• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Naprapats

#3141



ผ่านมาแล้วกว่าครึ่งปีที่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มอบนโยบายการทำงานในปี 2564 ให้แก่กรมต่างๆ ของกระทรวงพาณิชย์รับไปปฏิบัติ โดยมีนโยบายเร่งด่วนรวม 14 ข้อ ได้แก่ ประกันรายได้, ลดค่าครองชีพ, เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด, อาหารไทยอาหารโลก, การค้าออนไลน์, ส่งเสริมธุรกิจบริการ, พัฒนา SMEs และ Micro SMEs, เร่งรัดการส่งออก, ผลักดันการค้าชายแดน, เจรจาการค้าระหว่างประเทศ, จดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา, บริการด้วยอิเล็กทรอนิกส์, ทำงานร่วมกับภาคเอกชนในนาม กรอ.พาณิชย์ และให้บริการแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว

ผลการขับเคลื่อนงานที่ผ่านมา แต่ละกรมในกระทรวงพาณิชย์ได้เร่งทำงานตามนโยบาย ปรากฏผลงานออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการช่วยเหลือเกษตรกร ประชาชน และภาคธุรกิจ จนเป็นกระทรวงเศรษฐกิจที่ติดอันดับต้นๆ ที่ประชาชนพอใจในผลการทำงาน

ล่าสุด "กรมพัฒนาธุรกิจการค้า" ได้สรุปผลการทำงานครึ่งปี และแผนการทำงานในช่วงครึ่งปีหลัง ปรากฏผลการทำงานตามนโยบายที่ประสบความสำเร็จหลายด้าน โดยเฉพาะการผลักดันเกษตรกร ผู้ประกอบการชุมชน ผู้ประกอบการรายย่อย หรือที่เรียกกันว่า "คนตัวเล็ก" ให้มีโอกาสทางการตลาด ให้มีโอกาสในการทำมาค้าขาย ทั้งตลาดในประเทศ และตลาดต่างประเทศ

ใช้ออนไลน์ช่วยเกษตรกรทำตลาด

ในการขับเคลื่อนการทำงานภายใต้นโยบาย "เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด" นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้แปลงนโยบายลงสู่การปฏิบัติด้วยการร่วมมือกับกรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานพันธมิตร 24 หน่วยงาน ทำแพลตฟอร์มกลาง "เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด" ในรูป B2B (Business-to-Business) ต่อยอดจากแพลตฟอร์มที่มีอยู่ ได้แก่ "Thaitrade.com ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ" และแพลตฟอร์ม "Phenixbox.com ของบริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน)" ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มศูนย์ค้าส่งครบวงจรภายในประเทศ

ผลการดำเนินงานในส่วนของตลาดต่างประเทศ ได้คัดเลือกและพัฒนาสหกรณ์ที่มีความพร้อมในการจำหน่ายบนแพลตฟอร์ม และมีกำลังการผลิตที่เพียงพอต่อการส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศ จำนวน 9 สหกรณ์ ให้มีร้านค้าออนไลน์บน Thaitrade.com รวมสินค้าทั้งสิ้น 45 รายการ เช่น ข้าว นม และโคเนื้อ โดยแพลตฟอร์ม Thaitrade.com ได้สร้างหน้าเฉพาะสำหรับสินค้าจากสหกรณ์ภายใต้ชื่อ "Thai Agricultural Trade Center" (https://www.thaitrade.com/online-exhibition/thai_agricultural) และกำหนดจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจออนไลน์ (Online Business Matching) ระหว่างสหกรณ์กับผู้ค้าต่างประเทศ ในวันที่ 29-30 ก.ค. 2564 นี้

สำหรับตลาดในประเทศ ได้ร่วมกับแพลตฟอร์ม Phenixbox.com จัดทำ Profile สินค้าเกษตร เพื่อเชื่อมโยงไปยัง Phenixbox.com จำนวน 28 สหกรณ์ รวมสินค้าทั้งสิ้น 37 รายการ เช่น ข้าวสาร นมโค ผลไม้ และสินค้าอุปโภคบริโภคอื่นๆ โดยแพลตฟอร์ม Phenixbox.com ได้สร้างหน้าเฉพาะสำหรับสินค้าจากสหกรณ์ภายใต้ชื่อ "เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด" (https://www.phenixbox.com/Thai_agricultural) โดยจะมีการจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจออนไลน์ระหว่างกลุ่มสหกรณ์กับบริษัทในเครือ TCC Group ซึ่งประกอบธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร รวมถึงเครือข่ายพันธมิตรต่างๆ ของบริษัทแอสเสท เวิร์ด คอร์ป จำกัด (มหาชน) ในเดือน ส.ค. 2564

ทั้งนี้ นายจุรินทร์ได้กำชับให้เพิ่มความเข้มข้น และเพิ่มจำนวนเกษตรกร และรายการสินค้าให้มีโอกาสเข้าไปจำหน่ายในแพลตฟอร์มทั้ง 2 แพลตฟอร์มให้มีจำนวนมากขึ้นต่อไป

สอนคนตัวเล็กค้าขายออนไลน์

การเพิ่มโอกาสในการค้าขายออนไลน์ เป็นอีกนโยบายหนึ่งที่นายจุรินทร์สั่งการให้ทุกหน่วยงานในกระทรวงพาณิชย์เร่งขับเคลื่อน และให้ความช่วยเหลือคนตัวเล็ก โดยเฉพาะเกษตรกร ผู้ประกอบการชุมชน ผู้ประกอบการรายย่อย ให้มีโอกาสในการค้าขายออนไลน์ ซึ่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้เข้าไปช่วยเหลือตั้งแต่ขั้นเริ่มต้น ด้วยการให้ความรู้ สอนเทคนิคการตลาดออนไลน์ ด้วยการจัดทีมผู้เชี่ยวชาญลงไปสอนถึงที่ แต่ด้วยข้อจำกัดของการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ต้องปรับแผนเป็นการฝึกสอน อบรมผ่านช่องทางออนไลน์แทน

ที่ผ่านมาได้สอนความรู้การทำการค้าและเทคนิคการตลาดออนไลน์ไปแล้ว 2,175 ราย, สร้าง Smart Trader Online ด้วยการบ่มเพาะผู้ประกอบการรุ่นใหม่ให้เป็นนักการค้าออนไลน์ และจับคู่เชื่อมโยงผู้ประกอบการรุ่นใหม่ Trader Online กับสินค้าและบริการที่มีศักยภาพ เข้าสู่ช่องทางการตลาดบนแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมแล้ว 406 ราย

ส่วนแผนระยะถัดไป ช่วงเดือน ก.ค.-ธ.ค. 2564 มีเป้าหมายที่จะพัฒนาสินค้าชุมชน กลุ่มเกษตรกร สู่ช่องทางการตลาด (Offline 2 Online) โดยจะคัดเลือกสินค้าชุมชน ของดีของเด่นประจำจังหวัด จากผู้ประกอบการฐานรากที่มีศักยภาพทั้ง 18 กลุ่มจังหวัด ครอบคลุม 77 จังหวัด เพื่อเข้าสู่กระบวนการให้ความรู้และผลักดันสินค้าเข้าสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ จำนวนเป้าหมาย 1,260 ราย และจะสร้างโอกาสทางการตลาดออนไลน์แก่ผู้ประกอบการฐานราก ผ่านกิจกรรมส่งเสริมการตลาดในรูปแบบออฟไลน์ ภายใต้งานมหกรรม Thailand e-Commerce Expo ที่จะจัดขึ้นในเดือน พ.ย. 2564

นอกจากนี้ ได้เข้าไปช่วยพัฒนาศักยภาพทางการตลาดให้แก่ภาคการผลิตฐานราก ทั้ง SMEs และ Micro SMEs โดยอบรมให้ความรู้หาตลาดและเปิดโอกาส เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายในตลาดที่กว้างขึ้น ส่งเสริมศักยภาพการตลาดผลิตภัณฑ์ชุมชน ส่งเสริมศักยภาพนักการตลาด OTOP มืออาชีพ เพื่อเป็นตัวแทนหรือผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP และพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อต่อยอดเชื่อมโยงการตลาดผลิตภัณฑ์ OTOP เข้าสู่ช่องทางการตลาด 332 ราย สร้างโอกาสทางการค้าและเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าชุมชน (MOC Biz Club) เพื่อเป็นการสร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs และผู้ประกอบการรายย่อยทั่วประเทศมาเชื่อมโยงต่อยอดโอกาสทางธุรกิจ และเพิ่มโอกาสการค้า ปัจจุบันมีสมาชิก 12,721 ราย ทั้งนี้ ยังมีกำหนดจัดงาน MOC Biz Club Fair 2021 ที่กรุงเทพฯ หรือปริมณฑล จำนวน 4 ครั้ง ระหว่างเดือน ส.ค.-ต.ค. 2564 เพื่อการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้า การเจรจาจับคู่ทางธุรกิจ และการให้คำปรึกษาทางธุรกิจด้วย



