• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Ailie662

#3121



"พิพัฒน์" เผย "โค้ชเช" เปิดข้อมูลสุดทึ่ง! เยาวชนไทยแห่เรียนเทควันโดมากถึง 1 ล้านคนในปัจจุบัน หลังเกิดกระแสความสนใจ นักกีฬาเทควันโดรุ่นพี่ได้เหรียญรางวัลโอลิมปิกจุดประกาย คาดพอ "น้องเทนนิส" คว้าเหรียญทองมาครอง หนุนคนสนใจเรียนเทควันโดอีกล้นหลาม

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า จากการได้พูดคุยกับนายชเว ยองซอก (Choi Young Seok) หรือ "โค้ชเช" หัวหน้าผู้ฝึกสอนนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย นอกเหนือจากเรื่องขอเปลี่ยนเป็นสัญชาติไทย และความมุ่งมั่นของโค้ชเชที่ต้องการสร้างนักกีฬารุ่นใหม่มาเสริมทัพนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทยแล้ว ยังได้รับทราบข้อมูลน่าทึ่งจากโค้ชเชด้วยว่าปัจจุบันมีเยาวชนไทยมาเรียนและฝึกซ้อมเทควันโดมากถึง 1 ล้านคน

"ผมฟังแล้วถึงกับประหลาดใจอย่างมาก เมื่อทราบว่าปัจจุบันมีตัวเลขเยาวชนไทยเรียนและฝึกซ้อมเทควันโดมากถึง 1 ล้านคน จากกระแสความสนใจกีฬาเทควันโดในไทย เยาวชนมีนักกีฬารุ่นพี่ได้เหรียญรางวัลโอลิมปิกและมีนางสาวพาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ หรือ "น้องเทนนิส" เป็นหนึ่งในไอดอล จึงคาดว่าหลังจากน้องเทนนิสประสบความสำเร็จได้เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2020 น่าจะมีเยาวชนสนใจกีฬาเทควันโดเพิ่มขึ้นอีกมาก พร้อมแจ้งเกิดไอดอลเก่งๆ คนใหม่มาประดับวงการกีฬาไทย" รมว.การท่องเที่ยวฯกล่าว
#3122



บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP รายงานผลดำเนินงานไตรมาส 2/64 มีกำไรสุทธิ 2,263.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,904.21 ล้านบาท โดยบริษัทยังคงสามารถบริหารจัดการการดำเนินงานได้ดีท่ามกลางความท้าทายของโรคระบาดใน ASEAN และทั่วโลก

โดยบริษัทมีรายได้จากการขายเท่ากับ 29,895 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการขยายธุรกิจทั้งแบบ M&P (SOVI และ Go-Pak) และการเติบโตจากภายในอย่างต่อเนื่อง มี EBITDA เท่ากับ 5,564 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมี EBITDA margin ที่ 19%

ส่วน 6 เดือนแรกปี 64 มีกำไรสุทธิ 4,398 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 3,636.34 ล้านบาท และมีอัตรากำไรสุทธิที่ 8%

ขณะที่ ประชุมคณะกรรมการบริษัทอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 64 ในอัตรา 0.25 บาทต่อหุ้น กำหนดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในวันที่ 25 ส.ค.64 กำหนดวันที่ไม่ได้สิทธิรับเงินปันผล (XD) ในวันที่ 9 ส.ค.64
#3123
ไอดินไทย เครื่องประดับดินปั้น ด้วยแรงบันดาลใจทำเครื่องประดับดินปั้นมาจากความชอบที่มีต่อละครมนต์รักลูกทุ่งแล้วก็แฟชั่นการแต่งกายสมัยนั้น





ทำให้คุณพัชร์ชิสา ไชยวีรวัฒน์ เกิดแนวคิดในการทำเครื่องประดับร่วมกับการศึกษาปั้นดินไทยของชุมชนระแหง จังหวัดตาก จนกระทั่งกลายมาเป็นเครื่องประดับดินปั้นที่ดำเนินธุรกิจมาแล้วมากยิ่งกว่า 10 ปี





ซึ่งตัววัสดุนั้นเป็นดินไทยที่ผสมกับดินท้องถิ่นของจังหวัดตาก มีความงดงามผสมความเป็นไทย สีสันสดใส ความเป็นธรรมชาติและนอกจากนั้นทุกผลิตภัณฑ์มีรอยนิ้วมือจากการปั้น โดยไม่ใช้เครื่องจักร แสดงให้เห็นถึงงานฝีมืออย่างแท้จริง


#3124


 
 
นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากแผนการฟื้นฟูเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว "ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์" (Phuket Sandbox) ของภาครัฐที่เริ่มต้นไปเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นการนำร่องดึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติกลับมาที่เกาะภูเก็ต ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและมีความสวยงามติดอันดับโลก ซึ่งนอกจากภาคธุรกิจการท่องเที่ยวแล้ว  ยังจะช่วยกระตุ้นให้ผู้ประกอบการในภาคอื่นๆ ในพื้นที่กลับมาฟื้นตัวได้เช่นกัน โดยพฤกษาได้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในภูเก็ตมาแล้วหลายโครงการ  เพื่อสนองนโยบายของภาครัฐ จึงขอมอบสิทธิพิเศษให้กับชาวภูเก็ตที่กำลังมองหาบ้านพร้อมอยู่คุณภาพภายใต้แคมเปญ "ลด! ช็อคทั้งเกาะ น็อคทุกค่าย"  ในราคาเริ่มต้น 1.79 ล้าน รับลดสูงสุดถึง  700,000 บาท พร้อมสิทธิพิเศษอื่นๆ เช่น อยู่ฟรีสูงสุด 36 เดือน, ฟรี!ทุกค่าใช้จ่าย ณ วันโอนฯ และฟรีบริการ Internet AIS Fiber 1 ปี  สำหรับโครงการพฤกษาวิลล์พร้อมเข้าอยู่ 2 ทำเล  ได้แก่ 
 
โครงการพฤกษาวิลล์ ถลาง-เทพกระษัตรี  ทาวน์โฮม 2 ชั้น 3 ห้องนอน สไตล์ Contemporary Modern สเปคเทียบเท่าบ้านเดี่ยว สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นการใช้งาน Flexi – Multi Space ได้อย่างอิสระ โดดเด่นด้วยทำเลติดเมืองถลาง ห่างจากถนนเทพกระษัตรี เพียง 900 เมตร ใกล้สนามบิน โลตัส, แม็คโคร, โฮมโปร ถลาง เพียง 15 นาที    อุ่นใจด้วยระบบรักษาความปลอดภัยเข้า-ออกโครงการ ด้วยระบบ Auto Access Card และระบบประตูล็อก 2 ชั้น Check Point สะดวก ปลอดภัย ด้วยระบบ Card Scan กล้องวงจรปิด CCTV ที่ทางเข้าหลัก (Main Gate) พร้อมสวนส่วนกลางขนาดใหญ่ 
 
โครงพฤกษาวิลล์ เจ้าฟ้า-เทพอนุสรณ์ ทาวน์โฮม 2 ชั้นสไตล์บาหลี รองรับการใช้ชีวิตของครอบครัวด้วยแบบบ้านใหม่ 4 ห้องนอน มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส รวมถึงสวนส่วนกลางที่ใกล้ชิดธรรมชาติ ระบบรักษาความปลอดภัยแบบประตูระบบล็อก 2 ชั้น CCTV ตลอดทางเข้าหลักของโครงการ พร้อมจุด Check Point ด้วยเครื่องสแกน และ Security Guard ตลอด 24 ชั่วโมง เดินทางสะดวกเข้าสู่ตัวอำเภอเมืองภูเก็ตเพียง 10 นาที  ใกล้แหล่งท่องเที่ยวอ่าวฉลอง หาดราไวย์ ใกล้แหล่งช้อปปิ้ง อาทิ คิงพาวเวอร์, เซ็นทรัลเฟสติวัล, อินเด็กซ์ลิฟวิ่งมอลล์ 
 
นอกจากนี้ พฤกษายังใส่ใจห่วงใยในสุขภาพของพนักงานและลูกค้า โดยให้พนักงานฝ่ายขายและฝ่ายบริการลูกค้าของพฤกษาทุกโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบแล้ว พร้อมยกระดับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด 19 อย่างเข้มงวดสูงสุด ลูกค้าสามารถเข้าชมโครงการได้อย่างมั่นใจไร้กังวล หรือนัดหมายวันเวลาเพื่อเยี่ยมชมโครงการแบบส่วนตัวได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 9.00-18.00 น. 
#3125



เป็นสัปดาห์ที่สร้างความหวั่นไหวให้กับสมาชิกชั่วคราวทั้ง 7 ต้นน้ำ-บัณฑิฏา สันตยารมณ์ , ม่านมุก-ชดาธาร ด่านกุล, มีมี่-พิมพ์มาดา ตั้งสี, รันม่า-แทนทยา ชิชิดะ, ซีโมน-ปุณณาสา ต้นวิชา, เก๋-พรรณิภา วงษาชัย และ ตาล-สุดารัตน์ วงษ์กล่ำ อย่างมาก เพราะที่ผ่านมา สมาชิกชั่วคราวแต่ละคน สามารถป้องกันตำแหน่งของตัวเองจากผู้ท้าชิงมาต่อเนื่อง 6 แมตช์ติดต่อกันเข้าให้แล้ว สัปดาห์ที่ผ่านมาสมาชิกชั่วคราวต่างก็แอบลุ้นว่าวีคนี้ใครจะเป็นผู้ถูกเลือก และจะสามารถสร้างสถิติใหม่รักษาตำแหน่งของตัวเองได้อย่างเหนียวแน่น 7 ครั้งต่อเนื่องได้หรือไม่?


เปิดเวทีด้วยพิธีกร น้าเน็ก-เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา เชิญผู้ท้าชิงคนที่ 11 อาย-ฐิติรัตน์ ละลี อดีตสมาชิกวงไอดอลชื่อดังจากภาคเหนือ SY51 สู่เวทีเพื่อเลือกสมาชิกชั่วคราวที่อายต้องการท้าชิง ซึ่งอายประกาศอย่างมุ่งมั่น ขอเปิดศึกกับสมาชิกชั่วคราวหมายเลข 5 ซีโมน-ปุณณาสา โดย อาย-ฐิติรัตน์ ได้พาพิธีกรและคณะกรรมการอย่าง สอง พาราด็อกซ์, แพท เคลียร์, หนูนา-หนึ่งธิดา โสภณ และ ติ๊ก เพลย์กราวนด์ ย้อนไปสัมผัสกลิ่นอายในอดีตกับเพลง "รักครั้งแรก" ของวง "ชาตรี" ด้าน ซีโมน-ปุณณาสา ที่ต้องแบกรับภาระการรักษาสถิติเอาไว้ ก็โชว์ในเพลง "นักมายากล" ของวง "พาราด็อกซ์" อย่างสนุกสนาน สลัดความกังวลและโฟกัสกับหน้าที่ของตัวเองได้เป็นอย่างดี


และแล้วก็ถึงคราวที่กรรมการต้องตัดสิน เมื่อทางรายการประกาศให้กรรมการที่จับลูกบอลหมายเลข 3 ต้องรับหน้าที่ชี้ชะตาผู้ท้าชิงและสมาชิกชั่วคราว งานนี้ฟ้ากำหนดให้ สอง พาราด็อกซ์ เป็นผู้ตัดสิน ซึ่งเจ้าตัวเลือกให้ ซีโมน ไปครองตำแหน่งสมาชิกชั่วคราวหมายเลข 5 ต่อไป ด้านกรรมการท่านอื่นก็พร้อมใจเทคะแนนให้ ซีโมน เช่นกัน สร้างความดีใจให้กับ ซีโมน เป็นอย่างมากที่สามารถสร้างสถิติที่สมาชิกชั่วคราวสามารถรักษาตำแหน่งได้ต่อเนื่องถึง 7 ครั้ง


หลังรักษาตำแหน่งไว้ได้ ซีโมน เปิดใจว่า "ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่หนูถูกท้าชิง หนูภูมิใจกับโชว์นี้มาก ๆ ค่ะ มันจะมีความจิต ๆ หนูชอบดูหนังแนวนี้อยู่แล้ว เลยทำให้หนูเก็ทกับมันมากขึ้น แต่พี่อายก็ทำได้ดีมาก ๆ เลย พอโชว์มันแตกต่างกันคนละขั้ว ก็ขึ้นอยู่กับความชอบของกรรมการแล้วค่ะ ถามว่าครั้งนี้กดดันกว่าครั้งก่อนไหม คือเราอยู่กันมาได้ 6 สัปดาห์แบบครบเลย ก่อนโชว์ก็กดดันมาก ๆ เลยค่ะ ซึ่งหน้าที่ของหนูก็คือต้องโชว์ออกมาให้ดีที่สุด หนูรู้สึกดีใจมากที่คนเอ็นจอยกับโชว์นี้ ทำให้มีกำลังใจที่ครีเอทโชว์ต่อไปเรื่อย ๆ ค่ะ"


จากนั้นมาถึงคิวของผู้ท้าชิงคนที่ 12 พรีม-ปฐมาภรณ์ ศรีวานิชภูมิ สาวน้อยผู้กล้าก้าวข้ามคอมฟอร์ทโซนของตัวเอง ฝึกฝนทักษะการร้องเต้นที่เธอไม่เคยทำ โดยสาวพรีมเลือกแข่งขันกับผู้ท้าชิงหมายเลข 6 เก๋-พรรณิภา วงษาชัย ซึ่งเป็นการประเดิมเวทีครั้งแรกของเก๋ในรายการ "Last Idol Thailand" เพราะที่ผ่านมาเก๋ยังไม่เคยถูกท้าชิงมาก่อน พรีม-ปฐมาภรณ์ เลือกร้องเพลง "จริง ๆ มันก็ดี" ของ จีน่า เดอซูซ่า ด้วยเสียงหวาน ๆ ของพรีมเปลี่ยนให้เพลงแสบซ่ากลายเป็นเวอร์ชั่นสดใสมองโลกบวกขึ้นมาทันที ทำให้กรรมการชุดใหม่อย่าง โบ ไทรอัมพ์ คิงดอม, หนึ่ง อีทีซี, ณัฐ เคลียร์ และ แทน ลิปตา อดยิ้มไปกับการแสดงของเธอไม่ได้

เมื่อผู้ท้าชิงคนที่ 12 สาดพลังบวกให้ผู้ชมขนาดนี้ เก๋-พรรณิภา จะเรียกความสนใจจากกรรมการให้เทคะแนนให้กับเธอด้วยเพลงอะไร? รอให้กำลังใจเก๋กันต่อในวันอาทิตย์ที่ 1 ส.ค. เวลา 12.30-13.30 น ทางช่อง 7 HD
#3126


นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการนำไม้ยืนต้นมาเป็นหลักประกันการกู้เงินซึ่งเป็นนโยบายรัฐบาลว่า " กระทรวงพาณิชย์ ได้ออกกฎกระทรวงกำหนดให้ ไม้ยืนต้นเป็นทรัพย์สินที่ใช้เป็นหลักประกันได้ โดยประกาศราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2561 ซึ่งไม้ยืนต้นทุกชนิดใช้เป็นหลักประกันการกู้ยืมเงินได้ ขึ้นอยู่กับคู่สัญญาจะตกลงกันว่าจะใช้ไม้ยืนต้นประเภทใดหรือชนิดใดเป็นหลักประกัน ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า มีหน้าที่เป็นสำนักงานทะเบียนหลักประกันทางธุรกิจ รับจดทะเบียนสัญญาหลักประกัน แก้ไขการจดทะเบียน และยกเลิกการจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ ตามกฎหมายว่าด้วยหลักประกันทางธุรกิจ ตามที่สถาบันการเงิน ซึ่งเป็นผู้รับหลักประกันนั้นเป็นผู้ให้วงเงินสินเชื่อ และทำสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ


ดังนั้น กฎหมายหลักประกันทางธุรกิจจึงเป็นกลไกสำคัญในการส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ประกอบธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจ
เอสเอ็มอี เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายมากขึ้น สามารถนำทรัพย์สินที่มีมูลค่าอื่นที่ใช้ในการประกอบธุรกิจมาเป็นหลักประกันการชำระหนี้ได้โดยไม่ต้องส่งมอบทรัพย์สินนั้น" ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าว



นางมัลลิกา กล่าวว่า สำหรับไม้ยืนต้นทุกชนิด ที่ใช้เป็นหลักประกันการกู้ยืมเงินได้ เมื่อติดตามดูข้อมูล ณ วันที่ 23 กรกฎาคม 2564 สถิติการจดทะเบียน กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กองทะเบียนหลักประกันทางธุรกิจ ได้จดทะเบียนไม้ยืนต้นเป็นหลักประกันแล้ว จำนวน 125,911 ต้น จำนวนเงินที่เป็นหลักประกัน 134,829,112 บาท โดยส่วนใหญ่ใช้ไม้ยืนต้นประเภท ยาง ยางนา ยางพารา สัก มะขาม มะกอกป่า สะเดา ตะโก เป็นต้น นอกจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารกรุงไทยที่รับไม้ยืนต้นเป็นหลักประกันแล้ว ยังมีผู้รับหลักประกันอื่นใช้ไม้ยืนต้นเป็นหลักประกัน จำนวน 5 ราย โดยผู้รับหลักประกันอื่นที่รับไม้ยืนต้นส่วนใหญ่เป็น

ผู้ประกอบธุรกิจให้สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ (สินเชื่อรายย่อยอเนกประสงค์) วงเงินกู้ไม่เกิน 50,000 บาท ต่อราย และพิโกพลัส (สินเชื่อรายย่อยอเนกประสงค์) วงเงินกู้ไม่เกิน 100,000 บาท ต่อราย



" อย่างไรก็ตาม นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้ติดตามอย่างใกล้ชิดและให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้ากระทรวงพาณิชย์คอยให้ข้อมูลประชาชน ทั้งนี้เพื่อให้เกิดประโยชน์และเป็นโอกาสของประชาชนในภาวะวิกฤต ซึ่งนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 ถึงปัจจุบัน (23 กรกฎาคม 2564) มีการนำไม้ยืนต้นมาเป็นหลักประกัน จำนวน 32,133 ต้น จำนวนเงินที่เป็นหลักประกัน 4,559,112 บาท ทั้งนี้จะได้บูรณาการร่วมกันกับสถาบันการเงินเพื่อการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนและผู้ประกอบการเอสเอ็มอีได้ใช้กฎหมายและโครงการนี้เป็นโอกาสต่อไป" นางมัลลิกา กล่าว
#3127
ใคร ๆ ก็ไม่รัก ไปไหนมีแต่คนไม่ชอบหน้า ขาดเสน่ห์ ไม่มั่นใจ

น้ำมันว่านดอกทองใส่ตะกรุดนะอกแตก แค่ท่องคาถา
เจิมที่หน้าผากตัวเรา บังเกิดออร่าน่าจับตามอง
สายพุทธคุณ คุณพระ คุณว่าน ไม่เข้าตัว ไม่มีข้อห้าม ใช้ด้วยศรัทธา
น้ำมันว่านดอกทองใส่ตะกรุดนะอกแตกให้ทุกขวด ขวดละ 399 บาท
ตามตำราโบราณระบุว่าว่านดอกทองมีอำนาจทางเพศรุนแรง คนสมัยก่อนจึงนิยมเก็บดอกของว่านดอกทองไว้หุงกับน้ำมันจันทน์ ใช้น้ำมันว่านทาที่ตัว หรือใช้สีผึ้งทาปาก เมื่อถึงคราวจะต้องไปพบปะผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้คนต่างๆ หรือหนุ่มสาว พอได้กลิ่นว่านในน้ำมันหรือสีผึ้ง มักจะมีอาการใจอ่อนเคลิบเคลิ้มคล้อยตามได้ง่าย ชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้ สะกดจิตสะกดใจต่อผู้เจรจาด้วยยิ่งนัก ใครเห็นใครรักใครหลง ว่านดอกทองหรือว่านราคะ เป็นเมตตามหาเสน่ห์ มหานิยม มหาละลวย ลุ่มหลงงวยงง ทำให้คนรักคนหลง ทั้งยังช่วยให้มีโชคลาภ
ตะกรุดนะอกแตก เป็นมหาเสน่ห์ เมตตามหานิยม มหาละลวย แก่มนุษย์ทั้งหญิงชายทั้งหลาย
คาถากำกับ
โอมละลวยมหาละลวย หลงกันจนงงงวย จะภะกะสะภะคินี อาคัจฉายะ
อาคัจฉาหิ นะโมพุทธายะ
นะมะพะทะ นะมะพะทะ นะมะพะทะ
(ท่องเก้าจบ แล้วอธิษฐาน)
ใช้เจิมตามซอกคอ ตามตัว ทาที่คิ้ว เจิมที่หน้าผาก พกติดตัว

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สั่งซื้อบูชา ทักแชทได้เลยหรือติดต่อได้ที่
โทร. 0846623662
id line : teerapat999
เวปไซด์ http://porntaywa99.lnwshop.com/p/34

ลาซาด้า
https://www.lazada.co.th/.../-i1867850932-s5770096982...

shopee https://shopee.co.th/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1...
#3128


ธอส.เผยผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2564 ปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ 106,231 ล้านบาท 69,705 บัญชี เพิ่มขึ้น 5.20% จากช่วงเดียวกันของปี 2563 สินเชื่อคงค้างรวม 1,375,663 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 1,441,928 ล้านบาท มีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) 4.31% ของยอดสินเชื่อรวม ตั้งสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพื่อความมั่นคงและเตรียมพร้อมรับผลกระทบจากโควิด-19 จำนวน 104,390 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนต่อ NPL สูงถึง 176.13% พร้อมเร่งให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้จากโควิด-19 ล่าสุด มีลูกค้าได้รับความช่วยเหลือผ่านทั้ง 18 มาตรการของ ธอส. ตั้งแต่ปี 63 ถึงปัจจุบันเป็นจำนวนรวมสูงสุดมากกว่า 925,000 บัญชี เงินต้นคงเหลือ 796,500 ล้านบาท

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงาน ณ ไตรมาสที่ 2 ของปี 2564 ว่า แม้ประเทศไทยจะยังคงอยู่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจ และรายได้ของประชาชน แต่ ธอส. ยังคงสามารถทำหน้าที่ตามพันธกิจ "ทำให้คนไทยมีบ้าน" เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้อย่างต่อเนื่อง

ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 ธนาคารปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ 106,231 ล้านบาท 69,705 บัญชี เพิ่มขึ้น 5.20% จากช่วงเดียวกันของปี 2563 คิดเป็นเกือบ 50% ของเป้าหมายปล่อยสินเชื่อใหม่ปี 2564 ที่ 215,641 ล้านบาท สินเชื่อ 6 เดือนแรกที่ปล่อยไปเป็นสินเชื่อที่มีวงเงินกู้ไม่เกิน 2 ล้านบาท สำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง จำนวน 50,183 บัญชี ธนาคารมียอดสินเชื่อคงค้างรวมทั้งสิ้น 1,375,663 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.17% สินทรัพย์รวม 1,441,928 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.46% เงินฝากรวม 1,205,886 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.81% หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จำนวน 59,268 ล้านบาท คิดเป็น 4.31% ของยอดสินเชื่อรวม เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากสิ้นปี 2563 ที่มี NPL อยู่ที่ 3.75% ของสินเชื่อรวม โดยมีการตั้งสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญที่ 104,390 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนต่อ NPL สูงถึง 176.13% เพื่อความมั่นคงและเตรียมพร้อมรองรับผลกระทบจากโควิด-19 ในอนาคต

โดยธนาคารยังคงมีกำไรสุทธิตามเป้าหมายตัวชี้วัดของธนาคารที่ 5,993 ล้านบาท และมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) ในระดับแข็งแกร่งที่ 15.63% สูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด

ทั้งนี้ ปัจจัยหลักที่ธนาคารยังคงปล่อยสินเชื่อใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง คือ มาตรการต่างๆ ของรัฐบาล ผลิตภัณฑ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำของธนาคาร และการจัดโปรโมชันของผู้ประกอบการ ช่วยให้ประชาชนกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มีบ้านเป็นของตนเองและครอบครัวได้ง่ายขึ้น โดยผลิตภัณฑ์สินเชื่อของ ธอส. ที่มีลูกค้าเลือกใช้บริการสูงสุด 3 ลำดับแรก คือ



1.โครงการบ้าน ธอส. เพื่อคุณ อัตราดอกเบี้ยปีแรกเพียง 2.75% ต่อปี มียอดอนุมัติสะสมสูงถึง 23,620 ล้านบาท รองลงมา คือ สินเชื่อบ้านลูกค้าสวัสดิการ ธอส. ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยปีแรก 2.60% ต่อปี มียอดอนุมัติสะสม 11,998 ล้านบาท และ 3.โครงการบ้าน ธอส. เพื่อสานรัก อัตราดอกเบี้ยปีแรก 2.50% ต่อปี มียอดอนุมัติสะสม 11,215 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน ธอส. ยังคงให้ความช่วยเหลือลูกค้าประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ผ่านโครงการ ธอส. รวมไทย สร้างชาติ ผ่าน 2 มาตรการเร่งด่วนล่าสุดที่บรรเทาความเดือดร้อนให้ผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง คือ ลูกค้าทั้งที่เป็นนายจ้างและลูกจ้างในสถานประกอบการทั้งในและนอกพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ที่ต้องปิดกิจการจากมาตรการของทางการ มาตรการที่ 15 สำหรับลูกค้าที่มีสถานะบัญชีปกติ และมาตรการ 16 สำหรับลูกค้าที่มีสถานะ NPL หรืออยู่ระหว่างปรับโครงสร้างหนี้ จะได้รับความช่วยเหลือโดยการพักชำระเงินต้นและพักชำระดอกเบี้ยเป็นระยะเวลา 3 เดือน ระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม-31 ตุลาคม 2564 เปิดให้ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้ามาตรการเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2564



ล่าสุด ณ วันที่ 22 กรกฎาคม 2564 เวลา 16.00 น. มีลูกค้าลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้ามาตรการที่ 15 จำนวนเงินต้นคงเหลือ 48,880 ล้านบาท และมาตรการที่ 16 จำนวน 2,485 ล้านบาท ทำให้นับตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบัน ธอส. สามารถช่วยเหลือลูกค้าผ่าน 18 มาตรการ รวมเป็นจำนวนสูงสุดมากกว่า 925,000 บัญชี เงินต้นคงเหลือ 796,500 ล้านบาท โดยมาตรการที่ 15 และ 16 ลูกค้าสามารถลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้ามาตรการผ่าน Mobile Application : GHB ALL ได้ในวันจันทร์-ศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30-15.00 น. (เว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์) ตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 29 สิงหาคม 2564

ส่วนลูกค้าที่ต้องการลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เพื่อขอขยายระยะเวลาความช่วยเหลือตามมาตรการที่ 9, 10, 11 และ 11 New Entry : แบ่งจ่ายเงินงวดผ่อนชำระ (ตัดต้น ตัดดอก) มาตรการที่ 13 : พักชำระเงินต้น และจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน และมาตรการที่ 14 : พักชำระเงินต้น และจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน พร้อมลดดอกเบี้ย ไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ลูกค้าสามารถลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้ามาตรการผ่าน Mobile Application : GHB ALL ได้ในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-15.00 น. (เว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์) เช่นกัน ตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคม จนถึงวันที่ 29 กรกฎาคม 2564

นอกจากความช่วยเหลือในมาตรการด้านการเงิน ธอส. ยังคงให้ความช่วยเหลือสังคมไทยสู้ภัยโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ด้วยงบประมาณสนับสนุนรวมกว่า 5,000,000 บาท ให้หลายหน่วยงานทั้งสถานพยาบาล สถานศึกษา และสถานที่ให้บริการฉีดวัคซีน เป็นต้น เพื่อนำไปดำเนินการในด้านต่างๆ ที่จำเป็น เช่น การจัดสร้างหอผู้ป่วยไอซียูความดันลบแบบห้องแยกที่ใช้ในการรักษาผู้ป่วยวิกฤตที่มีอาการรุนแรง การจัดซื้อเครื่องฮีโมเปอร์ฟิวชันใช้ในการรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 การจัดสร้างไอซียูสนาม การจัดหาเก้าอี้นั่งจุดพักคอย น้ำดื่มธนาคารกว่า 100,000 ขวด รวมถึงหน้ากากอนามัยพร้อมสายคล้อง ถุงยังชีพ และอาหารกล่อง สอดคล้องกับนโยบายการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม หรือ CSR ของธนาคาร ด้วยความห่วงใยและตระหนักถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน อีกทั้งเป็นการสร้างจิตสำนึกในการเป็นจิตอาสาเพื่อช่วยเหลือสังคมให้ดียิ่งขึ้นต่อไป
#3129
ฟรี!! แอพสติ๊กเกอร์ที่ส่งไปได้ทั้ง Line, Facebook, Whatsapp และ WeChatแชทสติ๊ค มาร์เก็ต แหล่งรวมผลงานสติกเกอร์ จากแบรนด์ดังและเหล่าครีเอเตอร์มากมาย โดยจัดหมวดหมู่สติกเกอร์ และจัดอันดับสติกเกอร์สุดฮิตให้คุณไม่ตกเทรนด์คุณจะสามารถส่งสติกเกอร์ไปได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Line, Messenger, Whatsapp, Skype หรือในทุกช่องทางการแชทไหนก็ทำได้ให้คุณเพลิดเพลินไปกับการแชทที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
https://www.chatstickmarket.com/single-post/chatstickmarket

iOS ดาวน์โหลดที่นี่
Android ดาวน์โหลดที่นี่

#3130



วันจันทร์ที่ 26 กรกฎาคม 2564 บริษัท บางกอกอินดัสเทรียลแก๊ส จำกัด หรือ บีไอจี ผู้ผลิตออกซิเจนรายใหญ่ที่สุดในประเทศ สนับสนุนออกซิเจนทางการแพทย์พร้อมอุปกรณ์ปรับลดแรงดันผ่านกลุ่มเส้นด้าย เพื่อนำไปสำรองและใช้งานสำหรับรักษาผู้ป่วย Covid-19 ขั้นวิกฤตที่กำลังรอเตียงเพื่อเข้ารักษาในโรงพยาบาล โดยบีไอจีเห็นความสำคัญในการช่วยเหลือสถานการณ์ยอดผู้ติดเชื้อผู้ป่วย Covid-19 ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่เพิ่มขึ้นและมีความกังวลเกี่ยวกับการขาดแคลนและการเข้าถึงออกซิเจนสำหรับช่วยเหลือผู้ป่วย Covid-19          

