผ่อนชำระเงินงวดให้ธนาคารได้ตามสัญญาเงินกู้

มาตรการที่ 13 : พักชำระเงินต้น และจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน สำหรับลูกค้าที่มีสถานะบัญชีปกติ (ไม่เป็น NPL ไม่อยู่ขั้นตอนของกฎหมาย และไม่อยู่ระหว่างทำข้อตกลงประนอมหนี้) และต้องเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการประกอบอาชีพ หรือทำธุรกิจ หรือการค้า เนื่องจาก COVID-19 และไม่สามารถผ่อนชำระเงินงวดให้ธนาคารได้ตามสัญญาเงินกู้

มาตรการที่ 14 : พักชำระเงินต้น และจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน พร้อมลดดอกเบี้ยลงเหลือ 3.90% ต่อปี สำหรับลูกหนี้ที่สถานะ NPL และลูกหนี้ NPL ที่อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างหนี้ และต้องเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการประกอบอาชีพ หรือทำธุรกิจ หรือการค้า เนื่องจาก COVID-19 และไม่สามารถผ่อนชำระเงินงวดให้ธนาคารได้ตามข้อตกลงปรับโครงสร้างหนี้ หรือตามคำพิพากษา

ทั้งนี้ มาตรการที่ 9, 11, 11 New Entry และ 13 ธนาคารขยายระยะเวลาให้ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ได้ถึงวันที่ 16 สิงหาคม 2564 สำหรับมาตรการที่ 10 และ 14 จะขยายถึงวันที่ 29 สิงหาคม 2564

โดยทุกมาตรการข้างต้นจะได้รับความช่วยเหลือไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 และภายในเดือนตุลาคม 2564 ธนาคารจะทำการสำรวจความประสงค์ของลูกค้าอีกครั้งว่าต้องการรับความช่วยเหลือต่อไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 หรือไม่ และสำหรับลูกค้าที่มีความประสงค์เข้ามาตรการจะต้อง Upload หลักฐานยืนยันว่าได้รับผลกระทบทางรายได้ผ่านทาง Application : GHB ALL และ GHB Buddy ให้ธนาคารพิจารณา โดยสามารถลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ผ่าน Application : GHB ALL หรือ GHB Buddy บน Application Line ได้ในวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 8.30-15.00 น. เว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์ ส่วนกรณีที่ลูกค้าไม่มีสมาร์ทโฟนสามารถกรอกข้อมูลเพื่อแจ้งความประสงค์ขอรับความช่วยเหลือตามมาตรการได้ที่ www.ghbank.co.th



ส่วนการพักชำระเงินต้นและพักชำระดอกเบี้ย เป็นระยะเวลา 3 เดือน ระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม – 31 ตุลาคม 2564 ในมาตรการที่ 15 สำหรับลูกค้าที่มีสถานะบัญชีปกติ ไม่อยู่ระหว่างการประนอมหนี้หรือสถานะกฎหมาย และมาตรการที่ 16 สำหรับลูกหนี้ที่มีสถานะ NPL (ค้างชำระเงินงวดติดต่อกันมากกว่า 3 เดือน) หรืออยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งเปิดให้ลูกค้าลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2564 ล่าสุด ณ วันที่ 30 กรกฎาคม 2564 มีลูกค้าลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ทั้ง 2 มาตรการเป็นจำนวนรวม 90,800 บัญชี เงินต้นคงเหลือรวม 101,000 ล้านบาท และสูงกว่ากรอบวงเงินที่ธนาคารกำหนดไว้ที่ 100,000 ล้านบาท ดังนั้น ธนาคารจึงขอแจ้ง ปิดลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้ามาตรการที่ 15 และ 16 เนื่องจากมีลูกค้าลงทะเบียนเต็มกรอบวงเงิน และทำการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ที่ลงทะเบียนเข้ามาตรการ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2564 เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป โดยธนาคารจะประกาศวันที่เปิดให้ลงทะเบียนเพิ่มเติมอีกครั้งให้ทราบในภายหลังต่อไป

ทั้งนี้สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือติดตามข้อมูลข่าวสารของธนาคารได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (Call Center) โทร 0-2645-9000 หรือ www.ghbank.co.th, Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และ Application : GHB ALL
#3162



ผู้หญิงคนหนึ่งถูกยึดรถ หลังถูกตรวจจับได้ว่าซิ่้งด้วยความเร็วสูงสุด 130 ไมล์ต่อชั่วโมง (ราว 209 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) บนถนนสาย M1 ในอังกฤษ จากการเปิดเผยของตำรวจดาร์บีเชียร์เมื่อวันเสาร์ (31 ก.ค.)

คนขับเมอร์เซเดส จี วากอน ถูกเรียกให้จอดบริเวณทางแยกแห่งหนึ่งเมื่อคืนวันอังคาร (27 ก.ค.) หลังถูกกล้องบันทึกได้ว่าซิ่งด้วยความเร็วเฉลี่ย 113 ไมล์ต่อชั่วโมง (ราว 181 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)

เธออ้างกับตำรวจว่าที่ต้องขับรถเร็วเพราะอั้นไม่ไหวต้องการเข้าห้องน้ำอย่างแรง อย่างไรก็ตาม ตำรวจตั้งข้อสังเกตว่าเธอขับรถด้วยความเร็วแล่นผ่านสถานีบริการแห่งหนึ่งมา โดยไม่ได้แวะจอดใดๆ

ยิ่งไปกว่านั้น จากการตรวจสอบพบว่าผู้หญิงนี้ยังขับรถโดยปราศจากผู้ดูแล ทั้งที่เธอมีแค่ใบอนุญาตขับรถชั่วคราวเท่านั้น

ตำรวจดาร์บีเชียร์เขียนบนทวิตเตอร์ว่า "ผู้ถือครองใบอนุญาตชั่วคราวที่ไม่มีผู้ดูแลมาด้วยรายนี้ อ้างว่าเธอขับรถเร็วเพราะเธออยากเข้าห้องน้ำ เร็วเสียจนขับเลยสถานีบริการ"

"เธอใช้ความเร็วต่างๆ นานา ระหว่าง 100 ถึง 130 ไมล์ต่อชั่วโมง (160 ถึง 209 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) และวัดความเร็วเฉลี่ยได้ที่ 113 ไมล์ต่อชั่วโมง (ราว 181 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)" ตำรวจระบุ

ถ้อยแถลงระบุว่า ตำรวจได้ทำการยึดรถคันดังกล่าว แต่ไม่ได้เผยว่าผู้หญิงรายนี้ถูกลงโทษใดๆ หรือไม่อย่างไร

(ที่มา : บีบีซี/อินดิเพนเดนท์) https:// m.mgronline.com/around/detail/9640000075093
#3163



สมาคมประกันวินาศภัยไทยเดินหน้าปรับเกณฑ์การจ่ายค่าสินไหมทดแทน COVID-19 เพื่อเพิ่มผลประโยชน์และอำนวยความสะดวกให้กับผู้เอาประกันภัย

นายอานนท์ วังวสุ นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทยเปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในปัจจุบัน ซึ่งได้ทวีความรุนแรงและขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่อง ส่งผลทำให้ภาครัฐต้องดำเนินการเพิ่มช่องทางการนำผู้ติดเชื้อ COVID-19 เข้าสู่ระบบการดูแลในรูปแบบของการดูแลผู้ติดเชื้อที่บ้าน (Home Isolation) และการดูแลผู้ติดเชื้อด้วยระบบชุมชน (Community Isolation) เพิ่มจากเดิมที่กำหนดให้เป็นการเข้ารับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาล โรงพยาบาลสนาม หรือ Hospitel เท่านั้น

สมาคมฯ ได้มีการหารือกับสำนักงาน คปภ. และบริษัทสมาชิก ในการพิจารณาปรับเกณฑ์การจ่ายค่าสินไหมทดแทน COVID-19 ให้เหมาะสมกับรูปแบบการดูแลผู้ติดเชื้อมากยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มผลประโยชน์และอำนวยความสะดวกให้กับผู้เอาประกันภัย ดังต่อไปนี้
1. กรมธรรม์ประกันภัยซึ่งให้ความคุ้มครองกรณีเจ็บป่วยหรือตรวจพบเชื้อ COVID-19 (แบบ เจอ จ่าย จบ) เนื่องจากในกรมธรรม์ประกันภัยแบบเจอ จ่าย จบ ได้กำหนดให้ผู้เอาประกันภัยซึ่งเป็นผู้ติดเชื้อ COVID-19 ต้องแสดงหลักฐานใบรับรองแพทย์ประกอบการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน อย่างไรก็ตาม ระบบการดูแลผู้ติดเชื้อในรูปแบบ Home Isolation และ Community Isolation ทำให้ผู้เอาประกันภัยไม่สามารถขอใบรับรองแพทย์จากสถานพยาบาลได้ และอาจทำให้การดำเนินการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนไม่ได้รับความสะดวกในสถานการณ์ปัจจุบัน
สมาคมฯ จึงได้ขอความร่วมมือจากบริษัทสมาชิกในการอนุโลมไม่ต้องเรียกเอกสารใบรับรองแพทย์จากผู้เอาประกันภัยในช่วงเวลานี้ โดยขอให้ใช้เพียงเอกสารการตรวจพบเชื้อ COVID-19 แบบ RT-PCR ของผู้เอาประกันภัย จากหน่วยงานตรวจหาเชื้อ COVID-19 ที่มีมาตรฐานและผ่านการรับรองจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อให้สามารถยืนยันตัวตนของผู้ที่รับการตรวจหาเชื้อได้และผลการตรวจมีความน่าเชื่อถือ

2. กรมธรรม์ประกันภัยซึ่งให้ความคุ้มครองกรณีการเจ็บป่วยระยะสุดท้าย และ/หรือ ภาวะโคม่า และ/หรือ ภาวะสมองตายและระบบประสาทล้มเหลว จากโรค COVID-19 เป็นเหตุให้เสียชีวิต

เนื่องจากในกรมธรรม์ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองดังกล่าว กำหนดให้ผู้เอาประกันภัยต้องได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าการเจ็บป่วยระยะสุดท้าย และ/หรือ ภาวะโคม่า และ/หรือ ภาวะสมองตายและระบบประสาทล้มเหลว เป็นสาเหตุให้เสียชีวิต แต่ในกรณีที่มีการเสียชีวิตด้วยโรค COVID-19 นอกสถานพยาบาล เช่น ที่บ้าน หรือสถานที่อื่นๆ ซึ่งไม่มีการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าผู้เสียชีวิตอยู่ในภาวะดังกล่าวก่อนเสียชีวิต บริษัทประกันวินาศภัยจะอนุโลมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามความคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันภัย

3. กรมธรรม์ประกันภัยซึ่งให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจากโรค COVID-19เนื่องจากในกรมธรรม์ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล จะให้ความคุ้มครองเฉพาะการรักษาตัวแบบผู้ป่วยในในสถานพยาบาล โรงพยาบาลสนาม หรือ Hospitel เท่านั้น บริษัทประกันวินาศภัยจึงได้ขยายความคุ้มครองถึงค่ารักษาพยาบาลระหว่างการรักษาตัวในรูปแบบ Home Isolation และ Community Isolation โดยบริษัทประกันวินาศภัยจะอนุโลมจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้กับผู้เอาประกันภัยตามความจำเป็นทางการแพทย์ที่ได้จ่ายจริงในขอบเขตการรักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยนอก แต่ไม่เกินวงเงินคุ้มครองที่ระบุไว้ในตารางกรมธรรม์ประกันภัย
4. กรมธรรม์ประกันภัยซึ่งให้ความคุ้มครองค่าชดเชยรายวันหรือค่าชดเชยรายได้จากโรค COVID-19
เนื่องจากในกรมธรรม์ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองค่าชดเชยรายวันหรือค่าชดเชยรายได้ จะให้ความคุ้มครองสำหรับการรักษาตัวแบบผู้ป่วยในในสถานพยาบาล โรงพยาบาลสนาม หรือ Hospitel เท่านั้น บริษัทประกันวินาศภัยจึงได้อนุโลมจ่ายค่าชดเชยรายวันหรือค่าชดเชยรายได้ให้กับผู้เอาประกันภัยซึ่งเป็นผู้ป่วยโรค COVID-19 ที่มีความจำเป็นทางการแพทย์ต้องเข้ารับการรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน แต่ไม่สามารถหาสถานพยาบาล โรงพยาบาลสนาม หรือ Hospitel รองรับได้ จึงต้องเข้ารักษาตัวในรูปแบบ Home Isolation หรือ Community Isolation

