• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Ailie662

#3081



กระทรวงอุตสาหกรรมเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย.ขยายตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ภาพรวมดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) อยู่ที่ระดับ 97.73 เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.58 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน โดยไตรมาสที่ 2/64 ขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 20.41 ครึ่งปีแรก 64 ขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 9.41 เนื่องจากประเทศคู่ค้าสำคัญเริ่มฟื้นตัวจากมาตรการของภาครัฐในแต่ละประเทศ รวมถึงความคืบหน้าการฉีดวัคซีนในหลายประเทศส่งผลให้การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม (ไม่รวมทองคำและยุทโธปกรณ์) ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 45.23 ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าภาคการผลิตอุตสาหกรรมที่สำคัญจะยังเติบโตต่อเนื่องตามภาคการส่งออกซึ่งถือเป็นกลจักรสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศในช่วงเวลานี้

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรมเปิดเผยว่า สถานการณ์ภาคการผลิตอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ปรับตัวดีขึ้น สะท้อนได้จากดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI)เดือนมิถุนายน 2564 ขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน จากทิศทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าสำคัญทั่วโลกมีแนวโน้มดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น และยุโรป ส่งผลให้ภาคการผลิตโดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมสำคัญขยายตัว ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เหล็กและเหล็กกล้า แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีบางโรงงานอุตสาหกรรมต้องหยุดการผลิตชั่วคราวแต่เป็นเฉพาะบางสายการผลิต และสามารถกลับมาเร่งกำลังการผลิตได้เหมือนเดิม



ขณะเดียวกันกระทรวงอุตสาหกรรมมีการขับเคลื่อนมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ร่วมกับกระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ด้วยหลักการ "Online - Onsite - Upgrade -Vaccine" คือ 1.Online ให้โรงงานประเมินตนเองผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ไทย สต๊อป โควิด-19 พลัส และไทยเซฟไทย 2. Onsite จัดทีมแนะนำและติดตามการประเมินตนเอง โดยให้สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด และหน่วยงานในพื้นที่ของกระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ร่วมกันจัดทีมสุ่มตรวจประเมินโรงงานในพื้นที่ในโรงงาน

3.Upgrade จัดทำมาตรการฟื้นฟูสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 หลังจากโรงงานประเมินตนเอง เพื่ออัพเกรดสถานประกอบการให้ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน 4. Vaccine เร่งรัดการฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ในโรงงาน รวมทั้งผลักดันการเป็นศูนย์ให้บริการฉีดวัคซีนในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมและโรงงานขนาดใหญ่ที่มีคนงานมากกว่า 2,000 คน เพื่อลดความเสี่ยงของการแพร่ระบาดในภาคแรงงาน และจะสามารถทำให้ภาคอุตสาหกรรมสามารถเดินหน้าการผลิตต่อไปได้

นายทองชัย ชวลิตพิเชฐ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) กล่าวว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนมิถุนายน 2564 ขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 อยู่ที่ระดับ 97.73 เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.58 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน โดยไตรมาสที่ 2/64 ขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 20.41 ส่วนครึ่งปีแรกปี 2564 ขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 9.41 โดยการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม (ไม่รวมทอง อาวุธ รถถัง และอากาศยาน) มูลค่า 18,440 ดอลล่าร์สหรัฐ ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 45.23 ส่วนการนำเข้าสินค้าทุน ขยายร้อยละ 28.5 ได้แก่ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ และการนำเข้าสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป (ไม่รวมทองคำ) ขยายตัวร้อยละ 69.4 ได้แก่ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ เป็นต้น



สำหรับการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมในช่วงครึ่งปีแรก ปี 2564 ขยายตัวเกือบทุกอุตสาหกรรม โดยเฉพาะการผลิตของอุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์มีการผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 39.87 โดยเป็นการผลิตรถยนต์เพิ่มขึ้นในรถทุกประเภทจากช่วงเดียวกันของปีก่อนตามคำสั่งซื้อจากต่างประเทศส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ยางล้อขยายตัวตามไปด้วย อุตสาหกรรมเหล็กขยายตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากคำสั่งซื้อทั้งในและต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้นตามราคาตลาดโลก ส่งผลให้การผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 23.80 การผลิตชิ้นส่วนและแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ มีการผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.65 ตามความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นจากการเรียนและการทำงานออนไลน์ และอุตสาหกรรมการผลิตถุงมือยางที่เติบโตตามความต้องการใช้งานทางการแพทย์สูงขึ้นจากการระบาดของโควิด-19 อีกทั้ง ในเดือนมิถุนายน 2564 อุตสาหกรรมเครื่องประดับ ซึ่งเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยเริ่มกลับมาขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึงร้อยละ 178.89 สะท้อนให้เห็นภาพของเศรษฐกิจโลกที่เริ่มกลับมาฟื้นตัว

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยสนับสนุน ได้แก่ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศการเร่งกระจายการฉีดวัคซีน และแผนการเปิดประเทศในช่วงครึ่งปีหลัง ส่งผลให้การคาดการณ์ MPI ในเดือนถัดไปจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตามยังคงมีประเด็นที่ต้องติดตามและให้ความสำคัญ อาทิเช่น การระบาดของโควิด-19 ในกลุ่มคลัสเตอร์โรงงานอุตสาหกรรม ปัญหาการขาดแคลนชิปในอุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งปัญหาต้นทุนค่าระวางการขนส่งสินค้าทางเรือตู้คอนเทนเนอร์สูงขึ้นที่อาจส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตในอนาคต

สำหรับอุตสาหกรรมหลักที่มีดัชนีผลผลิตที่ส่งผลบวกขยายตัวในเดือนมิถุนายน 2564 ยานยนต์ ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 90.06 จากการผลิตเกือบทุกรายการสินค้า ประเทศคู่ค้าสำคัญ เช่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เวียดนาม ญี่ปุ่น เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ดีขึ้น ทำให้การส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 82.14 ส่วนตลาดในประเทศยังขยายตัวได้แม้จะมีการระบาดระลอก 3 ชิ้นส่วนและแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 32.32 ตามความต้องการชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์โลกที่ขยายตัว และความต้องการสินค้าเพื่อการทำงานแบบ work from home มากขึ้น ประกอบกับแนวโน้มของการพัฒนาสินค้าเทคโนโลยีเป็นปัจจัยส่งเสริมให้มีการใช้ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในหลากหลายอุตสาหกรรมมากขึ้น

ส่วนเหล็กและเหล็กกล้าขั้นมูลฐาน ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 28.93 จากเหล็กแผ่นเคลือบสังกะสี เหล็กแผ่นรีดเย็น เหล็กรูปพรรณรีดร้อน และเหล็กเส้นข้ออ้อย เป็นหลัก ตามความต้องการใช้ในอุตสาหกรรมต่อเนื่องโดยเฉพาะยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ตลอดจนการเร่งก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานของรัฐในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา

ขณะที่เครื่องประดับเพชรพลอยและโลหะมีค่า ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 178.89 เนื่องจากปีก่อนเป็นช่วงเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ทำให้ยอดการผลิตและจำหน่ายยังอยู่ในระดับต่ำ ต่างจากปีนี้ ที่การผลิตเป็นไปตามปกติ รวมถึงการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายออนไลน์ทำให้การจำหน่ายเติบโตได้มากขึ้น ยางรถยนต์ ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 78.19 จากยางนอกรถยนต์นั่ง ยางนอกรถบรรทุกรถโดยสาร และยางนอกรถกระบะ ขยายตัวได้ตามยอดการผลิตรถยนต์ที่เติบโตได้ดีขึ้น รวมถึงมีการลดราคาและทำโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นยอดขาย ซึ่งในปีก่อนได้รับผลจากการแพร่ระบาดและมาตรการล็อกดาวน์ ทำให้ความต้องการสินค้าหดตัว

https:// siamrath.co.th/n/266720
#3082



นายธีระธัช รัตนกมลพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร วิลล่า ฟอเรสต์ กล่าวว่า ได้เปิดตัวเฟสแรก คือ "โรงเรียน ที่ซึ่งสะท้อนถึงการเรียนรู้รอบด้านควบคู่คุณธรรม" เพราะการศึกษามีความสำคัญ เป็นรากฐานของชีวิต จึงได้ร่วมกับ Wells International School, Chonburi Campus สานพลังเสริมสร้างจินตนาการการเรียนรู้วิถีใหม่ เพื่อพัฒนาเยาวชนให้มีความรู้คู่คุณธรรม



ทั้งนี้มีข้อเป้าหมายร่วมกันที่จะเพื่อบ่มเพาะกล้าพันธุ์ให้เติบใหญ่อย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดี ให้เป็นโรงเรียนวิถีใหม่ มีศูนย์การเรียนรู้กสิกรรมธรรมชาติ ที่เด็กๆ จะได้มาเรียนรู้ มีที่นาให้เด็กๆ เอาเท้าสัมผัสดินสัมผัสหญ้า และมีแปลงผักให้ทดลองปลูกผักเก็บผัก และทำกิจกรรมร่วมกันที่จะสร้างสรรค์จินตนาการให้เด็กๆ เก่งและดี มีความสุข และมีความอ่อนน้อม โดยนำเอาวัฒนธรรม Globalization มาผสมผสานกับ Localizaion เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตในโลกยุคใหม่ที่เปลี่ยนแปลง



ดร.เรย์ เดอ ลา เพนญ่า ครูใหญ่ โรงเรียนนานาชาติ เวลส์, แคมปัสอ่อนนุช กล่าวว่า คุณพ่อเคยมาทำงานในเมืองไทย ตั้งแต่ปี 1960 ทำทางด้านโครงการในพระราชดำริฯ ร.9 ทำให้ได้รับรู้และซึมซับในเรื่องราว 'เศรษฐกิจพอเพียง' มีความประทับใจมาตั้งแต่ครั้งเยาว์วัย เลยตัดสินใจมาอยู่เมืองไทย และประกอบอาชีพ 'ครู' ด้วยความเชื่อว่า "Changing the World, One student at a time"

