• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - dsmol19

#3141


เจมี วาร์ดี กับ มาร์ค อัลไบรธ์ตัน สองตัวบุกของ เลสเตอร์ ซิตี จับมือกันยิงคนละตุงก่อนช่วยพา 'สุนัขจิ้งจอก' เฉือนหืด นอริช ซิตี 2-1 ศึก พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันที่ 28 สิงหาคม ที่ผ่านมา

พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
นอริช ซิตี 1-2 เลสเตอร์ ซิตี

คู่ถัดมาที่ คาร์โรว โรด นอริช ซิตี รองบ๊วยไม่มีแต้ม เจอ เลสเตอร์ ซิตี อันดับ 12 มี 3 แต้ม เกมนี้ 'นกขมิ้น' วางตัว ตีมู ปุกกี กับ ท็อดด์ แคนท์เวล ลงยิง ส่วน 'จิ้งจอก' วางคู่หน้าเป็น เจมส์ แมดดิสัน กับ เจมี วาร์ดี

เริ่มเกม 7 นาที เลสเตอร์ ขึ้นนำก่อนเลย ริคาร์โด เปเรย์ร่า แย่ง.หลุดมาทางซ้ายแล้วตบให้ เจมี วาร์ดี แปตุงตาข่าย 1-0 ขณะที่ นาที 16 นอริช ตอบโต้ แม็กซ์ อารอน จ่ายยัดมา เคนนี แม็คลีน ตั้งป้อมยิงแต่ตรงตัว แคสเปอร์ ชไมเคิล

นอริช หาทางเจาะ นาที 26 มิโลต์ ราชิซ่า เก็บ.หน้าประตูแล้วพลิกหาช่องยิงแต่ แคสเปอร์ ชไมเคิล ล้มตัวเซฟทัน ทว่า นาที 42 นอริช ได้จุดโทษหลัง มิโลต์ ราชิซ่า โดน คาลาร์ โซยุนชู สไลด์กลิ้งลงไปแล้ว ตีมู ปุกกี ยิงไม่พลาดและจบครึ่งแรกที่ 1-1

ครึ่งหลัง นาที 55 นอริช คึกจะเอาลูกสอง แม็กซ์ อารอนส์ เปิดมาให้ ตีมู ปุกกี โหม่งแต่.เบาเกินเข้ามือ แคสเปอร์ ชไมเคิล ด้านของ เลสเตอร์ เอาบ้าง ยูริ ตีเลอมองส์ เก็บ.แถวสองแล้วตั้งป้อมซัดไกลแต่ข้ามคาน

กระทั่ง นาที 76 เลสเตอร์ เฮลั่น เจมี วาร์ดี จ่ายตัดเข้าขวาให้ มาร์ค อัลไบรธ์ตัน วิ่งมาซัดพุ่งเข้าเสาไกล 2-1 ด้าน นอริช เฮเก้อ นาที 80 เคนนี แม็คลีน พุ่งมาโหม่ง.จากเตะมุมเข้าไปแล้ว แต่ถูกเป่ายกเลิกเพราะ ท็อดด์ แคนท์เวล์ ไปยืนบังหน้า แคสเปอร์ ชไมเคิล เป็นเจตนาบดบังวิสัยทัศน์คู่แข่ง และเวลาที่หลือก็ยิงไม่ได้แล้ว จบเกม เลสเตอร์ ชนะเป็นเกมที่ 2 ของซีซั่น ส่วน นอริช แพ้ 3 นัดรวด

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
นอริช ซิตี - ทิม ครูล, เบน กิบสัน, แกรนท์ ฮันลีย์, แบรนดอน วิลเลียมส์, แม็กซ์ อารอนส์, บิลลี กิลมัวร์, เคนนี แม็คลีน, ปิแอร์ ลีส์-เมลู, มิโลต์ ราชิซ่า, ท็อดด์ แคนท์เวล, ตีมู ปุกกี
เลสเตอร์ ซิตี - แคสเปอร์ ชไมเคิล, คาลาร์ โซยุนชู, ดาเนียล อามาร์ตี, ลุค โธมัส, ริคาร์โด เปเรย์ร่า, เจมส์ แมดดิสัน, วิลเฟร็ด เอ็นดิดี, ยูริ ตีเลอมองส์, ฮาร์วีย์ บาร์นส, มาร์ค อัลไบรธ์ตัน, เจมี วาร์ดี
#3142


ยกระดับช่วงเวลาอาหารว่างได้ง่ายๆ ที่บ้านไปกับชุดนํ้าชายามบ่าย Au Soleil สุดสดชื่นกับขนมหวานและของว่างคาวมากมาย คุ้มค่า สะอาดปลอดภัยในราคา 999 บาทสุทธิสำหรับ 2 คน ส่งฟรีภายในรัศมี 5 กิโลเมตร จากโรงแรมเลอ เมอริเดียน กรุงเทพ

โปรโมชั่นชุดน้ำชายามบ่ายเกิดขึ้นภายใต้โปรแกรม Marriott Bonvoy on Wheels ที่รวบรวมโปรโมชั่นเมนูอาหารจากโรงแรมในเครือแมริออท ที่ต้องการอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าทุกคนสามารถสั่งอาหารส่งตรงถึงบ้านกับทางโรงแรมผ่านทางเว็บไซต์ของแมริออทบอนวอย โดยในเซ็ต ชุดน้ำชายามบ่าย Au Soleil ประกอบด้วยชุดขนมหวานและของว่างคาว สไตล์เมดิเตอเรเนียน - เอเชียน เช่น มาการอง Au Soleil รสวานิลลาและรสตะไคร้ไม่ซ้ำใคร สโคนแบบดั้งเดิมพร้อมแยมเบอร์รีแสนสดชื่น ทาร์ตช็อกโกแลตไร้แป้งรสชาติเข้มข้น



อร่อยพอดีคำกับของว่างคาวไปกับเอแคลร์แซลมอนรมควันราดครีมอโวคาโด้ แซนวิชย่างกรอบสกาแกนกับกุ้งผสมครีมมายองเนสและผักชีฝรั่งหอมละมุน เครปโรลไส้ชีสนานาชนิดผสมเห็ดทรัฟเฟิลและถั่ววอลนัท ทุกเซ็ตมาพร้อมชาสำหรับชงง่ายๆ ได้ด้วยตนเอง ในแพกเกจคุณภาพ สะอาด สดใหม่ พร้อมส่งแล้ววันนี้จนถึงเดือนตุลาคม 2564



สั่งชุดนํ้าชายามบ่าย Au Soleil จากโรงแรมเลอ เมอริเดียน กรุงเทพ โทร. 0-2232-8888 หรือช่องทางไลน์ https://lin.ee/iwRam1w โดยสามารถสั่งและจัดส่งได้ทุกวัน เวลา 13.00 – 17.00 (กรุณาสั่งล่วงหน้าอย่างน้อย 2 ชั่วโมงก่อนเวลาที่ต้องการให้จัดส่ง)
#3143

ไบรสัน เดอชอมโบ นักกอล์ฟมือ 6 ของโลกชาวอเมริกัน รีดเร้นฟอร์มสุดยอดตีสกอร์รวมสะสมถึง 16 อันเดอร์พาร์ ก่อนทะยานขึ้นไปนั่งเก้าอี้ผู้นำศึก บีเอ็มดับเบิลยู แชมเปียนชิพ เมื่อจบรอบสอง วันที่ 27 สิงหาคม ที่ผ่านมา

ศึกกอล์ฟ พีจีเอ ทัวร์ รายการ บีเอ็มดับเบิลยู แชมเปียนชิพ ชิงเงินรางวัลรวม 9.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 311 ล้านบาท) ณ สนาม เคฟส์ วัลเลย์ กอล์ฟ คลับ ระยะ 7,226 หลา พาร์ 71 แมรีแลนด์ สหรัฐอเมริกา เข้าสู่การดวลสวิงวันที่สอง ซึ่งมีบางคนแข่งไม่จบเพราะฟ้ามืดก่อน

ปรากฏว่า ไบรสัน เดอชอมโบ ก้านเหล็กหนุ่มเจ้าบ้าน แสดงฝีมือตี 12 อันเดอร์ จากผลงาน 8 เบอร์ดีกับ 2 อีเกิล ไม่มีความผิดพลาดเลย จบวันสกอร์รวมเป็น 16 อันเดอร์พาร์ พุ่งจากอันดับ 18 ขึ้นมาเป็นผู้นำเหนือกว่าอันดับ 2 อย่าง แพทริค แคนท์เลย์ เพื่อนร่วมชาติและ จอน ราห์ม ผู้นำรอบก่อน 1 สโตรก

ด้านมือดังคนอื่นๆ เซร์คิโอ การ์เซีย จอมเก๋าจากสเปน เก็บเพิ่มอีก 5 อันเดอร์ รวมสกอร์เป็น 12 อันเดอร์พาร์ คงที่ในอันดับ 4 ตามด้วย รอรีย์ แม็คอิลรอย ผู้นำรอบที่แล้วอีกรายจากไอร์แลนด์เหนือ ตีเพิ่มได้แค่ 2 อันเดอร์ สกอร์ 10 อันเดอร์พาร์ หล่นมาอยู่อันดับ 8 ร่วม

ส่วน 'ดีเจ' ดัสติน จอห์นสัน มือ 2 โลกชื่อดังอีกรายของอเมริกา รอบนี้ทำได้เพียง 2 อันเดอร์ สกอร์รวมมี 7 อันเดอร์พาร์ หล่นมาอยู่อันดับ 17 ร่วม
#3144


รายงานข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผยการนำเข้าและส่งออกรอบ 7 เดือนแรกของปีนี้ หรือนับตั้งแต่ม.ค.ถึงก.ค.ที่ผ่านมาว่า มียอดการนำเข้าสินค้ามูลค่ารวม 4.71 ล้านล้านบาท โดยมูลค่าการนำเข้าได้ทยอยเพิ่มขึ้นจากระดับ 6 แสนล้านบาทต่อเดือนในช่วงต้นปีมาอยู่ที่ประมาณ 7 แสนล้านบาทต่อเดือนในช่วงกลางปี

ทั้งนี้ ในเดือนม.ค.มีมูลค่าการนำเข้าที่ 6.01 แสนล้านบาท , ก.พ.อยู่ที่ 6.1 แสนล้านบาท,มี.ค.7.08 แสนล้านบาท , เม.ย.6.60 แสนล้านบาท,พ.ค.6.99 แสนล้านบาท,พ.ค. 6.99 แสนล้านบาท,มิ.ย.7.18 แสนล้านบาท และ ก.ค. 7.12 แสนล้านบาท


สำหรับมูลค่าการส่งออกรอบ 7 เดือนนั้น มีมูลค่ารวม 4.72 ล้านล้านบาท โดยเดือนม.ค.อยู่ที่ 5.87 แสนล้านบาท ,ก.พ. 6.0 แสนล้านบาท,มี.ค. 7.18 แสนล้านบาท , เม.ย.6.54 แสนล้านบาท,พ.ค.7.14 แสนล้านบาท,มิ.ย.7.37 แสนล้านบาทและก.ค. 7.08 แสนล้านบาท


แหล่งข่าวกล่าวว่า​ การนำเข้าของไทยส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าสินค้าทุน (อาทิ เครื่องจักรกล เครื่องจักรไฟฟ้า) สินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป ซึ่งนำมาใช้เป็นปัจจัยการผลิตสินค้าเพื่อบริโภคในประเทศและเพื่อส่งออก โดยในเดือน ก.ค. สินค้ากลุ่มใหญ่ที่สุด คือ สินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป (สัดส่วน 42% ของมูลค่าการนำเข้าทั้งหมด) ขยายตัว 51.5% รองมา คือ สินค้าทุน (สัดส่วน 25% ของมูลค่าการนำเข้าทั้งหมด) ขยายตัว 35.4% การนำเข้าสินค้าทุนและวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น แสดงให้เห็นว่าภาคการผลิตของไทยเริ่มฟื้นตัวจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เป็นสัญญาณที่ดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจในอนาคต
#3145


วันนี้ (28 ส.ค.) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ เตรียมจ่ายเงินให้แก่ผู้ปกครอง 2,000 บาทต่อนักเรียน 1 คน ตามมาตรการให้ความช่วยเหลือภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาในช่วงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สำหรับนักเรียนในระบบการศึกษาไทย ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2564 นั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ปกครองหลายช่องทางว่าโรงเรียนบางแห่ง โดยเฉพาะโรงเรียนเอกชนแจ้งกับผู้ปกครองว่า จะหักเงินเยียวยาดังกล่าวกับผู้ปกครองที่ค้างค่าเทอมสำหรับภาคเรียนที่ 1 ซึ่งจะทำให้ผู้ปกครองไม่ได้รับเงินเยียวยาจากรัฐบาล

นายกรัฐมนตรี จึงกำชับกระทรวงศึกษาธิการให้ติดตาม ตรวจสอบระบบการจ่ายเงินอย่างใกล้ชิด โดยเงินทุกบาทต้องถึงมือผู้ปกครอง ห้ามโรงเรียนหักเก็บค่าเทอมหรือค่าใช้จ่ายอื่นๆอย่างเด็ดขาด เพราะถือว่าผิดวัตถุประสงค์ของการช่วยเหลือเยียวยา โดยโรงเรียนมีหน้าที่จ่ายเงินให้กับผู้ปกครองเท่านั้น ไม่มีสิทธิ์เก็บเงินดังกล่าวไว้แต่อย่างใด โดยเบื้องต้น กระทรวงศึกษาธิการได้ตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนเพื่อช่วยเหลือผู้ปกครอง เป็นช่องทางให้ผู้ปกครองแจ้งเรื่องมาที่กระทรวงศึกษาธิการ ให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำหรับกระบวนการจ่ายเงินเยียวยาผู้ปกครอง จะเริ่มขึ้นในเร็วๆนี้ เมื่อสำนักงบประมาณตรวจสอบข้อมูลเรียบร้อยแล้ว จะส่งเรื่องไปยังกระทรวงการคลัง ก่อนที่กระทรวงการคลัง จะส่งต่อให้กรมบัญชีกลาง เพื่อโอนเงินเยียวยาทั้งหมดมาให้กระทรวงศึกษาธิการ โดยกระทรวงศึกษาธิการ จะใช้เวลาไม่เกิน 7 วัน ในการโอนเงินไปยังสถานศึกษาในระบบ เพื่อจ่ายเงินให้กับผู้ปกครองทั้งการผ่านบัญชีธนาคารและการจ่ายเป็นเงินสดในกรณีที่ไม่สามารถโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารได้

