• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Naprapats

#3121


"ท่าอากาศยานนานาชาติชิงเต่า เจียวตง" สนามบินแห่งใหม่ ณ เมืองชิงเต่า มณฑลซานตงทางตะวันออกของจีน เปิดใช้อย่างเป็นทางการแล้ว เชื่อมต่อการเดินทางทั้งในและต่างประเทศ

สำนักข่าวซินหัว สื่อทางการของจีน เปิดเผยข้องมูลเมื่อวันที่ 12 ส.ค. ว่า มณฑลซานตงทางตะวันออกของจีน เปิดใช้งานท่าอากาศยานนานาชาติชิงเต่า เจียวตง ซึ่งเป็นสนามบินนานาชาติแห่งใหม่ของซานตงอย่างเป็นทางการ

ท่าอากาศยานนานาชาติชิงเต่า เจียวตง มีสถานะ 4เอฟ (4F) ซึ่งสูงสุดในการจัดระดับสนามบินของจีน สามารถรองรับอากาศยานขนาดใหญ่ อาทิ แอร์บัส เอ380 เครื่องบินโดยสารขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

ท่าอากาศยานนานาชาติชิงเต่า เจียวตง (ภาพจาก สำนักข่าวซินหัว)
ท่าอากาศยานนานาชาติชิงเต่า เจียวตง (ภาพจาก สำนักข่าวซินหัว)

ชิงเต่า แอร์พอร์ต กรุ๊ป ระบุว่าโครงการระยะแรกของท่าอากาศยานฯ ครอบคลุมพื้นที่ 16.25 ตารางกิโลเมตร มีมูลค่าการลงทุนเกือบ 3.6 หมื่นล้านหยวน (ราว 1.8 แสนล้านบาท)

โครงการระยะแรกดังกล่าวจะสามารถรองรับปริมาณผู้โดยสารรายปีสูงถึง 35 ล้านคน ปริมาณสินค้า 5 แสนตัน และการขึ้นบิน-ลงจอดของอากาศยาน 3 แสนลำ ภายในปี 2025

นอกจากนั้นท่าอากาศยานฯ จะเชื่อมต่อชิงเต่ากับ 130 จุดหมายปลายทางในประเทศ ครอบคลุมเมืองและภูมิภาคสำคัญ รวมถึง 50 เมืองใหญ่ในต่างประเทศ ซึ่งมี 17 เมืองอยู่ในญี่ปุ่นและเกาหลีใต้

ท่าอากาศยานนานาชาติชิงเต่า เจียวตง (ภาพจาก สำนักข่าวซินหัว)
ท่าอากาศยานนานาชาติชิงเต่า เจียวตง (ภาพจาก สำนักข่าวซินหัว)

บรรดาผู้โดยสารสามารถเดินทางเข้าออกท่าอากาศยานฯ ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งหลักอย่างสะดวกสบายผ่านบริการรถไฟใต้ดินและรถไฟความเร็วสูง

นักธุรกิจชาวเกาหลีใต้คนหนึ่งในเมืองชิงเต่าของซานตง เผยว่าการเปิดท่าอากาศยานฯ ช่วยให้นักธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ เดินทางพบปะลูกค้าทั่วโลกง่ายดายยิ่งขึ้น

ขณะเดียวกันท่าอากาศยานฯ ยังเอื้ออำนวยประโยชน์แก่การขยับขยายเครือข่ายโลจิสติกส์ นำไปสู่การตัดลดต้นทุนการขนส่งอย่างมีนัยสำคัญอีกด้วย

ปัจจุบันการก่อสร้างโครงการระยะที่ 2 เริ่มดำเนินงานแล้ว หากเสร็จสิ้นจะทำให้ท่าอากาศยานฯ รองรับผู้โดยสารปีละ 55 ล้านคน สินค้า 1 ล้านตัน และเครื่องบินขึ้นลง 452,000 ลำ

ทั้งนี้ เมืองชิงเต่าได้ปิดบริการท่าอากาศยานนานาชาติชิงเต่า หลิวถิง หลังจากเปิดใช้งานท่าอากาศยานแห่งใหม่แล้ว
#3122


นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเยว่า ในวันที่  13 ส.ค.นี้จะหารือกับผู้ประกอบการล้งลำไยในจังหวัดเชียงใหม่เพื่อหารือและวางมาตรการรับมือ ถึงกรณีที่ จีนทำหนังสือให้แจ้งระงับล้งรวบรวมลำไยที่ตรวจพบเพลี้ยแป้ง ปนเปื้อนเกินกว่าข้อตกลงในพิธีการ ที่กำหนดการสุ่มตรวจที่ 3 %

โดยทางจีนได้แจ้งอย่างเป็นทางการถึงสถิติการส่งออกลำไย ตั้งแต่ปี 63 ถึงปัจจุบันพบว่าการสุ่มตรวจพบเพลี้ยแป้งปนเปื้อนลำไยของล้ง 60 แห่ง โดยขอให้กรมวิชาการเกษตรระงับไม่ให้ล้งเหล่านี้ส่งออกลำไยไปจีนตั้งแต่วันที่  14 ส.ค.นี้เป็นต้นไป

อย่างไรก็ตามการเนื่องจากปัจจุบันอยู่ลำไยอยู่ระหว่างการเก็บเกี่ยวและเป็นช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมาก หรือช่วงพีคของปี ดังนั้นการสั่งระงับ จะส่งผลกระทบต่อภาพรวมได้ ดังนั้นกรมวิชาการเกษตรจึงเจรจากับจีนผ่านระบบออนไลน์เพื่อผ่อนปรนมาตรการ โดยไทย จะเพิ่มความเข้มงวดการสุ่มตรวจของล้ง66 แห่งจาก 3 % เป็น 5-10 %  ซึ่งฝ่ายจีนไม่ยินยอม


ดังนั้นในวันที่ 13 ส.ค.นี้จึงจะหารือกับผู้ประกอบการล้งในเขตภาคเหนือก่อน คือจังหวัดเชียงใหม่ จำนวน  37 แห่ง เพื่อวางมาตรการร่วมกัน   ซึ่งกรมวิชาการเกษตรจะต่อรอง ขอให้จีนอนุญาตเฉพาะล้งที่มีการตรวจพบการปนเปื้อนน้อย ส่งไปก่อน โดยกรมวิชาการเกษตรจะเพิ่มความเข้มงวดการตรวจสอบให้มากขึ้น  ซึ่งในจ.เชียงใหม่ แยกเป็นล้งที่พบการปนเปื้อนมาก 10 แห่ง ที่เหลือ27 แห่งปนเปื้อนน้อย ส่วนล้งที่อยู่จ.จันทบุรี ปัจจุบันยังไม่เก็บเกี่ยวผลผลิต จึงสามารถบริหารจัดการได้

เมื่อได้ข้อสรุปที่ชัดเจน กรมวิชาการเกษตรจะเสนอให้จีนพิจารณาต่อไป แต่ทั้งนี้ ทั้งล้ง เกษตรกร ในห่วงโซ่ลำไยทั้งหมดต้องให้ความร่วมมือ คัดแยกลำไยอย่างมีคุณภาพ  เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบในภาพรวม 


นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ  กล่าวว่า ได้ทราบเรื่องที่จีนห้ามนำเข้าลำไยจากไทยเนื่องจากพบเพลียแป้ง จึงได้สั่งการให้ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ(ทูตพาณิชย์)ประสานทูตเกษตรให้เจรจากับทางการจีนผ่อนผันการบังคับใช้ไปก่อน เนื่องจากเป็นการดำเนินการอย่างกระทันหัน


อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าหากการเจรจาไม่ได้ผลจะกระทบกับการส่งออกลำไยเพราะ การส่งออกลำไยไปจีนมีสัดส่วนถึง 70-80% ดังนั้น กรมได้เร่งปรับแผนการส่งออกผลไม้ ล่าสุดเตรียมจัดเจรจาการค้าออนไลน์กับเวียดนาม เพื่อหาตลาดทดแทนการส่งออกไปจีน นอกจากนี้ มีแผนจะจัดอินสโตร์โปรโมชั่น ที่กัมพูชา และอินเดีย

"ได้รับแจ้งว่าจีนจะมีการระงับการนำเข้าลำไยจากไทยเมื่อ 2 วันก่อน และได้สั่งการให้มีการเจรจากับทางการจีนก่อนเพื่อให้ผ่อนผัน และเพื่อไม่ให้มีผลต่อการส่งออกจึงปรับแผนส่งเสริมการส่งออกด้วยการหาตลาดในอาเซียนที่มีศักยภาพมารองรับเพิ่มแล้ว"
#3123


ก่อนหน้านี้ คงเคยได้ยินเรื่องของสินเชื่อเงินทอนหรือว่าการขอสินเชื่อธนาคารเกินวงเงินหรือเกินมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์ที่นำมาเป็นหลักประกัน ซึ่งเกิดขึ้นมากมายจนถึงกับมีโค้ชเปิดสอน หรือมีคนรับทำแบบนี้จนธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ต้องออกมาเตือน

นายสุรเชษฐ กองชีพ กรรมการผู้จัดการบริษัทฟีนิกซ์ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ แอนคอนซัลแทนซี่ จำกัด อธิบายว่า เรื่องสินเชื่อเงินทอน กลายเป็น 1 ในปัจจัยสำคัญ ที่ธปท.ออกเกณฑ์กำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยใหม่หรือที่เรียกกันสั้นๆ ง่ายๆ ว่า LTV (Loan To Value) โดยกำหนดให้ผู้ที่จะซื้อที่อยู่อาศัยทุกคนที่ขอสินเชื่อธนาคารจะได้วงเงินสินเชื่อจากธนาคารมาที่ 80 – 90% ไม่ใช่ 100% แบบก่อนหน้านี้

โดยคนที่จะได้สินเชื่อ 90% คือคนที่ขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นครั้งแรก หรือสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่เคยขอมาก่อนหน้านี้มีระยะเวลาเกิน 3 ปีแล้ว แต่เรื่องของสินเชื่อเงินทอนนี้ก็ไม่ได้หายไปจากตลาดอสังหาริมทรัพย์

แม้ว่าจะมีมาตรการ LTV ออกมาควบคุมสินเชื่อธนาคารได้ 2 ปีกว่าแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องของสินเชื่อเงินทอนยังคงมีอยู่ให้เห็นหรือมีคนเล่าให้ฟัง อีกทั้งยังมีการโฆษณาให้เห็นต่อเนื่องในช่องทางออนไลน์ต่างๆ โดยส่วนใหญ่เป็นโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ทันที ผู้ที่สนใจซื้อจะสามารถเข้าชมบ้านหรือคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จนั้นได้ทันที จากนั้นก็ดำเนินเรื่องการขอสินเชื่อกับทางพนักงานขายหรือเจ้าหน้าที่ของโครงการ 

โดยเรื่องของ สินเชื่อเงินทอน ที่เกิดขึ้นหลังจากที่มี LTV ควบคุมอยู่ก็ยังสามารถทำได้ เพราะหลายโครงการของหลายผู้ประกอบการมีการลดราคาขายของยูนิตในโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ โดยเป็นการลดราคาขายลงมามากถึง 20 – 30% จากราคาขาย และเมื่อเป็นโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ ก็ต้องเป็นโครงการที่มีราคาประเมินราชการพร้อมอยู่แล้ว ซึ่งราคาขายที่ฝั่งของโครงการเสนอให้กับผู้ซื้อนั้น ต่ำกว่าราคาประเมินราชการ และแม้ว่ามีเกณฑ์ LTV มาควบคุมวงเงินสินเชื่อ ผู้จะซื้อที่ขอสินเชื่อธนาคารก็ยังคงได้รับสินเชื่อธนาคารในวงเงินที่มากกว่าราคาซื้อขายจริง ที่พวกเขาได้รับการนำเสนอจากฝั่งของโครงการเพราะอ้างอิงจากราคาประเมินราชการ ซึ่งวงเงินที่เกินมานี้อาจจะไม่มากแต่ก็หลักแสนบาท เป็นวงเงินที่ทางผู้ซื้อพอใจ และเป็นวงเงินที่ทางธนาคารก็พอใจเช่นกัน

