• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - homepro.

#1
สิ่งที่ช่างต้องรู้ สว่านแบตที่ใช้งานกันอยู่แท้จริงมีกี่ประเภท ?


สำหรับช่างที่ต้องใช้สว่านในการเจาะ ทำงานช่างต่าง ๆ โดยเฉพาะคนที่เพิ่งเข้าสู่การทำงานใหม่ ๆ หรือต้องการซื้อมาติดบ้านไว้ใช้ยามฉุกเฉิน ซึ่งปัจจุบันสว่านที่ได้รับความนิยมส่วนใหญ่จะเป็นสว่านแบต เพราะค่อนข้างใช้งานง่าย สะดวก รวดเร็ว ไม่มีสายไฟมาเกะกะใด ๆ ทว่าอันที่จริงแล้วสว่านมีกี่ประเภท เพื่อให้เลือกใช้เหมาะสม เราไปศึกษากันหน่อยดีกว่า

ประเภทของสว่านแบต ใครจำเป็นต้องใช้งานควรศึกษา

1. สว่านแบบไฟฟ้า
หรือ Electric Drill มีรูปร่างคล้ายปืน สายไฟต่อกับตัวสว่าน จุดประสงค์การทำงานไว้ใช้เจาะเนื้อไม้ หรือแผ่นเหล็กที่เป็นแบบไม่หนามาก รวมถึงพลาสติก ส่วนใหญ่จะเป็นไฟฟ้าระบบตอนเดียว ใช้กำลังวัตต์ไม่สูงมาก ประมาณ 300 – 550 วัตต์ จึงไม่เหมาะกับการใช้เจาะผนังปูน หรืออะไรก็ตามที่มีความหนา สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ไม่มีปัญหาแบตหมดขาดช่วงตอน หรือต้องไปชาร์จแบตบ่อย

2. สว่านโรตารี่
หรือ Rotary Drill จะเหมาะกับงานที่ต้องเจาะกับสิ่งหนา ๆ อย่างคอนกรีตโดยเฉพาะ เบางชนิดคอนกรีตค่อนข้างอัดมาแข็งแรง เช่น ตามเสาอาคารเพื่อรองรับน้ำหนัก จึงแข็งแรงมาก การเลือกใช้สว่านปกติมักกระแทกไม่ลงเพราะต้องกดแรงหนัก แต่สว่านโรตารี่จะช่วยลดแรงทุ่นได้ดี เจาะง่ายขึ้น กำลังวัตต์ใช้งานที่ 600 วัตต์ มีแบบ 2 ระบบที่ไว้เจาะ กระแทก หรือแยกงานไม้เจาะเหล็กได้ด้วย หรือแบบ 3 ระบบ ที่จะเจาะ กระแทก หรือสกัด

3. สว่านกระแทก
หรือ Hammer Drill จะคล้ายกับสว่านไฟฟ้า แต่เป็นสว่านที่เพิ่มกำลังขึ้นมาอีก ใช้กำลังไฟที่ 550 – 720 วัตต์ การทำงานเป็นแบบ 2 ระบบ คือเจาะ และกระแทก ทำให้สามารถเจาะไม้ หรือแผ่นปูน แผ่นเหล็ก แผ่นพลาสติก อิฐได้ดี เหมาะกับคนที่ต้องการเจาะหลากหลาย เช่น เจาะผนังบ้านแขวนนาฬิกา กรอบรูป หรือผ้าม่าน

ซึ่งทั้ง 3 ประเภทที่กล่าวมาจัดอยู่ในหมวดสว่านไร้สายด้วย หมายถึง จะไม่มีสายมาเกะกะระหว่างทำงาน ในทางกลับกันจะใช้พลังงานแบตเตอรี่ เหมาะกับงานนอกสถานที่ที่สายไฟไปไม่ถึง แต่ต้องดูให้ดี เพราะบางเครื่องก็เอาสายออกไม่ได้