ทั้งนี้ บริษัทประกันวินาศภัยจะจ่ายค่าชดเชยให้เฉพาะกลุ่มผู้ป่วย COVID-19 ที่มีความเสี่ยงสูงตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข เช่น ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ผู้มีภาวะอ้วน (ดัชนีมวลกายมากกว่า 30 หรือน้ำหนักตัวมากกว่า 90 กิโลกรัม) หรือ ผู้มีโรคประจำตัวได้แก่ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) โรคไตเรื้อรัง (CKD Stage 3,4) โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง โรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ หรือโรคอื่นๆ ตามดุลยพินิจของแพทย์ โดยบริษัทประกันวินาศภัยจะจ่ายค่าชดเชยให้ไม่เกิน 14 วันนับแต่วันที่ปรากฏหลักฐานการติดเชื้อ COVID-19 ซึ่งระยะเวลาดังกล่าวได้อ้างอิงตามระยะเวลาการดำเนินโรค COVID-19

นายอานนท์ วังวสุ ได้กล่าวปิดท้ายว่า "สมาคมประกันวินาศภัยไทยและภาคธุรกิจประกันวินาศภัยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า มาตรการผ่อนผันและผลประโยชน์ต่างๆ ที่ได้กำหนดเพิ่มเติมนั้น จะช่วยเหลือและช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้เอาประกันภัยซึ่งเป็นลูกค้าของเราได้เหมาะสมกับสถานการณ์มากยิ่งขึ้น เพื่อให้ธุรกิจประกันวินาศภัยได้ทำหน้าที่เป็นผู้บริหารความเสี่ยงมืออาชีพให้กับประชาชนและสังคมได้อย่างแท้จริง และมีส่วนร่วมในการนำพาประเทศก้าวข้ามผ่านวิกฤติในครั้งนี้"
#3165



หลังจากปล่อยเพลงสายดาร์กล่าสุดอย่าง "NDA" ไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในที่สุดอัลบั้มที่ผู้คนทั่วโลกรอคอยอย่าง "Happier Than Ever" ก็ได้ถูกปล่อยออกมา โดย "Billie Eilish" ยังอัดคลิปส่งมาเชิญชวนแฟนเพลงชาวไทยร่วมฟังอัลบั้มใหม่พร้อมกันในวันนี้ ที่มีทั้งหมด 16 เพลง

ซึ่งอัลบั้มนี้ "Billie Eilish" ได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปินที่เธอชื่นชอบตั้งแต่สมัยเด็กอย่าง Julie London, Frank Sinatra และ Peggy Lee ซึ่งเธอได้ผสมผสานระหว่างดนตรีคลาสสิกเก่า ๆ เข้ากับซาวด์อันเป็นเอกลักษณ์ของเธอ เรียกได้ว่า "Happier Than Ever" เป็นอีก 1 อัลบั้มที่ "Billie Eilish" และ "Finneas" พี่ชายสุดที่รักของเธอได้โชว์ศักยภาพในการนำแรงบันดาลใจมาทวิซให้ออกมาโมเดิร์น และมีความออริจินัลในแบบฉบับของตัวเธอเอง และนี่คืออีกครั้งที่ทั้ง 2 ได้พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นกันว่าพวกเขามาเพื่อเปลี่ยนวิถีวงการเพลงป็อปแล้วจริง ๆ



สำหรับ "Billie Eilish" ได้กล่าวในบทสัมภาษณ์ของ Pitchfork ถึงอัลบั้มนี้ว่า "สิ่งสำคัญที่ฉันหวังคือให้คนได้ยินเพลงของฉันแล้วพูดว่า โอ้ ฉันรู้สึกอย่างนั้น ฉันไม่รู้ว่าฉันรู้สึกแบบนั้น แต่นี่คือสิ่งที่ฉันรู้สึกจริง ๆ และฉันหวังให้ว่าเพลงของฉันอาจจะเปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเขาให้มีความสุขมากขึ้นได้" รับรองได้ว่าแฟนคลับของสาว "Billie Eilish" ไม่ผิดหวังกับผลงานระดับมาสเตอร์พีชชิ้นนี้อย่างแน่นอน


นอกจาก "Billie Eilish" จะปล่อยอัลบั้มเต็มให้ทุกคนได้ฟังกันวันนี้แล้ว เธอจะปล่อย MV เพลง "Happier Than Ever" ออกมาเร็วๆ นี้ สามารถติดตามชมได้ที่ Billie Eilish YouTube: https:// www.youtube.com/c/BillieEilish/featured
#3166



รายการโหนกระแสวันที่ 29 ก.ค. 64 "หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย" ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 สัมภาษณ์ "นพ.พิเชฐ บัญญัติ" รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และอดีตนายกสภาการแพทย์แผนไทย หลังประชาชนเรียกร้องเรื่องสมุนไพร นอกจากกระชายขาว ฟ้าทะลายโจร อีกหนึ่งอย่างที่กำลังพูดกันคือ พลูคาว ตรีผลา คืออะไร

ก่อนหน้านี้มีคนกินฟ้าทะลายโจร กระชายขาวสร้างภูมิตัวเอง กินต่อเนื่องยาวเป็นเดือนๆ แต่พออาจารย์บอกไม่ได้ ต้องมีระยะของมัน ทุกคนก็เข้าใจ และมีเรื่องคนกินยาวๆ แล้วมีปัญหาเรื่องของตับเหมือนกัน อาจารย์มองเรื่องนี้ยังไง?

นพ.พิเชฐ : อะไรที่มันมากเกินไปก็ไม่ดี น้อยเกินไปก็ไม่ดี มันต้องพอดี ผมเองมีพรรคเพื่อนที่เป็นหมอ ดูแลคนไข้ ก็บ่นมาเหมือนกันว่าเจอคนไข้ค่าตับไม่ดี ตับมีปัญหา ถามไปว่าโอ้โห กินสารพัดสมุนไพร กินป้องกันเพราะความกลัว บางคนกินทั้งฟ้าทะลายโจร กระชายขาว ตรีผลา จันทลีลา พอป่วยไปถึงหมอ หมอจะให้ยารักษาฆ่าเชื้อไวรัส ให้ไม่ได้ ตรวจแล้วค่าตับผิดปกติ เสียเวลาต้องรอ เพราะไม่กล้าให้ เพราะยาแต่ละตัวถ้าตับไม่ดีต้องระวัง มันสะท้อนว่ามีคนไม่เข้าใจ ตอนนี้อยู่ในสถานการณ์เหมือนสงคราม ใครว่าอะไรดีคว้าไว้ก่อน แบบนี้ไม่ดี มันมีโอกาสมากเกินไป บางอย่างถ้าเราจะใช้สมุนไพรเพื่อส่งเสริมสุขภาพ ต้องกินเป็นอาหาร กินตามหลักการปรุงอาหารแบบไทยๆ จะได้มีประโยชน์ไม่มีโทษ แต่ถ้ากินแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ต้องมีระยะเวลา ปริมาณที่เหมาะสม ถ้ากินเป็นยาต้องกินให้ครบสูตรครบขนานของยา มันถึงจะได้ผล ถ้าจะกินฟ้าทะลายโจรยับยั้งไวรัสโควิด ก็ต้องกินให้ได้ปริมาณสารที่กำหนดตามที่เขาวิจัยไว้



กินฟ้าทะลายโจรไม่ใช่ว่าจะไม่ติดโควิดนะ?
นพ. พิเชฐ : ใช่ครับ เพราะมันป้องกันการติดโควิดไม่ได้ ผลการวิจัยในหลอดทดลอง มันป้องกันไม่ได้ ชัดเจนว่าเก็บไว้กินตอนรับเชื้อ ถ้ากิน 3 วันแล้วโอเค ไม่มีอาการ ดีขึ้น ก็กินต่อให้ครบ 5 วัน พอ 5 วันเชื้อจะออกจากร่างกายไปหมด เชื้อจะค่อยๆ ขับออก ปกติถ้าเราไม่กินยา เป็นชนิดไม่มีอาการ ไม่รุนแรง 5 วันอาการจะลดลงเพราะร่างกายสู้มันได้ภูมิคุ้มกันจะกัดมัน 7-10 วันส่วนใหญ่จะหมด แต่ถ้าอาการเยอะจะกำจัดช้าหน่อย เป็นซากเชื้อ

ยาแผนปัจจุบันก็ทิ้งไม่ได้?
นพ.พิเชฐ : โดยแนวทางตอนนี้ไม่ให้กินฟ้าทะลายโจร ควบกับยาต้านไวรัสปัจจุบัน ทั้งฟาวิพิราเวียร์ หรือบางท่านได้เรมเดซิเวียร์ ก็แล้วแต่ ไม่กินคู่กัน ถ้าดีก็กินฟ้าทะลายโจรให้ครบ ถ้าไม่ดีต้องหยุดให้หมอประเมินอาการว่าเชื้อลงปอดมั้ย ต้องปรับยาอะไรมั้ย แต่กินเพื่อป้องกันการติดเชื้อไม่ได้ แต่ถ้ากินเพื่อรักษาต้องกินให้ปริมาณเพียงพอ ถ้าไม่ปริมาณเพียงพอเราก็ไม่การันตีได้ว่ามันจะเอาอยู่



ตรีผลา ขิง พลูคาว กระตุ้นภูมิคุ้มร่างกายได้จริงหรือเปล่า?
นพ.พิเชฐ : จากการศึกษาวิจัยในสัตว์และหลอดทดลอง ทั้งสามตัวกระตุ้นภูมิคุ้มกัน แต่ภูมิคุ้มกันมีหลายแบบภูมิคุ้มกันทั่วไปหรือที่เรามีติดตัว พวกนี้กระตุ้นได้โดยการกิน อาหาร การออกกำลังกาย แต่ภูมิคุ้มกันเฉพาะเชื้อ เฉพาะชนิดจะได้จากการฉีดวัคซีน ถึงจะเกิดภูมิคุ้มกันเฉพาะโควิดโดยตรง แต่การกินสมุนไพรที่มีฤทธิ์กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ไปช่วยเพิ่มเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดที่กำจัดเชื้อโรคได้ด้วย มันก็จะเสริมกับภูมิที่ขึ้นจากการฉีดวัคซีน อันนี้มีการศึกษาวิจัยในหลอดทดลองและในสัตว์ทดลองแล้ว แต่การกินต้องกินให้ถูกต้อง หนึ่งถ้ากินอะไรติดต่อกันยาวๆ เกิน 10 วัน อย่างพารา กินเกิน 10 วัน วันละเม็ดก็มีโอกาสที่ตับมีปัญหา ต้องหยุด ต้องเว้น อาจมีผลได้ถ้ากินทุกวัน ถึงกินเม็ดเดียวก็ควรหยุด การกระตุ้นภูมิคุ้มกัน จากตรีผลา ในตำราแพทย์แผนไทย ประกอบไปด้วย สมอพิเภก สมอไทย มะขามป้อม สามอย่างนี้เรียกว่าตรีผลา ตรีแปลว่าสาม ผลาคือผล ผลไม้สามอย่าง ถ้าทำเป็นยาใช้แบบแห้งก็ได้ แต่ถ้าทำเป็นอาหาร เครื่องดื่ม ใช้แบบสดต้มได้



สัดส่วนปริมาณเป็นยังไง?
นพ.พิเชฐ : มีสองแบบ ถ้าเราใช้เพื่อการรักษาโรค เขาจะใช้สัดส่วนไม่เท่ากันตามสาเหตุของโรคเรา แต่ถ้าใช้เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันปกติ ใช้หนึ่งต่อหนึ่งต่อหนึ่ง อย่างละเท่าๆ กันก็ได้ อาจเติมพวกน้ำตาลกรวด น้ำตาลทรายแดง หรือน้ำผึ้ง ให้รสชาติดีขึ้น



ต้องใช้สัดส่วนยังไงต่อน้ำเท่าไหร่?
นพ.พิเชฐ : บางทีสูตรพวกนี้อาจแตกต่างกันได้ไม่ตายตัว แต่เราเน้นว่าสารแต่ละอย่างให้ท่ากัน เช่นใช้สองขีดก็ใช้สองขีดๆ เท่ากัน ไปต้มในน้ำสักลิตรนึง เติมน้ำตาลให้รสชาติดีหน่อย หรือเติมเกลือสักนิดหน่อย ต้มให้มันสุก แล้วกรองเอาน้ำมา เรียกว่าพิกัดตรีผลา ใช้สำหรับคนที่ไม่ป่วย แต่ถ้าคนป่วยต้องใช้หมอวินิจฉัย ว่าโรคเกี่ยวกับธาตุไฟ เราจะใช้อีกสูตรนึง ตัวยาไม่เท่ากัน เป็น 8-4-10 แต่ถ้ามีเสมหะเยอะ มีไอ ไข้ไม่เยอะ ก็ปรับไปอีก 10-8-4 ซึ่งตัวเลขนี้เป็นน้ำหนักสัดส่วนของที่ใช้ ถ้าแก้สาเหตุจากเสมหะ ใช้สมอพิเภก 8 ส่วน สมอไทย 4 ส่วน มะขามป้อม 12 ส่วน เพราะตัวมะขามป้อมลดเปรี้ยวฝาดขมกัดเสมหะ ละลายเสมหะได้ดี ทำให้เสมหะแห้งได้ แต่ถ้าไข้ ตัวร้อนเยอะ ไปทางหวัด น้ำมูกอาจไม่เด่น ก็ปรับเป็น 12-8-4 สมอพิเภก 12 สมอไทย 8 มะขามป้อม 4 แต่ถ้าไข้ไม่ค่อยมี เสมหะในคอนิดหน่อย น้ำมูกไม่ค่อยเยอะ แต่ครั่นเนื้อครั่นตัว เพลียๆ สาเหตุจากวาตะ ลมผิดปกติ อันนี้ปรับเป็นสมอพิเภก 4 ส่วน สมอไทย 12 ส่วน มะขามป้อม 8 ส่วน ซึ่งสามสูตรหลังเรียกมหาพิกัดตรีผลา สูตรแรกสำหรับเราไม่ป่วย แข็งแรงดี ใช้สัดส่วน 1-1-1 ถ้ากินยากก็เพิ่งมะขามป้อมเยอะหน่อย เป็นหนึ่งต่อสาม สูตรไม่ตายตัว

