• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Chigaru

#11120


ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 5 ส.ค.2564

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (5 ส.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮ ขานรับตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว รวมทั้งผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือน ก.ค.ของสหรัฐฯ ในวันนี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,064.25 จุด เพิ่มขึ้น 271.58 จุด หรือ +0.78% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,429.10 จุด เพิ่มขึ้น 26.44 จุด หรือ +0.60% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,895.12 จุด เพิ่มขึ้น 114.58 จุด หรือ +0.78%

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 ส.ค.) ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่เป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน แม้หุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มค้าปลีกปรับตัวลงก็ตาม

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 469.96 จุด เพิ่มขึ้น 1.74 จุด หรือ +0.37%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,781.19 จุด เพิ่มขึ้น 34.96 จุด หรือ +0.52% และดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,744.67 จุด เพิ่มขึ้น 52.54 จุด หรือ +0.33% ขณะที่ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,120.43 จุด ลดลง 3.43 จุด หรือ -0.048%

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (5 ส.ค.) โดยถูกกดดันจากเงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังธนาคารกลางอังกฤษส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าจะลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม

ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 7,120.43 จุด ลดลง 3.43 จุด หรือ -0.048%

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (5 ส.ค.) หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ พุ่งขึ้นทะลุระดับ 1.20% ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อตลาดทองคำ นอกจากนี้ นักลงทุนยังเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ขานรับตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ปรับตัวลงในสัปดาห์ที่แล้ว

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค. ลดลง 5.6 ดอลลาร์ หรือ 0.31% ปิดที่ 1,808.9 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน ก.ย. ลดลง 16.9 เซนต์ หรือ 0.66% ปิดที่ 25.292 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาแพลทินัมส่งมอบเดือน ต.ค. ลดลง 15.6 ดอลลาร์ หรือ 1.53% ปิดที่ 1,005.7 ดอลลาร์/ออนซ์

ส่วนสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน ก.ย. เพิ่มขึ้น 3.40 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ 2,655.10 ดอลลาร์/ออนซ์

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 ส.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากความตึงเครียดในตะวันออกกลาง และจากการที่นักลงทุนช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากราคาน้ำมันดิบร่วงลงติดต่อกัน 3 วันทำการ

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย. เพิ่มขึ้น 94 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 69.09 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือน ต.ค. เพิ่มขึ้น 91 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 71.29 ดอลลาร์/บาร์เรล

-- เงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (5 ส.ค.) หลังจากธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติคงอัตราดอกเบี้ย และเปิดเผยแผนการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)

ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.02% แตะที่ 92.2534 เมื่อคืนนี้

เงินปอนด์แข็งเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.3932 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3887 ดอลลาร์ ขณะที่ยูโรอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.1835 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1838 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7404 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7382 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 109.75 เยน จากระดับ 109.46 เยน แต่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9061 ฟรังก์ จากระดับ 0.9063 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2494 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2551 ดอลลาร์แคนาดา

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 35,064.25 จุด เพิ่มขึ้น 271.58 จุด, +0.78%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,429.10 จุด เพิ่มขึ้น 26.44 จุด, +0.60%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 14,895.12 จุด เพิ่มขึ้น 114.58 จุด, +0.78%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,120.43 จุด ลดลง 3.43 จุด, -0.048%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,781.19 จุด เพิ่มขึ้น 34.96 จุด, +0.52%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,744.67 จุด เพิ่มขึ้น 52.54 จุด, +0.33%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 54,492.84 จุด เพิ่มขึ้น 123.07 จุด, +0.23%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 6,205.42 จุด เพิ่มขึ้น 46.38 จุด, +0.75%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,495.78 จุด เพิ่มขึ้น 4.45 จุด, +0.30%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,547.27 จุด ลดลง 37.94 จุด, -0.58%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,175.10 จุด ลดลง 7.80 จุด, -0.25%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 26,204.69 จุด ลดลง 221.86 จุด, -0.84%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,466.55 จุด ลดลง 10.67 จุด, -0.31%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 17,603.12 จุด ลดลง 20.77 จุด, -0.12%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 3,276.13 จุด ลดลง 4.25 จุด, -0.13%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 27,728.12 จุด เพิ่มขึ้น 144.04 จุด, +0.52%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,511.10 จุด เพิ่มขึ้น 7.90 จุด, +0.11%