อย่างไรก็ตาม ใครที่กำลังมองหาสว่านแบบไร้สายอยู่แต่ไม่รู้จะเลือกยี่ห้อไหน อย่างไร ขอแนะนำเป็นสว่านไร้สาย Makita รุ่น DF333DWYE 12 โวลต์ ที่มีคุณภาพระดับมาตรฐาน ขนาดกะทัดรัด จัดเก็บได้ง่าย ด้ามจับถนัดมือมาก ช่องระบายอากาศก็ดี ความร้อนออกหมดระหว่างใช้งานไม่มีปัญหา สามารถทำงานให้เสร็จได้ไว รับประกันสินค้า 6 เดือน เหมาะกับงานเฟอร์นิเจอร์ หรืองานที่ซ่อมแซม ติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ กับผนังทั่วไป หวังว่าการซื้อสว่านใช้งานจะเป็นเรื่องง่าย และราบรื่นมากขึ้น ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพตามที่คาดหวัง
#2
กล่องรองเท้า อีหหนึ่งวิธีที่ช่วยเคลียร์ปัญหารองเท้าให้อยู่ในพื้นที่จำกัดได้ง่ายๆ


"ถอดรองเท้าเกะกะเกลื่อนกลาดไปหมด" นี่คงเป็นปัญหาใหญ่ของคนที่มีรองเท้าหลายคู่แน่นอน ยิ่งพื้นที่ถอดมีอย่างจำกัด เช่น อยู่คอนโด หรือบ้านที่ต้องแชร์กันหลายคนด้วยยิ่งแล้วใหญ่ ซึ่งจริง ๆ วิธีที่จะช่วยเคลียร์ปัญหากวนใจนี้ก็มีที่น่าสนใจอยู่ หนึ่งในนั้นก็คือการเลือกเก็บไว้ใน "กล่องรองเท้า" จึงมีความน่าสนใจมาบอกต่อ รับรองว่าหลังจากนี้ไม่มีคำว่ารองเท้าเกะกะอีกเลย

เหตุผลที่เราควรเลือกใช้กล่องรองเท้าเก็บรองเท้าที่สวมใส่ใช้งาน

1. ช่วยให้รองเท้าเป็นระเบียบ
ต้องบอกเลยว่าการเลือกใช้งานกล่องเก็บรองเท้าจะสามารถจัดการรองเท้าที่ถอดไว้เกะกะให้เป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้นได้ เพราะกล่องจะมีลักษณะเป็นสีเหลี่ยมผืนผ้าทรงขาวเพื่อใส่รองเท้า โดยจะเก็บรองเท้าไว้ในกล่องคู่ละ 1 กล่อง จากนั้นก็เอาไปจัดเรียงจนเป็นระเบียบได้ทันที จะวางแนวยาว หรือวางซ้อนกันขึ้นไปได้หมด

2. ช่วยให้คุณมีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น
อย่างที่ทราบกันดีว่าการเก็บรองเท้าไว้ในกล่องคือการนำ 1 คู่ไปใส่เอาไว้ แล้ววางกล่องนั้น ๆ ซ้อนสูงขึ้นไป หรือวางเรียงเป็นแนวแถวยาวได้หมด ช่วยประหยัดพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น ทั้งยังสามารถใช้พื้นที่บนกล่องวางอย่างอื่นซ้อนไว้ได้ด้วย กลายเป็นอีกที่ใช้สอยไปโดยปริยาย

3. ตัวกล่องมีความแข็งแรง
ด้วยความที่กล่องใส่รองเท้าส่วนใหญ่ผลิตขึ้นจากพลาสติกที่มีความหนามาก สามารถใส่รองเท้าคู่ใหญ่ ๆ น้ำหนักเยอะได้หมด ทั้งการเอาไปวางซ้อนก็ยังไม่ทำให้เกิดความเสียหายได้เพราะด้วยความแข็งแรงที่มี จึงไม่ทำให้รองเท้าเสียทรงจากการถูกกล่องพับลงมาทับค้างนาน ๆ ได้

