• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Fern751

#3181


"บลจ.เอ็มเอฟซี" ชี้ใช้โอกาสรัฐลดวงเงิน "คุ้มครองเงินฝาก" หาทางเลือกออมเงินใหม่นอกจากเงินฝาก ทำเงินส่วนเกิน1ล้านให้งอกเงย แนะคนรับความเสี่ยงต่ำ-เริ่มลงทุนในกองทุน โยกเงินเข้า "กองทุนตราสารหนี้" ตามระดับความเสี่ยง รับผลตอบแทนคาดหวัง0.1-0.75%ต่อปี

ถึงแม้ว่า ภาครัฐปรับลดวงเงิน"คุ้มครองเงินฝาก" ลง เหลือ1 ล้านบาทต่อ 1 รายผู้ฝาก ต่อสถาบัน จนหลายคนอาจเกิดความกังวลว่า เงินฝากจะได้รับความคุ้มครองจากภาครัฐเป็นจำนวนเงินลดลง

แต่จริงๆ แล้วอยากให้ผู้ลงทุนใช้โอกาสนี้ "มองหาทางเลือกในการออมเงินหรือการลงทุนที่นอกเหนือจากเงินฝาก" ที่ทำให้ได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้นและทำให้เงินก้อนของผู้ลงทุนงอกเงยได้เร็วยิ่งขึ้น

เพราะในปัจจุบันดอกเบี้ยเงินฝากให้ผลตอบแทนในระดับต่ำ และดอดเบี้ยเงินฝากยังมีความเสี่ยงที่ปรับตัวลงได้อีกจากธปท.มีโอกาสลดดอกเบี้ยอีก1ครั้งภายในปีนี้หากเศรษฐกิจชะลอตัวกว่าที่คาด


ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ! รับเลย 100,000 บาท

สร้างเงินออมงอกเงย

กับกองทุนตราสารหนี้


"เชาวน์กร โชติบัณฑ์"ผู้อำนวยการพัฒนาธุรกิจอาวุโสบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี แนะนำ การออมเงินและการลงทุน มีช่องทางที่หลากหลาย นอกเหนือจากการฝากออมทรัพย์ที่ให้อัตราดอกเบี้ยต่ำ ยังสามารถใช้"กองทุนรวมตราสารหนี้" เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือในการออมเงินและลงทุนได้  เหมาะสำหรับนักลงทุนที่เพิ่งเริ่มต้นลงทุนในกองทุนรวม

"กองทุนตราสารหนี้" เป็นกองทุนที่นำเงินของผู้ลงทุนไปลงทุนในเงินฝาก พันธบัตร และหุ้นกู้ จึงมีความเสี่ยงที่ต่ำ โดยมีทั้งกองทุนตราสารหนี้ที่กำหนดระยะเวลาลงทุนอย่าง 3 เดือน 6 เดือน หรือ 1 ปี ซึ่งมีการแจ้งประมาณการผลตอบแทนจากการลงทุนให้ทราบก่อนตัดสินใจลงทุน และกองทุนตราสารหนี้แบบที่ซื้อขายได้ทุกวันทำการ ซึ่งผลตอบแทนที่ได้รับจะขึ้นอยู่กับอัตราดอกเบี้ยในช่วงนั้นและความต้องการตราสารหนี้ว่ามีมากน้อย



เข้า 3 กองทุนตราสารหนี้

ดังนั้น ผู้ลงทุนสามารถย้ายเงินส่วนที่เกินจากความคุ้มครอง 1 ล้านบาท มาลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้แทนได้

โดยปัจจุบัน บลจ.เอ็ม เอฟซี มีกองทุนรวมตราสารหนี้แนะนำตามระดับความเสี่ยงดังนี้

1. MMGOVMF  เป็นกองทุนรวมตลาดเงิน (Money Market Fund) ความผันผวนต่ำ มีความเสี่ยงกองทุนอยู่ที่ระดับ 1 เหมาะสำหรับการลงทุนระยะเวลา 1-3 เดือน และมีผลตอบแทนความหวัง 0.10% ต่อปี

2. MMM-PLUS เป็นกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้น (Short-Term Fixed-Income Fund) ความผันผวนปานกลาง มีความเสี่ยงกองทุนอยู่ที่ระดับ 4 เหมาะสำหรับการลงทุน 3-6 เดือนขึ้นไป และมีผลตอบแทนความหวัง 0.60% ต่อปี

3. SMARTMF กองทุนรวมตราสารหนี้ระยะยาว (Long-Term Fixed-Income Fund) ความผันผวนปานกลางค่อนข้างสูง มีความเสี่ยงกองทุนอยู่ที่ระดับ 4เหมาะสำหรับการลงทุน 6 เดือนขึ้นไป และมีผลตอบแทนความหวัง 0.75% ต่อปี

ย้ำควรศึกษาก่อนตัดสินใจลงทุน

อย่างไรก็ตาม"ข้อควรระวัง"ก็คือ การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
#3182


เพจเฟซบุ๊ค Trash Hero Thailand รณรงค์ให้ใช้มาสก์แบบใช้ซ้ำแทนมาสก์แบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง เพื่อลดปัญหาต่อสังคม สุขภาพ และสิ่งแวดล้อม โดยระบุถึงปัญหาที่เกิดขึ้น "ใช้ครั้งเดียว=ภัยสามต่อ" พร้อมอธิบายว่า

ทุกคนรู้ดีว่าหนึ่งในมาตรการหลักที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการควบคุมการแพร่กระจายของไวรัส COVID-19 คือการใช้หน้ากากหรือมาสก์หน้า วางอยู่เหนือจมูกและปาก เพื่อป้องกันละอองฝอยเข้าทางเดินหายใจซึ่งส่งเชื้อไวรัส และหยุดการแพร่กระจายไปยังผู้อื่น

หน้ากากมีหลายประเภท แต่เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่าช่วยป้องกันการแพร่กระจายของไวรัส COVID-19 คือการใช้หน้ากากอนามัยที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง ทั้งที่จริงถ้าเราอยู่ภายนอกสถานที่กักกันโรค โรงพยาบาล แหล่งแพร่ระบาด ไม่ได้เป็นบุคลากรทางการแพทย์ที่อยู่ด่านหน้า การใช้หน้ากากแบบผ้าก็สามารถใช้ป้องกันความปลอดภัยในระดับที่ยอมรับได้ และไม่จำเป็นต้องใช้หน้ากากอนามัยแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง

ทั่วโลกเราใช้มาสก์แบบใช้ครั้งเดียวทิ้งประมาณ 129 พันล้านชิ้นทุกเดือน สมมติว่าแต่ละรายการมีน้ำหนัก 4 กรัม นั่นคือ 516,000 เมตริกตันของขยะอันตรายที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้ ซึ่งเกิดขึ้นทุกๆ 30 วัน หากมีเพียง 1% ของสิ่งนี้กลายเป็นขยะ (ประมาณการแบบอนุรักษ์นิยม) นั่นหมายความว่าหน้ากาก 23 พันล้านชิ้นได้เข้าสู่แม่น้ำ มหาสมุทร และป่าไม้ของเราในช่วง 18 เดือนนับตั้งแต่เกิดโรคระบาด และแน่นอนว่ายังมีของเสียปนเปื้อนเพิ่มเติมอีกหลายแสนตันสำหรับเทศบาล ชุมชนที่จะจัดการ สมมติว่าพวกเขามีความสามารถที่จะทำเช่นนั้นได้

สถิติดังกล่าวเป็นปัญหาน่าวิตก ซึ่งจากประสบการณ์ของแทรชฮีโร่ในการทำความสะอาดทั่วโลกในปี 2020 และ 2021 ตามบทบาทของแทรชฮีโร่ ที่วางระบบบันทึกจำนวนมาสก์แบบใช้ครั้งเดียว และ PPE อื่นๆ ทุกสัปดาห์ในระดับเครือข่าย เพื่อจะสร้างความตระหนักเกี่ยวกับปัญหาที่พวกเรามองว่าเป็นภัยคุกคามสามประการของมาสก์แบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง

ข้อมูลอ้างอิง https:// trashhero.org/single-use-mask-pollution/,Trash Hero Thailand
#3183


อย่างที่รู้กันอยู่ว่าทุกวันนี้การสำรวจเรตติ้งในประเทศเรานั้น ที่ได้ยินกันบ่อยๆ และมักจะเอามาอ้างอิงในศึกชิงความเป็นหนึ่งในสมรภูมิหน้าจอทีวีนั้น มักจะอ้างอิงตัวเลขมาจาก "นีลเส็น (Nielsen)" บริษัทวัดเรตติ้งเพื่อการตลาด ซึ่งตัวเลขเหล่านั้นก็จะส่งผลให้เอเจนซี่สามารถนำไปตัดสินใจว่าจะเทเม็ดเงินโฆษณานั้นลงไปให้กับช่องใดบ้าง เพราะถ้าพูดถึงว่าเรตติ้งดีเท่าไหร่ งบโฆษณาในแต่ละไตรมาสก็จะเทมามากเท่านั้น จึงไม่แปลกใจว่าทำไมช่อง 7HD ถึงยืนหนึ่งในเรื่องเรตติ้ง

แต่หลังจากพฤติกรรมคนดูในบ้านเราได้เปลี่ยนไป แม้ทีวีจะยังเป็นสื่อหลักในการเข้าถึงทุกบ้าน แต่ "สื่อออนไลน์" ก็เติบโตแบบก้าวกระโดดเช่นกัน เลยทำให้ผู้ชมบางส่วนดูผ่านออนไลน์ตามแพลตฟอร์มต่างๆ ซึ่งก็มีให้เลือกสรรตามความชอบและความพึ่งพอใจของแต่ละบุคคล จึงทำให้หลายช่องก่อนหน้านี้ ลงทุนให้ "นีสเส็น" จัดตั้งโครงการวัดเรตติ้งทางออนไลน์ซึ่งไม่รวมกับการวัดเรตติ้งจากจอทีวี โดยเริ่มตั้งแต่ต้นปี 60 ซึ่งมีทีวีดิจิตอลช่องต่างๆ เข้าร่วมอาทิ ช่อง 7, เวิร์คพอยท์ ทีวี, ไทยรัฐทีวี, ช่อง 3

