• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Cindy700

#9556


นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) เปิดเผยว่า แนวชายฝั่งทะเลของจังหวัดนครศรีธรรมราชประสบปัญหาการกัดเซาะตลอดแนวชายฝั่ง โดยมีระดับความรุนแรงและสาเหตุที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งการกัดเซาะชายฝั่งเป็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงของชายฝั่งทะเลที่เกิดขึ้นตลอดเวลาจากการกัดเซาะของคลื่นหรือลมตะกอนจากที่หนึ่งไปตกทับถมในอีกบริเวณหนึ่ง ทำให้แนวของชายฝั่งเดิมเปลี่ยนแปลงไปโดยเฉพาะบริเวณที่มีตะกอนเคลื่อนเข้ามาน้อยกว่าบริเวณที่มีปริมาณตะกอนเคลื่อนออกไป

กรมเจ้าท่าได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว จึงได้ดำเนินงานด้านการป้องกันแก้ไขการกัดเซาะชายฝั่งมาอย่างต่อเนื่อง โดยสั่งการให้กองวิศวกรรมออกแบบแนวควบคุมการกัดเซาะโดยเร่งด่วน พร้อมลงพื้นที่สำรวจศึกษาและออกแบบการก่อสร้างให้เหมาะสม และลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมต่อประชาชนในพื้นที่ให้น้อยที่สุด

สำหรับโครงการก่อสร้างปรับปรุงเขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งที่บริเวณบ้านหน้าโกฏิ ถึงบ้านหน้าสตน อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช 1 แห่ง กรมเจ้าท่าได้ทำการว่าจ้างบริษัทกิจการร่วมค้าเอส ซี จี 1995 & เค.พี.ซี.ดำเนินการก่อสร้างเขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งในรูปแบบเขื่อนกันคลื่น (breakwater) โดยการก่อสร้างในรูปแบบดังกล่าวจะช่วยชะลอความเร็วของน้ำที่เข้ากระทบชายฝั่ง โดยจะใช้หินก้อนขนาดใหญ่วางเป็นระยะๆ ขนานไปกับชายฝั่งและให้มีความสอดคล้องกับสภาพชายหาด ข้อดีคือทนต่อสภาพอากาศและความเสียหาย ไม่จำเป็นต้องบำรุงรักษามาก

โดยโครงการเริ่มเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2563 สิ้นสุดวันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 ดำเนินการก่อสร้างปรับปรุงเขื่อนฯ นอกชายฝั่ง ความยาว 20 เมตร จำนวน 8 ตัว ก่อสร้างปรับปรุงเขื่อนฯ นอกชายฝั่ง ความยาว 40 เมตร จำนวน 112 ตัว และก่อสร้างปรับปรุงเขื่อนฯ นอกชายฝั่ง ความยาว 50 เมตร จำนวน 11 ตัว ปัจจุบันดำเนินการไปแล้วคิดเป็น 26%

ทั้งนี้ การพัฒนาและบำรุงรักษาโครงสร้างพื้นฐานในการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งตามยุทธศาสตร์ของกระทรวงคมนาคมและกรมเจ้าท่าในการป้องกันการกัดเซาะตามแผนการบูรณาการเสริมสร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนให้กับประเทศจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันปัญหาการกัดเซาะของพื้นที่อยู่อาศัยและการประกอบอาชีพของประชาชน เกิดเป็นการบริหารจัดการชายฝั่งอย่างเป็นระบบและยั่งยืน
#9559
สนใจเชิญให้เข้าร่วมกลุ่ม Line "บ้านที่ดิน HouseLand" เพื่อรับการอัพเดทที่ดิน
https://bit.ly/3xFTxOS

ติดต่อคุณชัย
โทร. 0918849203
LINE ID : @614skoug
เว็บบ้านที่ดิน  https://housetheland.com/index.php?topic=44
กดไลค์กดแชร์ กดติดตาม คือ
https://www.youtube.com/channel/UCIz5DVj6igFVHKPUqY-Z4RA
https://www.facebook.com/HouseTheLand
#9560


วันที่ 13 กันยายน 2564 เวลา 15.00 น. นาย จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ประชุมติดตามการปฏิบัติราชการในพื้นที่เขตตรวจราชการสํานัก นายกรัฐมนตรี เพื่อบูรณาการการท่องเที่ยวฝั่งอันดามัน (Andaman sandbox) พร้อมแถลงข่าวการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติ Gems&Jewelry Fest in Phuket ณ โรงแรมรอยัลภูเก็ตซิตี้ อําเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต

นายจุรินทร์ กล่าวว่า กิจกรรมสำคัญที่จะมาช่วยเสริมความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นกับโครงการ ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ของรัฐบาล โดยกระทรวงพาณิชย์จะร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จังหวัดภูเก็ต จังหวัดพังงาและจังหวัดกระบี่ จัดงานแสดงสินค้านานาชาติด้านอัญมณีและเครื่องประดับที่จังหวัดภูเก็ต โดยใช้ชื่องานว่า Phuket Gems Fest เพื่อช่วยดึงผู้นำเข้าที่มีศักยภาพสูงจากต่างประเทศ นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่มีรายได้สูงนักท่องเที่ยวชาวไทยและประชาชนทั่วไปมาร่วมงาน

ประกอบด้วย 4 ส่วนสำคัญ

1. การจับคู่เจรจาธุรกิจการค้าออนไลน์ หรือ Online Business Matching(OBM) ให้มีการซื้อหวยออนไลน์ซื้อขายอัญมณีและเครื่องประดับทั้งในระบบออฟไลน์และออนไลน์กับผู้นำเข้าต่างประเทศ ในวันที่ 30 พฤศจิกายน ถึง 3 ธันวาคม 2564 

2. งาน Phuket Gems Fest จัดขึ้นในวันที่ 8-12 ธันวาคม 2564 เป็นเวลา 5 วัน 

3. ส่วนหนึ่งของงาน Phuket Gems Fest คือ การเชิญชวนและนำ influencer ที่มีชื่อเสียงทั้งในประเทศและต่างประเทศไลฟ์สดเพื่อขายอัญมณีและเครื่องประดับของไทยด้วยระบบออนไลน์ไปยังทั่วโลก ถือเป็นโอกาสประชาสัมพันธ์โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ และกระจายมายัง อันดามันแซนด์บ็อกซ์ ต่อไป

4. กิจกรรมนำนักท่องเที่ยวผู้นำเข้ารายได้สูงมาที่ภูเก็ตอย่างน้อย 7 วัน เยี่ยมชมฟาร์มไข่มุกที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว


สถานที่จัดงานแสดงสินค้าอัญมณีเครื่องประดับที่โรงแรมเซ็นทรัลเฟสติวัลภูเก็ต โดยคาดว่า ผลที่จะได้รับของการจัดงานครั้งนี้มีส่วนสำคัญในการช่วยประชาสัมพันธ์ ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ และ อันดามันแซนด์บ็อกซ์ ต่อไปในอนาคต

และจะเป็นการดึงผู้นำเข้าอัญมณีและเครื่องประดับจากทุกประเทศทั่วโลกที่สนใจ รวมถึงนักท่องเที่ยวรายได้สูง อีกทั้งประชาชนทั่วไปมาท่องเที่ยวที่ภูเก็ต และกระจายไปจุดอื่นต่อไป โดยคาดว่าจะมีผู้เข้ามาเยี่ยมชมกิจกรรมไม่ต่ำกว่า 4,000 คน

นอกจากเป็นการช่วยสร้างมูลค่าทางการค้าแล้ว ยังจะช่วยสร้างมูลค่าทางการท่องเที่ยวประกอบกันในเวลาเดียวกันด้วย 

โดยมี นายไชยยศ จิรเมธากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายภูษิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า นายนันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เข้าร่วมด้วย

 
#9561
ราคาดีมากกก!!!!!!!!
#9562
รับถมดิน ราคาถูก ติดต่อ 080-022-3804 www.mmee2000.com
#9563
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Zip lock ซิปล๊อค  ควบคุมน้ำหนัก กล่องละ 590 บาท เท่านั้น ของแท้ 100 %


การรับประทานอาหาร ในปริมาณที่มากเกินไป

มักไม่ได้เกิดจากความหิว แต่เกิดจาก...