4. สามารถนำไปล้างได้ง่ายมาก
แน่นอนว่าการใส่รองเท้าไว้ในกล่องก็คงมีความสกปรกอยู่จากการสวมกับเท้าของตนเอง วันไหนเกิดไปเดินเหยียบแอ่งน้ำมาแล้วนำมาใส่ ไม่นานก็ต้องเอามาล้างอย่างเร็วไว ซึ่งกล่องนี้สามารถล้างได้ง่ายมาก แค่ใช้น้ำยาล้างจาน หรือผงซักฟอกมาละลายในน้ำแล้วเอามาเช็ดถู รับรองว่าสะอาดปลอดภัยไร้เชื้อโรค

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าด้วยเหตุผลทั้งหลายเหล่านี้กลายเป็นเหตุผลที่จะทำให้การเก็บรองเท้าของทุกคนง่ายขึ้น มีความเป็นระแบบเรียบร้อย เพียงแค่เลือกวิธีจัดเก็บด้วยอุปกรณ์ชั้นเยี่ยม แต่กระนั้นก็ยังมีวิธีเก็บรองเท้าอื่น ๆ เพิ่มเติมด้วย เช่น เอาไปแขวนไว้กับราวแขวน เก็บไว้ในกงล้อหมุน สอดไว้ในช่องแขวนผนัง ฯลฯ และหากใครต้องการนำข้อมูลที่เป็นประโยชน์เหล่านี้ไปบอกต่อให้การเก็บรองเท้าเป็นเรื่องง่ายมากขึ้นจัดเลย
#3
ผลิตภัณฑ์น้ำยาปรับผ้านุ่ม 3 ยี่ห้อดัง ที่หอมติดทนนาน


ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตัวช่วยที่จะทำให้ผ้าหอมยาวนานติดตัว สวมใส่ไปไหนก็มีแต่คนชมชอบ คงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม ซึ่งปัจจุบันในท้องตลาดเองก็มีด้วยกันหลายยี่ห้อมาก ๆ อย่างไรก็ตามบทความนี้ก็จะมาบอกต่อความหอมของทั้ง 3 ยี่ห้อดัง เผื่อว่าก่อนหน้านี้ใครตัดสินใจไม่ได้หลังจากนี้จะได้ซื้อใช้ทันที รับรองประทับใจจนกลายเป็นลูกค้าประจำ

แนะนำ 3 ผลิตภัณฑ์น้ำยาปรับผ้านุ่ม ความหอมคงนาน

1. ไฮยีน
ต้องบอกว่าปัจจุบันน้ำยาปรับผ้านุ่มไฮยีนได้รับความนิยมไม่แพ้ใคร ซึ่งมีความหอมในแบบฉบับตนเอง เป็นสูตรที่ผลิตอย่างเข้มข้นพิเศษ มีกลิ่นให้เลือกเยอะมาก อย่างกลิ่นพีโอนี บลูม ที่มาจากดอกพีโอนี สื่อถึงฤดูร้อนที่ใกล้เข้ามาแล้ว หรือกลิ่นดอกดามัส โรสที่เป็นเอกลักษณ์ดอกไม้ยามเช้า รับพลังอัดเน้นยาวนาน อีกสูตรเข้มข้นพิเศษขั้นสุด หรืออีกกลิ่นซันไรส์ คิส รวมกลิ่นความหอมของดอกไม้ไฮยาซินจากฝั่งตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