ล่าสุด "สมาคมทีวีดิจิตอล" ได้ยื่นเสนอโครงการขอสนับสนุนงบประมาณ 288.8 ล้านบาท จาก กสทช.ก็ผ่านการพิจารณาอนุมัติและเซ็นสัญญาบันทึกความเข้าใจร่วมกันแล้ว โดยมี "นีลเส็น (Nielsen)" เป็นผู้รับจ้างสมาคมฯ ทำการสำรวจแบบข้ามแพลตฟอร์ม (Cross Platform) เพื่อให้ได้ผลความนิยมทั้งจากการรับชมแบบเดิมผ่านหน้าจอทีวีและการรับชมแบบใหม่ผ่านจอออนไลน์ ในกรอบระยะเวลา 4 ปี โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือนสิงหาคมนี้เป็นต้นไป และแปลตามความเข้าใจแบบชาวบ้านง่ายๆ คือครั้งนี้จะเป็นการวัดเรตติ้งจากแพลตฟอร์มที่เป็นออนไลน์เกือบทั้งหมด เพราะนอกจากจะวัดผลจากหน้าจอทีวีแล้ว ในส่วนของหน้าจอออนไลน์ที่ออกอากาศแบบ streaming สดพร้อมกัน (ไม่นับการดูย้อนหลังแบบ VOD video on demand ) เพื่อรายงานผลเรตติ้งแบบ total rating เป็นครั้งแรกอย่างเป็นทางการอีกด้วย โดยในครั้งนี้จะเป็นการวัดทุกช่อง ทุกแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งจะทำไปพร้อมๆ กันทั้งอุตสาหกรรมทีวีบ้านเรา

โดย "สุภาพ คลี่ขจาย" นายกสมาคมโทรทัศน์ระบบดิจิตอล(ประเทศไทย) ได้เปิดเผยถึงรายละเอียดของโครงการนี้ว่า "เป็นโครงการที่สมาคมฯ ผลักดันอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่าสองปี นับตั้งแต่มีประกาศตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 4/2562 (ม.44) ด้วยเล็งเห็นถึงความสำคัญของผลการสำรวจความนิยมของผู้ชมเป็นตัวแปรสำคัญในการดำเนินธุรกิจและพัฒนาคุณภาพรายการของผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลซึ่งเป็นสื่อหลักของชาติ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมของสังคมที่เปลี่ยนไปตามเทคโนโลยีและพฤติกรรมของผู้ชมทั้งผ่านจอทีวีและจอออนไลน์ โดยโจทย์สำคัญคือ จะทำอย่างไร ? ให้เกิดความน่าเชื่อถือ แม่นยำ และสามารถตรวจสอบความโปร่งใสในที่มาของกลุ่มตัวอย่างและระเบียบวิธีวิจัยในมาตรฐานสากล เพื่อให้ผู้ประกอบการนำไปพัฒนารูปแบบรายการ และมีเดียเอเจนซีผู้นำไปใช้ประโยชน์วางแผนในการซื้อสื่อโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ซึ่งสาระสำคัญในการสำรวจความนิยมโทรทัศน์แบบใหม่นี้ จะขยายหน่วยตัวอย่างที่ใช้เป็นพื้นฐานพัฒนาเรตติ้งรายการ จากเดิม 9,000 ตัวอย่าง เป็น 13,000 ตัวอย่าง ควบคู่กับการพัฒนาโปรแกรมการสำรวจ (Software) ระบบใหม่ ซึ่งจะนำไปสู่การวัดความนิยมของรายการโทรทัศน์แบบข้ามแพลตฟอร์ม (Cross Platform) ทั้งจากหน้าจอทีวีภาคพื้นดินและหน้าจอของแพลตฟอร์มออนไลน์ การสำรวจความนิยมรายการโทรทัศน์แบบข้ามแพลตฟอร์มนี้ เป็นเทคโนโลยีระบบการวิจัยล่าสุดที่ นีลเส็น ได้พัฒนาและเริ่มใช้แล้วในประเทศสหรัฐอเมริกา และเป็นที่ยอมรับในหลายประเทศทั่วโลก ล่าสุดได้ทำการติดตั้งระบบที่ประเทศเดนมาร์ก และซาอุดิอาระเบีย ประเทศไทยถือเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่จะใช้ระบบการวัดทีวีเรตติ้งแบบใหม่นี้"

และการวัดเรตติ้งในครั้งนี้ทั้งทางหน้าจอทีวี และทางแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างนั้นๆ จะถือได้ว่าเป็นทางการ โดยตัวเลขที่ได้มานอกจากจะการันตีให้รายการในช่องต่างๆ แล้ว แต่สิ่งสำคัญที่จะทำให้เอเจนซี่ใช้ไปประกอบการตัดสินใจในการซื้อโฆษณา โดยอาจจะซื้อโฆษณาแบบเป็นแพ็กเกจพร้อมกันทั้งหน้าจอทีวี แพลตฟอร์มออนไลน์ นี่ก็ถือได้ว่าจะทำให้เม็ดเงินในอุตสาหกรรมทีวีบ้านเราเติบโตคักคักอีกครั้ง หลังจากต้องเผชิญปัญหาโควิดอยู่ ณ ตอนนี้
#3184


ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) เผยว่า จากที่ธนาคารได้ดำเนินมาตรการช่วยเหลือแบ่งเบาภาระลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากการยกระดับป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ของทางการ ผ่านมาตรการพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย 2 เดือน โดยเปิดให้แจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการ ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา และกำหนดปิดรับแจ้งความประสงค์ในวันที่ 15 สิงหาคม 2564 นี้

ทั้งนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าธนาคารเข้าถึงมาตรการได้ครอบคลุมทั่วถึงยิ่งขึ้น ธนาคารได้ขยายระยะเวลาแจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย 2 เดือน ออกไปจนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2564 นี้ โดยลูกค้าธนาคารสามารถแจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการได้ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ ของธนาคาร เช่น เว็บไซต์ https://www.smebank.co.th , LINE OA : SME Development Bank และแอปพลิเคชัน SME D Bank ดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ IOS และ Android เป็นต้น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Call Center 1357
#3185


นับเป็นก้าวสำคัญที่แฟน.ชาวไทยต้องติดตามด้วยใจระทึก เมื่อ ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร กองกลางดาวรุ่งชาวไทย ได้รับโอกาสจาก เลสเตอร์ ซิตี ให้ติดทีมชุดใหญ่สำหรับลุยศึก พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ซีซัน 2021/22 อย่างเป็นทางการ

พลพรรค "สุนัขจิ้งจอก" ทำการประกาศรายชื่อนักเตะชุดใหญ่ที่จะลงเตะ พรีเมียร์ ลีก ซีซันนี้ ซึ่งปรากฏว่า มีชื่อของ "เจ้ากัน" ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร เป็น 1 ใน 30 คนของทีมชุดนี้ ซึ่งจะได้สวมใส่หมายเลข 48 สำหรับการเล่นอาชีพ

ก่อนหน้านี้ ธนวัฒน์ ได้รับโอกาสลงเล่นให้กับ "เดอะ ฟ็อกซ์" ในเกมอุ่นเครื่องปรีซีซัน และทีมชุด U-23 เป็นการชิมลางมาแล้ว ก่อนได้รับการยอมรับจาก เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีม ให้ขยับมาเตะทีมชุดใหญ่ได้ในที่สุด

สำหรับ เลสเตอร์ ซิตี จะประเดิมศึก พรีเมียร์ ลีก นัดแรกเจอ วูล์ฟแฮมตัน ที่สนาม คิง เพาเวอร์ สเตเดียม คืนวันที่ 14 สิงหาคม นี้
#3186


เมื่อภาคธุรกิจไม่ปล่อยให้ "วิกฤติ" โควิด-19 สูญเปล่า นำมาเป็น "บทเรียน" ปรับตัว สร้างสรรค์โมเดลใหม่ๆ ต่อลมหายใจกิจการ ยิ่งร้านอาหาร พยายามปั้นจิ๊กซอว์ สู่การเติบโต "โม โม พาราไดซ์" คิดใหม่ มองเงินสดไหลออก คือการลงทุนเพื่ออนาคต

วิกฤติโควิด-19 ระบาด รับงัดไม้แข็งบริหารจัดการไว้รัส มีคำสั่งเข้มงวดกับธุรกิจ"ร้านอาหาร"  รอบแรกเจอการ  "ล็อกดาวน์" ถ้วนหน้า ผู้ประกอบการเดือดร้อนเท่ากัน แต่ล่าสุด การห้ามร้านที่มีสาขาในห้างค้าปลีกเปิดบริการนั่งรับประทาน(Dine-in) ห้ามซื้อกลับบ้าน(Takeaway) ทำได้แค่ "เดลิเวอรี่" เท่านั้น เป็นการปิดตายยอดขายอย่างสิ้นเชิง 

"โม โม พาราไดซ์" ร้านชาบูชาบูและสุกี้ยากี้จากญี่ปุ่น ซึ่งมีสาขาทั้งหมดอยู่ในห้างค้าปลีก รับผลกระทบเต็มๆ และการปรับตัวทางธุรกิจไม่ง่าย แต่ไม่ทำย่อมไม่ได้ เพราะนั่นหมายถึงการสูญเสียโอกาสทำเงิน แม้มีอยู่เพียงน้อยนิด   