"ความอยากอาหาร และการติดในรสชาติ"

ส่งผลให้เกิดการรับประทานแบบไม่เลือก

ทั้งอาหารที่มีแป้งและไขมันสูง ซึ่งเป็นสาเหตุหลัก

ที่นำไปสู่ปัญหา "น้ำหนักเกิน"  ไปจนกระทั่งการเป็น "โรคอ้วน"

ด้วยความเข้าใจในสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาเหล่านี้

จึงเป็นที่มาของงานวิจัยทางคลินิคที่ได้ค้นพบ

สารสกัดเอกสิทธิ์ นวัตกรรมนำเข้าจากประเทศเกาหลีใต้

" Yeast Extract Hydrolysate "

ช่วย รูดซิป..ล็อคความอยากอาหาร ได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่รับประทาน

พร้อมด้วยสารสกัดที่เป็นสูตรเฉพาะ 15 ชนิด

ซึ่งทำหน้าที่ "บล็อก" การดูดซึมของแป้งและไขมัน

เข้าสู่ร่างกาย พร้อมส่งเสริมการเผาผลาญและสลายไขมันส่วนเกิน

รูปร่างดีได้...โดยไม่ต้องอด

ปิดซิปความอยากอาหาร

เปิดซิปกระตุ้นการเผาผลาญเต็มรูปแบบ

" Zip you fat...Zip you body "

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Zip

ผ่านการตรวจสอบจากองค์การอาหารและยา

ขึ้นทะเบียน เลขที่ 13-1-01760-5-0083



สารสกัดจากส้มแดง 100 มก

สารสกัดจากส้มซิตรัส ออรานเทียม 100 มก

สารสกัดจากยีสต์ 80 มก

แอล-ฟีนิลอะลามีน 50 มก

ผงน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล 30 มก

แอล-คาร์นิทีน 50 มก

สารสกัดจากเจียวกู้หลาน 30 มก

สารสกัดจากส้มแขก 30 มก

L l-tyrosine 20 มก

สารสกัดจากพริก 20 มก

สารสกัดจากถั่วขาว 20 มก

สารสกัดจากชาเขียว 20 มก

สารสกัดจากพริกไทยดำ 12 มก

สารสกัดจากเมล็ดกาแฟไม่คั่ว 7 มก

โครเมียม พิโคลิเนต 1 มก

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สั่งซื้อ
 ทักแชทได้เลยหรือติดต่อได้ที่

โทร. 0846623662

id line : teerapat999

website  คลิก  ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Zip lock ซิปล๊อค



    ***รับสมัครตัวแทนจำหน่าย***

#รับตัวแทนไม่ต้องสต็อกสินค้า

#สินค้าขายดี #zipyourfatzipyourbody #ziplock #zipwheyplus #zipwheyplus #zipwhey #theicongroup #ลดน้ำหนักแบบปลอดภัย #ลดไขมัน
#9564


นายไชย ไชยวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การดำเนินธุรกิจของไทยประกันชีวิตตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มีวิวัฒนาการองค์กรมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดรับกับบริบทของการดำเนินธุรกิจซื้อหวยออนไลน์ และปัจจัยแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป โดยในปี 2560 บริษัทฯ ได้ประกาศวิสัยทัศน์มุ่งสู่การเป็นทุกคำตอบของชีวิต หรือ Life Solutions ด้วยการดำเนินธุรกิจในลักษณะ People Business คือให้ความสำคัญและดูแลผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholders) ทุกภาคส่วน ผ่านการส่งมอบสุขภาพที่ดี ชีวิตที่มั่งคั่งมั่นคง และชีวิตที่ดีมีสุข

และในฐานะบริษัทประกันชีวิตแห่งแรกของคนไทยที่ดูแลคนไทยมาจะครบ 80 ปี ในปี 2565 ไทยประกันชีวิตจึงได้กำหนดวิสัยทัศน์ใหม่ "มุ่งสู่การเป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งความยั่งยืน (To be an Insurance Company of Sustainability)" พร้อมสู่การเป็นองค์กรที่เติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ การเมือง สิ่งแวดล้อม เทคโนโลยี รวมถึงพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ทั้งนี้เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม และเป็นทิศทางในการดำเนินธุรกิจในอีก 10 ปีข้างหน้า


สำหรับ Roadmap ของวิสัยทัศน์มุ่งสู่การเป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งความยั่งยืน จะแบ่งออกเป็น 2 ช่วง ได้แก่ ปี 2565-2570 เป็นช่วง Transforming Tomorrow การเปลี่ยนผ่านสู่อนาคตที่ดีกว่า โดยบริษัทฯ มุ่งปรับกระบวนทัศน์ในการดำเนินธุรกิจทุกด้านเพื่อสร้างความพร้อมขององค์กร และปี 2570-2575 เป็นช่วง Sustainable Tomorrow คือการก้าวสู่อนาคตที่เข้มแข็งและยั่งยืน