ขิงช่วยมั้ย?
นพ.พิเชฐ : ขิงเป็นสมุนไพรรสร้อน มันก็ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันอยู่แล้ว ในทางการแพทย์แผนไทย

เพื่อนต่างประเทศหลายคน อยู่อังกฤษ อเมริกา เขาบอกว่าเพื่อนๆ คนไทยที่เป็นโควิด เขาต้มน้ำขิงกินแล้วรู้สึกดีขึ้น?
นพ.พิเชฐ : สมุนไพรรสร้อนจะกระตุ้นธาตุไฟ ซึ่งธาตุไฟคือเรื่องภูมิคุ้มกันอยู่แล้วในการแพทย์แผนไทย ฉะนั้นการกินน้ำขิงก็ได้ประโยชน์อยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ขิง ข่า กระชาย รสร้อนหมด ก็กระตุ้นภูมิคุ้มกัน เขาถึงเอาไปทำเครื่องแกง แต่การกินอย่างใดอย่างหนึ่งซ้ำๆ ติดกันตลอด อาจเสียสมดุลร่างกาย ผมคิดว่าเรากินสลับกันได้มั้ย หรือเพิ่มสัดส่วนเข้าไป อย่างกระชาย ภูมิปัญญาไทยไม่มีกินดิบนะ ต้องกินต้มสุก ถ้าคนอยากกินกระชาย บางสูตรบอก กระชายสัก 2 ขีด เพิ่มขิงไปหน่อยนึง 1 ใน 4 สัก 50 กรัม แล้วไปเพิ่มน้ำตาลทรายแดง หรือน้ำตาลกรวด ซึ่งน้ำตาลกรวดเป็นสมุนไพรอย่างนึง สมุนไพรไม่ใช่เฉพาะพืชนะ เป็นได้ทั้งพืชและสัตว์ และแร่ธาตุแบบนี้ จริงๆ ใช้น้ำตาปี๊บก็ได้ หรือไม่มีก็ใช้น้ำผึ้ง ถ้าไม่อยากให้หวานเยอะ อันนี้ก็ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้เหมือนกัน มีประโยชน์มากกว่ากินกระชายตัวเดียว กระชายตัวเดียวก็จะหนักอย่างใดอย่างนึง ผมคิดว่าสิ่งที่น่าจะกินได้นานหน่อย ควรใช้กระชาย อาจเพิ่มใบเตย เพราะมีรสเย็นมาตัดตัวรสร้อน ต้มแล้วเอาใบเตยใส่ไปตัดรสร้อนกระชายใส่น้ำตาลกรวดไปด้วย แล้วแต่ความหวานคนชอบ พอใส่ไปก็เป็นรสเย็นก็จะชุ่มชื่น ใส่เกลือไปนิดหน่อย แก้น้ำเหลืองเสียได้ด้วย

พลูคาวนี่ไม่ค่อยได้ยินถึง แต่อาจารย์จะบอกว่าเป็นสมุนไพรที่ดีเหมือนกัน?
นพ.พิเชฐ : ครับ มีวิจัยเยอะมากเลยนะ มีการจดลิขสิทธิ์การศึกษาวิจัยไว้เยอะ ทั้งประเทศไทยและในโลก พลูคาวคือผักคาวตองที่เขากินแกล้มลาบ ทางเหนือ กลิ่นใบจะคล้ายๆ ใบพลู กลิ่นคาวคล้ายคาวปลา เขาเลยเรียกพลูคาว หรือผักคาวตอง เวลาเราไปทางเหนือเขาทำเป็นลาบมาจะแกล้มตรงนี้ พืชตัวนี้มีกระจายใช้กันหลายประเทศ ชื่อแตกต่างกัน มีหลายพันธุ์ ในภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย ใบเป็นรสร้อน ก็แก้กามโรค แก้น้ำเหลืองเสีย แก้กามโรคเข้าข้อ เกิดโรคอื่นๆ ด้วย แต่พอดูในตำรับยาไทยหนังสือเวชศึกษา ของพระยาพิศณุประสาทเวช บอกว่ามีตั้งแต่แก้น้ำมูก แก้ซาง ยาแก้ตาล และยานึงน่าสนใจ ยามหาระงับพิษ คือพิษอะไรมาก็สู้ได้ ยาแก้ไข นี่แพทย์แผนไทย ทีนี้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์มีการศึกษาวิจัย เราก็วิจัยและทำหนังสือมาเล่มนึง หนังสือผักคาวตอง ผมสรุปว่าผักคาวทองพอไปศึกษาทางเคมี มีสารเยอะมาก มีสารกลุ่มน้ำมันหอมระเหย ตั้ง 30 กว่าชนิด มีผลมีประโยชน์อย่างอื่นด้วย สารกลุ่มพวกฟลาโวนอยด์ , เคอร์ซีติน , รูติน และพวกสารอัลคาลอยด์ พบกว่า 15 ชนิด

และพวกกรดไขมันที่สำคัญสองตัว เราต้องกินเข้าไป เราสร้างเองไม่ได้ มีสารเยอะมาก และมีการทดลองในทางเภสัชวิทยามีฤทธิ์ต้านมะเร็งได้ด้วย ที่พูดนี่ยังไม่มีการทดลองในคนนะ แต่มีทดลองในสัตว์ทดลอง และหลอดทดลอง อย่างต้านมะเร็งเขาไปทดลองกับมะเร็งปอด มะเร็งรังไข่ มะเร็งลำไส้ใหญ่ มันต้านได้ ฤทธิ์ต้านไวรัสได้หลายตัว สารเคอร์ซิติน จะออกฤทธิ์ ยับยั้งเชื้อไวรัสหลายตัว ตัวนึงที่กล่าวถึงในงานวิจัย คือไวรัสไข้หวัดใหญ่ ซึ่งในหลอดทดลองและในสัตว์ ใช้ได้ดีกว่า แต่ไม่มีใครเอามาทำวิจัยเป็นยาจริงๆ จัง ๆ และต้านอักเสบได้ด้วย ที่สำคัญกระตุ้นภูมิคุ้มกันก็มีการวิจัยหลายอัน ทั้งต่างประเทศและไทย สารจากน้ำสกัดแบบต้มของใบพลูคาวกระตุ้นให้เกิดการแบ่งตัวเม็ดเลือดขาวชนิดที่จับไวรัสกิน นี่เป็นการทดลองก่อน ถ้าจะกิน ส่วนใหญ่อยู่ในรูปแบบอาหาร เป็นใบสด แต่ถ้าจะแปลงมาเป็นของที่เรากิน อาจใช้ต้ม เพราะการทดลองส่วนใหญ่ใช้น้ำสกัดจากต้มทั้งนั้น แต่เพราะกลิ่นคาว อาจไม่มีใครทำเป็นต้มกินเหมือนน้ำกระชาย น้ำขิง

ผักคาวตอง หรือพลูคาว เขาบอกองค์ประกอบเคมี กับภูมิคุ้มกัน เขามีบอกหมดเลย มีข้อมูลที่มีการวิจัยมาหมดแล้ว ในจีนก็มีเอาไปวิจัย ตอนนี้อยู่ในสายกับ "ผศ.ดร.เอกสิทธิ์ จงเจริญรักษ์" คณะอุตสาหกรรมเกษตรมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อาจารย์เป็นคนหนึ่งที่วิจัยเรื่องพลูคาว?

ดร.เอกสิทธิ์ : ใช่ครับ ตัวผมเองและทีมงานวิจัย เราทำงานวิจัยด้านการทดสอบ สกัดสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ เราทำวิจัยตัวพลูคาวมา 10 กว่าปี เนื่องจากตัวสมุนไพรพลูคาว เป็นสมุนไพรชนิดนึงทางภาคเหนือของไทย ตัวเขาเองมีลักษณะกลิ่นรสเฉพาะ ถ้าบี้ใบดูจะเป็นเมือกลื่น ทำให้เราสนใจ จากการวิเคราะห์เบื้องต้นในห้องปฏิบัติการ พบว่ามีสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพที่สำคัญ ที่เคยทำสารที่มีเมืองลื่นเมื่อผ่านกระบวนการย่อยเฉพาะ เราพบว่าหนึ่งในฤทธิ์นั้นคือกระตุ้นภูมิคุ้มกันในห้องทดลองได้เป็นอย่างดี และจากที่สืบค้นงานวิจัยย้อนหลัง ในงานวิจัยเยอะแยะบอกถึงฤทธิ์ ศักยภาพใบพลูคาว มีงานวิจัยชิ้นนึง ที่น่าสนใจ คือการออกฤทธิ์ยับยั้งซาโควี 1 โคโรนาไวรัสเวอร์ชั่นแรก ที่ระบาดในปี 46 เป็นตัวที่ทำให้เราเห็นศักยภาพที่จะนำมาพัฒนาต่อ ทางทีมวิจัยก็วิจัยอย่างต่อเอง การทานบริโภคต่อไปต้องมีงานวิจัยที่นำมาสนับสนุนซัปพอร์ตต่อไปว่าจะนำมาใช้ได้อย่างไร



ถือว่าเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์?
ดร.เอกสิทธิ์ : ใช่ครับ มีศักยภาพสูงที่จะนำมาพัฒนาได้ต่อไป

มองยังไง เดี๋ยวพูดไปราคาแพงอีก คราวที่แล้วทั้งฟ้าทะลายโจร กระชายขาวเอาไปขายโก่งราคากัน?
พิเชฐ : ทั้งหมดเป็นการทดลองในสัตว์ทดลอง ถ้าจะเอามาใช้ ต้องใช้เป็นอาหาร เช่น เอามากินแบบใบสด ถ้าใบสดจะดีตรงที่ได้สารน้ำมันหอมระเหยได้ด้วย ซึ่งช่วยกำจัดไวรัสได้ด้วย แต่ถ้าเราจะกินแบบสุกก็ต้องกินแบบต้ม ตอนนี้ภูมิปัญญาเรามีประมาณนี้ ส่วนการพัฒนารูปแบบเป็นยาฆ่าฆ่าไวรัสยังไม่ได้มีการศึกษา

ข้อเสีย คือกินอะไรอย่าให้มากเกินไป ไม่ว่าพลูคาว ตีผลา หรือสูตรขิงกับกระชาย?
พิเชฐ : ครับ เรียนว่าผมก็ไม่มีข้อมูลชัดเจน ว่ากินติดต่อกันนานเกินเท่าไหร่ แต่โดยหลักภูมิปัญญาแพทย์แผนไทยเราจะไม่กินสมุนไพรตัวเดียวหรืออย่างเดียวติดต่อกันนานๆ แต่วิจัยบอกไม่ควรเกิน 7-10 วันอย่างเดียว การกินรูปแบบที่ไม่ใช่อาหารโดยตรงต้องระวัง เพราะอาจมีสารสกัดเข้มข้นบางตัวเปลี่ยนไปจากธรรมชาติที่อยู่ในอาหาร การกินต้องระมัดระวังเหมือนกินยา ผลการวิจัยในหลอดทดลอง มันยังขาดบางส่วนที่ยังบอกไม่ได้ คือหนึ่ง เวลากินเข้าไปฤทธิ์ทางยามันไปทำอะไรกับเรากับตัวเรามันยังบอกไม่ชัด เขาเรียกว่าเภสัชพลาศาสตร์ กินไปตัวเราไปทำอะไรกับยา ทำปฏิกิริยาอะไรกับมัน สองอันมีความสำคัญก่อนเปลี่ยนเป็นยารักษาโรค ดีที่สุดตอนนี้คือกินเป็นอาหารตามภูมิปัญญาที่เราใช้อยู่ แต่ถ้าไม่สะดวกก็ปรับเป็นเครื่องดื่ม อาจเอามาต้มน้ำ ปรุงโน่นนี่ ผมว่าแบบนี้มีประโยชน์