สุรเวช เตลาน เจ้าของร้านโม โม พาราไดซ์ บอกเล่าประสบการณ์ทำธุรกิจร้านอาหารในช่วงเวลาวิกฤติผ่านงานสัมมนาออนไลน์ "เปิดสูตรลับ!! ปรับกลยุทธ์ ธุรกิจอาหารต้องรอด" ว่า โม โมฯ มีร้านทั้งสิ้น 20 สาขา มีแบรนด์น้องใหม่ที่ยังไม่โปรโมทสร้างแบรนด์ และร้านอาหารพรีเมี่ยมอีก 2 สาขา แต่ผลกระทบการล็อกดาวน์ล่าสุด บริษัทต้องปิดให้บริการโมโมฯ 100% ถือว่าได้รับผลกระทบหนักมาก โดยยอดขายที่เคยมี ปัจจุบันทำได้เพียง 3-5% เท่านั้น สวนทางกับภาระค่าใช้จ่ายที่ไหลออกทุกวัน โดยเฉพาะต้นทุนคงที่จากการจ้างงาน ที่มีพนักงานนับ "ร้อยชีวิต"  

นอกจากนี้ ร้านอาหารมีวัตถุดิบเป็นของสดจำนวนมาก โดยเฉพาะ "ผักสด" ซึ่งมีการสูญเสียมากสุด เมื่อปิดให้บริการ จึงกระทบต้นทุนอย่างมาก 

สำหรับธุรกิจร้านอาหารถือว่ามีความโดดเด่นด้านการทำเงินหรือรายได้เข้ามา โดยแต่ละวันผู้ประกอบการจะได้รับเงินสดเข้ามาเต็มเม็ดเต็มหน่วย ส่วนค่าวัตถุดิบจะเป็นการนำผัก อาหารสดต่างๆมาใช้ก่อน แล้วจ่ายให้กับคู่ค้าซัพพลายเออร์ภายหลังหรือเครดิตเทอมนั่นเอง 


ทว่า ร้านอาหารจำนวนไม่น้อยที่ "ขายดีจนเจ๊ง" เนื่องจากผู้ประกอบการสนใจเพียงงบ "กำไร-ขาดทุน" เท่านั้น ไม่ดู "งบดุล" หรือสถานะทางการเงิน ไม่พิจารณารายจ่ายที่ออกไปแต่ละวัน เดือนมีมากแค่ไหน ซึ่งตามหลักการควรให้ความสำคัญ 3 ส่วนทั้ง กระแสเงินสด งบดุล งบกำไรขาดทุนใหถี่ถ้วน

นอกจากนี้ ในภาวะวิกฤติโควิด-19 ระบาด การตระหนักด้าน "การเงิน" ต้องเพิ่มทวีคูณ โดยเฉพาะกระแสเงินสดที่ไหลออก แต่ไม่มีรายรับเข้ามายังร้าน อย่างไรก็ตาม ห้วงเวลายากลำบากนี้ การบริหารสภาพคล่องเป็นเรื่องยากมาก แต่อยากให้ผู้ประกอบการมองเงินสดที่ไหลออกในเวลานี้ต่อยอดธุรกิจในอนาคตให้ได้ 

"การจัดการเงินสด หมุนเงินตอนนี้ลำบากมาก แต่บริษัทให้ความสำคัญในการบริหารอย่างเหมาะสมมาก่อนแล้ว หลักการง่ายๆคือต้องมีเงินเข้ามากกว่าออก ไม่ใช่ขายดี แล้วร้านจะฟุ่มฟือยเต็มที่จนเกิดปัญหาต้องมีทุนสำรองไว้ ส่วนท่ามกลางสถานการณ์โควิดระบาด มองอนาคตร้านอาหารจะมีทิศทางที่ดีขึ้น เงินที่ไหลออกเวลานี้ให้มองเป็นสิ่งที่ต่อยอดธุรกิจในอนาคตให้ได้หรือเป็น Investing clash flow เพื่อเดินต่อไปข้างหน้า เช่น โม โมฯ ที่ลุกขึ้นมาลุยบริการเดลิเวอรี่ได้จริง จากเดิมไม่คิดจะทำ เพราะไม่เหมาะกับบุฟเฟ่ต์ ที่ต้องมอบประสบการณ์ให้ผู้บริโภคทานในร้าน แต่จากการปรับตัวเดลิเวอรี่ สามารถสร้างยอดขายได้เท่ากับร้าน 1 สาขา รวมถึงการลงทุนขยายบริการส่งโมโม พาราไดซ์ทั่วไทยด้วย" 

ทั้งนี้ สุรเวช ย้ำว่า ร้านชาบูบุฟเฟต์ไม่โจทย์และไม่จำเป็นต้องมีบริการเดลิเวอรี่ แต่การล็อกดาวน์ครั้งแรก ทำให้บริษัทต้องปรับตัว ทดลองปรับเมนู รักษาคุณภาพอาหาร การบรรจุภัณฑ์ การควบคุณอุณหภูมิอาหาร รวมถึงใช้พันธมิตรในการขนส่ง ฯ เพื่อให้มาตรฐานยังทียบเท่าที่ร้านสูงสุด 

นอกจากนี้ ยังเปิดบริการโม โม พาราไดซ์ ส่งทั่วไทยไปเคียงข้างคุณ เพื่อเสิร์ฟชาบูให้กับลูกค้าทั่วประเทศไทยภายในระยะเวลา 2 วัน ซึ่งปัจจุบันเกือบครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายทั้ง 77 จังหวัดแล้ว 

การพลิกหาโมเดลธุรกิจและบริการใหม่ๆ ตอบโจทย์ผู้บริโภค ไม่เพียงพอที่จะอยู่รอดในวิกฤติ จึงย้ำให้ผู้ประกอบการร้านอาหารบริหารค่าใช้จ่ายให้ดี คุมต้นทุนเพื่อให้ร้านอยู่ให้ได้ รักษาคนให้ได้ดีที่สุด 

"เราโชคดีที่มีเงินทุนสำรอง เพื่อดูแลบริษัทไปได้ ส่วนจะยาวนานแค่ไหนตอบยาก แต่ละคนขึ้นอยู่กับสายป่านสั้นยาว สามารถพยุงตัวเองได้ไม่เท่ากัน แต่เรายังมุ่งลดต้นทุนให้ต่ำสุด เพราะยังไงต้องเผชิญขาดทุน แต่เชื่อว่าร้านอาหารยังมีแสงสว่างปลายอุโมงค์ วิกฤติโรคโควิดไม่อยู่ไปตลอด ตอนนี้ต้องทำยังไงให้มีลมหายใจยาวสุด" 
#3187
ราคาขาย 2,250,000บาท
ติดต่อ 089.528.3520 เชน
แอทไลน์ 094.434.4034 จุ๋ม

ขายทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น ซอยเรวดี 57 แยก 1 ใกล้ 7-11 เดินนิดเดียว


บ้าน 16 ตารางวา 

พื้นที่ใช้สอย 120 ตารางเมตร

บ้าน 2 ชั้น 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ

ที่ตั้ง บ้านเลขที่ 29 เรวดี ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ. นนทบุรี 

แอร์ 3 จอดรถได้ 2 คัน

ใกล้เซ็นทรัล เดอะมอล บิ๊กซี โลตัส ทำเลดีเดินทางสะดวก

ราคาขาย 2,250,000บาท
ติดต่อ 0895283520 เชน
แอทไลน์ 0944344034 จุ๋ม

---------------------------------------------------------

Selling price 2,250,000 baht
Contact 089.528.3520 Chain
Atline 094.434.4034 Jum

2 storey townhouse for sale, Soi Rewadee 57, Intersection 1, near 7-11, a little walk

House 16 square wah

Usable area 120 square meters

2 storey house, 2 bedrooms, 2 bathrooms

Location: House No. 29 Rewadee, Talat Khwan Subdistrict, Mueang District, Nonthaburi Province

Air conditioner 3, can park 2 cars

Near Central, The Mall, Big C, Lotus, good location, convenient to travel.

Selling price 2,250,000 baht
Contact 0895283520 Chain
Atline 0944344034 Jum

https://www.prakard.com/viewtopic.php?f=55&t=7839018


























#3188


ศึกกอล์ฟ พีจีเอ ทัวร์ รายการ วินด์แฮม แชมเปียนชิพ ชิงเงินรางวัลรวม 6.4 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 212 ล้านบาท) ณ สนาม เซดเกฟิลด์ คันทรี คลับ ระยะ 7,127 หลา พาร์ 70 สหรัฐอเมริกา เปิดฉากการแข่งขันวันแรกไปแล้ว

ปรากฏว่าผู้นำวันแรกคือ รัสเซลล์ เฮนลีย์ สวิงเจ้าบ้านที่ฟอร์มยอดเยี่ยม ตี 6 เบอร์ดีกับ 1 อีเกิล แบบไม่ผิดพลาด ก่อนจบวันสกอร์กินเต็ม 8 อันเดอร์พาร์ เหนือกว่าอันดับ 2 ร่วมซึ่งมีถึง 7 คนอยู่ 2 สโตรก

ด้านของ "โปรอาร์ม" กิรเดช อภิบาลรัตน์ มือ 550 ของโลก และหนึ่งเดียวจากไทยในรายการนี้ ลงสนามตี 6 เบอร์ดี เสีย 2 โบกี จบวันสกอร์ 4 อันเดอร์พาร์ อยู่อันดับ 19 ร่วม

ส่วน จิม เฮอร์แมน แชมป์เก่าชาวอเมริกัน เปิดตัวไม่สวยตีเกิน 2 โอเวอร์พาร์ วันแรกจบที่อันดับ 143 ร่วม
#3189


การประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ครั้งที่ 2/2564 เมื่อเร็วๆนี้ ได้หารือประเด็น โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ในส่วนของท่าเทียบเรือ Fตาม มติคณะรัฐมนตรี ( ครม.) เมื่อวันที่ 7 เม.ย.2564 อนุมัติผลประโยชน์ตอบแทนทางการเงินที่ภาครัฐได้รับจากโครงการฯ เป็นค่าสัมปทานคงที่ คิดเป็นมูลค่าปัจจุบัน 29,050 ล้านบาท และค่าสัมปทานผันแปรที่ 100 บาทต่อ TEU (หน่วยนับตู้คอนเทนเนอร์ซึ่งมีขนาด 20 ฟุต) 

โดยคณะกรรมการคัดเลือกฯ ในการประชุมเมื่อวันที่ 20 เม.ย.2564 ได้มีมติให้กลุ่มกิจการร่วมค้า GPC เป็นผู้ผ่านการประเมินข้อเสนอซองที่ 4 ได้เจรจาผลตอบแทนเพิ่มเติม อาทิ เอกชนตกลงเพิ่มเงื่อนไขการสร้างท่าเรือ F2 ให้เร็วขึ้น หากแนวโน้มตู้สินค้าเพิ่มขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้ เอกชนจะสมทบเงินเข้ากองทุนเยียวยาความเสียหาย ในอัตรา 5,000 บาท/ไร่/ปี  

ทั้งนี้ ได้ข้อตกลงในร่างสัญญาเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการพิจารณาจากสำนักงานอัยการสูงสุด โดยจะเร่งนำเสนอ ครม. พิจารณา และลงนามสัญญาต่อไป

'สุพัฒนพงษ์' ตรวจเยี่ยมหน่วยตรวจคัดกรองโควิด-19 ของกลุ่ม ปตท.