ทั้งนี้ ยุทธศาสตร์สำคัญที่จะทำให้ไทยประกันชีวิตเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน จะถูกขับเคลื่อนบน 6 คุณค่าสำคัญ คือ สร้างคุณค่าในการตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยเป็นบริษัทฯ ที่ลูกค้าชื่นชม (Admired) สร้างคุณค่าคนในองค์กร เป็นองค์กรที่มีความห่วงใยพนักงาน (Caring) สร้างคุณค่าให้กับพันธมิตรหรือคู่ค้า โดยต้องเป็นบริษัทที่คู่ค้าเลือก (Preferred)

สร้างคุณค่าให้กับผู้ถือหุ้น ด้วยการเป็นองค์กรที่ให้ผลตอบแทนจากการลงทุนอย่างยั่งยืน (Sustainable Return) สร้างคุณค่าให้กับสังคม โดยเป็นองค์กรที่รับผิดชอบและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในสังคม (Responsible Corporate Citizen) และสร้างคุณค่าให้กับหน่วยงานที่กำกับดูแล คือมุ่งดำเนินธุรกิจอย่างรัดกุม รอบคอบ โปร่งใส ภายใต้หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี


วิสัยทัศน์ใหม่ดังกล่าวมาจากการประยุกต์รากฐานที่แข็งแกร่งของไทยประกันชีวิตตลอดระยะเวลา 80 ปี ปรับให้สอดคล้องกับบริบทของสังคมไทยและสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป การดำเนินธุรกิจของไทยประกันชีวิตนับจากนี้ จึงเป็นมากกว่าการประกันชีวิต โดยต้องเป็นทุกคำตอบด้านการเงินส่วนบุคคลและการประกันชีวิต (Life & Financial Solutions Provider) ในทุกช่วงชีวิต (Life Stage) ทุกจังหวะชีวิต (Life Event) และทุกการใช้ชีวิต (Lifestyle) ของลูกค้า เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าในรูปแบบเฉพาะบุคคล ผ่านการส่งมอบสุขภาพที่ดี ชีวิตที่ดี และความมั่นคงมั่งคั่งในบั้นปลายชีวิต

"การทำธุรกิจจากนี้ไปไม่ใช่เพียงแค่การมองเรื่อง Customer Centric หรือลูกค้าเป็นศูนย์กลาง แต่ต้องเข้าถึง Customer at Heart คือดูแลลูกค้าด้วยหัวใจ ด้วยการสร้างจิตวิญญาณแห่งการบริการ หรือ Heart Made เสมือนการดูแลคนในครอบครัว และนำเทคโนโลยีต่างๆ มาใช้เพิ่มขีดความสามารถให้กับตัวแทนฯ ในการดูแลและบริการลูกค้า หรือ Heart Tech เพื่อตอบสนองความต้องการแบบปัจเจกบุคคล ผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์และการบริการที่ตรงใจ" นายไชยกล่าว

ขณะเดียวกันเป้าหมายของแบรนด์ไทยประกันชีวิต หรือ Brand Purpose ยังคง "มุ่งสู่การเป็นแบรนด์ชั้นนำที่ได้รับความชื่นชม (Admired) และเป็นแรงบันดาลใจ (Inspired) ให้กับทุกคนในสังคม" เพื่อช่วยให้ภาพลักษณ์และทิศทางของแบรนด์สอดคล้อง และส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืนทั้งขององค์กรและสังคม

นายไชยกล่าว เพิ่มเติมว่า สิ่งสำคัญอีกประการในการมุ่งสู่บริษัทประกันชีวิตแห่งความยั่งยืน คือการสืบทอดและสืบสานวัฒนธรรมไทยประกันชีวิต ให้องค์กรและบุคลากรขับเคลื่อนการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ บนแก่นของความไว้ใจ ความใส่ใจ และความผูกพันซึ่งกันและกัน ผ่านการกำหนดค่านิยมหลัก (Core Values) เพื่อปรับเปลี่ยน Mindset ของคนในองค์กร ทั้งพนักงานสำนักงานใหญ่ สาขา และฝ่ายขาย โดยสร้างวัฒนธรรมการทำงานแบบ Data Driven, Agility และมี Innovation เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า รวมถึงการสร้างวัฒนธรรมการทำงานบนพื้นฐานความร่วมมือร่วมใจ และความผูกพัน ควบคู่กับการดำเนินธุรกิจอย่างมืออาชีพบนพื้นฐานความซื่อสัตย์สุจริต ตลอดจนการมีส่วนร่วมในการบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม
#9567


