• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Shopd2

#9496
แนะนำทัวร์ลาวใต้ ราคาประหยัด
#9499


ความเคลื่อนไหวดัชนีหุ้นไทยวานนี้ (20 ก.ค.) เปิดตลาดปรับตัวลงต่อเนื่อง โดยร่วงหนักช่วงปิดตลาดภาคเช้าลดลง 25.39 จุด อยู่ที่ 1,530.62 จุด ก่อนรีบาวด์ในช่วงบ่าย กลับมาปิดตลาดที่ 1,538.86 จุด ลดลง 17.15 จุด หรือ 1.10% มูลค่าซื้อขาย 92,956.58 ล้านบาท

นักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 5,410.89 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 811.83 ล้านบาท บัญชีหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 1,062.54 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปในประเทศซื้อสุทธิ 5,160.17 ล้านบาท

นายวัชระ แก้วสว่าง นักลงทุนรายใหญ่ ที่เน้นกลยุทธ์การลงทุนเชิงเทคนิค กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้ดัชนีปรับตัวลงหลุดแนวรับทางเทคนิคต่อเนื่อง ตั้งแต่แนวรับ 1,585 จุด และล่าสุดแนวรับ 1,546 จุด โดยตนมองแนวรับดัชนีถัดไปที่ 1,515-1,500 จุด ตามลำดับ และในกรณีเลวร้ายที่สุดไม่ควรหลุด 1,483 จุด เพราะจะส่งผลให้ตลาดหุ้นพลิกกลับไปเป็นขาลง

ขณะที่การลงทุนส่วนตัวได้ลดน้ำหนักลงทุนหุ้นไทยตั้งแต่ดัชนีหลุดแนวรับ 1,585 จุดไปแล้ว ส่วนโอกาสที่ดัชนีจะปรับขึ้นอีกครั้งจะเกิดขึ้นต่อเมื่อจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่รักษาหายเพิ่มขึ้นสูงกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรายวัน


นายนิเวศน์ เหมวชิรวรากร นักลงทุนรายใหญ่แบบเน้นคุณค่า (นักลงทุนวีไอ) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับลงตอบรับความเสี่ยงที่สถานการณ์โควิด-19 ลุกลามและมีการติดเชื้อเพิ่ม รวมถึงความกังวลมาตรการล็อกดาวน์อาจมีความเสี่ยงต้องขยายออกไปอีก อย่างไรก็ดี เชื่อว่าท้ายที่สุดสถานการณ์จะสงบลงได้ เพราะโควิด-19 เป็นวิกฤติที่ประเทศขนาดใหญ่เผชิญเช่นกัน จึงมีการส่งต่อความช่วยเหลือมายังประเทศขนาดเล็กเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดซ้ำ ขณะที่การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้วิกฤติจบลง

ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นในระยะสั้นคาดว่านักลงทุนจะยังขายหุ้นเพราะตื่นตระหนก และมีความเสี่ยงที่ดัชนีอาจหลุดแนวรับ 1,500 จุด แต่เชื่อว่าจะสามารถปรับขึ้นได้ในระยะถัดไป

ดังนั้นสำหรับนักลงทุนที่ลงทุนในระยะยาวยังสามารถลงทุนได้ เพราะบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ขนาดใหญ่ในตลาดหุ้นไม่ได้เจ็บหนักจากโควิด-19 แต่สำหรับกลุ่มที่ถูกผลกระทบจากการระบาดโดยตรง เช่น กลุ่มท่องเที่ยว และกลุ่มโรงแรม ยังไม่แนะนำลงทุน เพราะหากสถานการณ์โควิด-19 ลากยาวจะเป็นความเสี่ยงให้ถึงจุดหนึ่งหุ้นกลุ่มนี้ต้องเพิ่มทุนหรือดำเนินการด้วยวิธีอื่นๆ เพื่อให้ผ่านพ้นช่วงวิกฤติซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผู้ถือหุ้น


 นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด และที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า หุ้นไทยปรับฐานรอบนี้ จากการแพร่ระบาด โควิด -19 สายพันธุ์เดลต้าที่รุนแรงขึ้นทั่วโลกและไทย โดยยอดผู้ติดเชื้อในไทยยังไม่เห็นจุดสูงสุด และยกระดับมาตรการล็อกดาวน์ ยังต้องติดตามผลในช่วง 2 สัปดาห์ถึง1 เดือน ว่ายอดผู้ติดเชื้อในไทยจะลดลงได้หรือไม่