วันนี้ (12 ส.ค. 2564) นายสุพัฒนพงษ์  พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายอรรถพล  ฤกษ์พิบูลย์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) พร้อมคณะผู้บริหารลงพื้นที่หน่วยตรวจคัดกรองโควิด-19 โครงการลมหายใจเดียวกัน กลุ่ม ปตท. ณ อาคาร EnCo Terminal (Enter) ถ.วิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ  เพื่อติดตามผลการดำเนินงานภายหลังจากที่ได้เปิดหน่วยตรวจฯ พร้อมโรงพยาบาลสนามครบวงจร (End-To-End) กลุ่ม ปตท. อย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ที่ผ่านมา

โดยหน่วยตรวจคัดกรองฯ แห่งนี้ เปิดให้ประชาชนทั่วไปสามารถลงทะเบียนล่วงหน้าเพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 ผ่านแอปพลิเคชัน QueQ  โดยจะสามารถรองรับได้ 1,500 -2,000 คนต่อวัน   โดยหากตรวจพบว่าเสี่ยงติดเชื้อจะนำส่งตรวจ RT-PCR และ X-ray ต่อไป 
#3190


ณัฎฐา คหาปนะ รองกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าสำนักงานไนท์แฟรงค์ ภูเก็ต บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด รายงานภาพรวมตลาดคอนโดพื้นที่ "ชะอำ-หัวหิน-เขาเต่า" ช่วงครึ่งแรกของปี 2564 ชะลอตัวต่อเนื่องจากปี 2563 ทั้งอุปสงค์และอุปทานโครงการใหม่ เนื่องจากโควิด-19 กลับมาแพร่ระบาดระลอก 3 และการกระจายวัคซีนยังไม่ทั่วถึงส่งผลให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่ระมัดระวังการลงทุนหันมาสำรองเงินสดสำหรับการใช้จ่ายในสิ่งที่เร่งด่วนและมีความจำเป็นก่อน

โดยช่วงครึ่งปีแรก 2564 คอนโดบริเวณชะอำ-หัวหิน-เขาเต่า มียูนิตขายแล้ว 23,605 ยูนิต จากอุปทานทั้งหมด 27,919 ยูนิต คิดเป็นอัตราการขาย 85% เทียบเท่าปี 2563 เนื่องจากอุปสงค์ส่งสัญญานชะลอตัวลงเพราะถูกซ้ำเติมด้วยโควิด-19 ระลอกใหม่ ขณะที่โครงการที่อยู่ระหว่างการขายบางแห่งอยู่ในช่วงโปรโมชั่นเร่งระบายแบ็คล็อกเพื่อรักษากระแสเงินสด โดยหน่วยเหลือขายในปัจจุบันมีจำนวน 4,314 ยูนิต

"ครึ่งปีแรกมียูนิตขาย 280 ยูนิต ค่อนข้างน้อยและคาดว่าจำนวนหน่วยขายได้ใหม่ทั้งปีจะลดลงต่อเนื่องจากปีก่อนหน้า เนื่องจากกลุ่มผู้ซื้อหลักเหลือเพียงกลุ่มคนที่ถือเงินเย็นซึ่งไม่จำเป็นต้องรีบตัดสินใจ ขณะที่ช่วง 5 ปีก่อน ขายได้เฉลี่ยปีละ 1,600 หน่วย สถานการณ์เช่นนี้ผู้ประกอบการจึงชะลอการเปิดโครงการใหม่ เน้นการศึกษาวิจัยตลาดเพื่อโฟกัสจุดขายที่แม่นยำตั้งแต่ก่อนตัดสินใจลงทุนซื้อที่ดิน "

สำหรับราคาเสนอขายเฉลี่ยของคอนโดวิวทะเล "ทรงตัว" จากช่วงปลายปี 2563 ระดับราคาเสนอขายเฉลี่ย 130,608 บาท/ตารางเมตร และพบราคาแตกต่างกันพอสมควร เช่น โครงการหน้ากว้าง ที่ดินติดชายหาดโซนหัวหินหรือเขาตะเกียบ อยู่ใกล้แหล่งสิ่งอำนวยความสะดวก และบริหารโดยเชนโรงแรม สามารถตั้งราคาได้ตารางเมตรละ 160,000-360,000 บาท ซึ่งการบริหารโดยเชนโรงแรมที่มีชื่อเสียงจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นในมาตรฐานการบริการและบำรุงรักษาระยะยาวได้ดี โดยลักษณะการตั้งราคาในโครงการระดับนี้จะแบ่งเป็นโซน เช่น โซนที่ไม่เห็นวิวทะเล ราคาประมาณ 160,000 บาท โซนวิวทะเล 45 องศา 200,000-250,000 บาท และโซนใกล้ชายหาดและได้วิวทะเล 180 องศา 300,000-360,000 บาท เป็นต้น

"ส่วนราคาเสนอขายโดยเฉลี่ยคอนโดที่ไม่มีวิวทะเล 71,928 บาท ลดลงเล็กน้อยจากปลายปี 2563 และยังสามารถต่อรองได้อีกเมื่อพร้อมวางเงินจอง เนื่องจากผู้ประกอบการต้องการเร่งปิดโครงการ โดยนำบางส่วนมาทำโปรโมชั่นลดราคา ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นโครงการที่เปิดขายมานานและสร้างเสร็จแล้ว"


ณัฎฐา กล่าวว่า แนวโน้มตลาด คอนโดวิวทะเลยังขายได้ต่อเนื่อง แต่จำนวนห้องอาจไม่สูงนัก ซึ่งถือเป็นปกติของตลาดระดับไฮเอนด์ ลักษณะกลุ่มผู้ซื้อเป็นคนที่มีฐานะดี ระดับผู้บริหารหรือเจ้าของกิจการ ที่มีเงินเย็นนิยมลงทุนในอสังหาฯ เมืองตากอากาศ โดยเฉพาะโครงการที่ติดชายหาดหัวหินหรือเขาตะเกียบซึ่งปัจจุบันแทบไม่มีที่ดินเหลือสำหรับพัฒนาแล้ว ส่งผลให้ราคามีโอกาสสูงขึ้นตามปริมาณอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่อุปทานจำกัด

"ส่วนกลุ่มคอนโดที่ไม่ติดวิวทะเลคาดว่ายอดขายยังคงชะลอตัวและผู้ประกอบการที่มีหน่วยคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จเหลือขายจำนวนมาก จำเป็นต้องเร่งทำโปรโมชั่นเพื่อปิดโครงการให้เร็วที่สุดเพื่อลดความเสี่ยงจากค่าใช้จ่ายในการบริหารโครงการ"

และหากสถานการณ์เกี่ยวกับการระบาดกลับเข้าสู่สภาวะปกติ โอกาสที่ชาวไทยและชาวต่างชาติจะกลับมาซื้อคอนโดพื้นที่ชะอำ-หัวหิน-เขาเต่า จะเพิ่มขึ้น เพราะนอกจากเป็นการซื้อที่อยู่อาศัยในลักษณะ Workation หรือลงทุนไว้ปล่อยเช่ารองรับสถานการณ์การท่องเที่ยวที่เตรียมพลิกฟื้นจากการกลับมาเปิดประเทศในปี 2565 แล้ว ยังเป็นสถานที่สำหรับคนที่ต้องการหาที่อยู่อาศัยที่ปลอดภัยและหลบหลีกจากสถานการณ์โรคระบาดที่อาจเกิดขึ้นได้อีกในอนาคต

และตลาดคอนโดในหัวหินจะเป็นหนึ่งในสถานที่เป้าหมายเพราะอยู่ใกล้กรุงเทพฯ ใช้เวลาเดินทางไม่นาน มีสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับ
#3191


นงชนก สถานานนท์ ผู้ช่วยรองประธานบริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท เอสแอล อาร์ ที จำกัด (ซิซซ์เล่อร์) กล่าวว่า เทศกาลวันแม่ในปีนี้ "ซิซซ์เล่อร์" ขอเป็นส่วนหนึ่งในการแบ่งปันความรัก เป็นตัวแทนให้ลูกบอกรักแม่ ผ่านเซตเมนูที่รังสรรค์เป็นพิเศษต้อนรับเทศกาลวันแม่โดยเฉพาะ