ถ้าจะมองว่าฟ้าทะลายโจรเป็นดาบสู้ไวรัสได้มั้ย?
พิเชฐ : ถ้าเป็นยาที่มาจากสมุนไพรก็ต้องเปรียบแบบนั้น คือเอาไว้ฆ่าไวรัส เป็บดาบฟาดฟันไวรัส กระชายขาวถ้ากระชายทั้งอันโดนรวม ไม่แยกเอาสารตัวใดตัวนึงก็เป็นโล่ได้ พลูคาวก็คล้ายๆ กัน ไปเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง แต่ต้องให้พอดี
#3167



สมาคมธนาคารไทยประสานธนาคารสมาชิก พร้อมรับโอนเงินเยียวยาประกันสังคมผ่านระบบพร้อมเพย์ ให้ผู้ประกันตน ม.33 ที่ได้รับสิทธิรับเงินช่วยเหลือจากคำสั่งล็อคดาวน์พื้นที่สีแดงเข้ม รวม 13 จังหวัด 9 ประเภทกิจการกว่า 2.87 ล้านราย แนะผู้ได้สิทธิรีบสมัครพร้อมเพย์ด้วยบัตรประชาชนก่อนวันที่ 4 ส.ค.นี้

เช็กสิทธิได้เลย เงินเยียวยา ม.33 ถึงมือผู้ประกันตน 4 ส.ค.นี้ ธนาคารโอนเข้าบัญชีผ่านระบบพร้อมเพย์ รีบสมัครด่วน
  
 

สมาคมธนาคารไทยประสานธนาคารสมาชิก พร้อมรับโอนเงินเยียวยาประกันสังคมผ่านระบบพร้อมเพย์ ให้ผู้ประกันตน ม.33 ที่ได้รับสิทธิรับเงินช่วยเหลือจากคำสั่งล็อคดาวน์พื้นที่สีแดงเข้ม รวม 13 จังหวัด 9 ประเภทกิจการกว่า 2.87 ล้านราย แนะผู้ได้สิทธิรีบสมัครพร้อมเพย์ด้วยบัตรประชาชนก่อนวันที่ 4 ส.ค.นี้

ทั้งนี้สมาคมธนาคารไทยได้มีการประสานธนาคารสมาชิก เพื่อเตรียมพร้อมดำเนินการรับโอนเงินเยียวยาประกันสังคมเข้าบัญชีธนาคารผ่านระบบพร้อมเพย์ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้นายจ้างและผู้ประกันตน ม.33 ที่ได้รับผลกระทบจากการถูกปิดกิจการตามประกาศคำสั่งของ ศบค.

โดยสำนักงานประกันสังคม (สปส.) จะทำการโอนให้ผู้ประกันตนตาม ม.33 ที่ได้รับสิทธิในวันที่ 4-6 สิงหาคม 2564 เฉพาะ 10 จังหวัด จำนวนผู้ประกันตนกว่า 2.87 ล้านราย ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรปราการ นราธิวาส ปัตตานี ยะลา สงขลา สำหรับ 3 จังหวัดที่เหลือได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และพระนครศรีอยุธยา จะแจ้งการโอนเงินให้ทราบอีกครั้งในภายหลัง

ทั้งนี้นายจ้างและผู้ประกันตน ม.33 ที่จะได้รับเงินช่วยเหลือนี้ ต้องเป็นผู้ได้สิทธิตามคุณสมบัติและเงื่อนไข โดย สปส.จะเปิดให้ตรวจสอบสิทธิบนเว็บไซต์ของ สปส.โดยผู้ประกันตนที่มีบัญชีธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์กับบัตรประชาชนจะได้รับการโอนเงินเข้าบัญชีโดยอัตโนมัติ ไม่จำเป็นต้องติดต่อธนาคารเพื่อเปิดบัญชีใหม่ หรือลงทะเบียนพร้อมเพย์ด้วยบัตรประชาชนใหม่

สำหรับผู้ประกันตนที่ได้สิทธิและมีบัญชีธนาคาร แต่ยังไม่ได้ผูกพร้อมเพย์กับหมายเลขบัตรประชาชน หรือเดิมผูกด้วยเบอร์โทรศัพท์มือถือ สามารถดำเนินการผูกบัญชีหรือเปลี่ยนพร้อมเพย์จากโทรศัพท์มือถือมาเป็นผูกกับหมายเลขบัตรประชาชนด้วยตนเอง ผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ของธนาคารที่มีบัญชีอยู่เช่น Mobile Application, Internet Banking และเครื่อง ATM ตามช่องทางที่แต่ละธนาคารให้บริการ โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปที่สาขาธนาคาร เพื่อความสะดวกและลดความเสี่ยงจากการระบาดของโควิด-19

ส่วนผู้ประกันตนที่ได้รับสิทธิและยังไม่เคยมีบัญชีเงินฝาก สามารถใช้บริการเปิดบัญชีผ่านช่องทางออนไลน์ จากนั้นค่อยลงทะเบียนผูกพร้อมเพย์ด้วยหมายเลขบัตรประชาชน ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ เพื่อขอรับสิทธิตามมาตรการเยียวยาดังกล่าว หากมีข้อสงสัยเรื่องการผูกบัญชีพร้อมเพย์กับหมายเลขบัตรประชาชน หรือช่องทางที่สามารถทำได้ สามารถศึกษาข้อมูลผ่านเว็บไซต์ หรือติดต่อสอบถามผ่านคอลเซ็นเตอร์ของธนาคารที่ใช้บริการอยู่ทั้งนี้ ผู้ประกันตน ม.33 สามารถตรวจสอบสิทธิโครงการเยียวยาได้ที่ https://www.sso.go.th หรือโทรศัพท์สายด่วนประกันสังคม 1506 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

อนึ่งหากผู้ประกันตนมีความจำเป็นต้องไปทำธุรกรรมที่สาขาของธนาคาร ทางสมาคมธนาคารไทย ขอความร่วมมือผู้ติดต่อใช้บริการ ณ สาขาธนาคาร ในการปฏิบัติตนตามมาตรฐานดูแลความปลอดภัยที่ธนาคารแต่ละแห่งได้กำหนดไว้ เพื่อร่วมกันป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้สมาคมธนาคารไทยได้มีการประสานธนาคารสมาชิก เพื่อเตรียมพร้อมดำเนินการรับโอนเงินเยียวยาประกันสังคมเข้าบัญชีธนาคารผ่านระบบพร้อมเพย์ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้นายจ้างและผู้ประกันตน ม.33 ที่ได้รับผลกระทบจากการถูกปิดกิจการตามประกาศคำสั่งของ ศบค.

โดยสำนักงานประกันสังคม (สปส.) จะทำการโอนให้ผู้ประกันตนตาม ม.33 ที่ได้รับสิทธิในวันที่ 4-6 สิงหาคม 2564 เฉพาะ 10 จังหวัด จำนวนผู้ประกันตนกว่า 2.87 ล้านราย ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรปราการ นราธิวาส ปัตตานี ยะลา สงขลา สำหรับ 3 จังหวัดที่เหลือได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และพระนครศรีอยุธยา จะแจ้งการโอนเงินให้ทราบอีกครั้งในภายหลัง

ทั้งนี้นายจ้างและผู้ประกันตน ม.33 ที่จะได้รับเงินช่วยเหลือนี้ ต้องเป็นผู้ได้สิทธิตามคุณสมบัติและเงื่อนไข โดย สปส.จะเปิดให้ตรวจสอบสิทธิบนเว็บไซต์ของ สปส.โดยผู้ประกันตนที่มีบัญชีธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์กับบัตรประชาชนจะได้รับการโอนเงินเข้าบัญชีโดยอัตโนมัติ ไม่จำเป็นต้องติดต่อธนาคารเพื่อเปิดบัญชีใหม่ หรือลงทะเบียนพร้อมเพย์ด้วยบัตรประชาชนใหม่

สำหรับผู้ประกันตนที่ได้สิทธิและมีบัญชีธนาคาร แต่ยังไม่ได้ผูกพร้อมเพย์กับหมายเลขบัตรประชาชน หรือเดิมผูกด้วยเบอร์โทรศัพท์มือถือ สามารถดำเนินการผูกบัญชีหรือเปลี่ยนพร้อมเพย์จากโทรศัพท์มือถือมาเป็นผูกกับหมายเลขบัตรประชาชนด้วยตนเอง ผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ของธนาคารที่มีบัญชีอยู่เช่น Mobile Application, Internet Banking และเครื่อง ATM ตามช่องทางที่แต่ละธนาคารให้บริการ โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปที่สาขาธนาคาร เพื่อความสะดวกและลดความเสี่ยงจากการระบาดของโควิด-19

ส่วนผู้ประกันตนที่ได้รับสิทธิและยังไม่เคยมีบัญชีเงินฝาก สามารถใช้บริการเปิดบัญชีผ่านช่องทางออนไลน์ จากนั้นค่อยลงทะเบียนผูกพร้อมเพย์ด้วยหมายเลขบัตรประชาชน ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ เพื่อขอรับสิทธิตามมาตรการเยียวยาดังกล่าว หากมีข้อสงสัยเรื่องการผูกบัญชีพร้อมเพย์กับหมายเลขบัตรประชาชน หรือช่องทางที่สามารถทำได้ สามารถศึกษาข้อมูลผ่านเว็บไซต์ หรือติดต่อสอบถามผ่านคอลเซ็นเตอร์ของธนาคารที่ใช้บริการอยู่ทั้งนี้ ผู้ประกันตน ม.33 สามารถตรวจสอบสิทธิโครงการเยียวยาได้ที่ https://www.sso.go.th หรือโทรศัพท์สายด่วนประกันสังคม 1506 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

อนึ่งหากผู้ประกันตนมีความจำเป็นต้องไปทำธุรกรรมที่สาขาของธนาคาร ทางสมาคมธนาคารไทย ขอความร่วมมือผู้ติดต่อใช้บริการ ณ สาขาธนาคาร ในการปฏิบัติตนตามมาตรฐานดูแลความปลอดภัยที่ธนาคารแต่ละแห่งได้กำหนดไว้ เพื่อร่วมกันป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
#3168



เมื่อวันที่ 27 ก.ค. 64 รศ.ดร.ประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เปิดเผยว่า การประเมินตำแหน่ง และ วิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ไม่ได้รับผลกระทบ แม้จะอยู่ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ส่งผลให้ครูต้องปรับรูปแบบจัดการเรียนการสอนออนไลน์ ดังนั้น ก.ค.ศ. ได้ปรับหลักเกณฑ์การประเมิน และทำหนังสือแจ้งแนวปฏิบัติไปยังผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ผู้อำนวยการโรงเรียน รวมถึง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ยืดหยุ่นหลักเกณฑ์การประเมินต่างๆ โดยครูที่เป็นจิตอาสาในช่วงวิกฤตโควิด-19 สามารถนำมาใช้เป็นผลงานในการประเมินได้ ทั้งนี้ ให้สถานศึกษายืดหยุ่นตามสถานการณ์ที่เหมาะสม ส่วนการประเมินผู้อำนวยการสถานศึกษา ให้ใช้การประเมินในแนวทางเดียวกัน

รศ.ดร.ประวิต กล่าวต่อว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงาน ก.ค.ศ.ได้จัดประชุมคณะทำงานดำเนินการนำร่องการประเมินตำแหน่ง และวิทยฐานะ ผ่านระบบออนไลน์ มี น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เข้าร่วม โดยรัฐมนตรีว่าการ ศธ.ห่วงใยเรื่องการเรียนการสอน และจากการรับฟังปัญหาของครูในพื้นที่ อยากให้มีงบประมาณเข้ามาช่วยเด็กในการเรียนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเด็กที่ขาดแคลน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการ ศธ.รับทราบปัญหา คาดว่าจะมีมาตรการต่างๆ ออกมาเร็วๆ นี้ ทั้งการปรับ และยืดหยุ่นระเบียบการใช้เงินอุดหนุนรายหัว การนับเวลาเรียน การประเมินผลการจัดการเรียน การบริหาร จัดสัญญาณอินเตอร์เน็ตให้แก่นักเรียน และผู้ปกครอง

"ในส่วนของสำนักงาน ก.ค.ศ.เอง พยายามปรับระเบียบ และหลักเกณฑ์ต่างๆ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันให้มากที่สุด และเป็นไปตามนโยบาย โดยการประเมินต่างๆ ได้ปรับให้สอดคล้องกับสถานการณ์ตั้งแต่การแพร่ระบาดในช่วงแรก ถือเป็นการปลดล็อก ไม่ให้กระทบภาพรวมการจัดการเรียนการสอน"

