• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Chigaru

#3121


บอร์ด ทอท.เคาะขยายเวลาก่อสร้างสุวรรณภูมิ 3 สัญญา "APM-สายพานและเครื่องตรวจระเบิด" โควิดนำเข้าอุปกรณ์ไม่ได้ คำสั่งปิดแคมป์หยุดก่อสร้างหมด มั่นใจไม่กระทบบริการ ชี้ใช้ SAT-1 เมื่อเกิน 50 ล้านคน คาดอุตสาหกรรมการบินฟื้น มี.ค. 66

แหล่งข่าวจาก บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท. ครั้งที่ 10/2564 เมื่อวันที่ 21 ก.ค. ที่มี นายสราวุธ เบญจกุล เป็นประธาน ได้มีมติอนุมัติขยายระยะเวลางานจ้างโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เฟส 2 จำนวน 3 สัญญา ได้แก่ 1. ขยายระยะเวลาสัญญางานจ้างก่อสร้างอาคารสำนักงานสายการบิน และที่จอดรถด้านทิศตะวันออก โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กับบริษัทพระราม 2 จำกัด ในสัญญาจ้างลงวันที่ 6 มิ.ย. 2562 มูลค่าสัญญา 871.888 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 540 วัน โดยเป็นการขยายระยะเวลาแล้วเสร็จอีกจำนวน 231 วัน จากเดิมวันที่ 14 ธ.ค. 2563 เป็นวันที่ 2 ส.ค. 2564

2. อนุมัติขยายระยะเวลาสัญญางานซื้อพร้อมติดตั้งระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (Automated People Movew : APM) ให้แก่นิติบุคคลร่วมทำงานไออาร์ทีวี ประกอบด้วย บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท เรืองณรงค์ จำกัด บริษัท แบคเคอร์ อินดัสทรี จำกัด และ บริษัท วิวเท็กซ์ จำกัด ในสัญญาจ้างลงวันที่ 20 พ.ย. 2560 มูลค่าสัญญา 2,999.90 ล้านบาท ขยายระยะเวลาแล้วเสร็จอีก 330 วัน จากเดิมวันที่ 3 ก.ย. 2563 เป็นวันที่ 30 ก.ค. 2564

โดยสัญญางานระบบ APM ระยะเวลาก่อสร้างเดิม 870 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 20 พ.ย. 2560-วันที่ 7 เม.ย. 2563 ต่อมามีการขยายระยะเวลาอีก 149 วัน จากวันที่ 7 เม.ย. 2563-วันที่ 3 ก.ย. 2563 และล่าสุดขยายอีก 330 วัน นับรวมระยะเวลาดำเนินงาน 1,019 วัน

3. อนุมัติขยายระยะเวลางานซื้อพร้อมติดตั้งระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า (BHS) และระบบตรวจจับวัตถุระเบิด (EDS) (ขาออก) ให้กับนิติบุคคลร่วมทำงาน ล็อกซเล่ย์-แอลพีเอส ประกอบด้วย บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ล็อกซเล่ย์เพาเวอร์ ซิสเต็มส์ จำกัด ในสัญญาจ้างลงวันที่ 1 ก.พ. 2561 มูลค่าสัญญา 3,646.560 ล้านบาท โดยเป็นการขยายระยะเวลาแล้วเสร็จจำนวน 214 วัน จากเดิมวันที่ 6 ส.ค. 2564 เป็นวันที่ 8 มี.ค. 2565

นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานวิศวกรรมและการก่อสร้าง ทอท. กล่าวว่า บอร์ด ทอท.มีการพิจารณาขยายระยะเวลาก่อสร้างโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 จำนวน 3 สัญญา ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เนื่องจากไม่สามารถนำเข้าอุปกรณ์จากต่างประเทศได้ตามกำหนด และคาดว่าในภาพรวมอาจจะต้องมีการพิจารณาปรับขยายระยะเวลาสัญญาอีกครั้งเนื่องจากมาตรการรัฐบาลที่ให้ปิดแคมป์ก่อสร้าง ห้ามเคลื่อนย้ายแรงงาน ทำให้งานก่อสร้างโครงการสุวรรณภูมิเฟส 2 ต้องหยุก่อสร้างทุกสัญญาในขณะนี้ ยกเว้นงานที่อยู่ในความดูแลของวิศวกร เช่น การทดสอบระบบที่ยังทำได้

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะขยายระยะเวลาสัญญา แต่ในขณะนี้โครงการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 ในส่วนของอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Satellite 1 : SAT-1) เสร็จแล้ว แต่ ทอท.วางแผนในการเปิดใช้อาคาร SAT-1 ต่อเมื่ออาคารผู้โดยสารหลักมีปริมาณผู้โดยสารเกิน 50 ล้านคน/ ปี จึงจะเปิดใช้อาคาร SAT-1 เพื่อลดความแออัดของอาคารหลัก แต่หากอาคารหลักยังไม่แออัดก็ไม่จำเป็นเร่งเปิดใช้ SAT-1 เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายได้ถึง 300 ล้านบาท/เดือน

แต่จากสถานการณ์โรคโควิด-19 ซึ่งมีการประเมินว่าอุตสาหกรรมการบินจะกลับมาในช่วงตารางบินฤดูร้อนปี 2566 (ประมาณเดือน มี.ค. 2566) ซึ่งยังมีเวลาเพียงพอในการก่อสร้างและทดสอบระบบที่เกี่ยวข้องทั้งหมดของสุวรรณภูมิเฟส 2
#3122


"กระต่าย พรรณนิภา" ควง ผู้จัดการส่วนตัวแถลง ยอมรับอยู่กินกันผัวเมียจนมีลูกด้วยกัน ยอมรับผิดศีลข้อ 3 เล่าย้อนอดีต 3 ปีที่แล้ว ฝ่ายชายคลอนแคลนกับเมีย ยอมรับผิดทำงานใกล้ชิดกับกระต่าย จนมีความรู้สึกดีต่อกัน แต่พึ่งมาเริ่มใช้ชีวิตด้วยกันจริงๆ จังๆ เมื่อปี 63 ขอโทษแฟนๆ ขอให้ติดตามผลงานต่อไป

เมื่อ 3 ปีที่แล้ว "กระต่าย พรรณนิภา" เจ้าของเพลงสันดานเก่า 217 ล้านวิว, เพลงเจ็บคอ 130 ล้านวิว ตกเป็นข่าวฉาวมือที่สาม ทำให้ "อาจารย์ไพบูลย์ แสงเดือน" ผู้บริหารค่ายจ้วดจ้าด สตูดิโอ และผู้จัดการส่วนตัวของกระต่าย ต้องเลิกรากับภรรยา มาตอนนี้ก็เจอข่าวท้องและมีลูกกับอาจารย์ไพบูลย์ ทำเอาทั้งคู่ถูกโจมตีอย่างหนัก แฟนคลับบางคนถึงขั้นแบนจะไม่ติดตามผลงานของกระต่ายอีก ล่าสุด ทั้งคู่ก็ได้เปิดแถลงข่าวผ่านช่องยูทูบ จ้วดจ้าด Official ยอมรับว่า กระต่ายได้ท้องและมีลูกกับอาจารย์ไพบูลย์จริง โดยทั้งคู่ได้จดทะเบียนสมรสกันเรียบร้อยแล้ว ยอมรับว่า ผิดศีลข้อ 3

เนื่องด้วยจังหวัดเลยของเรา มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ค่อนข้างจะสูง แล้วเราติดต่อหาสถานที่มันยาก และลงไม่ได้ เลยตัดสินใจมาที่พื้นที่ของเรา เลยจัดแถลงข่าวผ่านช่องทางส่วนตัวของเรา และให้ทางน้องกระต่าย ตัวผมเอง และน้องๆ ทีมงานแชร์ในส่วนนี้ ให้เอฟซีที่สนใจและอยากฟังความจริงจากพวกเรา ที่จะมานำเสนอในวันนี้ อาจจะไม่ถูกใจหรือไม่ถูกใจใครหลายคน เราก็ต้องกราบขออภัยและต้องขอโทษ

ก็ต้องกราบขออภัยด้วยนะครับ สาเหตุที่ต้องมาเล่าหรือแถลง ณ ที่ตรงนี้ เอาตรงๆ เราก็คนๆ หนึ่งที่มีความรู้สึก เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีการด่า หรือคำที่รุนแรง ผมในฐานะเจ้าของโพสต์เอง ต้องกราบขอโทษด้วย มีบางทีควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ มีการโต้ตอบแฟนเพลง หรือเอฟซีที่เข้ามาคอมเมนต์ แต่ในบางส่วนก็แรงเกินไป เกินที่เราจะรับได้ ต้องกราบเรียนอย่างนี้ว่า เราขอโทษและนับจากนี้ไป เราจะสร้างแต่สิ่งดีๆ ที่เคยทำมา

คำถามแรกที่เป็นประเด็นดราม่าเลย คือ คุณไพบูลย์เลิกกับเมียก่อนที่จะมาหาน้องกระต่ายหรือเปล่า หรือเลิกกับเมียเพราะน้องกระต่ายหรือเปล่า อันนี้ผมยอมรับผิดคนเดียวเลยว่า ในสภาวะช่วงนั้นผมกับแฟนก็คลอนแคลนกันผมจะพูดให้น้อยที่สุด เพื่อไม่ให้กระทบบุคคลที่ 3 หรือบุคคลอื่นในเรื่องเก่าเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ผมอยากบอกว่าเราหย่ากันเมื่อ 3 ปีที่แล้ว นี่คือหลักฐานข้อมูลทะเบียนหย่าที่มีเอกสารบอกว่า แฟนผมอนุญาติหรือยืนยันผมเป็นคนดูแลและเลี้ยงบุตรตั้งแต่ที่เราหย่าร้างกัน

ไม่ขอพาดพิงและไม่พูดถึงเรื่องนี้ซ้ำอีก เพราะตอนนั้นผมออกมาเอง และเราก็หย่ากันด้วยดี ผมก็ให้ค่าเลี้ยงดูในส่วนที่เขาเรียกร้อง และเราก็ดูแลกันเสมอมา ไม่ได้มีเรื่องบาดหมางหรือทะเลาะอะไรกัน ส่วนเรื่องลูกผมเลี้ยงและเวลามีโอกาส แฟนเก่าของผมก็สามารถมารับลูกไปเล่นด้วนหรือไปอยู่ด้วยก็ได้ ซึ่งตอนนี้เขาก็มีครอบครัวใหม่ที่สมบูรณ์และมีความสุขแล้ว ผมขออนุญาตพูดสั้นๆ เพียงเท่านี้

ส่วนคำถามที่ 2 กระต่ายท้องกับผม กับไพบูลย์จริงมั้ย ผมเรียนตรงนี้ ด้วยความเป็นลูกผู้ชายจริง จริงครับ อีกครั้งนะครับ กระต่ายท้องกับอาจารย์ไพบูลย์จริงมั้ย ผมยืนยันและด้วยความเป็นลูกผู้ชายว่าจริง

สาเหตุที่ทำไมไม่ออกมาพูดหรือออกมาแถลงข่าวเลย คือ เราเซฟโซนในส่วนของลูกเราเองด้วย เขาเพิ่งเกิดและสถานการณ์ตรงนี้ด้วย เราไม่อยากให้เกิดความแตกแยกหรือความรู้สึกเฟลกับแฟนเพลงที่เขาบอกว่า ทำไมศิลปินต้องมีลูกหรือครอบครัว เอาตรงๆ นะครับ ช่วงแรกๆ ที่ผมหย่ากับแฟนเก่าของผม เรายังไม่ได้ตกลงที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน หรือเป็นแฟนกัน ตอนนั้นก็แค่คุยกัน และน้องกระต่ายเองก็มีคนคุยของเขาอยู่แล้ว ณ ตอนนั้น และคนในวงก็รู้ดีอยู่แล้วว่าผมกับน้องแบ่งพาร์ตชีวิตกันอย่างไร

ทำงานด้วยกัน แต่ด้วยความใกล้ชิดและเมื่อปี 63 ช่วงโควิดปีที่แล้ว เราเลยคุยกันว่า ถ้าสถานการณ์ยังเป็นโควิดอยู่ ไม่มีคอนเสิร์ต เรามาเริ่มชีวิตครอบครัวกันมั้ย ซึ่งปี 63 เราจดทะเบียนสมรสกันครับ อันนี้เป็นเรื่องจริง แต่เนื่องด้วยมีเหตุผลบางอย่างเรื่องธุรกรรมของผม ก็เลยต้องได้หย่ากันก่อน เพื่อที่จะคลอดลูกกันก่อน แล้วค่อยจดทะเบียนกันใหม่ และทำให้มันถูกต้อง น่าจะชี้แจงให้เอฟซีได้เห็น

กระต่าย : กระต่ายท้องกับ อ.ไพบูลย์ จริงนะคะ กระต่ายก็ต้องขอโทษแฟนเพลงทุกคนด้วยนะคะ (ยกมือไหว้) ที่ไม่ได้แจ้งและก็ไม่ได้บอกแฟนเพลง เพราะว่ากระต่ายเป็นห่วงความรู้สึกของแฟนเพลงทุกๆ ท่าน