ช่วงปีที่ผ่านมา เป็นช่วงที่ผู้ประกอบการหลายรายพร้อมใจกันลดราคาขายที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จพร้อมอยู่ของพวกเขาซึ่งหลายโครงการที่พวกเขาลดราคานั้นเป็นโครงการที่มีราคาขายสูงมาก หรือเป็นโครงการที่ผู้ประกอบการตั้งราคาขายไว้สูงกว่าราคาขายเฉลี่ยในทำเลนั้นๆ นอกจากนี้ยังเป็นโครงการที่มีต้นทุนเดิมทั้งเรื่องของราคาที่ดิน และต้นทุนการก่อสร้าง เพราะเป็นโครงการที่เปิดขายก่อนหน้านี้ 2 – 3 ปี แต่ตั้งราคาขายไว้สูงกว่าราคาเฉลี่ยแบบที่กล่าวไปแล้ว เพราะฝั่งของผู้ประกอบการก็ต้องการวงเงินสินเชื่อสูงๆ จากธนาคารในการก่อสร้างโครงการเช่นกัน เพราะมูลค่าของโครงการก็อ้างอิงจากราคาขายของทุกยูนิตในโครงการรวมกัน ซึ่งเมื่อโครงการสร้างเสร็จพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ ราคาประเมินราชการที่จะตั้งสำหรับแต่ละโครงการนั้นก็อ้างอิงหรือสอดคล้องกับราคาขายที่ผู้ประกอบการตั้งไว้เช่นกัน ไม่อย่างนั้นผู้ซื้อจะเกิดปัญหาได้ ผู้ประกอบการจึงได้รับประโยชน์จากการที่โครงการมีราคาประเมินสูงๆ และมีช่องในการลดราคาเพื่อสร้างความน่าสนใจให้กับผู้ซื้อ ด้วยการลดราคาขายลงมา และบอกว่าผู้ซื้อสามารถขอสินเชื่อธนาคารได้โดยอ้างอิงจากราคาประเมินราชการ 

ฝั่งของธนาคารเองก็ไม่ได้เข้มงวดในจุดนี้มากนัก เพราะพวกเขาได้ประโยชน์จากวงเงินสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น และมีอสังหาริมทรัพย์ค้ำประกันอยู่ ฝั่งของผู้ซื้ออาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นตอนโอนกรรมสิทธิ์ และจดจำนองกับทางธนาคาร เพราะคิดตามวงเงินสินเชื่อ

ผู้ซื้อบางราย อาจจะขอสินเชื่อธนาคารพร้อมกันหลายยูนิต ซึ่งถ้าทุกยูนิตที่พวกเขายื่นขอสินเชื่อธนาคารได้รับเงินส่วนต่างจากเรื่องนี้ตลอด จะมีผลให้พวกเขาได้เงินมาเป็นจำนวนไม่น้อยเลย

แม้ว่าสุดท้ายแล้ว ผู้ที่ขอสินเชื่อเหล่านี้จะต้องรับผิดชอบเงินสินเชื่อที่ได้รับจากธนาคารก็ตาม แต่ในมุมมองของธปท.คือ การก่อภาระหนี้สินที่มีความเสี่ยง และสร้างความเสี่ยงให้กับภาคธนาคารด้วยเช่นกัน เพราะผู้ซื้อบางส่วนไม่ได้ต้องการที่จะเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์เหล่านี้จริงๆ พวกเขาแค่ต้องการเงินส่วนเกินนี้เท่านั้นเอง และต้องการขายอสังหาริมทรัพย์เหล่านี้ทันทีไม่ได้ต้องการเป็นเจ้าของในระยะยาว ซึ่งผู้ขอสินเชื่อกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทยจับตามองสินเชื่อที่อยู่อาศัยมากขึ้น แต่ช่วงนี้อาจจะกู้ธนาคารกันยากกว่าช่วงเวลาที่สถานการณ์ปกติ

ตัวอย่างจากธปท.

สมมุติซื้อบ้านที่ผู้ขายบอกราคา 3 ล้านบาท แต่ในทางปฏิบัติสามารถต่อรองได้ เช่น ลดเหลือ 2.5 ล้านบาท แต่สถาบันการเงินเอา 3 ล้านบาทไปเป็นราคาทำสัญญา และให้เงินกู้บวกไปอีกเพื่อซื้อเฟอร์นิเจอร์ ค่าตกแต่ง ดังที่เรียกกันว่าเงินกู้เอนกประสงค์ บวกไปอีก 10% เป็นกู้ทั้งหมด 3.3 ล้านบาท ในขณะที่จ่ายจริง 2.5 ล้านบาท คนกู้เหลือเงินสด 8 แสนบาท สำหรับใช้จ่าย ซึ่งสมมติว่าถ้าคนที่กู้ 4 สัญญา (4 ยูนิต) พร้อมกัน เขาก็ได้เงินจากสินเชื่อเงินทอนถึง 3.2 ล้านบาท.
#3124


หากเอ่ยชื่อของ "ณุศาศิริ" แวดวงตลาดที่อยู่อาศัยหรืออสังหาริมทรัพย์ รู้จักชื่อชั้นเป็นอย่างดี เพราะนอกจากจะคร่ำหวอดในวงการมานาน 25 ปี ยังมีโครงการมากมายออกสู่ตลาดทั้งโครงการแนวราบ บ้านเดี่ยวหรู โครงการแนวสูง คอนโดมเนียม แตกไลน์ไปสู่การพัฒนาโครงการห้างค้าปลีกรูปแบบคอมมูนิตี้ มอลล์ เป็นต้น

เส้นทางการเติบโตและแนวทางการพัฒนาธุรกิจ "ณุศาศิริ" ไม่หยุดอยู่แค่ตลาดที่อยู่อาศัย แต่ยังมอโอกาสใหม่ๆ ในธุรกิจท่องเที่ยว หวยออนไลน์ ธุรกิจทางการแพทย์ ล่าสุดยังปั้นโมเดล "Medical Technology" การเปิดแพลตฟอร์มเพื่อสุขภาพและการแพทย์ "Morhello" รุกสู้วิกฤติด้วยการตั้งศูนย์วิจัยพืชเศรษฐกิจใหม่ของไทยอย่าง "กัญชา-กัญชง" เพื่อแปรรูปสู่ตลาดโลกด้วย 

ทว่า ล่าสุดชื่อของ "ณุศาศิริ" ยังปรากฏบนหน้าสื่อ ในฐานะที่ได้รับการแต่งตั้งจาก บริษัท ออสท์แลนด์ แคปปิตอล จำกัด เพื่อเข้าประมูลชุดตรวจโควิด-19 แบบตรวจหาแอนติเจนด้วยตนเอง (COVID-19 Antigen self-test Test Kits : ATK)ในโครงการสปสช.ด้วย 

"ณุศาศิริ" มีทุนจดทะเบียนบริษัท 200 ล้านบาท ย้ำถึงการมีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ ตลอดจนธุรกรรมต่างๆ ขณะที่ตลอดเส้นทางธุรกิจ 25 ปี สร้างที่อยู่อาศัยมากมายเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค    

ย้อนรอย 25 ปี ของบริษัท ณุศาศิริ เดิมชื่อบริษัท อั่งเปา แอสเสท จำกัด (มหาชน), บริษัท ไทยเกรียงกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) จดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัด เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2503 เพื่อดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับสิ่งทอ จากนั้นปี 2537 ได้แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนหรือเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) และลุยพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเจาะทุกทำเลทั่วทุกหัวมุมเมืองทุกภาคของประเทศไทยด้วยมูลค่านับหมื่นล้านบาท เช่น เปิดตัวบ้านกฤษณา บ้านสไตล์ Bali ที่จังหวัดอุดรธานี, 

ณุศาศิริ Flexfible Function Home บ้านที่ปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยได้ตามความต้องการ, ณุศาศิริ พระรามสอง (Nusasiri city rama2) โครงการไฮเอนด์บนเนื้อที่กว่า 350 ไร่,โรงเรียนนานาชาติ นอร์วิช (Norwich international school), คอนโดมิเนียม ณุศาศิริ (Nusasiri Grand condominium)คอนโดมิเนียมแห่งแรกในกรุงเทพ ที่มีทางเดินเชื่อมรถไฟฟ้าแห่งแรกในกรุงเทพ, ณุศา ชีวานี่ พัทยา (Nusa chivani pattaya), หมู่บ้านสุขภาพ สไตล์ ทัชคานี่ แห่งแรกของภาคตะวันออก พร้อมการออกแบบภายในแบบ Universal home  ผู้สูงอายุสามารถอยู่ได้อย่างสบาย และปลอดภัย

เมอเวนพิค มาย โฮโซน เขาใหญ่(Movenpick my ozone khaoyai) ซึ่งเป็นโครงการบ้านเพื่อสุขภาพเต็มรูปแบบ มีศูนย์บริการทางการแพทย์ ดูแลรักษาตลอด 24 ชั่วโมง(ชม.) สนามกอล์ฟมาตรฐาน 18 หลุม โดยไฮไลท์เด่นตั้งอยู่บนพื้นที่มีโอโซนอันดับ 7 ของโลก ด้วยพื้นที่ 1,200 ไร่ บนเขาใหญ่นั่นเอง นอกจากนี้ ยังมี นุศา ลากูน่า ภูเก็ต(Nusa laya phuket)


"ณุศาศิริ" ยังก้าวสู่ธุรกิจท่องเที่ยวอย่างยิ่งใหญ่ ปี 2519 เมื่อบริษัทลูกอย่าง บริษัท ณุศา เลเจนด์ สยาม จำกัด ลงทุนใหญ่ 4,000 ล้านบาท เนรมิต "เลเจนด์ สยาม พัทยา (Legend Siam Pattaya)" ให้เป็นซิกเนอร์ท่องเที่ยวของไทย บนเนื้อที่กว่า 164 ไร่ หรือใช้พื้นที่กว่า 100,000 ตารางเมตร(ตร.ม.) รวบรวมอัตลักษณ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นทั้ง 77 จังหวัดของประเทศไทยไว้ในพื้นที่เดียว รองรับนักท่องเที่ยวร่วม 20,000 คนต่อวัน 

ก้าวสู่ปีที่ 25 "ณุศาศิริ" ยังมุ่งสร้างการเติบโตอย่างมีศักยภาพ ภายใต้เป้าหมายที่เด่นชัดในการนำสินค้าไทยสู่ตลาดโลก  จึงผนึกพันธมิตรทางการค้า บริษัท CSR จากประเทศจีน ทุ่มกว่า 1,000 ล้านบาท รุกตลาดปั้นโมเดลธุรกิจใหม่  Medical Technology ตั้งศูนย์วิจัยนำ "กัญชา กัญชง" แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่สู่ตลาดโลก

ทั้งนี้ บริษัทมีแพลตฟอร์มจำหน่ายสินค้าและบริการเพื่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีแบบองค์รวม บริหารจัดการตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำทั้งการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทุกหมวด ทั้งสกินแคร์ เครื่องดื่ม และอาหารเสริม ฯลฯที่มีสารสกัดจากกัญชา และ กัญชง ผ่านทุกช่องทาง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ  

"ศิริญา เทพเจริญ" รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาด บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) ฉายภาพ ณุศาศิริ ได้ขับเคลื่อนธุรกิจและก้าวไปสู่ความเป็นสากล ทั้งในด้านอสังหาริมทรัพย์ ท่องเที่ยว และด้านสุขภาพ ฯลฯ มีการร่วมมือกับบริษัทชั้นนำระดับโลก เพื่อดูแลและบริหารการจัดการต่างๆ และจากประวัติอันยาวนาน บริษัทได้เติบโตคู่กับคนไทย  ผ่านร้อน ผ่านหนาว ผ่านทุกสถานการณ์ จนก้าวสู่ความสำเร็จ และเข้าสู่ปีที่ 25 อย่างมั่นคง 

"เรามุ่งมั่นสร้างแบรนด์ ณุศาศิริ ให้ก้าวไปในทิศทางใหม่อย่างยิ่งใหญ่ฉลองปีที่ 25 ของเราอีกครั้ง"

การเคลื่อนทัพสู่ธุรกิจสุขภาพ ตลอดจนเกาะเทรนด์พืชกัญชา-กัญชงที่มาแรง เพื่อสะท้อนการรุกตลาดจริงจัง บริษัทเตรียมความพร้อมด้วยการปรับพื้นที่ใน 2 โครงการ เนื้อที่i;,นับ "พันไร่" ได้แก่ พื้นที่โครงการ "เลเจนด์ สยาม พัทยา แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม แลนด์มาร์ค ธีมพาร์ค และแหล่งชอปปิงที่ใหญ่สุดในภาคตะวันออก จะถูกปรับให้เป็นแหล่งปลูกกัญชา -กัญชงในเชิงงานศึกษาวิจัย เป็นศูนย์การเรียนรู้กัญชา กัญชง ของโลก เพิ่มความรู้ความเข้าใจในประโยชน์ของพืชมหัศจรรย์นี้สู่สายตานักท่องเที่ยว 