พัฒนาโชวห่วยเพิ่มรายได้ฐานราก

สำหรับธุรกิจบริการ ที่เป็นธุรกิจที่มีโอกาสเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการและเพิ่มรายได้เข้าประเทศ นายจุรินทร์ได้มอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเร่งพัฒนาศักยภาพทางการตลาดให้กับภาคบริการ ทั้งผู้ค้าปลีก ค้าส่ง สมาร์ทโชวห่วย กลุ่มโลจิสติกส์ กลุ่มบริการสุขภาพ และกลุ่มร้านอาหาร โดยให้เข้าไปช่วยแก้ปัญหาและเพิ่มช่องทางการตลาดให้ภาคบริการ

ผลการดำเนินงานตามนโยบาย ได้ช่วยพัฒนาร้านค้าปลีกสู่การเป็นสมาร์ทโชวห่วย ด้วยการสร้างองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการ พัฒนาภาพลักษณ์ ส่งเสริมการนำเทคโนโลยี POS ไปใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทั่วประเทศ มีเป้าหมายในการพัฒนา 3,500 รายทั่วประเทศ และผลักดันให้สมาร์ทโชวห่วยนำระบบ POS มาใช้ในการบริหารจัดการร้าน 500 ราย

นอกจากนี้ ยังได้ใช้ร้านค้าปลีกค้าส่ง ร้านโชวห่วยในเครือข่ายที่ผ่านการอบรมพัฒนาแล้ว มาช่วยลดค่าครองชีพให้แก่ประชาชน ด้วยการร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตร ผู้ผลิต ผู้แทนจำหน่าย ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค ในการจำหน่ายสินค้าราคาประหยัดผ่านร้านโชวห่วยจำนวน 2,040 ราย ซึ่งสามารถช่วยลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชนลงลึกถึงระดับอำเภอ ตำบล และหมู่บ้านได้เป็นอย่างมาก

สร้างเครือข่าย-เพิ่มมาตรฐานธุรกิจบริการ

ส่วนธุรกิจบริการที่มีมูลค่าสูง ได้แก่ ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ ธุรกิจร้านอาหาร ธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ สำนักงานบัญชี ได้พัฒนาศักยภาพการบริหารจัดการ การตลาด เทคโนโลยี และนวัตกรรม รวมถึงการเชื่อมโยงเครือข่าย Startup กับ SMEs ด้วยนวัตกรรมด้านโลจิสติกส์ นำไปสู่การสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงแหล่งตลาด และการบริหารจัดการระบบคลังสินค้าและขนส่งแบบครบวงจร 2,453 ราย

ขณะเดียวกัน ได้สร้างความเข้มแข็งและการเติบโตให้กับธุรกิจแฟรนไชส์ไทย สร้างธุรกิจแฟรนไชส์รายใหม่ (B2B Franchise) รุ่นที่ 24 จำนวน 158 ราย รวม 98 กิจการ และเสริมสร้างมาตรฐานคุณภาพด้านบริหารจัดการธุรกิจแฟรนไชส์ไทย 235 ราย

พร้อมกันนี้ ได้ให้ความรู้ด้านบริหารจัดการธุรกิจผ่าน e-Learning จำนวน 7 หลักสูตร 30 วิชา ได้แก่ หลักสูตรการเริ่มต้นธุรกิจ หลักสูตรการเงินและการบัญชี หลักสูตรวิชาบัญชี หลักสูตรพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เบื้องต้น หลักสูตรพัฒนากลยุทธ์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หลักสูตรการประกอบธุรกิจใน AEC หลักสูตรการพัฒนาระบบบริหารจัดการธุรกิจโลจิสติกส์ ผ่านเว็บไซต์ http://dbdacademy.dbd.go.th มีผู้สมัครเข้ามาเรียนแล้ว 28,658 ราย

สำหรับแผนงานช่วงเดือน ก.ค.-ธ.ค. 2564 จะเน้นการสร้างโอกาสทางการตลาดให้แก่ธุรกิจบริการที่ผ่านการคัดเลือก ช่วยสร้างแรงจูงใจ และผลักดันให้ผู้ประกอบธุรกิจปรับตัวกับวิถีการค้ายุคใหม่ โดยเฉพาะการขายและการตลาดออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ www.ของดีทั่วไทย.com ในเดือน ส.ค. 2564, ส่งเสริมร้านอาหารไทยในประเทศให้ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT เป้าหมาย 300 ราย ปัจจุบันมีร้านอาหารไทยในประเทศได้รับตราสัญลักษณ์ 940 ราย และจัดประกวดธุรกิจแฟรนไชส์ไทย (Thailand Franchise Award 2021 : TFA 2021) ในเดือน ส.ค. 2564

พลิกโฉมหน้างานบริการด้วยดิจิทัล

ทางด้านการปรับปรุงพัฒนาการให้บริการภาคธุรกิจและประชาชน นายจุรินทร์ได้กำชับให้มุ่งเน้นการอำนวยความสะดวกและความรวดเร็วในการให้บริการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อตอบสนองนโยบายกระทรวงพาณิชย์ดิจิทัล และนโยบาย E-Government ของรัฐบาล โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ยกระดับการเริ่มต้นธุรกิจของประเทศ โดยดำเนินการพัฒนาปรับปรุงการให้บริการอย่างเป็นขั้นเป็นตอน

เริ่มจากการจองชื่อนิติบุคคลด้วยระบบ AI ซึ่งช่วยเพิ่มความรวดเร็วในการตรวจสอบและผลอนุมัติการจองชื่อ โดยเปิดให้บริการมาตั้งแต่วันที่ 26 เม.ย. 2564 และส่งเสริมการใช้ระบบจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Registration) เพิ่มช่องทางการยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-KYC) และปรับปรุงแบบฟอร์มการกรอกให้ง่ายขึ้น เปิดให้บริการ 27 เม.ย. 2563 และยังได้ลดอัตราค่าธรรมเนียมสำหรับการจดทะเบียนนิติบุคคลผ่านระบบ e-Registration จากเดิมลดให้ร้อยละ 30 เป็นลดให้ร้อยละ 50 เริ่มตั้งแต่ 1 ม.ค. 2564

นอกจากนี้ ได้เพิ่มช่องทางให้ผู้แทนสามารถกรอกและยื่นคำขอจดทะเบียนแทนผู้ประกอบการได้ เปิดให้บริการ 8 มี.ค. 2564 และพัฒนาระบบการให้บริการออกหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Foreign Certificate) โดยร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร 2 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (DGA) เพื่ออำนวยความสะดวกนักลงทุนต่างชาติ ให้สามารถยื่นขอรับบัตรส่งเสริมลงทุนจาก BOI และหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ได้ ณ จุดเดียว (Single Unit) ที่ BOI ทำให้ลดระยะเวลาจากเดิมตามที่กฎหมายกำหนดไว้ 30 วัน เหลือเพียงภายใน 5 วัน และลดต้นทุนการดำเนินการของผู้ประกอบธุรกิจชาวต่างชาติโดยเปิดให้บริการเดือน ก.พ. 2564 ที่ผ่านมา

ไม่เพียงแค่นั้น ยังได้เปิดให้บริการระบบออกเลขประจำตัวนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่ออำนวยความสะดวกในการขอมีเลขประจำตัวนิติบุคคล แจ้งเปลี่ยนแปลงข้อมูล และแจ้งยกเลิกการประกอบธุรกิจให้แก่นิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศที่เข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศไทย และเป็นธุรกิจที่ไม่ได้อยู่ในบัญชีท้าย พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 ซึ่งคนต่างด้าวสามารถประกอบธุรกิจได้โดยไม่ต้องขออนุญาต โดยสามารถดำเนินการได้ผ่านเว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า www.dbd.go.th ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2564

ทั้งหมดนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติตามนโยบายเร่งด่วน ที่นายจุรินทร์ได้กำหนดเป็นแผนการทำงานสำหรับปี 2564 ซึ่งสามารถช่วยให้ "คนตัวเล็ก" ได้มีโอกาสทางการตลาดเพิ่มขึ้น มีโอกาสในการทำมาค้าขายเพิ่มขึ้น มีโอกาสในการเพิ่มรายได้ในกระเป๋าเพิ่มขึ้น และมีโอกาสในการเป็นส่วนหนึ่งของการทำรายได้เข้าประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ยืนยันว่า ช่วงที่เหลือของปีนี้จะยังคงเพิ่มความเข้มข้นและช่วยผลักดันให้คนตัวเล็กมีโอกาสเพิ่มขึ้นต่อไป
#3142
ซิกส์ทีม (SIXTEEM) เป็นแบรนด์ผู้ผลิตเครื่องสำอางบำรุงผิว ที่มีแนวคิดแรกเริ่มจากการนำข้าวไทยมาเป็นวัตถุดิบส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ โดยคุณพัทธนันท์ เศรษฐภูวนันท์ ผู้จัดตั้ง ห้างหุ้นส่วนจำกัด ซิกส์ทีม เนเชอรัล โปรดักส์ โดยมีแรงบันดาลใจจากปัญหาเศรษฐกิจในตอนนั้นคือชาวนากับการจำนำข้าว ทำให้มีแนวคิดเพื่อช่วยส่งเสริมเกษตรกรและก็เพิ่มราคาให้ข้าวไทย ทางซิกส์ทีมก็เลยนำปัญหานี้ไปต่อยอดค้นคว้าหาข้อมูลข้าวสายพันธ์ต่างๆที่สามารถนำมาเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ จนพบว่าข้าวสีนิลไทยหรือข้าวหอมนิล ที่ประโยชน์ มีคุณสมบัติเหมาะสมแก่การบำรุงผิวพรรณ โดยซิกส์ทีมเริ่มออกผลิตภัณฑ์ตัวแรกในปี พุทธศักราช 2559 เป็นโลชั่นบำรุงผิวกายจากสารสกัดข้าวสีนิล ซึ่งได้รับกระแสตอบรับจากผู้ใช้อย่างดีเยี่ยม