ไพบูลย์ : ผมในฐานะที่เป็นผู้จัดการและผู้ดูแลค่าย ก็ขอโทษแฟนเพลงและทุกคนที่ติดตามและคาดหวังว่าน้องกระต่ายจะไม่มีแฟนหรือลูก เราไม่ได้ปฏิเสธตั้งแต่เบื้องต้นอยู่แล้ว เอาตรงๆ ว่า รูปที่โพสต์ไปเป็นลูกชายของเรา ชื่อน้องเพลินเพลงพิณ น้ำหนักแรกคลอด 2.94 กิโลกรัม เป็นที่น่ายินดีและผมก็โพสต์ก็ดีใจ เป็นความสุขของเราอีกรอบนึงเป็นลูกคนที่ 2 ของผม ความสุขที่เขาเกิดมาจากความรัก ที่เราพร้อมอยากเริ่มต้นและสร้างครอบครัวใหม่ที่ดี

เราจะไม่พูดเรื่องอดีตแล้วสิ่งที่ผมเสียใจและที่ผมได้ทำไปเบื้องต้นก่อนหน้านี้ การโพสต์ หรือด่ากันในคอมเมนต์ตรงนี้ผมต้องขอโทษ ผมก็เป็นบุคคลธรรมดาคนนึงที่มีความรู้สึกและก็แค่อยากระบายบ้างในส่วนที่เราโดนมาเยอะ แต่นับจากนี้ไปสิ่งที่สำคัญที่สุดคือตัวของน้องกระต่ายเองแล้วก็ลูก ครอบครัวของเรานะครับ ตอนนี้เรามีความสุข เราทำงานด้วยความสุข ถึงแม้ต่อจากนี้งานเพลงเรา แฟนเพลงส่วนหนึ่งอาจจะไม่เห็นด้วย แต่ต้องขอบคุณแฟนเพลงที่ยังอยู่เคียงข้าง คอยติดตาม สิ่งที่ผมทำได้กับน้องคือสร้างผลงานในฐานะศิลปิน และดูแลครอบครัวทำหน้าที่แม่และพ่อของลูก

เราอยากขอโทษจากใจจริง เราไม่มีเจตนาจะปิดบังแต่อย่างใด เราจะออกมาชี้แจงในมุมนี้อยู่แล้ว แต่เราขอเวลาก่อน เพราะน้องก็เพิ่งคลอด ยังไม่แข็งแรงมากพอจะทำกิจกรรมต่างๆ ได้คล่อง แต่ด้วยกระแสและโซเชียล มันไปเร็วเกินกว่าจะรอ วันนี้ก็เลยเคลียร์ให้เอฟซีเข้าใจ และกราบขอโทษอีกครั้งนึงที่ทำให้หลายๆ คนผิดหวัง

ประเด็นพรากผู้เยาว์ ผมต้องแจ้งอย่างนี้ว่ากรณีที่มันจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีการฟ้องกันหรือเปล่า อันนี้ตามมุมที่ผมเข้าใจนะ แต่ว่าสำหรับเราและครอบครัว ที่จริงแล้วกระต่ายบรรลุนิติภาวะแล้วนะครับ หลังจากที่จดทะเบียนสมรสด้วยกันเมื่อต้นปีที่แล้ว ประเด็นพรากผู้เยาวืเลยไม่น่าจะเกี่ยวข้องอะไรกับพวกเราแล้ว

ประเด็นผิดศีลธรรมหรือเปล่า อันนี้เรายอมรับ ไม่ว่าใครก็แล้วแต่ ล้วนแล้วแต่ผิดศีลธรรม เรายอมรับ เราขอผิดศีลข้อ 3 แต่เราจะไม่ผิดศีลข้อ 4 เราผิดข้อ 3 ซึ่งหมายความว่าตอนนั้น ซึ่งเราย้อนไป 3 ปี ผมพยายามพูดให้น้อยที่สุด ไม่พาดพิงใครก็แล้วแต่ ไม่พาดพิงบุคคลที่3 ตอนนั้นมันมีกระแสจริงๆ โซเชียลแรงในเรื่องของผมหย่ากับแฟน เลิกกับแฟนแล้วมาคบกับน้องกระต่ายเหรอ อันนี้เป็นประเด็นดราม่าในระลอกแรกที่เราเจอ แล้วก็บอกว่าถ้าบอกว่าผมจะออกออกมายอมรับว่า ผมออกมาเพราะว่าเราคลอนแคลนกันอยู่แล้ว

แล้วน้องมีส่วนเกี่ยวข้องไหม ผมเป็นผู้ชายผมรับเอง น้องไม่ได้เกี่ยวข้อง ทุกอย่างมันเกิดจากผม ถ้าถามว่าเรามีความรู้สึกดีด้วยกันก็ต่อเมื่อเราได้มาทำงานด้วยกันเพิ่มมากขึ้น ตอนนั้นเราเดินทาง ไปคอนเสิร์ต ในระหว่างนั้นเขาก็มีแฟน มีคนคุยอยู่แล้ว เราก็รู้กันอยู่ในวงอยู่แล้ว แต่เราเพิ่งจะมาคุยกันเป็นครอบครัว ตั้งหลักกันใหม่ ก็ปลายๆ ปี 2562 และปี 2563 ก็คุยกันว่าถ้ามีลูกเราคงจะมีลูกในช่วงโควิดที่ไม่มีคอนเสิร์ต เพราะว่าอยากให้เขาเกิดมาแล้วได้ดื่มนมแม่ และได้ดูแลเขาเต็มที่ ครอบครัวเราไม่ได้มีปัญหาในเรื่องของการเลี้ยงดูเลยครับ

กระต่าย : กระต่ายขอโทษแฟนเพลงทุกท่านด้วยนะคะ ขอให้ทุกคนติดตามกระต่ายเหมือนเดิม กระต่ายจะสร้างสรรค์ผลงานเพลงให้ได้ฟังเหมือนเดิมนะคะ ขอบคุณค่ะ
#3123



จากการที่ศาลปกครองมีคำพิพากษา เพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้าง โครงการ "แอชตัน อโศก" ที่ออกให้แก่ บริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย อโศก จำกัด เมื่อวันที่ 30 ก.ค.64 จนกลายเป็นประเด็นร้อน เพราะปัจจุบันโครงการ "แอชตัน อโศก" สร้างเสร็จและโอนกรรมสิทธิ์มาได้กว่า 2 ปีแล้ว แม้ว่าจะยังมียูนิตเหลือขายอยู่แต่ก็เพียงไม่กี่ยูนิตจากจำนวนทั้งหมด 783 ยูนิต

การเพิกถอนใบอนุญาตครั้งนี้ เท่ากับว่าโครงการนี้ก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาตมาตั้งแต่หลายปีที่แล้ว และขั้นตอนต่างๆ ที่ต่อเนื่องกันมาตั้งแต่ต้นนั้นก็ผิดด้วยเช่นกัน 

การที่มีคำพิพากษาแบบนี้ออกมานั้นสร้างความวิตกกังวลให้กับคนที่มียูนิตอยู่ในโครงการนี้แน่นอน..

ล่าสุด วันที่ 31 ก.ค.64 ชานนท์ เรืองกฤติยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน ) ได้ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊คเพจ Ananda Development  เพื่อชี้แจงถึงลูกบ้าน และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า เตรียมจะยื่นอุทธรณ์ และมั่นใจว่าจะชนะ

     
เนื้อความทั้งหมด มีดังนี้..

สวัสดีครับ ท่านลูกค้าอนันดา ชาวแอชตัน อโศก ทุกท่าน ครับ

ผม ชานนท์ เรืองกฤติยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน ) ผมหวังว่า ท่านหลายๆคนมีสุขภาพที่แข็งแรงปลอดภัยจากโควิดช่วงนี้นะครับ สำหรับวันนี้ผมมีเรื่องสำคัญที่จะบอกกล่าวท่านครับ เมื่อวานทางศาลปกครองก็ได้มีการพิพากษาในกรณีที่เกี่ยวข้องกับโครงการของเรานะครับ ท่านคงเห็นในสื่อและไม่สบายใจ

เป้าหมายวันนี้ ผมอยากบอกท่านว่า ผมมั่นใจว่าเราต้องสู้ชนะครับ ผมไม่ยอมนะครับ ผมและผู้บริหารอนันดาทุกท่านจะอยู่เคียงข้างท่าน สู้ต่อไปครับ เราจะยื่นอุทธรณ์ ที่ศาลปกครองสูงสุด เราเชื่อว่าในกระบวนการยุติธรรม ที่จะต้องคุ้มครองผู้ประกอบการอย่างเราที่สุจริตและผลที่ออกมาน่าจะเป็นธรรมเพื่อดำรงให้สังคมเราอยู่อย่างสงบสุข

ผมขอยืนยันอีกหนึ่งครั้งนะครับว่าบริษัททำตามกฏหมายทุกประการประสานงานกับทุกหน่วยงานทุกต้องตามกฏหมาย ผมอยากให้ท่านสบายใจนะครับ


ในภาวะนี้ผมก็เห็นใจหลายๆ คนคงนอนไม่หลับเช่นเดียวกับผม ผมจะใช้ความสามารถสุดฝีมือของผมและทีมงานและประสานงานกับสำนักงานกฏหมาย เพื่อความยุติธรรม ให้พวกเราทั้งหมด เราอยู่รวมกัน เรือลำเดียวกัน เราต้องสามัคคีกันนะครับ

แล้วเราต้องแก้ไขปัญหาสังคมด้วยกันนะครับ ผมก็เห็นใจรัฐเช่นเดียวกันครับ กฏระเบียบของรัฐเองก็ซับซ้อน แต่เราต้องช่วยกันพัฒนาบ้านเมืองเราต่อนะครับ ผมเป็นหนึ่งคนที่มีความหวังในประเทศไทยแต่เราต้องเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน เอาใจเราใส่ใจเขาด้วยกันนะครับเพื่อประโยชน์ส่วนรวมทั้งหมดนะครับ

ผมเชื่อมั่นจริงๆนะครับว่า ระบบยุติธรรมจะมีมุมมองเพื่อสร้างความสงบให้พวกเราทั้งหมด หากท่านอยากติดต่อมา สามารถติดต่อได้ที่อนันดาคอลเซ็นเตอร์ 02-3162222 อนันดาเฟซบุ๊กหรืออีเมล์ของผม chanond@ananda.co.th/csc@ananda.co.thได้นะครับ

ผมหวังว่า แมสเสจนี้ก็จะทำให้ท่านสบายใจผมขอให้ท่านให้โอกาสอนันดาแก้ไขปัญหาต่อ

ขอขอบคุณครับ
#3124



การระบาดของ "โรคโควิด-19" ระลอกใหม่ได้ขยายวงกว้างมากขึ้น ซึ่งทำให้ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ขยายพื้นที่สีแดงเข้มให้มาครอบคลุมจังหวัดฉะเชิงเทรา และจังหวัดชลบุรี ในขณะที่หลายฝ่ายต้องการให้ภาครัฐดำเนินการคู่ขนานในการวางแผนเตรียมปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับหลังการระบาด 

รวมทั้งเมื่อการระบาดเริ่มคลี่คลายจะทำให้ประเทศไทยสามารถเตรียมดึงการลงทุนและการท่องเที่ยวใน เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ได้อย่างเต็มที่ทันที โดยเฉพาะการเตรียมลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยวที่ต้องใช้เวลาในการจัดทำโครงการ

ปรัชญา สมะลาภา ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคตะวันออก หอการค้าไทย กล่าวว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรใช้เวลาช่วงจังหวะนี้ที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 ปรับโครงสร้างพื้นฐานและกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยไม่เพียงเฉพาะพื้นที่ภาคตะวันออก ทั้งฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดประเทศ เพราะเราไม่รู้ว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะจบเมื่อไร และจบแบบไหน สิ่งที่ควรจะทำในขณะนี้คือเร่งแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นและยังไม่สามารถดำเนินการให้เสร็จสิ้นได้ในช่วงเวลาปกติ บางโครงการต้องใช้เวลานานทั้งขออนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง งบประมาณ ระยะเวลาดำเนินการ

สำหรับเมืองท่องเที่ยวในอีอีซี เช่น เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ควรต้องเร่งดำเนินการในหลายเรื่องนอกเหนือจากที่มีการพัฒนาชายหาด

บริเวณอ่าวนาจอมเทียน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวของเมืองพัทยาที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักของภาคตะวันออกซึ่งพื้นที่ดังกล่าวมีปัญหาทางด้านสิ่งแวดล้อมหลายประเด็นเช่น ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก ปัญหาการจราจร การซ่อมแซมถนน ระบบการระบายน้ำ ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง

"ผมมองว่าขณะนี้ช่วงเวลาเป็นช่วงเวลาที่ดีในการที่จะปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ ปรับปรุงกฎหมาย แก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น โครงการต่างๆ ที่ค้างท่อ โครงการที่จะรองรับนักท่องเที่ยวควรเร่งทำให้เสร็จ อะไรที่ควรทำก็ทำ ไม่ใช่เปิดประเทศแล้วค่อยมาเริ่มทำ เพราะเมื่อถึงเวลานั้นหากจะทำอาจก็ไม่ทันการณ์แล้ว"


วิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า กรมเจ้าท่าได้รับนโยบายจากกระทรวงคมนาคมให้เร่งปรับปรุงชายฝั่งทางทะเลเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว โดยล่าสุดได้ดำเนินโครงการเสริมทรายป้องกันการกัดเซาะชายหาดจอมเทียน อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เป็นโครงการต่อเนื่องของกรมเจ้าท่า ในการบูรณะชายฝั่งในพื้นที่ภาคตะวันออกและเป็นแหล่งธุรกิจภาคการท่องเที่ยว

"ก่อนหน้านี้กรมฯ ได้ดำเนินการเสริมทรายชายหาดพัทยา เพื่อเพิ่มพื้นที่บริเวณชายหาดให้กว้างขึ้น เหมาะแก่การทำกิจกรรม และสนับสนุนการท่องเที่ยวทางทะเล ซึ่งได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี" 