"นายกรัฐมนตรี มั่นใจในกระบวนการอนุมัติงบประมาณดังกล่าว ว่ามีความรอบคอบรัดกุม โดยผ่านความเห็นชอบจากทั้งสภาพัฒน์และกระทรวงการคลัง อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนจ่ายเงินขอให้ดำเนินการด้วยความโปร่งใส โดยกำชับให้กระทรวงศึกษาธิการติดตามตรวจสอบการจ่ายเงินทุกขั้นตอน ห้ามปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตอย่างเด็ดขาด ให้เงินทุกบาททุกสตางค์ถึงมือผู้ปกครองอย่างแท้จริง" น.ส.ไตรศุลี กล่าว
#3146


วันนี้ (27 ส.ค.) นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ในช่วงหน้าฝน ปัญหาที่พบบ่อยคือเสื้อผ้ามีกลิ่นอับชื้น เนื่องจากเปียกฝนหรือสวมใส่เสื้อผ้าที่เปียกชื้นเป็นเวลานานๆ หลายชั่วโมง รวมถึงการสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยที่เปียกชื้นอาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคได้ ดังนั้น เมื่อกลับถึงบ้านแล้วควรนำเสื้อผ้าที่เปียกไปแขวนผึ่งให้แห้ง ก่อนใส่ตะกร้าเพื่อรอการซัก ไม่ควรทิ้งไว้นาน ๆ เพราะอาจทำให้เกิดเชื้อราบนเสื้อผ้าได้ หากนำมาสวมใส่อาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคผิวหนังจากเชื้อราตามมา อาทิ โรคกลาก เกลื้อน ซึ่งจะมีลักษณะเป็นผื่นแดง มีขุยรอบ ๆ เกิดอาการคัน ทำให้เป็นผื่นแพ้และติดเชื้อได้ ไม่ควรเกาหรือปล่อยไว้จนลุกลาม ควรรีบไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการรักษาที่ถูกวิธีต่อไป ซึ่งการทำความสะอาดเสื้อผ้าที่มีกลิ่นอับชื้นหรือปัญหาเชื้อราบนผ้า สามารถทำได้ด้วย 2 วิธีคือ วิธีที่ 1 ซักตามปกติแล้วนำไปต้มในน้ำเดือดนาน 15 นาที ถึง 1 ชั่วโมง ส่วนวิธีที่ 2 แช่ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อที่สามารถหาได้ในครัวเรือน ได้แก่ น้ำยาซักผ้าขาวที่มีส่วนผสมโซเดียมไฮโปคลอไรด์ โดยเติม 1 ฝา ต่อน้ำ 10 ลิตร แช่ผ้าไว้นาน 5-15 นาที หรือใช้น้ำส้มสายชู 2-3 ถ้วยตวง ต่อน้ำ 1-2 ลิตร แช่ผ้าไว้อย่างน้อย 1 ชั่วโมง แล้วซักตามปกติ จากนั้นนำไปตากแดดจัดหรือตากในที่ที่มีอากาศถ่ายเทจนแห้ง แล้วนำมารีดทั้งข้างในและข้างนอกตัวเสื้อ โดยก่อนทำความสะอาดเสื้อผ้า ควรอ่านป้ายสัญลักษณ์การดูแลรักษาเสื้อผ้า เพื่อเลือกวิธีทำความสะอาดเสื้อผ้าที่ดีที่สุดและป้องกันเสื้อผ้าชำรุด ส่วนหน้ากากผ้า ควรเปลี่ยนทุกวัน หรือเปลี่ยนเมื่อรู้สึกเปียกชื้นในระหว่างวัน และให้ซักหน้ากากผ้าให้สะอาดทุกวันด้วยสบู่หรือผงซักฟอกแล้วตากแดดให้แห้ง กรณีสวมหน้ากากอนามัย ให้เปลี่ยนหน้ากากอนามัยชิ้นใหม่ทุกวัน หรือเมื่อหน้ากากเปียกชื้น และควรพกหน้ากากอนามัยสำรองไว้ติดตัว เพื่อให้สามารถเปลี่ยนใหม่ได้ทันที

นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า ในช่วงหน้าฝน สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือการกำจัดเชื้อราในบ้าน เพราะหน้าฝนความชื้นในอากาศ สามารถทำให้ภายในบ้านมีความชื้นสูง อาจเป็นแหล่งของเชื้อราได้ อาทิ ห้องน้ำ ห้องนอน และห้องครัว เชื้อราจะอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีความชื้น สามารถสังเกตเห็นได้ตั้งแต่สีดำ น้ำตาล เขียว แดงเหลือง และขาว พบได้เป็นกลุ่มๆ ในบริเวณที่มีความอับชื้น เช่น ฝ้าและผนัง เพดาน เฟอร์นิเจอร์ ใต้พื้นพรม เครื่องนอน เครื่องปรับอากาศ หากสปอร์ของเชื้อราเข้าสู่ร่างกายจะทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพต่าง ๆ ตามมา เช่น หากเข้าตาและจมูก จะทำให้เกิดการระคายเคือง มีอาการจาม น้ำมูกไหล มีไข้ บางรายก่อให้เกิดโรคหอบหืด ภูมิแพ้ และปอดอักเสบในที่สุด ซึ่งกลุ่มที่ต้องระวังคือ ผู้สูงอายุ และเด็กอ่อน

"ทั้งนี้ สามารถเช็ดทำความสะอาดบ้านเรือนที่ปนเปื้อนเชื้อราได้ 3 ขั้นตอน คือ 1. พื้นผิววัสดุที่พบเชื้อรา ให้ใช้กระดาษทิชชูแผ่นหนาและขนาดใหญ่หรือกระดาษหนังสือพิมพ์พรมน้ำให้เปียกเล็กน้อย เช็ดพื้นผิวไปในทางเดียว แล้วนำกระดาษทิชชูหรือกระดาษหนังสือพิมพ์ดังกล่าวทิ้งลงในถังขยะที่ปิดมิดชิด 2. ใช้กระดาษทิชชู แผ่นหนาและขนาดใหญ่ หรือกระดาษหนังสือพิมพ์ชุบลงในน้ำผสมกับสบู่หรือน้ำยาล้างจาน เช็ดซ้ำในจุดที่มีเชื้อราอีกครั้ง และ 3. ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อรา เช่น น้ำส้มสายชู 5-7 เปอร์เซ็นต์ หรือแอลกอฮอล์ความเข้มข้น 60-90 เปอร์เซ็นต์ เช็ดทำความสะอาดเพื่อเป็นการทำลายเชื้อในขั้นตอนสุดท้าย" อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
#3147


"ประกันสังคม" ม.39 โอนวันนี้อีก 5,000 ใครตกหล่นโอนไม่สำเร็จ รีบเช็คสิทธิ์ www.sso.go.th ติดต่อธนาคาร ผูกพร้อมเพย์ด่วน!

คืบหน้าเงินเยียวยาประกันสังคม นายจ้าง และ ผู้ประกันตน ประกันสังคมมาตรา 33 (ม.33) ประกันสังคมมาตรา 39 (ม.39) ประกันสังคมมาตรา 40 (ม.40) ในกิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด ใน 9 ประเภทกิจการ

ในวันนี้ (27 ส.ค.) ประกันสังคมจะทำการโอนเงินเยียวยา 5,000 บาท ให้ผู้ประกันตน ม.39 กลุ่ม 16 จังหวัด  สามารถเช็กเสิทธิผ่านเว็บไซต์ www.sso.go.th คลิกที่นี่

สรุปไทม์ไลน์ "วันโอนเงินเยียวยา" ม.33 ม.39 ม.40

29 จังหวัด แบ่งเป็น 3 กลุ่ม

10 จังหวัด : กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นราธิวาส ปัตตานี ยะลา สงขลา

3 จังหวัด : ชลบุรี ฉะเชิงเทรา พระนครศรีอยุธยา

16 จังหวัด : กาญจนบุรี ตาก นครนายก นครราชสีมา ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี เพชรบุรี เพชรบูรณ์ ระยอง ราชบุรี ลพบุรี สมุทรสงคราม สระบุรี สิงห์บุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง 

วันโอน 20 สิงหาคม 2564 ผู้ประกันตน ม.33 กลุ่ม 16 จังหวัด ได้เงิน 2,500 บาท

วันโอน 23 สิงหาคม 2564 ผู้ประกันตน ม.39 กลุ่ม 13 จังหวัด ได้เงิน 5,000 บาท

วันโอน 24 - 26 สิงหาคม 2564 ผู้ประกันตน ม.40 กลุ่ม 13 จังหวัด และ ผู้ประกันตน ม.40 * สมัครและชำระเงินภายในวันที่ 3 สิงหาคม 2564 กลุ่ม 16 จังหวัด ได้เงิน 5,000 บาท

วันโอน 27 สิงหาคม 2564 ผู้ประกันตน ม.39 กลุ่ม 16 จังหวัด ได้เงิน 5,000 บาท

สำหรับผู้ประกันตนที่ยังไม่ได้รับสิทธิเนื่องจากการโอนไม่สำเร็จ สามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ประกันตนที่โอนไม่สำเร็จได้ที่เว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th หน้าตรวจสอบสิทธิ กรณีไม่สามารถโอนเงินสำเร็จด้วยสาเหตุที่ผู้ประกันตนไม่ผูกพร้อมเพย์ ขอให้ติดต่อธนาคารเจ้าของบัญชี ส่วนกรณีที่ไม่ได้รับสิทธิผู้ประกันตนสามารถยื่นทบทวนสิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 1 – 30 กันยายน 2564 นี้

 

ทั้งนี้ สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เน้นย้ำ ผู้ประกันตน  ม.33 ม.39 ม.40 ที่มีสิทธิรับเงินช่วยเหลือเยียวยาจากรัฐบาล ที่ตกหล่นจากรอบการโอน ที่ผ่านมา ให้ท่านเร่งตรวจสอบข้อมูลตนเอง หากเช็คแล้วว่าเงินยังไม่เข้าบัญชี ให้รีบไปติดต่อธนาคารด่วน ท่านที่ยังไม่ผูกพร้อมเพย์เลขบัตรประชาชน ให้รีบไปดำเนินการผูกบัญชีพร้อมเพย์เลขบัตรประชาชน หรือเปลี่ยนจากผูกพร้อมเพย์เบอร์โทรศัพท์เป็นพร้อมเพย์เลขบัตรประชาชนเพื่อรับเงินช่วยเหลือเยียวยา
#3148


นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์  เปิดเผยว่า  ตัวเลขการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดนเดือนก.ค. 2564  มีมูลค่า 90,101 ล้านบาท ขยายตัว 41.70% แยกเป็นการค้าชายแดน มูลค่า 40,416 ล้านบาท  เพิ่ม10.55% โดยมาเลเซีย เพิ่ม 17.95% เมียนมาเพิ่ม 10.65% สปป.ลาวเพิ่ม  8.08% กัมพูชา เพิ่ม 5.12% และการค้าผ่านแดนมีมูลค่า 49,685 ล้านบาทเพิ่ม 83.84% โดยจีนขยายตัวสูงถึง 126.64% มีสินค้าที่ส่งออกไปมากที่สุดผลไม้สดและผลไม้แห้ง 348% มูลค่ารวม 15,000 ล้านบาท โดยเฉพาะทุเรียนมีมูลค่า 10,600 ล้านบาท มังคุด 4,700 ล้านบาท และลำไย 370 ล้านบาท เป็นต้น ขณะที่ สิงคโปร์เพิ่ม  59.85% และเวียดนาม เพิ่ม 1.63%  

การค้าชายแดนและผ่านแดนที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากการทำงานร่วมกันอย่างหนักและต่อเนื่องระหว่างกระทรวงพาณิชย์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และภาคเอกชน  ภายใต้รูปแบบ กรอ.พาณิชย์  โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเร่งเปิดจุดผ่านแดน ด่านทั้งหมดมี 97 ด่าน แต่หลายด่านก็ต้องปิดเนื่องจากสถานการณ์โควิด ปัจจุบัน สามารถเปิดแล้วถึง 44 ด่าน  การแก้ปัญหาที่เป็นอุปสรรคต่อการส่งออกทั้งด่านในประเทศเพื่อนบ้านและด่านของประเทศผู้นำเข้า  เช่น  ด่านโหย่วอี้กวน ของจีน การเพิ่มช่องการขนส่งที่ด่านตงซิง ทำให้การขนส่งผลไม้ไทยมีความคล่องตัว  รวมทั้งปัญหาด้านสุขอนามัยที่ทำให้จีนจะงับการนำเข้าผลไม้ไทย