ธอส.เผยความต้องการสินเชื่อโครงการ'บ้านล้านหลัง'เฟส 2 พุ่ง แค่ 3 วัน มีลูกค้าทั่วประเทศลงทะเบียนเข้าร่วมแล้ว 34,926 ราย วงเงินสินเชื่อรวมกว่า 41,911 ล้านบาท จากกรอบวงเงินที่วางไว้ 20,000 ล้านบาท พร้อมเร่งตรวจสอบคุณสมบัติผู้ลงทะเบียนผ่านแอป GHB ALL และทำนิติกรรมกู้เพื่อมีบ้านเป็นของตนเอง จับตา ธอส. จ่อขยายกรอบวงเงินเพิ่ม

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า หลังจากที่ ธอส. เปิดให้ลูกค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 2 อัตราดอกเบี้ยต่ำ 1.99% ต่อปี นาน 4 ปีแรก เงินงวดคงที่ 84 งวดแรก ( 7 ปี ) ให้กู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัยใหม่ของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ บ้านมือสอง และทรัพย์ NPA หรือเพื่อปลูกสร้าง ในระดับราคาซื้อ-ขายไม่เกิน 1,200,000 บาท โดยลงทะเบียนผ่าน Mobile Application : GHB ALL เพื่อรับรหัสสำหรับเข้าร่วมโครงการทาง GHB Buddy บน Application Line ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 10 กันยายน 2564 เป็นต้นมา 

ล่าสุดในวันนี้(จันทร์ที่ 13 กันยายน 2564) เวลา 9.00 น. มีลูกค้าลงทะเบียนเพื่อรับรหัสเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 34,926 ราย คิดเป็นวงเงินสินเชื่อ 41,911 ล้านบาท โดยมีลูกค้าที่เตรียมเอกสารพร้อมยื่นกู้ที่สาขาทั่วประเทศคิดเป็นวงเงินสินเชื่อรวมแล้วมากกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งในวันนี้ที่ ธอส. สำนักงานใหญ่ รวมถึงที่ทำการสาขาทุกแห่งทั่วประเทศมีลูกค้ากลุ่มแรกที่ได้รับอนุมัติสินเชื่อเดินทางเข้ามาทำนิติกรรมสัญญาเงินกู้อย่างต่อเนื่อง

"โครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 2 เป็นโอกาสดีในการมีบ้านที่รัฐบาลมอบให้แก่ประชาชน โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย คนวัยทำงานหรือผู้ที่กำลังเริ่มต้นสร้างครอบครัว และผู้สูงอายุ ด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำที่สุดในตลาดที่ 1.99% ต่อปี กรณีกู้ 1.2 ล้านบาท (ผ่อนนานสูงสุด 40 ปี) เงินงวด 5,000 บาทคงที่ 7 ปีแรก ซึ่งธนาคารจะคิดเงินงวดผ่อนชำระรายเดือนที่ 1 ใน 2 ของรายได้สุทธิต่อเดือน จากปกติ 1 ใน 3 ของรายได้สุทธิต่อเดือน ดังนั้น กรณีผู้กู้มีรายได้สุทธิต่อเดือน 10,000 บาท ก็จะมีโอกาสได้รับวงเงินกู้สูงสุด 1.2 ล้านบาทแล้ว"นายฉัตรชัย กล่าว



ทั้งนี้ แม้ปัจจุบันจะมีจำนวนลูกค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 41,911 ล้านบาท (กรอบวงเงินโครงการซึ่งกำหนดไว้ที่ 20,000 ล้านบาท) แต่ประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการ ยังสามารถลงทะเบียนผ่าน Mobile Application : GHB ALL เข้าร่วมโครงการได้อย่างต่อเนื่อง เพราะโครงการจะสิ้นสุดยื่นคำขอกู้และทำนิติกรรมในวันที่ 30 ธันวาคม 2566 หรือ เมื่อมีลูกค้าได้รับอนุมัติสินเชื่อและทำนิติกรรมเต็มกรอบวงเงิน 20,000 ล้านบาท