ทั้งนี้ กรมเจ้าท่าจึงได้ดำเนินโครงการอย่างต่อเนื่องบริเวณหาดจอมเทียนเพราะเป็นพื้นที่เชื่อมต่อ และยังอยู่ระหว่างจัดสรรงบประมาณปี 2565 เพื่อศึกษาเสริมทรายชายหาดบางเสร่เพิ่มเติม

รายงานข่าวระบุว่า สำหรับชายหาดบางเสร่ที่กรมเจ้าท่า เตรียมศึกษาการเสริมทรายชายหาด อยู่ในเขตอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ซึ่งทำให้ชายหาด "บางเสร่" เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ระหว่างสัตหีบและหาดจอมเทียน โดยเป็นชายหาดติดถนนที่เดินทางสะวด มีความยาวของชายหาด 1,500 เมตร รวมทั้งมีการพัฒนาพื้นที่ชายหาดรองรับนักท่องเที่ยวในช่วงที่ผ่านมาทำให้มีนักท่องเที่ยวสนใจเข้ามาเพิ่มมากขึ้น จึงมีความเหมาะสมที่จะได้รับการพัฒนาเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชื่อมต่อกัน

วิทยา กล่าวว่า สำหรับชายหาดจอมเทียน ก่อนหน้านี้ประสบปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้พื้นที่ชายหาดถดถอยและลดขนาดลงไปทุกปี ไม่เพียงพอต่อความต้องการรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่ภาคพิเศษเพื่อการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท.จึงได้ประสานขอให้กรมเจ้าท่าดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน

ยอด 'โควิด-19' วันนี้ ยิ่งหนัก! พบเสียชีวิตสูง 178 ราย ติดเชื้อเพิ่ม 18,912 ราย
เคาะ! 'ประกันโควิด' ป่วย-ตายที่บ้าน เคลมค่ารักษาพยาบาลได้
'3กูรูเศรษฐศาสตร์' ชี้ 3 เดือน ไทยเผชิญความเสี่ยง สาธารณสุขล่ม - ศก.ทรุด - ตกงานพุ่ง 
อีกทั้งการรายงานจากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ปี 2552 ได้ศึกษาและจัดทำแผนแม่บทการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งพื้นที่อ่าวไทยตะวันออก และจัดให้พื้นที่ชายหาดจอมเทียนเป็นพื้นที่กัดเซาะรุนแรงต้องได้รับการแก้ไขปัญหาโดยเร่งด่วน ส่งผลให้ในปี 2557 กรมเจ้าท่า ได้ทำการว่าจ้างสถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดำเนินการสำรวจออกแบบเพื่อเสริมทรายป้องกันการกัดเซาะชายหาดจอมเทียน จังหวัดชลบุรี

โดยมีพื้นที่ศึกษาตลอดแนวชายหาดจอมเทียน ความยาว 6.2 กิโลเมตร ตั้งแต่บริเวณหน้าร้านอาหารลุงไสวถึงบริเวณแนวโขดหินหน้าสวนน้ำพัทยาปาร์ค วอเตอร์เวิล์ด ระยะที่ 1 มีความยาว 3,575 เมตร และ ระยะที่ 2 มีความยาว 2,855 เมตร

ทั้งนี้ กรมเจ้าท่า ได้ทำการว่าจ้าง บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดำเนินโครงการเสริมทรายป้องกันการกัดเซาะชายหาดจอมเทียนระยะที่ 1 มีระยะเวลาการดำเนินโครงการตั้งแต่เดือน พ.ค.2563–พ.ย.2565 รวมระยะเวลา 900 วัน วงเงินราว 586 ล้านบาท โดยแหล่งทรายที่จะนำมาใช้เสริมบริเวณชายหาดจอมเทียนนำมาจากทิศตะวันตกของเกาะรางเกวียน ห่างจากชายหาดจอมเทียนไปทางทะเลประมาณ 15 กิโลเมตร ปัจจุบันเริ่มเสริมทรายชายหาด ตั้งแต่โรงแรมจอมเทียนชาเล่ต์จนถึงโรงแรมยู จอมเทียน พัทยา มีผลการดำเนินงานคิดเป็น 4.39%

อย่างไรก็ดี ภายหลังโครงการเสริมทรายป้องกันการกัดเซาะชายหาดจอมเทียนแล้วเสร็จ จะช่วยบูรณะฟื้นฟูชายหาดจอมเทียนให้กลับมาสวยงาม และเมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลายลง จะมีส่วนช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมการท่องเที่ยวชายหาดจอมเทียน สร้างรายได้สู่ชุมชนและประเทศ ให้สอดรับกับนโยบายภาครัฐในการฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ด้านการท่องเที่ยวและการสร้างการเติบโตอย่างมีคุณภาพต่อไป
#3125



"แบรนด์กีฬา" เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้ "แบรนด์แฟชั่น" และหลายแบรนด์ก็มีที่มาที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย ด้วยเอกลักษณ์ นวัตกรรม หรือเทคโนโลยีที่ทันสมัย หรือการออกแบบที่ดึงดูดใจตลาดวัยรุ่น

"กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" ชวนดู "10 เบื้องลึกเบื้องหลัง แบรนด์กีฬาท็อปฮิตที่กำลังเป็นที่นิยมในปี 2564 นี้บ้าง?"


01: ไนกี้ (Nike)

คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักแบรนด์ "ไนกี้" (Nike) หนึ่งในแบรนด์เครื่องแต่งกายกีฬาที่มีชื่อเสียงที่สุด และปัจจุบันยังมีการออกแบบสุดว้าว ด้วยเทคนิค-นวัตกรรมที่ช่วยสร้างประสิทธิภาพให้กับผู้สวมใส่ที่ดีขึ้นทุกวันๆ 

ไนกี้ก่อตั้งเมื่อปี 1964 โดย บิล บาวเวอร์แมน (Bill Bowerman) และฟิล ไนท์ (Phil Knight) โดยชื่อแบรนด์มีแรงบันดาลใจมาจากเทพนิยายกรีก และแบรนด์เป็นที่รู้จักจากสโลแกนคุ้นหูอย่าง "Just Do It" ที่สร้างแรงบันดาลใจและส่งต่อพลังในการลงมือทำ

ไนกี้โดดเด่นในการออกแบบ "รองเท้าวิ่ง" ที่สุดในตลาดสนีกเกอร์ มีรองเท้าวิ่งหลายรุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างไร้กาลเวลา เช่น แอร์ จอร์แดน (Air Jordan) เทรลแมกซ์ (Trailmax) นอกเหนือจากการออกแบบที่ดีแล้ว นวัตกรรมที่ใช้ในการผลิตยังใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมด้วย

ในแง่ของสปอนเซอร์ ไนกี้เป็นแบรนด์ที่มีนักกีฬาที่มีชื่อเสียงตัวใหญ่ๆ หลายคนในวงการกีฬามาทำการโฆษณาให้ ไม่ว่าจะเป็น คริสเตียโน โรนัลโด (Cristiano Ronaldo) ไทเกอร์ วูดส์ (Tiger Woods) หรือ ราฟาเอล นาดาล (Rafael Nadal) อีกทั้งตัวแบรนด์เองยังให้การสนับสนุนกีฬาระดับชาติในหลายๆ ประเทศรวมถึงมีการเคลื่อนไหวในประเด็นทางสังคม ซึ่งได้ฐานกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ที่ตื่นตัวกับเรื่องเหล่านี้ด้วย


02: เอสิกส์ (Asics)

"เอสิกส์"  (Asics) แบรนด์เครื่องแต่งกายกีฬาสัญชาติญี่ปุ่น ก่อตั้งที่โกเบ ปี 1977 โดดเด่นในไลน์สินค้าประเภทรองเท้าผ้าใบและชุดกีฬาซึ่งสวมใส่แล้วสะดวกสบาย ดูกะทัดรัดในแบบเอเชีย

โดยที่มาของชื่อแบรนด์นั้นได้มีความหมายที่ย่อมาจากวลีโบราณที่มีความหมายว่า "หากอธิษฐานต่อพระเจ้า เราควรอธิษฐานเผื่อจิตใจของร่างกายตนเองเพื่อให้แข็งแรงด้วย" (Anima Sana in Corpore Sano) ซึ่งวลีที่ว่านี้ยังเป็นปรัชญาของแบรนด์อีกด้วย 

นอกจากนี้ในงานการแข่งขัน โอลิมปิก 2020 ยังสังเกตเห็นได้ว่า ทีมนักกีฬาจากไชนีสไทเป (Chinese Taipei) ไต้หวัน ได้สวมใส่ชุดแต่งกายแบรนด์กีฬานี้ในช่วงการแข่งขันที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ด้วย


03: อาดิดาส (Adidas)

"อาดิดาส" (Adidas) อีกหนึ่งท็อปแบรนด์กีฬาที่ใครๆ ก็ต้องรู้จักและมีติดบ้าน ด้วยการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ จาก "แถบสามแถบ" ซึ่งเป็นสไตล์ที่เรียบแต่มีความโดดเด่น ดู "มินิมัล" ซึ่งเป็นรสนิยมประเภทที่วัยรุ่นสมัยนี้นิยม 

ก่อตั้งขึ้นในปี 1949 ในส่วนของต้นกำเนิดชื่อแบรนด์ หลายคนอาจยังไม่รู้มาก่อนว่า ที่มาที่แท้จริงของชื่อแบรนด์อาดิดาสนี้ มีต้นตอมาจากชื่อของผู้ก่อตั้งที่ชื่อว่า อดอล์ฟ แดสเลอร์ (Adolf Dassler; Adi) ไม่ได้มีต้นตอที่แท้จริงมาจากคำนี้ "ทั้งวันฉันฝันถึงแต่การเล่นซอคเกอร์" (All Day I Dream About Soccer) ที่มีคนคิดตั้งข้อสงสัยกัน  

ขณะเดียวกันอาดิดาสยังให้การสนับสนุนนักกีฬาเบอร์ใหญ่ระดับโลกด้วย เช่น ลิโอเนล เมสซี (Lionel Messi ) หรือเจมส์ ฮาร์เดน (James Harden) ทั้งนี้ยังให้การสนับสนุนชุดทีมฟุต.ในหลายๆ ประเทศด้วย

และในแง่ของการออกแบบคอลเล็กชั่นที่โด่งดังและมีการพูดถึงคงหลีกหนีไม่พ้นไลน์สินค้า ยีสซี่ (YEEZY) ที่ได้แร็ปเปอร์ชื่อดังอย่าง คานเย เวสต์ (Kanye West) มาร่วมออกแบบด้วย นอกเหนือจากนี้ไลน์สินค้าอื่นๆ ที่เป็นที่นิยมยังมีอีก เช่น สแตน สมิธ (Stan Smith) และแซมบา (Samba) เป็นต้น


04: หลี่หนิง (Li-Ning)

"หลี่หนิง" (Li-Ning; 李宁有限公司) แบรนด์กีฬาสุดยอดท็อปฮิตในประเทศจีนที่สุดในตอนนี้ ก่อตั้งเมื่อปี 1989 โดยผู้ก่อตั้งที่ชื่อ "หลี่ หนิง" ซึ่งเป็นอดีตนักยิมนาสติก ที่มีฉายาเป็นที่รู้จักในนาม "เจ้าชายแห่งวงการยิมนาสติก" ณ วันนี้ทำกำไรกว่า 4 แสนล้านบาท

โดยผู้ก่อตั้งนั้นได้หันมาทำแบรนด์เมื่อตอนที่ตัดสินใจอำลาวงการกีฬาในวัย 25 ปี เพราะอาการบาดเจ็บเท้าจนไม่สามารถลงแข่งขันได้ และด้วยความมีชื่อเสียงทำให้หลี่หนิงออกมาเปิดแบรนด์ตัวเองต่อหลังจากที่เลิกแข่งกีฬาไป

ตัวแบรนด์ได้รับความนิยมมากขึ้นตั้งแต่ปี 2010 สามารถดึงดูดใจกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นจีนเป็นหลัก รวมถึงกลุ่มผู้ใหญ่ด้วย นอกจากนั้นมีเพียงแค่ 2% เท่านั้นที่เป็นกำไรจากต่างประเทศ 

พร้อมกันนี้แบรนด์หลี่หนิงเองยังได้สนับสนุนนักกีฬาชื่อดังอย่าง ดเวย์น เวด (Dwyane Wade) และล่าสุดในงานโอลิมปิก 2020 นี้ กองทัพนักกีฬาประเทศจีนยังได้ใส่ชุดและเครื่องแต่งกายจากแบรนด์หลี่หนิงในช่วงการแข่งขันด้วย

หากพูดถึงความนิยมแล้ว ต้องไม่พลาดที่จะพูดถึงพระเอกซีรีส์ดังอย่าง "เซียวจ้าน" ที่ตบเท้าเข้ามาเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับแบรนด์หลี่หนิงไปเมื่อเดือนมีนาคม ปีนี้ด้วย ทำให้กลุ่มวัยรุ่นและแฟนคลับตามแห่กันมาซื้อและใช้สินค้าแบรนด์นี้มากยิ่งขึ้นไปอีก


05: รีบอค (Reebok)

"รีบอค" (Reebok) แบรนด์เครื่องแต่งกายกีฬาสัญชาติอังกฤษ เป็นที่นิยมในหมู่นักวิ่งและคนออกกำลังกายตามฟิตเนส-ยิม โดยเน้นไปที่การออกแบบไลน์สินค้า เสื้อ-กางเกงวิ่ง รองเท้า และอุปกรณ์เสริมในการออกกำลังกายอื่นๆ 