"สถานการณ์การแพร่ระบาด Covid-19 ในขณะนี้มีผู้ป่วยที่ติดเชื้อ Covid-19 ตกค้างตามบ้านเรือนและชุมชนซึ่งรอเข้ารับการรักษาเป็นจำนวนมาก ในจำนวนนี้มีผู้ป่วยหนักหลายรายมีความจำเป็นต้องใช้ออกซิเจนทางการแพทย์อย่างเร่งด่วน บีไอจีเองได้พยายามอย่างยิ่งในการจัดสรรและส่งมอบออกซิเจนทางการแพทย์ให้แก่มูลนิธิและหน่วยงานต่าง ๆ อาทิ มูลนิธิกระจกเงา โครงการคลองเตยดีจัง จุดกักตัวชั่วคราว ณ วัดสะพานภายในชุมชนคลองเตย ซึ่งในครั้งนี้ได้เร่งให้การสนับสนุนออกซิเจนทางการแพทย์ พร้อมอุปกรณ์ปรับแรงดันแก่กลุ่มเส้นด้ายเพื่อนำไปกระจายต่อสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งาน" นายปิยบุตร จารุเพ็ญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกอินดัสเทรียลแก๊ส จำกัด กล่าว
          
บีไอจีตระหนักถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการช่วยเหลือผู้ติดเชื้อ Covid-19 โดยที่ผ่านมาบีไอจีให้การสนับสนุนออกซิเจนทางการแพทย์กับหน่วยงานสาธารณสุขทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงการสร้างเครือข่ายกับผู้แทนจำหน่ายของบีไอจีรอบกรุงเทพฯ และปริมณฑลในการเติมออกซิเจนทางการแพทย์โดยไม่มีค่าใช้จ่ายให้กับมูลนิธิหรืออาสาสมัครกู้ภัยต่าง ๆ ด้วยถังออกซิเจนที่ได้ตามมาตรฐาน มอก. ออกซิเจนทางการแพทย์ และอายุถังไม่เกิน 5 ปี หรือหากเป็นถังบรรจุที่เกิน 5 ปี ต้องผ่านการทดสอบภาชนะบรรจุ ตามมาตรฐานการทดสอบภาชนะบรรจุก๊าซ (มอก–358-2551) และไม่เกิน 5 ปี
#3131


ร้านอาหารเป็นธุรกิจประเภทหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 อย่างหนักหนาสาหัส แม้เป็นสินค้าที่จำเป็นต่อชีวิตมากเพียงใดก็ตาม

หากอยากทราบว่าครึ่งปีที่ผ่านมาธุรกิจร้านอาหารแบรนด์ใหญ่ๆ เป็นอย่างไรกันบ้าง เอาตัวรอดกันด้วยกระบวนท่าไหน เจ้าหนึ่งที่น่าพูดคุยก็คือ บริษัท ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ 'ไมเนอร์ ฟู้ด' ซึ่งประกอบธุรกิจร้านอาหารทั้งคาวและหวานที่คนไทยคุ้นเคยและผูกพันหลายแบรนด์ ทั้ง The Pizza Company, Sizzler, Burger King, Swensen's, Dairy Queen, Bonchon, The Coffee Club และ Benihana ซึ่งรวมๆ แล้วแบรนด์เหล่านี้มีร้านในเมืองไทยเกือบ 1,600 สาขา และในต่างประเทศอีกเกือบ 800 สาขา


ปี 2563 โควิด-19 เล่นงานชาวโลกตั้งแต่ต้นปีจนถึงสิ้นปี นับเป็นปีที่ยากลำบากมากๆ ปีหนึ่งของธุรกิจร้านอาหาร แต่ไมเนอร์ ฟู้ด เป็นบริษัทที่โดดเด่น และทำผลงานได้ดี สามารถทำกำไรสุทธิได้ 1,500 ล้านบาท

สำหรับปี 2564 นี้ สถานการณ์ยากขึ้น แต่ไมเนอร์ ฟู้ด ทำยอดขายในไตรมาสแรกได้ 5,123 ล้านบาท เป็นกำไรสุทธิ 160 ล้านบาท ดีขึ้นกว่าไตรมาส 1 ของปีที่แล้วที่ขาดทุน 97 ล้านบาท ส่วนไตรมาสที่ 2 ซึ่งเป็นระลอกที่หนักที่สุดตั้งแต่เกิดการระบาดขึ้นในประเทศไทย ยังไม่ทราบว่าตัวเลขจะออกมาเป็นอย่างไร

ไทยรัฐออนไลน์ชวน ประพัฒน์ เสียงจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) มาพูดคุย ถาม-ตอบ รีวิวครึ่งแรกของปี 2564 ว่ายากลำบากขนาดไหนสำหรับธุรกิจอาหาร ไมเนอร์ ฟู้ด สู้ด้วยอาวุธอะไร ผ่านมาในสภาพแบบไหน และชวนมองไปยังครึ่งปีที่เหลือว่าพอจะมองเห็นแสงสว่างหรือไม่ อย่างไร จะเดินต่อด้วยท่าทีและกลยุทธ์แบบไหน

ปี 2564 ครึ่งปีแรกของไมเนอร์ ฟู้ด เป็นอย่างไร
เป็นครึ่งปีที่เร็วที่สุดในชีวิต ผ่านไปครึ่งปีอย่างรวดเร็ว เพราะไม่มีเวลาหยุดคิดเลย เสร็จเรื่องนี้ต่อเรื่องนี้ เรื่องนี้จบต่อเรื่องนี้ไปเรื่อยๆ ผลประกอบการครึ่งปีแรก ถือว่าเป็นผลประกอบการที่เซอร์ไพรส์มาก เพราะว่าเราไม่ได้แพลน และไม่ได้เตรียมงบประมาณไว้ว่าจะมีการระบาดระลอกที่ 3 เราจัดทำงบประมาณของปี 2564 โดยคิดว่าตั้งแต่เดือนกรกฎาคมไปถึงสิ้นปี 2564 ทุกอย่างควรจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่มันไม่เป็นไปตามนั้น เนื่องจากเกิดการระบาดระลอกที่ 3 ทำให้ผลประกอบการชะงักไปนิดหนึ่ง บางแบรนด์ทำยอดขายไม่ได้ตามที่ตั้งใจไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแบรนด์ที่อยู่ในพื้นที่ท่องเที่ยวคือ Burker King กับ The Coffee Club ยังไม่เปิดร้านประมาณ 30 กว่าสาขา

ใกล้จะหมดไตรมาสที่ 2 แล้ว พอจะเล่าได้ไหมว่าไตรมาสที่ 2 เป็นอย่างไร
ภาพรวมดีขึ้นพร้อมกับยังติดลบอยู่ เพราะว่าในเดือนเดียวกันของปีที่แล้วเคสการติดเชื้อต่ำแล้ว เรานั่งทานในร้านได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ในตอนนี้เรายังมีผู้ติดเชื้อวันละ 3,000 คน เรายังต้องมีการเว้นระยะห่างทางสังคม ความรู้สึกคนถ้าเห็นคนในร้านเยอะก็ยังไม่อยากเข้า กฎนั่งได้ 25 เปอร์เซ็นต์ยังไม่ถูกคลายล็อก บรรยากาศและสิ่งแวดล้อมภาพรวมยังไม่ดีขึ้นเท่าไร

ปีที่แล้วก็เจอโควิด-19 ไมเนอร์ ฟู้ด ทำอย่างไรให้ยังมีกำไร
ปีที่แล้วไมเนอร์ ฟู้ด น่าจะเป็นธุรกิจร้านอาหารบริษัทเดียวที่ perform ดี เพราะว่าเรามีช่องทางการจำหน่ายอาหารที่หลากหลาย เรามี 1.ไดน์อิน (Dine in) นั่งทานในร้าน 2.เดลิเวอรี่ (Delivery) บริการจัดส่ง ซึ่งเรามีแบรนด์ 1112 ของเราเอง และมีช่องทางของพาร์ตเนอร์ 3.เทกอะเวย์ (Take away) อาหารของไมเนอร์ ฟู้ด หลายหลายอย่างซื้อกลับไปกินที่บ้านได้ 4.ไดรฟ์ทรู (Drive through) ของ Burger King ช่องทางการจำหน่ายของเราไม่ได้ยึดติดกับตัวใดตัวหนึ่ง เมื่อมีปัญหานั่งกินในร้านไม่ได้ เราก็ไปขายอีก 3 ช่องทาง เราโชคดีที่วางช่องทางการจำหน่ายไว้หลากหลายและแข็งแกร่งทุกช่องทาง นั่นคือความต่างเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่น ก็เลยทำให้ปีที่แล้วผลประกอบการออกมาดีกว่าสถานการณ์ที่เป็นอยู่



สถานการณ์ปีที่แล้วกับปีนี้มีความเหมือน และความต่างอย่างไร สามารถเอากลยุทธ์ที่ใช้ปีที่แล้วมาใช้กับปีนี้ได้ไหม มากน้อยอย่างไร
ใช้ได้ แต่ผลลัพธ์ไม่เท่าเดิม เรายังโฟกัสที่เดลิเวอรี่เหมือนเดิม แต่ปีที่แล้วเราให้โปรโมชั่นได้มาก ปีนี้เราก็ต้องผ่อนๆ ลง เพราะเราจะต้องดูแลเรื่องกำไรมากขึ้นด้วย การให้โปรโมชั่นมากเกินไปก็ไม่ได้แปลว่าดีเสมอไป เพราะทำให้ยอดขายโดยรวมไม่กลับมา

ตอบคำถามก็คือปีนี้กับปีที่แล้วทำคล้ายๆ กัน แต่ต้องหาวิธีการสื่อสารหลายช่องทางมากขึ้น ที่ว่าคล้ายๆ คือเราโฟกัสที่เดลิเวอรี่คล้ายๆ เดิม ปีนี้บริการ 1112 ของเราโตขึ้นมาก ปีที่แล้วเดือนพฤษภาคม 1112 ทำยอดขายได้ 59 ล้านบาท พฤษภาคมปีนี้ยอดขายเพิ่มเป็น 81 ล้านบาท เราโชคดีที่มี 1112 Delivery ของเราเอง แบรนด์อื่นๆ อาจจะต้องพึ่งพา Grab, foodpanda ซึ่งถ้าไปสัมภาษณ์เจ้าอื่นๆ ก็จะรู้ว่าขายดีไม่ได้แปลว่าได้กำไรดีนะ ถ้าพึ่งพาแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่มากๆ เพราะค่าจีพีมโหฬาร นี่คือความต่างของเรา ซึ่งความต่างนี้ไม่ได้มาโดยบังเอิญ แต่มาจากการที่เราใส่โปรโมชั่นเข้าไปเยอะพอสมควร

เดลิเวอรี่คือความต่างที่สุดของเรา ปีนี้เราใช้ทรัพยากรไปที่เดลิเวอรี่เยอะขึ้น ความต่างเรื่องที่ 2 คือเรื่องการลงทุน เราตัดค่าใช้จ่ายทุกอย่างลง เรารู้ว่าการเปิดร้านไม่ได้แปลว่าจะมีคนเข้ามากเหมือนเมื่อก่อน ฉะนั้นการลดขนาดพื้นที่ร้านสัก 20 เปอร์เซ็นต์ ค่าใช้จ่ายในการสร้างร้านก็อาจจะลด 30 เปอร์เซ็นต์ นี่เป็นกลยุทธ์ที่จะผลักดันทุกแบรนด์ว่าจะต้องไม่ทำร้านใหญ่ๆ แล้ว ความต่างข้อที่ 3 คือบุคลากรหนึ่งคนจะต้องทำงานหลายงานมากขึ้น เราเพิ่มทักษะให้พนักงานสามารถดูแลงานได้มากขึ้น นี่คือความต่างที่เกิดขึ้นในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาของไมเนอร์ ฟู้ด

เทียบสถานการณ์ปกติกับในช่วงโควิด-19 สัดส่วนช่องทางการขายเปลี่ยนเยอะไหม อย่างไรบ้าง
เปลี่ยนเยอะมากๆ ช่องทางเดลิเวอรี่เป็นฮีโร่ไปแล้ว แต่ถ้านั่งในร้านได้ไดน์อินก็จะกลับมาเป็นฮีโร่ ถ้าสถานการณ์ปกติยอดขายไดน์อินเป็น 60 เปอร์เซ็นต์ ส่วนเดลิเวอรี่บวกเทกอะเวย์บวกไดรฟ์ทรูเป็น 40 เปอร์เซ็นต์ แต่ในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ ไดน์อินตกลงมาเหลือน้อยกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ ฝั่งเดลิเวอรี่, เทกอะเวย์ และไดรฟ์ทรู ขึ้นมาเป็น 80 เปอร์เซ็นต์

สัดส่วนการพึ่งพาแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่เจ้าอื่นกับ 1112 บริการเองเป็นอย่างไร
พาร์ตเนอร์เรายังมีอัตราส่วนยอดขายค่อนข้างสูง และเรามีหลายเจ้าที่เป็นพาร์ตเนอร์ที่ดีและน่ารักกับเราอยู่ สัดส่วนเป็น 1112 เองสัก 25-30 เปอร์เซ็นต์ ปีที่แล้วมี 5 เปอร์เซ็นต์เอง ตอนนี้หลายๆ แบรนด์ก็กำลังพยายามที่จะโต