"โรงเรียนนานาชาติ เวลส์ อยู่ในกรุงเทพฯ อ่อนนุช ทองหล่อ และบางนา มีประสบการณ์มา 20 ปีแล้วในการจัดการเรียนการสอนที่ทำให้นักเรียนที่จบทุกๆ ปีสามารถสอบติดมหาวิทยาลัยดังๆ ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด, มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด และอื่นๆ อีกมากมาย จึงมีความตั้งใจจะขยายสาขาอีก แล้วมาเจอที่ชลบุรี โครงการวิลล่า ฟอเรสต์ รู้สึกหลงใหลไปกับธรรมชาติต้นไม้หลากพันธุ์ และที่แห่งนี้ยังเป็นแหล่งและศูนย์รวมที่นำเอาหลักคิดวิถีพอเพียงมาใช้"



ดังนั้นจึงอยากจะสร้างโรงเรียนแห่งนี้ในพื้นที่ 24 ไร่ ให้เป็นแคมปัสที่สามารถจะพัฒนาได้อย่างยั่งยืนสามารถที่จะเรียนรู้ได้ตั้งแต่ในห้องเรียนไปจนถึงนอกห้องเรียน โดยจะสร้างพื้นการเรียนการสอนให้มีคุณภาพเหมาะสมกับความสามารถของนักเรียน ซึ่งไม่ใช่เก่งแค่วิชาการ แต่สามารถพัฒนาต่อยอดสู่ความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น เพราะบรรยากาศที่เต็มไปด้วยธรรมชาติต้นไม้ จะทำให้โล่ง หายใจสะดวก ทำให้สนุกในการเรียนรู้ เกิดการเรียนรู้ที่ดี เกิดจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ และนี่คือหัวใจแห่งการเรียนรู้ที่สมบูรณ์แบบ



ด้วยบรรยากาศที่สร้างกระบวนการเรียนรู้ได้ดีนั้น สามารถรองรับนักเรียนมัธยมที่จะทำ Diploma หรือ ประกาศนียบัตร ได้ตามความสนใจ สำหรับเด็กประถมจะทำให้เด็กๆ เกิดกระบวนการเรียนรู้ได้ดีขึ้น เพราะมีพื้นที่ได้ทำกิจกรรม มีแปลงผักปลูกต้นไม้ หรือจะนำสิ่งแวดล้อมธรรมชาติมาใช้เป็นวัตถุดิบในการทำงานศิลปะได้ด้วย

"สิ่งสำคัญที่สุดในแคมปัสแห่งนี้ สามารถรองรับกลุ่มคนที่อยู่ในหมู่บ้านนี้ได้อย่างดี เด็กตื่นมาไปเรียนได้เลย ไม่ต้องมีปัญหาเรื่องจราจร รถติด เหมือนกรุงเทพฯ ทั้งคนในครอบครัวก็จะอยู่ด้วยกันมากขึ้น พร้อมหน้าพร้อมตา พ่อ-แม่-ลูก เด็กๆ ไม่ต้องรอพ่อแม่นาน แล้วก็ได้ไม่นอนดึก ทำให้เกิดความสุข สุขภาพดี การเรียนรู้ยิ่งดี"

โครงการต้นแบบชีวิตวิถีใหม่แห่งนี้ ยังมีแนวคิดแห่ง 'บ-ว-ร' ในส่วนของ 'บ-บ้าน' ที่ให้มากว่าคำว่าบ้าน และ 'ว-วัด' ที่มาของการพัฒนาจิตใจของทุกชาติและศาสนา ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องราวดีๆ ที่น่าสนใจ และมีให้ติดตามกันในอนาคตอันใกล้นี้แน่นอน สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร.085 399 4030
#3083



อาร์แซน เวนเกอร์ ตกเป็นข่าวอาจกลับมารับงานคุมทีมข้างสนามอีกครั้ง โดยอาจยกระดับก้าวขึ้นไปทำงานในระดับชาติเป็นครั้งแรก

กุนซือมาดนิ่งวัย 71 ปีชาวฝรั่งเศส ถึงแม้จะก้าวขึ้นไปทำงานเป็นผู้บริหารระดับสูงของฟีฟ่า ในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายพัฒนาฟุตบอล หลังแยกทางจากอาร์เซนอลเมื่อปี 2018 แต่ก็ยังมีข่าวลือว่า หลายสโมสรชั้นนำของยุโรป ต่างพยายามตามจีบให้กลับมาคุมทีมอีกครั้ง

รวมถึงล่าสุด Blick สื่อชื่อดังแห่งแดนนาฬิการายงานว่า สมาคมฟุตบอลสวิตเซอร์แลนด์ เตรียมทาบทาม เวนเกอร์ ทำหน้าที่กุนซือทีมชาติคนใหม่ เพื่อแทนที่ของ วลาดิเมียร์ เพตโควิช ที่ตัดสินใจก้าวลงจากตำแหน่งหลังจบศึกฟุตบอลยูโร 2020 ก่อนย้ายไปรับงานคุมทีมบอร์กโดซ์ ในศึกลีก เอิง ของฝรั่งเศส

รายงานระบุว่า การทาบทามในครั้งนี้ อาจเป็นสัญญาระยะสั้นจนถึงฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้ายที่กาตาร์เท่านั้น และการเจรจารวมถึงแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ อาจมีขึ้นในเร็วๆ นี้ ก่อนที่เกมคัดบอลโลกรอบต่อไป จะมีขึ้นในช่วงเดือนกันยายนนี้

สำหรับ อาร์แซน เวนเกอร์ ถึงแม้จะยังไม่เคยคุมทีมในระดับชาติ แต่ก็ประสบความสำเร็จมาอย่างต่อเนื่องกับสโมสรชั้นนำของยุโรปทั้ง โมนาโก และ อาร์เซนอล ในช่วงก่อนหน้านี้.

https:// www.thairath.co.th/sport/eurofootball/otherleague/2153071
#3084



นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า ตั้งแต่เกิดวิกฤตโควิด-19 ธนาคารสมาชิกได้ให้ความช่วยเหลือลูกค้าทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่อง ตามมาตรการปรับโครงสร้างหนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย โดยในเดือนก.ค. 63 มีลูกค้าขอรับความช่วยเหลือสูงสุดจำนวน 6 ล้านบัญชี วงเงินความช่วยเหลือรวม 4.25 ล้านล้านบาท เป็นวงเงินสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ 8 แสนล้านบาท ลูกค้า SME 1.8 ล้านล้านบาท และลูกค้ารายย่อย 1.6 ล้านล้านบาท

ที่ผ่านมา มีลูกค้าบางส่วนได้ออกจากมาตรการเนื่องจากกลับมาชำระหนี้ได้ในช่วงที่สถานการณ์ดีขึ้น ล่าสุด ยังมีลูกค้าอยู่ภายใต้การให้ความช่วยเหลือรวม 1.89 ล้านบัญชี คิดเป็นวงเงินช่วยเหลือกว่า 2 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นวงเงินสินเชื่อลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ 5.6 แสนล้านบาท ลูกค้า SME 8.2 แสนล้านบาท และลูกค้ารายย่อย 6.2 แสนล้านบาท

สำหรับมาตรการเสริมสภาพคล่อง เพื่อประคับประคองธุรกิจตามมาตรการช่วยเหลือของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ธนาคารสมาชิกได้อนุมัติวงเงินสินเชื่อเสริมสภาพคล่องกว่า 2.16 แสนล้านบาท แบ่งเป็นวงเงินสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) ประมาณ 1.38 แสนล้านบาท และวงเงินสินเชื่อฟื้นฟูธุรกิจที่อนุมัติไปแล้วกว่า 7.8 หมื่นล้านบาท โดยตั้งเป้าหมาย 1 แสนล้านบาทในเดือนตุลาคมนี้

อย่างไรก็ตาม ทุกธนาคารยังคงเดินหน้าช่วยเหลือลูกค้าอย่างเต็มที่ โดยจะทยอยพิจารณาให้การช่วยเหลือผ่านวงเงินดังกล่าวอย่างต่อเนื่องต่อไป

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสมาคมธนาคารไทย ได้หารือกันอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินผลกระทบต่อลูกค้าทุกกลุ่ม โดยพร้อมมีมาตรการช่วยเหลือลูกค้าเพิ่มเติม หากสถานการณ์ยืดเยื้อกว่าที่ประเมินไว้ อย่างไรก็ตาม ภาคธนาคารได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 เมื่อต้นปี 63

โดยในช่วงแรกออกมาตรการช่วยเหลือเป็นการทั่วไป เป็นมาตรการเร่งด่วน ทั้งการพักชำระเงินต้น ดอกเบี้ย และขยายระยะเวลาชำระหนี้ เพื่อลดภาระทางการเงินให้กับลูกค้า เสริมสภาพคล่องด้วยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) หลังจากนั้นได้ออกมาตรการช่วยเหลือเฉพาะกลุ่ม เพื่อช่วยเหลือลูกค้าให้ตรงจุด เช่น มาตรการปรับโครงสร้างหนี้ และเมื่อมีการระบาดระลอกใหม่ทำให้เศรษฐกิจต้องใช้เวลานานขึ้นในการฟื้นตัว จึงมีมาตรการฟื้นฟูธุรกิจเพิ่มเติม ประกอบด้วย สินเชื่อฟื้นฟูธุรกิจ วงเงิน 2.5 แสนล้านบาท และมาตรการพักทรัพย์พักหนี้ วงเงิน 1 แสนล้านบาท พร้อมออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้ารายย่อย ระยะที่ 3 และล่าสุดได้ออกมาตรการเร่งด่วนด้วยการพักชำระเงินต้น และดอกเบี้ยให้แก่ลูกค้า SMEs และลูกค้ารายย่อยที่ได้รับผลกระทบโดยตรง เป็นระยะเวลา 2 เดือน ทั้งที่เป็นนายจ้างและลูกจ้างในสถานประกอบการ ในพื้นที่ควบคุมฯ และนอกพื้นที่ควบคุมฯ ที่ต้องปิดกิจการจากมาตรการของทางการ