       ประกอบกับตลาดหุ้นทั่วโลกปรับฐานลงมาหลังจากปรับขึ้นมาต่อเนื่องก่อนหน้านี้ และค่อนข้างอ่อนไหวต่อปัจจัยการระบาดของโควิดสายพันธุ์เดลต้าทั่วโลกกดดันการฟื้นตัวเศรษฐกิจทั่วโลก  ทำให้มีผลต่อราคาตลาดหุ้นในสหรัฐและยุโรป แต่อย่างไรก็ตามความรุนแรงการระบาดรอบนี้ไม่รุนแรงเท่าปีก่อน เพราะสหรัฐและยุโรป มีประชากรที่ได้รับวัคซีนไปมากกว่าครึ่งของประชากรแล้ว ทำให้อัตราการเสียชีวิตและยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังอยู่ระดับต่ำ และเป็นปัจจัยสนับสนุนให้เฟดน่าจะยังคงใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายต่อไป มีโอกาสเลื่ือนการลดคิวอีออกไปได้  

        ดังนั้น เรายังมองว่า ตลาดหุ้นไทยปรับฐานรอบนี้แค่ระยะสั้นและไม่น่ากลัว เท่าช่วงเดียวกันปีก่อน และเป็นโอกาสในการเข้าลงทุนหากดัชนีรอบนี้ยังยืนที่ระดับ 1,530 จุด บวกลบต่อได้ โดยยังมีอัพไซด์ปลายปีนี้คาดไว้ที่1,600 จุด  กลุ่มหุ้นที่น่าสนใจลงทุนขณะนี้เปลี่ยนโหมดมาเป็นหุ้นที่มีแนวโน้มเติบโตและปรับตัวลงกว่า คือ กลุ่มเทคโนโลยี  และกลุ่มส่งออก ที่ได้ประโยชน์จากผลประกอบการปรับตัวดีต่อเนื่องจากเงินบาทอ่อนค่าและการส่งออกขยายตัวสูง 

       แต่การเข้าลงทุนหุ้นไทยยังต้องระมัดระวังรอความชัดเจนของสถานการณ์คุมการแพร่ระบาดรอบนี้ เพราะตอนนี้ยังคาดเดายากว่ายอดผู้ติดเชื้อรายวันจะทะลุ 20,000คนหรือไม่ยังเป็นความเสี่ยงต่อตลาดหุ้นไทย

       นายวิริยะชัย จิตตวัฒนรัตน์   รองผู้อำนวยการฝ่าย กลยุทธ์การลงทุน ไพรเวทเมเนจท์เม้นท์ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า เราแนะนำนักลงทุนปรับลดน้ำหนักการลงทุน (Underweight)หุ้นไทย โดยคาดแนวโน้มหุ้นไทยมีแนวรับทางเทคนิคที่ 1,500จุด    หลังจากการระบาดอย่างหนักของ โควิด-19 สายพันธุ์ เดลต้า รอบล่าสุดส่งผลไปถึงการประกาศล็อดดาวน์  ทำให้เรามองว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มซบเซาหนักและยาวนานกว่า โดยมีความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจไทยในปีนี้อาจจะไม่ขยายตัวเลย ซึ่งสุดท้ายจะสะท้อนในการเติบโตของกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่แย่ลงในช่วงไตรมาส 3 และ 4 ของปีนี้   แต่สิ้นปีนี้ยังมองแนวโน้มดัชนีที่ 1,600จุด หากสามารถคุมการแพร่ระบาดคลี่คลายได้และตลาดต่างประเทศปรับฐานระยะสั้น 

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวลงต่อเนื่องจากวันทำการแรกของสัปดาห์ (19 ก.ค.) โดยถูกกดดันจากการขยายมาตรการล็อกดาวน์และจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังทรงตัวสูงที่ 1.1 หมื่นราย รวมถึงแรงขายตามข่าว (Sell on Fact) ภายหลังบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ประกาศกำไรไตรมาส 2 ปี 2564 นอกจากนี้ ยังเป็นการปรับลงล้อกับตลาดหุ้นต่างประเทศที่ปิดลบจากความกังวลไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า และราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงแรง

อย่างไรก็ดี ระยะข้างหน้าคาดว่าดัชนีหุ้นจะเริ่มปรับลงอย่างจำกัด เพราะกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนักต่อดัชนีสูง ราคาหุ้นได้ปรับลงไปมากแล้วในช่วงที่ผ่านมา เช่น กลุ่มพลังงาน กลุ่มธนาคาร และกลุ่มหุ้นที่เกี่ยวกับการเปิดเศรษฐกิจ (Reopening) และประเมินแนวรับดัชนีที่ 1,530 จุด และถัดไปที่บริเวณ 1,510-1,500 จุด ตามลำดับ ดังนั้น การลงทุนจึงแนะนำสะสมหุ้นบริเวณแนวรับเพื่อรอขายในช่วงที่ดัชนีฟื้นตัว

"เราไม่คิดว่าตลาดหุ้นจะปรับตัวลงต่อเนื่องแบบไม่มีแนวรับ เพราะได้แรงหนุนจากกำไรบจ.ไตรมาส 2 ที่ออกมาดี รวมถึงปัจจัยบวกจากเงินเยียวยาเศรษฐกิจของรัฐบาล และความคืบหน้าการนำเข้าวัคซีน ยกเว้นในกรณีเลวร้ายที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาคการผลิตต้องหยุดนิ่ง คาดว่าดัชนีจะหลุดแนวรับ 1,500 จุด และเลวร้ายสุด 1,300 จุดอาจเอาไม่อยู่"
#9500
สนใจติดต่อคุณเป้ง 087-347-6299

ตรวจสอบบัญชีนนทบุรี  ตรวจสอบบัญชีบางกรวย  ตรวจสอบบัญชีบางใหญ่  ตรวจสอบบัญชีบางบัวทอง  ตรวจสอบบัญชีไทรน้อย  ตรวจสอบบัญชีปากเกร็ด  ตรวจสอบบัญชีบางศรีเมือง  ตรวจสอบบัญชีพิมลราช  ตรวจสอบบัญชีบางคูรัด  ตรวจสอบบัญชีบางรักพัฒนา  ตรวจสอบบัญชีบางแม่นาง  ตรวจสอบบัญชีบางกร่าง  ตรวจสอบบัญชีไทรม้า  ตรวจสอบบัญชีตลาดขวัญ  ตรวจสอบบัญชีบางตะไนย์  ตรวจสอบบัญชีบางพลับ  ตรวจสอบบัญชีบางรักน้อย  ตรวจสอบบัญชีมหาสวัสดิ์  ตรวจสอบบัญชีศาลากลางนนทบุรี  ตรวจสอบบัญชีอ้อมเกร็ด  ตรวจสอบบัญชีแจ้งวัฒนะ  ตรวจสอบบัญชีถนนกาญจนาภิเษกนนทบุรี  ตรวจสอบบัญชีถนนจงถนอม-ไทรน้อย  ตรวจสอบบัญชีถนนชัยพฤกษ์  ตรวจสอบบัญชีถนนติวานนท์  ตรวจสอบบัญชีถนนทวีวัฒนา  ตรวจสอบบัญชีถนนเทศบาลจังหวัดนนทบุรี  ตรวจสอบบัญชีถนนเทิดพระเกียรติ  ตรวจสอบบัญชีท่าอิฐ  ตรวจสอบบัญชีถนนนครอินทร์  ตรวจสอบบัญชีบางม่วง  ตรวจสอบบัญชีบางกรวย-จงถนอม  ตรวจสอบบัญชีถนนบางไกรใน  ตรวจสอบบัญชีบางกรวย-ไทรน้อย  ตรวจสอบบัญชีบางคูเวียง  ตรวจสอบบัญชีบางศรีเมือง  ตรวจสอบบัญชีถนนวัดโบสถ์ดอนพรหม  ตรวจสอบบัญชีไทรม้า  ตรวจสอบบัญชีถนนพิบูลสงคราม  ตรวจสอบบัญชีถนนราชพฤกษ์ ตรวจสอบบัญชีตลิ่งชัน  ตรวจสอบบัญชีถนนเรวดี  ตรวจสอบบัญชีถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี  ตรวจสอบบัญชีถนนศรีสมาน
#9501
โปรแกรมสลากกินแบ่ง RICHMANTOOL
โปรแกรมสลากกินแบ่ง หรือ โปรแกรมเจ้ามือหวย RICHMANTOOL เป็นเครื่องมือ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้เจ้ามือหวย สำหรับเพื่อการ คัดสลากกินแบ่งคำนวณสลากกินแบ่ง แล้วก็ทำบัญชี ได้อย่างมีคุณภาพ เนื่องจากบ่อยมากที่พบกับปัญหา ข้อมูลล้นมือ เวลาไม่พอ ทำไม่ทัน ฯลฯ ก็เลยจำเป็นต้องใช้ โปรแกรมหวย ช่วยงาน
#9502
แนะนำทัวร์ลาวใต้ ราคาประหยัด
#9505
คิดจะ ถมดิน ขุดท่อ ทำถนน ขุดสระ ถางป่า เครียร์พื้นที่ ติดต่อ 080-022-3804
#9506
โปรแกรมหวย RICHMANTOOL
โปรแกรมลอตเตอรี่ หรือ โปรแกรมเจ้ามือหวย RICHMANTOOL คือเครื่องไม้เครื่องมือ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้เจ้ามือหวย สำหรับในการ คัดเลือกสลากกินแบ่งคำนวณหวย และก็ทำบัญชี ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะเหตุว่าบ่อยที่เจอกับปัญหา ข้อมูลล้นมือ เวลาไม่พอ ทำไม่ทัน ฯลฯ จึงจำเป็นต้องใช้ โปรแกรมลอตเตอรี่ ช่วยงาน
#9507
สนใจติดต่อคุณเป้ง 087-347-6299