ส่วนความคืบหน้ากรณีข้าราชการครูฯ จำนวน 1,933 ราย ยื่นทบทวนมติคณะกรรมการ ก.ค.ศ.กรณีระบุให้เป็นผู้ขาดคุณสมบัติในการยื่นขอมีและเลื่อนวิทยฐานะตามเกณฑ์ ว13 เรื่องการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้มีผลงานดีเด่นที่ประสบผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ มีวิทยฐานะ หรือเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ และวิทยฐานะเชี่ยวชาญ ซึ่งกรณีนี้ยืดเยื้อ และมีการร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ปี 2561 และ ก.ค.ศ.ได้ตั้งคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ อ.ก.ค.ศ.ได้พิจารณาแล้ว และจะประกาศรายชื่อผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนเร็วๆ นี้ แต่ยังไม่ครบทุกคน เนื่องจาก อ.ก.ค.ศ.ไม่สามารถจัดประชุมได้ เพราะสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด -19 ดังนั้น การทำงานจึงอาจต้องล่าช้าออกไป แต่ ก.ค.ศ.จะเร่งดำเนินการโดยเร็วที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มผู้เสียสิทธิจากกรณีดังกล่าว ได้รับการพิจารณาจากสำนักงาน ก.ค.ศ.ว่าเป็นผู้ไม่มีคุณสมบัติเข้ารับการประเมินเพื่อขอมี หรือเลื่อนวิทยฐานะ ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ.ที่ ศธ.0206.3/ว13 เรื่องการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้มีผลงานดีเด่นที่ประสบผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ มีวิทยฐานะ หรือเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ และวิทยฐานะเชี่ยวชาญ ซึ่งเปิดให้ยื่นตั้งแต่ปี 2559 และได้รับแจ้งผลการประเมินปี 2561 ขณะนั้นผู้ที่ยื่นขอทบทวน 16 ราย ได้เกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน 2561
#3169
ไอดินไทย เครื่องประดับดินปั้น ด้วยแรงบันดาลใจทำเครื่องประดับดินปั้นมาจากความชื่นชมที่มีต่อละครมนต์รักลูกทุ่งแล้วก็แฟชั่นการแต่งกายยุคนั้น





ทำให้ท่านพัชร์ชิสา ไชยวีรวัฒน์ เกิดไอเดียสำหรับในการทำเครื่องประดับร่วมกับการเล่าเรียนปั้นดินไทยของชุมชนระแหง จังหวัดตาก จนเกิดเป็นเครื่องประดับดินปั้นที่ดำเนินธุรกิจมาแล้วมากกว่า 10 ปี





ซึ่งตัววัสดุนั้นเป็นดินไทยที่ผสมกับดินท้องถิ่นของจังหวัดตาก มีความสวยงามผสมความเป็นไทย สีสันสดใส ความเป็นธรรมชาติแล้วก็นอกจากนี้ทุกผลิตภัณฑ์มีรอยนิ้วมือจากการปั้น โดยไม่ใช้เครื่องจักร แสดงถึงงานฝีมืออย่างแท้จริง


#3170



เมื่อยุคสมัยของการเรียนรู้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่ดิจิทัลมากขึ้น ประกอบกับสถานการณ์โควิด-19 ได้เข้ามาทำให้การเรียนการสอนของเยาวชนในปัจจุบันผ่านช่องทางออนไลน์เกิดเร็วขึ้น แม้จากเดิมจะเป็นแค่หนึ่งในเทรนด์เทคโนโลยีที่หลายภาคส่วนให้ความสนใจ

​ขณะเดียวกัน เทคโนโลยีการศึกษาจะกลายเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดบริบทใหม่ให้แก่สังคม โดยเฉพาะครู-อาจารย์ผู้สอนที่มีบทบาทหน้าที่สำคัญที่สุดในการเป็นบุคลากรต้นน้ำของภาคการศึกษา ที่จำเป็นอย่างยิ่งในการพัฒนาการสอนให้รับกับสถานการณ์ในปัจจุบัน

​สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS กล่าวถึงความภาคภูมิใจ และยินดีที่จะเข้ามาเชื่อมต่อ ช่วยเหลือคุณครูไทยในการเสริมทักษะเพื่อสร้างความรู้ในการพัฒนาสื่อสารการเรียนการสอนรูปแบบออนไลน์ที่มีความจำเป็นอย่างมากในสถานการณ์ปัจจุบัน

​โดยในมุมของ AIS นอกจากการนำเครือข่าย AIS 5G การให้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ AIS Fibre และการให้บริการ AIS WiFi ต่างๆ ที่ได้ลงทุนไปให้กลายเป็นดิจิทัลอินฟราสตรักเจอร์พื้นฐาน สำหรับนำมาใช้ในการพัฒนาประเทศชาติ รวมถึงการฟื้นฟูประเทศไทยในหลากหลายประเภท

​'การเชื่อมต่อโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลเข้ามาเป็นดิจิทัลแพลตฟอร์มเพื่อให้คนไทยใช้งาน ทั้งในชีวิตการทำงาน และชีวิตส่วนตัว ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น AIS ยังอยากที่จะนำดิจิทัลแพลตฟอร์มนี้มาช่วยโดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิด-19'

​ที่ผ่านมา AIS นำโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลเข้าไปช่วยเหลือทั้งภาคอุตสาหกรรม อย่างการนำ AIS 5G เข้าไปช่วยให้โรงงานสามารถปรับตัวสู่การเป็น Smart Man.cturing โดยเฉพาะในภาคการผลิตที่เป็นกำลังสำคัญของประเทศในเวลานี้

​พร้อมกับเตรียมขยายไปยังภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ ในการนำโซลูชันจากพันธมิตรมาให้บริการทั้งด้านโรงงานอัตโนมัติ (Automation) หุ่นยนต์ในภาคอุตสาหกรรม (Mobile Robots) และการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์ และหุ่นยนต์ (Collaborative Robot) ภายใต้การนำศักยภาพ 5G ฟื้นฟูประเทศ

​ในขณะที่ภาคสาธารณสุขซึ่งเป็นงานด่านหน้าในปัจจุบันนี้ ได้นำโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลไปทำในเรื่องของ 'อสม.' ในการดูแลประชาชนในแต่ละชุมชน การนำเทคโนโลยีไปช่วยในโรงพยาบาลสนาม จนถึงสถานที่ฉีดวัคซีนต่างๆ

​'ระยะสั้น AIS อาจจะสามารถช่วยสาธารณสุขในการปกป้อง ป้องกัน แต่ในระยะยาวของการพัฒนา และฟื้นฟูประเทศได้จริงๆ คือเรื่องของการศึกษา เรื่องของเยาวชน จึงเป็นเหตุผลที่ได้เข้ามาทำโครงการ The Educators Thailand ให้แก่ครูไทย'

​วัตถุประสงค์หลักของโครงการนี้ คือ การพัฒนาความพร้อมของคุณครูที่จะมีเยาวชนที่ต้องเรียนออนไลน์ ซึ่งเชื่อว่าทักษะนี้จะมีความจำเป็นต่อไปในอนาคตแม้จะผ่านช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ไปแล้วก็ตาม

​'ครูยังเป็นหัวใจสำคัญมากๆ ในการที่จะขับเคลื่อนให้ลูกศิษย์ และเยาวชน สิ่งสำคัญมากๆ คือครูต้องปรับตัวเองเพิ่มเติม และมีความมั่นใจว่าโครงการนี้อาจารย์ที่เข้าร่วมจะสามารถต่อยอด จุดประกายความรู้ความสามารถที่มีอยู่ในการสอนเด็ก และเยาวชนรุ่นใหม่ให้มีพลังบวก เมื่อคุณครูสามารถชี้นำได้ และกลายเป็นความสุขในการเรียนการสอนรูปแบบใหม่ที่เกิดขึ้นในเวลานี้'

***ต่อยอด AIS Academy พัฒนาภาคการศึกษา



ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา AIS ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาทักษะของพนักงานภายในองค์กรให้มีการอัปสกิล และรีสกิล ให้รับกับดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันที่เกิดขึ้น จึงเป็นการเสริมทักษะให้บุคลากรเพื่อให้สามารถแข่งขันได้ ​ก่อนเกิดการต่อยอดโครงการสู่ AIS Academy for Thais ภายใต้มุมมองใหม่ว่าการพัฒนาคนภายในองค์กรอย่างเดียวไม่เพียงพอต่อสถานการณ์ในปัจจุบัน โดยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ได้เปิดโอกาสให้คนไทยได้เข้าถึงหลักสูตรต่างๆ ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทยมาก่อน

​'AIS เป็นองค์กรที่อยู่ภายใต้สังคมไทย จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องออกไปช่วยเหลือสังคมไทยในแง่มุมต่างๆ ภายใต้ AIS Academy คิดเผื่อ เพื่อคนไทยในกิจกรรมต่างๆ มาจนถึงภาคการศึกษาซึ่งถือเป็นภาคส่วนสำคัญที่จะช่วยปูทางเยาวชนสู่การทำงานในอนาคต'

​สำหรับโครงการ The Educators Thailand จะเริ่มจากเปิดโอกาสให้คุณครูได้สามารถเข้ามาเรียนรู้หลักสูตรต่างๆ และข้อมูลที่มีประโยชน์ผ่านแพลตฟอร์ม LearnDi ซึ่งมีเนื้อหาครอบคลุมทักษะใหม่ๆ ใน 5 หลักสูตร ตั้งแต่ 1.การเรียนรู้ภูมิทัศน์ของการเรียนในอนาคต องค์ประกอบของการเรียนการสอนออนไลน์ ระบบ Learn from Home จนถึงอุปกรณ์ที่ใช้ในการเรียน 2.การวิเคราะห์เนื้อหา และวิธีการเรียนออนไลน์ 3.กลยุทธ์ในการสอนออลไน์ ทั้งการสอนแบบผู้เรียนอิสระ การสอนโดยใช้กิจกรรมกลุ่ม การออกแบบการสอนที่มีการแนะนำความรู้เกี่ยวกับหลักสูตรการเล่าเรื่อง (Storytelling) เพิ่มเติมเข้าไป

​4.การผลิตวิดีโอออนไลน์สำหรับการศึกษา และ 5.การวัดประเมินผลออนไลน์ ทั้งความรู้ ทักษะ และทัศนคติต่างๆ โดยเมื่อผ่านหลักสูตรจะได้ใบประกาศนียบัตร และ Digital Credential Badge จาก AIS Academy ซึ่งเป็นมาตรฐานการรับรองคุณวุฒิระดับสากล

***นวัตกรรมการสอนของครูไทยในอนาคต



​นอกเหนือจากการเพิ่มหลักสูตรการเรียนการสอนแล้ว ภายใต้โครงการ The Educators Thailand ยังมีการเปิดเวทีการแข่งขันเพื่อให้บุคลากรทางด้านการศึกษากว่า 1,000 คน จากทั้งภาครัฐและเอกชน ไม่ว่าจะเป็น นักการศึกษา ครูผู้สอน บุคลากรด้านการศึกษาทุกสังกัด และนักศึกษาฝึกสอน มาเข้าร่วม Un Learn และ Re Learn ทักษะการสอน จนท้ายที่สุดจะได้มาซึ่งผลงานจากผู้เข้าร่วมโครงการในลักษณะต้นแบบของสื่อการสอนที่จะสามารถนำไปต่อยอดให้เกิดประโยชน์ต่อภาคการศึกษาในปัจจุบันและอนาคต

​โดยหลังจากนี้ ในช่วง 2 เดือน ผู้สมัครเข้าร่วมจะเข้าหลักสูตรพัฒนา ออกแบบทฤษฎีการเรียนการสอน การออกแบบสื่อใหม่ๆ ยกระดับครูด้วยกัน จนถึงขั้นตอนการสอบวัดผล เมื่อผ่านจะได้รับใบประกาศนียบัตร

​เป้าหมายที่สำคัญของโครงการนี้คือ การเข้าไปยกระดับขีดความสามารถคุณครูไทย โดยเฉพาะการปรับกรอบความคิด (Mindset) ให้ฝักใฝ่ในการเรียนรู้ ด้วยการนำศักยภาพของเทคโนโลยีมาใช้ พร้อมกับการนำเครื่องมือดิจิทัลมาช่วยเชื่อมต่อผ่านแพลตฟอร์ม



กานติมา เลอเลิศยุติธรรม หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านทรัพยากรบุคคล กลุ่มบริษัท AIS และกลุ่มอินทัช กล่าวเสริมว่า บริบทของภาคการศึกษามีการปรับเปลี่ยนไปค่อนข้างมาก การจะพัฒนาระบบต้องเริ่มจากการพัฒนาศักยภาพของคน

​ความตั้งใจของ AIS คือการนำเอาทักษะ องค์ความรู้ใหม่ๆ รวมถึงศักยภาพความเป็นผู้นำด้านดิจิทัล เทคโนโลยี เข้ามาช่วยผลักดันตามแนวทางที่ AIS Academy เดินหน้าเรื่อง EdTech มาตลอด