"ธนาคารสมาชิกได้บริหารจัดการธุรกิจด้วยความระมัดระวัง เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับความไม่แน่นอนของสถานการณ์โควิด-19 และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แม้ว่าภาพรวมผลการดำเนินงานของธนาคารพาณิชย์ในช่วงครึ่งปี 64 แสดงผลการดำเนินงานที่ยังเติบโตต่อเนื่อง แต่บางส่วนเป็นการบันทึกรายได้ดอกเบี้ยค้างรับของมาตรการช่วยเหลือลูกค้า ซึ่งยังไม่ได้มีการชำระจริงและยังอาจกลายเป็นหนี้เสียได้ อย่างไรก็ตาม ภาพรวม NPL ในระบบแทบจะไม่เพิ่มขึ้นเลย สะท้อนถึงการให้ความช่วยเหลือได้ทันการณ์ ซึ่งนอกจากการให้สินเชื่อผ่าน Soft Loan และสินเชื่อฟื้นฟูแล้ว ธนาคารพาณิชย์ยังปล่อยสินเชื่อให้กับลูกหนี้ตามวงเงินที่มีอยู่เดิมเพิ่มขึ้น และยังคงให้ความสำคัญกับการกันสำรองอย่างเข้มงวดต่อไป เพื่อรองรับความไม่แน่นอนในอนาคต และต้องไม่เกิดผลกระทบกับเสถียรภาพและระบบสถาบันการเงินของประเทศ"นายผยง กล่าว

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด- 19 ระลอกใหม่ที่รุนแรงขึ้น สมาคมธนาคารไทยและธนาคารสมาชิกยังได้ยกระดับแผน Business Continuity Planning (BCP) เพื่อความต่อเนื่องในการให้บริการ โดยคำนึงความปลอดภัยของลูกค้าและพนักงานเป็นสำคัญ ทั้งนี้ แผน BCP ครอบคลุมทั้งการปฎิบัติตามมาตรการของทางการ ระบบการให้บริการ การจัดสรรพนักงาน และการสำรองเงินสดให้เพียงพอ อย่างไรก็ตาม แนะนำให้ลูกค้าทำธุรกรรมการเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ทั้ง Mobile Application Internet Banking และ ตู้ ATM ซึ่งสามารถทำธุรกรรมได้หลากหลาย ทั้งฝาก-ถอนเงินสด โอนเงิน จ่ายบิล การยืนยันตัวตน รวมถึงบริการผูกบัญชีพร้อมเพย์ โดยไม่ต้องเดินทางมาที่สาขา เพื่อความสะดวก และลดความเสี่ยง

ทั้งนี้ได้ติดตามสถานการณ์และประเมินผลกระทบอย่างใกล้ชิด ได้มีการปฏิบัติงานจากที่บ้าน หรือ Work From Home ขั้นสูงสุด ส่วนพนักงานที่ต้องปฏิบัติงานในสาขา ซึ่งถือว่าเป็นบุคลากรด่านหน้าและเป็นกลุ่มเสี่ยง ธนาคารสมาชิกก็พยายามเร่งจัดหาวัคซีนและกระจายฉีดวัคซีนให้เร็วที่สุด พร้อมจัดการระบบให้บริการที่สาขาให้เป็นไปตามมาตรการด้านสาธารณสุข

นอกจากมาตรการช่วยเหลือลูกค้าแล้ว สมาคมธนาคารไทย และธนาคารสมาชิก ยังสนับสนุนการทำงานของทีมแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ในการป้องกันและรักษาผู้ติดเชื้อในปี 63 โดยบริจาคให้แก่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลราชวิถี สถาบันบำราศนราดูร และสภากาชาดไทย จำนวนเงิน 50 ล้านบาท

สำหรับในปี 2564 ธนาคารสมาชิกยังคงสนับสนุนการทำงานอย่างต่อเนื่อง ผ่านการสนับสนุนทุนทรัพย์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ และอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อ ขณะเดียวกัน ยังเป็นกำลังสำคัญร่วมกับภาคีเครือข่าย สนับสนุน โครงการ "ไทยร่วมใจ กรุงเทพฯ ปลอดภัย" ซึ่งเป็นการผนึกความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่างภาครัฐและเครือข่ายภาคีเอกชน ในการเร่งกระจายวัคซีนให้กับประชาชน โดยสนับสนุนศูนย์ฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาลในโครงการไทยร่วมใจฯ 25 แห่ง ศูนย์ฉีดวัคซีนสำนักงานประกันสังคมเพื่อผู้ประกันตน ม.33 อีก 69 แห่ง รวมถึงจุดบริการฉีดวัคซีนของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงสูงสุด โดยธนาคารสมาชิกได้ให้การสนับสนุนทั้งด้านสถานที่ บุคลากร และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือในการดำเนินงานอีกด้วย
#3085



นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า  ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป เล็งเห็นว่าองค์กรและธุรกิจต่างๆ ล้วนให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่นและความสามารถในการปรับตัวได้อย่างรวดเร็วท่ามกลางสถานการณ์ปัจจุบัน 

ล่าสุดพร้อมเปิดตัว " WHA Office Solutions"  จึงพร้อมเป็นทางเลือกใหม่สำหรับการเช่าพื้นที่สำนักงาน ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป จึงได้พัฒนาพื้นที่สำนักงานให้เข่าบนทำเลซึ่งเหมาะแก่การทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมขับเคลื่อนความคิดสร้างสรรค์และแนวคิดใหม่ๆ สำนักงานแต่ละแห่งตั้งอยู่ในย่านศูนย์กลางธุรกิจ สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก และเทคโนโลยีอันทันสมัย ตอบโจทย์นักลงทุนและตลาดสำนักงานให้เช่าได้อย่างดีเยี่ยม การขยายสู่ตลาดใหม่ครั้งนี้ บริษัทฯ ได้ต่อยอดจากประสบการณ์ในการทำธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมและอสังหาริมทรัพย์ของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ที่สั่งสมมายาวนานกว่า 30 ปี

WHA Office Solutions เหมาะกับธุรกิจทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นองค์กรขนาดใหญ่ไปจนถึงสตาร์ทอัพ โดยมีพื้นที่สำนักงานให้เช่ากว่า 100,000 ตร.ม. ตั้งอยู่ในทำเลชั้นนำย่านศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพฯ และสมุทรปราการ เดินทางได้อย่างรวดเร็ว สะดวกสบายสู่สนามบินสุวรรณภูมิ และพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ตลอดจนตั้งอยู่ใกล้ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ โรงเรียน โรงพยาบาล รวมถึงพื้นที่ธุรกิจและการลงทุนอื่นๆ เพื่อการดำเนินธุรกิจได้อย่างราบรื่น


"เมื่อผู้คนได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึงมากขึ้น หลายๆ องค์กรจึงจะเริ่มวางแผนการกลับเข้าทำงานที่ออฟฟิศร่วมกันอย่างพร้อมหน้า ภายใต้มาตรการที่คำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุดของพนักงานทุกคน แน่นอนว่าผู้ประกอบการและบริษัทต่างๆ ต้องเริ่มมองหาสถานที่ทำงานที่ยืดหยุ่นและตอบโจทย์วิถีนิวนอร์มอลได้อย่างแท้จริง ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป พร้อมนำเสนอพื้นที่สำนักงาน 6 แห่ง 6 ทำเลที่โดดเด่นด้านความปลอดภัย ความยืดหยุ่น และความสะดวกสบายในการเดินทาง เราตั้งเป้าหมายที่จะเติมเต็มวิสัยทัศน์การเปลี่ยนออฟฟิศเป็นพื้นที่สร้างสรรค์ ตอบโจทย์ให้กับเจ้าของธุรกิจ ทีมผู้บริหาร และนักลงทุนยุคใหม่ทั้งในและต่างประเทศ"
#3086



ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างสมบูรณ์หนึ่งในปัญหาสุขภาพของผู้สูงอายุที่ต้องเผชิญ คือ โรคในช่องปากส่งผลให้ผู้ป่วยสูงวัยที่มีภาวะโรคดังกล่าวมีคุณภาพชีวิตที่ไม่ดี นักวิจัยมหิดล จึงพัฒนา ชุดตรวขคัดกรองโรคในปากขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนจาก วช.

ศาสตราจารย์ ดร. ทันตแพทย์หญิง วรานันท์ บัวจีบ หัวหน้าโครงการวิจัยนวัตกรรมชุดตรวจคัดกรองโรคในปาก จึงได้เริ่มการศึกษาโรคดังกล่าวในประชากรสูงวัย เพื่อนำข้อมูลที่สำคัญมาวิเคราะห์เตรียมความพร้อมให้ผู้สูงวัยมีบั้นปลายชีวิตที่เป็นสุข

ทั้งนี้ศาสตราจารย์ ดร. ทันตแพทย์หญิง วรานันท์ บัวจีบ มหาวิทยาลัยมหิดล ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จำรัส พร้อมมาศ ดร.เบญจพร เลิศอนันตวงศ์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล รองศาสตราจารย์ ดร.พัชรี เจียรนัยกูร คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)


ในแผนงานทุนท้าทายไทย เพื่อรองรับสังคมสูงวัย ในการคิดค้นนวัตกรรม ชุดตรวจคัดกรองโรคในปาก ของผู้สูงอายุอย่างรวดเร็ว เพื่อพัฒนาชุดตรวจให้มีประสิทธิภาพ รู้ผลได้เร็ว เนื่องจากผู้ป่วยมะเร็งช่องปากในระยะแรก มักไม่ทำให้ผู้ป่วยมีอาการเจ็บปวด ทำให้มักจะมาพบทันตแพทย์เมื่อโรคลุกลามมาก การป้องกัน และเฝ้าระวังการเกิดมะเร็งช่องปากจึงมีความสำคัญ และจำเป็น จากข้อมูลในปัจจุบันพบว่ามะเร็งช่องปากมีความสัมพันธ์กับปัจจัยเสี่ยงหลายประการ ได้แก่การสูบบุหรี่ การดื่มสุรา การเคี้ยวหมาก รวมทั้งการติดเชื้อไวรัส HPV