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,779.60 จุด เพิ่มขึ้น 0.90 จุด, +0.01%
#11122


โควิดหนุนเงินดิจิทัลโต-กัมพูชาเล็งเลิกพึ่งดอลล์สหรัฐ ขณะที่การเพิ่มสัดส่วนการใช้เงินท้องถิ่นช่วยให้ธนาคารกลางกัมพูชาดำเนินนโยบายทางการเงินที่เป็นอิสระและควบคุมปริมาณเงินที่หมุนเวียนในประเทศได้ดีขึ้น
ธนาคารกลางทั่วโลกเร่งพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลของตัวเองเพื่อทำให้ระบบการชำระเงินค่าสินค้าและบริการในประเทศมีความสะดวกสบายและมีความปลอดภัยในยุคที่ระบบดิจิทัลกำลังขยายเข้าไปในทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจ นั่นเท่ากับว่าสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่ปัจจุบันเป็นหนึ่งในสกุลเงินหลักของโลกเริ่มลดบทบาทลงเรื่อยๆ

จีน ได้ทำการทดสอบหยวนดิจิทัลในเมืองใหญ่หลายเมือง ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี)ประกาศโครงการยูโรดิจิทัลเมื่อเดือนที่แล้วพร้อมทั้งบอกว่าจะใช้เวลาสองปีในการพัฒนาและดูว่าสกุลดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง(ซีบีดีซี)จะส่งผลกระทบต่อระบบการเงินโลกอย่างไร

ซีบีดีซีเป็นสกุลเงินในรูปแบบดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง สามารถชำระค่าสินค้าและบริการ รักษามูลค่า และเป็นหน่วยวัดทางบัญชีได้ ต่างจากคริปโตเคอร์เรนซีอย่างบิทคอยน์ อีเธอร์ หรือริปเปิ้ลที่ออกโดยภาคเอกชน และมีมูลค่าผันผวนจากการใช้เพื่อเก็งกำไร จึงไม่เหมาะสำหรับการนำมาใช้เป็นสื่อกลางในการชำระค่าสินค้าและบริการ

ซีบีดีซีมี 2 รูปแบบคือ ซีบีดีซีสำหรับการทำธุรกรรมระหว่างสถาบันการเงิน และสำหรับธุรกรรมรายย่อยของภาคธุรกิจและประชาชน

รายงานวิเคราะห์ในเว็บไซต์นิกเคอิ เอเชีย ระบุว่า ตอนนี้ธนาคารกลางกว่า 60 ประเทศทั่วโลกกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการออกซีบีดีซี และกัมพูชาก็เป็นผู้นำในการแข่งชันด้านนี้ หลังจากธนาคารกลางกัมพูชา(เอ็นบีซี)เปิดตัว"บากอง"สกุลเงินดิจิทัลของประเทศในเดือนต.ค.ปี 2563 ภายใต้ความช่วยเหลือด้านเทคโนโลยีบล็อกเชนจากบริษัทโซรามุตสึของญี่ปุ่นโดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มการยอมรับเงินเรียลซึ่งเป็นเงินสกุลท้องถิ่นของกัมพูชาและค่อยๆลดการพึ่งพาเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ

"ชี เซเรย์" ผู้อำนวยการธนาคารกลางกัมพูชา กล่าวว่า โครงการบากองซึ่งเปิดดำเนินการในไตรมาสนี้เป็นช่องทางการชำระเงินแห่งชาติของกัมพูชา และมีบทบาทสำคัญในการนำผู้เล่นทุกคนในธุรกิจการชำระเงินเข้ามาอยู่ภายใต้แพลตฟอร์มเดียวกัน เพิ่มความสะดวกแก่ผู้ใช้งานปลายทางในการชำระเงิน โดยไม่คำนึงถึงว่าสถาบันการเงินที่พวกเขาทำธุรกรรมด้วยเป็นธนาคารอะไร และในอนาคตจะอนุญาตให้มีการชำระเงินข้ามพรมแดนผ่านระบบบากอง