 ซิกส์ทีมยังคงสร้างสรรค์รวมทั้งปรับปรุงสินค้าเพื่อตอบโจทย์การบำรุงผิวเรื่อยมาจนกระทั่งในปี พุทธศักราช 2560 ห้างหุ้นส่วนจำกัด ซิกส์ทีม เนเชอรัล โปรดักส์ ก็ได้รับรางวัล Chiang Mai TOP TEN AWARDS 2017 จากหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ แล้วก็ยังถูกรับเลือกให้เป็นหนึ่งในสินค้าของดีจังหวัดเชียงใหม่ ต่อมาก็ได้รับรางวัล SMEs START UP AWARDS 2017-2018 จาก สสว. ถึงสองปีซ้อน รวมทั้งล่าสุดได้รับรางวัล SME Provincial Champions 2020 กิจการต้นแบบของจังหวัดเชียงใหม่ รางวัลต่างๆแล้วก็เสียงตอบรับจากผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ ทำให้ซิกส์ทีมมั่นใจยิ่งขึ้นว่าสามารถส่งเสริมให้ข้าวไทยเป็นที่รู้จักในระดับประเทศได้ ซิกส์ทีมก็เลยเริ่มนำสินค้าที่มีออกวางขายไปที่ประเทศอื่นๆ โดยได้รับการช่วยส่งเสริมจากภาครัฐได้ออกบูธผลิตภัณฑ์ในประเทศจีน แล้วก็สปป.ลาว ต่อเนื่องเรื่อยมา





 ในปี พ.ศ. 2562 ซิกส์ทีม ได้ผลักดันข้าวไทยสู่งานนวัตกรรมข้าวไทย ซึ่งคิดค้นแล้วก็พัฒนาร่วมกับคณะเกษตรศาสตร์และเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สนับสนุนโดย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ โดยข้าวที่ซิกส์ทีมเอามาร่วมศึกษาค้นคว้าในครั้งนี้คือ "ข้าวก่ำดอยสะเก็ด" เป็นพญาแห่งข้าวทั้งหลาย สายพันธุ์ดั้งเดิมของชาวล้านนา และยังเป็นข้าวGI ของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมี 6 คุณประโยชน์ ต้านความชรา จากงานศึกษาค้นคว้าวิจัยข้าวครั้งนี้ ทำให้ซิกส์ทีม สร้างสรรค์รวมทั้งต่อยอดจนกระทั่งเกิดผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจากข้าวไทย ปัจจุบันซิกส์ทีมยังคงมุ่งมั่นพัฒนา โดยเป็นแบรนด์แรกๆที่ได้นำข้าวสีนิลไทยมาสกัดจนเกิดผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยนอกเหนือจากที่จะต้องการสนับสนุนชาวนาไทยแล้ว ซิกส์ทีมยังมุ่งมั่นสำหรับการเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์ข้าวไทยสายพันธุ์ดั้งเดิมไม่ให้สูญหาย รวมทั้งร่วมส่งเสริมให้ข้าวไทยมีชื่อเสียงในระดับโลกต่อไป



 
 
#3143



โรคโควิด-19 ที่ระบาดมาเป็นปีๆ มีขึ้นมีลงไปหลายระลอก จนบริษัทยาต่างๆ ต้องรีบทำวิจัยวัคซีนออกมาหยุดยั้งการระบาด สร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้เกิดให้ได้

เฉพาะในสหรัฐอเมริกาแห่งเดียว ก็มีบริษัทยาเป็นสิบๆ แห่งที่ทำวิจัยวัคซีนโควิด-19 หลายแห่งยังไม่ประสบความสำเร็จ แต่มี 2 แห่งใหญ่ๆ ที่ได้วัคซีนประเภท mRNA ออกมาใช้ในภาวะฉุกเฉินและได้รับความนิยมทั่วโลก อย่าง ไฟเซอร์ และโมเดอร์นา ส่วนที่จะตามมาในปีหน้า โดยมุ่งหมายจะเป็นวัคซีนตัวบูสเตอร์ ต้านเชื้อร้ายที่กลายพันธุ์ ยังมี โนวาแวกซ์

ขณะที่ มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ได้ทำวิจัยวัคซีนโควิด-19 ชนิด ไวรัลเวคเตอร์ อย่างแอสตรา ซีเนกา ส่วนประเทศต้นทางของเชื้อโควิด-19 อย่างจีน ผลิตวัคซีนโดยอาศัยเชื้อตายออกมา ทั้งชิโนแวค และชิโนฟาร์ม

เรามาทำความรู้จักหน้าค่าตาของผู้นำบริษัทยาเหล่านี้กัน...



:: อัลเบิร์ต บูร์ลา - ไฟเซอร์

บริษัทยาอเมริกันที่มีรายได้เป็นพันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี โดยที่มาของรายได้ส่วนใหญ่อยู่ในสหรัฐเอง 52% กับอีก 6% จากจีนและญี่ปุ่น และ 36% ที่เหลือจากที่อื่นๆ ทั่วโลก



ประธานบริษัทไฟเซอร์ อัลเบิร์ต บูร์ลา เป็นสัตวแพทย์ชาวกรีก เข้ามาร่วมงานกับไฟเซอร์ในปี 1993 โดยได้ทำงานบริหารแผนกต่างๆ ของบริษัทหลายแผนก ก่อนจะขึ้นเป็นกรรมการบริษัทและเป็นประธานในที่สุด

อัลเบิร์ต ได้รับยกย่องว่าเป็นผู้มาเปลี่ยนโฉมหน้าของการผลิตยา โดยเฉพาะการไม่เบียดเบียนสัตว์ รวมทั้ง การพยายามต่อสู้ด้านราคาและสิทธิบัตรยา ซึ่งเขาเห็นว่า มีความสำคัญในการค้นคว้าวิจัยยาอื่นๆ ในอนาคต และประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง ในความร่วมมือกับ ไบออนเทค ของเยอรมนี ในการผลิตวัคซีนโควิด-19 โดยเขาเป็นผู้ผลักดันให้ทีมวิจัยเร่งทำงานให้เร็วขึ้น



:: สเตฟาน บองเซล - โมเดอร์นา

บริษัทยาอเมริกันในเคมบริดจ์ แมสซาชูเซตส์ ที่ผลิตวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA อีกเจ้าหนึ่ง ซึ่งชื่อโมเดอร์นา ก็มาจากเทคโนโลยีในการผลิต nucleoside-modified messenger RNA (modRNA) นั่นเอง

ก่อนหน้าวัคซีนโควิด-19 โมเดอร์นาเคยผลิตวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ เอชไอวี และอื่นๆ มาแล้วกว่า 24 ชนิด พวกเขามี สเตฟาน บองเซล มหาเศรษฐีชาวฝรั่งเศสนั่งเป็นซีอีโอ



สเตฟานจบปริญญาโทด้านวิศวกรรมศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยปารีส-ซาคเลย์ วิทยาเขตซองทรัลซูเปเลค และที่มหาวิทยาลัยมินเนโซตา นอกจากนี้ยังได้เอ็มบีเอจากฮาร์วาร์ด บิซิเนส สกูล อีกด้วย

เขาเริ่มงานครั้งแรกด้วยการเป็นผู้อำนวยการฝ่ายขาย ของบริษัทยาอเมริกัน อีไล ลิลลี แอนด์ โค. โดยไปประจำอยู่ที่สาขาเบลเยียม ก่อนจะย้ายไปเป็นซีอีโอของบริษัทยาฝรั่งเศส ไบโอเมริเยอร์ซ และเข้ามาเป็นซีอีโอของบริษัท โมเดอร์นา ในปี 2011

ว่ากันว่า หลังจากการทดลองเฟส 2 ของวัคซีนโควิด-19 ของโมเดอร์นา หุ้นที่สเตฟาน บองเซล ถืออยู่ก็มีมูลค่าพุ่งไปกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ ตอนนี้ก็อย่าได้ไปพูดถึง



:: ลิฟ โยฮันสัน + ปาสกัล โซริโอต์ - แอสตราซีเนกา

บริษัทร่วมทุนอังกฤษ-สวีเดน ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในคณะชีววิทยาศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ อังกฤษ ในการผลิตวัคซีนโควิด-19 พวกเขาอาศัยเทคโนโลยีจากการวิจัยของออกซ์ฟอร์ด ที่เป็นวัคซีนแบบไวรัล เวคเตอร์ หรือจำลองดีเอ็นเอของตัวเชื้อไวรัสขึ้นมา ให้ร่างกายสร้างภูมิขึ้นมาต้านทาน