อีกทำเลคือโครงการ เมอเวนพิค มาย โอโซน เขาใหญ่ จะสร้างให้เป็นเมืองกัญชาเพื่อสุขภาพครบวงจร ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมารักษาและฟื้นฟูสุขภาพในประเทศไทยแบบระยะยาว 

 นอกจากนี้ บริษัทยังตั้งใจจะสร้างแพลตฟอร์มออนไลน์ใหม่ ในนาม "ณุศาเทค" ลุยงานด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ(AI) เพื่องานวิจัยและเก็บข้อมูลด้านสุขภาพของคนไทย ให้เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่จะเป็นศูนย์กลางในเรื่องสุขภาพ ครบจบในที่เดียว ในชื่อ "MORHELLO" แพลตฟอร์มเพื่อสุขภาพและการแพทย์ที่ผู้บริโภคจะได้ใกล้ชิดติดหมอผ่านจอโดยคุณหมอฮัลโหล จะตอบโจทย์ทุกข้อข้องใจ การรักษาเยียวยา การพึ่งพา ไม่ใช่เรื่องที่เข้าถึงยากอีกต่อไป 

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางสถาณะการณ์วิกฤติโควิด 19  การเปิดแพลตฟอร์ม Morhello ร่วมกับ โรงพยาบาลพานาซี ต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมช่วยกู้วิกฤติเตียงล้น โดยทั้งให้คำปรึกษาและหาเตียงรองรับผู้อยู่ในระยะสีเขียว และเหลือง จัดหายาวิตามินโดสสูงที่เป็นจุดเด่นของ โรงพยาบาลพานาซี รวมทั้งจัดหาชุดตรวจโควิด ทั้งชนิดตรวจหาเชื้อจากน้ำลายและหาเชื้อในโพรงจมูกด้วยตนเองมาให้คนสามารถสั่งได้ผ่านแพลตฟอร์มหมอฮัลโหล 

"หมอฮัลโหล จะเป็นแสงสว่างแค่ปลายนิ้ว คลิ๊กเดียว จบครบเรื่องสุขภาพ โดยในอนาคตเรายังมีโครงการต่อเนื่องเรื่องสุขภาพเข้ามาต่อยอดเพิ่มเติม" ศิริญา กล่าว  

สำหรับ ณุศาศิริ มีรายได้ระดับ "พันล้านบาท" แต่ปี 2563 บริษัทมีรายได้กว่า 709 ล้านบาท ขณะที่บรรทัดสุดท้าย(Bottom line) ยังเผชิญภาวะ "ขาดทุน" ต่อเนื่อง โดยย้อนหลัง 5 ปีการขาดทุนเป็นดังนี้ ไตรมาส 1 ปี 2564 ขาดทุนกว่า 200 ล้านบาท ปี 2563 ขาดทุนกว่า 900 ล้านบาท ปี 2562 ขาดทุนกว่า 600 ล้านบาท ปี 2561 ขาดทุนกว่า 200 ล้านบาท ปี 2560 ขาดทุนกว่า 200 ล้านบาท 
#3125


รายงานข่าวจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา หรือ BAY  เปิดเผยว่า การปรับลดวงเงิน "คุ้มครองเงินฝาก" เป็น 1 ล้านบาท เป็นวันแรกในวันนี้ ( 11  ส.ค.)  ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมของผู้ฝากเงิน เนื่องจากวงเงินคุ้มครอง 1 ล้านบาท ครอบคลุมผู้ฝากเงินส่วนใหญ่ถึง 98% ของจำนวนผู้ฝากเงินทั้งหมดของประเทศ


สำหรับผู้ฝากเงินที่มีปริมาณเงินฝากเกินกว่าวงเงินที่ได้รับความคุ้มครอง ก็ไม่น่าจะมีการปรับพฤติกรรมในการฝากเงินแต่อย่างใด  โดยกฎหมายคุ้มครองเงินฝาก มีผลบังคับใช้มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 ผู้ฝากเงินที่มีปริมาณเงินฝากเกินกว่าวงเงินที่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย ได้มีการปรับตัว บริหารจัดการพอร์ตเงินฝากและเงินลงทุนไว้แล้ว

ประกอบกับสถานการณ์สภาพคล่องของระบบยังคงสูง และสถาบันการเงินไทยในขณะนี้ มีความแข็งแกร่ง จึงไม่น่าจะมีประเด็นในเชิงลบ ที่จะทำให้ประชาชนตื่นตระหนกต่อการปรับลดวงเงินคุ้มครองในครั้งนี้

ส่วนกรณี การลดวงเงินคุ้มครองในครั้งนี้ จะทำให้เงินไหลเข้าไปตลาดเงิน ตลาดทุนหรือไม่นั้น ธนาคารมองว่า การโยกเงินระหว่างเงินฝากกับเงินลงทุนนั้น ลูกค้าจะจัดแบ่งสัดส่วนเงินเอาไว้อยู่แล้ว การเปลี่ยนเงินฝากไปเป็นเงินลงทุนน่าจะถูกจูงใจด้วยแนวโน้มผลตอบแทนจากการลงทุนกับความเสี่ยงจากการลงทุนที่ลูกค้ายอมรับได้ มากกว่าที่จะเกิดจากการปรับลดวงเงินคุ้มครองเงินฝาก
#3126


ขอต้อนรับเข้าสู่เดือนแห่งวันแม่ด้วยการหยิบเรื่องราวน่ารักๆ ของไลน์แมนไรเดอร์แม่เลี้ยงเดี่ยวสุดเปรี้ยว แนต-วราพร นะนิ่มนวล

ที่ไม่ว่าจะขับรถส่งอาหารที่ไหนก็จะหิ้ว น้องอ๊อฟ ลูกชายวัย 5 ขวบไปด้วยทุกครั้ง ที่สะดุดตาที่สุดก็คงเป็นชุดคู่หูปฏิบัติหน้าที่ส่งอาหารที่ทุกคนต้องหันมอง เรามาลองทำความรู้จักกับแม่-ลูกสุดแกร่งคู่นี้กัน

แนต ซิงเกิ้ลมัมสุดสตรองคนนี้หาเลี้ยงตัวเองและลูกชายด้วยการเป็นพนักงานจ้างเหมาที่บริษัทฯ แห่งหนึ่ง ตั้งแต่เช้า จนถึงบ่ายสามโมง หลังจากเลิกงานจึงมาขับไลน์แมนส่งอาหารซึ่งตลอดทั้งวันน้องอ๊อฟจะติดสอยห้อยตามแม่ ไปในทุกที่ สำหรับทั้งคู่แล้ว การขี่จักรยานยนต์ส่งอาหารเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่รอคอยเพราะมันทำให้ทั้งคู่ได้เป็นตัวเอง อย่างเต็มที่ และได้เที่ยวไปในที่ใหม่ๆ

ถ้าพูดถึงความเป็นตัวเองคงบอกได้จากสีสันสุดจี๊ดสะดุดตาจากการแต่งตัวและหมวกกันน็อคคู่ใจที่ชวนให้คนที่ เห็นถึงกับต้องมองตามกันเป็นแถว แนตเล่าให้ฟังถึงแรงบันดาลใจที่ต้องการให้คนรอบข้างยิ้มได้ "ถ้ามันอยู่ในจุดที่ อยากจะทำ ก็ทำเลย" ทุกการเดินทางไม่ว่าจะไปรับอาหารจากร้านอาหาร หรือส่งอาหารให้กับลูกค้าก็ช่วยสร้างรอยยิ้ม ทุกครั้ง บางคนถึงกับขอถ่ายรูปด้วยเลยทีเดียว

สำหรับ น้องอ๊อฟ ลูกชายที่คอยซ้อนท้ายแม่ไปทุกที่ และจะตื่นเต้นทุกครั้งเวลาที่ได้ไปสถานที่ใหม่ๆ แถมยัง เป็นนักชิมตัวจิ๋วเวลาที่ไปถึงร้านขนมอีกด้วย แนตเล่าให้เราฟังว่าด้วยความจำเป็นของสถานการณ์ช่วงนี้ ทำให้ต้องพา น้องอ๊อฟไปทำงานด้วยตลอดจนกว่าโรงเรียนจะกลับมาเปิดอีกครั้ง

แนตเล่าว่า การมาทำอาชีพขับรถส่งอาหารเป็นงานเสริมทำให้มีรายได้ 2 ทาง มีความอิสระในการแบ่งเวลา ทำงานระหว่างงานประจำกับงานนี้ แล้วยังได้ประสบการณ์สนุกๆ ใหม่ๆ ร่วมกับลูกชายในทุกวัน เช่น เปลี่ยนพื้นที่รับงาน ได้เจอที่ใหม่ๆ คนใหม่ เพราะมีงานให้กดและรับ-ส่งอาหารทุกจุด และการมีระบบที่เอื้ออำนวยทำให้การทำงานง่ายขึ้นมาก "บางทีลูกค้าปักหมุดมาไม่ตรง เราก็พิมพ์แชทหรือส่งสติ๊กเกอร์น่ารักๆ ถามลูกค้าได้ สะดวกดี"

เมื่อถามว่าแนตคาดหวังอนาคตของน้องอ๊อฟไว้อย่างไร แนตบอกว่าขอให้ลูกชายคนนี้สามารถยืนได้ด้วยตัวเอง และเป็นคนที่แข็งแกร่ง "อย่างน้อยเราจะได้หมดห่วง ให้เขาทำทุกอย่างด้วยตัวเองได้โดยไม่ยอมแพ้ ไม่ได้คาดหวัง อะไรมาก ไม่ต้องมาเลี้ยงเรา แต่ให้อยู่ได้ด้วยตัวเอง" ส่วนน้องอ๊อฟเองก็เคยพูดกับแม่ว่า เมื่อโตขึ้นเขาจะเลี้ยงดูแม่ของเขา ด้วยตัวเอง รวมถึงคอยมอบกอดให้กำลังใจเสมอทุกวัน นี่คือเรื่องราวที่น่ารักและอบอุ่นของคู่หูแม่-ลูกไรเดอร์ที่ทำให้ทุกวัน เป็นทั้งวันแม่ และวันลูกสำหรับทั้งสองคนเสมอ
#3127


ราฟาเอล นาดาล นักเทนนิสมือ 4 ของโลกจากสเปน ถอนตัวจากรายการอุ่นเครื่อง ยูเอส โอเพน สองทัวร์นาเมนต์ติด ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าเจ้าตัวอาจฟิตไม่ทันสำหรับลุย แกรนด์ สแลม รายการสุดท้ายของปีที่สหรัฐอเมริกา

หวดวัย 35 ปี มีโปรแกรมลงแข่งขันรายการ โรเจอร์ส คัพ ที่แคนาดา กับ ซินซินเนติ มาสเตอร์ส ซึ่งเป็นรายการระดับมาสเตอร์สทั้งคู่ แต่เจ้าตัวก็ยกเลิกโปรแกรมหวดทั้งหมด ด้วยปัญหาอาการเจ็บขาซ้ายที่เกิดเมื่อเดือนมิถุนายน

โรเจอร์ส คัพ กับ ซินซินเนติ มาสเตอร์ส เป็นสองรายการที่นักหวดทั่วโลกลงสนามลับฝีมือ เพื่อเตรียมพร้อมในการลุย แกรนด์ สแลม ยูเอส โอเพน ที่จะมีขึ้นวันที่ 30 สิงหาคมนี้ แต่ "เอล มาทาดอร์" ตัดสินใจไม่แข่งเคาะสนิมทั้งสองรายการ

สำหรับ นาดาล การถอนตัวนี้ทำให้แฟนๆ กังวลว่าเจ้าตัวอาจจะฟิตไม่ทันเพื่อลงแข่ง แกรนด์ สแลม ส่งท้ายปีที่นิวยอร์ค เพื่อโอกาสคว้าแชมป์สมัยที่ 5 และแซงสถิติแชมป์ แกรนด์ สแลม จาก โนวัค ยอโควิช กับ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ที่ทำไว้ 20 สมัยเท่ากัน
#3128