2. ดาวนี่
มาต่อกันที่น้ำยาปรับผ้านุ่มดาวนี่สูตรความหอมละมุนยาวนาน แถมบางสูตรก็ไม่ต้องล้างหลายน้ำด้วย ครองใจคนไม่ชอบซักผ้าได้อย่างไร้ที่ติ อาทิ กลิ่นแดร์ริ่ง คอลเลคชั่นน้ำหอม ที่มีกลิ่นหอมยาวนาน ซึ่งหัวเชื้อน้ำหอมเข้มข้นสูง หลังจากที่เสื้อผ้าแห้ง ไมโครแคปซูลก็จะปล่อยกลิ่นมาเสมือนฉีดน้ำหอมทุก ๆ 3 วัน หรือสูตรแอนตี้แบคที่มีสารแอนตี้ช่วยขจัดกลิ่นอับชื้น หรือแบคทีเรียที่มาสะสมเมื่อตากผ้าไว้ในที่ร่ม พร้อมบ่งบอกความหอม รีดง่าย เรียบไว กลิ่นฟุ้งกระจายตลอดวัน มั่นใจเมื่อสวมใส่

3. คอมฟอร์ด
ปิดท้ายกันที่น้ำยาช่วยปรับผ้านุ่มคอมฟอร์ดที่เป็นสูตรเข้มข้นมากกว่าปกติ 8 เท่า มีความหอมนุ่มละมุน ช่วยเพิ่มสีสันสดใส ผ้ามีความนุ่มมากขึ้น ไม่แข็งกระด้างเหมือนเคย ไร้กลิ่นอับชื้นตลอดการสวมใส่ 24 ชั่วโมง ใช้งานง่าย ๆ แค่ครึ่งฝาต่อผ้า 10 – 15 ชิ้นเท่านั้น แล้วเทลงในน้ำสุดท้ายของการซัก เท่านี้ก็เรียบร้อย

ทั้งนี้ในการใช้งานผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ไม่ว่ายี่ห้อใดก็ตามไม่ควรเทลงไปที่ผ้าโดยตรง เพราะจะทำให้ผ้าด่างได้ คำแนะนำเบื้องต้นคือ ควรผสมกับน้ำในอ่างก่อน แล้วจึงนำเสื้อผ้าลงไปแช่ ขณะที่ตอนเก็บหลังใช้งานควรอยู่ในที่พ้นมือเด็ก ป้องกันความเสี่ยงเด็กหยิบมากิน หรือเอามาเล่นจนเข้าตา หลีกเลี่ยงแสงแดดส่องถึงด้วย และกรณีที่น้ำยาเกิดเข้าตาให้รีบล้างออกด้วยน้ำสะอาดทันที แต่หากอาการไม่ดีขึ้นแนะนำให้รีบไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเข้ารับการรักษาที่เหมาะสมต่อไป ลดอาการรุนแรงที่อาจเกิดขึ้น
#4
เลือกชุดโต๊ะกินข้าวอย่างไรให้ตรงตามหลักฮวงจุ้ย การงานดีขึ้น ชีวิตดีขึ้น

หลายคนกล่าวว่าโต๊ะกินข้าวเปรียบเสมือนกับศูนย์รวมของคนในครอบครัวที่ต้องมานั่งอยู่รวมกันทำให้การเลือกชุดโต๊ะกินข้าวต้องอาศัยหลักของฮวงจุ้ยเข้ามารวมด้วย เพื่อช่วยเสริมดวงชีวิตและการงานให้ดีเยี่ยม ดังนั้น เรามาเลือกโต๊ะกินข้าวให้เหมาะสมกับตัวเองและครอบครัวกันเถอะ เรามาปรับเปลี่ยนชีวิตเราให้ดีขึ้นยิ่งกว่าที่เคย

1.การจัดวางโต๊ะกินข้าว
การจัดวางโต๊ะกินข้าวที่เหมาะสมที่สุดควรวางไว้ใกล้กับห้องครัว โดยสามารถอยู่ฝั่งซ้ายหรือฝั่งขวาของห้องครัวก็ได้ แต่เน้นตั้งไว้บริเวณที่มีลมพัดผ่าน มีอากาศถ่ายเทสะดวก เพราะว่าจะส่งผลถึงความสัมพันธ์ของคนให้ครอบครัว ข้อควรระวัง คือห้ามวางโต๊ะกินข้าวไว้ในห้องครัว เพราะด้วยกลิ่น ควัน และความร้อน จะทำให้อึดอัด และห้ามตั้งโต๊ะกินข้าวไว้ใต้คานไม้เพราะอาจทำให้หงุดหงิดและเจ็บป่วยได้ง่าย