นักธุรกิจชาวสวีเดน ลิฟ โยฮันสัน นั่งในตำแหน่งประธานของแอสตราซีเนกา โดยก่อนหน้านี้ เขาเคยเป็นประธานและซีอีโอของวอลโว กรุ๊ป และเคยเป็นประธานบริษัท อีริคสัน เขาจัดว่าเป็นผู้ทรงอิทธิพลลำดับที่ 6 ของสวีเดน

ลิฟ จบปริญญาตรีทางวิทยาศาสตร์ และปริญญาโทด้านวิศวกรรมศาสตร์ ในโกเตนเบิร์ก เขาทำงานในอุตสาหกรรมของสวีเดนมาตลอดชีวิต เริ่มจากเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทมอเตอร์ไซค์ฮุสกวานา เคยเป็นซีอีโออีเลคโทรลักซ์ และเป็นประธานกับซีอีโอของวอลโว ประธานบริษัท อีริคสัน ก่อนจะมาเป็นประธานของแอสตราซีเนกา



บุคคลสำคัญของแอสตราซีเนกาอีกคน คือ ปาลกัล โซริโอต์ ที่เพิ่งได้รางวัลสุดยอดซีอีโอโลก 100 ของนิตยสารฮาร์วาร์ด บิซิเนส รีวิว ในปี 2019 โดยดูจากผลประกอบการ รวมทั้งการใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล

ปาลกัล ได้รับยกย่องว่า เป็นผู้ปฏิวัติการทำงานในแอสตราซีเนกา เขาดูแลพนักงานฝ่ายต่างๆ กว่า 60,000 ให้ปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะการตอบสนองความคาดหวังของคนในการพัฒนาวัคซีนโควิด-19

ปาลกัล ศึกษาจบด้านสัตวแพทย์ศาสตร์ ก่อนจะศึกษาเพิ่มเติมด้านเอ็มบีเอ ในปี 1986 เขาเข้าทำงานในบริษัท รุสเซล ยูคลัฟ บริษัทยาที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของฝรั่งเศส ในตำแหน่งพนักงานขายโดยไปประจำอยู่ในออสเตรเลีย แล้วย้ายไปประจำที่กรุงโตเกียว

ในปี 2000 เขาย้ายไปบริษัท อะเวนติส สหรัฐ ตามด้วย โรช ฟาร์มา ในปี 2006 และได้ขึ้นเป็นซีอีโอในปี 2010 Ffp.oxu 2012 ได้กลายมาเป็นซีอีโอของแอสตาซีเนกา บริษัทยาที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก



:: สแตนลีย์ เอิร์ค - โนวาแวกซ์

วัคซีนที่คาดกันว่าจะเป็นความหวังของมนุษยชาติ ผลิตโดยบริษัทยาอเมริกันในแมรีแลนด์ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เคยประสบความสำเร็จในการผลิตวัคซีนป้องกันโรคอีโบลา ไข้หวัดใหญ่ และไวรัสอาร์เอสวี มาแล้ว

สแตนลีย์ เอิร์ค ประธาน ซีอีโอ และผู้ก่อตั้งบริษัทโนวาแวกซ์ บริษัทยาเกิดใหม่วัย 10 ปี ของอเมริกา เห็นว่า วัคซีนโควิด-19 เป็นโอกาสสำคัญที่จะช่วยให้บริษัทเติบโต และก้าวไปในแนวทางที่ต้องการ แม้ว่าในขณะนี้ยังมีเครือข่ายไม่มากพอ ทำให้การวิจัยพัฒนาไม่ราบรื่นเท่าที่ควร

สแตนลีย์ จบการศึกษาด้านบริหารธุรกิจจากมหาวิทยาลัย ชิคาโก บูธ เขาเชี่ยวชาญด้านเชื้อโรคและภูมิคุ้มกันหมู่ จากประสบการทำงานที่ผ่านๆ มาของเขาในหลายๆ แห่ง ก่อนหน้าจะมาก่อตั้งโนวาแวกซ์



:: อินเว่ยตง - ชิโนแวค ไบโอเทค

วัคซีนเชื้อตายเมดอินไชน่า ที่กลายเป็นข้อถกเถียงถึงประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อโควิด-19 เป็นอย่างมาก

ชิโนแวค ไบโอเทค มี อินเว่ยตง นั่งเป็นประธาน หลังจากจบทางด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ในบ้านเกิดแล้ว เขาก็ไปเรียนต่อทางด้านไวรัสวิทยาที่มหาวิทยาลัยสิงคโปร์ จึงไม่แปลกที่จะเข้าทำงานอยู่ในสายการผลิตยามาโดยตลอด ตั้งแต่ ชิโนไบโอเวย์ กรุ๊ป ถังซาน ไบโอเอนจิเนียริง และชิโนแวค ไบโอเทค

ก่อนหน้านี้ เขาเคยประสบความสำเร็จในการวิจัยและพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดนก โรคซาร์ส รวมทั้งไข้หวัดใหญ่ และกวาดรางวัลทางด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ของจีนมามากมาย
#3144



เมอร์เซเดส-เบนซ์ เพิ่มทางเลือกลูกค้า รถอายุ 5 ปีขึ้นไป เปิดตัวอะไหล่ สตาร์พาร์ท (StarParts) รองรับทีั้งกลุ่มรถคอมแพคท์ เอสยูวี โรดสเตอร์ ช่วยลูกค้าประหยัด ดีลเลอร์มีรายได้

เมอร์เซเดส-เบนซ์ (Mercedes-Benz) เปิดตัว สตาร์พาร์ทส์  (StarParts) อะไหล่รถยนต์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่ได้มาตรฐาน ในราคาที่เข้าถึงง่ายขึ้น โดยระบุว่าจะช่วยให้ลูกค้าประหยัดค่าใช้จ่ายได้สูงสุด 55%

ทั้งนี้ อะไหล่ "StarParts" พัฒนาและทดสอบตามมาตรฐานของเมอร์เซเดส-เบนซ์ เพื่อเป็นทางเลือกใหม่สำหรับลูกค้ารถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ทั่วประเทศ สำหรับการบำรุงรักษาในกลุ่มรถที่มีอายุ 5 ปีขึ้นไป

พุทธิ ตุลยธัญ รองประธานบริหารฝ่ายบริการลูกค้า บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า นอกเหนือจากการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ แล้ว การบำรุงรักษารถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ให้สามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ ยืดอายุการใช้งานเป็นสิ่งที่บริษัทให้ความสำคัญ

นอกจากนี้ StarParts ยังเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้กับตัวแทนจำหน่าย ในการรักษาลูกค้า และสร้างยอดขาย ด้านอะไหล่และบริการได้อีกด้วย



สำหรับอะไหล่ StarParts ผลิตออกมารองรับรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ รุ่นต่างๆ ประกอบด้วย

  • A-Class (169/176)
  • GLA (156)
  • B-Class (245/246)
  • C-Class (203/204)
  • CLK-Class (209)
  • E-Class (211/212)
  • CLS-Class (218/219)
  • ML-Class (164/166)
  • SLK-Class (170/171)
โดยอะไหล่ที่ผลิตออกมาสำหรับ StarParts ประกอบด้วย

  • แบตเตอรี่สตาร์ท
  • ผ้าเบรก/ดิสก์เบรก
  • ไส้กรองอากาศสำหรับเครื่องยนต์
  • ไส้กรองน้ำมันเครื่อง
  • ไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิง
  • ไส้กรองน้ำมันเกียร์
  • ไส้กรองสำหรับห้องโดยสาร
  • หัวเทียน
  • ใบปัดน้ำฝน
#3145



ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี เผยภาคภูมิใจหลังโชว์ฟอร์มในศึกโอลิมปิก ได้อย่างเด็ดขาดจนเข้ามาถึงรอบ 8 คนสุดท้ายเป็นครั้งแรก พร้อมตั้งความหวังปราบนักชกคิวบา เพื่อเอาเหรียญทองแดงมาคล้องการันตีไว้ก่อน

รอบนี้ ฉัตร์ชัยเดชา เจอกับ เมียร์โก เจฮีล คูเอลโญ่ จากอาร์เจนติน่า ปรากฏว่านักชกไทยโชว์ประเคนหมัดได้อย่างเหนือชั้น ก่อนที่กรรมการตัดสินให้กำปั้นตัวเก๋าชนะ 4-1 เสียง ทำให้ ฉัตร์ชัยเดชา เข้ารอบ 8 คนสุดท้ายไปเจอกับ ลาซาโร่ อัลบาเรซ จากคิวบา ดีกรีเหรียญทองแดงโอลิมปิกที่ลอนดอน 2012 กับ ริโอ 2016 ซึ่งหากกำปั้นไทยเอาชนะได้อีกไฟต์ จะการันตีเหรียญทองแดงไปคล้องคอก่อนแล้ว