นับจนถึงเดือนมิ.ย.ผู้ใช้กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ของบากองเพิ่มขึ้นสองเท่าตัวจากประมาณสามเดือนก่อนหน้านี้เป็น 200,000 ราย ขณะที่ระบบโดยรวมของบากองเข้าถึงผู้ใช้ประมาณ 5.9 ล้านคน ในจำนวนนี้ รวมถึงผู้ติดตั้งแอพพลิเคชันบนมือถือของธนาคาร และในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 มีการทำธุรกรรมโดยรวม 1.4 ล้านครั้ง คิดเป็นมูลค่าประมาณ 500 ล้านดอลลาร์

ผู้อำนวยการธนาคารกลางกัมพูชา กล่าวว่า "ยอดผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะการชำระเงินด้วยระบบดิจิทัลในช่วงที่โรคโควิด-19 ระบาดในกัมพูชาและรัฐบาลออกมาตรการควบคุมด้านต่างๆทำให้ผู้คนหันมาพึ่งพาเทคโนโลยีกันมาขึ้น"

อย่างไรก็ตาม บากองมีความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับคริปโตเคอร์เรนซีแบบไร้ศูนย์กลางการควบคุมอย่างบิทคอยน์เนื่องจากโครงการสกุลเงินดิจิทัลของกัมพูชาเป็นระบบปิด ที่ได้รับการสนับสนุนจากธนาคารของประเทศและหน่วยงานด้านการเงิน ที่สำคัญไม่สามารถนำเงินบากองนี้ไปใช้เพื่อการเก็งกำไรได้

นอกจากนี้ กระเป๋าเงินบากองยังถูกเชื่อมโยงกับบัญชีธนาคาร ที่อนุญาตให้ผู้ใช้งานแลกเปลี่ยนเหรียญดิจิทัลของพวกเขา สำหรับสกุลเงินของประเทศ

"การทำธุรกรรมทั้งหมด จะเป็นแบบเรียลไทม์ และจะถูกบันทึก จัดเก็บไว้อย่างปลอดภัยที่ธนาคารกลาง" ผอ.ธนาคารกลางกัมพูชา กล่าวและเชื่อว่าธนาคารกลางอื่นๆ มีแนวโน้มที่จะพัฒนาระบบแบบเดียวกับที่กัมพูชาทำอยู่ในตอนนี้

ชาวกัมพูชาสามารถใช้เงินบากองซื้อสินค้าตามร้านค้า หรือส่งเงินผ่านแอพฯมือถือ โดยไม่ต้องใช้เงินสด พร้อมทั้งนำเงินนี้ไปชำระหนี้และส่งเงินนี้กลับประเทศในรูปเงินเรียล หรือ ดอลลาร์สหรัฐได้ ซึ่งหนึ่งในเหตุผลหลักๆที่กัมพูชาออกเงินสกุลดิจิทัลนี้มาก็เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนในประเทศใช้เงินเรียลมากขึ้น

ปัจจุบัน กัมพูชาใช้เงินสองสกุลในการซื้อขายคือเงินเรียลและเงินดอลลาร์สหรัฐ แต่เงินดอลลาร์สหรัฐได้รับความนิยมและแพร่หลายในระบบเศรษฐกิจของประเทศมากกว่า

ชี กล่าวด้วยว่า การใช้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นประโยชน์กับประเทศในช่วงประเทศกำลังฟื้นตัวจากภาวะสงครามแต่ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่ต้องลดการพึ่งพาสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากเศรษฐกิจของกัมพูชาขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่ง อีกทั้งการเพิ่มสัดส่วนการใช้เงินท้องถิ่นยังช่วยให้ธนาคารกลางกัมพูชาสามารถดำเนินนโยบายทางการเงินที่เป็นอิสระได้ต่อไป รวมทั้งควบคุมปริมาณเงินที่หมุนเวียนในประเทศได้ดียิ่งขึ้น