ครึ่งปีหลังจะโฟกัสอะไร
เรารอการกลับมาของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมากๆ ที่นายกฯ ประกาศว่าอีก 120 วันจะเปิดประเทศ เป็นข่าวดีมากๆ ไม่รู้ว่าจะจริงหรือไม่จริง แต่รู้สึกว่าเป็นวิชั่นที่ดี พอมีกำหนดคนก็เริ่มรู้สึกมีเป้าหมาย 120 วันจะเป็น game changer วิธีคิดของพวกเรา และอีกอย่างหนึ่งที่เรารอก็คือเราอยากให้พนักงานของเราได้ฉีดวัคซีนให้เร็วที่สุดครับ

ระหว่างมีกับไม่มีกำหนดเปิดประเทศ กลยุทธ์ที่เตรียมไว้ต่างกันอย่างไรบ้าง
ต่างกัน เพราะว่าตอนนี้เรามุ่งเน้นไปที่การพัฒนาแพ็กเกจจิ้งเพื่อจัดส่งเดลิเวอรี่ให้ได้ แต่ถ้าจะเปิดประเทศเราต้องไปดูเรื่องการพัฒนาโปรดักต์สำหรับคนต่างชาติ ร้าน 80 กว่าสาขาในสนามบินที่ปิดอยู่ในตอนนี้ก็จะกลับมาเปิด ซึ่งร้านในสนามบินมีโจทย์ที่ต่างจากร้านข้างนอก เพราะลูกค้าเร่งรีบ เมนูอาหารก็ต้องสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว

ในตอนที่ยังไม่แน่ชัดว่าจะเปิดหรือไม่เปิด เราก็ต้องบาลานซ์ทั้ง 2 ทาง ถึงแม้จะยังไม่มีการคอนเฟิร์มว่าเปิดจริงหรือไม่จริง เราก็ต้องเตรียมไว้ตั้งแต่วันนี้ แต่ต้องเตรียมแบบระวัง ไม่ได้เตรียมแบบมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม เราคงไม่ลงทุนอะไรมากมาย

ครึ่งปีที่ผ่านมาแบรนด์ไหนทำยอดขายดี-เป็นฮีโร่
ก็ยังเป็นแบรนด์ใหญ่ของเรา The Pizza Company ส่วน Bonchon มีการขยายสาขาหลายสาขา และที่ดีในช่วงโควิด-19 ตลอดก็คือ Burger King เพราะมีช่องทางไดรฟ์ทรูที่แข็งแรง และมีเดลิเวอรี่ที่ค่อนข้างแข็งแรง ยอดขายไดน์อินที่หายไปก็เลยไม่ได้ส่งผลกระทบต่อยอดขายรวมมากนัก

การขยายสาขาในช่วงโควิด-19 พิจารณาเลือกทำเลที่ตั้งอย่างไรว่าจะเข้าไปอยู่ตรงไหน
ถ้าในช่วงโควิด-19 ก็เป็นการมองระยะสั้น และคิดว่าการมองระยะสั้นนั้นอาจจะทำให้มันโตอย่างต่อเนื่องก็ได้ โดยที่เราดูว่าพื้นที่ตรงนั้นมีที่อยู่อาศัยหรือเปล่า ต้องดูว่าเดลิเวอรี่สามารถอยู่ตรงนี้ได้ด้วยหรือเปล่า ถ้าจะไปตั้งอยู่ใกล้ทะเล รอบๆ มีแต่นักท่องเที่ยว ไม่ได้เป็นย่านที่อยู่อาศัย ก็ต้องหยุดก่อนจนกว่านักท่องเที่ยวจะกลับมาปกติ

ทั้งภาพรวมตลาดธุรกิจอาหารครึ่งปีที่ผ่านมาเป็นอย่างไร
ไม่รู้เลยว่าแบรนด์อื่น-บริษัทอื่นเป็นอย่างไร แต่เท่าที่คุยกับเพื่อนที่ทำธุรกิจอาหารไม่มีแบรนด์ไหนดี ช่วงระลอกที่ 3 หนักกว่ารอบที่ 1 กับ 2 เพราะมันกินเวลานาน เกือบ 3 เดือนแล้วที่ยอดขายของเราค่อนข้างหนัก แต่ต้องถือว่าเป็นความโชคดีของเราคือ ไมเนอร์ ฟู้ด มีธุรกิจในประเทศอื่น ในขณะที่ไมเนอร์ ฟู้ด ที่ไทยกำลังยากลำบาก ไมเนอร์ ฟู้ด ที่จีนกำลังทำยอดขายดีมาก โตขึ้นมาเป็น 3-4 เท่าจากเดิม เพราะตอนนี้จีนกลับมาปกติแล้ว ออสเตรเลียก็เกือบปกติแล้ว ยอดขายจากจีนและออสเตรเลียก็เลยมาช่วยไทย กลับกันกับเมื่อปีที่แล้วยอดขายในไทยช่วยยอดขายประเทศอื่นทั้งโลกเลย แต่อัตราส่วนยอดขายในไทยเป็น 60 เปอร์เซ็นต์ของไมเนอร์ ฟู้ด เพราะฉะนั้นเวลาเราแย่มันก็แย่หนัก


สามารถเรียนรู้จากต่างประเทศมาปรับใช้ได้ไหม มากน้อยแค่ไหน หรือว่าสถานการณ์ต่างกันมากจนไม่สามารถปรับใช้ได้
เรื่องโรคระบาดเราใช้ประเทศจีนเป็นต้นแบบ ช่วยให้เรารู้ว่าเฟส 1 ของการระบาดเป็นอย่างไร เฟส 2 ต้องเตรียมคนอย่างไร เฟส 3 ทำอย่างไร เราใช้โมเดลของจีนมาปรับใช้ แต่ตอนนี้ไม่ค่อยได้คุยกันว่าแต่ละประเทศควรจะทำตามกันหรือเปล่า เราบริหารค่อนข้างเอกเทศ ไม่ได้ใช้โมเดลเดียวกันมากมาย

สิ่งที่ยากที่สุดของไมเนอร์ ฟู้ด ในสถานการณ์โควิด-19 คือการไม่มีนักท่องเที่ยว หรืออะไร
การไม่มีนักท่องเที่ยวไม่เท่าไร เรื่องแรกคือเราอยากได้ความมั่นใจว่าเราจะได้รับวัคซีนครบเมื่อไหร่ ถึงแม้ต่างชาติยังไม่เข้ามา แต่เราจบในประเทศเราให้ได้ก่อน พอเรื่องนี้ผ่านไปแล้วจะเปิดประเทศให้ต่างชาติกลับเข้ามา ก็เป็นสัญญาณที่น่าจะสดใส

คาดหวังว่าการเปิดประเทศตามที่นายกฯ บอกจะส่งผลต่อผลประกอบการปีนี้มากแค่ไหน
อีก 120 วันก็เกือบหมดปีพอดี คิดว่าคงเป็นไปตามเป้า แต่อาจจะไม่ได้บรรลุสิ่งที่เป็นเป้าหมายหลัก เพราะถ้าจะบรรลุเป้าหมายหลักคือเราควรจะเปิดประเทศตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 เป็นต้นไป แต่ท่านนายกฯบอกว่าอีก 4 เดือน ถ้านับไปก็เปิดประเทศเดือนพฤศจิกายน ปีนี้เราก็จะได้ยอดขาย 2 เดือน แต่ความสดใสที่เห็นชัดเจนก็คือปีหน้า

ตั้งเป้ารายได้และกำไรปีนี้ไว้เท่าไร
กำไรก็ยังมั่นใจว่าส่งได้ตามที่ตั้งเอาไว้แน่นอน เป็นตัวเลขที่เราคอมมิทกับบอร์ดบริหารไว้แล้วว่าจะส่งเท่าไรก็คงจะต้องส่งเท่านั้น ส่วนยอดขายอาจจะยากนิดหนึ่ง ก็ต้องมาลดค่าใช้จ่าย ต้องเข้มงวดมากขึ้น ที่อยากได้ที่สุดก็คือเรื่องการลดค่าเช่า เพราะว่าเป็นค่าใช้จ่ายหลักอันหนึ่งของเรา ซึ่งเราก็เจรจาตลอด ยอมรับว่าแลนด์ลอร์ดก็น่ารักกับไมเนอร์ ฟู้ด ช่วยเหลือกันดีมาตั้งแต่รอบแรก ต้องขอบคุณทุกท่าน ถ้าได้มากกว่านี้ก็จะขอบคุณมาก

พอช่องทางการขายหลักอยู่ที่เดลิเวอรี่ปรับเปลี่ยนการมองและนิยาม 'คู่แข่ง' ไหม มองว่าแข่งกับร้านเล็กในชุมชนด้วยหรือเปล่า หรือยังมองแค่เชนใหญ่ด้วยกัน
ไม่ เราอาจจะมีคู่แข่งที่เป็นร้านดังๆ ที่มีอยู่แค่สาขาเดียวหรือ 2 สาขาก็ได้ ไม่จำเป็นจะต้องเป็นเชนใหญ่เหมือนกัน ไม่ใช่ว่า Bonchon จะแข่งแต่กับไก่เกาหลีเหมือนกัน เราอาจจะแข่งกับไก่ทอดหาดใหญ่คิวยาวๆ ก็ได้ วิธีการมองคู่แข่งก็เปลี่ยนไปหมด Sizzler มีสลัด แต่เดี๋ยวนี้สลัดก็เต็มไปหมด อย่าง Salad Factory และ Jones Salad หรืออย่าง โอ้กะจู๋ นั่นก็คือคู่แข่งรายใหม่ ซึ่งเขามีอยู่ไม่กี่สาขา แต่เราถือว่าเป็นคู่แข่งหมด


แต่แบรนด์ใหญ่น่าจะยังได้เปรียบในแง่ที่มีสาขาเยอะ ครอบคลุมหลายพื้นที่ และมีกำลังในการทำโปรโมชั่น
แต่ความเสี่ยงก็เยอะ ถ้าสถานการณ์ไม่ดีปุ๊บมันก็หนัก เพราะว่าต้นทุนเยอะ แต่พอฟื้นตัวกลับมา มันก็อาจจะเป็นแบรนด์ที่โตขึ้นมาเร็วที่สุดด้วยเช่นเดียวกัน เนื่องจากสาขามันกระจายตัว

เทียบกันระหว่างปีที่แล้วกับปีนี้ ปีนี้ยากกว่าและความเปลี่ยนแปลงเยอะกว่าใช่ไหม
ปีนี้ยากกว่าเยอะ แต่ว่าเราก็มีต้นแบบมาจากปีที่แล้ว ปีที่แล้วเราคิดอะไรไม่ออกเลยว่าโควิด-19 คืออะไร จะฉีดวัคซีนเมื่อไหร่ ฉีดแล้วจะเกิดอะไรขึ้นไหม แต่ตอนนี้ทุกอย่างคลี่คลายไปทีละเปลาะๆ ตอนนั้นมืดไปหมด แต่ตอนนี้เราคิดว่าอีก 120 วันก็จบแล้ว

จะนิยามครึ่งปีที่ผ่านมาอย่างไร บรรยากาศมืดมัวประมาณไหน
ตั้งแต่มกราคมก็สะลึมสะลือมา เพราะมีการระบาดอีกระลอกตั้งแต่ปลายปี 2563 แต่มามืดสนิทก็คือตอนเดือนเมษายน ตอนนี้ ณ วันที่ 18 มิถุนายน รู้สึกว่าเริ่มสว่างขึ้น และจากข่าวที่เปิดให้นั่งทานในร้านได้มากขึ้น และขยายเวลาเปิดร้านมากขึ้นก็เป็นข่าวที่ทำให้ทุกอย่างผ่อนคลายขึ้น ก็มีความหวังครับ

ภาพโดย ชุติมน เมืองสุวรรณ
#3132
 5 วัน 5 คอร์ส เรียนออนไลน์ พื้นฐานสู่มือาชีพ


ประกาศๆ แจ้งให้ทราบ ถ้าคุณเป็นแบบนี้อยู่
ไม่มีประสบการณ์เลย
วิกฤตธุรกิจไปต่อไม่ได้
อายุเยอะแล้วกลัวเรียนไม่ทัน
อยากขายออนไลน์เป็น แต่ไม่มีคนสอน
เอาความรู้ไปต่อยอด

>>> 97 บาท <<<
ตอบโจทย์ที่สุดแล้ว ตอนนี้!!!
เพราะเราออกแบบคอร์สนี้
มาให้สำหรับท่านแล้ว
____________________________
5 วัน 5 วิชา
ที่สามารถพาคุณไปเจอกับโลกใบใหม่
เรียนผ่านมือถือเครื่องเดียว
วัยไหนก็เรียนได้
ปรึกษาได้ตลอด
ดูแลอย่างใกล้ชิด
วันที่ 1 การปรับหน้าโปรไฟล์
วันที่ 2 การสร้างวีดีโอ / รูปให้ดูน่าสนใจ
วันที่ 3 การสร้าง Content
วันที่ 4 การสร้างเพจมืออาชีพ
วันที่ 5 สอนยิงตรงกลุ่ม ยิงถูก ปิดยอดเก่ง
พร้อมวิธีหากลุ่มเป้าหมายแบบตรงเป๊ะ
.
เรียนจบครบทั้ง 5 วัน รับวุฒิบัตรได้ด้วย
ทั้งหมดนี้
เราเก็บค่าคอร์สกับคุณเพียง 97 บาท
ย้ำ!!คุณดูไม่ผิดหรอก 97 บาท
จากราคาปกติ 7,990 บาท
.
จำนวนจำกัด
สิทธิ์ 97 เฉพาะ 100 ท่าน
.
ขอท่านที่สนใจเรียนจริงๆ
เพราะเราก็ตั้งใจสอนให้ท่านจริงๆเช่นกันสนใจติดต่อ โค้ชเอก

โทร 0846623662

line id คลิก : teerapat999
facebook คลิก https://www.facebook.com/teerapat992018
website http://porntaywa99.lnwshop.com/p/1228
รายละเอียดเพิ่มเติม https://teerapat99.iconsalepage.com/
#3133