2.วัสดุของโต๊ะกินข้าว
โต๊ะกินข้าวที่ช่วยเสริมดวงจะเป็นโต๊ะกินข้าวไม้ แต่โดยทั่วไปโต๊ะกินข้าวที่ทำจากวัสดุแบบอื่นก็สามารถใช้ได้เช่นเดียวกัน แต่ไม่ควรใช้โต๊ะกินข้าวที่ทำจากกระจก เพราะนั่นหมายถึงความสัมพันธ์ที่เปราะบางไม่มั่นคงเฉกเช่นเดียวกับกระจกที่แตกและหักง่ายนั่นเอง

3.ขนาดที่เหมาะสมของโต๊ะกินข้าว
ขนาดที่เหมาะสมกับของโต๊ะกินข้าวคือขนาดที่พอดีกับสมาชิกภายในบ้าน โดยสามารถมีขนาดใหญ่กว่าจำนวนสมาชิกได้ แต่ห้ามซื้อโต๊ะกินข้าวที่มีขนาดเล็กหรือน้อยกว่าจำนวนสมาชิกภายในบ้านเพราะอาจทำให้อึดอัด และส่งผลต่อระบบการย่อยอาหาร โดยมีข้อควรระวังสำหรับผู้ที่ซื้อโต๊ะกินข้าวที่ใหญ่กว่าจำนวนสมาชิกในครอบครัวมากเกินไป ก็อาจส่งผลถึงความสัมพันธ์ที่ห่างเหิน เพราะฉะนั้นเลือกโต๊ะกินข้าวที่มีขนาดที่เหมาะสมกับจำนวนในครอบครัวจะดีมากที่สุด

4.ควรมีแจกันประดับโต๊ะกินข้าว
เพราะแจกันดอกไม้หมายถึงความอ่อนโยนภายในบ้าน ดังนั้นโต๊ะกินข้าวควรมีแจกันดอกไม้ตั้งอยู่ตรงกลางของโต๊ะ โดยควรเป็นดอกไม้สดเท่านั้น เพราะดอกไม้แห้งหมายถึงความเหนื่อยล้า โดยสามารถเลือกใช้กับผ้าปูโต๊ะสีอ่อนจะช่วยให้ร่างกายได้รับพลังบวกเพิ่มมากขึ้น

ปรับชีวิตง่าย ๆ ด้วยการปรับโต๊ะกินข้าว ซึ่งเป็นวิธีง่ายที่สามารถทำตามได้ แต่อย่างไรก็ตามหลักฮวงจุ้ยเป็นความเชื่อส่วนบุคคล ดังนั้นใคร ที่มีความเชื่อในเรื่องนี้ก็สามารถใช้หลักเหล่านี้ในการเพิ่มความสุขทางใจให้ตัวเองได้ แต่หากใครที่ไม่เชื่อก็ไม่ใช่สิ่งที่ผิดเลยค่ะ ทุกคนสามารถเลือกได้ว่าจะนำหลักเหล่านี้ไปใช้ตามความเชื่อของตนเองได้อย่างไรและตามความเหมาะสมของตนเองได้เลย
#5
ข้อควรรู้เกี่ยวกับหน้ากากอนามัย แบบไหนกันฝุ่น แบบไหนกันไวรัส เดี๋ยวรู้กัน

สิ่งสำคัญที่ต้องมีกันทุกคนในช่วงนี้นั่นก็คือ หน้ากากอนามัย ที่เราต้องใช้ประจำในยามที่ออกจากบ้าน แต่หลายคนคงไม่ทราบว่าหน้ากากอนามัยบางชนิดหากใช้อย่างไม่ถูกต้องอาจไม่ช่วยกันอะไรเลย ดังนั้น เรามาดูกันว่าหน้ากากอนามัยนั้นมีชนิด และแต่ละชนิดช่วยกันอะไรได้บ้างมาติดตามกันค่ะ