แบรนด์สัญชาติอังกฤษนี้ได้ทำการก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1895 โดยโจเซฟ วิลเลียม ฟอสเตอร์ (Joseph William Foster) โดยความหมายของชื่อแบรนด์สื่อถึง การจุติความสง่างามอย่างรวดเร็วว่องไว 

ทั้งนี้แรกเริ่มเดิมทีแบรนด์รีบอคเป็นที่พูดถึงในเรื่องการออกแบบ "รองเท้าวิ่งที่มีหนามแหลม" เป็นเอกลักษณ์เพื่อใช้ในการออกกำลังกาย ซึ่งทำให้วิ่งได้อย่างปลอดภัยดี


06: อันเดอร์ อาร์เมอร์ (Under Armour)

"อันเดอร์ อาร์เมอร์" (Under Armour) หนึ่งในแบรนด์เครื่องแต่งกายที่นิยมในหมู่คนออกกำลังกาย สัญชาติอเมริกัน ก่อตั้งในปี 1996 เป็นที่นิยมทั้งในอเมริกา เอเชีย และทั่วโลก เป็นเบอร์รองจากไนกี้

แบรนด์นี้ถูกก่อตั้งขึ้นโดย อดีตนักฟุต.อย่าง เควิน แพลงก์ (Kevin Plank) ซึ่งผุดไอเดียสร้างสรรค์แก้ปัญหาได้ถูกจุดสำหรับผู้เล่นกีฬาในสถานที่โล่งแจ้งที่ต้องมีเหงื่อออกมาก โดยเควินได้ออกแบบเสื้อกล้ามที่มีคุณสมบัติในการซับเหงื่อที่เป็นที่ตื่นตาตื่นใจในตอนนั้น 

ในส่วนของต้นตอที่มาของชื่อแบรนด์ อันเดอร์ อาร์เมอร์ ผู้ก่อตั้งเดิมทีต้องการใช้ชื่อแบรนด์ว่า "บอดี้ อาร์เมอร์" (Body Armour) แต่มีปัญหาเรื่องเครื่องหมายทางการค้าจึงได้ตัดสินใจเลือกใช้ชื่อแบรนด์ว่า "อันเดอร์ อาร์เมอร์" แบบที่ทุกคนรู้จักกัน ณ วันนี้
#3126



โดย ดร.อรุณ ศิริจานุสรณ์ (นักวิชาการอิสระ / ผู้อำนวยการสถาบันพรีโม่ อะคาดิมี่) 40

คลัสเตอร์...เป็นคำที่ติดหูของผู้คนในแวดวงอุตสาหกรรมมาช่วงระยะหนึ่งแล้ว จากนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐบาล เพื่อขับเคลื่อนประเทศไปสู่มิติใหม่ หรือประเทศไทย 4.0

คลัสเตอร์...เป็นคำที่ติดหูของผู้คนในแวดวงอุตสาหกรรมมาช่วงระยะหนึ่งแล้ว จากนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐบาล เพื่อขับเคลื่อนประเทศไปสู่มิติใหม่ หรือประเทศไทย 4.0 โดยมีการดำเนินงานก้าวหน้าเป็นลำดับ ตั้งแต่ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2558 เห็นชอบนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษในรูปแบบคลัสเตอร์ พร้อมเพิ่มเติมการกำหนดกลุ่มอุตสาหกรรมศักยภาพเป้าหมาย หรือ 10 S-curve ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2558 เพื่อขับเคลื่อนประเทศไปสู่มูลค่าทางเศรษฐกิจใหม่ โดยล่าสุดได้มีการมุ่งเป้าสู่การพัฒนาในเชิงพื้นที่ในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor Development: EEC) ผลักดันให้พื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา เป็นพื้นที่เชิงยุทธศาสตร์สาคัญในการพัฒนา 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม

ซึ่งไม่น่าแปลกใจเพราะเขตพื้นที่ดังกล่าว เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมการผลิตของประเทศ ที่มีความพร้อมทั้งด้านเครือข่ายอุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ อีกทั้งยังเป็นพื้นที่เดิมที่มีการพัฒนามาเป็นระยะเวลามากกว่า 30 ปีแล้ว อย่างไรก็ตาม อาจมีหลายท่านสงสัยว่า หากมีการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจแห่งที่สอง หรือสาม หรือสี่ ..... ในเขตพื้นที่ภูมิภาคอื่น ๆ ควรจะส่งเสริมให้มีการพัฒนาคลัสเตอร์อุตสาหกรรมใด และควรมีแนวทางการพัฒนาคลัสเตอร์อย่างไรจึงจะเหมาะสม แต่ก่อนที่จะไขปัญหาที่เราสงสัยกันต่อไป การเริ่มต้นที่การทำความเข้าใจแนวคิดพื้นฐานว่าจริง ๆ แล้วคลัสเตอร์ คือ อะไรกันแน่

คลัสเตอร์คืออะไร?

ทำไมบริษัทของประเทศหนึ่ง ถึงมีขีดความสามารถสูงกว่าบริษัทของประเทศอื่น ๆ ในสาขาอุตสาหกรรมเดียวกัน เป็นคำถามที่มีนักเศรษฐศาสตร์ และนักวิชาการหลาย ๆ ท่านได้ทำการศึกษามาอย่างต่อเนื่อง โดยข้อสรุปหนึ่ง ที่ได้รับการยอมรับ นอกเหนือจากทฤษฎีความได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบ (Comparative Advantage) ซึ่งให้ความสำคัญไปที่ปัจจัยพื้นฐานสำคัญทางเศรษฐกิจ อาทิ ทรัพยากร ทุน และแรงงานแล้ว คือ การระบุถึงความสำคัญของพื้นที่ที่ตั้งของบริษัท ต่อขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากพื้นที่นั้น

โดยองค์ประกอบของปัจจัยแวดล้อมที่เอื้อต่อการรวมกลุ่มของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในธุรกิจสาขาเฉพาะในพื้นที่ใกล้เคียงกันอย่างเหมาะสม โดยการรวมกลุ่มของกิจกรรมทางเศรษฐกิจดังกล่าว มีชื่อเรียกที่ติดหูกันว่า "คลัสเตอร์" ซึ่งหมายถึง การรวมตัวกันของกลุ่มบริษัทในสาขาเฉพาะ ซัพพลายเออร์ที่มีความเฉพาะ ธุรกิจให้บริการ บริษัทในอุตสาหกรรมที่มีความเกี่ยวเนื่อง และสถาบันสนับสนุนที่เกี่ยวข้อง (อาทิ สถาบันการศึกษา และฝึกอบรม สถาบันวิจัยพัฒนา ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐต่าง ๆ) มาร่วมดำเนินกิจการอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน ในระดับที่เพียงพอต่อการพัฒนาความเชี่ยวชาญ การบริการ ทรัพยากร การจัดหาวัตถุดิบ รวมถึงทักษะ และความสามารถของกำลังแรงงาน ที่มีความพิเศษ ความหมายของคลัสเตอร์ ในหลาย ๆ งานศึกษา ได้นิยามไว้แตกต่างกันบ้าง หากแต่มีแนวคิดที่เห็นพ้องร่วมกันในความเป็นคลัสเตอร์ใน 3 ประเด็น ซึ่งมีความหมายลึก กว่าการรวมกลุ่มของเครือข่ายผู้ประกอบการดังที่ใช้กันโดยทั่วไป

ประเด็นแรก คลัสเตอร์ถูกมองว่าเป็นการกระจุกตัวทางภูมิศาสตร์ของบริษัท ที่มีความเฉพาะ แรงงานที่มีทักษะสูง และสถาบันสนับสนุน ซึ่งช่วยก่อให้เกิดการประหยัดจากการอยู่เป็นกลุ่ม และเพิ่มการกระจายตัวขององค์ความรู้ จากการอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน สร้างเป็นปัจจัยที่ส่งเสริมให้เกิดขีดความสามารถการแข่งขันพื้นที่ได้

ประเด็นที่สอง คลัสเตอร์เป็นโครงสร้างเชิงระบบที่ช่วยสนับสนุนและจัดหาบริการที่มีลักษณะเฉพาะและจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับบริษัทเฉพาะกลุ่ม ตัวอย่างเช่น การช่วยจัดเตรียมโครงสร้างพื้นฐานที่มีความเฉพาะและซับซ้อนสูง บริการทางการเงิน บริการด้านการวิจัย และพัฒนาเฉพาะด้าน รวมถึงบริการสนับสนุนการประกอบธุรกิจ หรือการพัฒนาฝึกอบรมบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญเฉพาะ เป็นต้น

ประเด็นที่สาม คลัสเตอร์มีลักษณะเป็นโครงสร้างเชิงสถาบัน หรือกาวทางสังคม ที่เชื่อมประสานระหว่างผู้เล่นด้านนวัตกรรมทั้งมหาวิทยาลัย กลุ่มธุรกิจ และหน่วยงานภาครัฐ หรือเครือข่ายระหว่าง 3 ฝ่าย (Golden triangle หรือ Triple Helix) ที่มีความแตกต่างเข้าไว้ด้วยกัน

คลัสเตอร์ จึงมีความสำคัญในแง่ที่ช่วยสร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ สร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นประโยชน์ต่อการตั้งอยู่ของกลุ่มบริษัท และดึงดูดกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่สำคัญให้เข้ามาสู่พื้นที่ ก่อให้เกิดการจ้างงาน และการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจในภูมิภาค และเป็นกิจกรรมที่ส่งผลให้เกิดผลกระทบทางบวกต่อการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันแก่บริษัท หรืออุตสาหกรรมที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ได้ถึง 3 ทาง คือ ช่วยเพิ่มผลิตภาพของบริษัท หรืออุตสาหกรรม ส่งเสริมการยกระดับศักยภาพด้านนวัตกรรม รวมถึงกระตุ้นให้เกิดรูปแบบทางธุรกิจใหม่ที่สนับสนุนการเกิดนวัตกรรมและการขยายตัวของคลัสเตอร์ ซึ่งทาให้บริษัทสามารถหาแนวทางใหม่ หรือแนวทางที่ดีกว่าในการแข่งขันภายในอุตสาหกรรม และสร้างนวัตกรรมได้เร็วกว่าตลาด

ติดตามตอนที่ 2 ว่าด้วย คลัสเตอร์อะไรที่ควรพัฒนาในภูมิภาค ???

เอกสารอ้างอิง:
Bresnahan, T., Gambardella, A., and Saxenian A. (2001). Old economy' inputs for 'new economy' outcomes: cluster formation in the new Silicon Valleys. Industrial and Corporate Change, Oxford University Press, No.4 Vol.10, 2001.
Dzisah, J. and Etzkowitz, H. (2008). Triple helix circulation: the heart of innovation and development. International Journal of Technology Management & Sustainable Development, Vol 7, No 2, Sep 2008, pp. 101-115(15).
Europe INNOVA. (2008). The concept of clusters and cluster policies and their role for competitiveness and innovation: main statistical results and lessons learned. Commission staff working document SEC (2008) 2637.
International Trade Department. (2009). Clusters for competitiveness. A practical guide and policy implications for developing cluster initiatives. 2009.

https:// www.bangkokbiznews.com/news/detail/951739
#3127

ที่ศาลากลางจังหวัดพังงา นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงาได้มอบหมายให้นายธรรมนูญ ศรีวรรธนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา แถลงข่าวกับสื่อมวลชนว่า ตามที่ทางจังหวัดพังงาและภาคเอกชนได้มีแผนจะมีการเปิดรับการท่องเที่ยว "พังงาพร้อม" ในพื้นที่นำร่อง วันที่ 1 สิงหาคมนี้ ทางจังหวัดพังงาจำเป็นที่จะต้องเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 15 สิงหาคม ด้วยสาเหตุประกอบด้วย

ประเด็นที่1 ศบค. ใหญ่ ยังไม่ได้มีมติให้มีการเปิดพังงาพร้อมในวันที่ 1 สิงหาคมนี้

ประเด็นที่ 2 การเชื่อมโยงระบบ Application ทั้งชบาและหมอชนะ ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการยังไม่เรียบร้อย

และประเด็นที่ 3 สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในพื้นที่ของจังหวัดพังงายังมีคลัสเตอร์ใหม่ๆ เกิดขึ้น รวมถึงการประชาสัมพันธ์ให้พื้นที่ให้ประชาชนเข้าใจยังไม่ครอบคลุม

ในวันนี้ทางจังหวัดได้ประชุมร่วมกับภาคประชาชน ภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีมติเห็นตรงกันว่าจะเสนอ ศบค.ใหญ่ เลื่อนเป็นวันที่ 15 สิงหาคม ในเบื้องต้นทางจังหวัดได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกลุ่มที่มีส่วนได้ส่วนเสียเจ้าของโรงแรมมาหาหรือว่าการที่เราเลื่อนไปจากวันที่ 1 เป็นวันที่ 15 ซึ่งก็มีผลกระทบแน่ๆ แต่เพื่อความเหมาะสมของสถานการณ์ในปัจจุบันและที่สำคัญคือพ่อแม่พี่น้องชาวพังงาตอนนี้ทุกคนจำเป็นที่จะต้องได้รับข่าวสารที่ชัดเจนก่อน จึงจำเป็นที่จะต้องเลื่อนออกไป ภาคธุรกิจเอกชนได้รับผลกระทบแต่อยู่ในขอบเขตที่สามารถรับได้

 