วิวิด บาย เวอริต้า (Vivid By Verita) บาร์วิตามิน ณ โรงแรม อนันตรา สยาม กรุงเทพ จัดโปรโมชั่นพิเศษเอาใจคนรักสุขภาพในเดือนแห่งวันแม่ ตลอด สิงหาคม 2564 นี้ ด้วยโปร กลูตาไธโอน แมกซ์ ไอวี ดริป (Glutathione Max IV Drip) ซื้อ ดริป 3 ครั้ง แถมฟรี 1 ครั้ง ในราคาเพียง 9,000 บาท++ โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านสุขภาพของวิวิดได้คิดค้นสูตรเฉพาะที่สามารถส่งผ่านประโยชน์จากกลูตาไธโอนซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่จำเป็นต่อการช่วยชะลอวัยและโรคต่าง ๆ เข้าสู่ร่างกายได้อย่างเต็มที่ เพื่อมอบผิวที่สดใส พร้อมภูมิคุ้มกันและสุขภาพที่แข็งแรงสำหรับช่วงเวลาแสนตึงเครียดนี้



นักวิจัยค้นพบว่ากลูตาไธโอนคือกุญแจสำคัญในการทำงานของร่างกายในหลายด้าน ตั้งแต่เสริมสร้างภูมิคุ้มกันด้วยการผลิตวิตามินซีและอี ไปจนถึงช่วยดีท็อกซ์ร่างกายจากสารอนุมูลอิสระและโลหะหนัก เช่น ปรอท และอื่น ๆ อีกมากมาย การให้กลูตาไธโอนในระดับที่เหมาะสมผ่านทางเส้นเลือดอย่าง กลูตาไธโอน แมกซ์ ไอวี ดริป ที่ วิวิด บาย เวอริต้า จึงให้ประโยชน์อย่างมากมาย ดังนี้

- ปกป้องร่างกายจากสารอนุมูลอิสระที่อาจทำลายเซลล์ผิว ระบบไหลเวียนโลหิต และอื่น ๆ
- เสริมสร้างประสิทธิภาพการกำจัดไขมันของตับ เพื่อป้องกันความเสียหายจากการสะสมของไขมัน แอลกอฮอล์ และโรคตับอื่น ๆ
- ลดอาการที่เกิดจากโรคพาร์กินสันและอาการดื้อต่ออินซูลินที่อาจนำไปสู่โรคเบาหวานประเภท 2



สามารถแบ่งปันสุขภาพที่ดียิ่งขึ้นให้กับคนที่คุณรัก ด้วยโปรโมชั่น กลูตาไธโอน แมกซ์ ไอวี ซื้อ ดริป 3 ครั้ง แถม 1 ครั้ง ในราคาเพียง 9,000 บาท++ โดยใช้เวลา 15 นาที ในการเติมดริปแต่ละครั้ง ในบรรยากาศการตกแต่งที่เรียบง่าย สวยงาม ทันสมัย และผ่อนคลาย โดยมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมทางการแพทย์ของ วิวิด บาย เวอริต้า เป็นผู้ให้บริการและดูแล



วิวิด บาย เวอริต้า ณ โรงแรม อนันตรา สยาม กรุงเทพ ยังคงเปิดให้บริการทางด้านสุขภาพเฉพาะทาง ด้วยการดูแลสุขภาพและฟื้นฟูร่างกายด้วย ไอวี ดริป สูตรเฉพาะที่มีส่วนประกอบสำคัญอย่าง วิตามินซี ซิงค์สำหรับภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง โคเอ็นไซม์คิวเท็น บำรุงการทำงานของสมอง Rhodiola, Ashwagandha และ Valerian ต่อสู้กับความเหนื่อยล้าและความเครียด แอล – คาร์นิทีน และ Rhodiola ช่วยเรื่องพลังงาน และเมลาโทนิน, กรดอะมิโน 5-HTP, Ashwagandha เพื่อการผ่อนคลายและการนอนหลับ โดยแพทย์ผู้มากประสบการณ์และการวิจัยและพัฒนาสูตรเพื่อประสิทธิภาพและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรโมชั่น กลูตาไธโอน แมกซ์ ไอวี ดริป 3 แถม 1 หรือปรึกษาทผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของเราได้ที่ อีเมล์ vividsiam@vivid-bangkok.com โทร. 02 003 4918 หรือ ไลน์@: @vividbyverita
#3129


"จุรินทร์" ติดตามโครงการลดราคาปุ๋ยเคมีช่วยเหลือเกษตรกร หลังจับมือ 3 สมาคมปุ๋ยจัดจำหน่ายปุ๋ยราคาพิเศษ 4.5 ล้านกระสอบ รวม 84 สูตร เผยสั่งซื้อไปแล้ว 1 ล้านกระสอบ คงเหลือ 3.5 ล้านกระสอบ ชี้เป้าเกษตรกรสามารถรวมกลุ่ม แจ้งในนามกลุ่ม แล้วสั่งซื้อได้ ยกตัวอย่างปุ๋ยยูเรีย ที่ใช้มากถึง 40% จะถูกกว่าตลาดกระสอบละ 50 บาท

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมติดตามการดําเนินโครงการลดราคาปุ๋ยเคมีให้แก่สถาบันเกษตรกร ณ สหกรณ์การเกษตรไทรน้อย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ผ่านระบบ Zoom conference กับผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด พาณิชย์จังหวัด เกษตรจังหวัด และสหกรณ์จังหวัดทั่วประเทศ ว่า โครงการนี้กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมมือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมส่งเสริมการเกษตร กรมส่งเสริมสหกรณ์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย บริษัท เจียไต๋ จำกัด สมาคมการค้าผู้ผลิตปุ๋ยไทย สมาคมคนไทยธุรกิจเกษตร จัดเตรียมปุ๋ยราคาพิเศษถูกกว่าท้องตลาดในโครงการจำนวน 4.5 ล้านกระสอบ มีทั้งสิ้น 84 สูตร จำหน่ายแก่เกษตรกรทั่วประเทศ เพื่อช่วยลดต้นทุนค่าปุ๋ยในช่วงที่ราคาปุ๋ยปรับตัวสูงขึ้น

ทั้งนี้ เกษตรกรที่ต้องการซื้อปุ๋ยราคาพิเศษสามารถแจ้งความจำนงได้ในนามของกลุ่ม กลุ่มเกษตรกร กลุ่มสหกรณ์ วิสาหกิจชุมชนการเกษตร หรือการรวมกลุ่มเฉพาะกิจ เพื่อซื้อปุ๋ยตามโครงการนี้ในราคาพิเศษ โดยสั่งจองปุ๋ย 84 สูตรตามราคาที่กำหนด ไม่รวมค่าขนส่ง ขึ้นอยู่กับระยะทาง เพราะเป็นราคาหน้าโรงงาน โดยแจ้งได้ผ่านสหกรณ์จังหวัด สหกรณ์อำเภอ หรือที่เกษตรจังหวัด เกษตรอำเภอ และเกษตรตำบล เพื่อขอซื้อปุ๋ยได้

"ตั้งแต่เริ่มโครงการมามีเกษตรกรสั่งซื้อมาแล้วประมาณ 1 ล้านกระสอบ ทยอยส่งมอบไปแล้ว ขณะนี้เหลือประมาณ 3.5 ล้านกระสอบ ซึ่งจะดำเนินการต่อไปจนกระทั่งสถานการณ์ราคาปุ๋ยจะคลี่คลายลง หรือหมด 3.5 ล้านกระสอบที่เหลือนี้ โดยขอมอบหมายให้เกษตรจังหวัด สหกรณ์จังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ช่วยดำเนินการในเรื่องนี้ให้บรรลุผลตามนโยบาย และประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มเกษตรกรรับทราบด้วย" นายจุรินทร์กล่าว

สำหรับสาเหตุที่ทำให้ราคาปุ๋ยปรับตัวสูงขึ้นมาก เพราะแม่ปุ๋ยทั้งหมดเกือบ 100% ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ จึงขึ้นอยู่กับภาวะราคาตลาดในต่างประเทศ และขณะนี้ราคาปุ๋ยสูงขึ้นเพราะต้นทุนราคาน้ำมันดิบเป็นต้นทุนสำคัญในการขนส่งสูงขึ้นประมาณ 30% และจีนเป็นประเทศที่ไทยนำเข้ามาเป็นหลัก ได้มีการประมูลปุ๋ยให้อินเดียเป็นล็อตใหญ่มาก และจีนต้องเก็บปุ๋ยไว้ใช้ในฤดูหว่านไถของประเทศ ทำให้ซัปพลายในตลาดโลกลดน้อยลง และค่าระวางเรือ ค่าขนส่ง ค่าน้ำมันสูงขึ้น ทำให้ราคาปุ๋ยในช่วงที่ผ่านมาสูงขึ้น

ร.ต.จักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ระยะเวลาดำเนินโครงการได้เริ่มมาตั้งแต่เดือน ก.ค. และจะสิ้นสุดในเดือน ส.ค.นี้ เป็นระยะเวลา 2 เดือน หรือจนกว่าสินค้าจะหมด โดยปุ๋ยยูเรียที่ใช้มากถึง 40% ของปุ๋ยทั้งหมด ขายในโครงการราคาจะถูกกว่าปกติเฉลี่ยตันละ 1,000 บาท และปุ๋ยยูเรียมีการตรึงราคาในล็อตแรกที่ 650 บาทต่อกระสอบ ในขณะที่ราคาตลาด 825 บาทต่อกระสอบ และล็อตถัดไปราคา 775 บาทต่อกระสอบ ถูกกว่าราคาตลาดประมาณ 50 บาทต่อกระสอบ

นายทวีสุข เมฆธวัชชัยกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจียไต๋ จำกัด กล่าวว่า ปุ๋ยมีการนำเข้าโดยเรือขนาดใหญ่ และปุ๋ยที่นำเข้าจากต่างประเทศมีค่าขนส่งที่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน ทำให้ราคาสูงขึ้น และยังมีความต้องการใช้ปุ๋ยทั่วโลกเพิ่มมากขึ้น ซึ่งไทยพึ่งพาการนำเข้าเกือบ 100% ปุ๋ยที่ผลิตต้องนำวัตถุดิบมาเพื่อผลิตในประเทศ เฉพาะค่าขนส่งเพิ่มขึ้นเกินกว่าเท่าตัว ค่าปุ๋ยเกินกว่า 60% ขณะที่ราคาปุ๋ยในปัจจุบันค่อยๆ ปรับขึ้นตามสถานการณ์ตามต้นทุนที่เปลี่ยนไป โดยการนำเข้า เป็นการนำเข้าล่วงหน้า 30-45 วัน และอัตราแลกเปลี่ยนที่เปลี่ยนจาก 30 เป็น 33 บาท ซึ่งคาดว่าไตรมาสที่ 4 ปุ๋ยบางสูตรราคาจะต่ำลง

รายงานข่าวจากกรมการค้าภายในแจ้งว่า สถาบันเกษตรกรที่สนใจซื้อปุ๋ยราคาต่ำกว่าท้องตลาดสามารถแจ้งความต้องการซื้อได้ผ่านตามช่องทางดังนี้ 1. กรณีเป็นสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร แจ้งต่อสํานักงานสหกรณ์จังหวัดทุกจังหวัด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สํานักงานสหกรณ์จังหวัดตามเบอร์โทร.ในเว็บไซต์ https://www.cpd.go.th/cpdth2560/contact-office/email-cpd 2. กรณีเป็นสถาบันเกษตรกรอื่นๆ (ศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชน วิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่) แจ้งต่อสํานักงานเกษตรอําเภอ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่กองส่งเสริมการอารักขาพืชและจัดการดินปุ๋ย กรมส่งเสริมการเกษตร โทร. 0-2955-1515

สำหรับการประชุมครั้งนี้ มีนางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายบุณย์ธีร์ พานิชประไพ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน นายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี เข้าร่วม
#3130


หลายวันมานี้แฟน.เมืองน้ำหอมไปออกันที่หน้า ป๊ารก์ เด แปร๊งส์ (Parc des Princes) สนามฟุต.ที่สโมสร ปารี แซ็ง แชรแม็ง (Paris Saint-Germain - PSG) ใช้เป็นสนามเหย้าเพื่อเฝ้ารอการมาของ ลิโอเน็ล เม้สซี่ (Lionel Messi) กองหน้า ทีมชาติอารเก็นตีนา วัย 34 ปี หลังจากที่ได้ทราบว่า ลิโอเน็ล ไม่ต่อสัญญากับ บารเซโลนา (Barcelona) อย่างแน่นอนและจุดหมายปลายทางของเขาชี้มาทางเดียวคือ การมาร่วมทีมเดียวกันอีกครั้งกับ เนย์มาร (Neymar Jr)

