• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Beer625

#3182


ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการของญี่ปุ่น ตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายน มีผู้ป่วยโควิด-19 เสียชีวิต 84 รายระหว่างรักษาตัวที่บ้าน ในจำนวนนี้ 36 รายมีอาการทรุดลงอย่างรวดเร็ว เสียชีวิตใน 1-9 วันหลังรายงานผลติดเชื้อ, 11 รายเสียชีวิตในช่วง 10-19 วัน, 9 รายเสียชีวิตไปแล้วจึงรายงานว่าติดเชื้อโควิด ระยะเวลาผู้ติดเชื้อที่เสียชีวิตยาวนานที่สุดคือ 30 วันหลังรายงานผลติดเชื้อ และมี 24 รายที่ไม่รู้ว่าระยะเวลาเสียชีวิตชัดเจน

ผู้ป่วยที่เสียชีวิตกว่าร้อยละ 80 เป็นผู้สูงอายุ โดยมี 36 รายที่อายุ 80 ปีขึ้นไป, ช่วงวัย 70 ปีเสียชีวิต 24 ราย, ช่วงวัย 60 ปีเสียชีวิต 11 ราย, ช่วงวัย 50 ปีเสียชีวิต 7 ราย, ช่วงวัย 40 ปีเสียชีวิต 1 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตที่อยู่ในช่วงวัย 30 ปีมี 3 ราย และช่วงวัย 20 ปีเสียชีวิต 1 ราย



การระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลตาสร้างความกังวลว่า ผู้ติดเชื้อจะมีอาการทรุดหนักลงอย่างรวดเร็วจนอาจเสียชีวิตได้ระหว่างรักษาตัวที่บ้าน

นายกฯ โยชิฮิเดะ ซูงะ ได้ประกาศนโยบายเมื่อต้นเดือนนี้ ให้ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่รักษาตัวที่บ้านเป็นหลัก เพื่อสงวนเตียงในโรงพยาบาลให้สำหรับผู้ที่อาการหนักเท่านั้น ทำให้จำนวนผู้ป่วยที่รักษาตัวที่บ้านในขณะนี้มีมากกว่า 45,000 คน เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวจากสัปดาห์ก่อนหน้า

อัตราผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นเพราะไวรัสสายพันธุ์เดลตาที่ติดเชื้อได้ง่าย และผู้ติดเชื้อรายใหม่ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนหนุ่มสาว ที่ยังไม่ถึงคิวได้รับวัคซีน



นายกฯ ญี่ปุ่นระบุว่า จะติดตามอัตราการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้ออย่างใกล้ชิด เพื่อตัดสินใจว่าจะให้การแข่งขัน "พาราลิมปิก" มีผู้ชมหรือไม่ โดยงานพาราลิมปิกจะเริ่มต้นในวันที่ 24 ส.ค.นี้

ขณะนี้ญี่ปุ่นอยู่ในช่วงวันหยุดฤดูร้อน ผู้นำญี่ปุ่นระบุว่านี่เป็นช่วงเวลาสำคัญที่จะในการควบคุมการระบาด เขาเรียกร้องให้คนหนุ่มสาวหลีกเลี่ยงการเดินทางท่องเที่ยวและกลับภูมิลำเนา โดยมีข้อมูลว่าร้อยละ 70 ของผู้ติดเชื้อรายใหม่ในกรุงโตเกียว เป็นกลุ่มคนที่มีอายุน้อยกว่า 30 ปี.
#3183


ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันอังคาร (10 ส.ค.)ปรับตัวขึ้น 162 จุด โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า วุฒิสภาสหรัฐจะลงมติให้ความเห็นชอบต่อร่างกฎหมายการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ในวันนี้ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 162.82 จุด หรือ 0.46% ปิดที่ 35,264.67 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี500 เพิ่มขึ้น 4.40 จุด หรือ 0.10% ปิดที่ 4,436.75 จุด และดัชนีแนสแด็ก ลดลง 72.09 จุด หรือ 0.49% ปิดที่ 14,788.09 จุด

ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทได้ปัจจัยบวกจากการที่วุฒิสภาสหรัฐลงมติให้ความเห็นชอบต่อร่างกฎหมายการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ในวันนี้ ก่อนส่งต่อเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ โดยโครงการดังกล่าวเป็นหนึ่งในโครงการที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก

ทำเนียบขาวระบุว่า โครงการดังกล่าวรวมถึงการใช้จ่ายงบประมาณครั้งใหม่วงเงิน 5.5 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งจะรวมทั้งโครงการสร้างถนน สะพาน ทางรถไฟ ปัจจัยพื้นฐานสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และโครงการอื่นๆ

ขณะที่ราคาหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นในวันนี้ หลังจากดิ่งลงอย่างหนักวานนี้ตามการทรุดตัวของราคาน้ำมัน ขณะที่หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ เช่น กลุ่มธุรกิจเรือสำราญและกลุ่มสายการบิน ปรับตัวขึ้นเช่นกัน

หุ้นกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้นในวันนี้ตามการดีดตัวขึ้นของของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ

ตลาดจับตาตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ในวันพุธ และเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (พีพีไอ) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ในวันพฤหัสบดี

นักลงทุนวิตกว่า หากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเกินคาด หลังจากที่มีการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่ง ก็จะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) รวมทั้งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยลบต่อตลาดหุ้นวอลล์สตรีท

นักลงทุนคาดว่าเฟดจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งแนวโน้มการปรับลดวงเงินคิวอีในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 26-28 ส.ค.

นายริชาร์ด แคลริดา รองประธานเฟด ส่งสัญญาณในการกล่าวถ้อยแถลงก่อนหน้านี้ว่า เฟดจะปรับลดวงเงินคิวอีภายในปีนี้ ก่อนที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2566

ขาดแคลนแรงงาน:ปัญหาใหญ่นิวซีแลนด์
ทั้งนี้ นายแคลริดากล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มที่จะบรรลุเป้าหมายด้านการจ้างงานและเงินเฟ้อของเฟดภายในปลายปีหน้า ซึ่งจะทำให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2566

"ผมเชื่อว่าเศรษฐกิจจะบรรลุเงื่อนไขที่จำเป็นต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดภายในปลายปีหน้า และการกลับมาใช้นโยบายการเงินแบบปกติในปี 2566 จะสอดคล้องกับกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อเฉลี่ยแบบยืดหยุ่นของเฟด" นายแคลริดากล่าว

"หากการคาดการณ์ของผมเป็นจริง ก็คาดว่าเฟดจะเริ่มประกาศปรับลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรภายในปีนี้" เขากล่าว

คำกล่าวของนายแคลริดาสอดคล้องกับถ้อยแถลงของนายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ว่าการของเฟด โดยนายวอลเลอร์ระบุว่า เฟดควรจะเริ่มปรับลดวงเงินคิวอีภายในเดือนต.ค.
#3184


บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด(มหาชน) หรือซีพีเอฟ เปิดตัวโครงการ " Sustainability in Action ยั่งยืนได้ ด้วยมือเรา" รวมพลังพนักงานทั่วประเทศ มีส่วนร่วมดูแลสิ่งแวดล้อม นำร่องกิจกรรมปลูกต้นไม้ และ บริโภคอาหารอย่างรู้คุณค่า ไม่เหลือทิ้ง ลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) และเดินหน้าสร้างความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืน

นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ กล่าวว่า ซีพีเอฟในฐานะบริษัทผลิตอาหารและเป็นผู้นำธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม ทำหน้าที่ดูแลความมั่นคงทางอาหารของประเทศ ร่วมสร้างความยั่งยืน โดยดำเนินธุรกิจใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในวันนี้ บริษัทฯ ได้ดำเนินโครงการ" Sustainability in Action ยั่งยืนได้ ด้วยมือเรา" เพื่อให้พนักงานทุกคนมีส่วนร่วมสร้างความยั่งยืนไปด้วยกัน ลงมือทำในระดับบุคคล ผ่านกิจกรรม "กล้าจากป่า พนาในเมือง" นำต้นไม้ไปปลูกที่บ้าน และ กิจกรรม "กินเกลี้ยง เลี้ยงโลก" บริโภคอาหารให้หมดจาน ไม่ให้เกิดขยะเหลือทิ้ง สอดรับตามนโยบายของเครือเจริญโภคภัณฑ์ที่มีเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals : SDGs)

"ซีพีเอฟมุ่งหวังว่าความร่วมมือของพนักงานในองค์กร จะเป็นพลังในการส่งต่อโครงการดีๆ จากภายในไปสู่ภายนอก เป็นต้นแบบที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดผลสำเร็จในระดับของภาคประชาชน เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน " นายประสิทธิ์ กล่าว


สำหรับกิจกรรม "กล้าจากป่า พนาในเมือง" (Forest in the City) เป็นโครงการระยะ 5 ปี ( ปี 2564-2568) ที่ส่งเสริมให้พนักงานมีส่วนร่วมปลูกต้นไม้ 100,000 ต้น จากต้นกล้าที่เพาะโดยชุมชน เป็นการส่งเสริมให้ชุมชนมีส่วนร่วมรักษาป่า และเกิดการจ้างงานชุมชนในการเพาะกล้าพันธุ์ไม้ โดยบูรณาการกับโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าของซีพีเอฟ คือ โครงการ ซีพีเอฟ รักษ์นิเวศ ลุ่มน้ำป่าสัก เขาพระยาเดินธง จ.ลพบุรี และ โครงการ ซีพีเอฟ ปลูก ปัน ป้องป่าชายเลน ซึ่งมีทั้งไม้เศรษฐกิจ อาทิ พะยูง ยางนา พยอม มะค่าโมง แดง ตะเคียนทอง พฤกษ์ และไม้กระถางที่สามารถดักฝุ่น PM 2.5 อาทิ ลิ้นมังกร โกศลแผ่นดินทอง เสน่ห์จันทน์แดง ไทรใบสัก เป็นต้น

ส่วนกิจกรรม "กินเกลี้ยง...เลี้ยงโลก" (Empty Plate...Save the Planet) เป็นโครงการระยะ 5 ปี ที่มีเป้าหมายร่วมลดปริมาณขยะอาหาร 100,000 จาน หรือ 720 กิโลกรัม ซึ่งจะช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 18,200 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า โดยโครงการฯจัดทำ เพจกินเกลี้ยง เลี้ยงโลก เป็นศูนย์กลางในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารและกิจกรรมต่างๆ เกี่ยวกับขยะอาหารและการกำจัดอย่างถูกวิธี เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของพนักงานในการลดปริมาณขยะอาหารและขยะสู่หลุมฝังกลบ

นายประสิทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ซีพีเอฟตระหนักดีถึงการทำหน้าที่ในฐานะพลเมืองที่ดีของประเทศ(Good Corporate Citizen) มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยนำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มาใช้บริหารจัดการทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ตลอดจนได้ประกาศความมุ่งมั่นไม่ตัดไม้ทำลายป่า มุ่งสู่เป้าหมายองค์กรคาร์บอนต่ำ สอดรับกลยุทธ์ความยั่งยืนปี 2030 และสนับสนุนเป้าหมาย SDGs 17 ประการ./
#3185