หลังจบไฟต์ กำปั้นไทยวัย 36 ปี เผยว่า "ถือว่าชกได้ตามเป้าที่วางไว้ เขาเป็นมวยไฟต์เตอร์ ชกระยะใกล้ได้ดี เราเลยใช้วิธีคือพยายามชกระยะห่าง และระวังศรีษะไว้แต่ก็มีพลาดจนได้ ถือว่าพอใจกับผลการแข่งขัน"

"ไฟต์ต่อไปชิงเหรียญทองแดง เจอกับนักชกจากคิวบา เป็นมวยซ้าย ชกยาว จังหวะฝีมือก็ดี เราก็ต้องคุยกับสตาฟฟ์เพื่อหาวิธีการชก รวมถึงไปแก้เกมบนเวที น่าจะสนุกครับ"

"โอลิมปิกครั้งนี้ก็ถือว่าดีที่สุดที่เคยชกเพราะที่ผ่านมามาถึงแค่รอบ 16 คน แต่ก็ยังหวังลึกๆ ว่าจะได้เหรียญรางวัลกลับบ้าน บอกเลยว่า 36 ยังแจ๋วครับ" เจ้าสด กล่าวด้วยรอยยิ้ม
#3146


ถูกวิจารณ์เดือดเลยทีเดียว กรณีที่ "นารา เครปกะเทย" อนิวัต ประทุมถิ่น ไปออกรายการแฉ ที่มี "น็อต วรฤทธิ์ เฟื่องอารมย์" เป็นหนึ่งในผู้ดำเนินรายการ ซึ่งที่ผ่านมา น็อตถูกวิจารณ์แรงจนทัวร์ลงเหตุเห็นต่างจาก "เพชร กรุณพล เทียนสุวรรณ" ซึ่งน็อตและเพชรได้เคลียร์ใจกันไปแล้วว่าทั้งคู่เป็นเพื่อนสนิทกัน ถึงความคิดเห็นต่างกัน แต่ก็ยังเป็นเพื่อนเสมอมา ขณะที่นาราก่อนหน้านี้ไปขอเงินสปอนเซอร์เพื่อนำมาทำคอนเทนต์ช่วยเหลือพ่อค้าแม่ค้าในตลาด โดยถามว่า "รักลุง...หรือไม่" ถ้าตอบว่ารักจะเดินหนี แต่ถ้าตอบว่าไม่รักจะช่วยเหมาทั้งหมด โดยก่อนหน้านาราไปร่วมรายการ นารา ได้โพสต์ว่าตนจะไปออกรายการแฉ และอยากเจอ น็อต วรฤทธิ์

ภายหลังนาราออกรายการแฉ ก็ถูกใจชาวทวิตเตอร์ ถึงขั้นแชร์นาทีที่นาราแสดงพฤติกรรมไม่รับของจากน็อต วรฤทธิ์ รวมทั้งกรณีที่เจ้าตัวพูดถึงสาเหตุที่ Call out และดาราเน็ตไอดอลหลายคนออกมา Call out โดยเชื่อว่าเขามีความสำเหนียกและสำนึกว่า ตัวเองอยู่ในจุดนี้ได้อย่างไร ก็เพราะว่า FC FC คือประชาชน วันนี้ประชาชนเดือดร้อนเราจะมองข้ามได้หรือ เมื่อก่อนเรานอนหลับ กินอิ่มได้เพราะสปอนเซอร์จ้างเรา แต่ถ้าเราไม่มี FC เราไม่มีประชาชนคอยซัปพอร์ต สปอนเซอร์ไม่จ้าง ถ้าสปอนเซอร์ไม่จ้างเราก็ไม่มีเงิน ไม่อยู่ได้จนทุกวันนี้ และเชื่อว่า เน็ตไอดอล ดาราที่ออกมา Call out ก็ต้องคิดแบบนี้เช่นกัน ก่อนเจ้าตัวจะหันไปหาน็อตแล้วถามว่า "ใช่ไหมคะพี่น็อต" ซึ่งน็อตก็ตอบรับนิ่งๆ ว่า "ครับ"

โดยพฤติกรรมดังกล่าว แม้จะถูกอกถูกใจชาวทวิตเตี้ยนผู้เห็นต่างกับน็อต วรฤทธิ์ แต่บางส่วนก็บ่นผิดหวังกับพฤติกรรมนารา เพราะมองว่าที่ผ่านมาน็อตก็ไม่ได้ออกตัวแรงขนาดนั้น เหมาะสมหรือไม่ที่จงใจไปหักหน้าน็อตกลางรายการ มองว่าเป็นการกระทำที่เสียมารยาทไปนิดนึง 
#3147



เมื่อเร็วๆนี้บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ได้เปิดโรงงานผลิตหน่วยกักเก็บพลังงาน G-Cell โดยใช้เทคโนโลยี SemiSolid แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (South East Asia) ด้วยกำลังการผลิตเริ่มต้น 30 MWh (เมกะวัตต์ชั่วโมง) ต่อปี ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง

โดยโรงงานแบตเตอรี่แห่งนี้ ถือเป็นแห่งแรกของประเทศไทย และแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียฯ กำลังการผลิต 30 เมกะวัตต์ชั่วโมง(MW) ด้วยทุน 1,100 ล้านบาท และในอนาคตจะขยายขึ้นเป็น 1 กิกะวัตต์ชั่วโมง(GWh) ต่อปี ตามเป้าหมายของ GPSC ที่จะมีกำลังผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน อยู่ที่ 8,000 เมกะวัตต์ 

ภายในปี 2573 ตามนโยบายของบริษัทแม่ คือ ปตท. ซึ่งคาดหวังว่า โรงงานแห่งนี้ จะเป็นการสร้างความเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมไทยมุ่งสู่พลังงานสะอาด และอุตสาหกรรมใหม่ในอนาคต และสนับสนุนการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (net zero) ตามเป้าหมายของรัฐบาล
#3148



นางสาวสภัทร์พร ธรรมาภรณ์พิลาศ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะรองโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ยังคงทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ได้มีหนังสือขอความร่วมมือผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์) เข้าร่วมมาตรการเพื่อช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบให้กับลูกหนี้ตามความเหมาะสมเพื่อร่วมกันฟันฝ่าวิกฤตินี้ไปด้วยกัน

โดย ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2564 ภาพรวมการประกอบธุรกิจสินเชื่อ "พิโกไฟแนนซ์" มีจำนวนผู้ที่ได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อ  "พิโกไฟแนนซ์" และเปิดดำเนินการแล้วสะสมสุทธิ 985 ราย ใน 75 จังหวัด ได้แก่

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (579 ราย)
ภาคกลาง (161 ราย)
ภาคเหนือ (126 ราย)
ภาคตะวันออก (67 ราย)
ภาคใต้ (52 ราย)
ทั้งนี้ นับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2559 ที่ "กระทรวงการคลัง" ได้เปิดให้มีการประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์จนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม 2564 ได้มีการอนุมัติสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ให้กับประชาชนรายย่อยไปแล้วจำนวนทั้งสิ้น 553,974 บัญชี รวมเป็นวงเงิน 12,698.10 ล้านบาท หรือเฉลี่ย 22,921.83 บาทต่อบัญชี ซึ่งมีรายละเอียดสรุปได้ ดังนี้

เผยอดีตอันแสนเลวร้ายของผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดของประเทศไทย...
BKK Delivery
ภารโรงได้เงินถึง 45 ล้าน เพราะเจอสิ่งนี้ในโถส้วม...
BKK Delivery
อื้อฉาว!หญิงวัย 58 มีใบหน้าเหมือนเด็ก นี่คือสิ่งที่เธอทำตอนกลางคืน
Women'sbeauty

(1) สินเชื่อประเภทพิโกไฟแนนซ์ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2564 มีจำนวนผู้ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อประเภทพิโกไฟแนนซ์สะสมสุทธิทั้งสิ้น885 ราย ใน 74 จังหวัดและมีจำนวนผู้เปิดดำเนินการแล้ว 847 รายใน 74 จังหวัดโดยจังหวัดที่มีผู้เปิดดำเนินการมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่

นครราชสีมา (79 ราย)
กรุงเทพมหานคร (67 ราย)
ขอนแก่น (51 ราย)
(2) สินเชื่อประเภทพิโกพลัส ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2564 มีจำนวนผู้ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อประเภทพิโกพลัสสะสมสุทธิทั้งสิ้น 156 รายใน 49 จังหวัดและมีจำนวนผู้เปิดดำเนินการแล้ว 138 ราย ใน 45 จังหวัด โดยจังหวัดที่มีผู้เปิดดำเนินการมากที่สุด3 อันดับแรก ได้แก่