​'จากประสบการณ์ที่ AIS มีการส่งเสริมการเรียนรู้ภายในองค์กรมาก่อน ทำให้เข้าใจถึงปัญหาในการที่จะปรับคนที่เคยชินกับรูปแบบการเรียนการสอนในรูปแบบเดิม มาใช้ระบบดิจิทัล หากภาคเอกชน และภาครัฐร่วมมือกัน และส่งเสริมกัน อย่างการนำประสบการณ์มาช่วยย่นระยะเวลา ทำให้ภาครัฐไม่ต้องไปทดสอบ หรือเดินผ่านเส้นทางปัญหาต่างๆ ก็จะทำให้ศักยภาพของการพัฒนารวดเร็วขึ้น'

​ปัจจุบันความเร็วในการปรับตัว และพัฒนาถือเป็นเรื่องสำคัญ จากที่ในอดีตที่มองว่าความสมบูรณ์เป็นเรื่องสำคัญ วันนี้ความเร็วสำคัญกว่าสมบูรณ์ จากสถานการณ์ที่เจออยู่ในปัจจุบันซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงในทุกๆ วัน รูปแบบในการรับมือสถานการณ์ก็ต้องเปลี่ยนทุกวัน

​ดังนั้น LearnDi จึงเข้ามาเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำ เพื่อช่วยพัฒนาให้เหล่าบุคลากรทางการศึกษา ครูอาจารย์ผู้ที่สมัครเข้าร่วมโครงการได้ร่วมสร้างความแข็งแกร่งและนำศักยภาพการศึกษาโดยการพัฒนาวิธีการสอน และเสริมทักษะการสร้างสรรค์ผลงานสื่อการสอน ภายใต้แนวคิด 'มากกว่าความเป็น...ครูผู้สอน นวัตกรรมการสอนของครูไทยในอนาคต'

​นอกจากนี้ ผู้ที่เข้าร่วมโครงการ และสร้างสรรค์ผลงานเข้าประกวดยังมีโอกาสได้รับถ้วยรางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

​สุดท้ายเชื่อว่า The Educators Thailand จะเป็นอีกหนึ่งโครงการที่จะปลุกพลังของภาคการศึกษา บุคลากร และครูไทย ให้เกิดการปรับเปลี่ยนสู่การศึกษาในรูปแบบใหม่ ตามยุคสมัยดิจิทัล ซึ่ง AIS พร้อมที่จะใช้ความแข็งแกร่งทางด้านโครงสร้างพื้นฐานมาเชื่อมต่อ ช่วยเหลือ เพื่อครูไทย ไปพร้อมกับคนไทย
#3171



นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยว่า เอ็กโก กรุ๊ป โดย บริษัท เอ็กโก ลินเดน ทู บริษัทย่อยที่ เอ็กโก    ถือหุ้นทั้งหมด ซึ่งได้ลงทุนในบริษัท ลินเดน ทอปโก้ (Linden Topco) ผู้ดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าโคเจนเนอเรชั่น "ลินเดน โคเจน" ซึ่งใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง ในสหรัฐอเมริกา ได้บรรลุข้อตกลงในการรับก๊าซที่เกิดจากกระบวนการผลิตของโรงกลั่นที่มีองค์ประกอบเป็นไฮโดรเจนจากบริษัท ฟิลิปส์ 66 (Phillips 66) โรงกลั่นน้ำมันรายใหญ่ในสหรัฐอเมริกา เพื่อนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงผสมในการผลิตไฟฟ้า

ทั้งนี้ บริษัท ลินเดน ทอปโก้ จะปรับปรุงเครื่องกังหันก๊าซของโรงไฟฟ้าลินเดน หน่วยที่ 6 ให้สามารถรองรับก๊าซ    ที่เกิดจากกระบวนการผลิตของโรงกลั่นที่มีองค์ประกอบเป็นไฮโดรเจน จากโรงกลั่นน้ำมันเบย์เวย์ (Bayway Oil Refinery) ของบริษัท ฟิลิปส์ 66 ที่ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกัน เพื่อนำมาผสมเป็นเชื้อเพลิงร่วมกับก๊าซธรรมชาติที่ใช้อยู่เดิม การปรับปรุงเครื่องกังหันก๊าซดังกล่าวมีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2565 ซึ่งจะส่งผลให้โรงไฟฟ้าลินเดน หน่วยที่ 6 สามารถรองรับการเผาไหม้เชื้อเพลิงผสมที่มีไฮโดรเจนผสมอยู่ได้สูงสุดถึง 40% ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 10% เมื่อเทียบกับปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่โรงไฟฟ้าลินเดน หน่วยที่ 6 ปลดปล่อยปกติในแต่ละปี


ปัจจุบันผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมพลังงานและเชื้อเพลิง อย่างบริษัท เจร่า อเมริกา จำกัด (JERA Americas Inc.) ซึ่งเป็นพันธมิตรของเราในบริษัท ลินเดน ทอปโก้ กำลังพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อใช้ไฮโดรเจนเป็นเชื้อเพลิงทางเลือกสำหรับการผลิตไฟฟ้าและการขนส่ง

นอกจากนี้ เอ็กโก กรุ๊ป ยังได้ลงทุนในโรงไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิงกังดง ในเกาหลีใต้ ซึ่งใช้ไฮโดรเจนเป็นสารตั้งต้นหลักในการผลิตไฟฟ้าและความร้อน การลงทุนในโรงไฟฟ้าที่ใช้ไฮโดรเจนเป็นเชื้อเพลิง ทั้งโรงไฟฟ้าลินเดน โคเจน และโรงไฟฟ้ากังดงนั้น เอ็กโก กรุ๊ป มีเป้าหมายที่จะสั่งสมความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าจากไฮโดรเจน เพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับโครงการทั้งในประเทศและต่างประเทศของบริษัทในอนาคต เมื่อเทคโนโลยีด้านนี้พัฒนาเต็มที่


"เอ็กโก กรุ๊ป เป็นบริษัทลำดับต้นๆ ของประเทศไทย ที่ส่งเสริมและสนับสนุนแผนการใช้ไฮโดรเจนเป็นเชื้อเพลิงสะอาดสำหรับการผลิตไฟฟ้าของประเทศ บริษัทมุ่งมั่นส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงสะอาดมาผลิตไฟฟ้าและพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีผลิตไฟฟ้าที่ทันสมัยอย่างต่อเนื่อง" นายเทพรัตน์ กล่าว


สำหรับ โรงไฟฟ้าลินเดน โคเจน ประกอบด้วยโรงไฟฟ้าลินเดน หน่วยที่ 1-5 กำลังผลิตรวม 800 เมกะวัตต์ ซึ่งขายไฟฟ้าและให้บริการเสริมความมั่นคงในระบบไฟฟ้าแก่ระบบและโครงข่ายไฟฟ้าในรัฐนิวยอร์ก (NY-ISO Zone J) และโรงไฟฟ้าลินเดน หน่วยที่ 6 กำลังผลิต 172 เมกะวัตต์ ซึ่งขายไฟฟ้าให้แก่ตลาดซื้อขายไฟฟ้า พีเจเอ็ม พีเอส นอร์ธ (PJM PS North) ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ ทั้งโครงข่ายไฟฟ้าในรัฐนิวยอร์กและตลาดซื้อขายไฟฟ้าพีเจเอ็ม พีเอส นอร์ธ เป็นตลาดไฟฟ้า 2 แห่งที่มีความต้องการไฟฟ้าและกำลังไฟฟ้าสำรองสูงที่สุดในประเทศสหรัฐอเมริกา

ขณะเดียวกันโรงไฟฟ้าลินเดน โคเจน ยังขายไอน้ำและไฟฟ้าภายใต้สัญญาระยะยาวแก่โรงกลั่นน้ำมันเบย์เวย์ ที่ตั้งอยู่บริเวณเดียวกัน โดยโรงกลั่นฯ เป็นผู้รับซื้อรายใหญ่ที่มีความน่าเชื่อถืออยู่ในอันดับที่น่าลงทุน ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท ฟิลิปส์ 66 (Phillips 66)

นอกจากนี้ โรงไฟฟ้าลินเดน โคเจน ยังมีความได้เปรียบด้านการจัดหาเชื้อเพลิง เนื่องจากตั้งอยู่ในเมืองลินเดน รัฐนิวเจอร์ซีย์ ซึ่งเป็นบริเวณที่สามารถเข้าถึงแหล่งก๊าซธรรมชาติได้หลายแห่ง ผู้ถือหุ้นของบริษัท ลินเดน ทอปโก้ ประกอบด้วย JERA Americas (50%) เอ็กโก กรุ๊ป (28%) DBJ (12%) และ GS-Platform Partners (10%)
#3172
ป้ายไฟวิ่ง LED เปลี่ยนข้อความผ่านมือถือ ใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอก ทนแดด ทนฝน

ป้ายไฟวิ่งLED เปลี่ยนข้อความผ่านappมือถือ(เชื่อต่อทางwi-fi) หรือส่งผ่านระบบLAN  ขนาดป้าย 105x25cm ใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอก ทนแดด ทนฝน มีให้เลือก 4สี แดง,เขียว,น้ำเงิน ราคา 2,900บาท และFull colors  ราคา4,200 บาท ใส่คำ,ข้อความ,วันที่,เวลา,รูปภาพต่างๆได้ ป้ายติดตั้งง่าย โครงสร้างแข็งแรงทนทาน

ทางร้านลงคำให้ฟรีในครั้งแรกและสอนวิธีการใช้งานให้ลูกค้าสามารถลงข้อมูลได้ด้วยตัวเอง แถมขายึดป้ายฟรี

สนใจติดต่อ 0945102033
Line :@gentech
หน้าร้านเซียร์รังสิต ชั้น1


#3173



นายวิศิษฐ์  ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้เกษตรกรชาวสวนผลไม้ในภาคใต้กำลังประสบปัญหาช่องทางจำหน่ายเงาะและมังคุด เนื่องจากในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม - สิงหาคม เป็นฤดูกาลที่ผลผลิตในภาคใต้ออกมาพร้อมกัน จนเกิดการกระจุกตัวและราคาตกต่ำ

 โดยเฉพาะในปีนี้สถานการณ์โควิด – 19 กำลังระบาด มีการล็อกดาวน์ทำให้พ่อค้าไม่สามารถเข้าไปตั้งล้งเพื่อรับซื้อมังคุดจากเกษตรกรได้  ซึ่งนางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมสหกรณ์เร่งหาทางช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรโดยด่วน เบื้องต้น จึงได้สั่งการให้สหกรณ์จังหวัดทุกจังหวัดประสานเครือข่ายสหกรณ์ในแต่ละพื้นที่ สั่งซื้อเงาะและมังคุดจากสหกรณ์ที่เป็นแหล่งผลิตในภาคใต้ กระจายสู่ผู้บริโภคของแต่ละจังหวัด

โดยให้สหกรณ์ต้นทาง 6 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร ระนอง นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี พังงา และยะลา เปิดจุดรวบรวมเงาะ มังคุดจากเกษตรกรและสมาชิก เน้นผลไม้ที่ได้คุณภาพมาตรฐาน GAP ก่อนนำมาคัดเกรดบรรจุลงกล่อง และเร่งจัดส่งให้สหกรณ์ที่เป็นตลาดปลายทางเพื่อให้ถึงผู้บริโภคโดยเร็ว

เบื้องต้น มีสหกรณ์ในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้ เปิดรับพรีออเดอร์เงาะและมังคุด ซึ่งมีผู้บริโภคให้ความสนใจทยอยสั่งซื้อผ่านเครือข่ายสหกรณ์อย่างต่อเนื่อง โดยมีสหกรณ์หลัก ๆ ที่เป็นตัวกลางรวบรวมผลผลิต เช่น สหกรณ์การเกษตรพระพรหม จำกัด สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส.นครศรีธรรมราช จำกัด สหกรณ์การเกษตรพรหมคีรี จำกัด จ.นครศรีธรรมราช สหกรณ์การเกษตรเมืองสุราษฎร์ธานี จำกัด

สหกรณ์การเกษตรบ้านนาสาร จำกัด จ.สุราษฎร์ธานี กลุ่มเกษตรกรทำสวนปากจั่น อ.กระบุรี จ.ระนอง สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้าธ.ก.ส.พังงา จำกัด จ.พังงา สหกรณ์รวมใจการเกษตร จำกัด สหกรณ์การเกษตรหลังสวน จำกัด  จ.ชุมพร และชุมนุมสหกรณ์การเกษตรยะลา จำกัด สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส.ยะลา จำกัด จังหวัดยะลา โดยมีสหกรณ์ปลายทางอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ พะเยา นครราชสีมา มหาสารคาม ร้อยเอ็ด อุบลราชธานี ยโสธร ราคามังคุดขายส่งเฉลี่ยกิโลกรัมละ 25 – 35 บาท และเงาะ ราคาขายกิโลกรัมละ 30 บาท 