บางคนทราบข่าววงในว่า ลิโอเน็ล จะนั่งเครื่องบินมาลงที่สนามบิน เลอ บูรเช (Aéroport de Paris-Le Bourget) สนามบินที่ใช้เป็นที่ขึ้น-ลงเครื่องบินเจ๊ทส่วนตัวของบรรดานักธุรกิจที่อยู่ห่างจากขอบ กรุงปารี ขึ้นไปทางตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 7 กิโลเมตร ก็แห่กันไปที่นั่นเพื่อให้ได้เห็นนักเตะตัวเป็นๆก่อนใคร

ในทุกๆปีเลขคี่เขาจะใช้สนามบินแห่งนี้เป็นสถานที่จัด นิทรรศการอากาศยาน (Salon international de l'aéronautique et de l'espace de Paris-Le Bourget) หรือเรียกกันสั้นๆว่า ปารี แอร์ โชว์ (Paris Air Show) อันลือลั่น ที่แห่งนี้แหละครับที่พวกพ่อค้าอาวุธจะพานายทหารทั้ง 3 เหล่าทัพและตำรวจของไทย ไปชม ไปเลี้ยงดูกันอย่างสุดหรู ถือเป็นโอกาสโอ้อวดอาวุธยุทโธปกรณ์ เครื่องบิน เฮลีค้อพเท่อร์ ของบริษัทระดับโลกให้เลือกช้อพและเอ็นเทอร์เทนไปในตัว นอกจากนั้น ใน ปารี 2024 โอลิมปิค เกมส์ ครั้งที่ 33 เขาก็จะใช้สถานที่แห่งนี้เป็น ศูนย์สื่อมวลชน ด้วย

ผมนึกถึง ลิโอเน็ล เจ้าของ บัลลง ดอร (Ballon d'or) รางวัลสุดยอดนักเตะของโลก โดย นิตยสาร ฟร้องส์ ฟุต. (France Football) ของ ฝรั่งเศส รวม 6 สมัยแล้ว แถมเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เขาก็เพิ่งแสดงผลงานสุดยอดโดยการนำทีมชาติ อารเก็นตีนา คว้าแช้มพ์ โกปา อาเมรีกา (Copa América) ได้สำเร็จเป็นหนแรกของตนเองที่ได้แช้มพ์ระดับนี้ในนามทีมชาติ มันช่างประจวบเหมาะกับการจะมาละเลงฝีเท้าในมหานครที่สวยที่สุดในโลกแห่งนี้อีกด้วย รางวัลก็ของค่ายฝรั่งเศสเอง ดังนั้น สิ้นปีนี้ บัลลง ดอร สมัยที่ 7 ก็ไม่น่าจะหลุดไปอยู่ในมือนักเตะคนอื่นที่ไหนได้

บางคนให้ความเห็นว่า เปแอ๊สเช อาจละเมิด กฎควบคุมการเงินของ ยูเอ๊ฟฟ่า (UEFA Financial Fair Play Regulations - FFP) โดยเฉพาะสื่อของ สเปน เองที่ไม่ต้องการเห็น ลิโอเน็ล ไปเล่นให้กับสโมสรคู่ปรปักษ์ในเวทียุโรป เนื่องจากการเซ็นสัญญากับ ลิโอเน็ล จะมีปัญหาการเงินแบบเดียวกันกับ บารซา เพราะค่าจ้างนักเตะจะเกินเพดานค่าใช้จ่าย

กฎ FFP นั้น เพื่อตรวจสอบการใช้เงินของสโมสรฟุต.ไม่ให้ทุ่มเงินเกินตัว จนเป็นหนี้และอาจล้มละลาย หลักคือต้องไม่ใช้จ่ายเงินมากกว่าที่สโมสรหาได้ อันนี้เขาพูดถึงค่าจ้างนักเตะ การชำระค่างวดการโอนย้าย และพวกค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมถึงเงินปันผล แต่ไม่รวมพวกค่าใช้จ่ายที่ใช้ไปในโครงสร้างพื้นฐาน ศูนย์ฝึก หรือการพัฒนาเยาวชน แล้วจะนำไปคำนวณเปรียบเทียบกับ รายได้จากตั๋วเข้าชมในสนาม ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดทางโทรทัศน์ โฆษณา การขายสินค้าที่ระลึก เสื้อผ้า การจำหน่ายสินทรัพย์ การเงิน การขายนักเตะ และ เงินรางวัลที่ได้รับจากการแข่งขันรายการต่างๆ

การมาของ ลิโอเน็ล เม้สซี่ นั้น เปแอ๊สเช ก็คาดหวังเงินก้อนใหญ่มหาศาลที่จะได้รับจากตั๋วเข้าชมการแข่งขันในสนาม สป็อนเซ่อร์โฆษณา การขายสินค้าที่ระลึก โดยเฉพาะเสื้อแข่ง ซึ่งไม่เห็นว่าจะมีปัญหาใดเลยเกี่ยวกับเรื่องกฎ FFP โดยเฉพาะการจ่ายค่าจ้างให้ ลิโอเน็ล ถึงประมาณปีละ 35 ล้าน เออโร ผมอยากจะย้ำว่า ลิโอเน็ล หมดสัญญากับ บารซา แล้วนะครับ ไม่เหมือนกับตอนที่ซื้อ เนย์มาร มาร่วมทีม ทางสโมสรต้องควักเงินให้ บารซา ถึง 222 ล้าน เออโร ตอนที่ซื้อขาด คีเลียน เอ็มบัปเป (Kylian Mbappé) จาก โมนาโก (AS Monaco) ก็ต้องจ่าย 180 ล้าน เออโร แต่สำหรับการเซ็นสัญญากับ ลิโอเน็ล ตัดปัญหาเรื่องค่าโอนย้ายที่แพงมากๆไปได้เลย ไม่มีอะไรต้องจ่าย

นอกจากนั้น ยูเอ๊ฟฟ่า เองก็กำลังมีนโยบายผ่อนปรนกฎ FFP เนื่องจากการที่ทุกฝ่ายต้องเผชิญกับปัญหา โควิด-19 ทุกคนต้องประสบปัญหาการเงินทั้งนั้น ไม่มากก็น้อย ผมว่า วันที่เหมาะสำหรับ เปแอ๊สเช ในการเปิดตัว ลิโอเน็ล เม้สซี่ น่าจะเป็นวันพรุ่งนี้ เพราะเป็นวันก่อตั้งสโมสรที่เกิดจากการรวมตัวของ 2 สโมสรคือ สต๊าด แซ็ง-แชรมานัว (Stade saint-germanois) ที่ก่อตั้งในปี 1904 กับ ปารี ฟุต. คลับ (Paris Football Club) ที่ก่อตั้งในปี 1969 เข้าด้วยกันในชื่อใหม่ ปารี แซ็ง-แชรแม็ง ในวันที่ 12 สิงหาคม 1970 ครบรอบ 51 ปีพอดีครับ
#3131


"RentSpree (เรนท์สพรี)" แพลตฟอร์มช่วยเหลือการเช่าบ้านแบบครบวงจร ก่อตั้งโดย "เอกบุตร สิริศุภางค์" และเพื่อนในขณะที่ศึกษาอยู่ที่สหรัฐ มุ่งแก้ปัญหาและเปลี่ยนแปลงระบบการเช่าบ้านให้รวดเร็วและปลอดภัยมากขึ้น โดยนำทุกขั้นตอนไปไว้บนแพลตฟอร์มออนไลน์ทั้งหมด


เรนท์สพรี ช่วยอำนวยความสะดวกในการดำเนินการปล่อยเช่าหรือเช่าบ้านในสหรัฐอเมริกาให้ง่ายขึ้น โดยเปรียบเสมือนตัวกลางระหว่างผู้เช่า เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ และนายหน้า ลดกระบวนการคัดกรอง ตรวจสอบและเช็คข้อมูลต่างๆ การประเมินค่าเช่า ที่นำมาใช้ในการพิจารณาและตัดสินใจ จนถึงการทำสัญญาเช่า และการซื้อประกันการเช่าบ้านด้วยเพื่อความสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น

'ฮับ' แห่งวงการเช่าบ้าน

เอกบุตร ซีโอโอ และผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท เรนท์สพรี จำกัด กล่าวว่า "เรนท์สพรี" เวอร์ชั่นแรกได้เจาะจงไปที่ผู้ต้องการเช่าบ้าน โดยช่วยส่งเอกสารแบบฟอร์มการเช่าบ้านและการเช็คเครดิต ให้กระบวนการทุกอย่างเสร็จภายในระยะเวลาไม่กี่นาที แต่ทั้งนี้ในมุมของเจ้าของบ้านหากไม่รู้จักก็จะไม่เกิดการใช้งานและยอมรับในระบบ เนื่องจากผู้เช่าไม่มีอำนาจในการตัดสินใจในกระบวนการสมัครเช่าบ้าน ทำให้ในระยะแรกเจอกับปัญหาตรงจุดนี้

เขาและทีมงานจึงมีแนวคิดที่จะเปลี่ยนแผนการตลาดใหม่ทั้งหมด โดยการหันไปเจาะกลุ่มนายหน้าแทนรายบุคคล นั่นจึงเป็นจุดเปลี่ยนของเรนท์สพรีจากบิซิเนสโมเดล B2C สู่ B2B2C คือการพาร์ทเนอร์กับสมาคมต่างๆ โดยในสหรัฐจะมีสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ที่ส่วนใหญ่จะมีระบบ Multiple Listing Service หรือ MLS ที่ใช้ตรวจสอบและอัพเดทข้อมูล ทำให้การคัดกรองทางการเงินเป็นไปได้โดยง่าย และเกิดการช่วยโปรโมทเครื่องมือของเรนท์สพรีให้กับเมมเบอร์ขององค์กรอีกทางหนึ่ง


ปัจจุบันเรนท์สพรีมีอัตราการเติบโตมากกว่า 2-3 เท่าทุกปี และถือเป็นสตาร์ทอัพด้านอสังหาที่มาแรงในสหรัฐ มีผู้ใช้บริการมากกว่า 6 แสนราย ทั้งช่วยเหลือเจ้าของบ้านและเอเย่นต์ไปกว่า 1 แสนราย ผ่านการทำธุรกรรมการเช่าบ้านกว่า 5 แสนรายการ โดยได้ขยายไปยังรัฐต่างๆ เช่น เท็กซัส ฟลอริดา จอร์เจีย จากเดิมที่ให้บริการเฉพาะในแคลิฟอร์เนียเท่านั้น 

"แม้ว่าเรนท์สพรีจะเป็นที่นิยมใช้ในตลาดอเมริกา แต่กลับมีทีมพัฒนาทั้งหมดอยู่ที่ประเทศไทย ซึ่งแสดงถึงศักยภาพของคนไทยในการพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อตอบโจทย์ตลาดต่างประเทศได้อย่างตรงจุด"


ปั้นซิลิคอนวัลเลย์ขนาดย่อม

ปัจจัยที่เป็นแรงผลักดันให้เรนท์สพรีประสบความสำเร็จ คือ 1.ทีมพัฒนาที่เป็นคนไทยที่มีความเชี่ยวชาญสูง โดยแบ่งออกเป็น 2 ทีมหลักๆ คือ วิศวกรซอฟต์แวร์ นักออกแบบผลิตภัณฑ์ 2.ความเชื่อมั่นในตัวทีมและให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมในองค์กร 3.ในส่วนของกระบวนการทำงานเป็นการย้อนรอยจากสตาร์ทอัพที่สหรัฐ

นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการเติบโตในสายงานของพนักงาน โดยนำระบบเลเวลเข้ามาใช้กับทุกตำแหน่ง อีกทั้งมีงบเทรนนิ่งให้กับพนักงานทุกคน การให้อิสระในการทำงานและจัดการสิ่งที่ได้รับมอบหมายด้วยตนเอง ทำให้กล้าตัดสินใจ กล้าลองผิดลองถูก สิ่งเหล่านี้ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพ และทำให้แต่ละคนมี Ownership กับงานมากขึ้นเรียกได้ว่าเป็นซิลิคอนวัลเลย์ขนาดย่อมนั่นเอง

สำหรับความท้าทาย เอกบุตร ชี้ว่า ย้อนไปช่วงแรกของธุรกิจ คือเรื่องของการหาคนมาร่วมทีม อีกทั้งในขณะที่เป็นเทคสตาร์ทอัพมือใหม่ยังไม่มีประสบการณ์ จึงต้องหาข้อมูลจากหนังสือและทดลองทำทุกอย่างเองทั้งหมด และเมื่อระดมทุนจึงยากที่จะได้รับการตอบรับจากนักลงทุน เพราะไม่มีประวัติความสำเร็จ จนต้องใช้ความพยายามกว่า 4 ปี จึงจะสามารถระดมทุนก้อนแรกได้เมื่อปลายปี 2563 ในรอบ Seed Fund เป็นมูลค่า 2.3 ล้านดอลลาร์