1.หน้ากากทางการแพทย์
สำหรับหน้ากากทางการแพทย์ เป็นหน้ากากที่สามารถป้องกันโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ช่วยป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค แบคทีเรีย และเชื้อไวรัสได้มากถึง 99% และประสิทธิภาพในการป้องกันฝุ่นและเกสรดอกได้จะลดลงมาเหลือ 66.37% โดยสามารถกันอนุภาคขนาดเล็กได้สูงสุด 3 ไมครอน

2.หน้ากาก N95
หน้ากาก N95 เป็นหน้ากากที่ฮิตมาก ๆ ในช่วงฝุ่นละออง PM 2.5  อย่างไรก็ตามหน้ากาก N95 สามารถป้องกันเชื้อโรคที่มีขนาดเล็กมาก ๆ ได้ สามารถดักจับอนุภาคขนาดเล็กอย่างฝุ่น PM2.5 และ PM10 ไม่ต่ำกว่า 95%

3.หน้ากากผ้า
ในปัจจุบันตอนนี้หน้ากากผ้าที่หลายคนใช้อยู่มีอยู่ 2 แบบด้วยกัน โดยแบบแรกคือหน้ากากผ้าที่ผลิตจากผ้าฝ่าย จึงสามารถป้องกันฝุ่นละลอง และสามารถป้องกันการกระจายของน้ำมูกหรือน้ำลาย สำหรับแบบที่สองผลิตจากใย สังเคราะห์ซ้อนทบชั้นกัน จึงสามารถในการกรองฝุ่น รวมถึงป้องกันเชื้อโรค เชื้อแบคทีเรีย และเชื้อราได้

4.หน้ากากฟองน้ำ
คุณสมบัติที่โดดเด่นของหน้ากากฟองน้ำคือสามารถซักทำความสะอาดได้รวดเร็วและแห้งเร็วเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามประสิทธิภาพในการป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กยังไม่มีเลย จึงควรสวมเเป็นหน้ากากชั้นที่สอง

5.หน้ากากคาร์บอน
หน้ากากคาร์บอนมีลักษณะที่คล้ายคลึงกับหน้ากากทางการแพทย์ โดยชั้นคาร์บอนของหน้ากากจะสามารถกรองกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ได้ รวมถึงสามารถกรองเชื้อแบคทีเรียได้ถึง 95% ยิ่งหากใส่สองชั้นจะสามารถป้องกันการติดต่อของเชื้อโรคและโรคโควิดได้

เมื่อทราบถึงประเภทของหน้ากากประเภทต่าง ๆ มาเรียบร้อยแล้ว ฉะนั้นทุกคนอย่าดูแล้วรีบไปปั่นวิวต่อพักผ่อนซักหน่อยก่อนดีกว่า เพราะเพลงดีมาก หรือแม้แต่ลองใส่หน้ากากอนามัยตามเอ็มวีเพื่อทำให้คนทั้งโลกรู้สึก BTS ในมุมมองที่ดีขึ้นมากกว่าเดิม
#6
เลือกไดร์เป่าผมแบบไหน ที่ช่วยดูแลสุขภาพเส้นผมและไม่ทำให้เส้นผมแห้งเสีย

ไดร์เป่าผมหากใช้ทุกวันก็เจอปัญหาเส้นผมแห้งเสียบ้านเป็นธรรมดา แต่จะดีกว่ามั้ยถ้าเราสามารถมีเคล็ดลับการใช้ไดร์เป่าผมโดยที่ไม่ทำให้เส้นผมของคุณแห้งเสีย มาดูกันค่ะว่า ใช้ไดร์เป่าผมแบบใดที่ไม่ทำให้เส้นผมแห้งเสียตามกันมาเลยค่ะ