แต่ผู้อำนวยการธนาคารกลางกัมพูชา ก็ยอมรับว่า แม้จะมีการใช้เงินเรียลเพิ่มขึ่้นในการทำธุรกรรมผ่านระบบดิจิทัล นับตั้งแต่มีการเปิดตัวเงินบากอง แต่เงินสกุลดิจิทัลเพียงอย่างเดียวไม่สามารถเปลี่ยนระบบเศรษฐกิจกัมพูชาที่พึ่งพาดอลลาร์สหรัฐไปเป็นระบบเศรษฐกิจที่พึ่งพาเงินสกุลท้องถิ่นได้ ยังมีความจำเป็นต้องใช้นโยบายอื่นๆเข้ามาช่วย เช่น เสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยนและอัตราเงินเฟ้อ รวมทั้งเนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจ

"ภาระกิจหลักของบากองคือเพิ่มการใช้เงินเรียลในระบบดิจิทัลและมีเป้าหมายระยะยาวอยู่ที่ทำให้ชาวกัมพูชาใช้เงินสกุลท้องถิ่นเพียงสกุลเดียวในการซื้อสินค้าและบริการ"ผู้อำนวยการธนาคารกลางกัมพูชา กล่าว

ธนาคารกลางกัมพูชา ระบุด้วยว่าขณะนี้กำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนด้วยสกุลเงินบากอง โดยกำลังทำงานร่วมกับธนาคารเมย์แบงก์ของมาเลเซียและธนาคารกลางแห่งประเทศไทย(ธปท.)
#11123
Boom Gluta กลูต้า ที่โดมเลือก


ดีและปลอดภัยกลูต้าช็อต ช็อตเดียวรู้เรื่อง!!!

ดำกรรมพันธุ์ ผิวหมองคล้ำ ฝ้ากระ อยากเปลี่ยนลุงป้าเป็นหนุ่มสาวน่ารัก
กลูต้าช๊อต เพียงกล่องเดียว รู้เรื่อง!!!...ดีกว่ากลูกต้าทั่วไป 215 เท่า

ผสมผสานสารสกัดจากธรรมชาติ21ชนิด ปลอดภัย ไร้กังวล ด้วยนวัตกรรมนาโนฟา อินฟาเรด เหรียญเงินระดับนานาชาติ

แค่เทใส่ปาก ละลายและดูดซึมทันที พกพาง่ายไม่ต้องชง!!
1 กล่อง 590 จากปกติ 890.- .
เลขที่จดทะเบียน 1311585950607

 Boom Gluta Shots จึงเป็นที่มาของการแก้ปัญหาด้วยการปกป้องจากภายในด้วยผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร "Boom Gluta Shots" มีส่วนประกอบสำคัญ FIR Glutathione Complex สุดยอดอาหารผิวแห่งปี ที่ได้รับรางวัลจากงาน "Seoul International Invention Fair 2020" ณ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ และเป็นนวัตกรรมใหม่
ที่ทำให้ผิวขาวกว่ากลูตาทั่วไปถึง 250% .

รับตัวแทนจำหน่าย/สมาชิก รับสิทธิ์ลงทะเบียนเรียนคอร์สออนไลน์มูลค่า 7,990 บาท ฟรี

สนใจติดต่อ
โทร. 0846623662

id line : teerapat999

รายละเอียดเพิ่มเติม https://teerapat99-gluta.salepage365.com/



#11127


กรุงไทย มอง "เงินบาท" ยังอยู่ในโหมดอ่อนค่าจากปัญหาโควิดระบาดรุนแรงในไทยและจับตาเงินดอลลาร์ยังพร้อมกลับมาแข็งค่าขึ้นได้หลังนักลงทุนเข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัย มองกรอบเงินบาทวันนี้33.10- 33.20บาทต่อดอลลาร์
นายพูน พานิชพิบูลย์  นักวิเคราะห์ประจำห้องค้าเงินธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ  33.15 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงเล็กน้อยจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  33.14 บาทต่อดอลลาร์แลพ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.10-33.20 บาทต่อดอลลาร์

สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาทยังคงมีแนวโน้มอ่อนค่าอยู่จากปัญหาการระบาดของโควิด-19 รวมถึงแรงซื้อดอลลาร์จากฝั่งผู้นำเข้าที่อาจเข้ามาเร่งปิดความเสี่ยงเนื่องจากกังวลว่า เงินบาทอาจจะอ่อนค่าเร็วและแรง