ทีมผู้วิจัยตระหนักถึงความเสี่ยงของการติดเชื้อ HPV ในช่องปาก ที่อาจส่งผลให้เกิดความผิดปกติของเซลล์จนกลายเป็นมะเร็งของเยื่อเมือกช่องปาก จึงพยายามพัฒนาให้มีวิธีการคัดกรองไวรัส HPV ในช่องปากเบื้องต้น ที่ทำได้รวดเร็ว เพื่อนำไปสู่การวิเคราะห์และการตรวจสอบหารอยโรคที่เสี่ยงสูงต่อการกลายเป็นมะเร็งทั้งนี้ในผู้สูงอายุมักพบรอยโรคที่เสี่ยงสูงต่อการกลายเป็นมะเร็งของเยื่อเมือกในช่องปากที่สำคัญ ได้แก่ รอยโรคลิวโคเพลเคียและรอยโรคไลเคน แพลนัส การมีไวรัส HPV ในรอยโรคดังกล่าวอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการกลายเป็นมะเร็งช่องปาก

นวัตกรรมชุดตรวจคัดกรองโรคในปาก ได้ถูกนำมาตรวจคัดกรอง HPV ในรอยโรคลิวโคเพลเคียและรอยโรคไลเคน แพลนัส โดยการใช้แปรงขนนิ่มขนาดเล็กขูดเซลล์ที่รอยโรคดังกล่าวไปตรวจหาไวรัส จัดว่าเป็นวิธีที่สะดวก ทำได้ง่าย ไม่ก่อให้เกิดแผลหรือความเจ็บปวด และยังช่วยในการเฝ้าระวังและติดตามโรค รวมถึงให้การรักษาที่เหมาะสมได้อย่างรวดเร็ว อันจะเป็นประโยชน์แก่ผู้สูงอายุ


โดยขั้นตอนของการตรวจ หลังจากการทำปฏิกิริยาที่ใช้เพิ่มปริมาณดีเอ็นเอ เพื่อเพิ่มปริมาณไวรัสที่จะตรวจแล้วจะใช้วิธีตรวจที่พัฒนาขึ้นนี้ทดแทนการรันเจลที่ใช้เวลานานกว่า เพื่อตรวจสอบผลการคัดกรองมะเร็งจากเชื้อไวรัสด้วยเทคนิคเคมีไฟฟ้า โดยการผสมสีที่เมื่อแตกตัวแล้วส่งสัญญานไฟฟ้าได้ สีดังกล่าวจะมีการเตรียมให้จำเพาะต่อดีเอ็นเอของไวรัสที่เกี่ยวข้องกับการคัดกรองมะเร็ง ดังนั้นหากพบดีเอ็นเอของเชื้อไวรัส สีดังกล่าวจะเข้าจับ และเกิดกระแสไฟฟ้าขึ้น ซึ่งปริมาณของกระแสไฟฟ้าที่เกิดขึ้นขึ้นอยู่กับปริมาณหรือจำนวนของเชื้อไวรัส


การทดสอบขั้นตอนนี้ทำได้ง่ายด้วยการหยดดีเอ็นเอที่ติดสีดังกล่าวเพียงหยดเดียวลงบน strip test ที่ทางโครงการวิจัยได้พัฒนาขึ้น แล้วใช้เครื่องอ่านผลปฏิกิริยาเคมีไฟฟ้าแบบพกพาขนาดเล็กที่มีการใช้อยู่แล้ว โดยเชื่อมต่อสัญญาณกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ทำให้ทราบผลการวัดในเวลารวดเร็ว


ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า วช. สนับสนุนงานวิจัยด้านผู้สูงอายุอย่างต่อเนื่องเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้อายุให้ได้รับการบริการด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยการนำองค์ความรู้ต่างๆ ขับเคลื่อนผลงานวิจัย นวัตกรรมและเทคโนโลยี ไปสู่การขยายผลต่อกลุ่มเป้าหมายและผลักดันให้เกิดการใช้ประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งนวัตกรรมชุดตรวจคัดกรองโรคในปาก เป็นชุดตรวจที่สะดวก ทำได้ง่าย ไม่ก่อให้เกิดแผลและสามารถลดระยะเวลาในการทำงานได้เป็นอย่างดี
#3087



อย. ห่วงใย ไม่แนะนำให้ประชาชนใช้ปืนฉีดแอลกอฮอล์เพื่อฆ่าเชื้อโรค เสียเงินฟรีแถมได้รับอันตราย เพราะละอองฝอย ทำให้น้ำยาสัมผัสพื้นผิวไม่เพียงพอ ลดประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรค แถมยังทำให้เชื้อโรคฟุ้งกระจาย หากเข้าตาหรือสูดดมอาจทำให้เคืองตา เวียนหัว คลื่นไส้ ระคายเคืองระบบทางเดินหายใจ เป็นอันตรายโดยเฉพาะในเด็กเล็ก หากใช้ปืนที่มีแสงยูวีฆ่าเชื้อโรคบนร่างกายโดยตรง อาจทำให้เกิดมะเร็งผิวหนังและเป็นอันตรายต่อดวงตาอีกด้วย

แนะวิธีฆ่าเชื้อโรคที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ ควรใช้ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคที่ได้รับอนุญาตจาก อย. เทราด หรือเช็ดบนพื้นผิวหรือวัสดุอุปกรณ์ที่ทำความสะอาดแล้ว ทิ้งไว้ให้เปียกตามเวลาที่กำหนด และปฏิบัติตามคำแนะนำบนฉลาก ก่อนซื้อตรวจสอบเลข อย. ที่ www.fda.moph.go.th หัวข้อ ตรวจสอบผลิตภัณฑ์

วันนี้ (29 ก.ค.) เภสัชกรหญิงสุภัทรา บุญเสริม ผู้ทรงคุณวุฒิด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์ด้านสาธารณสุข และรักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในขณะนี้

ทำให้ปืนฉีดแอลกอฮอล์กำลังได้รับความนิยม เป็นที่ต้องการของประชาชนเป็นอย่างมาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มีความห่วงใยเป็นอย่างยิ่ง ไม่แนะนำให้ซื้อปืนฉีดแอลกอฮอล์มาใช้เนื่องจากละอองฝอยที่ออกมาจากเครื่องมีขนาดเล็กมาก ทำให้ตัวน้ำยาสัมผัสพื้นผิวไม่เพียงพอซึ่งจะลดประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรค แถมยังทำให้เชื้อโรคฟุ้งกระจาย หากเข้าตาหรือสูดดมอาจทำให้เคืองตา เวียนหัว คลื่นไส้ ระคายเคืองระบบทางเดินหายใจ เป็นอันตรายโดยเฉพาะในเด็กเล็ก ที่สำคัญ หากใช้ปืนที่มีแสงยูวีฆ่าเชื้อโรคบนร่างกายโดยตรง อาจทำให้เกิดมะเร็งผิวหนังและเป็นอันตรายต่อดวงตา ดังนั้น ปืนฉีดแอลกอฮอล์นอกจากจะไม่มีประโยชน์ในการฆ่าเชื้อโรคแล้วยังเป็นอันตรายต่อสุภาพอีกด้วย วิธีการฆ่าเชื้อบนพื้นผิวและวัสดุอุปกรณ์ที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ ควรใช้ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคที่ได้รับอนุญาตจาก อย. เทราดหรือเช็ดบนพื้นผิวหรือวัสดุอุปกรณ์ที่ทำความสะอาดแล้ว ทิ้งไว้ให้เปียกตามระยะเวลา ที่กำหนด และปฏิบัติตามคำแนะนำบนฉลาก หากพื้นผิวที่สกปรกมากจะลดประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรค ก่อนซื้อตรวจสอบเลข อย. ที่ www.fda.moph.go.th หัวข้อ ตรวจสอบผลิตภัณฑ์ รองเลขาธิการ อย. กล่าวในตอนท้าย
#3088

  • 9 บาท จ้า แค่ 9 บาท เท่านั้น
  • ประโยชน์ของการใช้ไหมขัดฟัน พร้อมไม้จิ้มฟัน
  • 1. ช่วยกำจัดเศษอาหารที่ติดตามซอกฟันออกได้อย่างหมดจด
  • 2. ช่วยทำความสะอาดฟันที่เราทำความสะอาดไม่ได้ เช่น ฟันซ้อน เราจะใช้แปรงสีฟันทำความสะอาดได้ไม่ทั่วถึง
  • 3. บริเวณ ที่แปรงสีฟันเข้าไปไม่ถึง ไหมขัดฟันก็จะช่วยทำความสะอาดได้
  • รายละเอียด:
  • ☑อุปกรณ์ที่รวมเอาไหมขัดฟันและไม้จิ้มฟันเข้าด้วยกัน
  • ☑มีขนาดกะทัดรัดเหมาะแก่การพกพา
  • ☑แนะนำสำหรับผู้เริ่มใช้ไหมขัดฟัน เพราะไม่จำเป็นต้องพันไหมด้วยตนเอง
  • ☑ส่วนของไม้จิ้มฟันนั้น มีประสิทธิภาพดีกว่าไม้จิ้มฟันที่เป็นไม้ เนื่องจากเป็นพลาสติก จึงทำให้โค้งงอไปขจัดเศษอาหารได้ง่ายกว่า
  • ภายในบรรจุจำนวน 10 ชิ้น
  • ☑ ที่สำคัญไม่เป็นเชื้อรา
สั่งซื้อ https://bit.ly/3wzpWWp
#3089



รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - ทีมนักวิจัยจากโรงพยาบาลกลางแมสซาชูเซตส์ สหรัฐฯ ที่ตีพิมพ์เผยแพร่ผ่านวารสารวิชาการทางการแพทย์ชื่อดังเมื่อวันจันทร์ (26 ก.ค.) ค้นพบว่า คนส่วนใหญ่ที่เกิดการแพ้วัคซีนประเภท mRNA จะยังคงสามารถฉีดเข็ม 2 ได้อยู่ หลังการฉีดวัคซีนครบ 2 โดส กลายเป็นปัจจัยสำคัญต่อสู้กับการระบาดไวรัสเดลตา ซึ่งล่าสุดมีการค้นพบในจีนว่า ผู้ป่วยไวรัสเดลตามีเชื้อไวรัสในช่องจมูกสูงกว่า 1,260 เท่าเมื่อเปรียบเทียบกับของการระบาดระลอกแรก

รอยเตอร์รายงานเมื่อวานนี้ (27 ก.ค.) ว่า ผู้แต่งร่วมอาวุโสของการวิจัย คิมเบอร์ลี จี.บลูเมนทัล (Kimberly G.Blumenthal) จากโรงพยาบาลกลางแมสซาชูเซตส์ (Massachusetts General Hospital) กล่าวในรายงานที่ถูกตีพิมพ์ลงวารสารทางวิชาการแพทย์ชื่อดัง JAMA Internal Medicine เมื่อวันจันทร์ (26) ว่า หนึ่งในสิ่งสำคัญจากการวิจัยครั้งนี้แสดงให้เห็นปฏิกิริยาการแพ้ทันทีต่อวัคซีน mRNA  อาจจะไม่ใช่เป็นการแพ้อย่างเป็นกลไกเช่นเดียวกันการแพ้โดยทั่วไป ซึ่งสำหรับลักษณะการแพ้ทั่วไปนั้นเกิดจากการที่ร่างกายต้องพบกับสารที่ทำให้เกิดภูมิแพ้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า และทำให้เกิดอาการแพ้และมีความรุนแรงมากขึ้น

ด้านผู้แต่งร่วมอาวุโสของการวิจัยอีกคน อาลีนา บาเนอร์จี (Aleena Banerji) จากโรงพยาบาลกลางแมสซาชูเซตส์เช่นกันระบุว่า การศึกษาครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่ามันมีความปลอดภัยต่อคนส่วนใหญ่ในการได้รับวัคซีน mRNA เข็มที่ 2

"หลังเกิดปฏิกิริยาแพ้จากเข็มแรกแล้ว ผู้เชี่ยวชาญภูมิแพ้อาจจะมีประโยชน์ในการช่วยเหลือสำหรับการประเมินความเสี่ยงและประโยชน์และให้การช่วยเหลือในการฉีดให้ภูมิคุ้มกันได้อย่างปลอดภัยและครบถ้วน" บาเนอร์จี กล่าวผ่านรายงานของ Science daily

รอยเตอร์รายงานว่า ในการวิจัยพบว่าทีมได้ทำการศึกษาข้อมูลจากกลุ่มผู้ใหญ่ 189 คนที่ได้รับวัคซีน mRNA ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนไฟเซอร์-ไบออนเทค หรือวัคซีนโมเดอร์นา 1 เข็มแรกและมีอาการแพ้ปรากฏหลังการฉีดไม่ว่าจะเป็นหน้าแดง มึนศีรษะ วิงเวียน หายใจถี่ อาการเป็นเหน็บ อาการเจ็บคอและแน่นภายในคอที่อาจจะเกิดขึ้นมาจากหลายสาเหตุ (throat tightness) ลมพิษ หรือกระทั่งหายใจถี่และมีเสียงออกมา

Science daily ชี้ว่าการวิจัยชิ้นนี้ต้องการทราบว่า จะมีความปลอดภัยหรือไม่ที่จะให้ผู้ที่เคยรับวัคซีนไฟเซอร์-ไบออนเทคและวัคซีนโมเดอร์นาและมีอาการแพ้เกิดขึ้นจะสามารถรับวัคซีนเข็มที่ 2 ได้ต่ออย่างปลอดภัย โดยทีมวิจัยนี้เป็นความร่วมมือของผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลกลางแมสซาชูเซตส์ ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยแวนเดอร์บิลท์ (Vanderbilt University Medical Center) ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยเซาท์เวสต์ (University of Texas Southwestern Medical Center) คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเยล (Yale School of Medicine)

พบว่าจากทั้งหมดของ 189 คนของการศึกษา จำนวนส่วนใหญ่หรือ 84% (159 คน) เข้ารับวัคซีนเข็มที่ 2 ต่อโดย 1 ใน 3 ของคนกลุ่มนี้รับยาต้านภูมิแพ้ก่อนเข้าฉีดเข็มที่ 2 รอยเตอร์รายงานว่า คนทั้งหมดมีความทนทานโดยไม่มีผลข้างเคียงปรากฏหลังเข็มที่ 2 รวมไปถึงกลุ่มคนที่มีปฏิกิริยาเกิดภูมิแพ้รุนแรงอย่างเฉียบพลันที่เรียกว่า (anaphylactic reactions)

ทีมวิจัยกล่าวว่า อาการแพ้ใดๆ ที่อาจขึ้นหลังจากได้รับเข็มที่ 2 แล้วนั้นพบว่าจะอยู่ในระดับต่ำและสามารถจัดการได้ง่าย

รอยเตอร์รายงานว่า มีการบันทึกถึงการแพ้ที่เกิดจากการฉีดวัคซีน mRNA นั้นสูงถึง 2% ซึ่งผู้นำการวิจัย แมทธิว เอส.ครานต์ซ์ (Matthew S.Krantz) จากศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยแวนเดอร์บิลท์ กล่าวย้ำว่า "การได้รับวัคซีนครบ 2 โดสนั้นมีความสำคัญมากกว่าที่เคยเนื่องมาจากการระบาดของไวรัสเดลตา และทางเราสงสัยว่าอาจจะมีคนเป็นจำนวนมากที่ยังไม่ได้รับการฉีดเข็มที่ 2 เนื่องมาจากเกิดอาการแพ้"

ทั้งนี้ การวิจัย "Second COVID-19 mRNA vaccine dose found safe following allergic reactions to first dose" ของโรงพยาบาลกลางสหรัฐฯ นี้ได้รับเงินวิจัยสนับสนุนจากสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ NIH (the National Institutes of Health) และโรงพยาบาลกลางแมสซาชูเซตส์
#3090



โลตัส เปิดแพลตฟอร์มให้มูลนิธิและเครือข่ายจิตอาสาลงทะเบียนรับข้าวกล่องไปส่งต่อให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในจังหวัดสีแดงเข้ม ภายใต้โครงการ "ข้าวกล่องเต็มอิ่ม เติมยิ้มร้านอาหาร" โดยให้ร้านอาหารในศูนย์อาหารที่ปิดบริการตามนโยบายภาครัฐเป็นผู้ปรุงอาหาร เพื่อสร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ

เมื่อวานนี้ (27 ก.ค.2564) นายสมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานคณะผู้บริหารธุรกิจโลตัส ประเทศไทย กล่าวว่า "จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทยที่ยังคงทวีความรุนแรงขึ้น มีผู้ติดเชื้อและกลุ่มเสี่ยงที่กักตัวที่บ้านและผู้ยากไร้ที่ขาดแคลนอาหาร นอกจากนั้น ผู้ประกอบการร้านอาหารขนาดเล็กในห้างสรรพสินค้าและศูนย์อาหารใน 13 จังหวัดสีแดงเข้มไม่สามารถเปิดให้บริการได้ตามมาตรการภาครัฐ ก็ประสบปัญหาขาดรายได้ จึงเป็นที่มาของโครงการ ข้าวกล่องเต็มอิ่ม เติมยิ้มร้านอาหาร โดยในเดือนสิงหาคม 2564 โลตัสจะว่าจ้างผู้ประกอบการร้านอาหารรายย่อยปรุงอาหารจำนวน 100,000 กล่อง แจกจ่ายใน 10 จังหวัดสีแดงเข้มที่มีสาขาของโลตัสตั้งอยู่ เพื่อให้มูลนิธิและเครือข่ายจิตอาสามารับเพื่อไปส่งมอบให้กับผู้ป่วยหรือผู้ที่ยากไร้ต่อไป

โลตัส ขอเชิญชวนมูลนิธิและเครือข่ายจิตอาสา แจ้งความประสงค์ขอรับข้าวกล่องผ่านช่องทางออนไลน์ https://forms.office.com/r/BUB62YA9JEโดยจะได้รับการติดต่อจากสาขาเพื่อรับข้าวกล่องต่อไป"

สำหรับ 10 จังหวัดที่ร่วมโครงการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร จังหวัดสงขลา จังหวัดนครปฐม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดปทุมธานี จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดนนทบุรี จังหวัดสมุทรปราการ และจังหวัดชลบุรี
#3091
สำนักพรเทวะ (มหาสารคาม)


ศูนย์รวมวัตถุมงคล เครื่องราง ของขลัง ดูดวง รับสอนการพยากรณ์ด้วยไพ่ออราเคิล แก้อาถรรพ์ร่างกาย รับลงนะ ลงทอง สาริกาลิ้นทอง เมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ รับทำเทียนสะเดาะเคราะห์ สืบชะตา รับโชค แก้ชง เสริมดวงเสริมบารมีต่างๆ เรียกคู่ เรียกจิต สักน้ำมันว่านยา 108 ให้บูชาน้ำมันว่านสาวหลง น้ำมันว่านดอกทอง อื่น ๆ รับวิเคราะห์ชื่อ(ฟรี) รับตั้งชื่อ จำหน่ายเพนดูลั่มลูกดิ่งพลังจิต ให้บูชาคัมภีร์พระเวทย์

สนใจติดต่อ
นายธีรพัชร์ วงศ์วรนิตย์ (อ.ทองเอก พรเทวะ)
โทร 0846623662
website :  http://goo.gl/Y5nYSO
Facebook: facebook.com/teerapat992018
Line : teerapat999lazada : https://www.lazada.co.th/shop/porntaywa/?spm=a2o4m.pdp_revamp.delivery_options.1.6dbbfeeao328sS&itemId=1863368460&channelSource=pdpshopee :   https://shopee.co.th/teerapat992018 
 