กับเซตเมนู "แฮปปี้ มาเธอส์ เดย์" 2 เมนูพรีเมี่ยมที่คัดสรรวัตถุดิบมาจัดทำเป็นเมนูเพื่อสุขภาพสำหรับคุณแม่เป็นตัวแทนแห่งความสุข ส่งต่อความอร่อยจากเมนูสุขภาพจากคุณลูกสู่คุณแม่ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 กับบริการ เดลิเวอร์รี่ 1112 ที่พร้อมเสิร์ฟความอร่อย และส่งความรักให้คุณแม่ถึงบ้านในวันแม่ หรือจะเต็มอิ่มกับการพาแม่มาอร่อยเน้น ๆ ได้แล้วที่ ซิซซ์เล่อร์ทั้ง 11 สาขาทั่วประเทศ

สำหรับ 2 เซตเมนูพรีเมี่ยม "แฮปปี้ มาเธอร์ เดย์ (Happy Mother's Day)" 

เมนูแรก "สเต๊กพล่ากุ้งแม่น้ำไซส์จัมโบ้ เสิร์ฟพร้อมข้าวผัดต้มยำกุ้ง" หนึ่งในเมนูสมุนไพรของคนรักสุขภาพที่ให้ความอิ่มอร่อยกับกุ้งแม่น้ำเนื้อแน่นตัวโตย่างร้อน ๆ มันเยิ้ม ๆ หอมตะไคร้ใบมะกรูด คลุกเคล้ากับน้ำยำพล่าเปรี้ยวลงตัวและเครื่องผักสมุนไพรหลากชนิด ให้รสชาติอร่อยเข้มข้น เผ็ดร้อนจัดจ้าน เสิร์ฟพร้อมกับข้าวผัดต้มยำมันกุ้งรสเด็ดให้ความอร่อยแซ่บหอมมันส์สไตล์ไทย


เมนูที่สอง "สเต๊กปลาเรนโบว์เทราต์จากโครงการหลวง" ที่มาพร้อมสเต๊กปลาจากวัถตุดิบคุณภาพระดับพรีเมี่ยมจากโครงการหลวงที่ปรุงรสและย่างให้สุกกำลังดีเพื่อให้ได้ลิ้มรสชาติของปลาเนื้อแน่น รสหวาน ที่อุดมไปด้วยกรดไขมัน โอเมก้า 3 สูง ดีต่อสุขภาพ พร้อมเสิร์ฟสไตล์ฝรั่งเศส พร้อมไส้เบคอน ผักโขม เพิ่มความอร่อยด้วยมันฝรั่งอบเลมอนบัตเตอร์ หอมละมุน จากทานคู่กับซอสสไปซี่เพสโต้ หรือซอสดิล ก็อร่อยลงตัว

สำหรับคุณลูกที่อยากบอกรักส่งความสุขและเสิร์ฟความอร่อยให้คุณแม่ในวันแม่ปีนี้สามารถสั่งเซตเมนู "แฮปปี้ มาเธอส์ เดย์" อิ่มคุ้มได้กับ 2 เซต คือ เมนู "สเต๊กพล่ากุ้งแม่น้ำไซส์จัมโบ้ เสิร์ฟพร้อมข้าวผัดต้มยำมันกุ้ง" พร้อมสลัดบาร์ ในราคาเซตละ 799 บาท และเมนู "สเต๊กปลาเรนโบว์เทราต์จากโครงการหลวง" พร้อมสลัดบาร์ ในราคาเซตละ 699 บาทสำหรับ 1112 เดลิเวอรี่

นอกจากนี้ ยังสามารถรับทานที่ ซิซซ์เล่อร์ 11 สาขาทั่วประเทศ พร้อมสลัดบาร์ ในราคาพิเศษ อาทิ สาขาเซ็นทรัล เฟสติวัล เชียงใหม่ สาขาเซ็นทรัล อุบลราชธานี สาขาเซ็นทรัล อุดรธานี สาขาเซ็นทรัล ขอนแก่น สาขาเซ็นทรัล พิษณุโลก สาขาเซ็นทรัล สุราษฎร์ธานี สาขาเซ็นทรัล ภูเก็ต ฯลฯ  วันนี้–31 ส.ค.
#3192


ประจวบคีรีขันธ์ - จ.ประจวบฯ ประชุมขับเคลื่อนแผนเปิดเมืองหัวหินรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เน้นต้องพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ บริหารความเสี่ยงได้ และประชาชนต้องได้รับวัคซีนครอบคลุมตามเป้าหมาย ส่วนผู้ประกอบการท่องเที่ยวชี้การเปิดต้องดูความพร้อม ศึกษาให้ดี ยกตัวอย่างภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ อย่ามุ่งหวังตัวเลขรายได้มากกว่าความปลอดภัย

วันนี้ (11 ส.ค.) ที่ห้องประชุมสิงขร ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายพรหมพิริยะ กิจนุสนธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานการประชุมคณะทำงานเตรียมความพร้อมนำร่องด้านการท่องเที่ยวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ผ่านระบบโปรแกรมซูม เพื่อเตรียมความพร้อมแผนการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 แล้วในจังหวัดนำร่องโดยไม่ต้องกักตัวตามเป้าหมายการเปิดประเทศภายใน 120 วันของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและเป็นต้นแบบให้พื้นที่อื่นภายใต้มาตรการป้องกันที่เคร่งครัดและอยู่ในเงื่อนไขที่ยอมรับความเสี่ยงต่อการระบาดได้



โดน น.ส.แสงจันทร์ แก้วประทุมรัสมี ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้นำเสนอผลการดำเนินงานภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ของ จ.ภูเก็ต ที่มีการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นจังหวัดแรก ขณะที่พื้นที่หัวหิน-ชะอำ อยู่ในระยะที่ 3 ของเป้าหมายการเปิดการท่องเที่ยวในเดือน ต.ค.64 โดยขณะนี้มีการกำหนดแผนรองรับการเปิดเมือง 5 แผน ได้แก่ แผนการกระจายวัคซีนและบริหารด้านสุขอนามัยแผนพัฒนาเมืองหัวหิน-ชะอำ แผนการตลาดและการสื่อสาร แผนเผชิญเหตุและแผนบริหารความเสี่ยง และแผนการสร้างความเข้าใจให้คนในพื้นที่และนอกพื้นที่ยอมรับการเปิดเมือง

ด้าน นายอิศรา สถาปนเศรษฐ์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ ได้นำเสนอแผนการตลาดและแผนการสื่อสารเพื่อกระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ รวมถึงการสร้างความรู้ความเข้าใจแก่คนในพื้นที่และนักท่องเที่ยว โดยระบุว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางมาจะต้องมีใบรับรองการเดินทางเข้าประเทศไทย มีเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนจากประเทศต้นทาง ได้รับวัคซีนครบโดสแล้วอย่างน้อย 14 วันก่อนการเดินทางแต่ไม่เกิน 1 ปี ต้องผ่านการตรวจหาเชื้อที่สนามบิน เดินทางด้วยยานพาหนะที่ได้มาตรฐาน SHA และ SHA+ เข้าพักในโรงแรมที่พักที่ได้มาตรฐาน SHA และ SHA+ โดยรอผลตรวจในห้องพัก พำนักในเขตเทศบาลเมืองหัวหินอย่างน้อย 14 คืน และตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR ตามระยะเวลาที่พำนักในวันที่ 6-7 และ 12-13 ก่อนออกเดินทางนอกเขตจังหวัดได้



ด้านนายกรด โรจนเสถียร ประธานภาคเอกชน โครงการหัวหิน รีชาร์จ กล่าวว่า ขณะนี้มีบุคลากรธุรกิจท่องเที่ยวและบริการในเขตเทศบาลเมืองหัวหินได้รับวัคซีนครอบคลุมแล้วเกือบร้อยละ 90 โดยภาคเอกชนผู้ประกอบการได้ร่วมสนับสนุนการจัดซื้อวัคซีนมาฉีดให้บุคลากรด้วยส่วนหนึ่ง ส่วนประชาชนในเขตเทศบาลเมืองหัวหินได้รับวัคซีนแล้วกว่าร้อยละ 30 ของจำนวนประชากรเป้าหมาย 90,564 คน คาดการณ์ว่าหากเทศบาลเมืองหัวหินสามารถต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยไม่ต้องกักตัวได้ภายในช่วงไตรมาสที่ 4 ตั้งแต่เดือนตุลาคม ถึงธันวาคม 2564 จะมีนักท่องเที่ยวจากต่างชาติเดินทางเข้ามาถึง 100,000 คน สร้างรายได้แก่พื้นที่กว่า 1,200 ล้านบาท และมีการจ้างงานในภาคธุรกิจบริการอีกกว่า 89,000 คน โดยโครงการหัวหิน รีชาร์จ เป็นความร่วมมือของภาครัฐ โรงพยาบาลและสาธารณสุข สมาคม และภาคเอกชนในธุรกิจท่องเที่ยวและการบริการ ในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน เพื่อร่วมมือในการบริหารจัดการการฉีดวัคซีนแก่ประชาชนในพื้นที่ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงการขอความเห็นชอบจากภาครัฐให้จัดสรรวัคซีนอย่างเร่งด่วน

ด้าน นายพรหมพิริยะ กิจนุสนธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า การเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจะต้องมีแผนการรองรับที่ชัดเจนและมีความพร้อมจริงๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนในการป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยประชาชนในเขตเทศบาลเมืองหัวหินจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 และบุคลากรการท่องเที่ยวต้องได้รับวัคซีนครบ 100 เปอร์เซ็นต์จึงจะสามารถเปิดการท่องเที่ยวได้ รวมทั้งจะต้องบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใน จ.เพชรบุรี ด้วยเนื่องจากหัวหิน-ชะอำ มีเส้นทางการท่องเที่ยวเชื่อมโยงกัน โดยหลังจากนี้ได้มอบหมายให้มีการตั้งคณะทำงานย่อยเพื่อขับเคลื่อนแผนการทำงานแต่ละด้าน มีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าร่วม และจะมีการประชุมติดตามความพร้อมอย่างต่อเนื่อง



อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม ขนาดเล็ก ร้านนวด ผู้ประกอบการขนส่ง อีกหลายสาขาที่เกี่ยวข้องธรุกิจท่องเที่ยวของหัวหิน เปิดเผยว่า ขอให้ภาครัฐ หน่วยงานเกี่ยวข้อง และภาคเอกชน ท่องเที่ยวรายใหญ่อย่าด่วนตัดสินว่าเจาจะเปิดเมืองท่องเที่ยวหัวหิน ในเดือนตุลาคม จะสร้างรายได้ดังที่ดังที่ตั้งไว้ รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามา ต้องดูด้วยว่าสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังมีตัวเลข 100 กว่ารายทุกวันนี้ ผู้เสียชีวิตสะสม 24 ราย ณ วันนี้ คลัสเตอร์การระบาดยังมีต่อเนื่องทั้งหัวหิน และอีกหลายอำเภอ

นอกจากนั้น ปัจจุบันนี้โรงแรม รีสอร์ต ร้านอาหาร ร้านค้าหลายแห่งต้องปิดกิจการมานานหลานเดือน บางแห่งปิดตั้งแต่ปีที่ผ่านมาปัจจุบันยังเปิดไม่ได้เพราะแม้แต่คนไทยก็ไม่มา ตราบใดการติดเชื้อยังมีอยู่ทุกวัน ประชาชนบางกลุ่มที่ใช้แรงงานหาเช้ากินค่ำ ยังคงเดือดร้อนกันอยู่ วันนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องภาครัฐ ภาคธุรกิจท่องเที่ยว ควรหาข้อมูลให้รอบด้าน เปิดแล้วใครได้ประโยชน์ ควรดูจากภูเก็ต ทำอย่างไรประโยชน์ที่จะได้รับควรตกอยู่กับทุกกลุ่มที่เกี่ยวข้องทั้งหมด อยากฝากให้ไตร่ตรองให้รอบคอบ เอาให้โควิด-19 หมดลงและประชาชนปลอดภัยน่าจะดีกว่า ตอนนี้เหลืออีก 4 เดือนก็จะเข้า 2 ปีที่ได้รับผลกระทบ
#3193


การคว้าตัว ลิโอเนล เมสซี่ ดาวเตะอาร์เจนไตน์ ทำให้ ปอล ป๊อกบา กองกลางทีมชาติฝรั่งเศส ต้องการย้ายไปร่วมทัพ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง โดยจะปล่อยหมดสัญญากับ "ผีแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงซัมเมอร์หน้า เพื่อจะได้โยกแบบฟรีทรานเฟอร์

ป๊อกบา เหลือข้อผูกมัดปีเดียว ดังนั้น มิโน ไรโอล่า เอเยนต์ส่วนตัวจะล้มแผนเจรจาสัญญาฉบับใหม่กับ แมนฯยู และจะปล่อยให้หมดสัญญาเหมือนเมื่อปี 2012 ที่เลือกไปร่วมทัพ ยูเวนตุส ก่อนที่จะย้ายกลับถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ด้วยค่าตัว 89 ล้านปอนด์เมื่อปี 2016

กระนั้นก็ตามไม่ง่ายเหมือนกันกับการ ป๊อกบา เนื่องจาก เปแอสเช อาจจะผิดกฎการเงิน โดยตอนนี้มี เมสซี่ อยู่ภายในทีมแล้ว ส่วนกองกลางทีมชาติฝรั่งเศสต้องการค่าเหนื่อยเพิ่มขึ้นกับการรับอยู่ที่ แมนฯยู ตอนนี้คือ 290,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ดังนั้นยอดทีมเมืองน้ำหอมอาจจะต้องวางแผนโละนักเตะคนอื่นๆ ออกไปเพื่อลดเพดานค่าจ้าง

ซัมเมอร์นี้ แมนฯยู ได้ตัว จาดอน ซานโช มาเติมเกมรุก ส่วน ราฟาเอล วาราน กองหลังจาก รีล มาดริด กำลังจะชูเสื้อด้วยค่าตัว 34 ล้านปอนด์ ส่วนเป้าหมายอื่นๆ ที่ว่าจะมาแทน ป๊อกบา อย่าง เอดูอาร์โด กามาแวงก้า, รูเบน เนเวส และ ซาอูล ยิเกซ ได้ล้มแผนหมดแล้ว
#3194


เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เปิดรับลงทะเบียนเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 สำหรับผู้ป่วยโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ (มีเลขบัตรประจำตัวผู้ป่วยของโรงพยาบาล) ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป หรือผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเสี่ยง (เฉพาะผู้ที่ยังไม่เคยลงทะเบียนและไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีน เท่านั้น)

สำหรับการเปิดรับลงทะเบียนจองฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิด "แอสตร้าเซนเนก้า" เนื่องจากทางโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ได้รับการจัดสรรวัคซีนเพิ่มเติม สำหรับผู้ป่วยของโรงพยาบาล ในกลุ่มอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป หรือผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเสี่ยง และมีประวัติการรักษาที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ (มีเลขบัตรประจำตัวผู้ป่วยของโรงพยาบาล) ดังนี้

โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง
โรคหลอดเลือดสมอง
โรคหัวใจและหลอดเลือด
โรคเบาหวาน
โรคไตเรื้อรัง 
โรคอ้วน
โรคมะเร็งทุกชนิด
โดยจะได้รับฉีดวัคซีนระหว่างวันที่ 16 - 20 สิงหาคม 2564 ณ คลินิกบริการวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชั้น 13 อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ (รับจำนวนจำกัด)

สมัครผ่อนของ 0% 40 เดือนกับ Citi คลิกเลย

เงื่อนไขลงทะเบียน

เป็นผู้ป่วยของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ (มีเลขที่บัตรโรงพยาบาล/HN)
อายุตั้งแต่ 18 ปี ขึ้นไป
ต้องไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มาก่อน
หลังจากได้ลงทะเบียน เลือกวันและเวลาเรียบร้อยแล้ว จะได้รับการยืนยันการจองฉีดวัคซีน ขอให้ท่านบันทึกหน้าจอไว้เป็นหลักฐาน โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลการลงทะเบียนได้ผ่านทาง Chula Care Application ภายใน 3 วัน หลังจากที่ท่านลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว

'ขั้นตอนการลงทะเบียนฉีดวัคซีน

สแกนคิวอาร์โค้ด เข้าเว็บไซต์ www.chulaprom.kcmh.or.th เพื่อลงทะเบียนและเลือกวันเวลาเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19
เปิดลงทะเบียนวันที่ 10 สิงหาคม 2564 เวลา 15.00 น. (ทางโรงพยาบาลจะปิดลงทะเบียนเมื่อมีผู้จองฉีดวัคซีนครบตามจำนวนวัคซีนที่ได้รับการจัดสรร)
ผู้ที่ผ่ามการลงทะเบียน สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีน ที่คลินิกบริการวัคซีนป้องกันโรคโควิด ชั้น 13 อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ในระหว่างวันที่ 16-20 สิงหาคม 2564 (ตามวันเวลาที่ลงทะเบียนไว้ เท่านั้น)
โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ขอสงวนสิทธิ์งดให้บริการสำหรับผู้ที่วอล์กอิน หรือไม่ได้ลงทะเบียนนัดหมายผ่านะบบฯ

คำแนะนำการรับบริการฉีดวัคซีนที่คลินิกบริการวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชั้น 13 อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์

กรุณามารับบริการฉีดวัคซีนตามวันและเวลาที่นัดหมายเท่านั้น เพื่อกระจายความหนาแน่นของประชาชนผู้มารับบริการ
ในวันที่มารับบริการ เตรียมบัตรประชาชน ปากกา โทรศัพท์มือถือเครื่องที่ลงทะเบียนหมอพร้อม (หากมี) และสวมเสื้อที่สามารถฉีดวัคซีนได้ง่าย
ก่อนมารับบริการฉีดวัคซีน สามารถรับประทานอาหารและยาสำหรับโรคประจำตัวได้ตามปกติ ไม่จำเป็นต้องหยุดยาก่อนรับวัคซีน
หากท่านอยู่ระหว่างการกักตัว รอผลการตรวจเชื้อโรคโควิด-19 หรือมีอาการทางเดินหายใจ เช่น ไข้ ไอ เสมหะ หรือ น้ำมูก ในวันนัดฉีดวัคซีน ขอให้ท่านงดการมารับฉีดวัคซีน
#3195


นายกิรณ ลิมปพยอม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายเพื่อลงทุนในบริษัท Temple Generation Intermediate Holdings II, LLC ผ่านบริษัทย่อย Temple Generation I, LLC หรือ "Temple I" ซึ่งเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ ขนาด 768 เมกะวัตต์ ที่ตั้งอยู่ในรัฐเทกซัส สหรัฐอเมริกา ซึ่งนับเป็นประเทศที่ 7 ที่บริษัทฯ เข้าไปดำเนินธุรกิจ มูลค่าการลงทุนรวม 430 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเทียบเท่า 14,147 ล้านบาท จากการทำสัญญาผ่านบริษัท BKV-BPP Power LLC ซึ่งเป็นบริษัทที่บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) และ BPP ถือหุ้นฝ่ายละ 50% คิดเป็นเงินลงทุน 215 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเทียบเท่า 7,074 ล้านบาท ส่งผลให้บ้านปู เพาเวอร์ มีกำลังผลิตตามสัดส่วนการลงทุน 384 เมกะวัตต์ นับเป็นผลสำเร็จจากการดำเนินตามแผนกลยุทธ์ขยายการเติบโตสู่เป้าหมาย 5,300 เมกะวัตต์ภายในปี 2568

การลงทุนของบ้านปู เพาเวอร์ ในโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ "Temple I" ครั้งนี้ถือเป็นการต่อยอดระบบนิเวศ (Ecosystem) จากบริษัทแม่ที่มีฐานธุรกิจแหล่งก๊าซธรรมชาติบาร์เนตต์ (Barnett) ในรัฐเทกซัส สหรัฐฯอยู่แล้ว และสอดคล้องกับทิศทางการลงทุนในโรงไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (High Efficiency, Low Emissions: HELE) อยู่ในสถานะที่มีการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เพื่อสร้างกระแสเงินสดได้ทันที