"สิ่งที่ทำให้เรนท์สพรีเป็นที่สนใจของนักลงทุน คือ การที่บริษัทมีข้อมูลที่บันทึกไว้ตลอดว่าบริษัทเติบโตได้ 2-4 เท่าต่อปี ทำให้นักลงทุนเกิดความสนใจ บวกกับบริษัทมีศักยภาพในการเติบโตที่สูง อีกทั้งเป้าหมายของบริษัทเป็นไปได้จริง และบิซิเนสโมเดลมีความยั่งยืน ทำให้ความเสี่ยงในการลงทุนกับเรนท์สพรีน้อยกว่าการลงทุนอื่นๆ"

ณะที่ภาพรวมการแข่งขันของตลาด Prop-Tech Startup ในสหรัฐมีผู้เล่นจำนวนมาก หลายส่วนเป็นองค์กรใหญ่ที่พัฒนาซอฟต์แวร์ให้กับอพาร์ตเมนต์หรืออาคารขนาด 500 ยูนิตขึ้นไป ตลาดจึงเป็น Red Ocean การแข่งขันสูง ส่วนตลาดที่เป็นเจ้าของบ้านรายย่อย 1-5 ยูนิตยังไม่ค่อยมีผู้เล่นมากนัก แต่เรนท์สพรียังสามารถเติบโตอย่างก้าวกระโดด พร้อมทั้งนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาพัฒนาระบบให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เร่งขยายทีมรองรับเต็มสูบ

เอกบุตร กล่าวต่อไปว่า ภาพรวมตลาดและการเติบโตของอุตสาหกรรมอสังหาฯ ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีผู้เช่าเพิ่มขึ้น ราคาบ้านสูงขึ้น และคนรุ่นใหม่มีแนวโน้มที่จะย้ายงานไปต่างรัฐมากขึ้น จึงไม่อยากซื้อบ้านแต่ต้องการเช่าแทน ตลาดจึงกลายเป็นของผู้เช่า

ส่วนแผนการดำเนินงานในอนาคต ในแง่การตลาดมีแพลนที่จะเจาะตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น แต่ทั้งนี้ด้วยความที่เซอร์วิสของเรนท์สพรียังเป็นแค่ 1 ใน 10 อย่างที่เกี่ยวกับการเช่าบ้าน จึงวางแผนดำเนินการส่วนที่เหลือให้ครบวงจรในส่วนของการเช่าบ้านทั้งหมด อาทิ การชำระเงินค่าเช่า การซ่อมแซมบ้าน รวมทั้งเครื่องมือสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวระหว่างผู้เช่าและนายหน้า

หลังจากที่สามารถคว้าเงินทุน รอบ Series A มูลค่ากว่า 8 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 250 ล้านบาทไปหมาดๆ กลยุทธ์หลังจากนี้ตั้งเป้าที่จะต่อยอดธุรกิจผ่านการขยายทีมพัฒนาคนไทยเพิ่มขึ้น 3 เท่า จากเดิม 55 คน เป็น 300 คนภายในปี 2565 พร้อมทั้งในส่วนของรายได้ตั้งเป้าที่จะแตะ 1 พันล้านบาทภายในสิ้นปีหน้าเช่นกัน
#3132
ขายเหล็กเกรดบีมหาชัย-สมุทรสาคร ท่อดำกลมเกรดบี-ยาว6เมตร ทุกท่อน ราคาถูกพิเศษ ถูกกว่าทั่วไป


ขายเหล็กเกรดบีมหาชัย-สมุทรสาคร ท่อดำกลมเกรดบี-ยาว6เมตร ทุกท่อน ราคาถูกพิเศษ ถูกกว่าทั่วไป นัดดูของได้ที่มหาชัย บริษัท สามชัย สตีล อินดัสทรี จำกัด (มหาชน)

ขายเหล็กเกรดบี-มหาชัย สมุทรสาคร ขายท่อดำกลมเกรดบี-ยาว6เมตร
ขายเหล็กเกรดบีมหาชัย ขายเหล็กรูปพรรณเกรดบี ขายเหล็กเกรดบี-มหาชัย ท่อดำกลมเกรดบีราคาโรงงาน ราคาถูกพิเศษ
1. 60ตันขึ้นไป – กิโลละ 21บาท
2. 30ตัน-59ตัน – กิโลละ 23บาท
3. ตํ่ากว่า30ตัน – กิโลละ 25บาท
เหล็กขนาด ยาว6เมตรทุกท่อน

ขายเหล็กเกรดบี-มหาชัย, ขายเหล็กเกรดบี-สมุทรสาคร, โรงานขายเหล็กเกรดบีมหาชัย. ขายเหล็กเกรดบีถูกพิเศษ, ขายท่อดำกลมเกรดบี-ยาว6เมตร
ขายเหล็กเกรดบี-มหาชัย

สนใจติดต่อ
บริษัท สามชัย สตีล อินดัสทรี จำกัด (มหาชน)

นัดดูของได้ที่นี่
คุณแป๊ป เบอร์ 0819196666 line ID varoonchai_papp
Email varoonchai@gmail.com


รายละเอียดเพิ่มเติม
https://pantipmarket.online/ขายเหล็กเกรดบี-มหาชัย/


ขายเหล็กเกรดบี-มหาชัย
คำค้น
ขายเหล็กเกรดบีมหาชัย,ขายเหล็กเกรดบี-สมุทรสาคร,โรงงานขายเหล็กเกรดบีมหาชัย. ขายเหล็กเกรดบีถูกพิเศษ, ขายท่อดำกลมเกรดบี-ยาว6เมตร
#3133


GPSC สุดแกร่งผลประกอบการไตรมาส 2/2564 คว้ากำไร 2,302 ล้านบาท โต 21% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โชว์ศักยภาพแผนการดำเนินงานครึ่งปีหลัง เดินหน้านวัตกรรมพลังงานเต็มสูบ รับรู้ผลการดำเนินงานจากพอร์ตพลังงานสะอาดในต่างประเทศทั้งอินเดีย และไต้หวัน พร้อมยกระดับมาตราการคุมเข้มป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ดูแลความมั่นคงระบบการผลิต ป้อนไฟฟ้าได้ต่อเนื่อง

นายวรวัฒน์ พิทยศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทโกล. เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC แกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้ากลุ่ม ปตท. เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 2/2564 มีรายได้ทั้งสิ้น 18,234 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2563 โดยมีกำไรสุทธิ 2,302 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2563 (YoY) โดยสาเหตุหลักมาจากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี การรับรู้รายได้จากเงินชดเชย ค่าประกันภัยของโรงไฟฟ้าโกลว์พลังงานระยะที่ 5 ปัจจัยบวกจากต้นทุนค่าเชื้อเพลิงของก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวลดลง ส่งผลให้การดำเนินงานของโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) มีกำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น แม้ว่ากำไรขั้นต้นของโรงไฟฟ้าผู้ผลิตอิสระ (IPP) จะลดลงในส่วนของโรงไฟฟ้าเก็คโค่วัน ที่มีแผนหยุดซ่อมบำรุงในช่วงที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของไตรมาส 2/2564 เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2564 (QoQ) มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 329 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 17% เป็นผลการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรีที่เพิ่มขึ้น รวมถึงเงินชดเชยจากค่าประกันโรงไฟฟ้าโกลว์ พลังงานระยะที่ 5 และมีกำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้า IPP ถึงแม้ว่า กำไรขั้นต้นของโรงไฟฟ้า SPP ลดลง เนื่องจากต้นทุนค่าก๊าซธรรมชาติและถ่านหินที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ประกอบกับค่าซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ขณะเดียวบริษัทฯ ยังรับรู้มูลค่า Synergy ร่วมกับ GLOW จากการควบรวมกิจการสุทธิหลังภาษี จำนวน 436 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าและไอน้ำ รวมถึงการใช้โครงข่ายไฟฟ้าและไอน้ำร่วมกัน ทั้งยังสามารถลดต้นทุนจัดซื้อจัดจ้าง และงานซ่อมบำรุงได้ตามเป้าหมาย

สำหรับภาพรวมของผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2564 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 4,276 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 23% โดยมีรายได้ทั้งสิ้น 34,858 ล้านบาท หรือลดลง 4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม แผนการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯ ยังคงแสวงหาโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่องในการเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน และนวัตกรรมเทคโนโลยีด้านพลังงาน จากกลยุทธ์หลักในการร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ ที่ประสบความสำเร็จในช่วงเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ได้แก่ วันที่ 13 ก.ค. 2564 บริษัท โกล. รีนิวเอเบิล ซินเนอร์ยี่ จำกัด (GRSC) ซึ่ง GPSC ถือหุ้น 100% ได้บรรลุข้อตกลงในการเข้าลงทุนในบริษัท Avaada Energy Private Limited (Avaada) สัดส่วนประมาณ 41.6% คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนประมาณ 14,825 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ประเทศอินเดีย กำลังผลิตรวม 3,744 เมกะวัตต์ เป็นโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) เรียบร้อยแล้วประมาณ 1,392 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างการก่อสร้างจำนวนประมาณ 2,352 เมกะวัตต์ ซึ่งจะทยอย COD ในปี 2564-2565 ทำให้สามารถรับรู้รายได้ทันที นอกจากนี้ วันที่ 14 ก.ค. 2564 GRSC ยังได้เข้าทำสัญญาซื้อขายหุ้นกับกองทุน CI-II และ CI-III ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัท Copenhagen Infrastructure Partners (CIP) เพื่อเข้าลงทุนในสัดส่วน 25% ในโครงการ Changfang และ โครงการ Xidao (CFXD) ซึ่งเป็นโครงการการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมนอกชายฝั่ง (Offshore wind) ในไต้หวัน กำลังการผลิตไฟฟ้ารวมจำนวน 595 เมกะวัตต์ ซึ่งจะทยอย COD ในช่วงปี 2565-2567 CFXD มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวกับ บริษัท Taiwan Power Company โดยคาดว่าการดำเนินการตามเงื่อนไขบังคับก่อนดังกล่าวจะแล้วเสร็จและสามารถดำเนินการโอนหุ้นได้ภายในไตรมาสที่ 2 ของปี 2565

พร้อมกับความสำเร็จในการพัฒนานวัตกรรมพลังงาน โดย GPSC ได้เปิดโรงงานผลิตหน่วยกักเก็บพลังงานด้วยเทคโนโลยี SemiSolid กำลังการผลิตเริ่มต้น 30 MWh ต่อปี ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2564 เป็นการผลิตแบตเตอรี่ G-Cell ที่ใช้เทคโนโลยี 24M เป็นแบตเตอรี่ชนิดกึ่งแข็ง ที่มีความปลอดภัยสูง มีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นหน่วยงานกักเก็บพลังงานจากพลังงานหมุนเวียนในการเพิ่มประสิทธิภาพจ่ายไฟฟ้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง และยังสามารถรองรับอุตสาหกรรมไฟฟ้ายานยนต์แห่งอนาคต (EV)

"แม้ว่าขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังคงมียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น ทำให้หลายองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน มีมาตรการต่างๆ เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาด โดย GPSC ในฐานะผู้ผลิตสาธารณูปโภคในการขับเคลื่อนภาคเศรษฐกิจและสังคม ได้ยกระดับมาตรการป้องกันเข้มข้นสูงสุด ผ่านการดำเนินงานโดยศูนย์เฝ้าระวังและติดตามการแพร่ระบาดเชื้อไวรัส (GPSC G-COVID Center) ของบริษัทฯ โดยกำหนดให้พื้นที่กระบวนการผลิตเป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษ ตั้งทีมปฏิบัติการเฉพาะกิจของแต่ละโรงไฟฟ้า ห้ามบุคคลภายนอกเข้าพื้นที่สำนักงานและพื้นที่ปฏิบัติการอย่างเข้มงวดและต่อเนื่อง เพื่อให้การผลิตไฟฟ้า ไอน้ำและสาธารณูปโภคเป็นไปมีเสถียรภาพและความมั่นคง ตอบสนองความต้องการใช้ของกลุ่มลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง" นายวรวัฒน์กล่าว
#3134
ข้าวอินทรีย์สุรินทร์  ข้าวอินทรีย์กรมการข้าวส่งทั่วไทย   ข้าวกล้องอินทรีย์  ข้าวปลอดสารไทยมีราคาแพง    จากนาข้าวเคมีสู่นาข้าวปลอดสาร   การปลูกข้าวปลอดสาร  ถ้าไม่อยากกินยาตลอดชีวิตให้กิน "ข้าวกล้อง" เป็นยาการที่ข้าวเปลือกอินทรีย์ถูกขัดสี ทำให้สูญเสียสารอาหารที่จำเป็นออกไปเป็นจำนวนมาก ยิ่งขัดสีเป็นข้าวขาวหลายครั้งเท่าไร สารอาหารยิ่งเหลือน้อยลงไป การหันกลับมากินข้าวกล้อง เหมือนบรรพบุรุษของเรา จึงเป็นวิถีชีวิตที่ถูกต้อง ช่วยไม่ให้เป็นโรคอันไม่ควรจะเป็น เนื่องจากขาดสารอาหาร
 