#3092



"พิพัฒน์" เผย "โค้ชเช" เปิดข้อมูลสุดทึ่ง! เยาวชนไทยแห่เรียนเทควันโดมากถึง 1 ล้านคนในปัจจุบัน หลังเกิดกระแสความสนใจ นักกีฬาเทควันโดรุ่นพี่ได้เหรียญรางวัลโอลิมปิกจุดประกาย คาดพอ "น้องเทนนิส" คว้าเหรียญทองมาครอง หนุนคนสนใจเรียนเทควันโดอีกล้นหลาม

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า จากการได้พูดคุยกับนายชเว ยองซอก (Choi Young Seok) หรือ "โค้ชเช" หัวหน้าผู้ฝึกสอนนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย นอกเหนือจากเรื่องขอเปลี่ยนเป็นสัญชาติไทย และความมุ่งมั่นของโค้ชเชที่ต้องการสร้างนักกีฬารุ่นใหม่มาเสริมทัพนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทยแล้ว ยังได้รับทราบข้อมูลน่าทึ่งจากโค้ชเชด้วยว่าปัจจุบันมีเยาวชนไทยมาเรียนและฝึกซ้อมเทควันโดมากถึง 1 ล้านคน

"ผมฟังแล้วถึงกับประหลาดใจอย่างมาก เมื่อทราบว่าปัจจุบันมีตัวเลขเยาวชนไทยเรียนและฝึกซ้อมเทควันโดมากถึง 1 ล้านคน จากกระแสความสนใจกีฬาเทควันโดในไทย เยาวชนมีนักกีฬารุ่นพี่ได้เหรียญรางวัลโอลิมปิกและมีนางสาวพาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ หรือ "น้องเทนนิส" เป็นหนึ่งในไอดอล จึงคาดว่าหลังจากน้องเทนนิสประสบความสำเร็จได้เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2020 น่าจะมีเยาวชนสนใจกีฬาเทควันโดเพิ่มขึ้นอีกมาก พร้อมแจ้งเกิดไอดอลเก่งๆ คนใหม่มาประดับวงการกีฬาไทย" รมว.การท่องเที่ยวฯกล่าว
#3093



บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP รายงานผลดำเนินงานไตรมาส 2/64 มีกำไรสุทธิ 2,263.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,904.21 ล้านบาท โดยบริษัทยังคงสามารถบริหารจัดการการดำเนินงานได้ดีท่ามกลางความท้าทายของโรคระบาดใน ASEAN และทั่วโลก

โดยบริษัทมีรายได้จากการขายเท่ากับ 29,895 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการขยายธุรกิจทั้งแบบ M&P (SOVI และ Go-Pak) และการเติบโตจากภายในอย่างต่อเนื่อง มี EBITDA เท่ากับ 5,564 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมี EBITDA margin ที่ 19%

ส่วน 6 เดือนแรกปี 64 มีกำไรสุทธิ 4,398 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 3,636.34 ล้านบาท และมีอัตรากำไรสุทธิที่ 8%

ขณะที่ ประชุมคณะกรรมการบริษัทอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 64 ในอัตรา 0.25 บาทต่อหุ้น กำหนดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในวันที่ 25 ส.ค.64 กำหนดวันที่ไม่ได้สิทธิรับเงินปันผล (XD) ในวันที่ 9 ส.ค.64
#3094
ไอดินไทย เครื่องประดับดินปั้น ด้วยแรงบันดาลใจทำเครื่องประดับดินปั้นมาจากความชอบที่มีต่อละครมนต์รักลูกทุ่งแล้วก็แฟชั่นการแต่งกายสมัยนั้น





ทำให้คุณพัชร์ชิสา ไชยวีรวัฒน์ เกิดแนวคิดในการทำเครื่องประดับร่วมกับการศึกษาปั้นดินไทยของชุมชนระแหง จังหวัดตาก จนกระทั่งกลายมาเป็นเครื่องประดับดินปั้นที่ดำเนินธุรกิจมาแล้วมากยิ่งกว่า 10 ปี





ซึ่งตัววัสดุนั้นเป็นดินไทยที่ผสมกับดินท้องถิ่นของจังหวัดตาก มีความงดงามผสมความเป็นไทย สีสันสดใส ความเป็นธรรมชาติและนอกจากนั้นทุกผลิตภัณฑ์มีรอยนิ้วมือจากการปั้น โดยไม่ใช้เครื่องจักร แสดงให้เห็นถึงงานฝีมืออย่างแท้จริง


#3095


 
 
นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากแผนการฟื้นฟูเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว "ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์" (Phuket Sandbox) ของภาครัฐที่เริ่มต้นไปเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นการนำร่องดึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติกลับมาที่เกาะภูเก็ต ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและมีความสวยงามติดอันดับโลก ซึ่งนอกจากภาคธุรกิจการท่องเที่ยวแล้ว  ยังจะช่วยกระตุ้นให้ผู้ประกอบการในภาคอื่นๆ ในพื้นที่กลับมาฟื้นตัวได้เช่นกัน โดยพฤกษาได้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในภูเก็ตมาแล้วหลายโครงการ  เพื่อสนองนโยบายของภาครัฐ จึงขอมอบสิทธิพิเศษให้กับชาวภูเก็ตที่กำลังมองหาบ้านพร้อมอยู่คุณภาพภายใต้แคมเปญ "ลด! ช็อคทั้งเกาะ น็อคทุกค่าย"  ในราคาเริ่มต้น 1.79 ล้าน รับลดสูงสุดถึง  700,000 บาท พร้อมสิทธิพิเศษอื่นๆ เช่น อยู่ฟรีสูงสุด 36 เดือน, ฟรี!ทุกค่าใช้จ่าย ณ วันโอนฯ และฟรีบริการ Internet AIS Fiber 1 ปี  สำหรับโครงการพฤกษาวิลล์พร้อมเข้าอยู่ 2 ทำเล  ได้แก่ 
 
โครงการพฤกษาวิลล์ ถลาง-เทพกระษัตรี  ทาวน์โฮม 2 ชั้น 3 ห้องนอน สไตล์ Contemporary Modern สเปคเทียบเท่าบ้านเดี่ยว สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นการใช้งาน Flexi – Multi Space ได้อย่างอิสระ โดดเด่นด้วยทำเลติดเมืองถลาง ห่างจากถนนเทพกระษัตรี เพียง 900 เมตร ใกล้สนามบิน โลตัส, แม็คโคร, โฮมโปร ถลาง เพียง 15 นาที    อุ่นใจด้วยระบบรักษาความปลอดภัยเข้า-ออกโครงการ ด้วยระบบ Auto Access Card และระบบประตูล็อก 2 ชั้น Check Point สะดวก ปลอดภัย ด้วยระบบ Card Scan กล้องวงจรปิด CCTV ที่ทางเข้าหลัก (Main Gate) พร้อมสวนส่วนกลางขนาดใหญ่ 
 
โครงพฤกษาวิลล์ เจ้าฟ้า-เทพอนุสรณ์ ทาวน์โฮม 2 ชั้นสไตล์บาหลี รองรับการใช้ชีวิตของครอบครัวด้วยแบบบ้านใหม่ 4 ห้องนอน มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส รวมถึงสวนส่วนกลางที่ใกล้ชิดธรรมชาติ ระบบรักษาความปลอดภัยแบบประตูระบบล็อก 2 ชั้น CCTV ตลอดทางเข้าหลักของโครงการ พร้อมจุด Check Point ด้วยเครื่องสแกน และ Security Guard ตลอด 24 ชั่วโมง เดินทางสะดวกเข้าสู่ตัวอำเภอเมืองภูเก็ตเพียง 10 นาที  ใกล้แหล่งท่องเที่ยวอ่าวฉลอง หาดราไวย์ ใกล้แหล่งช้อปปิ้ง อาทิ คิงพาวเวอร์, เซ็นทรัลเฟสติวัล, อินเด็กซ์ลิฟวิ่งมอลล์ 
 
นอกจากนี้ พฤกษายังใส่ใจห่วงใยในสุขภาพของพนักงานและลูกค้า โดยให้พนักงานฝ่ายขายและฝ่ายบริการลูกค้าของพฤกษาทุกโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบแล้ว พร้อมยกระดับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด 19 อย่างเข้มงวดสูงสุด ลูกค้าสามารถเข้าชมโครงการได้อย่างมั่นใจไร้กังวล หรือนัดหมายวันเวลาเพื่อเยี่ยมชมโครงการแบบส่วนตัวได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 9.00-18.00 น. 
#3096



เป็นสัปดาห์ที่สร้างความหวั่นไหวให้กับสมาชิกชั่วคราวทั้ง 7 ต้นน้ำ-บัณฑิฏา สันตยารมณ์ , ม่านมุก-ชดาธาร ด่านกุล, มีมี่-พิมพ์มาดา ตั้งสี, รันม่า-แทนทยา ชิชิดะ, ซีโมน-ปุณณาสา ต้นวิชา, เก๋-พรรณิภา วงษาชัย และ ตาล-สุดารัตน์ วงษ์กล่ำ อย่างมาก เพราะที่ผ่านมา สมาชิกชั่วคราวแต่ละคน สามารถป้องกันตำแหน่งของตัวเองจากผู้ท้าชิงมาต่อเนื่อง 6 แมตช์ติดต่อกันเข้าให้แล้ว สัปดาห์ที่ผ่านมาสมาชิกชั่วคราวต่างก็แอบลุ้นว่าวีคนี้ใครจะเป็นผู้ถูกเลือก และจะสามารถสร้างสถิติใหม่รักษาตำแหน่งของตัวเองได้อย่างเหนียวแน่น 7 ครั้งต่อเนื่องได้หรือไม่?