ทั้งนี้  กรมฯได้ตั้งเป้าหมายกระจายมังคุดผ่านเครือข่ายสหกรณ์ไม่น้อยกว่า 5,216 ตัน และกระจายเงาะไม่น้อยกว่า  3,329 ตัน พร้อมจัดสรรเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำจากกองทุนพัฒนาสหกรณ์ วงเงิน 122  ล้านบาทเพื่อให้สหกรณ์กู้ยืมเป็นทุนหมุนเวียนรับซื้อผลผลิตจากสมาชิกและเกษตรกรในราคานำตลาด  เพื่อดึงราคาผลไม้ในพื้นที่ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมและเป็นธรรมแก่พี่น้องเกษตรกร


ส่วนการขนส่งผลไม้ ในปีที่ผ่าน ๆ มา กรมฯได้อุดหนุนงบประมาณจัดซื้อตะกร้าบรรจุผลไม้และรถบรรทุกสินค้าให้เครือข่ายสหกรณ์ ใช้ในการขนส่งผลผลิตการเกษตร ทำให้การจัดส่งสินค้าในเครือข่ายสหกรณ์เป็นไปอย่างสะดวกรวดเร็วทันใจและช่วยยืดอายุของผลผลิตให้ยาวนานก่อนถึงมือผู้บริโภค ผู้ที่สนใจจะอุดหนุนผลไม้สหกรณ์ภาคใต้ สามารถสั่งซื้อผ่านเครือข่ายสหกรณ์ในจังหวัดของท่าน  สำหรับส่วนกลางในเขตกรุงเทพและปริมณฑล สามารถสั่งซื้อกับทางชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด โทร. 081-823 3639
#3174




แม้จะเป็นประเทศต้นตำรับ แต่ในครั้งนี้พวกเข้าไม่ประสบความสำเร็จ ทัพจอมเตะจากเกาหลี่ใต้ ไร้เหรียญทองเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่กีฬาเทควันโดมีบรรจุในโอลิมปิกเกมส์ เมื่อปี 2000 ที่ประเทศออสเตรเลีย

ผลงานก่อนหน้านี้ของทัพเทควันโดจากแดนกิมจิในกีฬาโอลิมปิก ซึ่งถือเป็นต้นตำรับในกีฬาชนิดนี้ พวกเขาคว้าไปแล้วทั้งสิ้น 12 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน และ 6 เหรียญทองแดง แต่ในโอลิมปิก 2020 เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่พวกเขาไม่สามารถคว้าเหรียญทองมาเชยชมได้แม้แต่เหรียญเดียว

ในโอลิมปิก 2020 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ทีมจอมเตะจากเกาหลีใต้คว้าโควตามาได้ถึง 6 คน ซึ่งถือว่ามากที่สุดเมื่อเทียบกับทุกชาติ พวกเขาทำได้แค่ 1 เหรียญเงิน กับอีก 2 เหรียญทองแดง เท่านั้น

โดย อี ดา-บิน จอมเตะสาว เป็นผู้ที่คว้าเหรียญเงินในรุ่นน้ำหนักมากกว่า 67 กิโลกรัม มาครองให้กับเกาหลีใต้ ส่วนอีก 2 เหรียญทองแดง ได้จาก จาง จุน รุ่นน้ำหนัก 58 กิโลกรัม ชาย และ อิน คโย-ดอน ในรุ่นน้ำหนักมากกว่า 80 กิโลกรัม ชาย

ขณะที่ตัวเต็งซึ่งถูกยกให้เป็นมือวางอันดับ 1 ของรุ่น 68 กิโลกรัม ชาย อย่าง อี แด-ฮุน ต้องผิดหวังในกีฬาโอลิมปิกอีกครั้ง แม้เขาจะพกดีกรีต่างๆ มากมาย แต่กลับไร้เหรียญในครั้งนี้ โดย แด-ฮุน พ่ายให้กับ อูลุกเบค ราชิตอฟ มือวางอันดับสุดท้ายของรุ่น ชาวอุซเบกิสถาน ตั้งแต่รอบ 16 คนสุดท้าย แม้จะโชคดีได้กลับมาเล่นในรอบชิงเหรียญทองแดง แต่เขาก็พ่ายแพ้ให้กับ จ้าว ฉ่วย มือวางอันดับ 3 ของรุ่น จากประเทศจีน 15-17 คะแนน

ทำเนียบเหรียญในกีฬาเทควันโดของทัพจอมเตะจากเกาหลีใต้
โอลิมปิก 2020 ที่ญี่ปุ่น : 1 เหรียญเงิน, 2 เหรียญทองแดง
โอลิมปิก 2016 ที่บราซิล : 2 เหรียญทอง, 3 เหรียญทองแดง
โอลิมปิก 2012 ที่อังกฤษ : 1 เหรียญทอง, 1 เหรียญเงิน
โอลิมปิก 2008 ที่จีน : 4 เหรียญทอง
โอลิมปิก 2004 ที่กรีซ : 2 เหรียญทอง, 2 เหรียญทองแดง
โอลิมปิก 2000 ที่ออสเตรเลีย : 3 เหรียญทอง, 1 เหรียญเงิน
#3175
3in1 led 36pcs 1w led flat par light DJ DMX512 Stage Lighting   

ไฟเวที LED FLAT PAR สุดคุ้มการใช้ ปาร์ตี้, ดิสโก้, KTV, ผับ, ร้านอาหาร, สวน, สวนสาธารณะ, พลาซ่า เพิ่มความตื่นตาตื่นใจ ด้วยชุดไฟ วิบวับ  แค่ 990 บาท 

- 1 หลอดมีหลาย สี  RGB MiXED COLOR
- วัตต์: ประมาณ 36 x  วัตต์
- แรงดันไฟฟ้า: 110-220 - v
-แหล่งพลังงาน: AC
- สามารถใช้ได้กับเครื่องควบคุมสัญญาณไฟ DMX512 
- รูปแบบไฟเปลี่ยนได้ถึง 7 แบบ ได้แก่ ปล่อยอัตโนมัติ เปลี่ยนตามจังหวะดนตรี master-slave
- รับประกัน 1 เดือน

สนใจ ติดต่อสอบถามหรือสั่งซื้อสินค้า
โทร : 094-5102033
LINE :@gentech
หรือคลิก https://lin.ee/eYs6pVN


#ป้ายNeonflex #ป้ายไฟสั่งทำ #ป้ายเชียร์ #ป้ายร้าน #ป้ายไฟดัด #ป้ายไฟled
#lighting #ไฟled #ledonhome #ป้ายไฟ #ป้ายไฟร้าน #ราคาป้ายไฟ #อุปกรณ์ไฟ
#โคมไฟ #ไฟตกแต่ง #ไฟประดับ #ไฟดาวไลน์led #วิธีเปลี่ยนหลอดled #วิบวับ #laser






#3176



สีสัน "โอลิมปิก2020" นอกจากเรื่องผลงานในสังเวียนการแข่งขันแล้ว ทีมหนึ่งซึ่งกำลังฟอร์มร้อนแรงและเป็นที่สนใจของแฟนกีฬาทั่วโลกคือ "ROC" ชื่อใหม่ที่ "ทีมชาติรัสเซีย" ใช้ร่วมแข่งขัน แล้วทำไมถึงเปลี่ยนมาใช้ชื่อนี้ และหากรับเหรียญทอง พวกเขาต้องร้องเพลงอะไร

ในการแข่งขัน โตเกียว โอลิมปิก 2020 ที่ญี่ปุ่นซึ่งกำลังชิงเหรียญกันอย่างเข้มข้นขณะนี้ บรรดาทีมชาติตัวเต็งเจ้าเหรียญทองไม่ว่าจะเป็นจีน สหรัฐ หรือแม้แต่เจ้าภาพญี่ปุ่นเอง ต่างแข่งกันโกยเหรียญรางวัลทิ้งห่างคูแข่งตั้งแต่วันแรก ๆ แต่ในอันดับต้น ๆ ของทำเนียบเจ้าเหรียญทองปีนี้ (ณ วันที่ 27 ก.ค.) กลับมีชื่อหนึ่งที่แฟนกีฬาไม่คุ้นเคยโผล่เข้ามาด้วย นั่นคือทีม "ROC" (อาร์โอซี)

เพื่อป้องกันความสับสน อันดับแรก ROC ไม่เกี่ยวข้องกับ ROK ชื่อย่อประเทศเกาหลีเหนือ และไม่เกี่ยวกับ "เดอะร็อค" อดีตนักมวยปล้ำชื่อดังที่ปัจจุบันเป็นดาราดังระดับฮอลลีวูดไปแล้ว แต่นี่เป็นชื่อย่อของ Russian Olympic Committee หรือ "คณะกรรมการโอลิมปิกรัสเซีย"


- ป้ายสัญลักษณ์ของคณะกรรมการโอลิมปิกรัสเซีย หน้าสำนักงานใหญ่ในกรุงมอสโก -

ทำไมทีมรัสเซียต้องใช้ชื่อ ROC

ชื่อ ROC ถูกนำมาใช้เป็นชื่อในการแข่งขันทัวร์นาเมนท์ระดับนานาชาติ หลังจากที่องค์กรต่อต้านการใช้สารกระตุ้นโลก (WADA) สั่งแบนรัสเซียในปี 2019

การตัดสินใจครั้งนั้นของ WADA เกิดขึ้นหลังจากตรวจพบว่า รัสเซียแอบกรองปัสสาวะนักกีฬาก่อนนำไปตรวจสารกระตุ้น และหลังจากนั้น รัสเซียยังมีการส่งรายงานฉบับปลอมให้ WADA ส่งผลให้ทีมชาติรัสเซียถูกลงโทษแบนถึง 4 ปี ก่อนจะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอนุญาโตตุลาการกีฬาโลก (CAS) ได้สำเร็จ จนได้ลดโทษแบนครึ่งหนึ่ง เหลือ 2 ปี


รายงานของ WADA ระบุว่า เหตุการณ์การใช้สารกระตุ้นไม่ได้รู้เห็นเป็นวงกว้างเฉพาะในหมู่นักกีฬารัสเซียเท่านั้น แต่ยังอยู่ในการรับรู้ของรัฐบาลที่นำโดยประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินด้วย

โทษแบนครั้งนี้ทำให้รัสเซียหมดสิทธิ์ส่งทัพนักกีฬาในนามทีมชาติแข่งขันหลายรายการ รวมถึง "โตเกียว 2020" "โอลิมปิกฤดูหนาว 2022" ที่กรุงปักกิ่งของจีน และ "ฟุตบอลโลก 2022" ที่กาตาร์

ใครลงแข่งในนาม ROC ได้บ้าง

ROC เปรียบเสมือนทีมชาติรัสเซีย V.2 ดังนั้น กลุ่มนักกีฬารัสเซียที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีใช้สารกระตุ้นดังกล่าว จะได้รับอนุญาตให้ลงแข่งขันในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกครั้งนี้ รวมถึงทัวร์นาเมนท์อื่น ๆ ที่รัสเซียเข้าร่วมในช่วงโทษแบน 2 ปี

ทั้งนี้ คำสั่งของ CAS ยืนยันว่า ลงโทษแบนรัสเซียออกจากการแข่งขันระดับนานาชาติ ดังนั้น นักกีฬาที่ไม่มีความผิด จึงต้องใช้ธงและตราสัญลักษณ์ของคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งรัสเซีย หรือ ROC แทน


อย่างไรก็ตาม กฎกติกาของโอลิมปิกกำหนดให้บรรดานักกีฬาจากรัสเซียลงแข่งขันในนามของ ROC เท่านั้น และให้ใช้ชื่อย่อทีมแทนชื่อเต็ม เพื่อเลี่ยงคำว่า Russian ที่อยู่ในชื่อ Russian Olympic Committee

เมื่อรับเหรียญทองต้องร้องเพลงอะไร

ขณะเดียวกัน เนื่องจากรัสเซียไม่สามารถลงแข่งขันโอลิมปิกอย่างเป็นทางการได้ เมื่อนักกีฬาทีม ROC คว้าเหรียญทอง จะไม่มีการเล่นเพลงชาติรัสเซียหรือเชิญธงชาติรัสเซียขึ้นสู่ยอดเสา


อย่างไรก็ตาม แฟนกีฬาทั่วโลกจะได้เห็น ธงที่มีสัญลักษณ์ของคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งรัสเซีย หรือ ROC ถูกชักขึ้นสู่ยอดเสาอย่างสง่างาม พร้อมกับเสียงบรรเลงเพลง "Piano Concerto No. 1 in B-Flat Minor, Op. 23" ซึ่งประพันธ์โดย "ปิออตร์ อิลิช ไชคอฟสกี" คีตกวีชาวรัสเซียแห่งยุคโรแมนติกช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19



ไชคอฟสกีถือเป็นคีตกวีชาวรัสเซียคนแรกที่ผลงานสร้างความประทับใจในระดับโลก จนได้รับการส่งเสริมในฐานะวาทยกรรับเชิญในทวีปยุโรปและอเมริกา จึงอาจเป็นเหตุผลที่รัสเซียเลือกเล่นเพลงของคีตกวีคนนี้เมื่อนักกีฬาชนะเลิศหรือขึ้นรับเหรียญทองในการแข่งขันระดับนานาชาติ เพื่อประกาศความเป็นเลิศทั้งในด้านกีฬาและดนตรีของตน