รัฐบาลญี่ปุ่นเริ่มศึกษาความเป็นไปได้ที่จะฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เข็มที่ 3 ให้กับประชาชนในราวปีหน้า โดยได้สั่งจองวัคซีน "โนวาแวกซ์" และ "โมเดอนา" เตรียมไว้แล้ว

นายทาโร โคโนะ รัฐมนตรีที่รับผิดชอบเรื่องวัคซีนโควิดของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ได้เจรจาเพื่อสั่งจองวัคซีนโมเดอนาเพิ่มเติมอีก 50 ล้านโดส และวัคซีนโนวาแวกซ์ 150 ล้านโดส โดยจะส่งมอบในต้นปีหน้า

รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังติดตามตัวอย่างของประเทศต่าง ๆ ที่ฉีดวัคซีนกระตุ้นเพิ่มเติมให้ประชาชน เช่น อิสราเอลที่ฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ให้กับผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ส่วนเยอรมนี สวีเดน และอังกฤษก็เตรียมจะทำเช่นเดียวกันในราวเดือนกันยายน

รัฐบาลญี่ปุ่นจะตัดสินใจว่าจำเป็นต้องฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นหรือไม่ โดยรวบรวมผลการทดลองทางคลินิกในต่างประเทศ ทั้งเรื่องกลุ่มคนที่จำเป็นต้องรับวัคซีนกระตุ้น และการใช้วัคซีนจากต่างบริษัทกับวัคซีนเข็มที่ 1 และ 2 ซึ่งในญี่ปุ่นใช้วัคซีนของไฟเซอร์ และโมเดอนาเป็นหลัก



ญี่ปุ่นเริ่มฉีดวัคซีนโควิดในเดือนกุมภาพันธ์ ขณะนี้ผู้สูงอายุราว 80.0% ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว แต่คนหนุ่มสาวส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับวัคซีน และเป็นกลุ่มที่ติดเชื้อมากที่สุดในขณะนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นคาดว่าจะสามารถฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มให้กับประชาชนทุกคนได้ภายในเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน ปีนี้ และกำลังติดตามผลข้างเคียงของวัคซีน รวมทั้งประสิทธิผลในการป้องกันไวรัสกลายพันธุ์

บริษัทโมเดอนาได้ระบุเมื่อวันที่ 5 ส.ค. ว่า วัคซีนของตนสามารถคงภูมิคุ้มกันได้ที่ระดับ 93% นาน 6 เดือนหลังฉีดเข็มที่ 2 พร้อมชี้ว่าอาจมีความจำป็นต้องฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 เพื่อการปกป้องไวรัสกลายพันธุ์หลังจากที่ภูมิคุ้มกันลดน้อยลง

อย่างไรก็ตาม นายทีโดส อัดฮานอม กรีบีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก หรือ WHO เรียกร้องให้ประเทศร่ำรวยต่าง ๆ ระงับโครงการฉีดวัคซีนกระตุ้นไว้ก่อนจนถึงสิ้นเดือนกันยายน เพราะผู้คนหลายล้านคนในประเทศกำลังพัฒนายังไม่ได้รับวัคซีนแม้แต่เข็มเดียว.
#3186
โรงงานขายเหล็กเกรดบีมหาชัย- สมุทรสาคร ราคาถูกพิเศษ ถูกกว่าทั่วไป ท่อดำกลมเกรดบี-ยาว6เมตร ทุกท่อน 

โรงงานขายเหล็กเกรดบีมหาชัย-สมุทรสาคร ราคาถูกพิเศษ ถูกกว่าทั่วไป  ขายเหล็กเกรดบี-มหาชัย สมุทรสาคร ขายท่อดำกลมเกรดบี-ยาว6เมตร
โรงงานขายเหล็กเกรดบีมหาชัย-สมุทรสาคร ราคาถูกพิเศษ ถูกกว่าทั่วไป  ขายเหล็กเกรดบีมหาชัย ขายเหล็กรูปพรรณเกรดบี ขายเหล็กเกรดบี-มหาชัย ท่อดำกลมเกรดบีราคาโรงงาน ราคาถูกพิเศษ

1. 60ตันขึ้นไป – กิโลละ 21บาท
ขายเหล็กเกรดบีมหาชัย ขายเหล็กรูปพรรณเกรดบี ขายเหล็กเกรดบี-มหาชัย ท่อดำกลมเกรดบีราคาโรงงาน ราคาถูกพิเศษ
1. 60ตันขึ้นไป – กิโลละ 21บาท
2. 30ตัน-59ตัน – กิโลละ 23บาท
3. ตํ่ากว่า30ตัน – กิโลละ 25บาท
เหล็กขนาด ยาว6เมตรทุกท่อน

ขายเหล็กเกรดบี-มหาชัย, ขายเหล็กเกรดบี-สมุทรสาคร, โรงงานขายเหล็กเกรดบีมหาชัย. ขายเหล็กเกรดบีถูกพิเศษ, ขายท่อดำกลมเกรดบี-ยาว6เมตร
ขายเหล็กเกรดบี-มหาชัย

สนใจติดต่อ
บริษัท สามชัย สตีล อินดัสทรี จำกัด (มหาชน)

นัดดูของได้ที่นี่
คุณแป๊ป เบอร์ 0819196666 line ID varoonchai_papp
Email varoonchai@gmail.com


รายละเอียดเพิ่มเติม
https://prakasfree.website/โรงงานขายเหล็กเกรดบีมห/


ขายเหล็กเกรดบี-มหาชัย
คำค้น
ขายเหล็กเกรดบีมหาชัย,ขายเหล็กเกรดบี-สมุทรสาคร,โรงงานขายเหล็กเกรดบีมหาชัย. ขายเหล็กเกรดบีถูกพิเศษ, ขายท่อดำกลมเกรดบี-ยาว6เมตร
#3188


ต้อนรับเดือนสิงหาคมนี้แบบอิ่มอร่อยเต็มที่ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์บีชรีสอร์ทและวิลลา หัวหิน ขอแนะนำบริการด้านอาหารและเครื่องดื่มล่าสุด อินรูม ไดน์นิง ดีไลท์ ที่เอ็กเซ็กคิวทีฟเชฟ สตีเฟ่น ฮอฟเฟอร์ ขอการันตีความอร่อยเช่นเดิมที่เพิ่มเติมความอุ่นใจให้กับแขกตลอดการเข้าพัก ด้วยนำเสิร์ฟทุกมื้ออาหารแบบส่วนตัวภายในห้องพักที่จะมอบความสะดวกสบายตลอด 24 ชั่วโมง



พร้อมต้อนรับสู่บรรยากาศพักผ่อนริมทะเลหัวหินด้วยความปลอดภัยและอุ่นใจเต็มที่ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์บีชรีสอร์ทและวิลลา หัวหิน นำโดยเอ็กเซ็กคิวทีฟเชฟ สตีเฟ่น ฮอฟเฟอร์ แนะนำบริการด้านอาหารและเครื่องดื่มล่าสุด อินรูม ไดน์นิง ดีไลท์ (In-room Dining Delights) ที่พร้อมบริการทุกมื้ออาหารแสนอร่อย ที่ยังคงความสดใหม่และรสชาติการปรุงอาหารอย่างพิถีพิถัน แต่เพิ่มเติมความอุ่นใจอีกระดับด้วยการนำเสิร์ฟแบบส่วนตัวภายในห้องพัก พร้อมยกระดับมาตรฐานบริการด้านความปลอดภัยทางสุขภาพและสุขอนามัย เซ็นทารา คอมพลีท แคร์ (Centara Complete Care) อย่างรัดกุม แต่ยังคงไว้ซึ่งความเอาใจใส่และประสบการณ์การบริการที่อบอุ่นอย่างเหนือระดับ การันตีมื้ออาหารสุดโปรดของแขกให้อิ่มอร่อยและอุ่นใจเต็มที่ตลอด 24 ชั่วโมง พลางเพลิดเพลินกับบรรยากาศริมทะเลหัวหินจากทุกห้องพักของโรงแรม



เริ่มต้นด้วย อาหารนานาชาติมื้อเช้า จากห้องอาหารเรลเวย์ ที่นำเสนอรายการอาหารเช้านานาชาติให้ได้เพลิดเพลินแบบรายการ อะ ลา คาร์ท เกือบ 100 รายการ ที่ขอมอบความอิ่มอร่อยอย่างเต็มที่เช่นเคยตลอดทุกวัน ไม่ว่าจะเป็น ชุดอาหารเช้าและเมนูไข่คลาสสิกสไตล์ตะวันตก รายการอาหารจานเดียวยอดนิยมสำหรับชาวไทย สลัดผักและผลไม้สดเพื่อสุขภาพ ขนมปังธัญพืชและขนมอบสดใหม่ น้ำผลไม้และเครื่องดื่มหลากรายการ โดยนำเสิร์ฟและบริการถึงทุกห้องพักตลอดมื้อเช้าระหว่าง 06.30 - 10.30 น.



ต่อเนื่องที่ ห้องอาหาร โคสต์ บีชคลับและบิสโทร ที่ยังคงเปิดให้บริการสำหรับมื้อกลางวันและมื้อค่ำ ตั้งแต่ 11.00 - 20.00 น. สำหรับการสั่งเพื่อกินภายในห้องพัก ด้วยรายการ อะ ลา คาร์ท แปลกใหม่ในสไตล์คอสโมโพลิแทน (Cosmopolitan) ที่นำเสนออาหารจานเด่นกว่า 50 รายการที่ปรุงอย่างพิถีพิถันจากวัตถุดิบที่ดีที่สุด เคล้ากลิ่นอายตะวันตกแต่ผสานรสชาติแบบตะวันออกไว้อย่างลงตัว อาทิ สลัดผักหลากชนิดพร้อมเดรสซิ่งสูตรพิเศษ สเต็กเนื้อคุณภาพเยี่ยมพร้อมซอสและเครื่องเคียง เมนูปลาและอาหารทะเลสดใหม่ตามความชอบของคุณ พาสต้าและรีซอตโต้สไตล์อิตาเลี่ยนต้นตำรับ รวมถึงพิซซ่าคลาสสิคที่เต็มไปด้วยรสชาติแปลกใหม่จากซอสพิซซ่าเข้มข้นที่เข้ากันได้เป็นอย่างดีกับแป้งพิซซ่าสูตรบางกรอบพิเศษที่มีที่โคสต์เท่านั้น