สำหรับการเปิดการท่องเที่ยวนำร่อง พังงาพร้อม นั้น นักท่องเที่ยวที่เข้ามาในประเทศไทย 7 วันแรกเขาจะอยู่ที่ภูเก็ตเมื่อ มาถึงก็จะมีการตรวจหาเชื้อครั้งแรกหลังจากนั้นมาเขาอยู่ถึงวันที่ 6 จะตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 เมื่อไม่มีเชื้อเขาถึงมีสิทธิ์ที่เดินทางมาที่จังหวัดพังงาได้ ดังนั้นเมื่อทางราชการบวกกับคุณหมอพิจารณาเงื่อนไขต่างๆ เหล่านี้แล้ว ทางจังหวัดพังงาจึงไม่อยากจะปล่อยโอกาสที่เป็นโอกาสทองเพื่อให้กระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดพังงาเรา เนื่องจากยอดจองที่ทางเราคาดการณ์เดือนสิงหาคมเราจะมียอดนักท่องเที่ยวประมาณ 20,000 คนจะมียอดกระตุ้นเศรษฐกิจถึง 2,600 ล้าน แต่สิ่งเหล่านี้ไม่สำคัญเท่าพ่อแม่พี่น้องประชาชนและองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องรายละเอียด จึงจำเป็นต้องเลื่อนการเปิดการท่องเที่ยวนำร่อง พังงาพร้อมไปเป็น 15 สิงหาคม


สำหรับความพร้อมของพื้นที่เปิดการท่องเที่ยวนำร่องนั้น โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอเกาะยาว กลุ่มที่เป็นกลุ่มเป้าหมายคือกลุ่มโรคเรื้อรัง 7 โรคและกลุ่มผู้สูงอายุได้รับการฉีดวัคซีนไป 90% และภาพรวมของพื้นที่เกาะยาวก็ฉีดเกือบ 70 เปอร์เซ็นต์แล้วในส่วนของการรับวัคซีนเราไม่กังวลแต่เรากังวลในเรื่องสถานการณ์ที่เพิ่มขึ้นในบริเวณโดยรอบ แล้วก็ฟังความรู้สึกของพ่อแม่พี่น้องประชาชน ทางจังหวัดจะพยายามสื่อสารประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนเข้าใจว่าโควิด-19 คงจะไม่ไปจากเราง่ายๆ ดังนั้นเรามีทางที่จะอยู่ร่วมกับเขาเราก็ต้องพิจารณาให้เกิดความสมดุลระหว่างเศรษฐกิจและสุขภาพของเราเป็นพี่น้องเป็นสิ่งสำคัญถ้าเราห่วงสุขภาพจนละเลยเศรษฐกิจในวันข้างหน้าเราอาจจะมีผลกระทบที่ไม่พึงปรารถนาได้เช่นกัน

https:// www.bangkokbiznews.com/news/detail/952061
#3128



กลายเป็นดราม่าร้อนเลยทีเดียว เมื่อนักแสดงตลกหนุ่ม นุ้ย เชิญยิ้ม โพสต์ภาพข้อความลงในไอจีส่วนตัวว่า "คำว่าแก่ก็ควรแก่อย่างมีคุณค่า ไม่ใช่แก่แบบกะโหลกกะลา อย่าทำตัว แก่เกินแกง" ท่ามกลางการแสดงความคิดเห็นจากชาวเน็ต และมีหลายคนโยงไปถึง เทพ โพธิ์งาม ซึ่งมีข่าวเรื่องการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง โดยบอกว่าเด็กรุ่นใหม่เอาแต่ด่า พร้อมทั้งชูนายกฯ และระบบไทยดีที่สุด

ล่าสุด นุ้ย เชิญยิ้ม โพสต์ภาพตัวเองและเขียนข้อความว่า "ผมอยู่วงการตลกมา 30 ปี ไม่เคยล่วงเกินหรือปีนเกลียวผู้ใหญ่ หรือแม้แต่นักแสดงตลกที่เด็กกว่าผม ผมก็ให้ความเคารพทุกคน ผมแค่แสดงความคิดเห็นส่วนตัว กับการบริหารงานของผู้ใหญ่ ถ้าหากไปกระทบจิตใจใครผมก็ขออภัยด้วยครับ

ทุกคนมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็น ถ้าทำดีแล้วเราก็พร้อมชื่นชม แต่ถ้าเรารู้สึกว่ามันยังขาดตกบกพร่องเราควรมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็น อย่าตีกรอบว่าการวิจารณ์อีกฝ่ายหมายถึงเราเลือกอีกฝ่าย หลายๆ ท่านที่ออกมาพูดเพราะอยากเห็นอะไรที่เปลี่ยนแปลงในสถานการณ์ที่วิกฤติแบบนี้ อย่าตัดสินเองว่าใครอยู่ฝั่งไหน.. ด้วยความเคารพครับ"


นอกจากนี้ นุ้ย เชิญยิ้ม ยังโพสต์คลิปให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ลงไอจี โดยยืนยันว่าไม่ได้โพสต์ถึงป๋าเทพแน่นอน ท่ามกลางการแสดงความคิดเห็นจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก.
#3129



"ชัยวุฒิ" มอบหมาย บ.ไปรษณีย์ไทย ใช้จุดแข็งในศักยภาพด้านการขนส่ง ขับเคลื่อนเศรษฐกิจรายย่อยและสินค้าเกษตรฝ่าวิกฤติโควิด-19 ควบคู่สนับสนุนระบบสาธารณสุข รับอาสาขนส่งฟรีอุปกรณ์การแพทย์ ยาและเวชภัณฑ์ และให้ความร่วมมือในการจัดตั้งศูนย์พักคอยสำหรับดูแลผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า ได้มอบนโยบายให้บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) ใช้ศักยภาพด้านการขนส่งและเครือข่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมในช่วงการระบาดโควิด-19 ช่วยเหลือประชาชน ผู้ประกอบการ เกษตรกร พร้อมทั้งเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนระบบสาธารณสุข ให้สามารถเดินหน้าต่อไปได้ หวังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้กลับมาฟื้นอีกครั้ง

โดยในส่วนของการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ จะครอบคลุมทั้ง การออกโปรโมชันเพื่อลดต้นทุนค่าขนส่งให้กับผู้ประกอบการ เพิ่มช่องทางการจำหน่ายผลผลิตให้กับเกษตรกรผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เว็บไซต์ Thailandpostmart.com ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่รวบรวมสินค้าเกษตรและวิสาหกิจชุมชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ปัจจุบันมีผู้ประกอบการเข้าร่วมขายสินค้ากว่า 6,500 ราย มีสินค้ามากกว่า 17,000 รายการจากทั่วทุกภูมิภาค

ทั้งนี้ ปณท ได้ปรับลดอัตราค่าบริการไปรษณีย์ด่วนพิเศษ (EMS) ในพิกัดน้ำหนักตั้งแต่เกิน 2,000 กรัมขึ้นไป และให้การสนับสนุนการส่งผลผลิตของเกษตรกรในราคากล่องเหมาจ่าย ด้วยบริการ EMS พร้อมทั้งเพิ่มช่องทางการขายให้กับผู้ประกอบการและเกษตรกร เพื่อสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยยังสามารถเดินหน้าต่อได้ในภาวะวิกฤติ

นอกจากนี้ ยังมีบริการ Pick up Service รับฝากพัสดุถึงบ้าน อำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ผู้ใช้บริการไม่ต้องออกจากบ้าน ลดความเสี่ยงการสัมผัสเชื้อโควิด-19 โดยสามารถใช้บริการดังกล่าวได้ทางไลน์ออฟฟิเชียล @ThailandPost



"ผมยังได้มอบหมายให้ ปณท สนองนโยบายการดำเนินงานของรัฐบาลด้วยการสนับสนุนระบบสาธารณสุขในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด -19 ได้แก่ การช่วยขนส่งอุปกรณ์การแพทย์ไปยังโรงพยาบาลทั่วประเทศโดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการส่ง การส่งยาและเวชภัณฑ์จากโรงพยาบาล ไปให้ผู้ป่วยทั่วไป และผู้ป่วยโควิด -19 สีเขียวในโครงการ Home Isolation-Community Isolation ให้ความร่วมมือในการจัดตั้งศูนย์พักคอยสำหรับดูแลผู้ป่วยโควิด-19 สีเขียว เพื่อรอการนำส่งต่อไปรักษาที่สถานพยาบาลต่อไป" นายชัยวุฒิ กล่าว



ทั้งนี้ ไปรษณีย์ไทย เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนระบบสาธารณสุขอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด -19 โดยมีโครงการ "ส่งความห่วงใย ส่งให้ สู้ภัย COVID-19" ซึ่งได้รวบรวมอุปกรณ์การแพทย์จากคนไทย จัดส่งฟรีให้กับโรงพยาบาลทั่วประเทศแล้วกว่า 2.2 แสนกิโลกรัม คิดเป็นมูลค่าการจัดส่งกว่า 8 ล้านบาท ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรขนส่งเตียงกระดาษไปให้โรงพยาบาลสนามต่างๆ ทั่วประเทศฟรีกว่า 2,300 เตียง จัดทำโครงการ "ไปรษณีย์ reBOX" โดยร่วมกับ บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) นำกล่อง/ซองกระดาษที่รวบรวมจากคนไทยน้ำหนักกว่า 23,500 กิโลกรัม มาแปรรูปเป็นเตียงกระดาษ อีกทั้งร่วมกับองค์การเภสัชกรรม เตรียมพร้อมเปลี่ยนกล่อง/ซองเป็นหน้ากากอนามัย บรรจุใน กล่องBOXบุญ ที่จะส่งมอบให้กับบุคลากรทางการแพทย์ เป็นต้น
#3131




เมื่อวันที่ 29 ก.ค.64 นายนัทธี ถิ่นสาคู ส.ส.ภูเก็ต พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยถึงถึงกรณีคำสั่งจังหวัดภูเก็ต ที่ 4202/2564 เรื่อง ยกระดับมาตรการตรวจคัดกรองการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต ที่ห้ามบุคคลและผู้ขับขี่ยานพาหนะทุกประเภทเข้าจังหวัดภูเก็ต ทั้งทางบก (ด่านตรวจทำฉัตรไขย) ทางน้ำ (ท่าเรือ) ทุกท่าในภูเก็ต และช่องทางภายในประเทศ (ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต) ยกเว้นบางกรณีหรือผู้ที่มีความจำเป็นว่า คำสั่งดังกล่าวเพื่อให้เกิดความชัดเจนในการควบคุมการเดินทางเข้าออกพื้นที่ จ.ภูเก็ต ของคนไทยที่มาจากพื้นที่อื่นซึ่งอาจมีความเสี่ยงนำเชื้อเข้ามา ยืนยัน ไม่กระทบกับการโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ที่กลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ เดินทางโดยเที่ยวบินตรงมาจากต่างประเทศ ไม่ได้มาโดยเที่ยวบินภายในประเทศ และปัจจุบันหลายสายการบินในประเทศก็ยุติให้บริการชั่วคราวอยู่แล้ว

นายนัทธี กล่าวว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ภูเก็ต มีมาตรการที่พร้อม สามารถควบคุมดูแลนักท่องเที่ยวต่างชาติในส่วนนี้ได้เป็นอย่างดี และชาวภูเก็ตก็รับความเสี่ยงตรงนี้ได้ เพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นกลับคืน โดยแนวโน้มในขณะนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติก็เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นายนัทธี กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ตนในฐานะเป็นคนภูเก็ต อยากให้คนจากจังหวัดอื่นๆ อดใจรอที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวภูเก็ตช่วงนี้ไปก่อน ความสวยงามทางธรรมชาติของภูเก็ตยังอยู่อีกนาน ให้สถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศดีขึ้นแล้วค่อยเดินทางมาท่องเที่ยวภายหลังก็ได้ เพราะถ้าเดินทางมาตอนนี้ก็อาจเกิดความหวาดระแวงซึ่งกันและกัน ว่าจะมีการนำเชื้อมาแพร่ หรือติดเชื้อจากภูเก็ตกลับไปหรือไม่ จะสร้างความไม่สบายให้เกิดขึ้นและท่องเที่ยวอย่างไม่มีความสุข.
#3132



ฟลอริดารายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ใหม่รายวัน 16,038 คนไปยังรัฐบาลกลางเมื่อวันอังคาร (27 ก.ค.) ถือเป็นตัวเลขสูงสุดของรัฐแห่งนี้นับตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม จากข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ (ซีดีซี) ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อทั่วประเทศพุ่งแตะระดับ 80,000 ราย ท่ามกลางการแพร่ระบาดของตัวกลายพันธุ์เดลตา ที่แพร่เชื้อได้ง่ายมาก

ตัวเลขของวันอังคาร (27 ก.ค.) ถือเป็นวันที่ 7 ติดต่อกันแล้วที่รัฐฟลอริดารายงานเคสผู้ติดเชื้อใหม่รายวันมากกว่า 12,000 ราย และมีขึ้นหลังจากซีดีซีเพิ่งออกคำแนะนำให้คนฉีดวัคซีนครบแล้วสวมหน้ากากยามอยู่ในร่มตามสถานที่สาธารณะทั้งหลาย

จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นและคำแนะนำใหม่ของซีดีซี มีขึ้นหลังจากตัวหลายพันธุ์เดลตาของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่อาละวาดอย่างหนักทั่วประเทศ และประชาชนชาวสหรัฐฯ จำนวนมากยังไม่ฉีดวัคซีน

เคสผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นในวันอังคาร (27 ก.ค.) ส่งผลให้ค่าเฉลี่ย 7 วันของผู้ติดเชื้อใหม่ในรัฐฟลอริดา เพิ่มเป็น 13,502 คน ขณะเดียวกันฟลอริดายังรายงานพบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 92 ราย ส่งผลให้ค่าเฉลี่ย 7 วันของผู้เสียชีวิต ขยับขึ้นเป็น 57 ราย จากข้อมูลของซีดีซี

ด้วยทั่วประเทศมีรายงานพบผู้ติดเชื้อใหม่รายวันทั้งสิ้น 80,701 รายในวันอังคาร (27 ก.ค.) นั่นหมายความในรัฐฟลอริดา คิดเป็นราว 20% ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด ส่วนตัวเลขเสียชีวิต 92 รายในฟลอริดา ก็คิดเป็นราวๆ 22% ของผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ที่รายงานทั่วสหรัฐฯ 421 รายในวันอังคาร (27 ก.ค.)