เมื่อเร็ว ๆ นี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน รับมอบยาเรมเดซิเวียร์ (Remdesivir) นำเข้าจากต่างประเทศ จำนวน 2,000 ขวด เพื่อใช้กับผู้ป่วย COVID-19 ที่ไม่สามารถใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) ได้ โดยเฉพาะผู้ตั้งครรภ์ที่มีภาวะปอดอักเสบ จากคณะผู้บริหารกลุ่ม ปตท. นำโดย ศาสตราจารย์พิเศษ    ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ ประธานกรรมการ ปตท. นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และนายบุรณิน รัตนสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารกลยุทธ์กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย ปตท. ที่ ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า กระทรวงพลังงานได้มอบนโยบายให้หน่วยงานในสังกัด เร่งหาแนวทางช่วยเหลือประชาชนในวิกฤต COVID-19 อย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะในจุดที่เป็นความจำเป็นสูงสุดในช่วงนี้ ซึ่ง กลุ่ม ปตท. อยู่ระหว่างเร่งจัดตั้งหน่วยคัดกรองและโรงพยาบาลสนามครบวงจร (End-to-End) นำร่องเป็นต้นแบบของภาคธุรกิจที่จะเข้ามาร่วมมือกับภาครัฐ โดยเฉพาะกระทรวงสาธารณสุข ร่วมช่วยเหลือสถานการณ์ COVID-19 ของประเทศในปัจจุบัน ที่ยังมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของภาครัฐ หลังจากที่สนับสนุนการนำเข้ายาเรมเดซิเวียร์เพื่อเพิ่มสำรองคงคลังภายในประเทศ

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. เปิดเผยว่า กลุ่ม ปตท. มีความตั้งใจที่จะร่วมสนับสนุนการแก้ปัญหาวิกฤต COVID-19 ของประเทศมาอย่างต่อเนื่องภายใต้ 'โครงการลมหายใจเดียวกัน' ซึ่งยาเรมเดซิเวียร์ดังกล่าว ปตท. ได้มอบให้ บริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด จัดหาและนำเข้าเพื่อสนับสนุนภาครัฐ รวมทั้งเตรียมการจัดหาอย่างต่อเนื่องเพิ่มเติม เพราะประเทศยังมีความจำเป็นต้องใช้มากยิ่งขึ้น

"กลุ่ม ปตท. ขอเป็นกำลังใจและเคียงข้างสังคมไทย เพื่อให้คนไทยและประเทศ ก้าวผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกันโดยเร็วที่สุด"


สำหรับการให้ความช่วยเหลือในขั้นถัดไป กลุ่ม ปตท. ได้เตรียมการเพิ่มกำลังการดูแลผู้ป่วยโควิดครบวงจร (End-to-End) เพื่อเป็นอีกแรงสนับสนุนแก้ปัญหาวิกฤตเร่งด่วนของประเทศในขณะนี้ มุ่งเน้นการตรวจเร็ว แยกเร็ว รักษาเร็ว โดยจะร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขและพันธมิตรทางการแพทย์ ในการเพิ่มการตรวจคัดกรองเชิงรุก เพื่อคัดแยกผู้ติดเชื้อ การดูแลผู้ติดเชื้อที่ดูแลตนเองเบื้องต้นที่บ้าน หรือ ในชุมชน (Home or Community Isolation) กลุ่ม ปตท. จะมอบ 'กล่องพลังใจ คนไทยไม่ทิ้งกัน' ที่ประกอบด้วยอุปกรณ์ ยา และ ของใช้ที่จำเป็น พร้อมระบบติดตามอาการทางไกล ตลอดจนการส่งต่อผู้ป่วยเข้าโรงพยาบาลสนามเขียวและเหลืองตามระดับความรุนแรงของอาการ โดยร่วมจัดตั้งโรงพยาบาลสนามในระดับสีเขียวประมาณ 1,000 เตียง ระดับสีเหลือง 350 เตียง

รวมทั้งจัดตั้งโรงพยาบาลสนามไอซียู รองรับผู้ป่วยขั้นวิกฤต ระดับสีแดง จำนวน 120 เตียง ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ดูแลทั้งระบบโดยบุคลากรทางการแพทย์ของพันธมิตรกลุ่ม ปตท. ทั้งนี้คาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ในปลายเดือนกรกฎาคมนี้
#3134


อัพเดท ตรวจสอบเช็คสิทธิรับเงินเยียวยา "ประกันสังคม" www.sso.go.th ยืนยันสมัคร "ผู้ประกันตนมาตรา 40" ไม่กระทบสิทธิ "บัตรทอง" และ "บัตรคนจน" แถมสมัครแล้ว ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้เพิ่มขึ้นด้วย 

อัพเดทมาตรการจ่าย "เงินเยียวยา" สำหรับ "ผู้ประกัน" ใน "ประกันสังคม" มาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 สำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการล็อคดาวน์สถานการณ์โควิด-19 พื้นที่สีแดงเข้มรวม 13 จังหวัด ก็มีประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะประกันสังคมมาตรา 40 ที่เปิดให้ผู้ประกอบ "อาชีพอิสระ" สามารถสมัครเข้าเป็น "ผู้ประกันตนมาตรา 40" เพื่อรับเงินเยียวยา 5,000 บาทจากรัฐได้

แต่หลายคนยังมีข้อสงสัยว่าการเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 จะได้ประโยชน์อะไร แล้วจะเสียโอกาสในการรักษาพยาบาล "บัตรทอง" อย่างที่โซเชียลมีเดียตั้งข้อสังเกตหรือไม่

"กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" รวบรวมรายละเอียดเพื่อไขข้อข้อใจว่าการเป็น "ผู้ประกันตนมาตรา 40" จะได้ประโยชน์อะไร แล้วจะเสียโอกาสใน "บัตรทอง" และ "บัตรคนจน" หรือไม่ดังนี้

สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ชี้แจงถึงกรณีที่ผู้ถือบัตรทอง บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจน หรือสวัสดิการแห่งรัฐต่าง ๆ เมื่อสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 แล้ว ยืนยัน ไม่มีผลกระทบ และใช้สิทธิการรักษาพยาบาลร่วมกับบัตรทอง และสวัสดิการแห่งรัฐต่างๆ ที่เคยได้รับได้เหมือนเดิม แต่สิ่งที่ได้เพิ่ม เช่น มีสิทธิได้รับเงินทดแทนจากการขาดรายได้เมื่อเจ็บป่วย หรือสิทธิประโยชน์กรณีเสียชีวิต ได้รับค่าทำศพ 50,000 บาท จากสำนักงานประกันสังคมเพิ่มขึ้นมาอีกด้วย

  • สมัคร 'ประกันสังคม ม.40' ได้สิทธิอะไรบ้าง แล้วจะเสียสิทธิ 'บัตรทอง' ไหม?
  • เช็คสิทธิรับเงินเยียวยา 'ประกันสังคม' www.sso.go.th ม.33 ม.39 ม.40 ที่นี่
  • รับสิทธิ 'ประกันสังคม' ผ่านระบบ 'SSO e-Service' หรือ www.sso.go.th ต้องทำอย่างไร
  • เช็คเลย! เยียวยา 'ประกันสังคม' แต่ละกลุ่ม โอนเงินวันไหนบ้าง? 
นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าววันนี้ (21 ก.ค.64) ว่า กระทรวงแรงงาน โดย นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้ให้ความสำคัญแก่แรงงานภาคอิสระหรือผู้ประกอบ "อาชีพอิสระ" ให้เข้าถึงหลักประกันสังคมอย่างทั่วถึง เพื่อแบ่งเบาภาระและเป็นหลักประกันในชีวิต ทำให้มีชีวิตที่ดีขึ้น โดยสำนักงาน "ประกันสังคม" ได้เปิดโอกาสให้แรงงานภาคอิสระหรือผู้ประกอบอาชีพอิสระที่มีสัญชาติไทย หรือเป็นผู้ถือบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย ที่มีเลขประจำตัวหลักแรกเป็นเลข 0 หรือ 6 หรือ 7 มีอายุตั้งแต่ 15 ปีบริบูรณ์ แต่ไม่เกิน 65 ปีบริบูรณ์ รวมถึงผู้พิการทางร่างกายที่รับรู้สิทธิ สามารถสมัครขึ้นทะเบียนเป็น "ผู้ประกันตนตามมาตรา 40" ได้

เงินสมทบที่ต้องจ่ายทุกเดือน 

  • ทางเลือก 1 : 70 บาท/เดือน (ช่วงเดือน ส.ค. 64-ม.ค. 65 ลดเงินสมทบเหลือ 42 บาท )
  • ทางเลือก 2 : 100 บาท/เดือน (ช่วงเดือน ส.ค. 64-ม.ค. 65 ลดเงินสมทบเหลือ 60 บาท)
  • ทางเลือก 3 : 300 บาท/เดือน (ช่วงเดือน ส.ค. 64-ม.ค. 65 ลดเงินสมทบเหลือ 80 บาท )
สิทธิการคุ้มครอง 
- ทางเลือกที่ 1 จ่าย 70 จะได้รับสิทธิประโยชน์คุ้มครอง 3 กรณี มีทดแทนการขาดรายได้เมื่อเจ็บป่วย ทุพพลภาพ และค่าทำศพ

- ทางเลือกที่ 2 จ่าย 100 ได้รับสิทธิประโยชน์คุ้มครอง 4 กรณี มีทดแทนการขาดรายได้เมื่อเจ็บป่วย ทุพพลภาพ ค่าทำศพ และเพิ่มบำเหน็จชราภาพอีกหนึ่งกรณี

- ทางเลือกที่ 3 จ่าย 300 ได้รับสิทธิประโยชน์พื้นฐานคุ้มครอง 5 กรณี มีทดแทนการขาดรายได้เมื่อเจ็บป่วย ทุพพลภาพ ค่าทำศพ บำเหน็จชราภาพ และสงเคราะห์บุตร 
#3135


21 กรกฎาคม 2564 เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซีพี มุ่งมั่นสนับสนุนและส่งเสริมคนรุ่นใหม่ ร่วมสร้างพลังสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่บนเวทีการประชุมระดับนานาชาติ One Young World 2021 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 นับตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา ซึ่งเป็นเวที "การประชุมสุดยอดผู้นำเยาวชนที่ใหญ่ที่สุดในโลก" และในปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-25 กรกฎาคม 2564 ณ เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี

เครือเจริญโภคภัณฑ์ ร่วมสนับสนุน 20 ตัวแทนเยาวชนคนรุ่นใหม่จากกลุ่มธุรกิจในเครือซีพีเข้าร่วมเวที One Young World 2021 เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนแนวคิดการพัฒนาที่ยั่งยืนและแบ่งปันประสบการณ์ของเยาวชนคนรุ่นใหม่จากทั่วโลกกว่า 2,000 คน ใน 190 ประเทศที่จะมารวมตัวกันเพื่อแสวงหาความร่วมมือและแนวทางแก้ปัญหาสำคัญต่างๆของโลก

โดยเฉพาะในสถานการณ์ปัจจุบันที่ทั่วโลกกำลังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งเครือซีพีตระหนักถึงการส่งเสริมและสร้างบทบาทผู้นำเยาวชนคนรุ่นใหม่ของไทยที่จะขึ้นมาเป็น "The Change Maker" หรือผู้นำสร้างการเปลี่ยนแปลง ให้กับสังคมและประเทศชาติ เพื่อเป็นพลังสำคัญต่อการสร้างการเปลี่ยนแปลงให้โลกที่ยั่งยืนต่อไปในอนาคต

สำหรับปีนี้การประชุม One Young World 2021 จะจัดขึ้นในรูปแบบผสมผสานโดยส่วนกลางจะจัดขึ้นที่เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี และผู้เข้าร่วมประชุมจากทั่วโลกจะร่วมประชุมในรูปแบบการประชุมเสมือนจริงผ่านทางออนไลน์ หรือ Virtual Summit โดยตลอดช่วงเวลาของการจัดประชุม ตัวแทนเยาวชนคนรุ่นใหม่ตั้งแต่อายุ 18-30 ปี จากทั่วโลกจะมารวมตัวกันเพื่อร่วมถ่ายทอดประสบการณ์และเสนอแนวทางแก้ไข (solution) และกรณีศึกษาต่างๆ (Best Practices) ในวิกฤตสำคัญของโลก ซึ่งในปีนี้ได้กำหนดหัวข้อที่เป็นปัญหาเร่งด่วนระดับโลกเพื่อร่วมแลกเปลี่ยนแนวทางแก้ไข ประกอบด้วย 6 ประเด็น คือ


1.การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ (Climate Crisis)

2.การศึกษา (Education)

3.สิทธิและเสรีภาพ (Rights & Freedom)

4.การแก้ปัญหาความขัดแย้ง (Conflict Resolution)

5.การพัฒนาเศรษฐกิจในอนาคต (Future Economies)

6.บทเรียนจากโรคระบาด (Lessons from The Pandemic) ซึ่งเป็นประเด็นที่เพิ่มขึ้นจากสถานการณ์ที่โลกกำลังเผชิญวิกฤตโควิด-19

พร้อมกันนี้ยังได้เชิญตัวแทนผู้นำระดับโลกในหลากหลายสาขาอาชีพทั้งในแวดวงการเมือง ธุรกิจ เศรษฐกิจ สังคม มาร่วมปาฐกถาพิเศษเพื่อสร้างแรงบันดาลใจและจุดประกายแก่เหล่าผู้นำเยาวชนคนรุ่นใหม่จาก 190 ประเทศทั่วโลกในเวทีนี้ด้วย


ในการนี้ เครือซีพีได้รับเกียรติจาก "ศาสตราจารย์ มูฮัมหมัด ยูนุส" (Muhammad Yunus) นักเศรษฐศาสตร์เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ผู้ริเริ่มแนวคิดธุรกิจเพื่อสังคม (Social Business) และผู้ก่อตั้ง Yunus Foundation หนึ่งในนักสร้างการเปลี่ยนแปลงที่มีชื่อเสียงระดับโลก ซึ่งเคยร่วมขึ้นเวที One Young World มาให้แนวคิดพร้อมจุดประกายความคิด สร้างแรงบันดาลใจแก่ 20 ตัวแทนเยาวชนไทย ในการเตรียมความพร้อมก่อนถึงวันประชุม One Young World 2021

ศาสตราจารย์ยูนุส กล่าวว่า ตัวแทนผู้นำคนรุ่นใหม่ของคนไทยจะมีส่วนสำคัญอย่างมากในการสร้างการเปลี่ยนแปลงบนเวที One Young World 2021 ซึ่งขณะนี้สถานการณ์โควิด-19 ที่ทั่วโลกกำลังเผชิญจะเป็นบทพิสูจน์และความท้าทายให้กับผู้นำรุ่นใหม่ในการร่วมกันหาทางออกและแก้ปัญหาสำคัญของโลก โดยเฉพาะในกลุ่มของคนรุ่นใหม่ที่มาจากภาคธุรกิจ ที่จะต้องตระหนักว่าการดำเนินธุรกิจจากนี้จะไม่มุ่งแสวงหาเพียงผลกำไรเท่านั้น แต่จะต้องคำนึงถึงการสร้างประโยชน์เพื่อสังคม