การฝึกกินข้าวกล้องออแกนิค ( นโยบายส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์ )
1. คนที่เพิ่งหัดกินข้าวกล้อง ( ข้าวออร์แกนิคไทยมีราคาแพง
) อาจใช้วิธีง่ายๆ คือนำข้าวกล้องผสมกับข้าวขาวในอัตราส่วน 1 : 2 โดยแช่ข้าวกล้องก่อนนำไปหุงรวมกับข้าวขาว เพื่อจะได้สุกพร้อมๆ กัน และค่อยๆ เพิ่มปริมาณข้าวกล้อง จนเปลี่ยนเป็นข้าวกล้องทั้งหมด ท่านก็จะกินข้าวที่ได้คุณค่าอาหารอย่างเต็มที่ 
2. การกินข้าวกล้องก็คือควรกินขณะยังอุ่นๆ โดยทั่วไป พอข้าวสุก ทิ้งไว้ให้ข้าวระอุประมาณ 5-10 นาทีแล้วควรรีบกิน ข้าวจะนุ่มกินได้ง่าย และให้ค่อยๆ เคี้ยวพอละเอียด จะได้รสชาติหวานอร่อยของข้าวกล้อง ตาม  กลุ่มข้าวออร์แกนิคสุรินทร์
3. ควรกินข้าวกล้องที่สุกแล้วให้หมดในมื้ออาหารนั้น เพราะข้าวกล้องบูดเสียได้ง่ายกว่าข้าวขาวทั่วๆ ไป

วิธีหุงข้าวกล้องอินทรีย์  ส่งเสริม ผลิตข้าวออร์แกนิค

1. ก่อนซาวข้าวควรเก็บสิ่งแปลกปลอมออกเสียก่อน และซาวข้าวเบาๆ ด้วยเวลาสั้นๆ เพียงครั้งเดียว เพื่อไม่ให้วิตามินสูญเสียไปกับน้ำซาวข้าว
2. การหุงข้าวกล้องนั้น ต้องใส่น้ำมากกว่าหุงข้าวขาว การหุงข้าวกล้อง 1 ส่วนจึงควรเติมน้ำประมาณ 2-3 เท่า ถ้าจะให้ประหยัดเวลาหุง ควรแช่ข้าวกล้องก่อนประมาณครึ่งชั่วโมง วิธีนี้อาจทำให้สูญเสียวิตามินบางอย่างที่ละลายน้ำไปบ้าง แต่ไม่แนะนำให้แช่ข้าวเป็นเวลานานๆ โดยเฉพาะข้าวที่มีสี แต่ถ้าจำเป็นต้องแช่ข้าว แนะนำให้ใช้น้ำที่แช่ข้าวนำกลับไปใช้ในการหุ้ง เพื่อลดการสูญเสียสารต้านอนุมูลอิสระในข้าว โดยเฉพาะข้าวสี
3. สำหรับข้าวใหม่หรือข้าวเก่านั้น จะมีผลต่อการหุงต้มเช่นกัน เพราะข้าวใหม่เมื่อหุงสุกจะมีลักษณะเมล็ดข้าวติดกันมาก ส่วนข้าวเก่าเมื่อหุงสุกการติดกันของเมล็ดข้าวจะน้อย เนื่องจากข้าวเก่าเมล็ดข้าวจะแห้งกว่าข้าวใหม่
เหตุนี้จึงทำให้บางท่านหุงข้าวแล้วบอกว่าใช้น้ำมากเท่าเดิมทำไมข้าวจึงแฉะหรือร่วน ซึ่งก็ต้องถามผู้ขายว่า เป็นข้าวเก่าหรือข้าวใหม่ ส่วนจะให้แฉะหรือร่วนแล้วแต่จะชอบ ผู้หุงข้าวจึงต้องใส่น้ำให้เหมาะสมหรือต้องใช้ศิลปะในการหุงเช่นกัน


ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์  สถานการณ์ข้าวอินทรีย์ไทย

277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website : https://www.hor.boutique
Facebook : https://www.facebook.com/Rice.For.Infant/
Twitter : https://twitter.com/hor_boutique
IG : https://www.instagram.com/hor.boutique/
Line: @Hor.Boutique กลุ่มผลิตข้าวอินทรีย์

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ1.ข้าวหอมมะลิสุรินทร์ 2.ข้าวกล้องหอมมะลิสุรินทร์  ข้าวกล้องหอมมะลิเพื่อสุขภาพ 3.ข้าวปกาอำปึลอินทรีย์ (#ข้าวพื้นถิ่นจังหวัดสุรินทร์) 4.ข้าวผสมห้าสายพันธุ์อินทรีย์ 5.ข้าวกล้องมะลิแดงอินทรีย์ 6.ข้าวมะลินิลอินทรีย์สุรินทร์ 7. ข้าวไรซ์เบอรี่

#ข้าวกล้องอินทรีย์สุรินทร์ #ข้าวกล้องออแกนิคสุรินทร์ #ข้าวกล้องปลอดสารสุรินทร์ #ข้าวกล้องเพื่อสุขภาพสุรินทร์ #ข้าวกล้องหอมมะลิสุรินทร์ #ข้าวกล้องเมืองสุรินทร์
 
#3135


สถาบันอาหาร โดยศูนย์อัจฉริยะเพื่ออุตสาหกรรมอาหารได้จัดทำข้อมูลอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มของไทยปี 2563 ไว้เป็นฐานข้อมูลความรู้ ระบุมีจีดีพี 870,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 5.5% จีดีพีประเทศ และยังคงครองแชมป์อันดับ 1 โลกที่ส่งออกทูน่า มันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์สับปะรด (ส่วนแบ่งในตลาดโลก 31.3% 35.3% 37.7% ตามลำดับ) ตลาดส่งออกหลักคือ จีน 18.3% CLMV 13.9% ญี่ปุ่น 12.7% เอเซียน+5 12.1% และสหรัฐ 10%


ขณะที่ศูนย์วิจัยธนาคารออมสินวิเคราะห์แนวโน้มปี 2564 ภาพรวมของผู้ประกอบการรายใหญ่จะมีทิศทางดีขึ้น จากการขยายตัวของความต้องการผลิตภัณฑ์อาหารจากทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งได้รับอานิสงส์จากการที่หลายประเทศใช้มาตรการล็อกดาวน์


ทำให้มีความต้องการกักตุนอาหารเพิ่มมากขึ้นเพื่อไว้บริโภคภายในครัวเรือน ส่งผลให้ความต้องการผลิตภัณฑ์อาหารจากการบริโภคภายในประเทศและการส่งออกไปประเทศคู่ค้าหลักขยายตัว โดยเฉพาะอาหารสำเร็จรูปและกึ่งสำเร็จรูป อาหารพร้อมทาน-พร้อมปรุงตลอดจนอาหารที่เก็บรักษาได้นาน เช่น ไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง ไก่แปรรูป อาหารทะเลกระป๋อง น้ำมันพืช บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เป็นต้น
#3136


เมื่อเร็วๆนี้กระทรวงพาณิชย์ได้เผยแพร่ ดัชนีราคาผู้บริโภคหรืออัตราเงินเฟ้อทั่วไป เดือนก.ค.2564 ซึ่งพบว่า ชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้า เพราะมีมาตรการ ลดภาระค่าครองชีพของรัฐบาล และการลดลงของราคาอาหารสดบางประเภทยังคงเป็นปัจจัยสไคัญที่ทำให้เงินเฟ้อชะลอตัว

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจว่าเงินเฟ้อก็คือค่าดัชนีชี้วัดว่า ค่าของเงินในกระเป๋าเรา มีอำนาจในการจับจ่ายใช้สอยได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งถ้าค่าเงินเฟ้อเป็นบวกมากๆ ก็แสดงว่าเงินในกระเป๋า เรามีค่าน้อยลงมาก อำนาจจับจ่ายก็น้อยไปด้วย แต่ดัชนีเงินเฟ้อยังมีประโยชน์ในด้านการชี้วัดอุณภูมิทางเศรษฐกิจโดยรวม เพราะยิ่งค่าเงินเฟ้อ สูงก็แสดงว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจมีมากนั่นหมายความว่ารายได้อีกฝากนึงของกระเป๋าเงินก็เข้ามาได้มากและแน่นอนก็จ่ายมากตามไปด้วย ดังนั้น การดูแลเงินเฟ้อไม่ให้สูงไป หรือต่ำไป จนเป็นเงินฝืด คือ ค่าเงินเฟ้อติดลบเกิน 6 เดือนนั้น เป็นสิ่งจำเป็น 


เดือนก.ค. ที่ผ่านมา ค่าเงินเฟ้อ ขยายตัว ที่ 0.45% นั่นหมายความว่า ราคาการใช้จ่ายของประชาชนทั่วไป เพิ่มขึ้นไม่ถึง1%  จะเรียกว่าพอรับได้ก็ใช่ เพราะที่ค่าเงินเฟ้อไม่สูงเพราะรัฐบาลช่วยบรรเท่าค่าใช้จ่ายให้ผ่านมาตรการต่างๆ แต่อีกด้านของค่าดัชนีกำลังบอกว่า คนไทยในยุคโควิด พิษร้ายทำลายทั้งสุขภาพ เศรฐษกิจและชีวิตคนไทยนี้ มีกำลังซื้อที่อ่อนแอมาก 



กระทรวงพาณิชย์ได้ประเมินค่าใช้จ่ายครัวเรือนเดือนก.ค. 2564 ไว้ว่า มีรายจ่ายรายเดือนที่ 16,783 บาท  แบ่งเป็น 

-ค่าโดยสารสาธารณะ ค่าซื้อยานพาหนะ ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง  ค่าบริการโทรศัพท์มือถือ 3,946 บาท 


-ค่าเช่าบ้าน ค่าวัสดุก่อสร้าง ค่าไฟฟ้า ค่าก๊าซหุงต้ม เครื่องใช้ในบ้าน 3,654 บาท 

-ซื้อเนื้อสัตว์ เป็ดไก่ และสัตว์น้ำ 1,548 บาท 

-อาหารบริโภคในบ้าน Delivery1,478 บาท 

-ค่าอาหารบริโภคนอกบ้าน (ข้าวราดแกง อาหารตามสั่ง KFC Pizza)1,140

-ค่าแพทย์ ค่ายา และบริการส่วนบุุคคล 960

-ค่าผักและผลไม้ 892

-ค่าหนังสือ ค่าสันทนาการ ค่าเล่าเรียน และการกุศลต่างๆ 757

-ซื้อข้าว แป้งและผลิตภัณฑ์จากแป้ง 677

-เครื่องปรุงอาหาร 393

-เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์376

-ค่าเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่มและร้องเท้า374

-ซื้อไข่และผลิตภัณฑ์นม 354

-ค่าบุหรี่ ค่าเหล้า ค่าเบียร์234

ค่าใช้จ่ายครัวเรือนไทย เงินหมดไปกับอะไรมากที่สุด
ก่อนซื้อทำอย่างไร เมื่อ 'ฟ้าทะลายโจร' ขาดตลาด ราคาพุ่ง เจอของปลอม
ศึกล่าลายเซ็น 'เมสซี' ส่อง 6 ทีมเต็ง พร้อมเปย์ค่าเหนื่อย
จากสัดส่วนค่าใช้จ่ายที่ได้แจกแจงมาเป็นค่าเฉลี่ยของแต่ละครัวเรือนแล้วจะพบว่า ส่วนของค่าเดินทางและการติดต่อสื่อสาร ในประเทศนี้กินเงินคนไทยไปไม่น้อย ข้อมูลนี้อาจต้องสะท้อนไปถึงรัฐบาลให้เข้ามาดูแลในเรื่องนี้อย่างจริงจัง  ส่วนค่าใช้จ่ายสำคัญรองลงมาคือ ค่าที่อยู่อาศัย และพลังงาน พบว่า กินสัดส่วนไปไม่น้อยกว่าค่าใช้จ่ายส่วนแรก 