หรือหากกำลังมองหาตัวเลือกอาหารว่างมื้อดึก ห้องอาหารเรลเวย์ พร้อมดูแลตลอด 24 ชั่วโมงด้วยเมนู ออลเดย์ ดีไลท์ (All-day Delights) กับกว่า 60 รายการอาหารจานเด่นจากหลายวัฒนธรรมทั่วทุกมุมโลก อาทิ เบอร์เกอร์เนื้อวัวแองกัสและฟิชแอนด์ชิปส์สไตล์อเมริกัน สลัดนิซัวส์และอกเป็ดย่างซอสมัลเบอร์รี่สูตรต้นตำรับฝรั่งเศส พิซซ่าและพาสต้าเมนูโปรดตำรับอิตาเลียนแท้ อาหารว่างสไตล์เม็กซิกันอย่างทอสทาดาและทาโก้ ฉู่ฉี่ปลาแซลมอนและข้าวซอยไก่รสเข้มแบบไทย หรือจะเป็นเมนูยอดนิยมอย่าง ผัดไทยกุ้งสด ต้มยำกุ้ง ผัดกะเพราไข่ดาว ข้าวผัดสับปะรด ก็มีให้ได้เลือกเช่นเดียวกัน พร้อมรับประกันความอร่อยเต็มที่ในทุกจานอย่างแน่นอน



ไม่ว่าจะเป็นมื้ออาหารรูปแบบไหนโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์บีชรีสอร์ทและวิลลา หัวหิน พร้อมดูแลตลอดการเข้าพักด้วย อินรูม ไดน์นิง ดีไลท์ บริการด้านอาหารและเครื่องดื่มที่เอ็กเซ็กคิวทีฟเชฟ สตีเฟ่น ฮอฟเฟอร์ ขอการันตีความอร่อยเช่นเดิม และเพิ่มเติมความอุ่นใจให้กับแขกในทุกๆ วันตลอด 24 ชั่วโมง

อินรูม ไดน์นิง ดีไลท์ (In-room Dining Delights) ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์บีชรีสอร์ทและวิลลา หัวหิน ให้บริการตลอดทุกวันแบบรายการ อะ ลา คาร์ท สำหรับการกินในห้องพัก ในราคาเริ่มต้น 140++ บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและสำรองห้องพักได้ที่ 0-3251-2021 หรืออีเมลล์ chbr@chr.co.th
#3189


ผศ.ดร.ธีทัต ตรีศิริโชติ หัวหน้าศูนย์วิจัยและให้คำปรึกษาการบริหารจัดการ วิทยาลัยพาณิชยศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา

ระบบนิเวศ (ecosystem) หมายถึง ความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิตในแหล่งที่อยู่อาศัย ณ ที่ใดที่หนึ่ง ความสัมพันธ์มี 2 ลักษณะ คือ ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งไม่มีชีวิตและระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตด้วยกันเอง โดยมีการถ่ายทอดพลังงานและสารอาหารในบริเวณนั้น ๆ สู่สิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นความหมายที่เรารู้จักกันใน การศึกษานิเวศวิทยา (ecology) ซึ่งเป็นศาสตร์แขนงหนึ่งว่าด้วยการศึกษาสิ่งมีชีวิตในแหล่งอาศัย รวมถึง การศึกษาด้านความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งแวดล้อมที่สิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ ความสัมพันธ์ทั้งสองลักษณะนี้ เชื่อมโยงเกี่ยวข้องกัน และเกิดขึ้นพร้อม ๆ กันต้องพึ่งพาอาศัยกันและกัน ไม่สามารถอยู่ได้เพียงลำพังโดยไม่เกี่ยวข้องกับองค์ประกอบต่าง ๆ ความสัมพันธ์ภายในระบบนิเวศนั้น มีความสมดุลอยู่แล้วโดยธรรมชาติ ยกเว้นว่าจะมีสิ่งใดมารบกวนระบบทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ขึ้น แต่ก็มีการปรับตัวมาเหมือนเดิมได้ใหม่ยกเว้นกรณีที่สิ่งที่มารบกวนนั้น ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง ระบบนั้นก็จะถูกทำลายลงได้

ADVERTISING

ในปัจจุบันนี้ ในด้านธุรกิจ ก็มีการพูดถึง Ecosystems เช่นเดียวกัน นั่นก็คือระบบนิเวศทางธุรกิจ ที่มีความเชื่อมโยงกันเหมือนระบบนิเวศของสัตว์ป่า ซึ่งต้องอาศัยประโยชน์ของกันและกันในการดำรงอยู่ โดยระบบนิเวศธุรกิจก็เป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศทางเศรษฐกิจ ซึ่งระบบนิเวศเศรษฐกิจจะประกอบไปด้วย ระบบนิเวศธุรกิจ ระบบนิเวศเชิงพฤติกรรมของผู้บริโภค และระบบนิเวศของหน่วยงานรัฐที่คอยอำนวยความสะดวกให้กับระบบนิเวศของธุรกิจของเราดำเนินการไปได้ด้วยดี

การทำธุรกิจในอดีตส่วนใหญ่จะดำเนินธุรกิจในรูปแบบของ One-Sided Business โดยเริ่มตั้งแต่จัดการเรื่องเงินทุนด้วยตนเอง จัดหาวัตถุดิบด้วยตนเอง ตั้งโรงงานด้วยตนเอง ไปจนถึงการหาทางเข้าถึงลูกค้าด้วยตนเอง แบบนี้เรียกว่าการทำธุรกิจแบบทิศทางเดียว ในปัจจุบันหากเราต้องการที่จะแข่งขันกับธุรกิจที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกันได้ โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจอยู่ในยามวิกฤติ เราต้องหันไปพึ่งพาพาร์ทเนอร์ที่มีศักยภาพมากพอที่จะช่วยเราฝ่าฟันวิกฤติต่าง ๆ ไปได้ เช่น การทำธุรกิจแบบระบบนิเวศ เป็นต้น

ดังนั้น การออกแบบระบบนิเวศทางธุรกิจ จึงมีความสำคัญ เสมือนการสร้างโครงสร้างขนาดใหญ่ที่อัดแน่นไปด้วยบริการ และการสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้า (User Experience) ที่มีกลไกกระตุ้น (Trigger) ที่ทำให้เรา ลูกค้า หรือกลุ่มเป้าหมายต้องเกิดการใช้งานอย่างต่อเนื่อง และอยู่ในวังวนของธุรกิจ ที่หากเราค้นไปลึกๆ ธุรกิจเหล่านั้นก็คือ เจ้าของหรือเครือเดียวกัน

ธุรกิจประเภท Ecosystem Businesses จะเกิดการได้เปรียบในการแข่งขัน ถ้าเปิดธุรกิจต้อนรับคู่ค้าหรือพาร์ทเนอร์รายอื่นที่มีศักยภาพที่ดีพอที่จะส่งเสริมให้ธุรกิจของเราเติบโตขึ้นได้

Ecosystem Business แบ่งได้เป็น 2 แบบ ดังนี้ 1. Ecosystem Partnerships คือ การหาพาร์ทเนอร์ธุรกิจที่ตอบโจทย์การดำเนินงานของเราได้ เช่น ธุรกิจ E-Commerce มีพาร์ทเนอร์เป็นธุรกิจโลจิสติกส์ที่เอื้ออำนวยต่อการขนส่งสินค้า หรือการเป็นพาร์ทเนอร์กับบัตรเครดิต เป็นต้น และ 2. Ecosystem Corporate Sustainability คือ การสร้างทรัพยากรทางธุรกิจขึ้นมาเอง โดยให้ลูกค้าเข้ามาใช้เครือข่ายบริการที่เราสร้างขึ้นมาทั้งหมด เช่น Facebook ที่มีทั้ง live streaming, messenger, marketplace หรือ Facebook page เป็นต้น

สรุปได้ว่า หากเราต้องการทำธุรกิจให้เติบโตในอุตสาหกรรมและประหยัดต้นทุนด้านทรัพยากร การทำธุรกิจแบบ Ecosystem Businesses คืออีกหนึ่งแนวคิดในการทำธุรกิจให้เป็นทางรอดขององค์กรในยุคใหม่
#3190


จากกรณีที่ประเทศไทยได้รับบริจาควัคซีน "ไฟเซอร์" จากประเทศสหรัฐอเมริกา 1.5 ล้านโดส โดยได้จัดส่งถึงประเทศไทย พร้อมกับให้ดำเนินการจัดสรรให้กับบุคคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าอย่างเร่งด่วน เพื่อรับมือกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นทั่วประเทศนั้น  

เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น โพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ที่ผ่านมา ระบุว่า เวลา 14.00 น. ณ สำนักงานควบคุมป้องกันโรคที่ 7 จังหวัดขอนแก่น นายแพทย์สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่นรับมอบ "วัคซีนไฟเซอร์" ล็อตแรก 9,840 โดส โดยกองโรคติดต่อทั่วไปจัดส่งวัคซีนโควิด 19 ไฟเซอร์ รอบต้นเดือนสิงหาคม 2564 สำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขเพื่อลดการป่วยรุนแรงและอัตราการเสียชีวิต และปกป้องระบบสาธารณสุขของประเทศ



โดยมอบหมายให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพิจารณาเร่งรัดการให้วัคซีนกับกลุ่มเป้าหมาย ภายในอาทิตย์ นี้ เบื้องต้นมีบุคลากรด่านหน้าแจ้งความประสงค์ ฉีด 17,000 คน แบ่งเป็น 2 ประเภท ดังนี้

ประเภทที่ 1


บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้าทุกคนที่ต้องสัมผัสผู้ป่วยโควิด 19 จากการปฏิบัติงานทั่วประเทศ รวมทั้งนักศึกษาและเจ้าหน้าที่ที่ต้องสัมผัสผู้ป่วยโควิดจากการปฏิบัติงาน เช่น แผนกผู้ป่วยนอก แผนกผู้ป่วยใน คลินิกทางเดินหายใจ ห้องฉุกเฉิน แผนกผู้ป่วยวิกฤต โรงพยาบาลสนาม เจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการ เจ้าหน้าที่สอบสวนโรค เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในสถานที่กักกัน หรือปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับภารกิจการดูแลผู้ป่วยโควิด 19 อื่นๆ ตามการพิจารณาของสถานพยาบาล/หน่วยงานต้นสังกัด 


โดยมีหลักการให้วัคซีน ดังนี้

1.1 บุคลากรที่ได้รับวัคซีน Sinovac หรือ Sinopharm ครบ 2 เข็ม อย่างน้อย 1 เดือนพิจารณาให้วัคซีน Pfizer กระตุ้น 1 เข็ม 
1.2 บุคลากรที่ได้รับวัคซีนใดๆ มาแล้วเพียง 1 เข็ม พิจารณาให้วัคซีน Pfizer เป็นเข็มที่ 2 โดยกำหนดระยะห่างระหว่างโดส ตามชนิดของวัคซีนเข็มที่ 1 เป็นหลัก
1.3 บุคลากรที่เคยติดเชื้อโควิด 19 และไม่เคยได้รับวัคซีน พิจารณาให้วัคซีน Pfizer 1 เข็ม โดยมีระยะห่างจากวันที่พบการติดเชื้ออย่างน้อย 1 เดือน
ประเภทที่ 2