นอกจากนี้กระทรวงพาณิชย์มีนโยบายช่วยต่อลมหายใจให้กับ SMEs ส่งออกซึ่งมีส่วนสำคัญในการทำตัวเลขการส่งออกสินค้าข้ามแดนและชายแดนคือโครงการ "จับคู่กู้เงิน"สถาบันการเงินกับ SMEs ส่งออก โดยวันที่ 26 ส.ค. EXIM Bank อนุมัติเงินกู้เงื่อนไขพิเศษให้ SMEs ส่งออกแล้ว 151 รายเป็นเงิน 618 ล้านบาท ช่วยให้เกิดสภาพคล่องในการทำตัวเลขส่งออกผ่านการค้าชายแดนและผ่านแดนเพิ่มขึ้น   รวมทั้ การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า และความต้องการสินค้าบางประเภทเพิ่มขึ้นเช่น สินค้า Work from Home และค่าเงินบาทเริ่มอ่อนค่าลงโดยเฉลี่ย 10% ช่วยให้เราสามารถแข่งขันในตลาดเพื่อนบ้านหรือตลาดจีนได้ดีขึ้น



นายจุรินทร์ กล่าวว่า   อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยลบที่เป็นตัวถ่วงตัวเลขการค้าชายแดนเช่นสถานการณ์โควิดซึ่งมาเลเซียเข้มงวดการนำเข้าสินค้าชายแดนผ่านไทยเพราะต้องควบคุมการแพร่ระบาดซึ่งส่งผลกระทบต่อการส่งออกน้ำยางและส่งผลต่อราคาน้ำยางในประเทศไทย แต่ยางก้อนถ้วยยังราคาดีมากและดีกว่าหลายยุคที่ผ่านมา เพราะ 3-5 ปีที่ผ่านมากิโลกรัมละ 15 บาท แต่วันนี้ 24 บาท ซึ่งราคาอาจปรับลดลงไปบ้างตามสถานการณ์ และระบบการขนส่งโลจิสติกส์ทั้งการขนส่งข้ามจังหวัดและะระบบการขนส่งข้ามประเทศที่ต้องแก้ปัญหาหน้างาน ตลอดทั้งจากไทยไปลาว ลาวไปเวียดนาม เป็นต้น หรือรวมทั้งข้ามฝั่งไปเมียนมาเพราะสถานการณ์การเมืองในเมียนมาเป็นปัจจัยตัวที่ทำให้การค้าชายแดนไม่คล่องตัวอย่างในภาวะปกติ

สำหรับด่านที่จะเร่งรัดเปิดต่อไปหลังจากเปิด 44 จาก 97 ด่าน ตนมอบหมายให้อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศเจรจากับจับมือกับเอกชนและจังหวัด ขณะนี้มีความคืบหน้าใน 5 จังหวัดคือ เชียงราย เลย หนองคาย นครพนมและมุกดาหาร ที่จะทำแผนการเปิดด่านระหว่างไทยกับลาวแล้ว   ส่วนด่านปากแซง นาตาล ที่อุบลราชธานี ที่ตนไปดูด่านด้วยตนเองประสานจังหวัดจัดงบประมาณทำทางลาดลงไป มีความคืบหน้าในการเจรจาอยู่ในขั้นตอนรายละเอียด คาดว่าน่าจะเป็นด่านแรกๆที่จะสามารถเปิดด่านได้ 3.ที่นราธิวาส ด่านตากใบ กับบูเก๊ะตาจะเร่งรัดต่อไปตนได้มอบอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศใช้โมเดลเดียวกับด่านชายแดนลาวประชุม 3 ฝ่ายคาดว่าสัปดาห์หน้าจะประชุมได้ เมื่อได้แผนเปิดงานแล้วจะเจรจากับมาเลเซียต่อไป ซึ่งต้องคุยทั้ง 3 ฝ่ายเศรษฐกิจโควิดและความมั่นคง ต้องคุยด้วยกันถึงจะเปิดด่านได้

"ยอดรวมการค้าชายแดนและผ่านแดนในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2564 มีมูลค่า 591,051 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.88% เกินไปกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 3-6%  หากเป็นเป้าขั้นต่ำที่ 3% จะโตเกินกว่าเป้ากว่า 12 เท่า และเป้าขั้นสูง 6% จะโตเกินกว่าเป้ากว่า 6 เท่า    "

ด้าน นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า สำหรับสินค้าส่งออกสำคัญไปยังประเทศมาเลเซีย ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบผลิตภัณฑ์ยางพารา ประเทศกัมพูชา สินค้าส่งออกสำคัญได้แก่ สินค้าอุปโภคบริโภคเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ สำหรับ สปป.ลาว สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ น้ำมันดีเซลน้ำมันสำเร็จรูปอื่นๆและรถยนต์นั่ง ประเทศเมียนมา สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ น้ำมันดีเซล สินค้าอุปโภคบริโภค เป็นต้น
#3149


"ยูฟ่า" (UEFA) ประกาศผลจับสลากแบ่งกลุ่ม "แชมเปียนส์ ลีก" 2021-22 สุดเดือด! 2 ทีมเศรษฐีอาหรับ "แมนฯ ซิตี" และ "เปแอสเช" ร่วมกลุ่ม A "ลิเวอร์พูล" เจอกรุ๊ปออฟเดธ "แมนฯ ยูฯ" ล้างตา "บียาร์เรอัล" ส่วนแชมป์เก่า "เชลซี" ชน "ยูเวนตุส" ในกลุ่ม H

ช่วงกลางดึกวันพฤหัสบดี (26 ส.ค.) ที่ผ่านมาตามเวลาไทย ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก (ยูซีแอล) ประกาศผลจับสลากรอบแบ่งกลุ่ม ฤดูกาล 2021-22 ที่นครอิสตันบูลของตุรกี ปรากฏว่า ทีมในแต่ละกลุ่มน่าดูไม่แพ้กัน โดยเฉพาะกลุ่ม B ที่เรียกได้ว่า "กรุ๊ปออฟเดธ" ประกอบด้วย "แอตเลติโก มาดริด" "ลิเวอร์พูล" "ปอร์โต" และ "เอซี มิลาน"

ขณะที่กลุ่ม A จะเป็นการดวลกันระหว่าง 2 ทีมมหาเศรษฐีน้ำมันอย่าง "ปารีส แซงต์ แชร์กแมง" (เปแอสเช) สังกัดใหม่ของ "ลิโอเนล เมสซี" จอมทัพอาร์เจนไตน์ กับแมนเชสเตอร์ ซิตี ของ "เปป กวาร์ดิโอลา" อดีตบอสของเมสซีสมัยอยู่บาร์เซโลนา ส่วนเพื่อนร่วมกลุ่มอีก 2 ทีมคือ แอร์เบ ไลป์ซิก และ คลับ บรูช

ด้านแชมป์เก่า "เชลซี" ร่วมกลุ่ม H กับยูเวนตุสของ "คริสเตียโน โรนัลโด" ดาวเตะโปรตุเกส และอีก 2 ทีมคือ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก และ มัลโม


ส่วน "ปิศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ล้างตานัดชิงศึกยูโรปาลีกครั้งล่าสุดกับ "บียาร์เรอัล" โดยจะร่วมกลุ่มเดียวกับ อตาลันตา และยัง บอยส์

สำหรับนัดแรกของรอบแบ่งกลุ่ม จะเริ่มต้นแข่งขันกันตั้งแต่ในคืนวันที่ 14 ก.ย. เป็นต้นไป ส่วนเกมสุดท้ายของรอบนี้จะแข่งกันในคืนวันที่ 8 ธ.ค.

สรุปผลการแบ่งสาย ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก 2021-2022 รอบแบ่งกลุ่ม มีดังนี้

กลุ่ม A : แมนเชสเตอร์ ซิตี (อังกฤษ), ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (ฝรั่งเศส), แอร์เบ ไลป์ซิก (เยอรมัน), คลับ บรูช (เบลเยียม)

กลุ่ม B : แอตเลติโก มาดริด (สเปน), ลิเวอร์พูล (อังกฤษ), ปอร์โต (โปรตุเกส), เอซี มิลาน (อิตาลี)


ลุ่ม C : สปอร์ติง ลิสบอน (โปรตุเกส), โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (เยอรมัน), อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม (ฮอลแลนด์), เบซิคตัส (ตุรกี)

กลุ่ม D : อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี), เรอัล มาดริด (สเปน), ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค (ยูเครน), เชอริฟฟ์ ติราสโพล (มอลโดวา)

กลุ่ม E : บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมัน), บาร์เซโลนา (สเปน), เบนฟิกา (โปรตุเกส), ดินาโม เคียฟ (ยูเครน)

กลุ่ม F : บียาร์เรอัล (สเปน), แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (อังกฤษ), อตาลันตา (อิตาลี), ยัง บอยส์ (สวิตเซอร์แลนด์)

กลุ่ม G : ลีลล์ (ฝรั่งเศส), เซบีญา (สเปน), เรดบูลส์ ซัลซ์บวร์ก (ออสเตรีย), โวล์ฟสบวร์ก (เยอรมัน)

กลุ่ม H : เชลซี (อังกฤษ), ยูเวนตุส (อิตาลี), เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก (รัสเซีย), มัลโม (สวีเดน)
#3150


นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดทุนไทย ยังมีความน่าสนใจดึงดูดนักลงทุนสถาบัน โดยเฉพาะต่างประเทศ   เนื่องจากส่วนตัวเชื่อว่า บริษัทจดทะเบียนในไทย (บจ.) มีความแข็งแกร่ง ด้วยความสามารถออกไปทำธุรกิจในต่างประเทศ  พบว่า มีบจ. สัดส่วน 47% ที่มีรายได้จากต่างประเทศและมีหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรมเป็นกลุ่มชั้นนำระดับโลก  เช่น กลุ่มเกษตร,ปิโตรเคมี ,อาหาร,การค้า,สาธารณสุข และการท่องเที่ยว 

อีกทั้งแม้แต่ธุรกิจดังเดิมก็มีการปรับตัวได้อย่างรวดเร็วและทันต่อสถานการณ์  โดยเฉพาะในช่วงวิกฤติโควิด  สะท้อนจากผลการดำเนินงานของบจ.ในช่วงครึ่งปีแรก 2564 ที่ให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีและระบบพลังงานหมุนเวียนมาปรับใช้                                

รวมถึงบจ.ยังให้ความสำคัญกับการทำ ESG เข้ามาช่วยในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งเป็นกระแสที่นักลงทุนทั่วโลกตระหนักและตื่นตัวเพราะเป็นเทรนด์ที่ช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืนในอนาคต


นายภากร กล่าวว่า สำหรับแผนงานของตลท.วางเป้าหมายใช้ตลาดทุนไทยเป็นตัวกลางดึงดูดเงินลงทุนต่างชาติเข้ามามากขึ้น  ขณะนี้ ตลท. อยูู่ระหว่างการหารือกับ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. เพื่อศึกษาหาแนวทางหรือเอื้อให้บริษัทต่างชาติเดินหน้าเข้ามาระดมทุนในประเทศไทยได้สะดวกมากขึ้น 

รวมถึงผลักดัน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายที่เป็น New S – Curve เข้ามาระดมทุนในตลาดทุนไทยมากขึ้น หลังจากออกประกาศหลักเกณฑ์ไปแล้ว ซึ่งคาดว่าปลายปีนี้น่าจะธุรกิจเป็น   New S – Curve ยื่นไฟล์ลิ่งเข้ามาบ้างและน่าจะเห็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นในปีหน้า 

นอกจากนี้ตลท.ยังมีความคิดที่จะเอาผลิตภัณฑ์การลงทุนในต่างประเทศเข้ามาบริการให้แก่นักลงทุนไทยมากขึ้น เพื่อกระจายความเสี่ยงให้กับผู้ลงทุนได้เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย 

นายภากร กล่าวว่า การจัดงาน "Thailand Focus 2021 : Thriving in the Next Normal" ระหว่าง 25-27 ส.ค.2564   ในปีนี้ถือว่ามีผู้ลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทะเบียนร่วมงาน 110 ราย หรือเพิ่มขึ้น จากปีก่อนที่มีราว 88 ราย พบว่า ผู้ลงทุนส่วนใหญ่สัดส่วน50% ยังคงมาจากสิงคโปร์และฮ่องกง ที่เหลืออีกราว 50%  ยังคงมาจากสหราชอาณาจักร,สหรัฐฯ  แต่พบว่ามีประเทศใหม่ๆในภูมิภาคอาเซียนที่ให้ความสนใจ เช่น มาเลเซีย,อินโดนีเซีย และเวียดนาม อีกทั้งผู้ลงทุนสถาบันให้ความสนใจบจ.ในตลาดหลักทรัพย์ mai มากขึ้น

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม  ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซียพลัส กล่าวว่า จากการศึกษาการจัดงานไทยแลนด์โฟกัส 5 ครั้งที่ผ่านมา มีโอกาส 80% ที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นมาในช่วงที่จัดงาน  หลังจากที่ผ่านช่วงจัดงานไปแล้ว ก็ปรับตัวลดลง ซึ่งในการจัดงานรอบปีนี้ มองว่า ยังมีโอกาสสูงที่ตลาดหุ้นไทยขึ้น  เพราะสภาพแวดล้อมไม่ได้มีปัจจัยลบเพิ่มเติม

สำหรับดัชนีหุ้นไทยปรับขึ้นมาทดสอบ 1,600จุด ต่อเนื่องเป็นวันที่สอง ซึ่งปิดตลาดวานนี้ ( 25 ส.ค.)ที่ระดับ 1,600.49 จุด เพิ่มขึ้น 13.51 จุดหรือเพิ่มขึ้น0.85%มูลค่าการซื้อขาย 92,934.26 ล้านบาท  แต่ปัจจัยที่ทำให้เงินลงทุนต่างชาติกลับเข้ามา ยังขึ้นกับยอดผู้ติดเชื้อรายวันลดลงต่อเนื่องและการประชุมเฟดรอบวันที่ 26-28 ส.ค.นี้

วานนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 3,606.64 ล้านบาท ซึ่งซื้อติดต่อกัน 3 วันทำการ
#3151


ดรูว์ บรีส์ ควอเตอร์แบ็ก นิว ออร์ลีนส์ เซ็นต์ส รีไทร์อย่างเป็นทางการ ปลายทางต่อไปของเขา แน่นอนว่าย่อมเป็น "โปร ฟุต. ฮอลล์ ออฟ เฟม" ที่แคนตัน รัฐโอไฮโอ อดีตและความทรงจำเก่าๆ ไม่ได้ช่วยให้แฟรนไชส์ขับเคลื่อนไปข้างหน้า ยามถึงเวลา ชอน เพย์ตัน เฮดโค้ช ต้องตัดสินใจว่า ใครจะยืนอยู่หลังแนววางลูก ก่อนเปิดฤดูกาลปกติ 2021-22 วันที่ 12 กันยายน

อีกไม่ช้า การแข่งขันสัปดาห์ 1 พบ กรีน เบย์ แพ็คเกอร์ส จะถึงกำหนดคิกออฟ ดังที่เรียนไว้แล้วว่า เพย์ตัน จะต้องตัดสินเลือกควอเตอร์แบ็กตัวจริง ระหว่าง เจมีส วินสตัน ซึ่งย้ายจาก แทมปา เบย์ บัคคาเนียร์ส มาเรียนรู้งานกับ บรีส์ ตลอดซีซันที่แล้ว กับ เทย์ซัม ฮิลล์

พิจารณาผลงานช่วงพรีซีซันของ วินสตัน เกมเอาชนะ แจ็คสันวิลล์ จากัวร์ 23-21 เห็นได้ชัดว่า นี่คือสิ่งที่ควอเตอร์แบ็ก ซึ่งกำลังแย่งชิงตัวจริงต้องพิสูจน์ และมีฝีมือเพียงพอทดแทน บรีส์ จอมทัพผู้รับใช้แฟรนไชส์มายาวนาน 15 ปี (2006-2021) หลังขว้างคอมพลีต 9 จาก 10 ครั้ง ระยะ 123 หลา 2 ทัชดาวน์ เซ็นต์ส ทำสกอร์ 2 จาก 3 ไดรฟ์การบุก ซึ่งเขาถูกส่งลงสนาม

นอกเหนือจากสถิติบน Box Score วินสตัน ทำ 2 ทัชดาวน์ จากการขว้างแนวลึก สกอร์แรก 43 หลา กับ สกอร์ที่สอง 27 หลา ซึ่งเป็นจุดที่กองเชียร์ "นักบุญ" ไม่ได้เห็นบ่อยนัก เนื่องจากพลังแขนของ บรีส์ ถดถอยตามสังขาร ตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา จบเกม นัมเบอร์วันดราฟต์ปี 2015 กล่าว "คอมพลีต คือ สิ่งสำคัญสุด แต่คุณไม่สามารถปล่อยโอกาสหลุดลอย เมื่อถึงจังหวะเหมาะสม (มาร์เกวซ) คัลลาเวย์ สร้าง 2 บิ๊กเพลย์ เมื่อโอกาสมาถึง"

ย้อนอดีต วินสตัน วัย 27 ปี สมัยเป็นขุนพล แทมปา เบย์ บัคคาเนียร์ส ซีซันสุดท้าย (2019) มีทั้งสถิติที่ดีและน่าผิดหวัง ขว้าง 33 ทัชดาวน์ เสีย 30 อินเทอร์เซ็ปต์ เป็นเหตุให้ถูก แทมปา เบย์ ปล่อยทิ้ง แล้วดึง ทอม เบรดี ควอเตอร์แบ็กสิงห์เฒ่า มาขับเคลื่อนทีมบุก กระทั่งคว้าแชมป์ ซูเปอร์โบว์ล จากนั้น เซ็นต์ส เป็นทีมที่รับเซ้ง จ่ายค่าจ้าง 1.1 ล้านเหรียญ (ประมาณ 36 ล้านบาท) เพื่อนั่งเฉยๆ แล้วเรียนรู้จาก บรีส์

หาก วินสตัน รักษาความสม่ำเสมอ และความแม่นยำ เขาอาจแสดงให้เห็นถึงฟอร์มระดับรางวัล "ไฮส์แมน โทรฟี" สมัยเล่นให้มหาวิทยาลัย ฟลอริดา สเตท หากล้มเหลว ก็ยังจัดว่าเป็นความเสี่ยงราคาถูก ตามค่าจ้าง 12 ล้านเหรียญ (ราว 390 ล้านบาท) เฉพาะฤดูกาล 2021

ถึงแม้ความจริงว่า ผลงานพรีซีซันกับ จากัวร์ ซึ่งมีสถิติ ชนะ 1 แพ้ 15 ฤดูกาลที่แล้ว ไม่สามารถบ่งชี้อะไรได้ชัดเจน แต่ก็ไม่ได้มิอาจปฏิเสธได้ว่า วินสตัน ก้าวหน้ากว่าสมัยอยู่ บัคคาเนียร์ส กรณีไม่มีสาเหตุอื่นๆ มันน่าจะถึงบทสรุปของประเด็นถกเถียงว่า ใครคือคนที่ เพย์ตัน ควรมอบตำแหน่งตัวจริง เมื่อเข้าสู่เรกูลาร์ ซีซัน

สัปดาห์แรกของการอุ่นเครื่อง วินสตัน ขว้างคอมพลีต 7 จาก 12 ครั้ง ระยะ 96 หลา 1 ทัชดาวน์ เสีย 1 อินเทอร์เซ็ปต์ พบ บัลติมอร์ เรฟเวนส์ เปิดโอกาสแก่คู่แข่งอย่าง ฮิลล์ ผู้เล่นสารพัดประโยชน์ ซึ่ง เพย์ตัน มักเรียกใช้งาน ในเพลย์ที่คาดไม่ถึง สมัย บรีส์ เป็นตัวจริงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สำแดงฝีมือในฐานะควอเตอร์แบ็กบ้าง

อย่างไรก็ตาม ฮิลล์ กลับโชว์ฟอร์มไม่ออก เกมพรีซีซันสัปดาห์ที่ 2 พบ จากัวร์ส ขว้างคอมพลีต 11 จาก 20 ครั้ง ระยะ 138 หลา 1 ทัชดาวน์ ถูกทำโทษข้อหาเจตนาขว้างทิ้ง และเกมบุกดูติดๆ ขัดๆ แม้ว่าจะสร้างเพลย์สวยๆ ช่วงควอเตอร์ 3 ยืนปักหลักขว้างทัชดาวน์เจาะด้านซ้ายอย่างแม่นยำ แต่ไม่น่าจะไม่มีใครตั้งข้อสงสัยว่า ใครโดดเด่นกว่ากัน

ปัจจุบัน วินสตัน คือ ตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า ด้วยการทำหน้าที่ควอเตอร์แบ็กอย่างเป็นธรรมชาติ และเทิร์นโอเวอร์ที่เกิดขึ้น สมัยอยู่ บัคคาเนียร์ส แลกมาด้วยระยะมากกว่า 5,000 หลา และทัชดาวน์ ผิดกับ ฮิลล์ ที่เปรียบเสมือนอาวุธลับของทีมบุก ในการขว้าง, วิง หรือรับ.

สำหรับผลการอุ่นเครื่องกับ จากัวร์ส อาจเกิดคำถามขึ้นว่า วินสตัน คือ จอมทัพคนใหม่ หรือ แค่เจอคู่แข่งด้อยกว่า จะถูกตัดสินด้วยสถิติของ เซ็นต์ส ตลอดฤดูกาลปกติ 2021 ซึ่งจะเริ่มขึ้นวันที่ 12 กันยายน แต่ถ้าจะฟันธงว่า ใครจะเป็นตัวจริงเกมเปิดซีซัน ตอนนี้ก็ต้องเลือก วินสตัน
#3152
ในแต่ละวันเราล้วนต้องสูญเสียความชุ่มชื้นใต้ชั้นผิวจากสาเหตุต่าง ๆ มากมาย ทั้งเรื่องของสภาพอากาศ แสงแดด การใช้ชีวิตในห้องแอร์ ไปจนถึงมลภาวะที่ต้องเผชิญ เป็นธรรมดาที่หนุ่มสาวทุกวัยต้องเผชิญกับ "ปัญหาผิวแห้ง" ต้นเหตุแห่งริ้วรอย ต้นตอของผิวหยาบกร้านไม่นุ่มเนียนสวยงาม 





เพื่อชดเชย "น้ำ" ที่ต้องสูญเสีย คุณจึงต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อดูแลความชุ่มชื้นให้ผิวหน้าอย่างพิถีพิถัน ขอแนะนำ "Ultra Facial Cream" มอยส์เจอร์ไรเซอร์ สูตรเข้มข้น รุ่นขายดีจาก Kiehl's ตัวช่วยเสริมความชุ่มชื้นยาวนาน 24 ชั่วโมงที่ครองใจผู้ใช้มาแล้วทั่วโลกด้วยยอดขายกว่า 40 ล้านกระปุก 


ผลลัพธ์ทรงประสิทธิภาพที่ผู้ใช้วางใจ
จากผลการทดสอบทางคลินิก มอยส์เจอร์ไรเซอร์ผิวแห้งสามารถช่วยดูแลให้ผิวกักเก็บความชุ่มชื้นพร้อมฟื้นบำรุงสุขภาพผิวได้ดีขึ้นภายหลังการใช้เพียง 1 สัปดาห์ ผู้ใช้กว่า 33% รู้สึกได้ว่าผิวนุ่มขึ้น และอีกกว่า 18% สามารถสัมผัสได้ว่าผิวแลดูเรียบเนียนขึ้นกว่าเดิม 

คุณสมบัติของ Kiehl's moisturizer 
-ช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวและกักเก็บน้ำได้ยาวนานตลอด 24 ชั่วโมง — ด้วย 3 ส่วนผสมสำคัญสูตรเข้มข้น Ultra Facial Cream คือผลิตภัณฑ์ที่สามารถดูแลผิวให้กักเก็บความชุ่มชื้นได้ยาวนาน 

โดยส่วนผสมที่ Kiehl's เลือกใช้ ได้แก่ "แอนตาร์กติซีน" หรือสารสกัดจากกลาเซีย เป็นไกลโคโปรตีนจากสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่พบได้ในแอนตาร์กติกา มีคุณสมบัติเด่นคือช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวแห้งกลับมามีชีวิตชีวา อีกทั้งยังมีการใช้ "กลีเซอรีนจากพืช" ได้แก่ ปาล์ม rapeseed และมะพร้าว ช่วยกระตุ้นให้ผิวสามารถกักเก็บน้ำไว้ได้ดีขึ้น ทำให้ผิวชั้นนอกมีความยืนหยุ่น พร้อมทำหน้าที่เป็นเกราะปราการป้องกันการสูญเสียน้ำไม่ให้ออกจากชั้นผิวได้ดีเยี่ยม 

นอกจากนี้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ Kiehl's ยังใช้ส่วนผสมจาก "สควาเลน" หรือน้ำมันสกัดจากผลมะกอกพืชพรรณธรรมชาติคุณภาพเยี่ยม มีคุณประโยชน์ต่อผิวพรรณมากมาย และมีคุณสมบัติซึมซาบลงสู่ผิวได้รวดเร็วฉับไว ช่วยเปลี่ยนผิวอ่อนแอเป็นผิวแข็งแรงได้หลังการใช้ได้ในทันที

-เนื้อมอยส์เจอร์ไรเซอร์ จากแบรนด์ Kiehl's เข้มข้นแต่ไม่เหนอะหนะ เหมาะกับทุกสภาพผิว — แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นครีมบำรุงผิวสูตรเข้มข้น มีลักษณะเนื้อครีมเป็นครีมสีขาวเข้มข้น ไม่มีสีและไม่มีกลิ่น แต่เมื่อใช้ทาลงบนผิวหน้าจะพบว่าสามารถเกลี่ยง่าย ไม่เหนียวเหนอะและซึมซาบลงสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว สามารถใช้ทาได้ทั้งในตอนกลางวันไม่ทำให้หน้ามัน เครื่องสำอางหลุดเลอะ ไม่ทำให้รู้สึกหนาหนัก และใช้ได้ในช่วงกลางคืนช่วยให้คุณตื่นรับเช้าวันใหม่อย่างรู้สึกดีด้วยผิวหน้าชุ่มฉ่ำไม่แห้งเจ็บแม้นอนหลับในที่ที่มีอากาศเย็นหรือในห้องแอร์
 
#3153


กรมวิชาการเกษตร ร่วมกับสมาคมการค้านวัตกรรมเพื่อการเกษตรไทย และ ครอปไลฟ์ เอเชีย จัดการฝึกอบรมหลักสูตร "การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี อากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรน ทางการเกษตร (UAV) และ การประมวลผลภาพ (Image processing)" เพื่อสร้างความเข้าใจในกฎระเบียบของเทคโนโลยี UAV ทางการเกษตรในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งเรียนรู้การใช้เทคโนโลยีอย่างถูกต้องและปลอดภัยในระดับสากล สามารถนำทักษะมาประยุกต์ใช้ในการทำเกษตรอัจฉริยะ เสริมอาชีพ สร้างความปลอดภัย พร้อมก้าวสู่การเป็นเกษตรอัจฉริยะ โดยมีผู้ให้ความสนใจเข้าร่วมงานในระดับเอเชีย มากกว่า 1,200 คน ประกอบด้วย นักวิจัยภาครัฐ/เอกชน เกษตรกร ผู้ประกอบการ Start up ด้านการเกษตร นิสิต/นักศึกษา