ดังนั้นเราจึงยังมองไม่เห็นโอกาสที่เงินบาทจะพลิกกลับเทรนด์มาแข็งค่าได้ในเร็วนี้ เนื่องจากปัญหาการระบาดของโควิด-19 ในไทยยังมีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้น ทำให้ ค่าเงินบาทยังเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าได้อย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์การระบาดจะเริ่มมีทิศทางดีขึ้น ซึ่งก็อาจจะต้องรอในช่วงต้นเดือนกันยายน

ทั้งนี้ ในระยะสั้น อาจต้องจับตาทิศทางเงินดอลลาร์ เพราะ เงินดอลลาร์ยังพร้อมกลับมาแข็งค่าขึ้นได้ ตามแนวโน้มเฟดใช้นโยบายการเงินที่แข็งค่าขึ้น รวมถึง ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย จากความกังวล ปัญหาการระบาดโควิด-19 ทั่วโลก อย่างไรก็ดี เงินดอลลาร์ก็พร้อมอ่อนค่าลง หากบรรยากาศการลงทุนกลับมาเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น หนุนโดยรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาแข็งแกร่งและดีกว่าคาด

เรามองว่า แนวต้านสำคัญของค่าเงินยังอยู่ในโซน 33.20-33.25 บาทต่อดอลลาร์ และเชื่อว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะเข้ามาช่วยลดความผันผวนของเงินบาทลงในระยะสั้น ทำให้ เงินบาทอาจยังประคองตัวในช่วง 33.10-33.20 บาทต่อดอลลาร์  ในขณะที่แนวรับของเงินบาทก็ปรับขึ้นมาสู่ระดับ 32.90-33.00 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นช่วงราคาที่ผู้นำเข้าบางส่วนต่างรอจังหวะย่อตัว เพื่อทยอยปิดความเสี่ยงค่าเงิน

ในส่วนความเคลื่อนไหวของ"ตลาดการเงิน" ยังคงมีความแตกต่างกันไปตามปัจจัยสถานการณ์การระบาดของโควิด-19, รายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน รวมถึง ทิศทางของนโยบายการเงินจากธนาคารกลาง

โดยในฝั่งสหรัฐฯ ผู้เล่นในตลาดการเงินกลับมาอยู่ในโหมดระมัดระวังตัวมากขึ้น และเริ่มทยอยขายทำกำไรสินทรัพย์เสี่ยง ท่ามกลางความกังวลว่าปัญหาการระบาด Delta ในสหรัฐฯ อาจกดดันให้โมเมนตัมการฟื้นตัวเศรษฐกิจลดลงหลังรายงานข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุด เริ่มออกมาแย่กว่าคาด อาทิ ยอดการจ้างงานภาคเอกชนที่สำรวจโดย ADP ก็เพิ่มขึ้นเพียง 3.3 แสนตำแหน่ง น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่เกือบ 7 แสนตำแหน่ง ขณะเดียวกัน ยอดสต็อกน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ (Crude Oil Inventories) ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าคาด สะท้อนถึงความต้องการใช้พลังงานที่ลดลง นอกจากนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังได้รับแรงกดดันจากถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด อย่าง Richard Clarida ที่ออกมาสนับสนุนการทยอยลดคิวอีภายในปีนี้ รวมถึงการทยอยขึ้นดอกเบี้ยในปี 2023 ซึ่งทั้งภาพความกังวลปัญหาการระบาด Delta และแนวโน้มเฟดใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น ได้กดดันให้ ดัชนี Dowjones ปิดลบ -0.92% เช่นเดียวกันกับ ดัชนีS&P500 ที่ปรับตัวลดลงราว -0.46% ส่วน หุ้นเทคฯ ยังสามารถปรับตัวขึ้นได้ หลังบอนด์ยีลด์ 10ปี สหรัฐฯ ยังทรงตัวในระดับต่ำต่อไป หนุนให้ ดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq ปิดบวก +0.13%