บุคลากรที่ไม่เคยได้วัคซีนใดๆ มาก่อน พิจารณาให้วัคซีน Pfizer 2 เข็ม ห่างกัน 3 สัปดาห์ทั้งนี้เนื่องจากวัคซีนจะเก็บอยู่ในอุณหภูมิ  2 -  8 องศาเซลเซียส ได้เพียง 1 เดือน ดังนั้น กองโรคติดต่อทั่วไป  จะส่งวัคซีน Pfizer สำหรับผู้รับวัคซีนเข็ม 2 ในกลุ่มเป้าหมายประเภท 2 ประมาณกลางเดือนสิงหาคม 2564  และหากจังหวัดได้ตรวจสอบว่ามีบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่มีคุณสมบัติตามกลุ่มเป้าหมายประเภทที่ 1  และ 2 เพิ่มเติมสามารถแจ้งขอรับการสนับสนุนวัคซีนเพิ่มเติมได้ที่กรมควบคุมโรค


ต่อมา วานนี้ (7 ส.ค.) องค์กรแพทย์ รพ.ขอนแก่น ได้ออกแถลงการณ์เรื่องการขอวัคซีน "ไฟเซอร์" ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าโรงพยาบาลขอนแก่น ความว่า ตามที่ทราบกันดีว่าประเทศไทยได้รับบริจาควัคซีนไฟเซอร์จากประเทศสหรัฐอเมริกา 1.5 ล้านโดส และจะมีการจัดสรรให้กับบุคลากรสาธารณสุขด่านหน้าอย่างเร่งด่วนเพื่อรับมือกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด -19 ที่เพิ่มขึ้นทั่วประเทศ

โรงพยาบาลขอนแก่นนับเป็นโรงพยาบาลหลักในการดูแลผู้ป่วยโควิดทุกความรุนแรงของจังหวัดขอนแก่นตั้งแต่ผู้ป่วยคลัสเตอร์ฟันน้ำนม คลัสเตอร์แรงงาน คลัสเตอร์เรือนจำและทัณฑสถาน ไปจนถึงผู้ป่วยหนักอาการวิกฤตสำหรับโควต้าการฉีดวัคซีนไฟเซอร์มีบุคลากรทางการแพทย์ลงชื่อรับวัคซีนไฟเซอร์เป็นจํานวน 1,400 คน แต่โรงพยาบาลขอนแก่นกลับได้รับการจัดสรรวัคซีนเป็นจำนวนเพียง 700 โดสเท่านั้น ทั้งที่เป็นการขอตรงตามเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดทุกประการองค์กรแพทย์โรงพยาบาลขอนแก่นจึงขอเรียกร้องให้มีการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ให้เพียงพอต่อจำนวนบุคลากรด้านหน้าของโรงพยาบาลขอนแก่นเพื่อเป็นการปกป้องชีวิตของบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้ทุ่มเทรักษาผู้ป่วยอย่างเต็มความสามารถมาโดยตลอด
#3191

     เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 8 สิงหาคม 2564 ในการแถลงสถานการณ์โควิด 19 ของกระทรวงสาธารณสุข ในประเด็น "การกระจายวัคซีนไฟเซอร์" ผู้สื่อข่าวถามถึงการประเมินสถานการณ์จากการล็อกดาวน์ และแผนการกระจายวัคซีนในเดือนส.ค.นี้โดยเฉพาะในพื้นที่ 29 จังหวัดสีแดงเข้มพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด  นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) กล่าวว่า ภายหลังการล็อกดาวน์แนวโน้มจะเป็นอย่างไรนั้น ในพื้นที่ที่มีแต่ผู้ป่วยนำเข้า คือติดเชื้อมาจากจังหวัดอื่นและกลับไปรักษาที่ภูมิลำเนา จังหวัดต่างๆมีการบริหารจัดการได้ดี เมื่อผู้ป่วยเดินทางไปไปถึงรายงานตัวแล้วเข้าสู่ระบบการรักษาพยาบาล ไม่ให้ไปแพร่เชื้อต่อ สถานการณ์น่าจะควบคุมได้ หลังจากรักษา 2 สัปดาห์ ส่วนใหญ่คงหาย อาจจะมีคนอาการมากที่ต้องรักษาต่อเนื่องอีก 2-3 สัปดาห์ ในส่วนจังหวัดเหล่านี้สถานการณ์ก็น่าจะดีขึ้น

            ส่วนจังหวัดที่ติดเชื้อในพื้นที่ตนเองบ้าง อาจต้องใช้ระยะเวลานานออกไปอีกระยะหนึ่ง เพื่อให้การป้องกันควบคุมโรคสงบลง คิดว่าใช้เวลา 1 เดือน  ถ้าไม่ระบาดมากและสามารถควบคุมให้อยู่ในจำนวนที่ไม่มากเกินขีดความสามารถของพื้นที่ที่จะรองรับได้ ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  ภาคกลางบน ภาคเหนือตอนล่าง และภาคใต้บางพื้นที่

พื้นที่ที่น่าเป็นห่วงคือกทม.และปริมณฑล โดยพื้นที่ กทม.มีสัญญาณอาจจะชะลอตัว ดูจากจำนวนผู้ที่เสียชีวิต ไม่ได้พุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดดและไม่เกิน 100 คนต่อวัน รวมถึง การลงพื้นที่ชุมชนเพื่อตรวจหาเชื้อด้วยชุดตรวจเอทีแค เจอผู้ติดเชื้อตัวเลขประมาณ 10 %  ในช่วง 2 วันหลังที่ผ่านมา ไม่ได้เพิ่มเป็น 20% หรือ 40 % แสดงว่าการติดเชื้อค่อนข้างคงที่ และวัคซีนฉีดมากแล้ว โดยผู้สูงอายุที่มีทะเบียนอยู่ในกทม.ฉีดแล้ว 88 %  อีกไม่กี่วันน่าจะเกิน 90 % ส่วนผู้สูงอายุที่ไม่ได้มีทะเบียนบ้านในกทม.มีการฉีดมากขึ้น โดยรวมผู้สูงอายุในกทม.ฉีดวัคซีนโควิด19ได้เกิน 70 % แล้ว 

  ส่วนกลุ่มโรคเรื้อรังมีการทยอยฉีดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน เมื่อมีภูมิคุ้มกันโอกาวป่วยหนักและเสียชีวิตก็น้อยลง ดังนั้น  พื้นที่กทม.น่าจะชะลอตัวในช่วงใกล้ๆนี้ แต่ปริมณ ฑล อาจจะใช้เวลาออกไปอีกระยะหนึ่ง เพราะเกิดระบาดทีหลังและการฉีดวัคซีนยังไม่เท่ากับกทม. โดยมีเป้าหมายให้ได้ 70 %  ในกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้มีโรคเรื้อรังและหญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์  12 สัปดาห์ขึ้นไป ซึ่งมีโอกาสบรรลุเป้าหมายในปลายเดือนนี้

      "ประชาชนขอความร่วมมืออย่าให้ติดเชื้อเพิ่ม โดยปฏิบัติตามคำแนะนำ ออกจากบ้านให้น้อยที่สุด ลดความเสี่ยงที่จะรับเชื้อนอกบ้าน เมื่อมีอาการรีบรับการตรวจ โดยขณะนี้แนะนำให้ใช้ชุดตรวจเอทีเค ซึ่ง 80 %ของคนติดเชื้อเป็นสีเขียวมีอาการไม่มาก 20% เป็นสีเหลืองมีอาการมากขึ้น และอาการกลุ่มสีแดง 5  % นอกจากนี้ ต้องลดความเสี่ยงของผู้สูงอายุในบ้าน   และป้องกันการแพร่เชื้อในบ้านให้ดี  มาตรการต่างๆขอให้ทำให้เข้มข้นขึ้น หวังว่าที่เหลืออีก 1 สัปดาห์ จะเห็นตัวเลขลดลงได้"นพ.โสภณกล่าว  

'ไทยร่วมใจ' เปิดจอง 'ลงทะเบียนฉีดวัคซีน' เข็มแรกผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไป รับสูงสุด 400 ร้อยคนต่อวัน
ยอด 'โควิด-19' วันนี้ ยังหนัก! พบติดเชื้อเพิ่ม 19,983 ราย เสียชีวิต 138 ราย ไม่รวม ATK อีก 2,577 ราย
ถอนงานวิจัย 'ฟ้าทะลายโจร' ลดปอดอักเสบ เหตุหลักฐาน 'ไม่เพียงพอ'
นพ.โสภณ กล่าวด้วยว่า  สำหรับแผนการกระจายวัคซีนโควิด 19 ในเดือนส.ค.นี้ซึ่งจะมีวัคซีนราว 10 ล้านโดสรวมทั้งวัคซีนซิโนแวค และแอสตร้าเซนเนก้า แต่ละสัปดาห์จะมีการจัดส่งไปต่างจังหวัดประมาณ 2 ล้านโดส เพราะคาดว่าจะมีวัคซีนเข้ามาสัปดาห์ละ ประมาณ 2-2.5 ล้านโดส  ซึ่งวัคซีนประมาณ 10 ล้านโดสของเดือนส.ค.นี้จะกระจาย 80 % ไปต่างจังหวัด ในจำนวนนี้ ครึ่งหนึ่งไป 29 จังหวัดที่เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เนื่องจากเป็นพื่นที่ที่มีความเร่งด่วนมากกว่า เพราะมีผู้ป่วย มีการระบาดเกิดขึ้นอยู่ จะทำให้คนในพื้นที่โดยเน้นฉีดกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้มีโรคเรื้อรังและหญิงตั้งครรภ์  ฉีดให้ได้เร็วสุด โดยตั้งเป้าฉีดกลุ่มนี้ให้ได้ 70 %  เพื่อให้ป้องกันคนส่วนใหญ่และลดโอกาสแพร่ระบาดในพื้นที่

         "ช่วงนี้ประเทศไทยมีวัคซีนโควิด9ทั้งซิโนแวค ซิโนฟาห์ม ที่เป็นวัคซีนชนิดเชื้อตายความปลอดภัยค่อนข้างสูง ประสิทธิภาพป้องกันเสียชีวิต ป่วยหนักยังดีอยู่ และป้องกันติดเชื้อลดลงด้วยสายพันธุ์ดลตา และวัคซีนตัวอื่น คือ แอสตร้าและ ไฟเซอร์ที่การป้องกันติดเชื้อลดลงเช่นกัน เพราะฉะนั้นขอให้เข้ารับการฉัดวัคซีนไม่ว่าตัวใดก็ตามที่มีให้บริการในพื้นที่ของท่าน ให้รีบไปรับการฉีดวัคซีนถ้าเป็นกลุ่มเสี่ยง  และเมื่อฉีดแล้วให้เฝ้าระวังอาการไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้นได้ด้วย แต่การฉีดวัคซีนประโยชน์ยังมากกว่าความเสี่ยงที่ได้รับจากผลข้างเคียง"นพ.โสภณกล่าว
#3192


"ปั๋น ดริสา" ศิลปินวาดรูปสาวชื่อดัง โพสต์สรุปประเด็นดรามา ภาพวาดปรากฎใน MV ของ "พิมรี่พาย" ยันไม่ติดใจเอาความ ขอให้เรื่องนี้เป็นกรณีศึกษาในเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์