ในกรอบคำแนะนำใหม่แถลงเมื่อวันอังคาร (27 ก.ค.) โรเชลล์ วาเลนสกี ผู้อำนวยการศูนย์เพื่อการควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ (ซีดีซี) ได้แนะนำประชาชนที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วแต่อยู่ในพื้นที่ซึ่งมีการระบาดหนาแน่นและพื้นที่ซึ่งการระบาดอยู่ในอัตราสูง ให้สวมหน้ากากขณะอยู่ในอาคารที่เป็นพื้นที่สาธารณะ

ทั้งนี้ พื้นที่มีการระบาดหนาแน่นหมายถึงมีผู้ติดเชื้อ 50-100 คนต่อประชากร 100,000 คนในช่วง 7 วัน ส่วนพื้นที่มีการระบาดอัตราสูงคือ 100 คนขึ้นไป

วาเลนสกี บอกกับผู้สื่อข่าว่า หลักฐานข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับตัวกลายพันธุ์เดลตา เป็นตัวกระตุ้นให้มีการเปลี่ยนแปลงคำแนะนำดังกล่าว

นิกกี ฟรายด์ คณะกรรมาธิการด้านเกษตรกรรมของรัฐฟลอริดา จากพรรคเดโมแครตที่เตรียมลงชิงเก้าอี้ผู้ว่าการรัฐในศึกเลือกตั้ง 2022 กล่าวระหว่างแถลงข่าวในวันพุธ (28 ก.ค.) ว่ามันน่าละอายอย่างมากที่รัฐแห่งนี้กำลังกลายเป็นผู้นำเคสผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นทั่วประเทศ

ฟรายด์ บอกว่า เธอไม่อยากเห็นการล็อกดาวน์ภาคธุรกิจหรือบังคับสวมหน้ากาก แต่สนับสนุนความเคลื่อนไหวของซีดีซีที่แนะนำให้ประชาชนสวมหน้ากากยามอยู่ในสถานที่ในร่ม

คำแนะนำใหม่ของซีดีซีมีออกมา ทั้งๆ ที่ในสัปดาห์ที่แล้ว ซีดีซียังปกป้องการตัดสินใจของตนเองที่สร้างความประหลาดใจไปทั่วเมื่อเดือนพฤษภาคม ที่ประกาศให้ผู้ฉีดวัคซีนแล้วไม่ต้องสวมหน้ากากเมื่ออยู่ภายในอาคารในสถานที่ส่วนใหญ่

วาเลนสกี ย้ำว่า แม้การฉีดวัคซีนช่วยลดอัตราการป่วยหนักและเสียชีวิต แต่งานวิจัยใหม่ๆ ของซีดีซีพบว่า ผู้ฉีดวัคซีนที่ติดเชื้อยังคงมีปริมาณไวรัสในเลือด--ซึ่งหมายถึงโอกาสในการแพร่เชื้อ มากพอๆ กับผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน

(นิวเซอร์วิซออฟฟลอริดา/รอยเตอร์)
#3133
รวมไลน์สติกเกอร์แจกฟรี! ประจำวันที่ 14 กรกฎาคม 2021 รีบดาว์นโหลดก่อนหมดเวลาhttps://www.chatstickmarket.com/single-post/linestickersforfreeonjuly14-2021

#3134



เยอรมนี ทำได้เพียงตามตีเสมอ ไอวอรี โคสต์ 1-1 ด้วยประตูของ เอดูอาร์ด โลเวน มิดฟิลด์สังกัด แฮร์ธา เบอร์ลิน ตกรอบแบ่งกลุ่ม การแข่งขันฟุตบอลชาย โอลิมปิก 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันพุธที่ 28 กรกฎาคม

การแข่งขัน ฟุตบอลชาย โอลิมปิก 2020 รอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้ายของกลุ่ม D ณ สนาม มิยากิ สเตเดียม เยอรมนี (อันดับ 3 : 2 นัด มี 3 คะแนน) ต้องชนะสถานเดียว ส่ง รากนาร์ อาเช ยืนศูนย์หน้า ประสานงาน นาเดียม อมิรี, มักซ์ ครูเซ และ มาร์โก ริคเตอร์ ล่าตาข่าย ไอวอรี โคสต์ (อันดับ 2 : 2 นัด มี 4 คะแนน)

เยอรมนี น่าปลดล็อกสุดๆ นาที 11 มักซ์ ครูเซ เคาะจังหวะเดียวให้ มาร์โก ริคเตอร์ แปด้วยขวา เอลิเซ อิรา ตาเป นายทวาร เหินปัดปลายมือ และนาที 26 ครูเซ ตักจากสุดเส้นฝั่งซ้ายให้ รากนาร์ อาเช โหม่งชนคาน

เริ่มครึ่งหลัง รองแชมป์เก่า เจอความกดดันมากขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งเกิดความผิดพลาด นาที 67 เบนจามิน เฮนริคส์ กองหลัง สกัดบอลทุ่มไกลฝั่งขวา เข้าประตูตัวเอง ตกเป็นรอง 0-1

ทีมของ สเตฟาน คุนท์ซ จุดประกายความหวัง นาที 73 เอดูอาร์ด ลูเวิน ตัวสำรอง ปั่นฟรีคิกด้วยขวา โค้งข้ามกำแพงเสียบมุมสุดสวย ตีเสมอ 1-1 แต่พังประตูแซงนำไม่ได้ จบเกม เยอรมนี มี 4 แต้ม อยู่อันดับ 3 ส่วน ไอวอรี โคสต์ มี 5 แต้ม อยู่อันดับ 2 เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ต่อไป

ส่วนผลอีกคู่หนึ่งสายเดียวกัน บราซิล เจ้าของเหรียญทอง ริโอ เกมส์ 2016 เอาชนะ ซาอุดิอาระเบีย 3-1 ด้วยประตูของ มาเธอุส คุนญา นาที 14 กับ ริชาร์ลิสัน นาที 76 กับ 90+3 เก็บเพิ่มเป็น 7 แต้ม จาก 3 นัด คว้าแชมป์กลุ่ม D ขณะที่ ซาอุฯ ทวงคืนจาก อับดูเลอาห์ อัล-แอมรี นาที 27
#3135



ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (29 ก.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม มีกำหนดการปฏิบัติงานที่ทำเนียบรัฐบาลโดยในเวลา 11.00 น. เวลา 11.00 น.มีกำหนดการพบกับนายอะห์หมัด อับดุลเลาะฮ์ อัลฮาญะรี (Ahmed Adbulla Al-Hajeri) เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรบาห์เรนประจำประเทศไทย ที่เข้าอำลานายกรัฐมนตรี ในโอกาสพ้นหน้าที่ ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

โดยก่อนกำหนดการดังกล่าวได้เรียกประชุมทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยมีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน นายทศพร ศิริสัมพันธ์ ประธานที่ปรึกษาเศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรี และนายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เข้าร่วมประชุม  

ทั้งนี้คาดว่าจะมีการหารือถึงสถานการณ์เศรษฐกิจล่าสุดที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังไม่มีดีขึ้น รวมทั้งมีการติดเชื้อในภาคการผลิตโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ รวมทั้งมีการหารือถึงมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมที่อาจจะออกมาในช่วงที่ยังต้องมีการควบคุมการระบาดของโรคต่อเนื่องไปอีกระยะเวลาหนึ่งหลังจากที่การระบาดยังไม่ลดลง


ทั้งนี้ที่ประชุม ครม.ที่ผ่านมาได้มีการออกมาตรการช่วยเหลือประชาชนจากผลกระทบจากโควิด-19 ได้แก่ มาตรการให้ความช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของครัวเรือนและประชาชน ในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานและระดับอุดมศึกษา ภาครัฐและเอกชน กรอบวงเงินรวม 3.3 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น มาตรการให้ความช่วยเหลือภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาในช่วงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของ กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กรอบวงเงิน 23,000 ล้านบาท สำหรับนักเรียนในระบบการศึกษาไทย ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2564 โดยสนับสนุนค่าใช้สนับสนุนค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้ปกครอง 2,000 บาท/นักเรียน 1 คน รวมทั้งจัดสรรค่าใช้จ่ายให้แก่สถานศึกษาเพื่อช่วยจัดการเรียนรู้ รวมทั้งลดหรือตรึงค่าใช้จ่ายในโรงเรียนเอกชนให้เท่ากับปีการศึกษา 2563

มาตรการการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของนิสิตนักศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาภาครัฐและเอกชน ของ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวตกรรม (อว.) กรอบวงเงิน 10,000 ล้านบาท โดยมีกลุ่มเป้าหมาย คือ นิสิต/นักศึกษาชาวไทย ระดับปริญญาตรีและบัณฑิตศึกษา ในสถาบันอุดมศึกษาภาครัฐและเอกชน ระยะเวลา ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564

มีแนวทางการดำเนินการ ได้แก่สถาบันอุดมศึกษาของรัฐ จะได้รับส่วนลดเป็นลักษณะร่วมจ่ายระหว่างรัฐและสถาบันอุดมศึกษาในอัตรา 6:4 โดยค่าเล่าเรียน/ค่าธรรมเนียมการศึกษาส่วนที่ไม่เกิน 50,000 บาท ลด 50% 50,001 - 100,000 บาท ลด 30 % และเกิน 100,000 บาท ลด 10% โดยส่วนลดสูงสุดรวมกันไม่เกิน 50% ส่วนสถาบันอุดมศึกษาของเอกชน ค่าเล่าเรียน/ค่าธรรมเนียมการศึกษา รัฐสนับสนุนในอัตรา 5,000 บาท/คน

ครม.ยังได้อนุมัติเพิ่มกรอบวงเงินโครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33 ในกิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐ ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดและพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวม 13 จังหวัด วงเงินรวม 15,027.686 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1,522.99 ล้านบาท จากเดิม 13,504.696 ล้านบาท โดยเพิ่มจากเดิม 10 จังหวัด เป็น 13 จังหวัด ซึ่งพื้นที่ 3 จังหวัดที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และพระนครศรีอยุธยา พร้อมมอบหมายให้สำนักงานประกันสังคมเร่งประมาณการจำนวนนายจ้างและผู้ประกันนมาตรา 33 กลุ่มเป้าหมายที่คาดว่าจะขี้นทะเบียนประกันสังคมรายใหม่ด้วย

ทั้งนี้กรอบวงเงินดังกล่าวเป็นเงินช่วยเหลือให้แก่นายจ้างในระบบประกันสังคมใน 9 ประเภทกิจการ ใน 13 จังหวัดกลุ่มเป้าหมาย 7,238.631 ล้านบาท และเงินช่วยเหลือให้แก่ผู้ประกันตนมาตรา 33 สัญชาติไทยที่เป็นลูกจ้างในกิจการของนายจ้างตามคุณสมบัติ จำนวน 7,789.055 ล้านบาท ซึ่งทั้งนายจ้างและลูกจ้างที่ได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยา ยังจะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีเงินได้
#3136



นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์   รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์  เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมทูตพาณิชย์ ทูตเกษตร และผู้ประกอบการส่งออกผลไม้  ผู้ประกอบการด้านขนส่งโลจิสติกส์ รวมทั้งภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาการขนส่งผลไม้ส่งออก ว่า  ขณะนี้การส่งออกมังคุดข้ามแดนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ประสบปัญหารถบรรทุกผลไม้ไทยติดค้างที่ด่านเวียดนามก่อนเข้าจีน ที่ด่านโหยวอี้กว่าน หลาย 100 คันเป็นเวลาหลายวัน จึงมีผลกระทบต่อการส่งออกมังคุดไปยังประเทศจีน ขณะนี้สถานการณ์ได้คลี่คลายแล้วหลังจากทูตเกษตร-ทูตพาณิชย์ได้เจรจากับทางการจีนและร่วมกันแก้ปัญหาทำให้การจราจรเริ่มดีขึ้น

ทั้งนี้ผู้ส่งออกส่วนใหญ่ส่งออกผ่าน"ด่านโหยวอี้กว่าน "  ซึ่งด่านนี้มีศักยภาพจำกัดเพราะมีช่องทางผ่านเต็มที่แค่ 67 ช่องทาง ทางการจีนประสงค์ให้ไทยไปใช้บริการที่ด่านตงซิงและด่านรถไฟผิงเสียงมากขึ้น หากไปใช้อีก 2 ด่านมากขึ้นจะได้จัดเจ้าหน้าที่ประจำการอำนวยความสะดวกให้ เพราะ"ด่านตงซิง"ซึ่งเป็นด่านรถบรรทุกมีรถของไทยไปใช้บริการแค่วันละ 10-20 คัน ยังมีศักยภาพรองรับอีกเป็นจำนวนมาก  ตนจึงได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์คุยกับสมาพันธ์โลจิสติกส์ไทยและผู้เกี่ยวข้องในการหาลู่ทางใช้"ด่านตงซิง"กับ"ด่านรถไฟผิงเสียง"มากขึ้น