ตรวจสอบบัญชีนนทบุรี  ตรวจสอบบัญชีบางกรวย  ตรวจสอบบัญชีบางใหญ่  ตรวจสอบบัญชีบางบัวทอง  ตรวจสอบบัญชีไทรน้อย  ตรวจสอบบัญชีปากเกร็ด  ตรวจสอบบัญชีบางศรีเมือง  ตรวจสอบบัญชีพิมลราช  ตรวจสอบบัญชีบางคูรัด  ตรวจสอบบัญชีบางรักพัฒนา  ตรวจสอบบัญชีบางแม่นาง  ตรวจสอบบัญชีบางกร่าง  ตรวจสอบบัญชีไทรม้า  ตรวจสอบบัญชีตลาดขวัญ  ตรวจสอบบัญชีบางตะไนย์  ตรวจสอบบัญชีบางพลับ  ตรวจสอบบัญชีบางรักน้อย  ตรวจสอบบัญชีมหาสวัสดิ์  ตรวจสอบบัญชีศาลากลางนนทบุรี  ตรวจสอบบัญชีอ้อมเกร็ด  ตรวจสอบบัญชีแจ้งวัฒนะ  ตรวจสอบบัญชีถนนกาญจนาภิเษกนนทบุรี  ตรวจสอบบัญชีถนนจงถนอม-ไทรน้อย  ตรวจสอบบัญชีถนนชัยพฤกษ์  ตรวจสอบบัญชีถนนติวานนท์  ตรวจสอบบัญชีถนนทวีวัฒนา  ตรวจสอบบัญชีถนนเทศบาลจังหวัดนนทบุรี  ตรวจสอบบัญชีถนนเทิดพระเกียรติ  ตรวจสอบบัญชีท่าอิฐ  ตรวจสอบบัญชีถนนนครอินทร์  ตรวจสอบบัญชีบางม่วง  ตรวจสอบบัญชีบางกรวย-จงถนอม  ตรวจสอบบัญชีถนนบางไกรใน  ตรวจสอบบัญชีบางกรวย-ไทรน้อย  ตรวจสอบบัญชีบางคูเวียง  ตรวจสอบบัญชีบางศรีเมือง  ตรวจสอบบัญชีถนนวัดโบสถ์ดอนพรหม  ตรวจสอบบัญชีไทรม้า  ตรวจสอบบัญชีถนนพิบูลสงคราม  ตรวจสอบบัญชีถนนราชพฤกษ์ ตรวจสอบบัญชีตลิ่งชัน  ตรวจสอบบัญชีถนนเรวดี  ตรวจสอบบัญชีถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี  ตรวจสอบบัญชีถนนศรีสมาน
#9508


สศช.ชงครม.เพิ่ม "เยียวยา" อีก 3 จังหวัดสีแดงเข้มตามประกาศ ศบค.ชลบุรี อยุธยา ฉะเชิงเทรา "สุชาติ" เผยเป็นพื้นที่เศรษฐกิจมีแรงงาน ม.33 มากกว่า 1 ล้านคน