นายศรุต สุทธิอารมณ์ ผู้อำนวยการสำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช เปิดเผยว่า จากแนวทางนโยบายประเทศไทย 4.0 ที่เน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ด้วยการนำนวัตกรรม/เทคโนโลยีในภาคเกษตรกรรมของประเทศและของโลก มาถ่ายทอดให้เกษตรกรและผู้ที่สนใจเพื่อนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งการผลิตและการต่อยอดงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร จึงได้ร่วมกับสมาคมการค้านวัตกรรมเพื่อการเกษตรไทย และ ครอปไลฟ์ เอเชีย จัดการฝึกอบรมหลักสูตร "การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี อากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรน ทางการเกษตร (UAV) และ การประมวลผลภาพ (Image processing)" ขึ้นเพื่อสร้างความเข้าใจในกฎระเบียบของเทคโนโลยี UAV ทางการเกษตรในประเทศและต่างประเทศ อีกทั้งเรียนรู้การใช้เทคโนโลยีอย่างถูกต้องและปลอดภัยในระดับสากล โดยหลักสูตรการฝึกอบรมให้ความรู้แก่ผู้เข้ารับการฝึกอบรมใน 4 หัวข้อหลัก ได้แก่

- การศึกษาข้อบังคับและกฎหมายของการใช้โดรน ผู้ใช้โดรนจะได้ทราบขั้นตอนและวิธีการขึ้นทะเบียนโดรนเกษตร การขออนุญาตใช้คลื่นความถี่สำหรับอากาศยานไร้คนขับ และพ.ร.บ.วัตถุอันตรายทางการเกษตร
- การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Image Processing กับงานด้านอารักขาพืช เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตพืชด้วยการใช้โดรนทางการเกษตร กรณีการศึกษาการเข้าทำลายของไรแดงแอฟริกันในทุเรียน ที่ถูกยกเป็นกรณีศึกษาให้ผู้เข้าอบรม
- การใช้งานและการประยุกต์ใช้ UAV ทางการเกษตร โดยการวางกฎระเบียบการใช้ โดรนด้านการเกษตร แลกเปลี่ยนมุมมองภาคอุตสาหกรรมต่อการพัฒนาโดรน และการปฏิบัติงานด้านความปลอดภัยจากประสบการณ์จริง
- การศึกษาเทคนิคการพ่นสารป้องกันกำจัดศัตรูพืชด้วยโดรนการเกษตร เพื่อเป็นอาวุธลับให้เกษตรกรและผู้ใช้โดรน สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการทำเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย



อากาศยานไร้คนขับ หรือ UAV เข้ามามีบทบาททางการเกษตรในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น เป็นเครื่องมือที่เกษตรกร หรือนักวิจัย ใช้ในกระบวนการการผลิตและวิจัย เพื่อรองรับการขับเคลื่อนภาคการเกษตรของประเทศไทย ในยุคที่เทคโนโลยีหรือนวัตกรรมเข้ามาสร้างตลาดและมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ด้านการเกษตร กรมวิชาการเกษตรพยายามขับเคลื่อนนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาเป็นเครื่องมือในการพัฒนาภาคการเกษตร อาทิการใช้เซนเซอร์ชนิดต่างๆ เช่น กล้อง RGB กล้อง MULTISPECTRAL เซนเซอร์ตรวจวัดสภาพแวดล้อม ตรวจวัดดิน/น้ำ พร้อมทั้งปรับรูปแบบของการบันทึกและการจัดเก็บข้อมูล ให้อยู่ในรูปแบบของ Digital Data บน Platform เดียวกัน เพื่อการเชื่อมโยงงานด้านการเกษตรเข้ากับงานด้านไอที และเครื่องจักรกลการเกษตร นำไปสู่การประมวลผลและสั่งการการทำงานของอุปกรณ์/เครื่องจักรกลการเกษตร ซึ่งการอบรมครั้งนี้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของ Digital Transformation จากภาคการเกษตร สำหรับการเตรียมความพร้อมของนักวิจัย เกษตรกร ผู้ประกอบการ ในการเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนภาคการเกษตรไทยให้มีศักยภาพแข่งขันในตลาดโลก นายศรุต กล่าวสรุป



ด้าน นาย เจอริโก เบอนาบี แกสกอน นายกสมาคมการค้านวัตกรรมเพื่อการเกษตรไทย กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นอู่ข้าวอู่น้ำที่อุดมสมบูรณ์ เป็นที่ทำกินของคนในประเทศ และเป็นหัวใจหรือหลอดเลือดของเกษตรกร จากอดีตจนถึงปัจจุบันเกษตรกรมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมากมาย มีการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เป็นตัวช่วยให้การทำงานรวดเร็ว และสะดวกสบายมากยิ่ง จวบจนปัจจุบัน "โดรน" หรือ อากาศยานไร้คนขับ เป็นเทคโนโลยีที่กำลังได้รับความนิยมในภาคอุตสาหกรรมเกษตร มีบทบาทสำคัญที่ทำให้เกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรม ครั้งที่ 4 นำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาผสมกับโลกการผลิตให้เป็นจริงในระดับประเทศ ในยุคของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดรนกลายเป็นกุญแจสำคัญที่สามารถนำประโยชน์มาสู่เกษตรกรอย่างมากมาย เช่น การประหยัดแรงงาน ลดการสัมผัสของผู้ปฏิบัติงาน ลดต้นทุนของเกษตรกร มีความคุ้มทุน คล่องตัว รวดเร็ว ประหยัดเวลา รวมทั้งมีความแม่นยำและลดความสูญเสียได้มากยิ่งขึ้น ตลอดจนทำให้ผลผลิตของเกษตรกรมีคุณภาพ สามารถสร้างรายได้ให้ผู้ใช้โดรนอีกด้วย และในอนาคต "โดรน" อาจเป็นหนึ่งในตัวช่วยสำคัญของเกษตรกรไทย ที่ทำให้ทุกคนให้มั่นใจว่าเทคโนโลยีนี้จะใช้งานได้อย่างมีความรับผิดชอบและมีประสิทธิภาพอย่างแน่นอน



ทั้งนี้ เป้าหมายในการฝึกอบรมดังกล่าว คือ ทำให้ทุกคนได้เรียนรู้เกี่ยวกับกฎระเบียบและการขึ้นทะเบียน ความปลอดภัย ตลอดจนการนำเทคโนโลยี และภาควิชาการของโดรนทางการเกษตรไปใช้ในทุกแง่มุม จำเป็นต้องเกิดจากความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ครอปไลฟ์ เอเชีย กำลังผนึกกำลังกับรัฐบาลทั่วเอเชีย ในการเพิ่มความรู้และความเข้าใจในเทคโนโลยีทางการเกษตร ขณะเดียวกันยังมุ่งมั่นในการสานต่อความร่วมมือกับรัฐบาลไทยและผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งมอบเทคโนโลยีโดรนให้กับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เกษตรกร รวมทั้งนักศึกษาหรือผู้ว่างงานได้นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด สามารถเสริมสร้างอาชีพ เกิดรายได้ พร้อมก้าวเข้าสู่การเป็น "เกษตรอัจฉริยะ (Smart Agriculture)" อย่างมีประสิทธิภาพได้ในวงกว้าง นาย เจอริโก กล่าวทิ้งท้าย



สำหรับผู้สนใจหลักสูตร "การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี อากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรนทางการเกษตร (UAV)" รวมถึงการขอข้อมูลเกี่ยวกับโดรนทางการเกษตรในงานด้านอารักขาพืช สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มงานวิจัยการใช้สารป้องกันกำจัดศัตรูพืช กลุ่มกีฏและสัตววิทยา สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช กรมวิชาการเกษตร โทร 02-579-4115, 02-579-1061 ต่อ 162 หรือ ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ https://web.facebook.com/PATRS.DOA/ และสมาคมการค้านวัตกรรมเพื่อการเกษตรไทย ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ https://www.facebook.com/taitacroplifethailand
#3154


ซัมซุง เปิดให้สั่งซื้อ Galaxy Z Fold3 | Filp3 5G ล่วงหน้าตั้งแต่วันนี้ ด้วยข้อเสนอจากโอเปอเรเตอร์ เริ่มต้นเดือนละ 1,790 บาท พร้อมรับคูปองเงินสดมูลค่าสูงสุด 6,000 บาท เมื่อจองผ่านเว็บไซต์ซัมซุง และร้านค้าที่ร่วมรายการเพื่อใช้เป็นส่วนลดซื้ออุปกรณ์เสริมเพิ่มเติม

โดย Galaxy Z Fold3 5G สมาร์ทโฟนที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ครั้งแรกที่รองรับ S Pen ทำให้สามารถจดโน้ตขณะที่วิดีโอคอลได้ในเวลาเดียวกัน บนหน้าจอขนาดใหญ่ 7.6 นิ้ว พร้อมเทคโนโลยีกล้องซ่อนใต้จอ ทำให้ดูคอนเทนต์ได้เต็มอิ่มไม่มีจุดรบกวนสายตา

รวมถึงยังตอบโจทย์คนที่ชอบทำหลายอย่างในเวลาเดียวกับการเปิดใช้งาน 3 แอปได้พร้อมกัน โดยสมาร์ทโฟนรุ่นนี้มาในดีไซน์ที่บางและเบาลง ถือใช้งานมือเดียวได้สะดวกขึ้น พร้อมมาใน 3 สีคลาสสิค อย่าง สีดำ Phantom Black สีเขียว Phantom Green และ สีเงิน Phantom Silver ในราคาที่เข้าถึงได้มากขึ้น ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 57,900 บาท 
ส่วน Galaxy Z Flip3 5G สมาร์ทโฟนที่รวมฟังก์ชันและแฟชันมาไว้ในเครื่องเดียว มีให้เลือกถึง 4 สี ครีม ดำ เขียว ม่วง เมื่อพับแล้วมีขนาดเล็กกะทัดรัด พกพาใส่กระเป๋าได้สะดวก และยังมาพร้อมจอด้านนอกที่ใหญ่กว่ารุ่นก่อนถึง 4 เท่า ทำให้เช็คข้อความต่างๆ ได้ง่ายโดยไม่ต้องกางเครื่องออก พร้อมตั้งถ่ายภาพทั้งเซลฟี่และกรุ๊ปช็อตได้แบบแฮนด์ฟรี เหมือนมีขาตั้งกล้องส่วนตัว โดยมาในราคาเริ่มต้น 34,900 บาท

ผู้ที่ซื้อผ่าน Samsung.com นอกจากจะได้คูปองเงินสดแล้ว ยังสามารถเลือกผ่อนชำระ ในอัตราดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 15 เดือน เริ่มต้นเพียง 2,327 บาทต่อเดือน และยังได้รับ Samsung Care+ มูลค่า 7,089 บาท รวมประกันความเสียหายต่อตัวเครื่องอันเกิดจากอุบัติเหตุ (ประกันหน้าจอแตก เครื่องตกแตก และความเสียหายจากน้ำ) ภายใน 1 ปี นับจากวันที่ได้รับเครื่องรวมถึงบริการส่งช่างเทคนิคถึงบ้าน ทำให้ใช้งานได้อย่างอุ่นใจ

พิเศษ กับแคมเปญเก่าแลกใหม่ นำสมาร์ทโฟนเครื่องเก่ามาประเมินราคาซื้อคืนได้ ในราคาเกรด A แม้สภาพไม่สมบูรณ์ ที่samsung.com, Samsung Experience Store และร้านค้าที่ร่วมรายการ พร้อมรับส่วนลดเพิ่ม 2,000 บาท จากราคาเครื่องเก่าปกติ เมื่อนำรุ่นที่ร่วมรายการมาแลก และยังนำเครื่องเก่ามาขายรวมกันสูงสุดได้ถึง 3 เครื่อง
#3155


วันนี้ (23 ส.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า บริษัท บางกอก สมาร์ทการ์ด ซิสเทม จำกัด (BSS) ในกลุ่มบริษัทบีทีเอส ได้เปิดตัวแอปพลิเคชัน มายแรบบิท (My Rabbit) สำหรับผู้ถือบัตรแรบบิท ให้สามารถเช็กยอดเงินคงเหลือ เติมเงินบัตรแรบบิท เช็กรายการใช้งานล่าสุด และลงทะเบียนยืนยันตัวเองได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องไปจุดบริการ หรือสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสอีก

สำหรับผู้ใช้งานแอปพลิเคชัน My Rabbit จำเป็นต้องมีโทรศัพท์มือถือที่รองรับฟังก์ชัน NFC ระบบปฏิบัติการ iOS 13 หรือ Android 8 ขึ้นไป โดยดาวน์โหลดผ่าน App Store หรือ Google Play ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สำหรับสมาชิกแรบบิท รีวอร์ด (Rabbit Reward) สามารถใช้อีเมลและรหัสผ่าน เพื่อตั้งรหัสเข้าใช้งาน (Passcode) 6 หลักเพื่อเข้าสู่ระบบได้

การตรวจสอบยอดเงินคงเหลือในบัตร จำเป็นต้องนำบัตรแรบบิทตัวจริงมาแตะที่โทรศัพท์มือถือเพื่อทำรายการ เช่นเดียวกับการเติมเงิน ปัจจุบันรองรับ 2 ธนาคาร ได้แก่ แอปพลิเคชัน Bualuang mBanking ธนาคารกรุงเทพ และ SCB Easy ธนาคารไทยพาณิชย์ เติมเงินขั้นต่ำ 100 บาท โดยมูลค่ารวมต้องไม่เกิน 4,000 บาท