อนึ่ง ก่อนหน้านี้ ธอส.ได้มีการดำเนินโครงการ 'บ้านล้านหลัง' เฟสที่ 1 วงเงิน 50,000 ล้านบาท มีประชาชนได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองแล้ว 53,000 ราย และคาดว่าจะมีจำนวนรายเพิ่มขึ้นอีก อย่างไรก็ดี โครงการบ้านล้านหลัง ในเฟสที่ 2 กรอบวงเงิน 20,000 ล้านบาท ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า ทางธอส.จะเตรียมความพร้อมในการขยายกรอบวงเงินเพิ่มเติม เพื่อรองรับความต้องการของประชาชนในการมีที่อยู่อาศัย และซื้อทรัพย์สินรอการขายจากธอส.
#9568
สนใจเชิญให้เข้าร่วมกลุ่ม Line "บ้านที่ดิน HouseLand" เพื่อรับการอัพเดทที่ดิน
https://bit.ly/3xFTxOS

ติดต่อคุณชัย
โทร. 0918849203
LINE ID : @614skoug
เว็บบ้านที่ดิน  https://housetheland.com/index.php?topic=44
กดไลค์กดแชร์ กดติดตาม คือ
https://www.youtube.com/channel/UCIz5DVj6igFVHKPUqY-Z4RA
https://www.facebook.com/HouseTheLand
#9569
รับถมดิน ราคาถูก ติดต่อ 080-022-3804 www.mmee2000.com
#9570


นายไพโรจน์ ชื่นครุฑ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกลยุทธ์และวางแผนธุรกิจองค์กร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) (BAY) กล่าวว่า กรุงศรีเดินหน้าขยายธุรกิจสู่ระดับภูมิภาคอาเซียนมาอย่างต่อเนื่องในช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมา เพื่อวางรากฐานของการเป็นธนาคารแห่งภูมิภาคให้แข็งแกร่ง ทำให้ปัจจุบันกรุงศรีมีเครือข่ายและธุรกิจที่ครอบคลุมทั่วทั้งภูมิภาค รวมถึงทำให้กรุงศรีสามารถนำพาโอกาสใหม่ๆ ในการขยายธุรกิจและสร้างการเติบโตให้ลูกค้าของกรุงศรีในภูมิภาคอาเซียนด้วยเช่นกัน นอกจากนี้แล้ว กรุงศรียังประสบความสำเร็จในการผลักดันให้เกิดความร่วมมือในการพัฒนานวัตกรรมทางการเงินที่ช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจหรือสนับสนุนการทำธุรกรรมระหว่างประเทศให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยต้นทุนที่ต่ำลง และเกิดประโยชน์สูงสุดให้ลูกค้า โดยกลยุทธ์ในการขยายธุรกิจและสร้างการเติบโตในอาเซียนนี้ เป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งภายใต้แผนธุรกิจระยะกลางปี 2564-2566 ซึ่งกรุงศรีได้วางเป้าหมายในการเพิ่มสัดส่วนกำไรจากต่างประเทศอยู่ที่ 10% ของกำไรสุทธิทั้งหมดภายในปี 2566

'โดยจุดแข็งและถือเป็นข้อได้เปรียบทางการแข่งขันที่สำคัญของกรุงศรี คือ การมีมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) หนึ่งในกลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดระดับโลก ที่มีเครือข่ายแข็งแกร่งในกว่า 50 ประเทศ เป็นกำลังสำคัญที่ช่วยสนับสนุน ทำให้กรุงศรีเป็นสถาบันการเงินไทยแห่งเดียวที่มีเครือข่ายในอาเซียนมากที่สุด มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และศักยภาพในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ระดับโลก ตอบโจทย์ความต้องการทางการเงินของลูกค้าทั้งในประเทศไทย ในภูมิภาคอาเซียน และในระดับโลกได้เป็นอย่างดี' นายไพโรจน์ กล่าวเพิ่มเติม