นายจุรินทร์ กล่าวว่า  ส่วนปัญหาเรื่องล้งรับซื้อผลไม้กับแรงงานที่ไปกับล้ง  เนื่องจากล้งส่วนใหญ่รับซื้อผลไม้อยู่ที่จังหวัดจันทบุรี ขณะนี้หมดฤดูแล้วซึ่งจำหน่ายได้ราคาดีมากถึงกิโลกรัมละ 100-200 บาท แต่ช่วงเวลานี้มังคุดภาคใต้ออกเยอะกว่าหลายปีที่ผ่านมากับเกิดการล็อกดาวน์จากปัญหาโควิด ล้งจากจังหวัดจันทบุรีพร้อมแรงงานติดปัญหาในการเคลื่อนย้ายไปที่นครศรีธรรมราชและชุมพรไม่ได้ จึงได้หารือร่วมกันกับผู้ว่าจังหวัดจันทบุรี จังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดชุมพร พร้อมกันผ่านทางโทรศัพท์ (Phon in)  โดยทั้ง 3 จังหวัดได้รับทราบปัญหาแล้ว และได้มีการดำเนินการอนุญาตให้ล้งและแรงงานจากจันทบุรีสามารถเคลื่อนย้ายไปรับซื้อมังคุดที่นครศรีธรรมราชและจังหวัดชุมพรจังหวัดอื่นๆที่ต้องการได้โดยมอบหมายให้ จัดหางานจังหวัดและสาธารณสุขจังหวัดร่วมกันดำเนินการซึ่งภาคเอกชนพอใจมากและตัวแทนล้งรวมทั้งสมาคมล้งแจ้งให้ทราบว่าหลังการประชุมจะรีบประชุมล้งในการรีบเคลื่อนย้ายล้งไปเพิ่มจากปัจจุบันที่มีประมาณ 100 ล้ง

ส่วนมาตรการอื่น ๆก็ได้มีการสนับสนุนให้ล้งที่ไปรับซื้อหรือกลุ่มเกษตรกรที่รวบรวมมังคุดกิโลกรัมละ 3 บาท และสำหรับผู้รวบรวมส่งออกกิโลกรัมละ 5  จัดทำกล่องบรรจุมังคุด 200,000  กล่องไปให้ไปรษณีย์กับกลุ่มเกษตรกรที่ต้องการ และจะร่วมรณรงค์ให้คนไทยบริโภคมังคุดมากขึ้น พร้อมประสานงานกับห้างโมเดิร์นเทรด เช่น แม็คโคร บิ๊กซีเทสโก้ รวมทั้งปั๊มปตท.และบางจากเปิดพื้นที่รับมังคุดจากเกษตรกรมาจำหน่าย   ใช้เกษตรพันธสัญญาซื้อขายล่วงหน้าให้ผู้ส่งออกหรือผู้ค้ามังคุดทำสัญญากับเกษตรกรล่วงหน้ามีเป้าหมาย 20,000 ตันขณะนี้ทำสัญญาล่วงหน้าแล้ว 17,600 ตัน นอกจากนี้ยังได้ประสานกับสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก หรือ ททบ. 5 รณรงค์ขายมังคุด ผ่านแพลตฟอร์ม Ohlala shopping  และให้เซลล์แมนจังหวัดระบายมังคุดไปยังจังหวัดต่างๆ ซึ่งมีการระบายแล้วทั้งพิษณุโลก เชียงใหม่ เชียงราย และจังหวัดอื่นๆ ช่วงที่ผ่านมาถึง 200 ตันและมาตรการสุดท้าย ได้มอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายสินิตย์ เลิศไกร นำคณะเดินทางไปในพื้นที่ภาคใต้ ร่วมกับจังหวัดร่วมกับกลุ่มเกษตรกรช่วยคลี่คลายปัญหา
#3137


ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ลดลง หลังจีนปราบหนักบริษัทเทคโนโลยี ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ ลดลง รอข้อมูลน้ำมันดิบสหรัฐฯ ส่วนราคาทองคำเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายวันที่ 27 ก.ค. 2564 ในแดนลบ โดยดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 85.79 จุด หรือ 0.24% ปิดที่ 35,058.52 ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 ขยับลง 20.84 จุด หรือราว 0.47% ปิดที่ 4404.46 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก ดิ่งลง 180.14 จุด หรือราว 1.21% ปิดที่ 14,660.58 จุด

ข่าวแนะนำ
วอลล์สตรีทลดลงในวันอังคาร นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี เหตุนักลงทุนกังวลเรื่องการเทขายในดัชนีหุ้น ฮั่งเส็ง ของฮ่องกง ซึ่งสร้างแรกกดดันให้แก่ตลาดทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงทั่วโลก ความกังวลที่หน่วงตลาดหุ้นยังรวมถึง การที่จีนออกกฎให้ผู้ขายอาหารออนไลน์ ต้องจ่ายค่าแรงพนักงานขนส่งอาหารมากกว่าค่าแรงขั้นต่ำ และการระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ที่อาจกระทบการเติบโตของเศรษฐกิจโลก

ด้านราคาน้ำมันดิบ ลดลงปานกลาง หลังจากเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ มาตลอดทั้งวัน โดยมีปัจจัยหนุนส่งคือ อัตราการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ที่เพิ่มสูงขึ้น ช่วยคลายความกังวลเรื่องการระบาดของโควิดเดลตา แต่ผู้ค้ายังคงชั่งน้ำหนักในเรื่องแนวโน้มความต้องการพลังงานในอนาคต และกำลังเฝ้ารอการเปิดเผยข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ก่อน

สัญญาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้า เวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต (WTI) งวดส่งมอบเดือนกันยายน ขยับลง 0.26 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 0.4% ไปอยู่ที่ 71.65 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบ เบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน ลดลง 0.33 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 0.44% ไปอยู่ที่ 73.37 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

ขณะที่ราคาทองคำ เพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากการลดลงของค่าเงินดอลลาร์ ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะประกาศนโยบายในวันพุธนี้ โดยสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 0.60 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 0.03% ปิดที่ 1,799.80 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์
#3138



นายอรรถนพ พันธุกำเหนิด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซิซซา กรุ๊ป จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนรูปแบบ กล่าวว่า หลังจากที่ภาครัฐเปิดโครงการ "ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์" เกือบ 1 เดือนที่ผ่านมานั้น ยังไม่สามารถตอบได้ว่าโมเดลดังกล่าวช่วยเหลือผู้ประกอบการภูเก็ตได้มากน้อยเพียงใด เพราะยังไม่มีการประเมินจากภาครัฐในส่วนของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นั้น แทบจะไม่เกิดประโยชน์ เพราะชาวต่างชาติหวังเข้ามาท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว ไม่มีเจตนาเข้ามาลงทุนแต่อย่างใด ในขณะที่ชาวต่างชาติบางส่วน ที่ซื้อบ้านหลังที่ 2 ไว้ที่ภูเก็ตก่อนหน้านี้ ก็ไม่สามารถเข้าพักได้ทีเดียว เนื่องจากต้องไปกักตัวในโรงแรมในระบบที่ภาครัฐจัดเตรียมไว้ให้ก่อน 14 วัน จึงเป็นข้อจำกัดที่ทำให้ชาวต่างชาติไม่อยากเดินทางเข้ามาในประเทศไทยในช่วงนี้ ซึ่งมองว่าภาครัฐยังขาดความพร้อมและการวางแผนที่รัดกุม

ทั้งนี้การเปิด "ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์" มีข้อดีคือได้ทดลองเปิดดู หากผลเสียมีมากกว่า ธุรกิจทั่วไปยังไม่ได้รับผลประโยชน์ และนักท่องเที่ยวยังถูกจำกัดการทำกิจกรรมอยู่ ก็ยังรู้สึกไม่เกิดผลดีกับภาพรวมของภูเก็ต ซึ่งมองว่า ต้องหยุดเรื่องการติดเชื้อให้ลดน้อยลงที่สุดก่อน หากนำวัคซีนที่มีคุณภาพเข้ามาได้ ก็จะสามารถเปิดทุกกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ ทั้งนี้ภาครัฐต้องแก้ไขปัญหา ประเมินข้อดี ข้อเสียก่อน เพื่อให้ทุกอย่างรัดกุมมากกว่านี้

"นักท่องเที่ยวพอมาถึงประเทศไทยและได้ยินข้อมูลด้านลบ เพราะในภูเก็ตยังมีการติดเชื้ออยู่ ทำให้นักท่องเที่ยวได้รับการติดเชื้อไปด้วย ทำให้บรรยากาศรู้สึกไม่ปลอดภัย และนักท่องเที่ยวเกิดความกังวล ทำให้รีบเดินทางกลับประเทศ ส่วนคนที่กำลังจะมาภูเก็ตก็รอดูท่าทีก่อน โมเดลนี้ไม่ถือว่าล้มเหลว ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้น เพื่อเริ่มทดลองและได้เห็นปัญหา ซึ่งก็ต้องนำปัญหานั้นมาแก้ไข แต่ไม่ทราบว่าภาครัฐมีการแก้ไขมากน้อยเพียงใด หากเปิดประเทศไม่ได้ แต่สามารถเปิดภูเก็ตได้ เพราะช่วงไฮซีซั่นก็ต้องมีชาวต่างชาติกลับมาอย่างแน่นอน ซึ่งควรแก้ปัญหาด้วยการหาวัคซีนมาฉีดให้คนในภูเก็ตให้หมด และคลายกฎให้นักท่องเที่ยว รวมไปถึงทำประชาสัมพันธ์ระดับโลกว่าภูเก็ตมีอัตราการติดเชื้อต่ำ ซึ่งภาครัฐอาจมองในมุมที่ต่างจากผู้ประกอบการเพราะประเทศไทยไม่ได้ใช้ระบบการทำการตลาดไปทั่วโลก ให้ชาวต่างชาติรับรู้ว่าภูเก็ตมีความพร้อมแล้ว แต่สิ่งที่รัฐขาดคือความเป็นอินเตอร์เนชั่นแนล ทำให้การประชาสัมพันธ์การเปิด 'ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์' ไม่เป็นไปในทิศทางที่จะเป็น แต่ก็ยังมีเวลาที่จะแก้ไขได้ก่อนที่จะถึงช่วงไฮซีซั่น ซึ่งเชื่อว่าจะมีนักท่องเที่ยวกลับมาภูเก็ตอย่างแน่นอน" นายอรรถนพ กล่าว

สำหรับ ผู้ประกอบการอสังหาฯในภูเก็ตมีความต่างกันพอสมควร เพราะไม่ได้เป็นสมาชิกในสมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ตทุกคน ซึ่งมีทั้งผู้ประกอบการที่สร้างบ้านเพื่อขาย และลงทุน มีทั้งคนไทยและต่างชาติ ดังนั้นจึงอยากจะฝากถึงรัฐบาล ในการช่วยภาคธุรกิจอสังหาฯและท่องเที่ยว หากมีการทำประชาสัมพันธ์เมืองภูเก็ต ก็ควรที่จะดึงงบประมาณบางส่วนให้ภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลกนักท่องเที่ยวมาแล้วรู้สึกประทับใจ ระบบราชการต้องมีความเป็นอินเตอร์เนชั่นแนล รวมไปถึงควรตัดวงจรกลุ่มที่ขูดรีดชาวต่างชาติ และคนไทยด้วยกันออกไปให้หมด และควรมีงบบำรุงสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ อีกทั้งเพื่อความยั่งยืนของภูเก็ตควรเปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้ามาร่วมทุนกับภาครัฐเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาในภูเก็ตมากขึ้น

"การที่จะดึงให้ชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนในภูเก็ต ภาครัฐควรมีการแก้ไขกฎหมายต่างๆ อาทิ 1. ดึงนักลงทุนมาลงทุนอสังหาฯด้วยการแก้ไขสิทธิกฎหมายการเช่าที่ดินจากเดิม 30 ปี เป็น 90 ปี , 2. เปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติถือครองกรรมสิทธิ์คอนโดได้ 100% จากเดิม 49% , 3. การลงทุนกิจการในภูเก็ตไม่ควรคิดมาตรการด้านภาษีรายได้ โดยไม่หักภาษีชาวต่างชาติ เพื่อให้นำเงินออกนอกประเทศได้ ซึ่งจะทำให้เกิดเงินสะพัด ภาคธุรกิจมีการเติบโต และ 4.หากชาวต่างชาติที่มีการลงทุนเกิน 30 ล้านบาท ควรให้วีซ่าเกิน 30 ปีไปเลย หากสามารถปลดกฎพวกนี้ได้ ราคาที่ดินภูเก็ตจะพุ่งขึ้นเป็น 2-3 เท่าตัวอย่างแน่นอน และทำให้เกิดการจ้างงาน เงินสะพัด เพราะที่ยุโรป อเมริกาก็ทำกันมาก ซี่งอยากให้รัฐเข้าใจและพัฒนาอย่างจริงจัง" นายอรรถนพ กล่าว