จากกรณี "ปั๋น ดริสา" ศิลปินวาดรูปสาวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊กเผยหลังภาพวาดของตนเองถูกนำใช้แบบงงๆ ในเอ็มวีเพลงใหม่ของ "พิมรี่พาย" ที่ชื่อเพลงว่า "ออกไป" โดยภายในเอ็มวีเพลงได้ปรากฎฉากที่มีภาพวาดของเธอเพียงเสี้ยววินาที พร้อมระบุว่า ไม่มีการขออนุณาตจาก "พิมรี่พาย" แต่เชื่อน่าจะเกิดจากความเข้าใจคลาดเคลื่อนของทีมงาน


อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 6 ส.ค. "ปั๋น ดริสา" ได้ออกมาโพสต์ข้อความอัปเดตอีกครั้งผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า

"สรุปเรื่องการที่ผลงานไปปรากฏใน MV คุณพิมรี่พายนะคะ เบื้องต้นคือกรณีนี้เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ของผลงานปั๋นจริง ที่เกิดขึ้นโดยความผิดพลาดของบริษัทฟีโนมีนา โปรดักชั่นเฮาส์ที่คุณพิมรี่พายจ้างทำ MV ผลงานชิ้นนี้ไม่ได้ทำเพื่อการพาณิชย์ แต่ว่าถูกปรินท์ลงบนผ้าใบเพื่อประกอบการถ่ายโฆษณาที่ปั๋นถ่ายกับทางฟีโนมีนาเมื่อปี 2563 ซึ่งปรินท์มาเพื่อ ' ประกอบการถ่ายโฆษณา '

จึงไม่ได้ปรินท์เพื่อซื้อขายและโดยกฏหมายคือห้ามนำไปใช้ต่อ ปั๋นเคยร่วมงานกับฟีโนมีน่าหลายครั้งในฐานะนักแสดง ได้เห็นความเป็นมืออาชีพของโปรดักชั่นเฮาส์นี้เสมอ และด้วยชื่อเสียงฟีโนฯในด้านคุณภาพ คุณพิมรี่พายจึงเลือกใช้เฮาส์นี้ในการถ่ายทำ MV 'ออกไป' เช่นกัน แต่ไม่ว่าจะมีชื่อเสียงขนาดไหน ความผิดพลาดก็เกิดขึ้นได้ หลังถ่ายโฆษณาของปั๋นเสร็จ ฝ่ายอาร์ตของทีมโฆษณาได้เก็บภาพวาดเข้าคลังพรอพของบริษัทตนเอง พอถึงเวลาถ่าย MV ของคุณพิมรี่พายหลายเดือนให้หลัง ทางทีมอาร์ตของ MV (คนละทีมกัน) จึงเข้าไปเบิกพรอพจากคลังของบริษัท และเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงไม่มีการรีเช็คที่มาของพรอพ

เนื่องจากเจตนาของทุกฝั่งคือต้องการทำสิ่งที่ถูกต้องตามวิชาชีพของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นฝั่งค่ายเพลง ที่จ้างโปรดักชั่นเฮาส์ที่มีคุณภาพ หรือทีมงานของโปรดักชั่นเฮาส์ที่พยายามสร้างสรรค์ผลงานทั้งหมดด้วยทรัพยากรที่ตนเองมี โดยปกติแล้ว ค่าใช้จ่ายในการนำผลงานของปั๋นไปใช้งานหรือเป็นเจ้าของ มีมูลค่า6-7หลัก ซึ่งเป็นราคาที่เหมาะสมสำหรับการนำไปใช้งานเป็นตัวหลักของสินค้า โฆษณา หรือการสะสม แต่ใน MV นี้ภาพปรากฏแค่ไม่กี่วิและเป็นไปโดยการสะเพร่าส่วนบุคคล

ถึงแม้จะมีการละเมิดลิขสิทธิ์เกิดขึ้นจริงแต่ปั๋นในฐานะเจ้าของลิขสิทธิ์ จึงไม่ฟ้องเรื่องค่าเสียหายใดๆ แม้จะมีการเสนอมาจากฝั่งโปรดักชั่นเฮาส์แล้วก็ตาม เนื่องจากปั๋นเห็นว่านี่เป็นกรณีศึกษาในเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์และแนวทางแก้ไขที่สมควรเผยแพร่แก่สาธรณชนมากกว่ารับเงินและลบโพสต์ จึงตัดสินใจในทางนี้ค่ะ เรื่องทั้งหมดก็จบแล้วโดยสมบูรณ์โดยไม่มีความบาดหมางจากฝั่งไหน และปั๋นได้รับจดหมายขอโทษเป็นทางการจากทางฟีโนมีน่าแล้ว ขอบคุณค่ะ"
#3193


ปัจจุบัน พบว่า ประเทศไทยมีเด็กติดเชื้อโควิด-19 คิดเป็น 12% การกระจายรวดเร็วของสายพันธุ์เดลต้า ทำให้เด็กที่มีการติดเชื้อลงปอดจาก 50% เพิ่มขึ้นเป็น 80-90% โดยเด็กเล็กอายุน้อยกว่า 5-7 ปี ส่วนใหญ่ยังไม่สามารถกลืนยาเม็ดได้ แต่เดิมจึงใช้วิธีบดยาเม็ดฟาวิพิราเวียร์เพื่อให้ง่ายต่อการทาน รวมไปถึงกลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มผู้ป่วยอาการหนัก ใส่ท่อ และมีปัญหาการกลืน

ล่าสุด งานเภสัชกรรม รพ.จุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และ คณะเภสัชกรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ บริษัท เมดิกา อินโนวา จำกัด ได้ร่วมกันพัฒนา พัฒนาตำรับยาน้ำเชื่อมฟาวิพิราเวียร์ สำหรับผลิตใน รพ. จุฬาภรณ์ ต้านเชื้อไวรัสสำหรับเด็ก และผู้ป่วยที่มีความลำบากในการกลืนยาเม็ด ตำรับแรกในประเทศไทย พร้อมเปิดลงทะเบียนขอรับยาผ่านเว็บไซต์ https://favipiravir.cra.ac.th ตั้งแต่วันที่ 6 ส.ค. 64 โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

นนี้ (5 ก.ค.64) "ศ.นพ.นิธิ มหานนท์" เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ กล่าวในงานชี้แจงข้อมูลการพัฒนาตำรับ ยาน้ำเชื่อมฟาวิพิราเวียร์ สำหรับผลิตใน รพ. จุฬาภรณ์ ต้านเชื้อไวรัสสำหรับเด็ก และผู้ป่วยที่มีความลำบากในการกลืนยาเม็ด ตำรับแรกในประเทศไทย โดยระบุว่า การระบาดของโรคโควิด-19 ค่อนข้างมากขึ้นอย่างชัดเจน ผู้ติดเชื้อเป็นเด็กค่อนข้างสูง ในขณะที่วัคซีนป้องกันการติดเชื้อในเด็กยังไม่ได้รับการรับรองเป็นที่ชัดเจนและกว้างขวาง


ขณะนี้จึงทำให้เด็กได้รับเชื้อค่อนข้างเยอะ เมื่อมีการได้รับเชื้อ เด็กจะไปแพร่เชื้อให้ผู้ใหญ่ในบ้าน และสิ่งหนึ่งที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เป็นห่วง คือ ถึงแม้ว่าวัคซีน เริ่มได้ในปริมาณที่เพิ่มขึ้น กระจายการฉีดไปแม้ค่อนข้างช้าแต่ก็ระดับที่ดีพอสมควรเมื่อเทียบกับหลายประเทศ อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการติดเชื้อไปแบบนี้อีกสักระยะ ดังนั้น สิ่งที่ป้องกันคนติดเชื้อไม่ให้มีอาการหนักจนต้องเข้า รพ. หรือ ใส่เครื่องช่วยหายใจ เสียชีวิต สิ่งหนึ่งที่ทำได้ คือ การใช้ยา

"ยาที่มีแนวโน้มจะใช้ได้ มีไม่กี่ตัวในโลกนี้ ยาฟาวิพิราเวียร์ มีการรับรองและพิสูจน์ในการรักษาไวรัสไข้หวัดใหญ่ ในประเทศญี่ปุ่นซึ่งใช้มานาน รวมถึงตอนที่มีการระบาดของอิโบล่า ขณะที่ โควิด-19 ก็มีรายงานเบื้องต้นว่าหากได้ยาเร็วภายใน 4 วันหลังเริ่มมีอาการจะสามารถลดอาการหนัก ที่เข้า รพ. และลดการเสียชีวิตได้" 


ร่วมมือพัฒนายาน้ำ เพื่อเด็ก ผู้ป่วยกลืนยาก
"เป็นที่มาที่ ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ทรงเป็นห่วงและติดตามสถานการณ์มาตลอด และทรงเป็นห่วงประชาชน โดยเฉพาะเด็กเล็กๆ เมื่อป่วยจะใช้ยาก็ลำบาก จึงมีการพูดคุยหารือกันระหว่าง ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และบริษัท เมดิกา อินโนวา จำกัด เพื่อผลิตยาในโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ซึ่งยาตัวนี้ทางเภสัชฯ สามารถทำเป็นยาน้ำได้ และเหมาะกับเด็กที่ไม่สามารถกลืนยาเม็ด แต่การจะทำยาตัวนี้ให้ได้ผล เราได้คำนึงถึงประสิทธิภาพ ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยการทำไปทั้งหมดก็เพื่อช่วยเด็ก หรือผู้ใหญ่ที่ไม่สามารถกลืนได้ ก็จะได้รับยาอย่างรวดเร็ว"


สำหรับความเป็นไปได้ที่ยาน้ำเชื่อมฟาวิพิราเวียร์จะร่วมแจกในจุดตรวจต่างๆ ศ.นพ.นิธิ กล่าวว่า หากขอมาก็ไปได้ทันที แต่ข้อจำกัด คือ ต้องมีแพทย์สั่ง มีแพทย์ติดตาม เพราะยามีผลข้างเคียง และยามีอายุ 30 วัน ตากแดดร้อนๆ ไม่ไหว และต้องต้องดูอุณหภูมิตอนแจกด้วย ขั้นตอนต่อไป หากใครจะนำตำรับยาไปผลิตใน รพ. อื่น และเราไปควบคุมมาตรฐานด้วยก็ยินดี เพราะมีความเข้าใจตรงกันว่า ยาต้องได้เร็ว และกว้างขวาง  

ป่วยโควิด ใช้ฟาวิพิราเวียร์ 70 มก./กก./วัน
พญ.ศรัยอร ธงอินเนตร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารเวชศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ การใช้ยาต้านไวรัส เป็นหัวใจสำคัญในการลดการแพร่กระจายและลดความรุนแรงของโลก ที่ผ่านมา ยาฟาวิพิราเวียร์ มีการเริ่มใช้ตั้งแต่ปี 2014 ในญี่ปุ่น เพื่อรักษาไข้หวัดใหญ่ และ WHO  ประกาศในรายชื่อยารักษาโรคอีโบล่า รวมถึงในปี 2020 จนถึงปัจจุบัน มีการใช้ในญี่ปุ่น รัสเซีย ซาอุดิอาราเบีย อินเดีย และไทย