นครราชสีมา (20 ราย)
อุดรธานี (9 ราย)
อุบลราชธานี และกรุงเทพมหานคร (จังหวัดละ 8 ราย)
(3) ภาพรวมสถานะสินเชื่อคงค้าง ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2564 มียอดสินเชื่อคงค้างจำนวนทั้งสิ้น 198,217 บัญชี คิดเป็นจำนวนเงิน 4,233.97 ล้านบาท โดยมีสินเชื่อค้างชำระ 1 - 3 เดือน สะสมรวมทั้งสิ้น 27,432 บัญชี หรือคิดเป็นจำนวนเงินสะสมรวม 627.87 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 14.83 ของยอดสินเชื่อคงค้างสะสม และมีสินเชื่อค้างชำระที่เกินกว่า 3 เดือน (NPL) สะสมรวมจำนวน 32,440 บัญชี หรือคิดเป็นจำนวนเงินสะสมรวม 748.27 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 17.67 ของยอดสินเชื่อคงค้างสะสม


นอกจากนี้ กระทรวงการคลัง ยังคงดำเนินการร่วมกับหน่วยงานภาคีแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ การดำเนินการอย่างจริงจังกับเจ้าหนี้นอกระบบที่ผิดกฎหมายซึ่งนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2559 จนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน 2564 สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ดำเนินการจับกุมผู้ปล่อยเงินกู้นอกระบบที่กระทำผิดกฎหมายจำนวนสะสม 9,596ราย เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2564 จำนวน 244 ราย

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารและรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ที่เปิดดำเนินการได้ทางเว็บไซต์ www.1359.go.th และสามารถร้องเรียนหรือแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับเงินกู้นอกระบบที่ผิดกฎหมายได้โดยตรงที่


• สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สายด่วน1599
• ศูนย์ดำรงธรรม สายด่วน 1567
• ศูนย์รับแจ้งการเงินนอกระบบ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สายด่วน 1359
• ศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม กระทรวงยุติธรรม (ศนธ.ยธ.) โทร.025753344
#3149



ญี่ปุ่นเผชิญการระบาดของโควิดระลอกที่ 5 ทั่วประเทศมีผู้ติดเชื้อรายวัน 7,629 คน เฉพาะกรุงโตเกียว 2,848 คน สูงที่สุดนับตั้งแต่เกิดการระบาดเมื่อกว่า 2 ปีที่แล้ว

ทางการกรุงโตเกียวยืนยันยอดผู้ติดเชื้อโควิดวันอังคารที่ 27 กรกฎาคม 2,848 คน เป็นตัวเลขรายวันสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่วนในจังหวัดอื่นก็มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมาก คือ จังหวัดคานางาวะ 758 คน, จังหวัดโอซากา 741 คน, จังหวัดไซตามะ 593 คนสูงสุดเป็นประวัติการณ์, จังหวัดชิบะ 405 คน, จังหวัดโอกินาวา 354 คนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทั้งประเทศญี่ปุ่นมีผู้ติดเชื้อเมื่อวานนี้ 7,629 คน

นายโยชิฮิเดะ ซูงะ นายกฯญี่ปุ่น ยอมรับว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากญี่ปุ่นเพิ่งผ่านช่วงวันหยุดยาว 4 วันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และกำลังเข้าสู่ช่วงวันหยุดฤดูร้อนและเทศกาล "โอบง" ที่ประชาชนจะเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อสักการะบรรพบุรุษ

ผู้นำญี่ปุ่นเรียกร้องให้ประชาชนชมการแข่งขัน "โตเกียวโอลิมปิก" ทางโทรทัศน์อยู่ที่บ้าน และงดออกจากบ้านถ้าไม่จำเป็น

การระบาดระลอกใหม่นี้สร้างความกังวลมากขึ้น เมื่อมีผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตาเพิ่มมากขึ้นคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 30 ของผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งหมด แต่ทว่าจำนวนผู้ป่วยหนักและผู้เสียชีวิตยังค่อนข้างน้อย เมื่อวานนี้ (27 ก.ค.) มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 12 ราย และมีผู้ป่วยหนัก 514 ราย

คณะแพทย์เตือนว่า เชื้อสายพันธุ์เดลตาติดต่อได้รวดเร็ว และลุกลามสู่ปอดได้เร็ว ทำให้ผู้ติดเชื้อกลุ่มคนหนุ่มสาวก็อาจมีอาการหนักจนต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและใช้เครื่องช่วยหายใจ คณะแพทย์เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งเพิ่มจำนวนเตียงเพื่อรองรับผู้ป่วย และสร้างระบบติดตามผู้ป่วยที่รักษาตัวที่บ้าน

หนุ่มสาวยังไม่ได้วัคซีน ติดเชื้อเพียบ

การระบาดระลอกนี้ผู้ติดเชื้อเกือบทั้งหมดเป็นกลุ่มคนหนุ่มสาววัย 20-40 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ส่วนผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไปพบผู้ติดเชื้อใหม่เพียง 2% ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด

ญี่ปุ่นเร่งการฉีดวัคซีนได้มากกว่าวันละ 1,600,000 เข็ม แต่ขณะนี้การจัดสรรวัคซีนเผชิญปัญหาหยุดชะงัก ทางการท้องถิ่นหลายแห่งระงับการฉีดวัคซีนเข็มแรก โดยฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ให้กับผู้สูงอายุเท่านั้น ขณะนี้ผู้สูงอายุในญี่ปุ่นได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วราว 68.2% ส่วนประชากรทั้งหมดได้รับวัคซีนครบแล้วราว 25.5% .

ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ในญี่ปุ่นได้รับวัคซีนแล้ว แต่กลุ่มหนุ่มสาวยังไม่ได้วัคซีน ภาพรวมทั้งประเทศมีผู้ฉีดเข็มแรก 36.9% ฉีดครบ 2 เข็มแล้ว 25.5%
ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ในญี่ปุ่นได้รับวัคซีนแล้ว แต่กลุ่มหนุ่มสาวยังไม่ได้วัคซีน ภาพรวมทั้งประเทศมีผู้ฉีดเข็มแรก 36.9% ฉีดครบ 2 เข็มแล้ว 25.5%
#3150



รายงานวิจัยล่าสุดของธนาคารโลกคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของเมียนมาจะหดตัวประมาณ 18% ในปีนี้เพราะผลพวงของปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองอันเนื่องมาจากการทำรัฐประหารยึดอำนาจของกองทัพเมียนมาเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา และการที่จำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19รายใหม่ในระลอกที่3ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ตัวเลขประมาณการทางเศรษฐกิจที่บรรจุในรายงาน"สังเกตุการณ์เศรษฐกิจเมียนมา"และถูกนำออกเผยแพร่วานนี้(26ก.ค.)ร่วงลงเกือบ2เท่าเหลือ 10% ในเดือนมี.ค.และบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจเมียนมาจะแย่ลงยิ่งกว่านี้ในอีกสองสามเดือนข้างหน้า

ส่วนการคาดการณ์จากที่อื่นๆ ที่รวมถึงการคาดการณ์ในเดือนมิ.ย.โดยฟิทช์ โซลูชันส์ หน่วยงานในเครือกลุ่มบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำของโลก ประเมินว่าเศรษฐกิจของเมียนมาจะหดตัว 20% หรือมากกว่านั้นในปีงบประมาณนับจนถึงวันที่ 30 ก.ย.โดยอ้างถึงภาวะช็อคทางเศรษฐกิจเมื่อไม่นานมานี้

ธนาคารโลก ยอมรับว่าการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19สร้างผลกระทบเพิ่มเติมอย่างมีนัยสำคัญแก่เศรษฐกิจของเมียนมาทั้งยังคุกคามชีวิตและการทำมาหากินที่อาจจะกินเวลาไปจนถึงปี 2565

ทางการเมียนมารายงานว่า นับจนถึงวันที่ 24 ก.ค.ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศมีจำนวนเกือบ 260,000 ราย และยอดผู้เสียชีวิต 6,460 ราย ส่วนยอดผู้ติดเชื้อรายวันเฉลี่ยวันละประมาณ 6,000 ราย แม้ว่านี่อาจเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าความเป็นจริง เนื่องจากข้อจำกัดในการตรวจหาเชื้อและการหลั่งไหลของข้อมูล

อย่างไรก็ตาม รายงานวิจัยเศรษฐกิจของธนาคารโลกฉบับนี้มีมุมมองเกี่ยวกับเศรษฐกิจเมียนมาแย่ลง เพราะเมื่อวันที่ 26 มี.ค.ธนาคารโลก ได้ออกรายงานคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจเมียนมาจะหดตัวลง 10% ในปีนี้ โดยได้รับผลกระทบจากการชุมนุมประท้วงทั่วประเทศ, การผละงาน และการที่เมียนมาถูกนานาประเทศคว่ำบาตร หลังจากกองทัพเมียนมาได้ก่อรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลเมื่อวันที่ 1 ก.พ. ซึ่งตัวเลขคาดการณ์นี้ สวนทางกับที่ธนาคารโลกคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า เศรษฐกิจเมียนมาจะขยายตัว 5.9% ในปีนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวเลขคาดการณ์แข็งแกร่งที่สุดในภูมิภาคเอเชีย