เปิดเวทีด้วยพิธีกร น้าเน็ก-เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา เชิญผู้ท้าชิงคนที่ 11 อาย-ฐิติรัตน์ ละลี อดีตสมาชิกวงไอดอลชื่อดังจากภาคเหนือ SY51 สู่เวทีเพื่อเลือกสมาชิกชั่วคราวที่อายต้องการท้าชิง ซึ่งอายประกาศอย่างมุ่งมั่น ขอเปิดศึกกับสมาชิกชั่วคราวหมายเลข 5 ซีโมน-ปุณณาสา โดย อาย-ฐิติรัตน์ ได้พาพิธีกรและคณะกรรมการอย่าง สอง พาราด็อกซ์, แพท เคลียร์, หนูนา-หนึ่งธิดา โสภณ และ ติ๊ก เพลย์กราวนด์ ย้อนไปสัมผัสกลิ่นอายในอดีตกับเพลง "รักครั้งแรก" ของวง "ชาตรี" ด้าน ซีโมน-ปุณณาสา ที่ต้องแบกรับภาระการรักษาสถิติเอาไว้ ก็โชว์ในเพลง "นักมายากล" ของวง "พาราด็อกซ์" อย่างสนุกสนาน สลัดความกังวลและโฟกัสกับหน้าที่ของตัวเองได้เป็นอย่างดี


และแล้วก็ถึงคราวที่กรรมการต้องตัดสิน เมื่อทางรายการประกาศให้กรรมการที่จับลูกบอลหมายเลข 3 ต้องรับหน้าที่ชี้ชะตาผู้ท้าชิงและสมาชิกชั่วคราว งานนี้ฟ้ากำหนดให้ สอง พาราด็อกซ์ เป็นผู้ตัดสิน ซึ่งเจ้าตัวเลือกให้ ซีโมน ไปครองตำแหน่งสมาชิกชั่วคราวหมายเลข 5 ต่อไป ด้านกรรมการท่านอื่นก็พร้อมใจเทคะแนนให้ ซีโมน เช่นกัน สร้างความดีใจให้กับ ซีโมน เป็นอย่างมากที่สามารถสร้างสถิติที่สมาชิกชั่วคราวสามารถรักษาตำแหน่งได้ต่อเนื่องถึง 7 ครั้ง


หลังรักษาตำแหน่งไว้ได้ ซีโมน เปิดใจว่า "ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่หนูถูกท้าชิง หนูภูมิใจกับโชว์นี้มาก ๆ ค่ะ มันจะมีความจิต ๆ หนูชอบดูหนังแนวนี้อยู่แล้ว เลยทำให้หนูเก็ทกับมันมากขึ้น แต่พี่อายก็ทำได้ดีมาก ๆ เลย พอโชว์มันแตกต่างกันคนละขั้ว ก็ขึ้นอยู่กับความชอบของกรรมการแล้วค่ะ ถามว่าครั้งนี้กดดันกว่าครั้งก่อนไหม คือเราอยู่กันมาได้ 6 สัปดาห์แบบครบเลย ก่อนโชว์ก็กดดันมาก ๆ เลยค่ะ ซึ่งหน้าที่ของหนูก็คือต้องโชว์ออกมาให้ดีที่สุด หนูรู้สึกดีใจมากที่คนเอ็นจอยกับโชว์นี้ ทำให้มีกำลังใจที่ครีเอทโชว์ต่อไปเรื่อย ๆ ค่ะ"


จากนั้นมาถึงคิวของผู้ท้าชิงคนที่ 12 พรีม-ปฐมาภรณ์ ศรีวานิชภูมิ สาวน้อยผู้กล้าก้าวข้ามคอมฟอร์ทโซนของตัวเอง ฝึกฝนทักษะการร้องเต้นที่เธอไม่เคยทำ โดยสาวพรีมเลือกแข่งขันกับผู้ท้าชิงหมายเลข 6 เก๋-พรรณิภา วงษาชัย ซึ่งเป็นการประเดิมเวทีครั้งแรกของเก๋ในรายการ "Last Idol Thailand" เพราะที่ผ่านมาเก๋ยังไม่เคยถูกท้าชิงมาก่อน พรีม-ปฐมาภรณ์ เลือกร้องเพลง "จริง ๆ มันก็ดี" ของ จีน่า เดอซูซ่า ด้วยเสียงหวาน ๆ ของพรีมเปลี่ยนให้เพลงแสบซ่ากลายเป็นเวอร์ชั่นสดใสมองโลกบวกขึ้นมาทันที ทำให้กรรมการชุดใหม่อย่าง โบ ไทรอัมพ์ คิงดอม, หนึ่ง อีทีซี, ณัฐ เคลียร์ และ แทน ลิปตา อดยิ้มไปกับการแสดงของเธอไม่ได้

เมื่อผู้ท้าชิงคนที่ 12 สาดพลังบวกให้ผู้ชมขนาดนี้ เก๋-พรรณิภา จะเรียกความสนใจจากกรรมการให้เทคะแนนให้กับเธอด้วยเพลงอะไร? รอให้กำลังใจเก๋กันต่อในวันอาทิตย์ที่ 1 ส.ค. เวลา 12.30-13.30 น ทางช่อง 7 HD
#3097


นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการนำไม้ยืนต้นมาเป็นหลักประกันการกู้เงินซึ่งเป็นนโยบายรัฐบาลว่า " กระทรวงพาณิชย์ ได้ออกกฎกระทรวงกำหนดให้ ไม้ยืนต้นเป็นทรัพย์สินที่ใช้เป็นหลักประกันได้ โดยประกาศราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2561 ซึ่งไม้ยืนต้นทุกชนิดใช้เป็นหลักประกันการกู้ยืมเงินได้ ขึ้นอยู่กับคู่สัญญาจะตกลงกันว่าจะใช้ไม้ยืนต้นประเภทใดหรือชนิดใดเป็นหลักประกัน ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า มีหน้าที่เป็นสำนักงานทะเบียนหลักประกันทางธุรกิจ รับจดทะเบียนสัญญาหลักประกัน แก้ไขการจดทะเบียน และยกเลิกการจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ ตามกฎหมายว่าด้วยหลักประกันทางธุรกิจ ตามที่สถาบันการเงิน ซึ่งเป็นผู้รับหลักประกันนั้นเป็นผู้ให้วงเงินสินเชื่อ และทำสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ


ดังนั้น กฎหมายหลักประกันทางธุรกิจจึงเป็นกลไกสำคัญในการส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ประกอบธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจ
เอสเอ็มอี เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายมากขึ้น สามารถนำทรัพย์สินที่มีมูลค่าอื่นที่ใช้ในการประกอบธุรกิจมาเป็นหลักประกันการชำระหนี้ได้โดยไม่ต้องส่งมอบทรัพย์สินนั้น" ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าว



นางมัลลิกา กล่าวว่า สำหรับไม้ยืนต้นทุกชนิด ที่ใช้เป็นหลักประกันการกู้ยืมเงินได้ เมื่อติดตามดูข้อมูล ณ วันที่ 23 กรกฎาคม 2564 สถิติการจดทะเบียน กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กองทะเบียนหลักประกันทางธุรกิจ ได้จดทะเบียนไม้ยืนต้นเป็นหลักประกันแล้ว จำนวน 125,911 ต้น จำนวนเงินที่เป็นหลักประกัน 134,829,112 บาท โดยส่วนใหญ่ใช้ไม้ยืนต้นประเภท ยาง ยางนา ยางพารา สัก มะขาม มะกอกป่า สะเดา ตะโก เป็นต้น นอกจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารกรุงไทยที่รับไม้ยืนต้นเป็นหลักประกันแล้ว ยังมีผู้รับหลักประกันอื่นใช้ไม้ยืนต้นเป็นหลักประกัน จำนวน 5 ราย โดยผู้รับหลักประกันอื่นที่รับไม้ยืนต้นส่วนใหญ่เป็น

ผู้ประกอบธุรกิจให้สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ (สินเชื่อรายย่อยอเนกประสงค์) วงเงินกู้ไม่เกิน 50,000 บาท ต่อราย และพิโกพลัส (สินเชื่อรายย่อยอเนกประสงค์) วงเงินกู้ไม่เกิน 100,000 บาท ต่อราย



" อย่างไรก็ตาม นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้ติดตามอย่างใกล้ชิดและให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้ากระทรวงพาณิชย์คอยให้ข้อมูลประชาชน ทั้งนี้เพื่อให้เกิดประโยชน์และเป็นโอกาสของประชาชนในภาวะวิกฤต ซึ่งนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 ถึงปัจจุบัน (23 กรกฎาคม 2564) มีการนำไม้ยืนต้นมาเป็นหลักประกัน จำนวน 32,133 ต้น จำนวนเงินที่เป็นหลักประกัน 4,559,112 บาท ทั้งนี้จะได้บูรณาการร่วมกันกับสถาบันการเงินเพื่อการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนและผู้ประกอบการเอสเอ็มอีได้ใช้กฎหมายและโครงการนี้เป็นโอกาสต่อไป" นางมัลลิกา กล่าว
#3098
ใคร ๆ ก็ไม่รัก ไปไหนมีแต่คนไม่ชอบหน้า ขาดเสน่ห์ ไม่มั่นใจ

น้ำมันว่านดอกทองใส่ตะกรุดนะอกแตก แค่ท่องคาถา
เจิมที่หน้าผากตัวเรา บังเกิดออร่าน่าจับตามอง
สายพุทธคุณ คุณพระ คุณว่าน ไม่เข้าตัว ไม่มีข้อห้าม ใช้ด้วยศรัทธา
น้ำมันว่านดอกทองใส่ตะกรุดนะอกแตกให้ทุกขวด ขวดละ 399 บาท
ตามตำราโบราณระบุว่าว่านดอกทองมีอำนาจทางเพศรุนแรง คนสมัยก่อนจึงนิยมเก็บดอกของว่านดอกทองไว้หุงกับน้ำมันจันทน์ ใช้น้ำมันว่านทาที่ตัว หรือใช้สีผึ้งทาปาก เมื่อถึงคราวจะต้องไปพบปะผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้คนต่างๆ หรือหนุ่มสาว พอได้กลิ่นว่านในน้ำมันหรือสีผึ้ง มักจะมีอาการใจอ่อนเคลิบเคลิ้มคล้อยตามได้ง่าย ชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้ สะกดจิตสะกดใจต่อผู้เจรจาด้วยยิ่งนัก ใครเห็นใครรักใครหลง ว่านดอกทองหรือว่านราคะ เป็นเมตตามหาเสน่ห์ มหานิยม มหาละลวย ลุ่มหลงงวยงง ทำให้คนรักคนหลง ทั้งยังช่วยให้มีโชคลาภ
ตะกรุดนะอกแตก เป็นมหาเสน่ห์ เมตตามหานิยม มหาละลวย แก่มนุษย์ทั้งหญิงชายทั้งหลาย
คาถากำกับ
โอมละลวยมหาละลวย หลงกันจนงงงวย จะภะกะสะภะคินี อาคัจฉายะ
อาคัจฉาหิ นะโมพุทธายะ
นะมะพะทะ นะมะพะทะ นะมะพะทะ
(ท่องเก้าจบ แล้วอธิษฐาน)
ใช้เจิมตามซอกคอ ตามตัว ทาที่คิ้ว เจิมที่หน้าผาก พกติดตัว