โดยในการรักษาโควิด-19 ต้องใช้ขนาดยาในวันแรกปริมาณมากถึง 70 มก./กก./วัน และ วันต่อมา 35 มก./กก./วัน แบ่งรับประทานวันละ 2 ครั้ง ประมาณ 5-10 วัน ดังนั้น หากเด็กน้ำหนัก 10 กิโลกรัม ในวันแรก จะต้องทาน 1 เม็ด กับอีก 3 ส่วน 4 เม็ด การใช้ยาน้ำ จึงสามารถป้อนเด็กให้ง่ายขึ้น โดยวันแรก ป้อน 27 CC ต่อครั้ง วันละ 2 ครั้ง วันต่อมา 12 CC วันละ 2 ครั้ง


เด็กไทยป่วยโควิด 12% 
"พญ.ครองขวัญ เนียมสอน กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคระบบทางเดินหายใจในเด็ก โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากการระบาดที่ผ่านมา มีผู้ป่วยเด็กติดเชื้อทางเดินหายใจเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะเดือน ก.ค. ยอดเพิ่มขึ้น 2-3 เท่า เมื่อเทียบกับ 2-3 เดือนก่อน พบว่า สายพันธุ์กลายพันธุ์ทำให้เด็กมีอัตราปอดติดเชื้อเพิ่มขึ้นจาก 50% เป็น 80-90% แต่เด็กมีอาการค่อนข้างเบา สามารถคงระดับออกซิเจนในเลือดที่ระดับ 95-96 % เป็นส่วนใหญ่


ตอนนี้ประเทศไทยสถิติเด็กป่วยด้วยโควิด-19 ราว 12% กว่าๆ ขณะที่ ใน รพ.จุฬาภรณ์ เป็นผู้ป่วยเด็กเฉลี่ยคร่าว 8-9% จากคนไข้ทั้งหมด มีตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 15 ปี จำนวนนี้ อัตราส่วนต้องใช้ยาน้ำจริง อาจจะมี 1 ใน 3 และ ยาน้ำเหล่านี้อาจจะต้องใช้ในคนไข้วิกฤติ คนไข้ไอซียู ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ กินยาทางปากไม่ได้ และคนไข้ที่มีปัญหาการกลืนร่วมด้วย

เทียบข้อดีข้อเสีย ยาบดละลายน้ำ และ ยาน้ำ
"ยาทุกตัวมีข้อดีและข้อเสีย หากเป็น "ยาเม็ดบดละลายน้ำแบบเดิม" อาจจะเป็นวิธีที่พ่อแม่เคยใช้มาก่อนในยาตัวอื่นๆ ข้อดี คือ ทำให้สามารถบดเจือจางในน้ำในปริมาณที่เราต้องการ บดละลายน้ำในปริมาณน้อยได้ แต่มีตะกอนยาตกค้าง อาจได้รับปริมาณยาไม่คงที่ และหากบดไม่ละเอียดทำให้มีรสชาติขมติดลิ้นหลังกลืนยา ทำให้เด็กอาจปฏิเสธในการกินยาครั้งต่อไป"

ขณะที่ "ยาน้ำ" ข้อดีคือพร้อมใช้ ปริมาณยาคงที่ เด็กได้รับการดูดซึมยาได้อย่างดี อย่างไรก็ตาม ปริมาณยาที่ได้รับจะมากกว่ายาน้ำทั่วไป เช่น เด็ก 10 กิโลกรัม ปกติป้อนยา 1 ช้อน ประมาณ 5 ซีซี แต่สำหรับยาน้ำเชื่อมฟาวิพิราเวียร์ในวันแรก เด็กจะต้องได้รับยาค่อนข้างเยอะ 27 ซีซี และวันต่อมา ลดลงมาเหลือวันละ 12 ซีซี


ทั้งนี้ หลังจากมีการพัฒนาสูตรยา มีการทดลองใช้จริงในผู้ป่วยเด็กใน รพ.จุฬาภรณ์ และติดตามอย่างใกล้ชิด เปรียบเทียบกับยาเม็ดบดละลายน้ำ โดยใช้ยาในเด็กอายุ 8 เดือน – 5 ปี จำนวน 12 ราย ติดตามการรักษาพบว่าการตอบสนองการรักษาเป็นไปได้ดี และไม่พบผลข้างเคียงร้ายแรง



ลงทะเบียนรับยาฟรีได้ ผ่านเว็บไซต์
หากแพทย์ประสงค์ใช้ยาน้ำเชื่อมฟาวิพิราเวียร์ ตำรับ รพ.จุฬาภรณ์ ในกรณีที่ ในผู้ติดเชื้อโควิด 19 สำหรับกลุ่มผู้ป่วยเด็ก ผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไป หรือผู้ที่ให้อาหารทางสายที่มีผลการตรวจ RT- PCR ยืนยันการติดเชื้อโควิด-19 ที่อยู่ในระบบการดูแลของโรงพยาบาล หรือเข้าสู่ระบบการดูแลที่บ้าน Home Isolation ที่มีแพทย์ติดตามหรือในผู้ที่แพทย์เห็นสมควรจากประวัติสัมผัสและผลตรวจ Rapid Antigen Test เป็นบวก


โรงพยาบาลหรือแพทย์ สามารถส่งข้อมูลของผู้ป่วยเพื่อขอรับยาได้ทางเว็บไซต์ favipiravir.cra.ac.th หรือโทร 06-4586-2470 โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ตั้งแต่วันที่ 6 ส.ค. 64 เป็นต้นไป โดยจะได้รับยาภายหลังจากการลงทะเบียน 1 วัน จัดยาไม่เกินเวลา 20.00 น.โดยระยะแรกสามารถผลิตได้สำหรับ 100 รายต่อสัปดาห์ เฉลี่ย 20 รายต่อวัน 
#3194


กรุงเทพฯ 5 ส.ค. 2564 –ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี (ttb) เปิดตัวประกันชีวิตควบการลงทุน "ทีทีบี เฟล็กซี่ อัลติเมท โพรเทค" (ยูนิตลิงค์) ตอบโจทย์ผู้บริหารและเจ้าของธุรกิจ ที่ต้องการความคุ้มครองสูงและต่อเนื่องระยะยาว ควบคู่กับโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุน ชูจุดเด่นคุ้มครองยาว 99 ปี คุ้มครองชีวิตสูงถึง 120 เท่า ของเบี้ยประกันภัยหลัก คุ้มครองเพิ่มเป็นสองเท่า สูงสุดรวม 240 เท่า ของเบี้ยประกันหลักภัย กรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ และปรับเปลี่ยนได้ในแต่ละช่วงของชีวิต

ทีเอ็มบีธนชาต มุ่งมั่นสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้กับคนไทยทั้งวันนี้และอนาคต โดยสนับสนุนให้คนไทยหันมาให้ความสำคัญและเล็งเห็นความจำเป็นของการมีประกันชีวิตที่เพียงพอและเหมาะสม เพื่อเป็นตัวช่วยรองรับความเสี่ยง เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน ธนาคารจึงร่วมกับบริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) พัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต "ทีทีบี เฟล็กซี่ อัลติเมท โพรเทค" (ยูนิตลิงค์) ที่ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มผู้บริหารและเจ้าของธุรกิจที่เป็นเสาหลักของครอบครัว ที่ต้องการมีหลักประกันความคุ้มครองสูงในระยะยาวให้กับตนเองและครอบครัว โดยมอบหลักประกันความคุ้มครองสูงสุดนาน 99 ปี คุ้มครองชีวิตสูงถึง 120 เท่าของเบี้ยประกันภัยหลัก คุ้มครองเพิ่มเป็นสองเท่า สูงสุดรวม 240 เท่า ของเบี้ยประกันภัยหลัก กรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ และให้ความมั่นใจ ด้วยสิทธิคุ้มครองต่อเนื่อง 10 ปีแรก แม้มูลค่าบัญชีกรมธรรม์ไม่เพียงพอชำระค่าธรรมเนียมกรมธรรม์ก็ตาม (เงื่อนไขเป็นไปตามที่กรมธรรม์กำหนด)

นอกจากนี้ ทีทีบี เฟล็กซี่ อัลติเมท โพรเทค (ยูนิตลิงค์) ยังมีความยืดหยุ่นเหมาะสมกับช่วงชีวิตในแต่ละช่วง หากไม่อยากชำระเบี้ยฯ ยาวนาน สามารถปรับเปลี่ยนแผนได้ตามความต้องการที่เปลี่ยนไปในแต่ละช่วงชีวิต ด้วยการวางแผนจ่าย หรือหยุดพักชำระเบี้ยฯ หลักได้ มีน้อยจ่ายน้อย มีมากจ่ายมากขึ้น เพื่อลงทุนในจังหวะที่เหมาะสม เจ้าของธุรกิจจึงมั่นใจได้ว่าจะมีหลักประกันที่แน่นอนให้กับครอบครัวที่รักและธุรกิจที่สร้างมากับมือ มีทั้งความคุ้มครองชีวิต พร้อมทั้งเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุน ซึ่งเป็นการสร้างรากฐานชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้แก่ตนเองและครอบครัวได้ต่อไป

ผู้สนใจผลิตภัณฑ์ ทีทีบีเฟล็กซี่ อัลติเมท โพรเทค (ยูนิตลิงค์) สามารถสอบถามข้อมูลได้จาก ที่ปรึกษาทางการเงินและการลงทุนส่วนบุคคลของท่าน หรือ ttb ทุกสาขา และเว็บไซต์ ttbbank.com/th/personal/insurance/detail/flexi-ultimate-protect
#3195


เพราะความคิดถึง(แซลมอน)มันห้ามไม่ไหว !!! วันนี้พวกเราเหล่าร้านอาหารญี่ปุ่นในเครือโออิชิ ประกอบด้วย โออิชิ แกรนด์, โออิชิ อีทเทอเรียม, และ โออิชิ บุฟเฟต์ จึงพร้อมใจกันสั่งนำเข้าวัตถุดิบชั้นดีจากต่างประเทศ และตระเตรียม "ปลาแซลมอน" คุณภาพ สดใหม่ ไว้บริการนักกิน - แซลมอน เลิฟเวอร์ส อย่างเต็มที่...ให้หายคิดถึง พร้อมแล่สด ๆ แบบซาชิมิ มีให้เลือกตั้งแต่ ขนาดอิ่มจัดหนัก "แซลมอน ซาชิมิ" ขนาดน้ำหนัก 500 กรัม (ครึ่งกิโลกรัม) สำหรับ 1 – 2 คน ราคาสุทธิเพียง 595 บาท ไปจนถึง ขนาดอร่อยจัดเต็ม "แซลมอน ซาชิมิ" ขนาดน้ำหนัก 1 กิโลกรัม สำหรับ 3 – 4 คน ราคาสุทธิเพียง 1,190 บาท ซึ่งเสิร์ฟพร้อมวาซาบิและโชยุครบครัน โดยพร้อมให้บริการแบบจัดส่ง (Delivery) แล้ววันนี้ ผ่าน "โออิชิ เดลิเวอรี่" ความอร่อยแบบญี่ปุ่นส่งตรงถึงบ้าน โทร. 1773 หรือคลิก OISHIDELIVERY.COM นอกจากนี้ ยังสามารถสั่งซื้อผ่านเว็บไซต์ SHOPTEENEE.COM ได้อีกด้วย