ตลอดจนมองเห็นมิติการแก้ปัญหาด้านความยั่งยืนคู่ขนานไปด้วย ซึ่งคนรุ่นใหม่จะต้องเร่งลงมือสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในหลักการที่เรียกว่า "สามศูนย์" (three zeros) คือ

1.ความยากจนต้องเป็นศูนย์ (Zero Poverty)

2.อัตราการว่างงานเป็นศูนย์ (Zero Unemployment)

3.การปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ (Zero Net Carbon Emission)

ทั้งนี้ การทำธุรกิจเพื่อสังคมจะเป็นคำตอบของโลกในยุคใหม่ในการนำองค์ความรู้จากองค์กรธุรกิจมาช่วยแก้ไขปัญหาชุมชน สังคมและโลกให้เกิดความสันติสุขและยังสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนอีกด้วย

"ผมเชื่อมั่นว่าตัวแทนผู้นำคนรุ่นใหม่ไทย และจากทั่วโลกในเวที One Young World 2021 จะเป็นพลังสำคัญในการเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ให้ดีขึ้น โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์วิกฤตการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ขณะนี้ยังลุกลามทำลายระบบเศรษฐกิจทั่วโลกอย่างคาดไม่ถึง ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของคนในสังคมเป็นอย่างมาก ดังนั้นผู้นำรุ่นใหม่ต้องลุกขึ้นมาสร้างสรรค์สิ่งใหม่ให้สามารถสร้างความยั่งยืนในทุกมิติ ต้องผสมผสานแนวคิดการทำงาน การทำธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับการสร้างประโยชน์และแก้ปัญหาสังคม ชุมชนในเวลาเดียวกัน"เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพกล่าว
#3136

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ รับลูก "จุรินทร์" โชว์แผนจัดกิจกรรมออนไลน์ปั๊มยอดส่งออกครึ่งปีหลัง 2564 เกือบ 100 กิจกรรม ทั้งจัดเจรจาธุรกิจออนไลน์ พาเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ จัดงานแสดงสินค้าในรูปแบบเสมือนจริง จัดงานแสดงสินค้าไทยในต่างประเทศ

นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้รับนโยบายนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้สั่งการให้เร่งดำเนินกิจกรรมส่งเสริมและผลักดันการส่งออกในช่วงครึ่งปีหลังผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อเพิ่มรายได้เข้าประเทศ โดยมีแผนที่จะจัดกิจกรรมเพื่อเพิ่มโอกาสในการส่งออกให้กับสินค้าไทย ทั้งการเจรจาจับคู่ธุรกิจออนไลน์ (Online Business Matching – OBM) การพาผู้ประกอบการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ การจัดงานแสดงสินค้าเสมือนจริง การจัดงานแสดงสินค้าไทยในต่างประเทศ และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต และแพลตฟอร์มชื่อดัง รวมแล้วประมาณเกือบ 100 กิจกรรม ครอบคลุมทุกประเทศทั่วโลก ที่เป็นตลาดส่งออกของไทย

สำหรับการเจรจาจับคู่ธุรกิจออนไลน์ มีกำหนดจัดกิจกรรมอีก 20 ครั้ง ในช่วงเดือนก.ค.-พ.ย.2564 ในกลุ่มสินค้าต่าง ๆ เช่น สินค้าสำหรับผู้สูงอายุ 60+ การพิมพ์ ผลไม้สด แปรรูป ผลิตภัณฑ์เกษตร ของใช้สำหรับสัตว์เลี้ยง อาหารสัตว์เลี้ยง อาหารแปรรูป ยางพาราและผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องปรับอากาศ เครื่องทำความเย็น เครื่องใช้ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนอะไหล่และอปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ เครื่องจักรกลการเกษตร วัสดุก่อสร้าง เครื่องดื่ม เครื่องมือแพทย์ ของใช้ภายในบ้าน และธุรกิจบริการ เช่น ดิจิทัลคอนเทนต์ ธุรกิจการศึกษานานาชาติ ธุรกิจบริหารการจัดงาน ธุรกิจบริการ Tech Startup และแฟรนไชส์

นายสมเด็จ กล่าวว่า ส่วนการนำผู้ประกอบการไปเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ ทั้งรูปแบบออนไลน์ Mirror Mirror (ส่งแต่สินค้าไปจัดแสดงและเจรจาธุรกิจผ่านออนไลน์) และ Pop Up Store (ส่งสินค้าและบริการไปจัดแสดง) ประมาณ 16 ครั้ง ได้แก่ งานภาพยนตร์ที่เมืองคานส์ , ดิจิทัลคอนเทนต์ ที่สิงคโปร์ , อาหารและธุรกิจโรงแรมที่เมืองโกยาง เกาหลีใต้ , ไลฟ์สไตล์ที่ลาสเวกัส สหรัฐฯ , เครื่องสำอางที่กวางโจว , อาหาร ที่ซิดนีย์ ออสเตรเลีย , สินค้าอุปโภคบริโภคที่หนานหนิง , ไลฟ์สไตล์และของใช้ของตกแต่งบ้าน ที่ปารีส ฝรั่งเศส , ก่อสร้าง ที่ดูไบ , สินค้าอุปโภคบริโภค ที่เซี่ยงไฮ้ , การแพทย์ ที่เยอรมนี , ยานยนต์ ที่ลาสเวกัส สหรัฐฯ , ภาพยนตร์ ที่สหรัฐฯ เกม ที่ปูซาน เกาหลีใต้ , ชิ้นส่วนอะไหล่และอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ ที่ดูไบ , ธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และจัดเลี้ยง ที่ยุโรปและ CIS

การจัดงานแสดงสินค้าเสมือนจริง เหลือจัดงานอีก 6 ครั้ง คือ งาน  Bangkok International Digital Content Festival 2021 4-6 ส.ค.2564 (ดิจิทัลคอนเทนต์) TILOG VE 2021  25-27 ส.ค.2564 (โลจิสติกส์) , Thai G.R.O.O.V.E Online Business Matching ส.ค.2564 (สินค้าแบรนด์ไทยชั้นนำ) , THAIFEX Virtual Trade Show พ.ค.–ก.ย.2564 (อาหาร) และ  THAIFEX-ANUGA ASIA–Hybrid Edition 29 ก.ย.–3 ต.ค.2564 (อาหาร)

นอกจากนี้ จะจัดงานแสดงสินค้าไทยในต่างประเทศ และเจรจาธุรกิจออนไลน์ ในอาเซียน 4 ครั้ง ได้แก่ ย่างกุ้ง เมียนมา พนมเปญ กัมพูชา เกิ่นเทอ เวียดนาม พระตะบอง กัมพูชา และเอเชียใต้ 3 งาน ได้แก่  อินเดียตะวันตก (มุมไบ สุรัต อินดอร์) เจนไน และนิวเดลี (เป็นลักษณะ OBM เฉพาะนิวเดลี ที่เป็น Virtual Event )และจีน 1 ครั้ง ที่คุนหมิง

 ส่วนกิจกรรมส่งเสริมการขายอื่นๆ จะจัดประมาณ 44 ครั้ง โดยโปรโมตผลไม้ไทยทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ ในเมืองต่าง ๆ ของจีน ได้แก่ เซี่ยงไฮ้ กวางโจว ฝอซาน จ้านเจียง อู่ฮั่น ชิงต่าว ต้าเหลียน เซียะเหมิน ฉางซา คุนหมิง เฉิงตู และฉงชิ่ง , ร่วมมือกับ AEON , Beisia , DONKI และผ่านรายการ TV Shopping จัดส่งเสริมการขายสินค้าอาหารสำเร็จรูป อาหารแปรรูป ผลไม้พรีเมี่ยม เครื่องปรุงรส เครื่องดื่ม , จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย สินค้าผลไม้ อาหารและเครื่องดื่ม เครื่องปรุงรส ขนมคบเคี้ยว ของใช้ ของตกแต่งบ้าน เครื่องสำอาง สปา และผลิตภัณฑ์ยางพารา ผ่านช่องทางการค้าปลีกสมัยใหม่ ใน 12 เมืองของจีนรวมฮ่องกง (ชีอาน เฉิงตู เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง หนานหนิง ไป่เซ่อ ฮาร์บิน เทียนจิน กวางโจว จงซาน เซี่ยเหมิน และฮ่องกง) , จัดงาน Taste of Thailand 202

ส่งเสริมสินค้าอาหารไทย ณ ห้าง Hyundai กรุงโซล , จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย สินค้าข้าว อาหารแปรรูป เกษตรแปรรูป โดยร่วมกับห้างซูเปอร์มาร์เก็ตเอเชีย และฮิสแปนิก ในสหรัฐฯ อาทิ Hmart, Lotte Plaza, 99 Asian Supermarket, Emart, Food Fair Wholesale, Price Rite, Western Beef, C-Town , จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายสินค้าเครื่องประดับของนักออกแบบไทยสู่ Showroom ในนครเซี่ยงไฮ้ และจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย สินค้านวัตกรรมที่มีการออกแบบและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สู่ตลาดญี่ปุ่นในรูปแบบ Pop Up Store  

ขณะเดียวกัน จะส่งเสริมสินค้าไทยใน TOP THAI Store บนแพลตฟอร์ม e-Commerce ชั้นนำของต่างประเทศ เช่น Tmall Global จีน , Bigbasket อินเดีย , Klangthai กัมพูชา และ Amazon สหรัฐฯ และส่งเสริมสินค้าไทย กลุ่มสินค้าแนวดีไซน์ และ Craft สู่ตลาดการค้าออนไลน์ในยุโรป ผ่านแพลตฟอร์ม meisterstrasse.com
#3137

เทคนิคการซื้อหวยยังไงให้ถูก

เริ่มกันที่ เคล็ดลับถูกหวย จากทฤษฎีความน่าจะเป็นกันก่อน เมื่อคุณซื้อหวย คุณก็ต้องหวังถูกรางวัลที่ 1 ไม่ก็รางวัล 2 ตัวท้าย หรือ 3 ตัวท้ายอยู่แล้ว ซึ่งตามสถิติการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลพบว่าในสลาก 1,000,000 ใบ มีสลากเพียง 14,168 ใบเท่านั้นที่ถูกรางวัล หากจะคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ ก็มีเพียงแค่ 1.4168% เท่านั้น และหวยนั้นออกรางวัลโดยการสุ่มตัวเลข ซึ่งคุณไม่สามารถรู้ผลลัพธ์ของมันได้เลย 

แต่ถึงแม้จะรู้ดีว่าโอกาสถูกหวยเป็นไปได้ยากมาก แต่เงินรางวัลหลักล้านมันช่างล่อใจเหลือเกิน จึงหยุดความเสี่ยงนี้ไม่ได้ หรือบางคนเคยถูกมาแล้วก็อยากที่จะสัมผัสกลิ่นของเงินแบบนั้นอีก ฉะนั้นวิธีหาเลขเด็ดกับวิธีแทงหวยยังไงให้ถูก ที่อยากให้คอหวยทั้งหลายทดลองไปใช้กันดูก็คือ

ดูสถิติการออกหวยย้อนหลัง 
เนื่องจากคุณไม่สามารถรู้ได้เลยว่าหวยจะออกอะไร ฉะนั้นก็ต้องมาศึกษาสถิติของหวยว่าเลขไหนออกบ่อยที่สุด เพราะในการออกเลขแบบสุ่ม เลขแต่ละตัวจะมีโอกาสออกได้เท่า ๆ กัน ดังนั้นเลขที่ออกน้อยที่สุดจะมีโอกาสเกิดได้มากกว่าเลขที่ออกบ่อยแล้ว

กระจายความเสี่ยงในการซื้อหวย 
การจะซื้อหวยให้ถูก หรือ วิธีถูกหวยทุกงวด นั้น คุณต้องรู้จักกระจายความเสี่ยง ถึงแม้ว่าเงินที่ได้มาจะน้อยแต่โอกาสในการถูกหวยมีมาก ยกตัวอย่างเช่น คุณจะซื้อเลข 9 คุณก็ต้องเลือกซื้อแบบ 19 ประตู ดังนี้ 09, 19, 90, 91, ... ,98, 89 วิธีแบบนี้จะทำให้คุณถูกหวยได้มากขึ้น 

หรือเลือกกระจายความเสี่ยงด้วยการ เล่นหวยต่างประเทศ เช่น หวยลาว หวยฮานอย หวยหุ้นต่างประเทศ ก็สามารถสร้างโอกาสและรายได้มากขึ้น เนื่องจากหวยเหล่านี้ มีการ.ได้หลากหลายรอบเวลา และสามารถลุ้นรวยได้ทุกวัน

วางแผนการซื้อหวยให้ดี
หากคุณสามารถวางแผนการแทงหวยให้ดีได้แล้วจะไม่มีคำว่าขาดทุน โดยใช้กลยุทธ์แบบ Martingale หลักของกลยุทธ์นี้ คือ

การที่ลงเงินในอัตราเพิ่มขึ้น 2 เท่า เมื่อไม่ถูกหวย ก็กลับไปเริ่มลงเงินเท่าครั้งแรก 
กฎตายตัวของกลยุทธ์นี้ คือ ไม่ว่าคุณจะขาดทุนไปกี่บาท ครั้งต่อไปที่คุณถูกหวย คุณก็จะได้กำไรมากกว่า 1 บาทเสมอ

10 วิธีถูกหวยทุกงวด 
วิธีถูกหวยทุกงวด 
บางคนซื้อทุกงวด เล่นมาทั้งชีวิต แต่ไม่เคยถูกรางวัลเลย บางคนอาจจะนาน ๆ จะถูกสักที หรือว่าบางคนถูกเกือบทุกงวด ทั้ง ๆที่แทบจะไม่ได้ตั้งใจซื้อด้วยซ้ำ แต่กลับถูกรางวัลแบบงง ๆ สำหรับใครที่อยากจะถูกรางวัล และลองมาสารพัดเทคนิคแล้วแต่ก็ยังไม่เข้าเป้าสักที ก็คงต้องพึ่งดวงเข้าสายมูเตลูกันสักหน่อย ซึ่งเราจะมาบอกเทคนิคการเสี่ยงโชคอย่างมีกึ๋น ตามแบบฉบับของ "อ.เจน เปิดลิขิต ธูปพยากรณ์" กับ 10 วิธีถูกหวยทุกงวด เพิ่มสิริมงคลให้กับตัวเอง ดังต่อไปนี้