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สั่งซื้อบูชา ทักแชทได้เลยหรือติดต่อได้ที่
โทร. 0846623662
id line : teerapat999
เวปไซด์ http://porntaywa99.lnwshop.com/p/34

ลาซาด้า
https://www.lazada.co.th/.../-i1867850932-s5770096982...

shopee https://shopee.co.th/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1...
#3099


ธอส.เผยผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2564 ปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ 106,231 ล้านบาท 69,705 บัญชี เพิ่มขึ้น 5.20% จากช่วงเดียวกันของปี 2563 สินเชื่อคงค้างรวม 1,375,663 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 1,441,928 ล้านบาท มีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) 4.31% ของยอดสินเชื่อรวม ตั้งสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพื่อความมั่นคงและเตรียมพร้อมรับผลกระทบจากโควิด-19 จำนวน 104,390 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนต่อ NPL สูงถึง 176.13% พร้อมเร่งให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้จากโควิด-19 ล่าสุด มีลูกค้าได้รับความช่วยเหลือผ่านทั้ง 18 มาตรการของ ธอส. ตั้งแต่ปี 63 ถึงปัจจุบันเป็นจำนวนรวมสูงสุดมากกว่า 925,000 บัญชี เงินต้นคงเหลือ 796,500 ล้านบาท

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงาน ณ ไตรมาสที่ 2 ของปี 2564 ว่า แม้ประเทศไทยจะยังคงอยู่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจ และรายได้ของประชาชน แต่ ธอส. ยังคงสามารถทำหน้าที่ตามพันธกิจ "ทำให้คนไทยมีบ้าน" เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้อย่างต่อเนื่อง

ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 ธนาคารปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ 106,231 ล้านบาท 69,705 บัญชี เพิ่มขึ้น 5.20% จากช่วงเดียวกันของปี 2563 คิดเป็นเกือบ 50% ของเป้าหมายปล่อยสินเชื่อใหม่ปี 2564 ที่ 215,641 ล้านบาท สินเชื่อ 6 เดือนแรกที่ปล่อยไปเป็นสินเชื่อที่มีวงเงินกู้ไม่เกิน 2 ล้านบาท สำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง จำนวน 50,183 บัญชี ธนาคารมียอดสินเชื่อคงค้างรวมทั้งสิ้น 1,375,663 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.17% สินทรัพย์รวม 1,441,928 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.46% เงินฝากรวม 1,205,886 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.81% หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จำนวน 59,268 ล้านบาท คิดเป็น 4.31% ของยอดสินเชื่อรวม เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากสิ้นปี 2563 ที่มี NPL อยู่ที่ 3.75% ของสินเชื่อรวม โดยมีการตั้งสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญที่ 104,390 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนต่อ NPL สูงถึง 176.13% เพื่อความมั่นคงและเตรียมพร้อมรองรับผลกระทบจากโควิด-19 ในอนาคต

โดยธนาคารยังคงมีกำไรสุทธิตามเป้าหมายตัวชี้วัดของธนาคารที่ 5,993 ล้านบาท และมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) ในระดับแข็งแกร่งที่ 15.63% สูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด

ทั้งนี้ ปัจจัยหลักที่ธนาคารยังคงปล่อยสินเชื่อใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง คือ มาตรการต่างๆ ของรัฐบาล ผลิตภัณฑ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำของธนาคาร และการจัดโปรโมชันของผู้ประกอบการ ช่วยให้ประชาชนกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มีบ้านเป็นของตนเองและครอบครัวได้ง่ายขึ้น โดยผลิตภัณฑ์สินเชื่อของ ธอส. ที่มีลูกค้าเลือกใช้บริการสูงสุด 3 ลำดับแรก คือ



1.โครงการบ้าน ธอส. เพื่อคุณ อัตราดอกเบี้ยปีแรกเพียง 2.75% ต่อปี มียอดอนุมัติสะสมสูงถึง 23,620 ล้านบาท รองลงมา คือ สินเชื่อบ้านลูกค้าสวัสดิการ ธอส. ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยปีแรก 2.60% ต่อปี มียอดอนุมัติสะสม 11,998 ล้านบาท และ 3.โครงการบ้าน ธอส. เพื่อสานรัก อัตราดอกเบี้ยปีแรก 2.50% ต่อปี มียอดอนุมัติสะสม 11,215 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน ธอส. ยังคงให้ความช่วยเหลือลูกค้าประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ผ่านโครงการ ธอส. รวมไทย สร้างชาติ ผ่าน 2 มาตรการเร่งด่วนล่าสุดที่บรรเทาความเดือดร้อนให้ผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง คือ ลูกค้าทั้งที่เป็นนายจ้างและลูกจ้างในสถานประกอบการทั้งในและนอกพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ที่ต้องปิดกิจการจากมาตรการของทางการ มาตรการที่ 15 สำหรับลูกค้าที่มีสถานะบัญชีปกติ และมาตรการ 16 สำหรับลูกค้าที่มีสถานะ NPL หรืออยู่ระหว่างปรับโครงสร้างหนี้ จะได้รับความช่วยเหลือโดยการพักชำระเงินต้นและพักชำระดอกเบี้ยเป็นระยะเวลา 3 เดือน ระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม-31 ตุลาคม 2564 เปิดให้ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้ามาตรการเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2564



ล่าสุด ณ วันที่ 22 กรกฎาคม 2564 เวลา 16.00 น. มีลูกค้าลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้ามาตรการที่ 15 จำนวนเงินต้นคงเหลือ 48,880 ล้านบาท และมาตรการที่ 16 จำนวน 2,485 ล้านบาท ทำให้นับตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบัน ธอส. สามารถช่วยเหลือลูกค้าผ่าน 18 มาตรการ รวมเป็นจำนวนสูงสุดมากกว่า 925,000 บัญชี เงินต้นคงเหลือ 796,500 ล้านบาท โดยมาตรการที่ 15 และ 16 ลูกค้าสามารถลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้ามาตรการผ่าน Mobile Application : GHB ALL ได้ในวันจันทร์-ศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30-15.00 น. (เว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์) ตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 29 สิงหาคม 2564

ส่วนลูกค้าที่ต้องการลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เพื่อขอขยายระยะเวลาความช่วยเหลือตามมาตรการที่ 9, 10, 11 และ 11 New Entry : แบ่งจ่ายเงินงวดผ่อนชำระ (ตัดต้น ตัดดอก) มาตรการที่ 13 : พักชำระเงินต้น และจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน และมาตรการที่ 14 : พักชำระเงินต้น และจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน พร้อมลดดอกเบี้ย ไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ลูกค้าสามารถลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้ามาตรการผ่าน Mobile Application : GHB ALL ได้ในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-15.00 น. (เว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์) เช่นกัน ตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคม จนถึงวันที่ 29 กรกฎาคม 2564

นอกจากความช่วยเหลือในมาตรการด้านการเงิน ธอส. ยังคงให้ความช่วยเหลือสังคมไทยสู้ภัยโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ด้วยงบประมาณสนับสนุนรวมกว่า 5,000,000 บาท ให้หลายหน่วยงานทั้งสถานพยาบาล สถานศึกษา และสถานที่ให้บริการฉีดวัคซีน เป็นต้น เพื่อนำไปดำเนินการในด้านต่างๆ ที่จำเป็น เช่น การจัดสร้างหอผู้ป่วยไอซียูความดันลบแบบห้องแยกที่ใช้ในการรักษาผู้ป่วยวิกฤตที่มีอาการรุนแรง การจัดซื้อเครื่องฮีโมเปอร์ฟิวชันใช้ในการรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 การจัดสร้างไอซียูสนาม การจัดหาเก้าอี้นั่งจุดพักคอย น้ำดื่มธนาคารกว่า 100,000 ขวด รวมถึงหน้ากากอนามัยพร้อมสายคล้อง ถุงยังชีพ และอาหารกล่อง สอดคล้องกับนโยบายการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม หรือ CSR ของธนาคาร ด้วยความห่วงใยและตระหนักถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน อีกทั้งเป็นการสร้างจิตสำนึกในการเป็นจิตอาสาเพื่อช่วยเหลือสังคมให้ดียิ่งขึ้นต่อไป
#3100
ฟรี!! แอพสติ๊กเกอร์ที่ส่งไปได้ทั้ง Line, Facebook, Whatsapp และ WeChatแชทสติ๊ค มาร์เก็ต แหล่งรวมผลงานสติกเกอร์ จากแบรนด์ดังและเหล่าครีเอเตอร์มากมาย โดยจัดหมวดหมู่สติกเกอร์ และจัดอันดับสติกเกอร์สุดฮิตให้คุณไม่ตกเทรนด์คุณจะสามารถส่งสติกเกอร์ไปได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Line, Messenger, Whatsapp, Skype หรือในทุกช่องทางการแชทไหนก็ทำได้ให้คุณเพลิดเพลินไปกับการแชทที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
https://www.chatstickmarket.com/single-post/chatstickmarket

iOS ดาวน์โหลดที่นี่
Android ดาวน์โหลดที่นี่