จุดเด่นของโรงไฟฟ้าแห่งนี้แบ่งได้เป็น 5 ข้อหลัก คือ 1. เป็นโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่ใช้เทคโนโลยี Combined Cycle Gas Turbines หรือ CCGT ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง ผสมผสานกระบวนการทำงานของ Gas Turbine (กังหันก๊าซ) กับ Steam Turbine (กังหันไอน้ำ) เข้าไว้ด้วยกัน ทำให้การผลิตไฟฟ้ามีประสิทธิภาพสูงขึ้น และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 2. ตั้งอยู่ในรัฐเทกซัสซึ่งมีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูง เนื่องจากมีจำนวนประชากรที่เพิ่มสูงและเป็นหนึ่งในศูนย์กลางเศรษฐกิจที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

3. เป็นโรงไฟฟ้าที่จัดอยู่ในลำดับการเรียกจ่ายไฟฟ้า (Merit Order)[1] ที่ดี เหมาะต่อสภาพการแข่งขันในตลาด Electric Reliability Council of Texas หรือ ERCOT ที่มีการซื้อขายไฟฟ้าแบบเสรี 4. มีความพร้อมด้านการขนส่งและการจัดเก็บก๊าซ (Gas Storage) ซึ่งมีส่วนช่วยให้บริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพและเพิ่มความยืดหยุ่นในการเดินเครื่องเพื่อผลิตไฟฟ้าให้สอดรับกับรูปแบบความต้องการใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ 5. มีสัญญาระยะยาว 30 ปี สำหรับการสำรองน้ำสำหรับกระบวนการผลิต ทำให้เกิดเสถียรภาพและเอื้อต่อกระบวนการผลิตในระยะยาว และมีระบบจัดการน้ำทิ้งที่ดี สามารถลดการปล่อยน้ำเสียจนเกือบเป็นศูนย์

"การลงทุนในครั้งนี้อยู่ภายใต้เงื่อนไขการปิดตามธรรมเนียม (Customary Closing Conditions) คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จตามเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องในสัญญา และคาดว่า BPP จะรับรู้รายได้ภายในไตรมาส 4/2564 บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายกำลังผลิตไฟฟ้าอย่างยั่งยืนด้วยสัดส่วนที่สมดุลระหว่างพลังงานเชื้อเพลิงทั่วไปกับพลังงานหมุนเวียน โดยมองหาโอกาสการลงทุนในโรงไฟฟ้าที่ใช้เทคโนโลยี HELE ซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในตลาดที่มีความเติบโตของความต้องการใช้ไฟฟ้าและมีนโยบายสนับสนุนจากรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง" นายกิรณกล่าว

จากการลงทุนในโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ "Temple I" ส่งผลให้ในปัจจุบัน บ้านปู เพาเวอร์มีกำลังผลิตตามสัดส่วนการลงทุนรวม 3,300 เมกะวัตต์เทียบเท่า โดยภายในปี 2564 ยังมีโครงการโรงไฟฟ้าที่คาดว่าจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เพิ่มอีก 3 แห่ง ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมหวินเจา (Vinh Chau) ระยะที่ 1 ในเวียดนาม กำลังผลิต 30 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่นอีก 2 โครงการ ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เคเซนนุมะ (Kesennuma) กำลังผลิต 20 เมกะวัตต์ และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ชิราคาวะ (Shirakawa) กำลังผลิต 10 เมกะวัตต์  
#3196


สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มีแนวคิดปรับปรุงหลักเกณฑ์การโฆษณากองทุนรวมและการส่งเสริมการขายหน่วยลงทุน เนื่องจากหลักเกณฑ์ปัจจุบันบางส่วนมีความซ้ำซ้อนกัน และไม่มีความยืดหยุ่น รวมทั้งยังไม่ได้ปรับปรุงให้สอดคล้องกับสภาพภาพแวดล้อมของการประกอบธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งพัฒนาการด้านเทคโนโลยีดิจิทัลที่เปลี่ยนพฤติกรรมการรับข่าวสาร และการลงทุนของผู้ลงทุน

ขณะที่หลักเกณฑ์ด้านการโฆษณา ยังมีข้อกำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจที่โฆษณากองทุนรวมต้องสื่อสารคำเตือนด้วยข้อความที่กำหนด ซึ่งบางช่องทางที่มีข้อจำกัดด้านเวลา อาจทำให้ผู้ลงทุนไม่ได้รับคำเตือนที่มีคุณภาพ 

ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ! รับเลย 100,000 บาท

ก.ล.ต. จึงเปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการปรับปรุงหลักเกณฑ์ด้านการโฆษณากองทุนรวมและการส่งเสริมการขายหน่วยลงทุน เพื่อให้การโฆษณากองทุนรวมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับแต่ละช่องทางการสื่อสาร


รวมทั้งผู้ประกอบธุรกิจมีความยืดหยุ่นในการส่งเสริมการขายหน่วยลงทุน โดยยังคงหลักการการให้ความคุ้มครองผู้ลงทุน ซึ่งเป็นไปตามที่ ก.ล.ต. ได้หารือในหลักการกับสมาคมบริษัทจัดการลงทุน

ทั้งนี้ ก.ล.ต. จะนำข้อมูลที่ได้รับจากการเปิดรับฟังความคิดเห็นนี้ มาประกอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์ในลำดับถัดไป ก.ล.ต. ได้เผยแพร่เอกสารรับฟังความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวไว้ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต. https://www.sec.or.th/TH/Pages/PB_Detail.aspx?SECID=736  ผู้เกี่ยวข้องและผู้สนใจสามารถแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์ หรือทาง e-mailslil@ sec .or .th หรือ sireetho@sec.or.th จนถึงวันที่ 9 ก.ย.พ.ศ. 2564
#3197


รายงานข่าวจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ รฟม.อยู่ระหว่างดำเนินการเตรียมประกวดราคาจ้างบริหารจัดการอาคารจอดแล้วจร 3 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 200 ล้านบาท แบ่งออกเป็น โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต - สะพานใหม่ - คูคต มูลค่าราว 37 ล้านบาท โครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม มูลค่า 120 ล้านบาท และโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิรัชมงคล มูลค่าราว 61 ล้านบาท

อย่างไรก็ดี รฟม.ได้กำหนดให้เอกชนผู้สนใจร่วมประกวดราคาในโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต - สะพานใหม่ - คูคต เตรียมยื่นข้อเสนอผ่านระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ ในวันที่ 26 ส.ค.นี้ ส่วนโครงการรถไฟฟ้ามหานครทั้ง 2 สายนั้น จะกำหนดภายหลัง เนื่องจากปัจจุบันยังอยู่ในขั้นตอนร่างเอกสารประกวดราคา แต่เบื้องต้นทุกโครงการจะต้องแล้วเสร็จ เพื่อจัดหาเอกชนเข้ามาบริหารตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้

"สัญญาจ้างบริหารอาคารจอดแล้วจรทั้ง 3 โครงการ มีอายุสัญญา 3 ปี โดยจะเริ่มสัญญาตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2564 – 1 ต.ค. 2567 ซึ่งเอกชนจะต้องรับหน้าที่บริหารจัดเก็บค่าบริการจอดรถ การรักษาความสะอาด ตลอดจนจัดการจราจรและดูแลพื้นที่ของ รฟม.ให้เป็นระเบียบ เพื่อรองรับการให้บริการที่มีประสิทธิภาพ"

สำหรับหลักเกณฑ์การคัดเลือกเอกชนประกวดราคานั้น รฟม.กำหนดราคาที่ยื่นข้อเสนอ ให้น้ำหนักคำนวณคะแนนข้อเสนอด้านราคาเท่ากับ 30 คะแนน และข้อเสนอด้านเทคนิค คุณภาพและคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ต่อ รฟม. น้ำหนักเท่ากับ 70 คะแนน โดยผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่า 70 คะแนน รฟม.จึงจะพิจารณาข้อเสนอด้านราคา


ส่วนหลักเกณฑ์การพิจารณาข้อเสนอด้านเทคนิค คุณภาพและคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ต่อ รฟม. 100 คะแนน แบ่งออกเป็น คะแนนผลงานของผู้ยื่นข้อเสนอ 60 คะแนน แผนการบริหารจัดการอาคารจอดแล้วจร 20 คะแนน ประสบการณ์การทำงานของผู้จัดการอาคารจอดแล้วจร 10 คะแนน และข้อเสนออื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินโครงการอีก 10 คะแนน

ทั้งนี้ รฟม.จะพิจารณาให้คะแนนผลงานและประสบการณ์ของผู้ยื่นข้อเสนอเพียง 1 ผลงานในการบริหารจัดการอาคารหรือลานจอดรถที่ประกอบด้วยงานจัดเก็บค่าบริการจอดรถ โดยใช้เครื่องไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ งานรักษาความสะอาด และงานจัดการจราจรดูแลพื้นที่จอดรถ ซึ่งเป็นผลงานที่สิ้นสุดระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี โดยหากมีผลงานบริการจอดรถ 1,501 ช่องจอดขึ้นไป จะได้คะแนนสูงสุดอยู่ที่ 60 คะแนน

รายงานข่าวยังระบุด้วยว่า อาคารจอดแล้วจรที่ รฟม.นำมาเปิดประกวดราคานี้ ถือเป็นอาคารที่อยู่ในส่วนของรถไฟฟ้าที่มีสถิติการเดินทางสูงต่อเนื่อง และถือเป็นอาคารจอดแล้วจรในย่านชุมชนที่มีผู้อยู่อาศัย มีผู้เดินทางค่อนข้างมาก เช่น โครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม มีอาคารจอดแล้วจรจุดใหญ่อย่าง สถานีรถไฟฟ้าคลองบางไผ่ ใกล้กับห้างสรรพสินค้า ส่วนสายเฉลิมรัชมงคล มีลานจอดรถใจกลางเมือง อย่างสถานีลาดพร้าว รัชดาภิเษก พระราม 9 และสถานีสุขุมวิท เป็นต้น
#3198