ข้อมูล ณ วันที่ 27 ก.ค. ทัพนักกีฬาทีม ROC คว้าเหรียญโอลิมปิกไปแล้วรวม 18 เหรียญ แบ่งเป็นทอง 7 เหรียญ เงิน 7 เหรียญ และทองแดง 4 เหรียญ อยู่ในอันดับ 4 ของทำเนียบเจ้าเหรียญทองโอลิมปิก 2020 รองจากเจ้าภาพญี่ปุ่น (ทอง 10 เหรียญ / รวม 18 เหรียญ) สหรัฐ (ทอง 9 เหรียญ / รวม 25 เหรียญ) และจีน (ทอง 9 เหรียญ / รวม 21 เหรียญ) ตามลำดับ
#3177
นาฬิกานับเวลา Digital จับเวลาเดินหน้า-ถอยหลัง 

LED Count Down Timer ตัวเลขขนาด 10 cm x 6 cm

นาฬิกาจับเวลา Digital จับเวลาเดินหน้า ถอยหลัง

- LED Count Down Timer 
- แถมรีโมทไร้สาย คู่มือภาษาไทย 
- ขนาด : ยาว 70 cm. สูง 16 cm. หนา 4 cm. 
- ใช้จับเวลาตามโรงยิม,สนามมวย,โรงงาน,สนามชนไก่ เป็นต้น
- ใช้ไฟ220 v
- มีรีโมทพควบคุมไร้สาย
- รับประกัน1ปี

ติดตอสอบถาม
โทร 094-5102033 
line@ : @gentech
Facebook : Gentechshop


#3178
น้ำมันว่านจูงนาง   ใส่ตะกรุดนะเมตตามหานิยม ให้ทุกขวด  ขวดละ 399 บาท


 หุงด้วย น้ำมันบารมีครู 108 มหามงคล (น้ำมันแช่เหล็กไหลไพลดำ น้ำมันว่านไก่แดง น้ำมันว่าน 108 น้ำมันเกราะเพชร น้ำมันจักรพรรดิ น้ำมันชาตรี มวลสารมหามงคล 108 รัตนชาติฐานรองพระธาตุพระสีวลี )  

ช่วยในเรื่องเมตตา มหาเสน่ห์และโชคลาภ

คาถากำกับ     ปาสุอุชา จิตตังภิกขิรินิเม    ท่อง  9 จบ

แล้วอธิษฐานใช้เจิมตามซอกคอ ตามตัว ทาที่คิ้ว เจิมที่หน้าผาก พกติดตัว

ว่านจูงนางนักเลงชาย หญิง แต่โบราณ ชอบสาว ชอบหนุ่มใด มักจะเอาดอกเอาต้นว่านไปแช่น้ำมันจันทร์บ้างน้ำมันเสน่ห์ต่างๆหรือผสมกับสีผึ้งใช้ติดตัวทางปาก ทาหน้าทางมือ เพราะมีความเชื่อว่าว่านจูงนางนี้มีพลังเสน่ห์เมตตามหานิยมรุนแรง ต่อเพศตรงข้าม หรือเพศเดียวกัน ชักจูงได้ง่าย ทำให้อีกฝ่ายคล้อยตามง่าย เชื่อง่าย และยังกระตุ้นอารมณ์ของอีกฝ่ายให้เกิดความหลงใหลได้อย่างง่ายดาย และว่านจูงนางนี้ยังสามารถช่วยให้เจรจาค้าขายกับผู้คนต่างๆอย่างได้ผลพ่อค้าแม่ค้า นักธุรกิจมักมีติดตัวไว้ใช้กัน

 ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สั่งซื้อบูชา ทักแชทได้เลย

หรือติดต่อได้ที่
โทร. 0846623662
id line : teerapat999

ลาซาด้า
 https://www.lazada.co.th/products/-i1162308605-s2732826682.html?search=store?spm=a2o4m.10453683.0.0.10b96d16q6OJEJ&search=store 
#3179


วันจันทร์ที่ 26 กรกฎาคม 2564 รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน(มทร.อีสาน) เปิดเผยว่า มทร.อีสาน ภายใต้การขับเคลื่อนนโยบายด้าน Food and Health โดย ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย นายกสภา มทร.อีสานได้มอบหมายนโยบายในการให้ความสำคัญในเรื่องการรักษาอาการเจ็บป่วยด้วยศาสตร์ด้านแพทย์แผนไทยและการใช้พืชสมุนไพรไทยของคนในพื้นที่ภาคอีสาน ผ่านการดำเนินงานของโรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยสกลนคร (หลวงปู่แฟ๊บ สุภัทโท) ที่เป็นโรงพยาบาลที่ให้บริการรักษาผู้ป่วยด้วยการแพทย์แผนไทย เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้และวิจัยด้านสุขภาพแบบนวัตวิถี เมื่อประเทศไทยเกิดสภาวการณ์วิกฤติการระบาดของโรคติดต่อไวรัสโคโรนา2019 (COVID-19)

          มทร.อีสาน ร่วมกับ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสกลนคร เปิดให้บริการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 การนำองค์ความรู้ด้านการแพทย์แผนไทยและการใช้ยาสมุนไพรไทยเป็นแห่งแรกของประเทศไทย ภายใต้ชื่อ ศูนย์ดูแลในชุมชน (แผนไทย): TTM-CI (TTMCI: Thai Traditional Medicine Community Isolation) โดยได้รับเกียรติจาก นายแพทย์ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 8 เป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์ฯ ดังกล่าว เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2564 ณ โรงพยาบาลการแพทย์แผนไทย สกลนคร(หลวงปู่แฟ๊บ สุภัทโท) อ.พังโคนจ.สกลนคร

          สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิดในจังหวัดสกลนครมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่ติดเชื้อมาจากต่างจังหวัดแต่ขอกลับมารักษาตัวที่ภูมิลำเนา และการติดเชื้อภายในจังหวัดและอำเภอต่างๆ เอง จึงต้องจัดเตรียมพื้นที่รองรับผู้ป่วยให้เพียงพอดังนั้น สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสกลนคร จึงประสานขอความร่วมมือมทร.อีสาน วิทยาเขตสกลนคร โดยจัดตั้งศูนย์ TTM-CI ที่ โรงพยาบาลการแพทย์แผนไทย สกลนคร (หลวงปู่แฟ๊บสุภัทโท) เป็นที่รองรับผู้ป่วยโควิดของจังหวัดสกลนคร ที่ตรวจพบติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้ว แต่ยังไม่แสดงอาการมีเพียงอาการไม่พึงประสงค์และไม่ใส่อุปกรณ์ช่วยชีวิต หากผู้ป่วยมีอาการหนักขึ้น (เชื้อลงปอด) จะส่งต่อไปที่อยู่ใกล้เคียง ได้แก่ โรงพยาบาลพังโคนโรงพยาบาลศูนย์สกลนคร หรือโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสว่างแดนดิน

          ในส่วนการรักษาอาการจากการติดเชื้อโควิด-19 ของศูนย์ TTM-CI นี้จะเป็นการรักษาด้วยศาสตร์ด้านแพทย์แผนไทยบูรณาการร่วมกับแพทย์แผนปัจจุบัน ตามแนวทางของกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกกระทรวงสาธารณสุข โดยใช้สมุนไพรไทย อาทิ ฟ้าทะลายโจร แก้ไข้ ระงับอาการอักเสบ ยาตรีผลา บรรเทา อาการไอ ขับเสมหะ กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ยาปราบชมพูทวีป บรรเทาอาการไอ คัดจมูก น้ำมูกไหล ปวดศีรษะ แก้ท้องอืดเฟ้อ

          นอกจากนี้ มีตำรับยาสมุนไพรอื่นๆ ได้แก่ ยาจันทลีลา ยาประสะจันทร์แดง ยาหอม นวโกศฐ ยาห้ารากยาน้ำสาบานจากวัดคำประมง และตำรับยาจากหมอพื้นบ้าน  โดยรักษาควบคู่ไปกับการบริโภคอาหารตามธาตุของผู้ป่วย โดยปรุงอาหารจากเครื่องเทศที่มีสรรพคุณต้านเชื้อโควิดและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรค
 
         รศ.ดร.โฆษิต กล่าวต่อว่า ขณะนี้ได้จัดเตรียมสถานที่โดยใช้พื้นที่อาคารผู้ป่วยนอก สามารถรองรับผู้ป่วยได้ 50 เตียง มีบุคลากรทางการแพทย์จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสกลนครและ มทร.อีสาน มีกล้องวงจรปิดเพื่อความปลอดภัย และใช้ Social media ในการติดต่อประสานงาน หากจำนวนผู้ป่วยมีเพิ่มมากขึ้น สามารถขยายไปอาคารผู้ป่วยในรับได้อีกกว่า 100 เตียง

          "อนึ่ง คณะทรัพยากรธรรมชาติมทร.อีสาน มีโรงงานแปรรูปอาหารและโรงงานผลิตยาสมุนไพรที่ได้มาตรฐาน มีการสอนนักศึกษาระดับปริญญาตรีและระดับปริญญาโท ในสาขาแพทย์แผนไทย และสาขาเกษตร จึงมีความพร้อมและศักยภาพการผลิตอาหารสุขภาพและยาสมุนไพรสำหรับผู้ป่วยโควิดได้ดี ทั้งยังมีนักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงภายใต้มูลนิธิ BCL จำนวนกว่า 70 คนที่สามารถผลิตวัตถุดิบอาหารและยาสมุนไพรได้อย่างต่อเนื่อง สร้างทักษะการเรียนรู้ และใช้ประโยชน์ได้ทันสถานการณ์ ช่วยลดค่าใช้จ่ายและเป็นโมเดลต้นแบบของการพัฒนาระบบสุขภาพไทยอย่างครบวงจรและยั่งยืน" รศ.ดร.โฆษิต กล่าวทิ้งท้าย
#3180

เมื่อวันที่ 25 ก.ค.64 หลังจากโลกออนไลน์แชร์ภาพการฉีดวัคซีนเข็ม 3 ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ จ.บุรีรัมย์ และมีการวิจารณ์กันเป็นวงกว้าง ว่าเป็น "ประเทศบุรีรัมย์" รวมถึงวิจารณ์การทำงานของ รมว.สาธารณสุข ว่าเอาวัคซีนมากระจุกที่จังหวัดเดียว

ล่าสุด ได้มีเอกสารการชี้แจงของสาธารณสุขจังหวัดออกมาแล้วว่า ตามที่ปรากฏว่ามีการเผยแพร่ผ่านระบบคอมพิวเตอร์และสื่อสังคม ออนไลน์ เรื่องการฉีดวัคซีน แอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) เข็มที่ 3 ในเขตพื้นที่ของจังหวัดบุรีรัมย์ ทางสํานักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ ขอชี้แจงดังนี้

เนื่องจากมีการการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 มากขึ้น รัฐบาลจึงมีนโยบายในการฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรทางการแพทย์และบริการด่านหน้า เพื่อเป็นการกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้มีศักยภาพในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคมากขึ้น ตามมติคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ เมื่อวันที่ 16 ก.ค.64 ประกอบกับมีข้อสั่งการของกระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 9 ก.ค.64 ที่ให้มีการฉีดวัคซีนกระตุ้น เข็มที่ 3 แก่บุคลากรการแพทย์และสาธารณสุข

จึงเป็นเหตุให้สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์และโรงพยาบาลในสังกัดทุกแห่ง จัดเตรียมวัคซีน จํานวน 7,964 โดส เพื่อฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์และผู้ให้บริการด่านหน้า และได้ดําเนินการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า กระตุ้นเข็มที่ 3 ให้กับบุคลากรทางการแพทย์และบริการด้านหน้าแล้ว จํานวน 3,533 คน เพื่อเป็นการสร้างขวัญกําลังใจและความปลอดภัยแก่บุคลากรการแพทย์และบุคลากร ด่านหน้าตามนโยบายดังกล่าว

ทั้งนี้สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จะเดินทางไปตรวจสอบพื้นที่ของ อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ อีกครั้งเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจหลังถูกโจมตี

ลาสุด นายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าฯบุรีรัมย์ ได้ออกหนังสือรายงานการแต่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ไปยังปลัดกระทรวงสาธารณสุข ด้วยปรากฏข้อมูลตามสื่อโซเชียล สังคมออนไลน์ กรณีมีกระแสข่าวการฉีดวัคซีน ในพื้นที่ของอำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์ ให้กับเจ้าหน้าที่ที่บริการด่านหน้าอื่นที่ไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์โดยตรง ในการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการบริหารจัดการการฉีดวัคซีนของหน่วยงานภาครัฐนั้น จึงได้ดำเนินการออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวแล้ว ผลการสอบข้อเท็จจริงเป็นประการใดจะได้แจ้งให้ทราบต่อไป.