1.เลือกไดร์เป่าผมที่มีกำลังไฟเหมาะสม
มีคนจำนวนไม่น้อยที่ตัดสินใจเลือกซื้อไดร์เป่าผมจากกำลังไฟที่สูงเพื่อคิดว่าจะช่วยให้ผมนั้นแห้งไว หรือผมเป็นเส้นตรงง่ายกว่าเดิม แต่อย่างไรก็ตามการที่ใช้ไดร์เป่าผมที่มีกำลังไฟสูงอาจไม่เหมาะกับสภาพเส้นผมของทุก ๆ คน เพราะว่ายิ่งใช้กำลังไฟมากเท่าไหร่ยิ่งทำอันตรายกับเส้นผมมากเท่านั้น ฉะนั้นมาเลือกไดร์ที่เหมาะกับสภาพเส้นผมของตนเองกันดีกว่า โดยผู้ที่มีผมเส้นเล็กหรือผมบางคนใช้ไดร์เป่าที่มีกำลังไฟ 1,200 วัตต์ ส่วนผู้ที่มีเส้นผมปกติ สามารถใช้ไดร์เป่าผมที่มีกำลังไฟ 1,300 – 1,800 วัตต์ และสุดท้ายสำหรับคนที่มีผมเส้นใหม่ สามารถใช้ไดร์เป่าผมที่มีกำลังไฟสูงขึ้นที่ 1,800 วัตต์

2. เทคโนโลยีอัจฉริยะ
ปฏิเสธไม่ได้ว่าในปัจจุบันมีเทคโนโลยีใหม่เข้ามาแทรกซึมในทุกอณูการใช้ชีวิตของมนุษย์ และทำให้ชีวิตของเราง่ายขึ้น ไดร์เป่าผมก็เหมือนกันค่ะเพราะว่าเค้ามีเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามามากมายอย่างระบบ ThermoProtect ของ ไดร์เป่าผม Philips ที่สามารถรักษาความชุ่มชื้นให้เส้นผมได้ นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Ionic Function ที่ช่วยลดความชื้นให้เส้นผม หรือไดร์เป่าผม Dyson ซึ่งเป็นไดร์เป่าผมแบบไร้ใบพัดซึ่งช่วยให้แรงลมมีความสม่ำเสมอ และไม่ทำร้ายเส้นผม 

3.ปรับความแรงลมและความร้อนได้
เพื่อป้องปกผมเสียจากความร้อนของไดร์เป่าผม ดังนั้น ไดร์เป่าผมที่ทุกคนเลือกควรเป็นไดร์เป่าผมที่สามารถปรับความแรงลมเพื่อป้องกันเส้นผมพันกันรวมถึงยังสามารถปรับอุณหภูมิได้ โดยควรมีทั้งลมร้อน ลมเย็นได้ เพื่อป้องกันผมเสีย หรือเลือกอุณหภูมิของไดร์เป่าผมให้เหมาะสมกับการใช้งานได้

4.มีปุ่ม Cool Shot
ปุ่ม Cool Shot เป็นปุ่มที่ช่วยในการรักษาเส้นผมและกักเก็บความชุ่มชื้นบนเส้นผมได้ โดยไม่ทำร้ายเส้นผม สามารถลดการเกิดรังแค และช่วยล็อกเส้นผมให้สวยอยู่ทรงได้ยาวนาน พร้อมกับทำให้เส้นผมชุ่มชื้นมีน้ำหนัก ไม่แห้งเสีย ทั้งยังทำให้ผมนุ่มเงางามมากขึ้นยิ่งกว่าเดิมอีกด้วย

การดูแลเส้นผมง่าย ๆ เริ่มต้นจากการที่เราใช้ของที่มีคุณภาพ อย่างการใช้ไดร์เป่าผมที่มีคุณภาพ นอกจากนี้ ก็อย่าลืมบำรุงเส้นผมของตนเองด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผมทุกครั้งก่อนที่เส้นผมของตนเองจะถูกความร้อน ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยในการดูแลเส้นผมด้วยเช่นกันค่ะ