วิชานัน นิวาตจินดา รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า(สนค.) กระทรวงพาณิชย์  เปิดมุมมองเงินเฟ้อปีนี้ว่า  แผนการจัดหาและการกระจายวัคซีนที่มีประสิทธิภาพและมีความชัดเจน รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่ทยอยออกมาเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง น่าจะสนับสนุนให้อัตราเงินเฟ้อเคลื่อนไหวในกรอบเป้าหมายของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)กำหนดไว้คือที่ 1.0 – 3.0% 

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ว่าเงินเฟ้อเฉลี่ยในปี 2564 จะอยู่ระหว่าง0.7 – 1.7 %(ค่ากลางอยู่ที่ 1.2%) ซึ่งเป็นอัตราที่น่าจะช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้อย่างเหมาะสมและต่อเนื่อง
#3137


จากสถานการณ์วิกฤตภัยร้าย "โควิด-19" ที่ทำให้เกิดสถานการณ์ที่ต้องหยุดชะงักหลายคนต้องตกงาน และขาดรายได้หลักจากการทำงานในวิชาชีพ ในช่วงสถานการณ์เช่นนี้เราทุกคนจะได้เห็นอีกแง่มุมกับน้ำใจของคนไทยและของเหล่าคนบันเทิงทั้งเบื้องหน้า และเบื้องหลังที่ได้เข้ามาหยิบยื่นความช่วยเหลือ แบ่งปันน้ำใจ ด้วยบริจาคเงินและสิ่งของจำเป็นที่ขาดแคลนต่อบุคลากรทางการแพทย์และโรงพยาบาล ไม่เว้นแม้แต่นักร้องหนุ่ม "ป๊อบ ปองกูล สืบซึ้ง" ที่ล่าสุดเจ้าตัวก็ส่งมอบเครื่องผลิตออกซิเจนเพิ่มอีก 73 เครื่อง ให้โรงพยาบาล และอาสา

โดยหนุ่ม "ป๊อบ ปองกูล" ได้โพสต์ภาพลงอินสตาแกรม พร้อมเขียนข้อความว่า "ตอนนี้ถึงไทยทั้งหมด 73เครื่องแล้วครับ ทยอย ส่งต่อถึงอาสาสมัคร แพทย์ พยาบาล และ โรงพยาบาล ที่เราติดต่อไว้ครับ ขอบคุณภูมิและหยี ที่ไปช่วยขนของ และคุณกานและแฟน ที่เป็นธุระให้ทุกอย่างนะครับ" งานนี้ก็มีแฟนคลับเข้ามาส่งอิโมจิรูปหัวใจให้รัวๆ กันเลยทีเดียว
#3138


บาร์เซโลน่า ยืนยันว่าไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในสัญญาฉบับใหม่กับ ลิโอเนล เมสซี่ ดาวเตะซูเปอร์สตาร์ทีมชาติอาร์เจนติน่าได้ เนื่องจากอุปสรรคทางด้านการเงินของทีม ปิดฉากช่วงเวลา 21 ปีเต็มกับสโมสร

ซูเปอร์สตาร์ชาวอาร์เจนไตน์ หมดสัญญากับทีม "อาซูลกราน่า" ตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าตัวต้องเดินทางไปแข่งขันฟุต.โคปา อเมริกา ที่ประเทศบราซิล กับทีมฟ้าขาว จึงยังไม่มีโอกาสได้เข้ามาพูดคุยกับบอร์ดบริหารของ บาร์เซโลน่า แบบจริงๆจังๆ

ก่อนหน้านี้มีข่าวออกมาว่า ลิโอเนล เมสซี่ ตอบรับในการเซ็นสัญญาฉบับใหม่กับ บาร์เซโลน่า เป็นเวลา 5 ปีเต็ม และพร้อมลดค่าเหนื่อยของตัวเองลงครึ่งหนึ่ง เพื่อช่วยพยุงสถานะทางการเงินของทีม

แต่แล้วล่าสุด บาร์เซโลน่า ร่อนแถลงการณ์ผ่านโซเชียลมีเดียของสโมสร ระบุว่า ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในสัญญาฉบับใหม่กับ ลิโอเนล เมสซี่ ได้ แม้ว่าทั้งสองฝ่ายมีความตั้งใจที่จะเซ็นสัญญาฉบับใหม่กันก็ตาม เนื่องจากข้อบังคับทางด้านการเงินของทาง ลาลีกา สเปน ที่เข้มงวด

"แม้ บาร์เซโลน่า และ ลิโอเนล เมสซี่ จะบรรลุข้อตกลงกันแล้ว ซึ่งทั้งสองฝ่ายต่างตั้งใจที่จะเซ็นสัญญากันในวันนี้ แต่การเซ็นสัญญาดังกล่าวไม่สามารถเกิดขึ้นได้ เพราะอุปสรรคเรื่องโครงสร้างการเงิน" บาร์เซโลน่า ร่อนแถลงการณ์

"ด้วยเหตุผลดังกล่าว เมสซี่ จะไม่อยู่กับ บาร์เซโลน่า ต่อไป ต่างฝ่ายต่างเสียใจอย่างสุดซึ้งที่สุดท้ายแล้วความปรารถนาของนักเตะกับสโมสรไม่กลายเป็นความจริง"

"บาร์เซโลน่า ขอขอบคุณสุดหัวใจต่อ เมสซี่ สำหรับทุกสิ่งที่เขาช่วยทำให้สโมสรยิ่งใหญ่ยิ่งขึ้น และขอให้เขาโชคดีกับอนาคตทั้งในเรื่องส่วนตัวและชีวิตนักฟุต." ทีมเจ้าบุญทุ่ม ทิ้งท้าย

หลังจากนี้หลายฝ่ายต่างจับตามองว่า ลิโอเนล เมสซี่ จะตัดสินใจอย่างไรกับอนาคตการค้าแข้งของตัวเองจากการที่ไม่สามารถเซ็นสัญญาฉบับใหม่กับทีมที่ปลุกปั้นเขาขึ้นมาได้

สำหรับ ลิโอเนล เมสซี่ ย้ายจากนีเวลส์ โอลด์ บอยส์ มาอยู่กับแคมป์ลามาเซียของบาร์เซโลน่า ตั้งแต่ปี 2000 ซึ่งตอนนั้นเจ้าตัวอายุเพียง 13 ปี ก่อนจะถูกดันขึ้นสู่ชุดใหญ่ของทัพอาซูลกราน่า ในปี 2004 จนกลายเป็นตำนานของสโมสร เป็นนักเตะที่ยิงประตูมากสุด และลงสนามมากสุดตลอดกาลของทีม โดยทำไปทั้งหมด 672 ประตู จากการลงเล่น 778 เกมในทุกรายการ

นอกจากนี้เจ้าตัวยังมีส่วนสำคัญที่ช่วยทีมประสบความสำเร็จอย่างมากมาย คว้าแชมป์ลาลีกา สเปน 10 สมัย, แชมป์โคปา เดล เรย์ 7 สมัย, ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 4 สมัย, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 3 สมัย, สโมสรโลก 3 สมัย
#3139


นางสาวอรชร อุยยามะพันธุ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงิน บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP เปิดเผยว่า คาดรายได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 จะเติบโตต่อเนื่อง ตามทิศทางราคาน้ำมันดิบโลกที่ปรับขึ้น โดยบริษัทประเมินสมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยปีนี้ที่ 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งในไตรมาส 2 ปี 2564 เฉลี่ยที่ 66.9 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และคาดว่าในช่วงที่เหลือราคาน้ำมันดิบจะแกว่งในกรอบ 60-80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล นอกจากนี้ บริษัทยังได้อานิสงส์จากการปรับราคาก๊าซธรรมชาติย้อนหลังตามราคาพลังงานที่สูงขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 อีกด้วย

สำหรับแผนการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปีนี้ ในประเทศยังเผชิญปัญหาในการเข้าพัฒนาพื้นที่โครงการจี 1/61 (แหล่ง เอราวัณ) แม้บริษัทจะยอมรับเงื่อนไขของผู้รับสัมปทานเดิมแล้วก็ตาม จึงคาดว่าจะไม่สามารถดำเนินการผลิตได้ตามสัญญาที่ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน (MMSCFD)  โดยบริษัทได้จัดทำแผนรับมือเพื่อลดผลกระทบ รวมถึงเพิ่มกำลังการผลิตในแหล่งอื่นบริเวณอ่าวไทยเข้ามาชดเชย รวมถึงการเตรียมแท่นผลิตในกรณีที่สามารถเข้าพื้นที่ได้ในระยะถัดไป

ส่วนโครงการจี 2/61 (แหล่งบงกช) คาดว่าจะดำเนินการได้ตามแผน จากปัจจุบันที่อยู่ระหว่างก่อสร้างและติดตั้งแพลตฟอร์ม โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน พ.ย.2564 นอกจากนี้ บริษัทได้เตรียมความพร้อมขุดเจาะและเจรจาซื้อขายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ขณะที่ในต่างประเทศ คาดว่าจะเดินหน้าเพิ่มกำลังการผลิตโครงการ Oman Block 61 ในโอมานเต็มที่ 1,500 MMSCFD ซึ่งจะส่งผลให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 6.9 หมื่นบาร์เรลต่อวัน ส่วนโครงการฮาสสิ เบอร์ราเคซ (HBR) ในแอลจีเรียคาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตได้ในช่วงครึ่งหลังปีนี้ กำลังการผลิต 1-1.3 หมื่นล้านบาร์เรลต่อวัน

สำหรับโครงการลัง เลอบาห์ (Lang Lebah) ในมาเลเซียคาดว่าจะตัดสินใจขั้นสุดท้าย (FID) ได้ตามแผน และจะเริ่มดำเนินการขุดเจาะได้ภายในปี 2565 ปัจจุบันอยู่ระหว่างปรับแผนพัฒนาให้สอดคล้องกับปริมาณก๊าซธรรมชาติที่ค้นพบเพิ่มขึ้น ส่วนโครงการซาราวัก SK438 และ PM407 อยู่ระหว่างประเมินศักยภาพทางปิโตรเลียม


ในการนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายปี2573 ธุรกิจใหม่ ได้แก่ ธุรกิจเทคโนโลยี ธุรกิจไฟฟ้าและพลังงานหมุนเวียน และธุรกิจพลังงานทางเลือก จะมีกำไรสุทธิ 20% ส่วนธุรกิจหลักคือการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม (E&P) ซึ่งเป็นธุรกิจเดิมจะลดสัดส่วนลงเหลือ 80%

ทั้งนี้ บริษัทประเมินยอดขายไตรมาส 3 ปี 2564 จะลดลงเหลือ 4.05 แสนบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากการปิดซ่อมบำรุงโรงงานแยกก๊าซของ บมจ.ปตท. (PTT) แต่คาดว่ายอดขายทั้งปีจะทำได้ตามเป้าหมายที่ 4.12 แสนบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้น จากปี 2563 หนุนให้อัตราส่วนกำไรก่อนหักดอกเบี้ยภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายขั้นต้น (EBITDA Margin) เติบโตตามเป้าหมายที่ 70-75%
#3140
สปริงคลิปยึดแบบหล่อคอนกรีต SPRING CLIP

สปริงคลิปของแท้ แข็งแรง คุ้มค่า ราคาผู้ผลิต  ต้องสปริงคลิป SUCOOT

- ง่ายและเร็วกว่า ด้วยระบบ Auto Lock
- กัดแน่น แข็งแรงกว่า ต้องรับโหลดได้มากกว่า 2 ตัน
- ประหยัดกว่า  ใช้ล็อกกับเศษเหล็ก 9-12มม.
- คุ้มค่ากว่า ของซูคูทแท้ใช้งานได้นานกว่า 100ครั้ง
- ส่งไว ส่งทั่วไทย มีของพร้อมส่ง
- จบครบกว่า เพราะใช้ล็อคได้ทุกงานแบบหล่อ ทั้ง กำแพง บ่อน้ำ เสา คานและฟุตติ้ง  
- ราคายิ่งซื้อเยอะ ยิ่งลดให้เยอะ  

ดูข้อมูลเพิ่มเติม https://www.sucoot.co.th/spring-clip.html 
ยินดีให้คำแนะนำงานนั่งร้านแบบหล่อคอนกรีตโดยผู้เชี่ยวชาญ
อาร์ต อัฐวุฒิ โทร. 0896411766 / 0866886093 ID Line: 0896411766

Tags :: สปริงคลิป,แบบหล่อคอนกรีต,แบบหล่อกำแพง