โดยการเติมเงินจำเป็นต้องแตะบัตรแรบบิทที่โทรศัพท์มือถือก่อน เมื่อทำรายการสำเร็จ ต้องแตะบัตรแรบบิทที่โทรศัพท์มือถืออีกครั้งเพื่อให้เงินจากระบบ Mobile Banking ของธนาคารนำเงินเข้าสู่บัตรแรบบิท โดยสามารถเติมเงินได้ 3 ครั้งต่อวัน

อย่างไรก็ตาม แอปพลิเคชัน My Rabbit สามารถผูกบัตรแรบบิท ได้ครั้งละ 1 ใบต่อบัญชี My Rabbit เท่านั้น หากต้องการเปลี่ยนบัตรแรบบิทที่ได้ทำการลงทะเบียนยืนยันตัวตนและผูกกับบัญชี My Rabbit เรียบร้อยแล้ว สามารถทำการเปลี่ยนบัตรใบใหม่ได้หลังจากที่ผูกบัตรเสร็จเรียบร้อยแล้ว และสามารถนำบัตรใบเดิมกลับมาผูกบัญชีเดิมได้เช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม ไม่สามารถนำบัตรแรบบิทของผู้อื่นมาผูกเข้ากับบัญชี My Rabbit ได้ รวมทั้งไม่สามารถเติมเงินเข้าบัตรแรบบิทของผู้อื่น ผ่านบัญชี My Rabbit ได้ ระบบจะสามารถเติมเงินได้เฉพาะบัตรแรบบิทที่ผูกไว้กับบัญชี My Rabbit เท่านั้น

อนึ่ง สำหรับบัตรแรบบิท เป็นบัตรสำหรับโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส รถเมล์ด่วนพิเศษบีอาร์ที และรถประจำทางสมาร์ทบัส รวมทั้งใช้จ่ายผ่านร้านค้าชั้นนำ ปัจจุบันมีผู้ถือบัตรแรบบิทมากกว่า 14.2 ล้านใบ
#3156


วันนี้ (23 ส.ค.) อาจารย์ นพ.อนวัช เสริมสวรรค์ รองคณบดี คณะแพทยศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ดร.เกรียงศักดิ์ ขาวเนียม ผอ.ฝ่ายวิจัยและพัฒนา บจก.สยามไพรพัฒนา ผู้วิจัยและผลิตฟ้าทะลายโจรขนาดนาโนที่ทำให้สารแอนโดรกราโฟไลด์ (andrographolide) สามารถละลายน้ำได้ 100% และคุณนิวัฒน์ จุมวงษ์ กรรมการผู้จัดการ บจก.เมดิคอล เทลลิเจ้นซ์ ที่เข้ามาสนับสนุนการขับเคลื่อนโครงการวิจัยทางคลินิกเพื่อนำตำรับยาฟ้าทะลายโจรขนาดนาโน จากพืชฟ้าทะลายโจรชนิดพ่นเข้าปอดรักษาภาวะปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

ซึ่งขณะนี้ได้ทำการวิจัยในผู้ป่วยโควิด-19 ที่ติดบ้านเนื่องจากไม่สามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลได้ ผู้ป่วยจำนวนกว่า 100 รายที่อยู่ในสถานะเขียว เหลือง มีผลการรักษาดีทุกราย ส่วนผู้ป่วยสีแดงที่มีภาวะปอดอักเสบ ความเข้มข้นของออกซิเจนต่ำกว่าร้อยละ 95 จำนวนกว่า 20 รายก็ได้ผลลัพธ์ที่ดีเช่นกัน ทางคณะผู้วิจัยได้พบปัญหาแทรกซ้อนที่น่าสนใจคือผู้ป่วยจำนวนหนึ่งที่ได้รับยาฟ้าทะลายโจรนาโนร่วมกับยาฟาวิพิราเวียร์ มีอาการคลื่นไส้อาเจียนรุนแรง และกลับทำให้อาการทางปอดแย่ลง เมื่อหยุดยาฟาวิพิราเวียร์จึงมีอาการดีขึ้น และภาวะปอดอักเสบทุเลาลงใน 5 วัน

การใช้ยาร่วมกันระหว่างฟาวิพิราเวียร์กับฟ้าทะลายโจรเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นทั่วไปทั้งในโรงพยาบาลสนามและที่บ้าน (home isolation) แต่ผลข้างเคียงอาจจะไม่พบมากนัก ทั้งนี้เนื่องจากการใช้ฟ้าทะลายโจรชนิดกินทั่วไป ไม่ละลายน้ำและดูดซึมน้อยกว่าร้อยละ 5 แตกต่างจากฟ้าทะลายโจรขนาดนาโนซึ่งมีสารแอนโดรกราโฟไลด์ที่ละลายน้ำและดูดซึมได้ดีกว่ามาก ทำให้มีระดับยาสูงและทำให้ปฏิกริยาต่อกันกับยาฟาวิพิราเวียร์แสดงออกชัดเจน คณะผู้วิจัยจึงได้สืบค้นข้อมูลที่อาจเป็นสาเหตุของภาวะแทรกซ้อนดังกล่าว และพบว่าเอนไซม์ในตับซึ่งมีหน้าที่เปลี่ยนแปลงสารเคมีหลายชนิดเพื่อการทำลายพิษของยาหรือสารเคมีอาจจะถูกยับยั้งโดยสารแอนโดรกราโฟไลด์ที่มีอยู่ในยาฟ้าทะลายโจร ซึ่งจะส่งผลให้ระดับยาฟาวิพิราเวียร์คั่งค้างสูงผิดปกติจนระดับยาส่วนเกินเพิ่มสูงในกระแสเลือดมากกว่าที่ควรจะเป็น อันเป็นเหตุให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียนอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตามกลไกของการทำให้มีปฏิกิริยาต่อกันของยาทั้งคู่เป็นข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ผู้วิจัยต้องการแจ้งเตือนต่อผู้ป่วยและแพทย์ที่มีการใช้ยาคู่เพื่อความมุ่งหวังผลช่วยเหลือการรักษา อาจเป็นอันตรายต่อผู้ป่วย และไม่แนะนำให้มีการใช้ยาฟ้าทะลายโจรร่วมกับยาฟาวิพิราเวียร์เพื่อการรักษาโควิด-19

นอกจากนี้สมุนไพรที่ใช้กันมากในบ้านเราเช่น ขมิ้น (curcumin) หรือพืชตระกูลขิงก็มีฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ที่อาจส่งผลให้ระดับยาฟาราพิราเวียร์สูงกว่าที่ควรที่จะเป็นด้วย ทางคณะผู้วิจัยจึงไม่แนะนำให้ใช้สมุนไพรดังกล่าวร่วมกับยาฟาวิพิราเวียร์ แต่อาจใช้ในภายหลังเพื่อผลการป้องกันการติดเชื้อในอนาคต การใช้ยาลักษณะหลายชนิดหรือ cocktail treatment จึงควรมีการศึกษาปฏิกิริยาต่อกันของยาหรือที่เรียกเป็นทางการว่าอันตรกิริยาระหว่างยาอย่างถี่ถ้วนก่อนจะนำมาให้กับผู้ป่วย
 
#3157


นางสาวนารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank กล่าวว่า จากที่สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และ SME D Bank ร่วมดำเนินการ "โครงการสนับสนุน SMEs รายย่อย" วงเงิน 1,200 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษ 1% ต่อปี ผ่อนนานสูงสุด 7 ปี ปลอดชำระคืนเงินต้นสูงสุดไม่เกิน 1 ปี ให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีกลุ่มเป้าหมาย คือ กลุ่มธุรกิจโรงแรม ห้องพัก เกสต์เฮ้าส์ และธุรกิจสปาที่ตั้งอยู่ในโรงแรม เกสต์เฮาส์ ใน 10 จังหวัด พื้นที่นำร่องเปิดการท่องเที่ยว และกลุ่มธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร ใน 29 จังหวัด พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด นำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เสริมสภาพคล่อง ลงทุน ขยายกิจกรรม ปรับปรุง ซ่อมแซม ยกระดับมาตรฐานการให้บริการ โดยเปิดแจ้งความประสงค์ยื่นกู้ตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการแจ้งความประสงค์จำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม จากการหารือกับตัวแทนกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีต่าง ๆ เช่น สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย สมาคมภัตตาคารไทย สมาคมผู้ประกอบการร้านอาหาร สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว สมาคมสมาพันธ์ธุรกิจการท่องเที่ยวส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย และสมาคมผู้ค้าปลีกไทย เป็นต้น ทำให้ สสว. และ SME D Bank เล็งเห็นถึงความเดือดร้อนที่ผู้ประกอบการธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว (supply chain) กำลังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างรุนแรง ดังนั้น จึงเปิดกว้างขยายให้ธุรกิจเกี่ยวเนื่องการท่องเที่ยว มีสิทธิ์ยื่นกู้โครงการดังกล่าว ดังนี้
-ธุรกิจโรงแรม ห้องพัก เกสต์เฮาต์ และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว (Supply Chain) ได้แก่ ธุรกิจนำเที่ยว-ทัวร์ ธุรกิจคมนาคมขนส่ง ธุรกิจสปา และธุรกิจค้าส่งค้าปลีก จำหน่ายสินค้าที่ระลึก ธุรกิจนันทนาการ และธุรกิจเพื่อความบันเทิง
-ธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับอาหาร ได้แก่ เครื่องดื่ม ร้านกาแฟ ขนม เบเกอรี่ เป็นต้น
โดยตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดนำร่องเปิดการท่องเที่ยว และจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด รวม 35 จังหวัด ประกอบด้วย 1. กรุงเทพมหานคร 2. กาญจนบุรี 3.ชลบุรี 4.ฉะเชิงเทรา 5. ตาก 6. นครปฐม 7. นครนายก 8. นครราชสีมา 9. นราธิวาส 10.นนทบุรี 11.ปทุมธานี 12.ประจวบคีรีขันธ์ 13.ปราจีนบุรี 14.พระนครศรีอยุธยา 15.เพชรบุรี 16.ปัตตานี 17.เพชรบูรณ์ 18.ยะลา 19.ระยอง 20.ราชบุรี 21.ลพบุรี 22.สงขลา 23.สิงห์บุรี 24.สมุทรปราการ 25.สมุทรสงคราม 26.สมุทรสาคร 27.สระบุรี 28.สุพรรณบุรี 29.อ่างทอง 30.ภูเก็ต 31.กระบี่ 32.พังงา 33.สุราษฎร์ธานี 34.เชียงใหม่ และ 35.บุรีรัมย์ หรือที่จะมีประกาศเพิ่มเติมในอนาคต



สำหรับผู้ประกอบการที่ได้เคยแจ้งความประสงค์ยื่นกู้ในโครงการดังกล่าวเข้ามาแล้ว แต่ธุรกิจไม่อยู่ในกลุ่มเป้าหมายเดิม แต่เข้าค่ายอยู่ในกลุ่มเป้าหมายที่ปรับใหม่ ธนาคารจะนำข้อมูลกลับมาพิจารณา เพื่อพาเข้าสู่กระบวนการอำนวยสินเชื่อต่อไป

ทั้งนี้ เกณฑ์การพิจารณา ยังให้สิทธิ์พิเศษเช่นเดิม โดยดูจากแค่หลักฐานการเสียภาษีในปี 2563 หรือ 2562 ที่ผ่านมา ช่วยให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีกลุ่มเป้าหมายเข้าถึงแหล่งทุนได้ง่ายขึ้น

ด้านคุณสมบัติผู้ยื่นกู้ ต้องเป็นสมาชิก สสว. กรณียังไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับ สสว. สามารถขอขึ้นทะเบียนก่อนได้ ( http://members.sme.go.th/newportal/ ) เป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีกลุ่มรายย่อย (Micro) และขนาดย่อม (Small) ตามนิยามของ สสว. อีกทั้ง ไม่เคยได้รับความช่วยเหลือเงินทุนในโครงการพลิกฟื้นฯ โครงการฟื้นฟูฯ หรือกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ รวมถึง ต้องไม่เป็นหนี้ NPLs ไม่ถูกดำเนินคดี และไม่เป็นบุคคลล้มละลาย ส่วนหลักประกัน บุคคลธรรมดา ใช้บุคคลที่น่าเชื่อถือค้ำประกัน นิติบุคคล ใช้กรรมการผู้มีอำนาจแทนนิติบุคคลค้ำประกัน
วงเงินกู้ สำหรับบุคคลธรรมดา พิจารณาจากการชำระภาษี ภ.ง.ด.90 ในปี 2562 หรือ 2563 ที่สูงกว่า และความเป็นเจ้าของสถานประกอบการ สูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท หากจำนวนเงินที่ชำระภาษี 0-10,000 บาท วงเงินกู้สูงสุด 100,000 บาท , จำนวนเงินที่ชำระภาษี 10,001-20,000 บาท วงเงินกู้สูงสุด 200,000 บาท และจำนวนเงินที่ชำระภาษีมากกว่า 20,000 บาทขึ้นไป วงเงินกู้สูงสุด 300,000 บาท กรณีมีสถานประกอบการเป็นของตัวเองหรือบุคคลในครอบครัว ให้วงเงินเพิ่มอีกลำดับละ 50,000 บาท แต่รวมแล้วสูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท สำหรับนิติบุคคล ไม่เกินร้อยละ 50 ของค่าใช้จ่ายในงบการเงินปี 2562 หรือ 2563 ที่สูงกว่า สูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท

นางสาวนารถนารี เผยด้วยว่า ความคืบหน้าการดำเนินโครงการดังกล่าว นับตั้งแต่เริ่มเปิดแจ้งความประสงค์จนถึงวันที่ 20 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา มียอดแจ้งความประสงค์เข้าเกณฑ์ได้รับอนุมัติสินเชื่อแล้วกว่า 1 ใน 3 ของวงเงินทั้งหมด และเมื่อมีการขยายกลุ่มเป้าหมาย คาดว่า ความต้องการสินเชื่อจะเพิ่มสูงขึ้นไปอีก โดยการพิจารณาจะใช้กระบวนการมาก่อนมีสิทธิ์ก่อน (First Come First Serve) กำหนดปิดรับแจ้งความประสงค์ภายในสิ้นเดือนสิงหาคม 2564 นี้เท่านั้น หรือเมื่อเต็มวงเงิน ดังนั้น ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่สนใจ ขอให้รีบดำเนินการแจ้งความประสงค์โดยเร็ว ก่อนที่วงเงินจะเต็ม ผ่านช่องทางออนไลน์ ได้แก่ สแกน QR Code ในโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์ หรือคลิก https://qrgo.page.link/VF6Ka รวมถึง เว็บไซต์ของ SME D Bank , Line OA : SME Development Bank และแอปพลิเคชั่น : SME D Bank สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 1357
#3158


นายปริญญ์ เสริมพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ร็อคกิงคิดส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เป็นผู้ผลิต และนำเข้าสินค้าคุณภาพผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็ก ซึ่งได้คัดสรร 7 แบรนด์ดังจากประเทศชั้นนำ เช่น อังกฤษ เยอรมนี เกาหลีใต้ และสหรัฐอเมริกา ภายใต้ชื่อแบรนด์ Rocking Kids, Ggumbi, Qtus, Apramo, Unilove, Miniware, Todbi และ​ Bibado  ที่ออกแบบด้วยความรัก ความใส่ใจ โดยคำนึงถึงความปลอดภัย คุณภาพ และประโยชน์สำหรับเด็กๆ ในทุกช่วงพัฒนาการ เปิดเผยว่า "บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจขึ้นปีที่ 6 ก้าวสู่ปีที่ 7 ที่ตั้งสำนักงานใหญ่อยู่ในจังหวัดมหาสารคาม



หัวใจของการจำหน่ายสินค้าแม่และเด็ก เพื่อเป็นผู้ช่วยในการเลี้ยงลูกของคุณแม่ยุคใหม่ให้เป็นเรื่องที่ง่าย เพื่อช่วยให้คุณแม่สามารถ Balance เวลาการเลี้ยงลูกและเวลาส่วนตัวได้อย่างลงตัว แบรนด์ Rocking Kids (ร็อคกิงคิดส์) จึงต้องการสนับสนุนให้คุณแม่สามารถเป็นแม่ที่เก่งและเป็นตัวเองที่ภูมิใจ เน้นคัดสรรสินค้าต่างๆ ที่ช่วยให้การเลี้ยงลูกเป็นเรื่องที่จัดการได้ง่าย สะดวก และสนุกมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงตระหนักเพื่อขอบคุณลูกค้าในปี 2564 นับเป็นปีครบรอบการดำเนินธุรกิจกว่า 6 ปี จึงได้ผุดแผนกิจกรรมการตลาด SOCIAL MARKETING โดยการสร้างต้นแบบของแม่รุ่นใหม่ที่ใส่ใจครอบครัวและตัวเองได้อย่างสมดุล

บริษัทฯ จึงมีความตั้งใจในการจัดกิจกรรมฉลองครบรอบสุดยิ่งใหญ่ครั้งนี้ ภายใต้ชื่อแคมเปญ #เป็นแม่ที่เก่ง เป็นตัวเองที่ภูมิใจ ให้คุณแม่ยุคใหม่ได้รับแรงบันดาลใจจากคอนเทนต์ดีๆ เช่น บทสัมภาษณ์ในข้อคิดต่างๆ ผ่านการนำเสนอรูปแบบวีดีโอสัมภาษณ์ โดยคุณลอร่า-ศศิธร วัฒนกุล คุณแม่ที่สร้างแรงบันดาลใจต้นแบบ นอกจากนี้ยังมีบทเพลงที่มุ่งสร้างพลังใจ ในเพลง Proud Mom #เป็นแม่ที่เก่ง เป็นตัวเองที่ภูมิใจ โดยศิลปิน คาเรน คล่องตรวจโรค ร่วมถ่ายทอดความหมายดีๆ พร้อมทั้งจัดกิจกรรมให้คุณแม่ได้เข้าร่วมประกวด "SHOW YOUR BALANCE BEING MOM-ME CLIP" ถ่ายทอดไลฟ์สไตล์และแนวทางการเลี้ยงลูก นับเป็นการเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้ร่วมสนุกผ่านทางโซเซียลมีเดีย ซึ่งสามารถส่งคลิปแบ่งปันไลฟ์สไตล์การดูแลตัวเอง และการเลี้ยงลูก กติกาสามารถถ่ายคลิปวิดีโอโดยมีความยาวประมาณ 60-120 วินาที แล้วโพสต์คลิปวิดีโอบนหน้า Facebook หรือ Instagram ของตัวเอง เปิดสาธารณะ พร้อมแฮชแท็ก #เป็นแม่ที่เก่งเป็นตัวเองที่ภูมิใจ #rockingkids เพื่อให้ทีมงานตรวจสอบ และร่วมชิงรางวัลมูลค่ากว่า 150,000 บาท ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 30 กันยายน 2564 ประกาศผลรางวัลผ่านทางหน้าแฟนเพจเฟซบุ๊ก www.facebook.com/rockingthailand เท่านั้น 



ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าวต่อไปว่า "ภาพรวมตลาดสินค้าแม่และเด็กยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี นี้ โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าระดับพรีเมียม แม้จำนวนประชากรที่จะเกิดลดน้อยลง แต่ครอบครัวมีการวางแผนและเตรียมตัวมากขึ้นก่อนจะมีลูกและเตรียมงบประมาณในการเลี้ยงดูลูกมากยิ่งขึ้น อีกทั้งพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของครอบครัวยุคใหม่ที่หันมาเลี้ยงลูกด้วยตนเองทำให้ความต้องการในการสรรหาตัวช่วยในการเลี้ยงลูกได้สะดวกสบายและปลอดภัยเป็นที่ต้องการเพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ กลุ่มเป้าหมายแบ่งเป็นกลุ่มคุณแม่ยุคใหม่ที่ต้องการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดและคุ้มค่าให้แก่ลูก ซึ่งเป็นกลุ่มคุณแม่อายุตั้งแต่ 24-36 ปี ระดับรายได้ปานกลางจนถึงระดับสูง และกลุ่มคุณแม่ที่มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไปจนถึงมีลูกอายุ 3 ขวบ

ด้านมูลค่าตลาดรวมสินค้าแม่และเด็ก ในประเทศไทยอยู่ที่มูลค่า 40,300 ล้านบาท แบรนด์ Rocking Kids (ร็อคกิงคิดส์) มีจุดเด่นที่เน้นการคัดสรรสินค้านวัตกรรมใหม่ๆ ที่ช่วยให้การเลี้ยงลูกสะดวกสบายยิ่งขึ้น เน้นการใช้งานง่ายและมีฟังก์ชันการใช้งานหลากหลาย เน้นความปลอดภัยสูงสุด สินค้าต่างๆ ที่จำหน่ายต้องได้รับมาตรฐานและรางวัลการันตีระดับโลกจากประเทศชั้นนำ โดยมีการ sourcing หาสินค้าที่มีดีไซน์ที่ทันสมัย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคุณแม่ยุคใหม่อย่างแท้จริง เช่น รถเข็นเด็ก คาร์ซีต คอกกั้น เก้าอี้ฝึกนั่ง เปลนอน และสินค้าอื่นๆ สำหรับเด็กแรกเกิดจนถึง 12 ขวบ ซึ่งในปีนี้บริษัทฯ ได้เปิดร้าน Rocking Kids Showroom ณ ศูนย์สรรพสินค้าเมกา บางนา เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และเตรียมขยายตัวแทนจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง"



ด้านนางปีใหม่ เสริมพงศ์ รองประธานบริษัทฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า "บริษัทฯ มุ่งสรรหาโปรดักต์ใหม่เพื่อเสิร์ฟแก่กลุ่มแม่ แนะนำสินค้าใหม่ รถเข็นเด็กแบรนด์ Qtus รุ่น Q15 OWL ระดับพรีเมียม นำเข้ามาจากประเทศเยอรมนี มีความโดดเด่นเรื่องดีไซน์ (New Design 360 Rotation) คิดค้นออกแบบเพื่อตอบโจทย์ทุกฟังก์ชันการใช้งานของคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ที่เต็มไปด้วย Lifestyle ให้ทุกคนในครอบครัวได้สนุกกับทุกกิจกรรม สามารถเดินทางไปด้วยกันทุกที่ ทั้งนี้ ชูจุดขายแบบ SLX (Sport, Luxury & Exploring) SPORT รูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวคล่องตัวทุกกิจกรรม เบาะหมุนได้ 360 องศา LUXURY ด้วยวัสดุพรีเมียมสุดหรูหรามีความแตกต่างไม่เหมือนใคร EXPORLORING ไปได้ทุกที่ สนุกกับทุกกิจกรรมเพราะมีระบบสั่นสะเทือน สมดุลทุกการขับเคลื่อน น้ำหนักเพียง 8.22 กิโลกรัม พับง่ายเก็บง่าย กดเปิดและพับได้ใน 1 วินาที รองรับการใช้งานจนถึงอายุ 4 ขวบ ราคาปกติอยู่ที่ 30,800 บาท จัดโปรโมชันในช่วงเปิดตัวราคาพิเศษเพียง 20,900 บาท จำกัดเพียง 50 สิทธิ์การซื้อเท่านั้น

"สำหรับไตรมาส 4 ในปีนี้ยังคงวางแผนต่อเนื่อง มุ่งเน้นกลยุทธ์การตลาดช่องทาง Online และ E-commerce เพื่อเชื่อมต่อประสบการณ์ให้แก่ลูกค้าในการชอปปิ้งแบบไร้รอยต่อ ทั้งการชำระเงินที่ง่ายดายเพียงอยู่บ้านก็ชอปปิ้งผ่านทุกช่องทางออนไลน์ Rocking Kids คาดว่าจะเปิดตัวเว็บไซต์ E-commerce แบบครบวงจรเพื่อง่ายต่อการเลือกซื้อสินค้าทุกหมวดหมู่ มุ่งเน้นในการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้แก่ลูกค้า นอกจากนี้ยังเตรียมคอนเทนต์ที่จะช่วยสนับสนุนต่อการเลี้ยงลูกให้เป็นเรื่องสนุก ทั้งหมดเพื่อตอกย้ำจุดยืนของแบรนด์ที่ต้องการส่งเสริมให้คุณแม่ยุคใหม่ และเร็วๆ นี้บริษัทฯ เตรียมเปิดตัวแบรนด์สินค้าที่โด่งดังจากประเทศเกาหลีใต้ คือ Brand Essian โดยนำเข้าสินค้าดังจากแบรนด์ ได้แก่ เก้าอี้หัดนั่ง เข้ามาเจาะกลุ่มตลาดของเด็กเล็กตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไปที่เริ่มหัดนั่ง และตอบโจทย์ครอบครัวที่คุณพ่อคุณแม่ต้องการฝึกลูก ซึ่งคาดว่าปีนี้บริษัทฯ จะสร้างยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 35% รวมทั้งต่อยอดธุรกิจในตลาดออนไลน์และการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 มีผลกระทบค่อนข้างมากในส่วนช่องทางจำหน่ายออฟไลน์ และขณะนี้ Rocking Kids Showroom ก็ได้ปิดชั่วคราวตามมาตรการของภาครัฐ บริษัทฯ จึงปรับกลยุทธ์การตลาดเป็นออนไลน์มากยิ่งขึ้น มุ่งจัดแคมเปญ Rocking Kids Online ผลการตอบรับดีเกินคาด ส่งผลให้บริษัทฯ วางแผนกิจกรรมการตลาดใหม่ใหม่ที่น่าสนใจอีกมากมายเพื่อมอบประสบการณ์ Shopping ออนไลน์ดีดีแก่ลูกค้า Rocking Kids ต่อไป
#3159



เคล็ดลับสุขภาพดี หุ่นสวย ลดพุง อิ่มท้อง คุณประโยชน์ครบกับเมนูจานเด็ดเพื่อสุขภาพ ที่ ซิงก์ เบเกอรี่ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์

พร้อมเสิร์ฟเคล็ดลับความอร่อยให้เหล่าคนรักสุขภาพร่วมสัมผัสและพิสูจน์ความอร่อยและอัดแน่นไปด้วยคุณประโยชน์ทางโภชนาการ กับเมนูเพื่อสุขภาพน้องใหม่ให้หุ่นดีโดยไม่ต้องอดอาหาร



ด้วยการคัดเลือกวัตถุดิบที่ได้คุณภาพสดใหม่ สะอาด ปลอดสารพิษ นำมาผ่านการปรุงให้น้อยที่สุด เพื่อให้ได้รสชาติดั้งเดิม และคงคุณประโยชน์ของวัตถุดิบไว้ให้มากที่สุด พร้อมส่งตรงถึงบ้าน อาทิ ควินัวร์ 3 สี กับผักคะน้า บร็อคโคลี่และมันหวาน, สลัดผักออร์แกนิค เต้าหู้ย่าง แตงกวา วอลนัทและมะนาววิไนเกรต, ปอเปี๊ยะสดกับผักสลัด แตงกวา แครอทและ ซอสสไปซี่แครอท, หน่อไม้ฝรั่งย่างสมุนไพร ชีสนมแพะ มะเขือเทศตากแห้ง ซอสบัลซามิค, อกไก่ย่างมะนาว ผักสลัดออร์แกนิค ถั่วชิกพีร์ ซอสมิ้นท์โยเกิร์ต, ทูน่าทาร์ทาร์เสิร์ฟพร้อมอาโวคาโดซอสเลมอนจิงเจอร์, ข้าวหน้าปลาแซลมอนสไตล์ฮาวาย, ปลาทูน่าย่าง สลัดข้าวโพด ผักออร์แกนิคและเมล็ดฟักทองอบ และเมนูเพื่อสุขภาพอื่นๆอีกมากมาย ราคาเริ่มต้นที่ 138 บาทถ้วน