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานวันนี้ (10 ส.ค.) มีวาระการพิจารณาที่น่าสนใจหลายวาระ โดยเฉพาะ เงินเยียวยาประกันสังคม กลุ่ม ม.39 และ 40

โดยคณะกรรมการกลั่นกรองเงินกู้ฯที่มีเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เป็นประธานจะเสนอกรอบและรายละเอียดการเยียวยากลุ่มแรงงานมาตรา 39 และมาตรา 40 ใน 29 จังหวัด ที่อยู่ในกลุ่มจังหวัดสีแดงเข้มที่ประกาศให้ล็อกดาวน์ รวมทั้งกลุ่มอาชีพอิสระให้ได้รับเงินเยียวยาความเดือดร้อน (คนละ 5,000 บาท) 

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยกับ กรุงเทพธุรกิจ ว่ากระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคมได้ให้รายละเอียดแรงงาน และนายจ้างที่อยู่ในกลุ่มประกันสังคมมาตรา 39 และ 40 ใน 29 จังหวัดทั้งที่เป็นผู้ประกันตนเดิม และที่ลงทะเบียนใหม่ตามมติ ครม.ให้กับ สศช.เรียบร้อยแล้วเพื่อให้ได้กรอบและจำนวนที่แน่นอนเสนอให้ ครม.อนุมัติหลังจากก่อนหน้านี้อนุมัติในหลักการแล้ว 

ทั้งนี้แรงงานในกลุ่มนี้ทั้ง 29 จังหวัดที่เข้าเงื่อนไข รวมทั้งอาชีพอิสระจะได้เงินเยียวยาเป็นจำนวน 5,000 บาท โดยในส่วนของ 13 จังหวัดแรกที่มีการประกาศล็อกดาวน์มีผู้ประกันตนในมาตรา 39 ประมาณ 1 ล้านราย ส่วนในมาตรา 40 เดิมมีผู้ประกันตนประมาณ 1 ล้านราย และมีการลงทะเบียนเพิ่มเติมมา 3.1 ล้านราย รวมเป็น 4.1 ล้านราย 


ส่วนใน 16 จังหวัดที่มีการประกาศล็อกดาวน์เพิ่มเติมยังไม่ได้เปิดให้มีการลงทะเบียนเพิ่มเติม แต่จากฐานข้อมูลประกันสังคมที่มีอยู่มีผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และ 40 รวมกันประมาณ 1 ล้านราย แบ่งเป็นมาตรา 39 ประมาณ 4 - 5 แสนราย และมาตรา 40 ประมาณ 4 -5 แสนรายเช่นกันโดยอยู่ในเกณฑ์ที่จะได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาท

สำหรับวาระ ครม.ที่น่าสนใจในวันนี้ได้แก่ วาระเพื่อพิจารณา กระทรวงการต่างประเทศเสนอการจัดทำบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลไทยโดยกรมความร่วมมือระหว่างประเทศกับมูลนิธิร็อกกี้เฟลเลอร์

กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอข้อตกลงยอมรับร่วมรายสาขาสำหรับวัสดุอาคารและสิ่งก่อสร้างอาเซียนกระทรวงคมนาคมเสนอขออนุมัติกู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงทพ (ขสมก.)

กระทรวงมหาดไทยขอความเห็นชอบการกู้เงินในประเทศเพื่อเป็นเงินลงทุนสำหรับการลงทุนในแผนงานระยะยาวใหม่ ปี 2564

ส่วนวาระเพื่อทราบ กระทรวงพัฒนาสังคมเสนอขออนุมัติคุณสมบัติของผู้ซึ่งจะได้รับการแต่งตั้งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ พ.ศ....

กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างกฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์ละวิธีการในการยื่นอุธรณ์และวิธีพิจารณาในการวินิจฉัยอุธรณ์เกี่ยวกับผังเมืองรวม และผังเมืองเฉพาะพ.ศ...

กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเครื่องทำความสะอาดใช้ความดันสูงและเครื่องทำความสะอาดใช้ไอน้ำต้องเป็นไปตามมาตราฐาน พ.ศ...

คณะกรรมการทุนหมุนเวียนรายงานสรุปผลการดำเนินงานในภาพรวมของทุนหมุนเวียน ประจำปีบัญชี 2562

คกก.ติดตามนโยบายสรุปผลการประชุมคณะกรรมการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 3/2564 และผลการประชุมรัฐมนตรีอาเชียนด้านพลังานกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจการค้า
#3199


ฝ่ายประชาสัมพันธ์สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยว่า เนื่องจากกระแสข่าวที่ปรากฏว่านักท่องเที่ยวต่างชาติในโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ต้องเดินทางโดยรถบัสจากจังหวัดภูเก็ตไปยังสนามบินสุวรรณภูมิเพื่อเดินทางกลับประเทศ สาเหตุเพราะสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) ได้ออกคำสั่งมีผลตั้งแต่วันที่ 21 ก.ค. 2564 ห้ามสายการบินที่ให้บริการผู้โดยสาร (Passenger Flight) ทำการบินเที่ยวบินภายในประเทศรับส่งผู้โดยสารเข้าหรือออกพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (พื้นที่สีแดงเข้ม) ซึ่งเป็นไปตามมาตรการควบคุมโรคของ ศบค.

กพท. ขอชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อความชัดเจน ดังนี้

1.ประกาศเรื่องแนวปฏิบัติสำหรับผู้ดำเนินการสนามบินและผู้ดำเนินการเดินอากาศในเส้นทางการบินภายในประเทศในระหว่างสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) (ฉบับที่ 3) ออกเมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2564 ที่กระแสข่าวอ้างถึง นั้นยกเว้นเที่ยวบินที่เกี่ยวข้องกับโครงการพื้นที่นำร่องเปิดประเทศ (แซนด์บ็อกซ์ Sandbox)


2.แม้ขณะนี้ไม่มีเที่ยวบินประจำตามตารางเวลา ให้บริการผู้โดยสารในเส้นทางระหว่างจังหวัดภูเก็ตและกรุงเทพมหานคร แต่ กพท. เปิดให้สายการบินขออนุญาตทำการบินในลักษณะเช่าเหมาลำ (Charter Flight) จากจังหวัดภูเก็ตมายังสุวรรณภูมิได้ แต่ด้วยข้อจำกัดในด้านของจำนวนผู้โดยสารอาจทำให้สายการบินพิจารณาไม่จัดเที่ยวบินไปจังหวัดภูเก็ตเพื่อไปรับนักท่องเที่ยวแซนด์บ็อกซ์ เนื่องจากพิจารณาแล้วอาจจะไม่คุ้มในการปฏิบัติการบิน

3.ปัจจุบันยังมีเที่ยวบินให้บริการจากจังหวัดภูเก็ตไปยังสนามบินอู่ตะเภาฯ จังหวัดระยอง ซึ่ง กทพ. ได้ประสานและกำชับสายการบินว่าให้อำนวยความสะดวกกับผู้โดยสาร โดยการจัดรถรับ-ส่งไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อบรรเทาปัญหาการเดินทางของนักท่องเที่ยวโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ระหว่างที่ยังไม่มีสายการบินใดให้บริการเที่ยวบินเช่าเหมาลำในเส้นทางดังกล่าว
#3200


วันที่ 8 ส.ค. เวลา 10.00 น. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ที่ให้บริการฉีดวัคซีนนอก รพ. "หน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 กรุงเทพมหานคร-หอการค้าไทย" ณ ศูนย์การค้า เดอะมอลล์ บางแค โดยมี ผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารสำนักการแพทย์ ผู้บริหารเขตบางแค นางสาวกฤษณา อัมพุช รองประธานกรรมการ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าเดอะมอลล์บางแค

ผู้บริหารเครือโรงพยาบาล BDMS กรุงเทพดุสิตเวชการ โดยโรงพยาบาลพญาไท-เปาโล ผู้บริหารจากคณะแพทยศาสตร์ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม ผู้บริหารสถานประกอบการ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมตรวจเยี่ยม


สำหรับสถานที่ฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาล หรือ "หน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 กรุงเทพมหานคร-หอการค้าไทย" ณ ศูนย์การค้า เดอะมอลล์ บางแค เป็นความร่วมมือระหว่างกรุงเทพมหานคร - หอการค้าไทย - เดอะมอลล์ บางแค เครือโรงพยาบาล BDMS กรุงเทพดุสิตเวชการ คณะแพทยศาสตร์ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม ตั้งอยู่บริเวณชั้น 4 หน้าโรงภาพยนตร์ SF CINEMA

เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. สามารถให้บริการฉีดวัคซีน จำนวน 4,000 คน/วัน ให้บริการฉีดวัคซีนแก่ผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป สัญชาติ ไทย อาศัยอยู่ใน กทม. ผู้ที่ตั้งครรภ์ และประชาชนที่มีอายุระหว่าง 18-59 ปี ที่ลงทะเบียนผ่านโครงการ "ไทยร่วมใจ" กรุงเทพฯ ปลอดภัย SAFE BANGKOK ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง หรือเว็บไซต์ www.ไทยร่วมใจ.com หรือร้านค้าสะดวกซื้อ ได้แก่ เซเว่น อีเลฟเว่น แฟมิลี่มาร์ท ท็อปส์ เดลี่ และมินิบิ๊กซี ที่มีคิวฉีดวัคซีนเดิมลงทะเบียนไว้วันที่ 1-8 ก.ค. 64 โดยให้มาฉีดวัคซีนในวันที่ 7 - 10 ส.ค. 64