ส่วนในฝั่งยุโรป ดัชนี STOXX50 ของยุโรป ปรับตัวขึ้น +0.65% นำโดยหุ้นในกลุ่มเทคฯ ที่ปรับตัวสูงขึ้น หลังรายงานผลปะกอบการของหุ้นกลุ่มเทคฯ ยังคงออกมาดีต่อเนื่อง Infineon +4.07%, ASML +2.93% ขณะเดียวกันแนวโน้มธนาคารกลางยุโรป (ECB) ยังคงเดินหน้าใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายต่อ รวมถึงความหวังแนวโน้มการฟื้นตัวเศรษฐกิจ ได้หนุนการปรับตัวขึ้นของหุ้นในกลุ่ม Cyclical อาทิ หุ้นกลุ่มสินค้าแบรนด์เนมและกลุ่มธนาคาร Adidas +4.04%, BNP Paribas +1.19%, Santander +1.05%

ทางด้านตลาดบอนด์ ผู้เล่นในตลาดบอนด์ยังมีมุมมองที่ระมัดระวังตัวอยู่ จากความกังวลปัญหาการระบาดของเดลต้าทำให้สินทรัพย์ปลอดภัยยังเป็นที่ต้องการของตลาด ดังจะเห็นได้จากการที่ บอนด์ยีลด์ 10ปี สหรัฐฯ ยังคงทรงตัวใกล้ระดับ 1.18%

ส่วนในฝั่งตลาดค่าเงิน ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าเฟดที่ออกมาสนับสนุนนโยบายการเงินที่เข้มงวด อย่าง การทยอยลดคิวอีภายในปีนี้ ได้หนุนให้ เงินดอลลาร์โดยรวมพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยเพื่อหลบความผันผวนในช่วงที่ปัญหาการระบาดของโควิด-19 อาจทวีความรุนแรงมากขึ้น ทำให้ล่าสุดดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY Index) ปรับตัวขึ้นใกล้ระดับ 92.30 จุด กดดันให้ ค่าเงินยูโร (EUR) อ่อนค่าลง สู่ระดับ 1.184 ดอลลาร์ต่อยูโร ส่วนค่าเงินเยน (JPY) ก็พลิกกลับมาอ่อนค่าลงแตะระดับ109.5 จุด

สำหรับวันนี้ ตลาดจะติดตามแนวโน้มสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก รวมถึงรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ส่วนในด้านข้อมูลเศรษฐกิจและผลการประชุมธนาคารกลางนั้น ตลาดมองว่า เศรษฐกิจอังกฤษมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากการทยอยผ่อนคลายมาตรการ Lockdown แม้ว่าล่าสุด อังกฤษจะพบการระบาดที่เพิ่มสูงขึ้น แต่สถานการณ์ก็ยังไม่น่ากังวล เนื่องจากยอดผู้ป่วยหนักและยอดผู้เสียชีวิตไม่ได้เพิ่มในอัตราเร่งตามยอดผู้ติดเชื้อใหม่ อย่างไรก็ดี ความไม่แน่นอนของสถานการณ์การระบาดอาจทำให้ ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ยังคงเดินหน้าใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายต่อไป ทั้ง คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Bank Rate) ที่ระดับ 0.10% และเดินหน้าอัดฉีดสภาพคล่องต่อ ทั้งนี้ แนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้น อาจทำให้คณะกรรมการนโยบายการเงินบางส่วนเริ่มสนับสนุนการทยอยลดการอัดฉีดสภาพคล่องในปลายปีนี้ หรือ ช่วงต้นปีหน้า

ส่วนในฝั่งไทย ภาวะเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชนที่ซบเซาลงหนักจากปัญหาการระบาด Delta ที่รุนแรงมากขึ้น จะกดดันให้ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) เดือนกรกฎาคม ชะลอลงสู่ระดับ 0.10% ขณะที่ อัตราเงินเฟ้อทั่วไป (CPI) ก็จะชะลอลงสู่ระดับ 1.0% เช่นกัน โดยอัตราเงินเฟ้อยังได้แรงหนุนจากราคาสินค้าพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้นและค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงจากปีก่อนหน้า ขณะที่แรงกดดันจะมาจากภาวะการบริโภคที่ซบเซาและมาตรการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายของภาครัฐ อาทิ ลดค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า