ข้อที่ 1 ห้ามแช่งผู้อื่น
สำหรับคนที่เป็นนักเสี่ยงโชคสิ่งที่ห้ามทำเป็นอย่างยิ่งนั่นคือ การไปขัดลาภคนอื่นเด็ดขาด ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเห็นคนใกล้ตัวของคุณกำลังที่จะซื้อลอตเตอรี่ ห้ามไปทักท้วงเด็ดขาด หรือไปขัดลาภคนอื่นเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นตัวเลขที่คุณจำไว้มีโอกาสคาดเคลื่อนได้

และที่สำคัญผู้ที่เสี่ยงโชคนั้นไม่ควรไปดูถูกเลขของคนอื่นเด็ดขาด ไม่ว่าเลขของเขาจะมาจากแหล่งใดก็ตาม เพราะจะทำให้เทพเจ้าแห่งโชคลาภไม่เข้าข้างคุณ และจะทำให้งวดนั้นคุณมีสิทธิ์ที่จะคาดเคลื่อนในเรื่องของการถูกหวยไปได้เลย

ข้อที่ 2 ห้ามเล่นเลขเดิม เกินกว่า 4 งวด
รู้หรือไม่ว่าการเล่นเลขซ้ำ ๆ เลขเดิม ๆ ติดกันเกินกว่า 4 งวด นั้นจะทำให้ดึงเลขตัวอื่นของคุณไม่ถูกไปด้วย ดังนั้นใครที่มีเลขในใจตามซื้อเกิน 4 งวดแล้วก็ยังไม่ถูก แนะนำให้พักการเล่นเลขนั้น ๆ ไปก่อนสัก 1-2 งวด แล้วค่อยกลับมาเล่นใหม่ เพราะหากตามเลขเดิมเลขซ้ำๆ 4 งวดติดกันอาจทำให้คุณนั้นชวดเรื่องโชคลาภได้

ข้อที่ 3 ห้ามหยิบยืมเงินคนอื่นในการเสี่ยงโชคเด็ดขาด
เข้าใจว่ายุคนี้เป็น สังคมไร้เงินสด บางคนไม่ได้พกเงินจึงอาจมีการไปหยิบยืมเงินคนอื่นเพื่อมา ซื้อหวย ซื้อลอตเตอรี่ เกิดขึ้น ซึ่งจริง ๆ แล้วสามารถยืมได้ แต่ก็ควรที่จะคืนเงินให้เขาทันทีในวันนั้นไม่ควรคืนเงินข้ามวัน หรือไม่ควรรอหวยออกก่อนแล้วค่อยคืนเงิน เพราะหากทำแบบนั้นจะเป็นการฉุดโชคลาภของตัวเอง ทำให้ลอตเตอรี่ใบนั้นมีโอกาสถูกน้อยนิดเดียว หรือไม่มีโอกาสถูกเลย

หรือในกรณีที่ใครมีโอกาสได้ไปจับฉลากอะไรมา แล้วได้ของขวัญเป็นลอตเตอรี่ อยากแนะนำให้คุณมอบเงินคืนกลับไป 1 บาท (ขั้นต่ำ) เพื่อเป็นการแลกกับลอตเตอรี่ที่เขามอบให้กับคุณ เพื่อเป็นการแก้เคล็ด เผื่อว่าการเสี่ยงโชคของคุณในครั้งนั้นหรือการได้รับลอตเตอรี่ในครั้งนั้นจะได้ถูกหวยกันทั้งผู้ให้และผู้รับ

ข้อที่ 4 หากคุณถูกหวย  4 งวดติดกันให้หยุดเล่นงวดต่อไป
อย่างที่บอกไปว่าโอกาสการถูกหวยนั้นเป็นไปได้ยาก แต่หากดวงคนที่ถูกหวย 4 งวดติดกันส่วนใหญ่แล้วจะเป็นคนที่ดวงขึ้น ฉะนั้นแล้วเมื่อคุณได้รับโชคลาภมาแล้วถึง 4 งวด อยากให้คุณหยุดเล่นในงวดที่ 5 ก่อน เพื่อให้พลังโชคลาภในตัวคุณได้ถูกกระตุ้นอีกครั้งหนึ่ง 

ข้อที่ 5 ห้ามบนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ไม่ควรบนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อให้คุณถูกหวย แต่ถ้ามีโอกาสไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สิ่งที่ควรขอก็อาจจะขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นได้มอบในเรื่องของโชคลาภให้ ไม่ต้องไปคาดหวังว่าอยากจะได้รางวัลที่ 1 หรือรางวัลอะไร เพราะถ้าคุณมีโชคสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็จะมอบโชคให้กับคุณอยู่ดี ไม่ว่าคุณจะอ้าปากขอหรือไม่ก็ตาม

ข้อที่ 6 หลักการขึ้นเงินลอตเตอรี่เพื่อรับโชคอย่างต่อเนื่อง
เมื่อใดก็ตามที่คุณถูกหวย ให้คุณขึ้นเงินภายใน 15 วัน หลังหวยออก ไม่ควรขึ้นเงินข้ามผ่านไปในการออกหวยงวดใหม่ เพราะถ้าทำแบบนั้นโชคลาภของคนนั้นจะขาดช่วง และที่สำคัญหากอยากได้ วิธีถูกหวยทุกงวด 

เมื่อถูกลอตเตอรี่แล้วให้แบ่งเงิน 5% จากรางวัลไปทำบุญ ไม่ว่าจะเป็นการบริจาคให้สังคมการทำบุญคนยากจน ยากไร้ การทำบุญใส่บาตร ทำสังฆทาน ทำบุญโลงศพ การทำบุญเกี่ยวข้องกับวัด การทำบุญสร้างโรงพยาบาลการทำบุญบริจาคเลือดกับสภากาชาดไทย หรืออะไรก็ได้ที่คุณสะดวกและสบายใจที่จะทำ ก็จะส่งเสริมให้พลังสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และโชคลาภอยู่กับคุณ

ข้อที่ 7 แบ่งเงินถูกหวย
การ บริหารเงินถูกหวย เป็นอีกเรื่องที่ควรให้ความสำคัญ โดยสามารถแบ่งเงินที่ถูกหวยออกเป็น 

3% ให้นำไปใส่กระปุกเพื่อเป็น เงินขวัญถุง
4% ให้ไปทำบุญ ทำบุญอะไรก็ได้ และให้กรวดน้ำ อุทิศบุญให้กับเทวดาผู้รักษาตัวเรา ครูบาอาจารย์ บรรพบุรุษ และเจ้ากรรมนายเวร
โดยแนะนำให้ทำภายใน 15 วัน หลังจากที่คุณได้เงินจากผู้ให้รางวัลหวยทางเลือก เพียงเท่านี้ก็เป็น วิธีถูกหวยทุกงวด แถมยังมีเงินขวัญถุงให้ต่อยอดในงวดต่อ ๆ ไปอีกด้วย

ข้อที่ 8 แก้ปัญหาโชคลาภเฉียดไปเฉียดมา
ที่ผ่านมาเรามักจะใช้คำว่า "เฉียด" มากกว่า "ถูก" อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเฉียดมากเฉียดน้อย เฉียดใกล้เฉียดไกล ความหมายของคำว่าเฉียดก็เหมือนเดิม คือเราไม่ได้แม้แต่บาทเดียว วิธีแก้ดวงลักษณะแบบนี้ ทำได้โดย

ทำความสะอาดหิ้งพระ สำหรับใครไม่มีหิ้งพระ อาจทำความสะอาดสร้อย หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่บูชาอยู่ก็ได้
กระตุ้นโชคลาภของตัวคุณด้วยการสวดอิติปิโส มากกว่าอายุ 1 จบ แล้วก็ คาถาเงินล้าน 9 จบติดต่อกันทุกคืน 9 วัน คลิกดูบทสวดมนต์ที่นี่!!
ข้อที่ 9 ไม่ต้องไปแข่งบุญแข่งวาสนาแข่งโชคลาภกับใคร
การจะถูกหวย ถูกรางวัลที่ 1 หรือไม่นั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับทริคการซื้อหรือการเล่นเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ขึ้นอยู่กับโชคชะตาราศี และบุญกุศลของแต่ละคนด้วย ในเมื่อแต่ละคนเกิดมาไม่เหมือนกัน ต่างวัน ต่างเวลา ตำแหน่งดวงดาวตอนเกิดก็ไม่เหมือนกัน เรื่องของดวงมีโชคใหญ่จึงแตกต่างกัน บางคนเกิดมาไม่มีโชคใหญ่เลยก็มี

ฉะนั้นอย่าไปอิจฉาอย่าไปริษยาใครต่อใครในเรื่องของโชคลาภวาสนาเลย เพราะสิ่งที่เราทำได้ก็คือ การกระทำจากตัวของเราเอง ซึ่งบางทีโชคลาภอาจไม่ได้มากในรูปแบบของหวย แต่อาจมาให้รูปแบบของการงาน การเงิน หรือความรักก็เป็นได้

ข้อที่ 10 ไม่นำเงินที่ได้จากการโกง ไปซื้อลอตเตอรี่
ไม่ควรนำเงินที่คุณขโมยมา นำเงินที่คุณฉ้อโกงนำเงินที่ได้มาด้วยความไม่ชอบธรรม สร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่นไปซื้อลอตเตอรี่ เพราะนั่นถือเป็นเงินที่ไม่บริสุทธิ์ เป็นการดึงกรรม ดึงเคราะห์เข้าตัวเอง ถ้าอยากจะมีโชคลาภที่ยั่งยืนต้องมี วิธีถูกหวยทุกงวด ที่เกิดขึ้นจากความถูกต้องเท่านั้น เชื่อได้เลยว่าโชคลาภก็จะงอกเงยและประสบผลสำเร็จได้อย่างไม่น่าเชื่อ

สรุป
ก่อนอื่นเลยต้องยอมรับก่อนว่าไม่มีใครคนไหนในโลกใบนี้หรอกที่จะถูกหวยทุกงวด เพียงแต่เราแค่นำเสนอ วิธีถูกหวยทุกงวด เพื่อเพิ่มโอกาสในการถูกให้มากขึ้นก็เท่านั้น ซึ่งจริง ๆ แล้วการซื้อหวยมันขึ้นอยู่กับ "ดวง" ด้วย ดังนั้นหาเวลาทำบุญให้มากขึ้น และตั้งใจทำมาหาเลี้ยงชีพอย่างสุจริตต่อไป เพราะสุดท้ายแล้ว ความพยายามเป็นส่วนสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จได้มากที่สุด

สุดท้ายแล้วอย่าลืมติดตามข่าวหวยไทยรัฐ ข่าวหวยไทยรัฐทีวี ข่าวหวยแม่จําเนียร ข่าวหวย ข่าวดัง เลขเด็ด แนวทางหวยลาว หวยฮานอย หวยออนไลน์ หวยหุ้นออนไลน์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เคล็ดลับเสริมดวง ทำนายฝัน ทายนิสัย และอื่น ๆ อีกมากมาย จากทางเว็บไซต์ของ haihuayonline ที่มีมาอัพเดทให้อยู่ทุกวัน รับประกันว่าเซียนหวยทั้งหลายห้ามพลาดในทุกรูปแบบ
#3138


กรมทางหลวง (ทล.) เตรียมเปิดประกวดราคาก่อสร้างจุดพักรถบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 7 สายกรุงเทพมหานคร - บ้านฉาง ช่วงพัทยา – มาบตาพุด มูลค่าโครงการรวมกว่า 1 พันล้านบาท ภายในเดือน ธ.ค.นี้

เพื่อใช้เป็นจุดแวะพักที่ให้บริการแก่ผู้ใช้เส้นทาง เป็นส่วนหนึ่งในการอำนวยความสะดวก เพิ่มปริมาณผู้ใช้ทางสูงสุดถึง 5 หมื่นคนต่อวัน

สำหรับจุดพักรถมอเตอร์เวย์ ช่วงพัทยา - มาบตาพุด จะแบ่งการประกวดราคาออกเป็น 2 สัญญา คือ 

1.งานก่อสร้างโครงการสถานที่บริการทางหลวงบางละมุง ตั้งอยู่บริเวณ กม. 137+100 ของมอเตอร์เวย์ หมายเลข 7 ช่วงพัทยา–มาบตาพุด 

2.โครงการศูนย์บริการทางหลวงศรีราชา ตั้งอยู่บริเวณ กม. 93+500ของมอเตอร์เวย์ หมายเลข 7

สำหรับมอเตอร์เวย์หมายเลข 7 ช่วงพัทยา – มาบตาพุด เป็นส่วนต่อขยายที่เปิดให้บริการใหม่เพื่อเชื่อมเส้นทางไปยังท่าอากาศยานอู่ตะเภาที่อยู่ระหว่างการพัฒนาเป็นท่าอากาศยานหลักแห่งที่ 3 และเมืองการบินภาคตะวันออก (Aerotropolis) รวมถึงพื้นที่ในการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจอื่นๆ ภายใต้โครงการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) โดยเมื่อโครงการพัฒนาในพื้นที่อีอีซีเริ่มทยอยเปิดให้ดำเนินการในช่วงปี 2568 เป็นต้นไป จะทำให้มีความต้องการใช้งานมอเตอร์เวย์ในช่วงนี้เพิ่มสูงขึ้น

ปิยพงษ์ จิวัฒนกุลไพศาล ผู้อำนวยการกองทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) กรมทางหลวง เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมทางหลวงได้ดำเนินการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากนักลงทุนและประชาชนที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้ว มีภาคเอกชนสนใจร่วมลงทุน ทั้งกลุ่มผู้ประกอบการค้าปลีก ห้างสรรพสินค้า ผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง และนักลงทุนที่มีศักยภาพ อาทิ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน),บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน), บริษัท ซีพี ออลล์ จํากัด (มหาชน), กลุ่มบีทีเอส และบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เป็นต้น

อย่างไรก็ดี ปัจจุบัน ทล.อยู่ระหว่างเตรียมเสนอโครงการให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาเห็นชอบในเดือน ก.ค.นี้ หลังจากนั้นเสนอให้คณะกรรมการพีพีพีพิจารณาในเดือน ก.ย.2564 ก่อนจะดำเนินการเปิดประกวดราคาในเดือน ธ.ค.2564 และคาดว่าจะสามารถลงนามว่าจ้างผู้รับเหมาได้ช่วงกลางปี 2565 เริ่มงานก่อสร้างช่วงครึ่งหลังของปี 2565 กำหนดระยะเวลาก่อสร้างแล้วเสร็จทั้งโครงการภายใน 2 ปี เพื่อเปิดให้บริการราวปี 2567