ในส่วนของ "ซิซซา กรุ๊ป" นั้นในช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดของโควิต-19 ได้พยายามประคับประคองธุรกิจให้อยู่ได้ ทั้งส่วนของการพัฒนาอสังหาฯเพื่อการขายและธุรกิจโรงแรม รวมไปถึงพยายามหารายได้เพิ่มขึ้น ด้วยการจัดแคมเปญต่างๆหรือมีการลดราคาสินค้า เพื่อดันยอดขายเพิ่มขึ้น อีกทั้งหาช่องทางหรือเปิดธุรกิจใหม่ๆเพื่อสร้างรายได้ เช่น การร่วมทุนกับกลุ่มพันธมิตรเปิดตัวโครงการ "Natai Medical Center & Resort" ที่จะขายแพ็กเกจให้กับนักลงทุนล่าสุดเพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขายในช่วงไตรมาส 3/2564 บริษัทได้นำโครงการ "วินแดม แกรนด์ ในหาน บีช ภูเก็ต" มาจัดโปรโมชั่น "Pay Less Get TRIPLE" ซื้อ 1 ได้ถึง 3 ต่อ คุ้มค่าเหนือทุกเงื่อนไข กับการลงทุนแบบ Unit Ownership
#3139



ดร. ทีเอ็ม โรห์ ประธานฝ่าย โมบายล์ คอมมูนิเคชัน ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ พูดถึงตลาดสมาร์ทโฟนในครึ่งปีหลัง 2021 พร้อมเผยถึงความก้าวล้ำของนวัตกรรมสมาร์ทโฟนที่ชี้ให้เห็นชัดว่ารูปแบบใหม่ของนวัตกรรมสมาร์ทโฟนกำลังเริ่มต้นขึ้นแล้ว

งาน Samsung Galaxy Unpacked เมื่อเดือนสิงหาคมในปีที่ผ่านมา ดร. ทีเอ็ม โรห์ ได้นำเสนอกลยุทธ์และความมุ่งมั่นในการส่งมอบสมาร์ทโฟนอันทรงประสิทธิภาพแก่ผู้คนให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่เราต้องการเทคโนโลยีที่ดีเพื่อการดำเนินชีวิตที่สะดวกและง่ายขึ้น จนถึงวันนี้ โลกกำลังขับเคลื่อนไปในหลากหลายรูปแบบ ทำให้ทุกคนต่างเริ่มมองหาอิสรภาพและโอกาสใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี

ในปีที่ผ่านมา ซัมซุงได้ร่วมมือกับพันธมิตรอันแข็งแกร่ง ทำให้เราสามารถส่งมอบประสบการณ์ด้านการใช้งานที่ลื่นไหลไร้รอยต่อ แต่ยังคงไว้ซึ่งความเป็นส่วนตัวและความฉลาดล้ำยิ่งกว่าที่เคย และเชื่อว่าการสร้างระบบนิเวศแบบเปิด (Open Ecosystem) จะเป็นทางเดียวที่จะเร่งกระบวนการการสร้างนวัตกรรม ให้ผู้คนมีอิสระในการสัมผัสประสบการณ์การใช้งานที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตนเองมากที่สุด


ครั้งนี้ ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ พร้อมแล้วที่จะเปิดตัว เทคโนโลยีสมาร์ทโฟน ที่สะท้อนถึงวิสัยทัศน์และเป้าหมายในการสร้างสรรค์โลกที่ดีกว่าเดิม โดยในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า จะได้พบกับ Samsung Galaxy Z Series รุ่นล่าสุด ที่จะมาปฏิวัติวงการสมาร์ทโฟนพร้อมพลิกโฉมประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ไปอย่างสิ้นเชิง


"ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ทุกท่านจะได้พบกับ Samsung Galaxy Z Series รุ่นล่าสุด ที่จะมาปฏิวัติวงการสมาร์ทโฟนพร้อมพลิกโฉมประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ไปอย่างสิ้นเชิง" ดร.ทีเอ็ม โรห์ ประธานฝ่าย โมบายล์ คอมมูนิเคชั่น ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ กล่าว

เปิดประตูสู่โลกใหม่ด้วยซัมซุง กาแลคซี่

เขา บอกว่า โลกในปัจจุบันต้องการเทคโนโลยีที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้อย่างหลากหลายและง่ายดายยิ่งขึ้น "ผู้คน" คือหัวใจสำคัญของทุกสิ่งที่แบรนด์ทำ เรารับฟังทุกความคิดเห็นของผู้ใช้เพื่อให้มั่นใจว่าดีไวซ์รุ่นใหม่เป็นนวัตกรรมที่มีความหมาย และเติมเต็มการใช้ชีวิตด้วยฟีเจอร์การใช้งานที่หลากหลาย

ไม่ว่าจะเป็น กล้องระดับมืออาชีพ หน้าจอที่ให้ภาพคมชัด สมจริง แบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องยาวนาน หรือแม้กระทั่งระบบการรักษาความปลอดภัยอันแข็งแกร่ง ที่สะท้อนให้เห็นได้ว่า ซัมซุงมุ่งเน้นที่จะมอบสิ่งที่ผู้คนต้องการอย่างแท้จริง

ระหว่างทางของการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยี เราได้ค้นพบมุมมองที่แตกต่าง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของสมาร์ทโฟนรูปแบบใหม่ อย่าง Samsung Galaxy Fold โดยหลังจากการส่งรุ่นแรกสู่ตลาด เราไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่นั้น เพราะเรายังคงพัฒนาผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้อย่างต่อเนื่อง ดังที่ทุกคนคงได้เห็นใน Galaxy Z Fold2 และ Galaxy Z Flip ที่มาพร้อมจำนวนหน้าจอที่เพิ่มขึ้น

รวมถึงฟีเจอร์อันหลากหลายที่ผู้ใช้รักและชื่นชอบ โดยทางซัมซุงยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะบอกว่าสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้ของซัมซุงในเจเนอเรชันที่ 3 นี้จะเป็นการเปิดประตูสู่โลกใหม่ของการใช้งานแบบมัลติทาส์กกิ้ง (Multitasking) ที่มาพร้อมกับความแข็งแรงทนทานที่ยอดเยี่ยมกว่าเดิม

ดินหน้าขยายพันธมิตรเพื่อมอบที่สุดแห่งประสบการณ์

การร่วมมือกับพันธมิตร คือสิ่งที่สำคัญอย่างมากโดยเฉพาะในโลกแห่งการเชื่อมต่อที่หลายคนมองหาระบบนิเวศแบบเปิด (Open Ecosystem) ที่มาพร้อมประสบการณ์การใช้งานที่ปลอดภัย สำหรับซัมซุงแล้ว นโยบาย "การเปิดกว้าง" และ "ความปลอดภัย" เป็นสองสิ่งที่อยู่คู่กันเสมอ

การจับมือกับพันธมิตรชั้นนำอย่าง Google และ Microsoft ช่วยให้สามารถส่งมอบเทคโนโลยีสมาร์ทโฟนที่ปลอดภัยและพร้อมสำหรับการใช้งานในโลกที่เชื่อมต่อกันได้ทุกที่ทุกเวลา โดยซัมซุงยังคงเดินหน้าร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อสร้างโซลูชันด้านความปลอดภัย เพื่อทำหน้าที่ดูแลอุปกรณ์และข้อมูลของผู้ใช้ในทุกขั้นตอน ทำให้ผู้ใช้สามารถจัดการแอปพลิเคชัน ข้อมูล และความเป็นส่วนตัว เพื่อออกแบบประสบการณ์ในแบบฉบับของตัวเองโดยไม่ต้องกังวลด้านความปลอดภัยอีกต่อไป

การได้ร่วมงานกับพันธมิตร ยังเป็นแรงผลักดันให้เกิดการพัฒนาแพลทฟอร์มบนอุปกรณ์สมาร์ทวอทช์ ที่ซัมซุงได้พัฒนาร่วมกับ Google ซึ่งนอกจากแอปพลิเคชันที่ทุกคนชื่นชอบอย่าง Samsung Health และ SmartThings แล้ว ยังมีแอปพลิเคชันอื่นๆ อีกมากมายบน Google Play Store อีกทั้งอินเทอร์เฟซบนหน้าปัดของ One UI Watch ใหม่นี้ยังทำงานร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ ในตระกูลกาแลคซี่ เพื่อมอบการเชื่อมต่อที่ราบรื่นระหว่างกาแลคซี่วอทช์และสมาร์ทโฟนซัมซุง

ที่สำคัญ เรายังร่วมงานกับ Google เพื่อยกระดับอีโคซิสเต็มของสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้ด้วยแอปพลิเคชันและบริการยอดนิยม ทั้งนี้ สำหรับ Galaxy Z เจเนอเรชันที่ 3 เราได้รวบรวมแอพพลิเคชันมากมายจากเหล่าพันธมิตรที่จะช่วยดึงประสิทธิภาพอันรอบด้านของรูปทรงสมาร์ทโฟนในซีรีส์นี้ ไม่ว่าจะเป็นการวิดีโอคอลแบบแฮนด์ฟรีผ่าน Google Duo การดูวิดีโอด้วย Flex Mode บน YouTube หรือการมัลติทาส์กกิ้งใน Microsoft Teams เพื่อผู้ใช้จะได้รับประสบการณ์ที่เหนือชั้นและราบรื่นกว่าที่เคย

ยุคใหม่ของนวัตกรรมสมาร์ทโฟนมาถึงแล้ว

สมาร์ทโฟน Galaxy Z Fold ที่กำลังจะเผยโฉมในครั้งนี้ ได้ผสานสุดยอดนวัตกรรมที่ดีที่สุดของสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตเข้าด้วยกัน เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่แปลกใหม่อย่างสิ้นเชิง พลิกโฉมรูปแบบการทำงาน การเชื่อมต่อสื่อสาร และการสร้างสรรค์ ในขณะเดียวกันยังมาพร้อมดีไซน์ที่ออกแบบอย่างพิถีพิถันและทนทาน ด้วยวัสดุที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และนั่นทำให้เราเชื่อว่า อุปกรณ์รุ่นใหม่นี้พร้อมแล้วที่จะตอบโจทย์ด้านเทคโนโลยียุคใหม่แห่งนวัตกรรมสมาร์ทโฟน

เราได้สร้างมาตรฐานใหม่และบุกเบิกโลกที่เต็มไปด้วยประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นให้กับผู้ใช้จำนวนมากขึ้น เราหวังว่าทุกคนจะร่วมเดินทางไปกับการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในตระกูล Galaxy Z และแชร์โมเมนต์ที่น่าทึ่งร่วมกันกับเรา ไม่ว่าจะเป็น ครั้งแรกของปากกา S Pen ที่ออกแบบมาเพื่อสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้โดยเฉพาะ ซึ่งถือเป็นการนำฟีเจอร์อันโดดเด่นของ Galaxy Note มาสู่อุปกรณ์รุ่นอื่นๆ ของซัมซุง แทนการเปิดตัวสมาร์ทโฟน Galaxy Note รุ่นใหม่ในช่วงเวลานี้
#3140

(26 ก.ค.64) เช ยอง ซอก เฮดโค้ชเทควันโดทีมชาติไทย ออกมาเปิดเผยระหว่างเดินทางจากประเทศญี่ปุ่นถึงประเทศไทยแล้วด้วยสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน SQ0726 โดยเจ้าตัวจะลงเครื่องที่จังหวัดภูเก็ตพร้อมกับ "น้องเทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ที่จะเข้าร่วมการกักตัว 14 วันในโครงการ "ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์" 

ทั้งนี้ส่วนหนึ่งระหว่างที่มีการให้สัมภาษณ์ "โค้ชเช" เช ยอง ซอก ได้พูดถึงเรื่องการขอสัญชาติไทยอีกครั้งว่า ถ้าผมมีโอกาสได้สัญชาติไทยผมก็จะทำหน้าที่ของผมเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนอะไรครับ ถ้ามีโอกาสได้ก็อยากได้ให้เร็วที่สุด (ยิ้ม)


โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 25 ก.ค.64 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความสำเร็จของนักกีฬาเทควันโดไทยในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 ซึ่งผู้ที่มีส่วนสำคัญในความสำเร็จครั้งนี้ คือ "โค้ชเช" หรือนายชเว ยอง ซอก (Mr. Choi Young Seok) หัวหน้าผู้ฝึกสอนนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย ซึ่งได้ช่วยพัฒนากีฬาเทควันโดของไทยให้ได้รับการยอมรับว่า มีความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก และถือเป็นอันดับต้นๆ ของโลกในขณะนี้ โดยมีผลงานสำคัญมากมาย ทั้งการนำทีมนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย เข้าร่วมการแข่งขันในเอเชียนเกมส์ โอลิมปิกเกมส์ และรายการแข่งขันระดับโลกอื่นๆ จนสร้างผลงานโดดเด่นได้รับเหรียญรางวัลอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ในเบื้องต้น ได้รับทราบจากการกีฬาแห่งประเทศไทย และสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย ว่า ปัจจุบัน "โค้ชเช" ถือสัญชาติเกาหลีใต้ และได้แสดงความประสงค์ที่จะเปลี่ยนมาเป็นสัญชาติไทย แต่เนื่องจากที่ผ่านมา เอกสารและหลักฐานต่างๆ ซึ่งมีจำนวนมาก อาจยังรวบรวมได้ไม่ครบถ้วน จึงได้ชะลอการยื่นขออย่างเป็นทางการไว้ก่อน แต่ทราบว่าในขณะนี้ได้เตรียมเอกสารไว้จนเกือบครบแล้ว ดังนั้นเมื่อ "โค้ชเช" เดินทางกลับถึงประเทศไทยแล้ว จะเตรียมยื่นเอกสารพร้อมหลักฐานขอสัญชาติไทยอย่างเป็นทางการ ผ่านทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อส่งต่อให้กระทรวงมหาดไทย พิจารณาต่อไป.