การระบาดของโรคโควิด-19 ที่รุนแรงขึ้นเสี่ยงเกิดภาวะวิกฤตระบบสาธารณสุข ซึ่งทำให้มัการยกระดับความเข้มข้นของการล็อกดาวน์ และเพิ่มพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) เป็น 13 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานคร นครปฐม นราธิวาส นนทบุรี ปทุมธานี ปัตตานี ยะลา สมุทรปราการ สมุทรสาคร สงขลา ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และพระนครศรีอยุธยา มีผลตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค.2564

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 20 ก.ค.2564 สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) จะเสนอมาตรการบรรเทาผลกระทบต่อประชาชน กลุ่มแรงงาน และผู้ประกอบการอันเนื่องมาจากข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 28) สาระสำคัญจะปรับปรุงมาตรการการเยียวยาและช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการยกระดับมาตรการควบคุมสถานการณ์โควิดที่เพิ่มพื้นที่ควบคุมสูงสุดจาก 10 เป็น 13 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี พระนครศรีอยุธยา ฉะเชิงเทรา

แหล่งข่าว กล่าวว่า การทำให้ต้องมีการขยายขอบเขตการให้ความช่วยเหลือแรงงานทั้งในและนอกระบบประกันสังคมในพื้นที่ดังกล่าวจากเดิมที่ ครม.เคยอนุมัติไว้แล้วเมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งอนุมัติการจ่ายเงินเยียวยาแรงงาน 9 กลุ่มธุรกิจ วงเงิน 30,000 ล้านบาท ในขณะที่การช่วยลดค่าครองชีพค่าน้ำค่าไฟฟ้าวงเงิน 12,000 ล้านบาท เป็นการช่วยเหลือทั้งประเทศอยู่แล้ว

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า กระทรวงแรงงาน ส่งข้อมูลแรงงานใน 3 จังหวัดที่ประกาศเพิ่มเติมให้ สศช.แล้ว ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจมีแรงงานทั้งในและนอกระบบมาก โดยเฉพาะแรงงานในระบบประกันสังคมตาม ม.33 รวม 1 ล้านคน โดยชลบุรีมากที่สุด 7 แสนคน รองลงมาพระนครศรีอยุธยาและฉะเชิงเทรา รวมกันมากกว่า 3 แสนคน 

"การดูแลแรงงานพื้นที่นี้จะทำตามมติ ครม.ซึ่ง สศช.จะนำเสนอ ซึ่งคงไม่ต่างจาก 10 จังหวัด ที่ประกาศเป็นพื้นที่สีแดงเข้มก่อนหน้านี้ และ 9 กลุ่มอาชีพกิจการต้องได้รับการเยียวยาเหมือนกัน โดยส่งข้อมูลแรงงานไปแล้วเชื่อว่าการเยียวยาคงไม่ตกหล่น"นายสุชาติ กล่าว 


สำหรับมาตรการเยียวยาใน 3 จังหวัด จะมีรูปแบบที่ ครม.อนุมัติ คือ การเยียวยาแรงงานในระบบประกันสังคมและนอกระบบ โดยในระบบประกันสังคมแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่

1.กลุ่มแรงงาน ม.33 ในกิจการ 9 หมวด รัฐจะจ่ายเงินเยียวยาให้ 50% ของรายได้ (สูงสุดไม่เกิน 7,500 บาท) และจ่ายสมทบให้ลูกจ้างสัญชาติไทยอีก 2,500 บาทต่อคน รวมแล้วได้สูงสุดไม่เกิน10,000 บาท

2.ผู้ประกอบการหรือนายจ้างตามหลักการให้ความช่วยเหลือ ได้รับความช่วยเหลือตามจำนวนลูกจ้างสูงสุดไม่เกิน 200 คน อัตรา 3,000 บาทต่อคน จำนวน 1 เดือน

3.ผู้ประกันตนตาม ม.39 และ ม.40 สัญชาติไทยที่ยังประกอบอาชีพจะได้รับความช่วยเหลือ 5,000 บาท จำนวน 1 เดือน ผู้ประกอบอาชีพอิสระที่ไม่เป็นผู้ประกันตน ม.33 ม.39 และ ม.40 สัญชาติไทย ที่ยังประกอบอาชีพให้เตรียมหลักฐานลงทะเบียนเป็นผู้ประกันตน ม. 40 ภายในเดือน ก.ค.นี้ เพื่อรับความช่วยเหลือ 5,000 บาท จำนวน 1 เดือน
#9509
แนะนำทัวร์ลาวใต้ ราคาประหยัด