ธนาคารโลก ระบุว่า เมียนมาได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากเหตุการณ์ประท้วง, การผละงาน และการใช้มาตรการทางทหาร ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้การเคลื่อนไหวสัญจรภายในประเทศลดน้อยลง และทำให้การบริการในด้านต่างๆ ต้องหยุดชะงัก ซึ่งรวมถึงการบริการในภาคธนาคาร, โลจิสติกส์ และอินเทอร์เน็ต

รายงานของธนาคารโลกยังระบุด้วยว่า กลุ่มผู้ประท้วงในเมียนมาพุ่งเป้าโจมตีไปที่เศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงอารยะขัดขืนเพื่อต่อต้านการก่อรัฐประหารของกองทัพเมียนมา ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อระบบธนาคารของเมียนมา และยังทำให้นักลงทุนต่างชาติถอนการลงทุนออกจากประเทศไปจนกว่าจะมีการจัดตั้งรัฐบาลตามระบอบประชาธิปไตย

นอกจากนี้ การที่รัฐบาลทหารเมียนมาชัตดาวน์ระบบอินเทอร์เน็ตเพื่อสกัดการประท้วงไม่ให้ลุกลามนั้น ยังเป็นอีกปัจจัยที่สร้างความเสียหายต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจของเมียนมาด้วย

"ขณะที่การตรวจหาเชื้อโควิด-19ในเมียนมายังเป็นไปอย่างจำกัด จำนวนผู้มีผลตรวจเป็นบวกก็สูงมาก บ่อยครั้งพบว่ามีอัตรามากกว่า 33% บ่งชี้ว่ามีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19ในวงกว้างบวกกับผลกระทบจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และพฤติกรรมเฝ้าระวังของผู้คนทำให้ความท้าทายทางด้านเศรษฐกิจของเมียนมาเพิ่มขึ้น" รายงานของธนาคารโลก ระบุ

"คิม อลัน เอ็ดวาร์ดส์" นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสประจำเมียนมาของธนาคารโลก เตือนว่า เศรษฐกิจของเมียนมาจะหดตัวมากกว่านี้ในช่วงปลายปีนี้เพราะการระบาดของโรคโควิด-19

"ขณะที่มีสัญญาณเบื้องต้นที่บ่งชี้ถึงความมีเสถียรภาพในบางส่วนในช่วงเดือนพ.ค.และมิ.ย.ที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้นและปัญหาการดิสรัปด้านโลจิสติกก็บรรเทาลง แต่หากมองภาพรวมกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ยังถือว่าอ่อนแออยู่มาก และมีแนวโน้มว่าเศรษฐกิจเมียนมาจะหดตัวตั้งแต่เดือนก.ค.เป็นต้นไป "นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสประจำเมียนมาของธนาคารโลก กล่าว


ธนาคารโลกคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อของเมียนมาจะอยู่ที่ 6% ในปี 2564 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 5.8% ในปี 2563 และมีแนวโน้มว่าอัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์หลายคนเตือนว่า อัตราเงินเฟ้อในเมียนมาอาจเพิ่มขึ้นเป็นตัวเลขสองหลักในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ หลังจากเมื่อไม่นานมานี้ มีสัญญาณบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นเมื่อทางการพิมพ์ธนบัตรใหม่ๆออกมาสู่ระบบบเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ รายงานของธนาคารโลกยังอ้างถึงราคาเชื้อเพลิงในเมียนมาที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วโดยเพิ่มขึ้น 50% นับตั้งแต่ปลายเดือนม.ค.การที่เงินจัตอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็ว โดยอ่อนค่าลงไปประมาณ 23% เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐตั้งแต่วันที่ 1ก.พ.-กลางเดือนก.ค. ประกอบกับภาวะขาดแคลนอาหารในช่วงที่คนทั้งประเทศวิตกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีปัญหาความขัดแย้ง

ขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยิ่งซ้ำเติมปัญหาต่างๆที่มีอยู่แล้วให้ย่ำแย่ลงไปอีก จนส่งผลให้ความต้องการบริโภคในประเทศลดลงเพราะคนตกงานจากมาตรการล็อกดาวน์และตัวแปรอื่นๆที่จะหนุนอัตราเงินเฟ้อในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ โดยเฉพาะการที่ราคาสินค้าประเภทอาหารปรับตัวเพิ่มขึ้น
#3151



วันที่ 26 ก.ค. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า กว่า 16 ปี ที่ประเทศไทยมุ่งมั่น ผลักดันพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจาน ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2548 และเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการมรดกโลก ถึง 3 ครั้ง ในปี พ.ศ. 2558 พ.ศ. 2559 และ พ.ศ. 2562 จนเข้าสู่การประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยสามัญครั้งที่ 44 ในปี พ.ศ. 2564 และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ด้วยเกณฑ์ข้อที่ 10 ซึ่งนับเป็นความสำเร็จในการดำเนินการอนุรักษ์พื้นที่ถิ่นที่อยู่อาศัยที่มีความสำคัญสูงสุดสำหรับการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพในถิ่นกำเนิด รวมไปถึงการเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของชนิดพันธุ์พืช หรือสัตว์ที่มีคุณค่าโดดเด่นเชิงวิทยาศาสตร์ หรือ เชิงอนุรักษ์ระดับโลก

นายวราวุธ กล่าวต่อว่าพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจานนั้น เป็นแหล่งมรดกโลกแห่งที่ 6 ของประเทศไทย และเป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติ แห่งที่ 3 ของไทย นับตั้งแต่การขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ - ห้วยขาแข้ง ในปี พ.ศ. 2534 และ กลุ่มป่าดงพญาเย็น - เขาใหญ่ ในปี พ.ศ. 2548 ซึ่งพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจานได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เนื่องจากเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของชนิดพันธุ์พืช และพันธุ์สัตว์ ที่ใกล้สูญพันธุ์ และมีคุณค่าโดดเด่นระดับโลก รวมไปถึงเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารที่สำคัญของแม่น้ำเพชรบุรี แม่น้ำปราณบุรี และแม่น้ำภาชี เป็นป่าผืนใหญ่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีเนื้อที่ประมาณ 2.5 ล้านไร่ (4,089 ตารางกิโลเมตร) มีความยาวตั้งแต่เหนือสุดถึงใต้สุดของพื้นที่ มากกว่า 200 กิโลเมตร ประเทศไทยในฐานะเจ้าของแหล่งจะต้องปกป้องรักษาแหล่งที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกให้คงคุณค่าโดดเด่นอันเป็นสากลไว้ให้ลูกหลานต่อไป ซึ่งการที่พื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจานได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกนี้ นอกจากเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีต่อประเทศ และเป็นความภาคภูมิใจของคนในประเทศแล้ว ยังทำให้คนในประเทศเกิดการตระหนัก รู้สึกเป็นเจ้าของและหวงแหนทรัพยากรที่เรามีอยู่ด้วย

"ทั้งนี้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมที่จะดำเนินการร่วมกับภาคส่วนต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนการสร้างสมดุลในการใช้ประโยชน์จากป่าอย่างยั่งยืน ยกระดับการบริหารจัดการพื้นที่ให้เป็นมาตรฐานสากลมากขึ้น รวมทั้ง ให้ราษฎรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจานมีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยสอดคล้องกับกฎหมาย นโยบาย มติ และระเบียบต่างๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่า ไทยจะรักษาแหล่งมรดกโลกพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจานให้คงไว้ และสามารถส่งต่อไปยังอนุชนรุ่นหลังสืบไป" นายวราวุธ กล่าว

ด้าน นายพิชัย วัชรวงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (สบอ.3) สาขาเพชรบุรี กล่าวทราบภายหลังป่าแก่งกระจานได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของมวลมนุษยชาติว่า รู้สึกยินดีและดีใจที่ยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนให้แก่งกระจานเป็นมรดกโลกของประเทศไทย แห่งที่ 3 ของประเทศไทยในวันนี้ ขอบคุณคนไทยทุกภาคส่วน เจ้าหน้าที่ทุกๆ ท่าน และผู้บริหารที่ต่อสู้จนได้ความสำเร็จในวันนี้ วันนี้เจ้าหน้าที่ทุกคนดีใจและภูมิใจ พร้อมเดินหน้าเพื่อดูแลปกปักษ์รักษาผืนป่าแก่งกระจานให้เป็นมรดกสู่ลูกหลานตลอดไป.
#3152
การเงินติดขัด การงานสะดุด ธุรกิจมีปัญหา ความรักไม่สมดังใจ สุขภาพทรุดโทรม โชคลาภไม่มี ปรึกษาเราสิค่ะ


รับดูดวงผ่านไพ่ยิปซี ออราเคิล โดยใช้จิตสัมผัส และรับสอนการดูดวงผ่านศาสตร์ไพ่ยิปซี ออราเคิล
รับประกันความแม่นยำ และชัดเจนในทุกคำถาม พยากรณ์ได้ทุกเรื่อง เช่น เช็คดวงรายวัน การเงิน การงาน ธุรกิจ ความรัก เนื้อคู่ สุขภาพ โชคลาภ อีกทั้งมีแนวทางแก้ไขปัญหานั้น ๆ ได้ โดยใช้หลักการทางพระพุทธศาสนาสามารถดูต่อเนื่องได้วันต่อวัน ไม่ต้องรอเป็นเดือน รับพยากรณ์ทั้งทางโทรศัพท์ และพยากรณ์แบบส่วนตัว(พื้นที่ จังหวัดมหาสารคามและจังหวัดใกล้เคียง)
ค่าครู 299 บาท (ปกติ 599 บาท)