ทั้งนี้ ด้วยเครือข่ายและความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจของ MUFG ก่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างประเทศและสร้างโอกาสให้ลูกค้ากรุงศรีขยายธุรกิจในภูมิภาคได้อย่างต่อเนื่อง เช่น การเปิดโอกาสให้มีการพบปะเจรจาการค้าระหว่างผู้ประกอบการไทยและผู้ประกอบการในอาเซียนผ่านเครือข่ายและบริการจับคู่ธุรกิจ (business matching) การเชื่อมต่อโครงข่ายธุรกรรมการชำระเงินระหว่างประเทศ การพัฒนาโซลูชันทางการเงินที่เหมาะสมเพื่อให้การดำเนินธุรกิจในต่างประเทศของลูกค้าเป็นไปอย่างราบรื่น รวมถึงการทำหน้าที่เป็นพันธมิตรที่ให้บริการข้อมูล ความรู้และคำปรึกษาทางการเงินแบบครบวงจร ในส่วนของลูกค้ารายย่อยนั้น กรุงศรีได้มีการพัฒนาระบบธุรกรรมการชำระเงินรองรับความต้องการของลูกค้าในยุคดิจิทัลอีกด้วย

ปัจจุบัน กรุงศรีดำเนินธุรกิจและมีเครือข่ายแข็งแกร่งที่ให้บริการครอบคลุม 5 ประเทศในอาเซียนรวมทั้งประเทศไทย ทั้งในรูปแบบสาขา สำนักงานผู้แทน ธนาคารท้องถิ่น ผู้ให้บริการทางการเงินท้องถิ่น ประกอบด้วย สาขาของธนาคารในเวียงจันทน์ ธุรกิจสินเชื่อเพื่อรายย่อย และสถาบันการเงินจุลภาคที่ไม่รับเงินฝาก กรุงศรี จำกัด ใน สปป.ลาว ธุรกิจธนาคารพาณิชย์ในประเทศกัมพูชา ธุรกิจสินเชื่อเพื่อรายย่อยในประเทศฟิลิปปินส์ และสำนักงานตัวแทนในพม่า ในส่วนนี้ยังไม่รวมเครือข่ายและธนาคารพันธมิตรของ MUFG และล่าสุดเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา กรุงศรีได้บรรลุข้อตกลงกับ Saigon-Hanoi Commercial Joint Stock Bank (SHB) ธนาคารพาณิชย์ร่วมทุนที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ในประเทศเวียดนาม ในการซื้อและรับโอนเงินทุนก่อตั้ง (Charter Lottovip Capital) 100% ของบริษัท SHBank Finance Company Limited (SHB Finance) ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการสินเชื่อเพื่อรายย่อย 10 อันดับแรกของประเทศเวียดนาม ซึ่งอยู่ในระหว่างการพิจารณาอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง

'การขยายธุรกิจต่างประเทศในอนาคตยังคงเดินหน้าต่อไป ส่วนจะเป็นในรูปแบบใดก็ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม เนื่องจากในบางประเทศไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเป็นการร่วมทุน หรือซื้อกิจการ เนื่องจากมีเครือข่ายของ MUFG ที่สามารถเชื่อมโยงกันได้เพียงพออยู่แล้ว อย่าง บรูไน มาเลย์ ยังไม่มีแผนขยายไป เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมา ผลงานใน 4 ประเทศที่เราขยายไปมีผลการดำเนินงานที่ดี นำโดยที่กัมพูชาที่เพิ่งยกระดับเป็นแบงก์มีสินเชื่อประมาณ 1,300 ล้านเหรียญสหรัฐ เงินฝาก 793 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีจำนวน 177 สาขา และพร้อมที่จะเดินหน้าอัปเกรดเป็นธนาคารพาณิชย์ที่ครบวงจรมากขึ้น ที่สปป.ลาว มีสาขาธนาคาร 2 แห่ง มีกรุงศรีลีสซิ่งเซอร์วิส มียอดสินเชื่อรวมกว่า 5,000 ล้านบาท มีบัญชีจำนวน 30,000 บัญชี จะพยายามปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการให้ตอบโจทย์ยิ่งขึ้น ที่ฟิลิปปินส์ มีสินเชื่อประมาณ 6,000 ล้านเปโซ และมีกว่า 300 สาขา ซึ่งนอกจากสิ่งต่างๆ เหล่านี้ที่จะเป็นตัวผลักดินรายได้ให้ธนาคารแล้ว เรายังมีอีกแกนคือ การร่วมกับ MUFG ในการนำพาลูกค้าของเราไปสร้างโอกาสในการลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งทั้ง 2 แกนนี้จะช่วยผลักดันให้เราสามารถดำเนินการตามเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนกำไรจากธุรกิจในต่างประเทศให้เป็น 10% จากปัจจุบันประมาณ 4% ภายในปี 2566'