ติดตามข้อมูลข่าวสาร หรือโปรโมชั่นที่น่าสนใจเพิ่มเติม คลิกแฟนเพจโออิชิฟู้ดสเตชั่น : www.facebook.com/OishiFoodStation
#3196


ลอรีอัล กรุ๊ปได้รายงานผลการดำเนินงานรอบครึ่งปีแรกของปี 2564 โดยเติบโตขึ้น 20.7% ในสถานการณ์โควิด-19 ตลาดผลิตภัณฑ์ความงามภาพรวมฟื้นตัวขึ้นทีละน้อย และเติบโตสองหลัก โดยลอรีอัล กรุ๊ปครองส่วนแบ่งตลาดสูงขึ้นในทุกแผนกและในทุกภูมิภาค และมีผลการดำเนินงานที่ดีกว่าตลาดรวม โดยเฉพาะไตรมาส 2 ที่บริษัทฯ มีการเติบโตที่แข็งแกร่ง และสามารถหวนคืนสู่การเติบโตในระดับเดียวกับช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิดถึง 6.6% เทียบกับช่วงครึ่งแรกของปี พ.ศ. 2562 และเพิ่มขึ้น 8.4% ในไตรมาส 2 เมื่อเทียบกับปี พ.ศ. 2562

ความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีดิจิทัลของบริษัทฯ ทำให้แบรนด์ต่างๆ สร้างและรักษากลุ่มลูกค้า รวมทั้งพันธมิตร โดยช่องทางอี-คอมเมิร์ซเติบโตในระดับปานกลางที่ 29.2% เนื่องจากช่องทางร้านค้าปลีกสามารถกลับมาเปิดให้บริการได้ ยอดขายอี-คอมเมิร์ซคิดเป็นสัดส่วน 27.3% ของยอดขายทั้งหมด ขณะที่กลุ่มค้าปลีกท่องเที่ยวนั้นได้ฟื้นตัวขึ้น โดยได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยของการเดินทางระหว่างประเทศ และความสำเร็จในตลาดไหหลำ ขณะเดียวกัน ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดตัวแคมเปญของลอรีอัล กรุ๊ป เป็นครั้งแรกทั่วโลก เพื่อให้ลูกค้า ผู้ถือหุ้น รวมทั้งผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในธุรกิจทั้งหมด การเปิดตัว "L'Oréal For Youth" โครงการระดับโลกเพื่อส่งเสริมการจ้างงานผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปี ให้เพิ่มอีก 30%

นายนิโคลา ฮิโรนิมุส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของลอรีอัล กล่าวว่า "ลอรีอัล กรุ๊ปเติบโตในช่วงครึ่งปีแรก และจะเติบโตในอัตราการขยายตัวระดับเดียวกับช่วงก่อนที่จะเกิดวิกฤต ด้วยการใช้เทคโนโลยี data และ AI เพื่อก้าวขึ้นเป็นบริษัท Beauty Tech โดยครึ่งหลังปี 2564 นี้เราจะใช้กลยุทธ์เปิดตัวผลิตภัณฑ์เชิงรุก จะลงทุนในปัจจัยที่ขับเคลื่อนการเติบโตเพื่อกระตุ้นการขยายตัวในอนาคต มั่นใจมากที่จะเติบโตอัตราสูงกว่าตลาด และปีนี้จะประสบความสำเร็จในการเติบโตของยอดขายและผลประกอบการ"



ทั้งนี้ การเติบโตแบ่งตามแผนกธุรกิจ
1. แผนกผลิตภัณฑ์ช่างผมมืออาชีพ เติบโต 41% จากเทรนด์ในตลาด 3 ส่วน คือ การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลของซาลอนและร้านเสริมสวยต่างๆ การพัฒนาสไตลิสต์ที่เป็นฟรีแลนซ์ และการขยายตัวของอี-คอมเมิร์ซ
2. แผนกผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภค เติบโต 6.3% โตสูงกว่าตลาด และเติบโตในทุกภูมิภาค โดยเฉพาะในจีน บราซิล อินโดนีเซีย และประเทศหลักในยุโรป
ช่องทางอี-คอมเมิร์ซเติบโตมาก สัดส่วน 20% ของยอดขายรวม
3. แผนกผลิตภัณฑ์ความงามชั้นสูง เติบโต 28.1% โตสูงกว่าตลาดในทุกภูมิภาค จากการกลับมาเปิดให้บริการของหน้าร้านบางส่วน และแผนกนี้ยังมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นในกลุ่มผลิตภัณฑ์ทั้งสามประเภทที่มี
4. แผนกผลิตภัณฑ์เวชสำอาง เติบโต 37.5% โดยมีการปรับผลิตภัณฑ์แบรนด์สกินแคร์ให้ตอบรับกับความต้องการของตลาดที่เพิ่มมากกว่าเดิมในช่วงการระบาดของโควิด



สำหรับข้อมูลแบ่งตามโซนภูมิภาค ครึ่งปีแรก พ.ศ. 2564 ลอรีอัล กรุ๊ปได้ปรับการจัดภูมิภาคขึ้นใหม่ โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 ยอดขายตามโซนภูมิภาครายงานตามการจัดโครงสร้างดังกล่าว โดยภูมิภาคที่จัดขึ้นใหม่ คือ ยุโรป อเมริกาเหนือ เอเชียเหนือ SAPMENA (เอเชียแปซิฟิกใต้ ตะวันออกกลาง แอฟริกาเหนือ และแอฟริกาใต้ซาฮารา) และละตินอเมริกา

SAPMENA เติบโต 19.9% ประเทศแถบแปซิฟิก และกลุ่มประเทศรอบอ่าวอาหรับเริ่มฟื้นตัวขึ้น แต่สถานการณ์โควิด-19 ในอินเดียยังคงส่งผลกระทบต่อยอดขายในไตรมาส 2 ขณะที่หลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น มาเลเซีย ไทย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ยังมีการใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเข้มงวด ส่วนเวียดนามยังเติบโตต่อเนื่อง การเติบโตของตลาด SAPMENA ได้รับแรงหนุนจากแผนกผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคจากแบรนด์การ์นิเย่ และเมย์เบลลีน นิวยอร์ก รวมทั้งจากแผนกผลิตภัณฑ์ความงามชั้นสูงในกลุ่มน้ำหอม และสกินแคร์ และแผนกผลิตภัณฑ์เวชสำอางที่มีแบรนด์ลา โรช-โพเชย์ช่วยเสริม ขณะที่อี-คอมเมิร์ซเติบโตอย่างมากในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และอินเดีย ช่วยผลักดันให้ทุกแผนกเติบโตขึ้นเช่นกัน ส่วนในแอฟริกาใต้ซาฮารานั้นยอดขายตลาดแอฟริกาใต้สูงขึ้นสองหลัก

ส่วนเอเชียเหนือเติบโต 27.3% ขณะที่ยุโรปเติบโต 11.9% (ครอบคลุมถึงยุโรปตะวันตก และยุโรปตะวันออก และเป็นโซนที่ใหญ่ที่สุดของลอรีอัล กรุ๊ป ในแง่ยอดขาย) ทางด้านอเมริกาเหนือเติบโต 23.2% และละตินอเมริกาเติบโต 32.8%



ทั้งนี้ ลอรีอัล กรุ๊ป มีพอร์ตโฟลิโอผลิตภัณฑ์ความงาม 35 แบรนด์ มียอดขายผลิตภัณฑ์ 2.799 หมื่นล้านยูโร ในปี 2563 มีผลิตภัณฑ์จัดจำหน่ายผ่านทุกช่องทาง
ส่วนลอรีอัล ประเทศไทย นำเข้าและจัดจำหน่ายแบรนด์ระดับสากล ใน 4 แผนกผลิตภัณฑ์
1. แผนกผลิตภัณฑ์อุปโภค : ลอรีอัล ปารีส, การ์นิเย่ และเมย์เบลลีน นิวยอร์ก
2. แผนกผลิตภัณฑ์ความงามชั้นสูง : ลังโคม, ไบโอเธิร์ม, จิออร์จิโอ อาร์มานี, คีลส์, ชู อูเอมระ, อีฟส์ แซงต์ โลรองต์, เออเบิน ดีเคย์ และอิท คอสเมติกส์
3. แผนกผลิตภัณฑ์ช่างผมมืออาชีพ : ลอรีอัล โปรเฟสชันแนล และเคเรสตาส
4. แผนกผลิตภัณฑ์เวชสำอาง : ลา โรช-โพเซย์, วิชี่ และเซราวี
#3197


"สิงห์บลูส์" เชลซี นำ 2 ประตูแต่ไม่ชนะ โดน "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ไล่ตีเจ๊า 2-2 ในเกมอุ่นเครื่องปรีซีซั่นที่สแตมฟอร์ด บริดจ์

เชลซี เปิดรังสแตมฟอร์ด บริดจ์ ลงสนามเกมอุ่นเครื่องในลอนดอนดาร์บีแมตช์ พบกับ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ โดยเกมนี้มีแฟน.เข้ามาเชียร์เกือบเต็มความจุของสนาม

โธมัส ทูเคิล จัดทัพชุดผสมระหว่างตัวจริงและตัวสำรองของทีม นำทัพโดย ไค ฮาแวร์ตซ์, ติโม แวร์เนอร์, ฮาคิม ซิเยค, มาร์กอส อลอนโซ่, เอ็นโกโล ก็องเต้, คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย

ขณะที่ นูโน่ เอสปิริโต ซานโต เฮดโค้ชชาวโปรตุกีสของทีม "ไก่เดือยทอง" จัดทัพชุดผสมลงเล่นเช่นกัน นำโดย ซอน เฮือง-มิน, ลูคัส มูร่า, สตีเฟ่น เบิร์กไวจ์น, เดเล่ อัลลี, โอลิเวอร์ สคิปป์

ปรากฎว่าเกมนี้ เปิดเกมบุกแลกกันอย่างสนุก เชลซี ได้ประตูออกนำไปก่อน 2-0 จากการเหมาคนเดียว 2 ประตูของ ฮาคิม ซิเยค ในนาทีที่ 16 และ 49 โดย "สิงห์บลูส์" มีการเปลี่ยนตัวผู้เล่นหลายตำแหน่งในครึ่งหลัง

แต่ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ มาทำ 2 ประตูรวด ไล่ตีเสมอ 2-2 จากการยิงของ ลูคัส มูร่า น.56 และสตีเฟ่น เบิร์กไวจ์น น.70

หมดเวลาการแข่งขัน 90 นาที เชลซี เปิดบ้านเสมอกับ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ 2-2
#3198


นางสาวสุวดี พันธุ์พานิช เลขานุการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG เปิดเผยผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) มีหนังสือลงวันที่ 4 ส.ค.2564 โดยใช้อำนาจมาตรา 58 (1) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ) ให้ผู้บริหารบริษัทฯ ชี้แจงข้อมูลและนำส่งเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องต่อสำนักงาน ก.ล.ต. และเปิดเผยคำชี้แจงดังกล่าวผ่านระบบสารสนเทศของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ภายใน 7 วันนับตั้งแต่วันที่ในหนังสือ

บริษัทฯ ขอชี้แจงว่า บริษัทฯ ได้รับหนังสือจาก สำนักงาน ก.ล.ต.แล้ว โดยจะดำเนินการชี้แจงโดยละเอียดตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด โดยขอให้ข้อมูลเบื้องดันได้ดังนี้

1. บริษัทฯ "ไม่ได้ให้ข้อมูลการทำสัญญาหรือจะทำสัญญาร่วมกับกระทรวงกลาโหม" ตามที่ได้ชี้แจงไปแล้ว ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ลงนามความร่วมมือกับองค์กรที่มีความเกี่ยวข้องกับรัฐเพื่อร่วมกันนำเข้าวัคชีนจริง โดยจะเปิดเป็นเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้สำนักงาน ก.ล.ต.

ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ! รับเลย 100,000 บาท

2. บริษัทฯ ไม่ได้ใช้เงินสด เงินกู้ หรือทรัพย์สินของบริษัทฯ ในการวางมัดจำหรือค่าปรับมัดจำวัคซีน

3. วัคชีนจำนวน 20 ล้านโดสที่ได้มีการเจรจากับผู้แทนจำหน่ายแล้วนั้น ยังไม่มีการลงนามสั่งซื้อจากหน่วยงานที่มีหน้าที่ตามระเบียบของรัฐ แต่บริษัทฯ ยังไม่ละทิ้งความพยายาม โดยจำนวนวัคชีน และระยะเวลาการนำเข้าวัคซีนไม่สามารถระบุได้ เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

อนึ่ง ขอเรียนให้ท่านทราบว่า "แม้บริษัทฯ ไม่ใช่ผู้มีหน้าที่ในการดำเนินการสั่งซื้อวัดซีนโควิด 19 ตามกำหนดของรัฐ" แต่เป็นการ ทำหน้าที่ในฐานะเอกชนและพลเมือง ที่ไม่เพิกเฉยต่อสถานการณ์การระบาดของโรคที่มีในปัจจุบัน เพื่อช่วยให้วิกฤตนี้ผ่านพ้นไปโดยเร็ว
#3199












ราคาโควิด ลดกระหน่ำ ที่ดินติดทะเล  หาดส่วนตัว หาดสะพลีติดต่อหาดทุ่งวัวแล่น สวยงามเด่นในชุมพร 119 วา 6ลบ. และ 145 วา 7ลบ. ต.สะพลี อ.ปะทิว จ.ประจวบคีรีขันธ์ เอกสารสิทธิ์โฉนดครุฑแดง  ค่าใช้จ่ายวันโอนทั้งหมดคนละครึ่ง

วิวสวยงามเด่นตามธรรมชาติ รายล้อมทรัพยากรธรรมชาติสมบูรณ์น่าอยู่ หาดทรายขาว น้ำใส สวยงาม  บรรยากาศดีงามธรรมชาติฟินสุดๆ  แปลงติดทะเลย่านนี้หายากมากแล้วเหลือแปลงนี้ค่ะ ด้านหน้า ติดถนนทางหลวง 3180 หลังติดทะล ท่ามกลางแหล่งท่องเที่ยวเจริญแล้ว ใกล้โรงเรียนชุมชนตลาด ถัดอีกนิดก็แพปลา และอยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆมากมาย แหล่งค้าSeaFood  ไฟฟ้าประถึงสะดวกปลอดภัย น้ำไฟเข้าถึง รถยนต์ไปมาได้หลายทาง สะดวกสบายหลายจุดสำคัญ ใกล้สนามบิน สร้างเขื่อนล้อมรอบเรียบร้อย แลเห็นสะดุดตาชวนหลงใหล โทร/line

โทร 083-712-4115
line id : 0837124115

ข้าวเหนียวอุบ แม่อบ
117 2 ตำบล สะพลี อำเภอปะทิว ชุมพร 86230
096 914 2592
https://maps.app.goo.gl/53AJJw33FJytK8waA
 
#3200


อาการปวดศีรษะ เป็นอีกหนึ่งอาการทางสมองและระบบประสาทที่สามารถพบได้บ่อยในผู้ป่วยที่ติดเชื้อ COVID-19 และ ผู้ที่ได้รับวัคซีน COVID-19 

โดยอาจมีสาเหตุและความรุนแรงที่แตกต่างกันออกไป ในผู้ป่วยบางรายอาการปวดศีรษะ อาจจะไม่รุนแรง และสามารถหายเองได้ แต่ในขณะเดียวกันผู้ป่วยอีกหลายคนอาจต้องการการตรวจวินิจฉัยและการรักษาเพิ่มเติม 

นพ.กีรติกร ว่องไววาณิชย์ อายุรแพทย์โรคสมองและระบบประสาท (โรคปวดศีรษะและใบหน้า) ศูนย์สมอง รพ.กรุงเทพอินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า อาการปวดศีรษะเป็นอาการทางระบบประสาทที่เจอได้บ่อยในผู้ติดเชื้อ COVID-19 โดยสามารถพบผู้ป่วยที่มีอาการได้มากถึง 30% 

"ส่วนใหญ่จะไม่เคยมีประวัติโรคปวดศีรษะมาก่อน และอาการปวดมักจะพบภายใน 7 วันแรกหลังจากการติดเชื้อ โดยอาการปวดจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว มีความรุนแรงของอาการปวดปานกลางถึงมาก และมักจะไม่ตอบสนองต่อยาแก้ปวด หรือมีอาการปวดซํ้าหลังจากยาแก้ปวดหมดฤทธิ์

ลักษณะการปวดจะเป็นการปวดแบบบีบรัดที่บริเวณขมับ หน้าผาก รอบกระบอกตาทั้ง 2 ข้าง หรือปวดทั่วทั้งศีรษะ ซึ่งอาจจะพบลักษณะการปวดแบบปวดตุ๊บๆ คล้ายกับเส้นเลือดเต้นได้ ซึ่งการโน้มศีรษะไปด้านหน้า การไอ การจามและการออกแรงจะทำให้อาการปวดศีรษะรุนแรงขึ้น

ที่สำคัญอาการปวดสามารถเกิดขึ้นได้นานถึง 2 สัปดาห์ สาเหตุของอาการปวดศีรษะสามารถสันนิษฐานได้ว่าอาจเกิดจากเชื้อไวรัสเข้าสู่สมองโดยตรง โดยผ่านปลายเส้นประสาทคู่ที่ 5 (trigeminal nerve) จากในโพรงจมูก ทำให้เกิดสัญญาณความปวดส่งมาที่ศีรษะ

หรืออาจเกิดจากการที่เชื้อไวรัสไปกระตุ้นร่างกายให้สร้างสารการอักเสบ (inflammatory cytokine) ซึ่งมีผลโดยตรงกับระบบนำความปวดในสมอง ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะขึ้นมาได้" 


(วัคซีนแต่ละชนิด ทำให้มีอาการปวดศีรษะมากน้อยต่างกัน)


ทั้งนี้สามารถแยกอาการปวดศีรษะที่เกิดจากการได้รับเชื้อ COVID-19 กับการปวดศีรษะด้วยสาเหตุอื่นได้ด้วยการสังเกตอาการที่เกิดร่วมด้วย

ยกตัวอย่างผู้ที่ติดเชื้อ COVID-19 นอกจากจะมีอาการปวดศีรษะแล้ว จะมีอาการเวียนศีรษะ มีไข้ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส ไอ หอบเหนื่อย ปวดเมื่อย ถ่ายเหลว เจ็บขณะกลืน  อาจจะเกิดอาการแพ้แสง แพ้เสียงดัง คล้ายในผู้ที่ปวดศีรษะไมเกรนอีกด้วย และในผู้ที่เป็นโรคปวดศีรษะอยู่แล้ว จะมีลักษณะของอาการปวดที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม  

อาการปวดศีรษะนอกจากจะเกิดขึ้นกับผู้ติดเชื้อ COVID-19 แล้วยังสามารถเกิดขึ้นกับผู้ที่รับวัคซีน COVID-19 ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งวัคซีนแต่ละชนิดจะมีรายงานอาการของผลข้างเคียงที่แตกต่างกันออกไป

ในผู้สูงอายุจะพบอาการข้างเคียงได้ตํ่ากว่าในผู้ที่มีอายุน้อย และการได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 จะพบอาการข้างเคียงน้อยกว่าในเข็มแรก จากข้อมูลงานวิจัยในปัจจุบันพบว่า

-วัคซีนเชื้อตาย (CoronaVac) พบอาการปวดศีรษะหลังได้รับวัคซีน 6%-18.7% 

-วัคซีนชนิด viral vector (ChAdOx1 nCoV-19; AstraZeneca) พบอาการปวดศีรษะหลังได้รับวัคซีน 22.8%-29.3% 

และวัคซีน mRNA (BNT162b2; Pfizer) พบอาการปวดศีรษะหลังได้รับวัคซีน 39%-52% 

โดยปกติแล้วถ้าเกิดอาการปวดศีรษะจากการได้รับเชื้อ COVID-19 หรือจากการได้รับวัคซีนอาการจะค่อยๆ ดีขึ้นภายใน 1 สัปดาห์ สามารถรับประทานยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอลได้

ในกรณีที่รับประทานยาพาราเซตามอลแล้วยังไม่สามารถควบคุมอาการปวดได้ อาจต้องพิจารณาใช้ยาแก้ปวดบรรเทาอาการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (Non-Steroidal Anti-Inflammatory Drugs หรือ NSAIDs) 

สำหรับผู้ที่เป็นไมเกรนและมีอาการปวดศีรษะไมเกรนกำเริบหลังได้รับวัคซีน แนะนำให้รับประทานยาพาราเซตามอล ในกรณีที่ปวดศีรษะรุนแรงควรพิจารณาใช้ยาในกลุ่ม NSAIDs หรือ ยากลุ่ม triptans 

ทั้งนี้ หลังจากการได้รับวัคซีน COVID-19 ถ้าอาการปวดศีรษะรุนแรงขึ้นหรือไม่บรรเทาลงหลังจากการรับประทานยาแก้ปวด หรือมีอาการผิดปกติอย่างอื่นเกิดขึ้นร่วมด้วย ควรรีบพบแพทย์ทันทีเพื่อหาสาเหตุของอาการปวดศีรษะที่อาจเป็นอันตราย รวมทั้งรักษาอาการปวดศีรษะอย่างเหมาะสม

สอบถามได้ที่ โรงพยาบาลกรุงเทพอินเตอร์เนชั่นแนล Contact Center โทร. 1719