อิ่มอร่อย พร้อมสุขภาพดีไปกับเรา พร้อมเสิร์ฟทุกวัน เวลา 07.00 – 18.30 น. ณ ซิงก์ เบเกอรี่ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์ (เฉพาะสั่งซื้อเดลิเวอรี่ และสั่งซื้อกลับบ้านเท่านั้น) สามารถสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชัน แกร๊บฟู้ดได้



สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งได้ที่ โทร. 0-2100-1234 ต่อ 6485 หรืออีเมล์: diningcgcw@chr.co.th
#3160


กลุ่มธุรกิจร้านนวดแผนไทยและร้านสปา ยื่นฟ้องดำเนินคดีรัฐเรียกร้องค่าเสียหายชดเชย 200 ล้าน สืบเนื่องจากคำสั่งปิดกิจการตามนโยบายบริหารจัดการโควิด-19 แต่กลับไร้ซึ่งการเยียวยาจากรัฐ นำสู่การฟ้องแพ่งแบบรวมกลุ่ม (Class Action) เรียกร้องให้รัฐบาลต้องรับผิดชอบต่อชีวิตของประชาชน และความเสียหายที่เกิดขึ้นของผู้ประกอบการ เป็นตัวอย่างสร้างบรรทัดฐานแก่ภาคธุรกิจอื่นๆ

อ้างอิงข้อมูลของ "สมาคมสปาไทย" พบว่า ตลาดสปาและนวดแผนไทยมีรายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 30,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งผลกระทบจากการระบาดโควิด-19 ตั้งแต่ระลอกแรก ซ้ำเติมความเสียหายด้วยระลอกใหม่อย่างต่อเนื่อง จากเดิมปิดชั่วคราวปัจจุบันผู้ประกอบการธุรกิจสปาและนวดแผนไทยปิดตัวถาวรแล้วกว่า 80% ส่งผลให้พนักงานตกงานมากกว่า 2 แสนคน โดยส่วนใหญ่ไม่เงินทุนหมุนเวียน เพราะรายได้หายไป 100% เพราะต้องปิดให้บริการตามประกาศของรัฐ อีกทั้งยังต้องแบกรับรายจ่าย ค่าเช่าที่ ค่าน้ำค่าไฟ เงินเดือนพนักงาน ฯลฯ

ทั้งนี้ ร้านนวดแผนไทย ร้านสปา เป็นหนึ่งในกิจการที่ถูกสั่งปิดทุกครั้งที่เกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ตามคำสั่งของรัฐ แต่ไม่ได้รับการเยียวยาจากรัฐ นายพิทักษ์ โยธานายกสมาคมจารวีเพื่ออนุรักษ์นวดแผนไทย กล่าวว่ากลุ่มผู้ประกอบการร้านนวดได้รับผลกระทบจากนโยบายสั่งปิดกิจการร้านนวดตั้งแต่ปี 2563 และถูกสั่งปิดต่อเนื่องทุกครั้งของการล็อกดาวน์

"คำสั่งของรัฐ ทำให้เรามีภาระหนี้สิน สิ้นเนื้อประดาตัว เราอดทนมาพอแล้ว" นายพิทักษ์ โยธา นายกสมาคมจารวีเพื่ออนุรักษ์นวดแผนไทย กล่าว

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาผู้ประกอบการต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือเยียวยา ชดเชยการสูญเสียรายได้ การเข้าถึงแหล่งเงินกู้ การลดต้นทุนค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภค การลดหย่อนหรือยกเว้นการจ่ายภาษีหรือค่าธรรมเนียมต่างๆ รวมถึงการกำหนดมาตรการที่เอื้อประโยชน์ เพื่อให้กิจการนวดสปาสามารถเปิดดำเนินกิจการต่อไปได้ ทว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่รับการเยียวยาจากภาครัฐ เป็นเหตุผลให้ผู้ประกอบการรวมตัวฟ้องร้องเรียกร้องค่าเสียหายจากภาครัฐกว่า 200 ล้านบาท

การฟ้องร้องครั้งนี้นำโดย น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะเป็นตัวกลางยื่นฟ้อง พร้อมกับ นายพิทักษ์ โยธานายกสมาคมจารวีเพื่ออนุรักษ์นวดแผนไทย และ น.ส.อักษิกา จันทรวินิจ ตัวแทนกลุ่มผู้ประกอบการร้านนวดและสปาในกรุงเทพมหานคร และจังหวัดในเขตพื้นที่สีแดงเข้ม ซึ่งมีสมาชิกกลุ่มรวม 157 คน เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายให้ผู้ประกอบการที่ได้รับความเดือดร้อน จากการถูกสั่งปิดสถานประกอบการร้านนวดตามคำสั่งของรัฐบาล

นับเป็นการดำเนินการฟ้องแพ่งแบบรวมกลุ่มหรือ Class Action ครั้งแรก ซึ่งถือเป็นคดีแรกและเป็นคดีในประวัติศาสตร์ที่รัฐบาลจะตัองรับผิดชอบต่อชีวิตของประชาชน และความเสียหายที่เกิดขึ้นของผู้ประกอบการ ทั้งๆ ที่เป็นมาตรการที่รัฐบาลสั่ง แต่ไม่มีมาตรการที่จะมารองรับความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยผ่านมากว่าหนึ่งปีแล้วที่ผู้ประกอบการร้านนวดเหล่านี้ยังไม่เคยได้รับการเยียวยาจากภาครัฐ

ดังนั้น การบริหารจัดการสถานการณ์โควิด-19 ที่ผิดพลาด ต้องชดใช้ค่าเสียหายให้กับประชาชน ซึ่งนับเป็นการฟ้องร้องคดีแรกของการฟ้องรวมกลุ่มของกลุ่มผู้ประกอบการร้านนวด โดยจะขยายไปยังกลุ่มผู้ประกอบการอื่นๆ เช่น ร้านอาหาร และผับ บาร์ เป็นต้น

ทั้งนี้ ผู้ประกอบกิจการร้านนวดเพื่อสุขภาพและตัวแทนของสมาชิกกลุ่มประกอบกิจการร้านนวดเพื่อสุขภาพซึ่งมีสมาชิกกลุ่มรวม 157 คน ยื่นฟ้องกระทรวงการคลัง กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย และกรุงเทพมหานคร ต่อศาลแพ่งเป็นคดีหมายเลขดำที่ พ3782/2564 โดยขออนุญาตให้ดำเนินคดีแบบกลุ่ม อันสรุปคำฟ้องได้ใจความว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Coronavirus Disease : COVID-19) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ปล่อยปละละเลย จงใจหรือประมาทเลินเล่อก่อให้เกิดต้นเหตุของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าวแบบกลุ่มก้อนหลายครั้ง

พลเอกประยุทธ์ และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขบริหารจัดการสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าวผิดพลาดทำให้ไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสดังกล่าวและไม่สามารถบริหารจัดการวัคซีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ประเทศไทยเข้าสู่วิกฤติด้านสุขภาพและด้านเศรษฐกิจจนสูญเสียโอกาสในการฟื้นตัวสู่สภาวะปกติ เป็นสาเหตุโดยตรงที่ทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าวบานปลายจนกระทั่งไม่สามารถควบคุมได้

นอกจากนี้ พลเอกประยุทธ์ได้ออกข้อกำหนดที่ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและผู้ว่าราชการจังหวัดมีคำสั่งให้ปิดสถานประกอบกิจการร้านนวดหรือนวดแผนไทยทั่วราชอาณาจักรหลายครั้ง ทำให้โจทก์ทั้งสองและสมาชิกกลุ่มร้านนวดเพื่อสุขภาพไม่สามารถประกอบกิจการได้โดยสิ้นเชิง ทั้งยังปล่อยปละละเลยไม่สั่งการหรือดำเนินการเพื่อออกมาตรการรองรับหรือเยียวยาให้แก่โจทก์ทั้งสองและสมาชิกกลุ่มร้านนวดเพื่อสุขภาพที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการถูกสั่งปิดกิจการ ทำให้โจทก์ทั้งสองและสมาชิกกลุ่มร้านนวดเพื่อสุขภาพได้รับความเสียหาย

โดยขอให้จำเลยทั้งสี่ร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ที่ 1 เป็นเงิน 7,199,262.42 บาท โจทก์ที่ 2 เป็นเงิน 3,597,666.52 บาท และให้แก่สมาชิกกลุ่มสถานประกอบการร้านนวดเพื่อสุขภาพและสปาตามวิธีการคำนวนค่าเสียหายของแต่ละบุคคล พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 5 ต่อปีของต้นเงินดังกล่าวนับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ

อนึ่ง ศาลแพ่งในคดีหมายเลขดำที่ พ3782/2564 ได้พิจารณาคำร้องและคำฟ้องดังกล่าวแล้วมีคำสั่งให้นัดไต่สวนคำร้องขอให้ดำเนินคดีแบบกลุ่มวันที่ 21 กันยายน 2564

ด้าน น.ส.มณลภัส ไทยเจริญ เจ้าของร้านสปาเดวาย่านสุขุมวิท 101/1 บอกว่า ร้านของตนถูกปิดมานานกว่า 8-9 เดือนแล้ว มีหนี้สินอยู่หลายแสน แถมยังได้จดหมายทวงหนี้จากรัฐ เรียกเก็บภาษีโรงเรือนภาษีป้าย นอกจากนี้ ผู้เช่ายังต้องเสียค่าเช่าให้กับผู้ให้เช่าอีกเดือนละ 30,000 บาท ถึงตอนนี้ยังต้องจ่าย คิดว่าต่อไปนี้คงเลิกทำอาชีพนี้แล้ว เพราะจ่ายไม่ไหวแล้ว

จากการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมในงานเขียนเรื่อง สปาและนวดแผนไทย...จะไปอย่างไรต่อ?ของ "สุพริศร์ สุวรรณิก" แห่งสถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์" พบว่า อุตสาหกรรมสปาและนวดแผนไทยแบ่งลักษณะกิจการออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ 1) กิจการประเภทสปา เน้นการให้บริการบำบัดดูแลสุขภาพและความงามแบบองค์รวม และ 2) กิจการประเภทนวดเพื่อสุขภาพ เน้นเรื่องการบำบัดและผ่อนคลายกล้ามเนื้อด้วยวิธีการนวดเพียงอย่างเดียว โดยปัจจุบันกิจการทั้งหลายอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้ อุตสาหกรรมมีความเกี่ยวข้องกับแรงงานไทยเป็นจำนวนมาก โดยมีข้อมูลในงานเสวนา Industry transformation ซึ่งจัดโดยสถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ ธนาคารแห่งประเทศไทย ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) เพื่อหาข้อเสนอแนะแนวทางช่วยเหลือและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมคาดว่ามีการจ้างงานจากทั้งในและนอกระบบสูงถึงกว่า 6.5 แสนราย

เมื่อเกิดวิกฤตโควิด-19 ตั้งแต่การระบาดในระลอกแรก ผู้ประกอบการทุกขนาดในอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบอย่างหนัก แม้จะได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐและสถาบันการเงินไปบางส่วนแล้ว เช่น มาตรการ 2/3 ชดเชยรายได้ 5,000 บาทเป็นระยะเวลา 3 เดือน ซึ่งบรรเทาความเดือดร้อนได้ในระดับหนึ่ง ผู้ประกอบการรายใหญ่ที่เน้นให้บริการลูกค้าชาวต่างชาติ เป็นผู้ได้รับผลกระทบมากที่สุด ขณะที่ผู้ประกอบการรายเล็กที่มีสายป่านยาวพอ ยังสามารถประคับประคองธุรกิจอยู่ได้บ้าง ทั้งนี้ ธุรกิจปรับตัวโดยกิจการขนาดใหญ่หลายแห่งลดจำนวนสาขาย่อยลงเพื่อควบคุมต้นทุน ขณะที่ผู้ประกอบการรายเล็กมีความพยายามปรับตัวที่หลากหลาย เช่น การให้บริการนวดตามบ้าน เป็นต้น

หนึ่งในปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะในช่วงวิกฤตคือ การเคลื่อนย้ายแรงงานออกนอกอุตสาหกรรมสปาและนวดแผนไทยจำนวนมาก โดยกว่าครึ่งได้เปลี่ยนไปประกอบอาชีพอื่น ๆ แทน อาทิ พนักงานขนส่งเดลิเวอรี่ และบางส่ วนได้ ย้ายกลับไปภูมิลำเนาเดิม และทำการเกษตร อย่างไรก็ดี อุตสาหกรรมสปาและนวดแผนไทย เป็นส่วนหนึ่งของ health & wellness อันเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ของรัฐ จึงควรให้ความสำคัญ และสามารถยกระดับศักยภาพได้

สำหรับการฟ้องร้องดำเนินคดีครั้งนี้ ถือเป็นประเด็นที่น่าจับตาเป็นอย่างยิ่ง เพราะคดีดังกล่าวจะเป็นบรรทัดฐานแก่ภาคธุรกิจอื่นๆ ในการฟ้องร้องต่อไปด้วยความเสียหายที่เกิดขึ้นมาจากคำสั่งรัฐ ดังนั้นจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้