โดยระยะเวลาก่อสร้างโครงการ มีการกำหนดเงื่อนไขว่าในช่วง 1 ปีแรก หรืออย่างเร็วภายในเดือน ก.ค. 2566 หรืออย่างช้าเดือน ธ.ค.2566 จะต้องมีการเปิดให้บริการจุดพักรถระยะแรกก่อน โดยมีพื้นที่ให้บริการจำเป็นขั้นต่ำ 30-40% ของพื้นที่ให้บริการทั้งหมด เช่น พื้นที่จอดรถฟรี สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง พื้นที่จำหน่ายสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งไม่ใช่ห้างสรรพสินค้า และพื้นที่ห้องสุขาฟรี เป็นต้น หลังจากนั้น กำหนดให้ทยอยเปิดระยะ 2 จนครบ 100% ภายใน 2 ปี


สำหรับการประมูลจะแบ่งออกเป็น 2 สัญญา คือ 1.ศูนย์บริการทางหลวงศรีราชา พื้นที่รวม 117 ไร่ (2 ฝั่งถนน) วงเงินลงทุน 700 ล้านบาท และ 2.ศูนย์บริการทางหลวงบางละมุง พื้นที่รวม 66 ไร่ วงเงินลงทุน 300 ล้านบาท โดยให้เอกชนร่วมทุนรูปแบบ PPP Net Cost รัฐจะเป็นฝ่ายจัดหาและปรับระดับที่ดิน และรับส่วนแบ่งรายได้ตามเงื่อนไขจากเอกชน ซึ่งกำหนดให้มีการปรับเพิ่ม 15% ทุก 3 ปี

ขณะที่เอกชนจะลงทุนออกแบบก่อสร้างสิ่งปลูกสร้าง บริหารจัดการ และรับความเสี่ยงทางด้านรายได้ของโครงการทั้งหมด กำหนดอายุสัมปทาน รวม 32 ปี (ช่วงระยะเวลาออกแบบและก่อสร้าง 2 ปี และช่วงระยะเวลาดำเนินโครงการ 30 ปี) โดยรายได้ตลอดระยะเวลาสัมปทาน คาดการณ์ว่าจะสูงอยู่ที่ราว 1.5 หมื่นล้านบาท แบ่งออกเป็น รายได้จากศูนย์บริการทางหลวงศรีราชา ราว 1 หมื่นล้านบาท และศูนย์บริการทางหลวงบางละมุง ประมาณ 5 พันล้านบาท

รายงานข่าวจาก ทล. ระบุว่า ผลการวิเคราะห์ทางการเงินของการให้เอกชนร่วมลงทุนก่อสร้างและบริหารจัดการโครงการทั้งหมดในรูปแบบ PPP Net Cost พบว่าการลงทุนโครงการศูนย์บริการทางหลวงศรีราชา จะมีความคุ้มค่าในมุมมองของภาคเอกชน โดยมีมูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) เท่ากับ 436.55 ล้านบาท อัตราผลตอบแทนทางการเงิน (FIRR) เท่ากับ 10.34% โดยมีอัตราส่วนผลประโยชน์ตอบแทนต่อเงินลงทุน (B/C Ratio) อยู่ที่ 1.18 ระยะเวลาคืนทุน 11.21 ปี

นอกจากนี้ เมื่อเปรียบเทียบระหว่าง "กรณีมีโครงการ" กับ "กรณีไม่มีโครงการ" พบว่าการพัฒนาโครงการศูนย์บริการทางหลวงศรีราชาจะก่อให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจ โดยมีอัตราผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ (EIRR) 35.69% รวมถึงการก่อสร้างโครงการฯ จะส่งผลให้เกิดการพัฒนาทางเศรษฐกิจจากการขยายตัวทางด้านการผลิตคิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,948.87 ล้านบาท การขยายตัวทางด้านรายได้ประมาณ 549.17 ล้านบาท และการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นประมาณ 900 อัตรา

ส่วนโครงการศูนย์บริการทางหลวงบางละมุง พบว่าการลงทุนโครงการจะมีความคุ้มค่าในมุมมองของภาคเอกชน โดยมีมูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) เท่ากับ 50.03 ล้านบาท อัตราผลตอบแทนทางการเงิน (FIRR) เท่ากับ 7.79% โดยมีอัตราส่วนผลประโยชน์ตอบแทนต่อเงินลงทุน (B/C Ratio) อยู่ที่ 1.04 ระยะเวลาคืนทุน 15.75 ปี

อีกทั้งการพัฒนาโครงการสถานที่บริการทางหลวงบางละมุงจะก่อให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจ โดยมีอัตราผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ (EIRR) 27.98% รวมถึงการก่อสร้างโครงการฯ จะส่งผลให้เกิดการพัฒนาทางเศรษฐกิจจากการขยายตัวทางด้านการผลิตคิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,565.3 ล้านบาท การขยายตัวทางด้านรายได้ประมาณ 441.08 ล้านบาท และการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นประมาณ 1,100 อัตรา 
#3139
ห้องพักที่ดีที่สุดในย่านทองหล่อ-ที่พักสุขุมวิท55 ทีพักหรูราคาถูกทองหล่อ25 จิตราภาแมนชั่น

ห้องพักที่ดีที่สุดในย่านทองหล่อ-ทีพักหรูราคาถูกสุขุมวิท55 ทีพักหรูราคาถูกทองหล่อ25 จิตราภาแมนชั่น ทีพักหรูราคาถูกทองหล่อ25 สตูดิโอเหนือระดับ ที่คุณสัมผัสได้ สุขุมวิท-เอกมัย ราคา 6,000-7,000 บาท
ห้องพักที่ดีที่สุดในย่านทองหล่อ-ที่พักสุขุมวิท55 ทีพักหรูราคาถูกทองหล่อ25 จิตราภาแมนชั่น ทองหล่อ25 สตูดิโอเหนือระดับ ที่คุณสัมผัสได้ ห้องพัก-คอนโด-แมนชั่น-อพาร์ทเม้นท์ ที่ดีและถูกที่สุด ในย่านสุขุมวิท-เอกมัย ราคา 6,000-7,000 บาท


ทีพักหรูราคาถูกทองหล่อ25 สตูดิโอเหนือระดับ ที่คุณสัมผัสได้ ทีพักทำเลดีทองหล่อ25 ทีพักหรูราคาถูกสุขุมวิท55
– ใกล้ btsทองหล่อ
– ใกล้ท่าเรือทองหล่อ
– ใกล้แหล่งธุรกิจ ร้านค้า อาคารสำนักงานบริษัทชั้นนำ
– ใกล้แหล่งช๊อปปิ้ง ร้านอาหารชั้นนำ และสถานบันเทิง
ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ Built-In ตู้เสื้อผ้า เตียง+ที่นอน King size โต๊ะเครื่องแป้ง โทนสีขาว สไตล์โรงแรม ห้องน้ำกว้าง แยกส่วนอาบน้ำ พร้อมอ่างอาบน้ำ เครื่องทำน้ำอุ่น มีพื้นที่ระเบียงกว้างทุกห้อง

สิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน
– ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว สะดวก รวดเร็ว
– บริการตุ้ซักผ้าหยอดเห่รียญ ด้านในตัวอาคาร ปลอดภัย
– มีร้านอาหารบริการถึงเที่ยงคืน
– มีมินิมารท์ เปิดบริการถึง ตี 5 สะดวก
– มี วินมอไซต์ ด้านหน้าแมนชั่น
– ดูแลความปลอดภัย เข้า-ออกด้วยคีย์การ์ด ติดตั้งกล้อง cctv 52 ตัว
– ที่จอดมอเตอร์ไซค์ฟรี
– มีเจ้าหน้าที่บริการประจำเคาท์เตอร์ล๊อบบี้ 24 ชม

The .ter and cheaper place to stay in Thonglor25, Jitrapa Mansion, If you are looking for best and cheap condo,mansion, apartment to stay in Sukhumvit55, Thonglor25
ห้องพักที่ดีที่สุดในย่านทองหล่อ ที่พักสุขุมวิท55
สถานที่ใกล้เคียงแมนชั่นทองหล่อ25 ห้องพักที่ดีที่สุดในย่านทองหล่อ 
สถานที่ใกล้เคียงแมนชั่นทองหล่อ25 ห้องพักที่ดีที่สุดในย่านทองหล่อ
สำนักงานเขตวัฒนา, ตึกลิเบอร์ตี้, ชาญอิสระ, รพ.กรุงเทพ, รพ.คามิลเลียน, รพ.สมิติเวช, สน.ทองหล่อ, J Avenue, Max Value,
แนะนำการเดินทาง :จากบีทีเอสทองหล่อ ขึ้นรถเมล์แดง 8บาท ลงปลายทางที่ใต้สะพานข้ามคลองแสนแสบแล้วเดินเลียบคลองเพียง 200เมตรถึงจิตราภาแมนชั่น, จากหน้าแมนชั่น นั่งวินไปบีทีเอสทองหล่อ ได้ไปเอ็มควอเทียร์ 40บาท, นั่งเรือโดยสารไปประตูน้ำ ไปบางกะปิ แค่ 8 บาท สะดวกมากๆ

The best and cheaper place to stay in Thonglor Area Sukhumvit55
-Near bts Thonglor
-Thonglor pier
-CBD area, office and shopping center, Entertmain pub,restataurant
-Full funished hotel style

Full Facilities
– 2 lifts
– Waching machine coin oprate inside house
– Restaurant open inside till midnight
– Minimart in house open till 5.00 am
– Motorcycle taxi terminal in front of mansion
– Key card sytem, cctv 52 sets
– Free parking lot for Motorbike
– Receptionist 24 HRS

ห้องพักที่ดีที่สุดในย่านทองหล่อ ที่พักสุขุมวิท55
 การเดินทาง/รถประจำทาง
การเดินทาง/รถประจำทาง
 BTS อโศก 2.6 กม. BTS เอกมัย 2.7 กม. MRT พระราม 9 2.5 กม. BTS พร้อมพงษ์ 2.1 กม. BTS ทองหล่อ 2.2 กม. MRT ศูนย์วัฒนธรรม 3.0 กม.

ถนน/ซอยใกล้เคียง
รัชดาภิเษกซอย 3 (ซอยสถานทูตจีน) 2.8 กม. ถนนสุขุมวิท 71 (ปรีดี พนมยงค์) 1.7 กม. ถนนสุขุมวิท 2.1 กม. ซอยสุขุมวิท 22 2.3 กม. ซอยรามคำแหง 39 (ประชาอุทิศ ห้วยขวาง) 2.9 กม. ถนนพัฒนาการ 1.9 กม.
สถานศึกษาใกล้เคียง
ม.ศรีนครินทรวิโรฒ 2.0 กม. สถาบันรัชต์ภาคย์ 2.9 กม.

แหล่งช๊อปปิ้ง
เอสพลานาด รัชดาภิเษก 3.0 กม. เซ็นทรัล พระราม 9 2.5 กม. ฟอร์จูนทาวน์ 2.6 กม. บิ๊กซี เอกมัย 1.8 กม. Terminal 21 2.6 กม. เดอะมอลล์ รามคำแหง 3 3.0 กม.

สถานที่อื่นๆ
คลองตัน 2.8 กม. แยกเหม่งจ๋าย 3.0 กม. RCA 0.9 กม. สถานฑูตจีน 2.8 กม. รพ.พระราม 9 1.7 กม. รพ.กรุงเทพ 0.7 กม.

ทีพักหรูราคาถูกสุขุมวิท55
ติดต่อสำนักงาน
02-7126198
คุณมัณฑนา 061-9241665
คุณกุสุมา 095-5618105
ตั้งแต่ 09.00น-20.00 น.ทุกวัน

รายละเอียดเพิ่มเติม
https://www.banforum.com/ที่พักย่านทองหล่อเอกมั/ห้องพักที่ดีที่สุด/

คำค้น
ห้องพักที่ดีที่สุดในย่านทองหล่อ, ที่พักดีและถูกที่สุดสุขุมวิท55, ทีพักหรูราคาถูกทองหล่อ25, ทีพักหรูราคาถูกสุขุมวิท55, ทองหล่อ25-ห้องพัก-คอนโด-แมนชั่น-อพาร์ทเม้นท์-ที่ดีและถูกที่สุด, ทองหล่อ25-ห้องพักราคาถูกที่สุด, The best mansion in sukhumvit55, The best place to stay in Thonglor25, Best and cheap condo mansion apartment to stay in Sukhumvit55 Thonglor,
#3140
ชื่อดีเสริมมงคล เกื้อหนุนให้ประสบความเจริญรุ่งเรืองดังใจหวัง

รับวิเคราะห์ชื่อให้ฟรี !!!!


รับตั้งชื่อ ตั้งชื่อเด็ก เปลี่ยนชื่อ หาชื่อมงคล
ใช้ทั้ง 3 ศาสตร์ คือตามหลักทักษา เลขศาสตร์ อายตนะ

ตามความเชื่อแบบไทย "ชื่อ" เป็นสิ่งที่มีความสำคัญ เพราะไม่เพียงจะเป็นคำที่ใช้แทนตัวเราเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้คุณให้โทษแก่เราอีกด้วย ดังนั้นการ "ตั้งชื่อ" ให้แก่เด็กหรือแม้แต่เปลี่ยนชื่อให้ตัวท่านเอง ต้องทำตามตำราจึงจะเป็นมงคล
การตั้งชื่อมงคลให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์ตามเงื่อนไขของทุกศาสตร์ทุกตำรา เพื่อจะได้ชื่อดี ๆ สักชื่อนึงไม่ง่ายเลย ต้องมีการวิเคราะห์ชื่อแยกแยะอักขระ คำนวณวิเคราะห์ร้อยชื่อพันชื่อหากโชคดีอาจได้มาสักชื่อนึงก็เป็นได้ ได้ชื่อแล้วจะต้องดูผลคำทำนายรวมกับนามสกุลอีก ใช้แต่ละศาสตร์กลั่นกรองชื่อ แต่ละชื่อใช้เวลาในการคำนวณพอสมควร

ค่าครูในการตั้งชื่อ 299 บาท (จากปกติ 599 บาท) ท่านจะได้รับ

รับชื่อมงคล 2-3 ชื่อ มีคำอ่านและคำแปลของชื่อ
วิเคราะห์ชื่อใหม่ให้ทั้ง 3 ศาสตร์ ไม่ว่าหลักทักษา หลักเลขศาสตร์ หลักอายตนะ
ชื่อที่ได้รับจะผ่านการทำพิธีเสริมดวง เสริมมงคลให้ด้วย
ฤกษ์ในการเปลี่ยนชื่อ
พิธีกรรมที่ส่งเสริมการใช้ชื่อใหม่ ให้เกิดความเป็นสิริมงคล

ต้องการตั้งชื่อติดต่อทักแชท หรือ id line : teerapat999
รายละเอียดเพิ่มเติม http://porntaywa99.lnwshop.com/p/3