สนใจติดต่อ อ.อนัตตา เทพพยากรณ์
โทร. 0914441569
Line ID : 0944824293

ข้อมูลเพิ่มเติม =AT2aYc9PaeU2TIKg1MwOOnVXBr_9O1l7vOLmz0s4BDMSB1YITXRuefb3qDSOYxydIpvZE4RkOEwmEuXMWkjUeb-v_tPirUQmWbahLiNk_ISJe-JwJqcVCzqJeMmiHIr32r_LLPNlkhtL4PPnmLMWWH2DS9Kh_o_HW_xX5S9ty3kqcbLw58fpn7ouNGaMWYvX2XGeuvzh]http://porntaywa99.lnwshop.com/p/208
แฟนเพจ =AZUK5w_cAH-0MmZpnEaDXILy46nGgqLSfcotjN3tEDH-xv7qsrN93K1QBKcH1c3tAfWUfpJpUZwgQlD4gaAsW2HqhjMoCCoBq53cjHg9MRGbXaFCxn-9n6HSCNZ7BOWEqjOrmH62FJ_n7tp11H0lXEuZKDnwerb0mJrC5tJ03bKQQqlEuTxQB8WNdSYmZ4dr92g&__tn__=kK-R]https://web.facebook.com/porntaywa
#3153
น้ำมันว่านสาวหลง ใส่ตะกรุดนะมหานิยมให้ทุกขวด  ขวดละ 299 บาท
เป็นว่านสาวหลงที่ทรงคุณค่าในทางเสน่ห์เมตตามหานิยมอย่างสูงสุด ถือกันว่าเป็นสุดยอดของว่านทางเสน่ห์มหานิยม ที่ไม่สามารถหาว่านชนิดอื่นใดมาเทียบเคียงได้อีกแล้ว ถ้าผู้ใดมีว่านนี้ปลูกไว้ในบ้านเรือนก็จะเป็นสิริมงคลเป็นยอดเสน่ห์แก่บ้านเรือนนั้นๆ ด้วย ท่านให้เอารากของว่านนี้มาฝนหรือบดผสมกับสีผึ้ง หรือแช่น้ำมันจันทน์ หรือเพียงแต่เอารากของว่านนี้ถือติดตัวไป ผู้คนทั้งปวงก็จะพากันงวยงงหลงรักใคร่ในผู้ที่มีว่านหรือทาน้ำมันหรือสีผึ้งที่เข้าว่านจนหมดสิ้นคาถา กำกับมะอะอุ พุทธะสังมิ จิเรรุนิ นะชาลิติ ปิยังมะมะ(ท่องเจ็ดจบ แล้วอธิษฐาน)ใช้เจิมตามซอกคอ ตามตัว ทาที่คิ้ว เจิมที่หน้าผาก พกติดตัว

  ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สั่งซื้อบูชา ทักแชทได้เลย
หรือติดต่อได้ที่ โทร. 0846623662
id line : teerapat999

ลาซาด้า   
https://www.lazada.co.th/products/-i1867990020-s5770410635.html?search=store?spm=a2o4m.10453683.0.0.10b96d16q6OJEJ&search=store&mp=3
#3154



เมื่อที่ 23 กรกฎาคม 2564 ที่บริเวณวัดหนองพังนาคตำบลเสือโฮกอำเภอเมืองจังหวัดชัยนาทคณะสงฆ์จังหวัดชัยนาทร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ปลูกพืชสมุนไพรฟ้าทะลายโจรกระชายขาวรวมไปถึงพืชสมุนไพรอื่นๆที่มีสรรพคุณเป็นยาเพื่อนำมาผลิตเป็นยาต้านโควิด-19และแจกจ่ายให้กับประชาชนที่สนใจใช้ยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจรเป็นยาทางเลือกในการรักษาโรคติดเชื้อโควิด-19อีกทั้งเป็นการส่งเสริมอาชีพให้ชาวบ้านมีรายได้จุนเจือครอบครัว
          
พระสุธีวราภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดชัยนาท เจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุวรวิหาร เปิดเผยว่า คณะสงฆ์มีโครงการปลูกสมุนไพรฟ้าทลายโจรเป็นหลักเพื่อนำไปช่วยเหลือในยามบ้านเมืองวิกฤตจากภัยโควิด-19ในตอนนี้เป็นการส่งเสริมอาชีพให้ชาวบ้านด้วยในวัดที่พอมีที่เหลือจะให้ปลูกกระชายขิงและพืชสมุนไพรให้ชาวบ้านช่วยกันดูแลแล้วเก็บไปขายโดยแบ่งกับทางวัดเป็นค่าน้ำค่าไฟบ้างที่เหลือให้เป็นรายได้ญาติโยมนำไปจุนเจือครอบครัว
          
ขณะนี้มีวัดในจังหวัดชัยนาทที่เข้าร่วมโครงการประมาณ20วัดแต่ละวัดมีพื้นที่ปลูกไม่ต่ำกว่า3ไร่โดยเฉพาะที่วัดหนองพังนาคมีพื้นที่กว่า10ไร่จะทำการปลูกให้เต็มพื้นที่คาดว่าโครงการนี้จะช่วยชาวบ้านได้อย่างยั่งยืนเป็นการสงเคราะห์อนุเคราะห์ญาติโยมที่ไม่มีอาชีพขาดรายได้จะทำให้คนเข้าวัดเป็นการสนองพระดำริของสมเด็จพระสังฆราชคือช่วยส่งเคราะห์อนุเคราะห์ชาวบ้านอีกทางหนึ่ง

ขอบคุณภาพจากเพจ น.ส.พ. ธรรมนำโลก
#3155



ซีพี ออลล์ เดินหน้าภารกิจ "เซเว่น อีเลฟเว่นกองหนุน SME" ต่อเนื่อง ร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงเทพ และธนาคารกสิกรไทย ผลักดัน SME คู่ค้าของซีพี ออลล์เข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ ตามมาตรการของภาครัฐ เพื่อก้าวผ่านวิกฤติเศรษฐกิจจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19   
 
จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมในวงกว้าง บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น และเซเว่น เดลิเวอรี่ ได้เล็งเห็นถึงความยากลำบากหรืออุปสรรคที่เกิดขึ้นกับคู่ค้าจึงได้ขับเคลื่อนนโยบายในการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการ SME มาอย่างต่อเนื่อง และทันทีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย และกระทรวงการคลัง ได้ประกาศให้ธนาคารต่างๆ ออกมาตรการในการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME  เพื่อให้สามารถฝ่าวิกฤตในครั้งนี้ไปได้ ทีมซีพี ออลล์ จึงได้ร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงเทพ และธนาคารกสิกรไทย เป็น​สื่อกลางสะพานเชื่อมให้ผู้ประกอบการ SME ที่เป็นคู่ค้าของบริษัท ได้เข้าถึงแหล่งเงินทุนที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ ในโครงการสินเชื่อฟื้นฟูเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME ซึ่งจะช่วยเสริมสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ และลดผลกระทบจากการจ้างงานของผู้ประกอบการรายย่อย ช่วยประคับประคองให้ธุรกิจ SME สามารถก้าวผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปได้  
 
ทั้งนี้ผู้ประกอบการ SME สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคารกรุงเทพ โทร 02-230-9663, ธนาคารกสิกรไทย โทร 02-888-8822 , ธนาคารไทยพาณิชย์ โทร 02-544-4577  (สำหรับผู้ประกอบการยอดขาย 75-500 ล้านบาทต่อปี) และ 02-795-7677  (สำหรับผู้ประกอบการยอดขายไม่เกิน 75 ล้านบาทต่อปี)
#3156


"อีอีซี"เปิดเวทีเสวนาระดมความคิดจากกูรูด้านเศรษฐกิจระดับตำนานชั้นแนวหน้าไทย และบิ๊กเอกชน ร่วมถอดแนวคิด "อีสเทิร์นซีบอร์ด"ต่อยอดสู่ความสำเร็จ "อีอีซี"กับการเป็นเขตพัฒนาพิเศษระดับโลก หวังดันการลงทุนปีละ 6 แสนล้านบาท หนุนไทยเป็นประเทศพัฒนาแล้วในปี 2572

เมื่อเร็วๆนี้สำนักงำนคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) จัดเสวนาวิชาการหัวข้อ "จาก ESB สู่ EEC กับ การเป็นเขตพัฒนาพิเศษ ระดับโลก" ในรูปแบบออนไลน์ (VDO conference) นำโดย ดร.เสนาะ อูนากูล ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ สกพอ. ดร.อาณัติ อาภาภิรม ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ สกพอ. ดร. ณรงค์ชัย อัครเศรณี ประธามูลนิธิเสนาะอูนากูล และ ดร.คณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)

โดยมีกลุ่มผู้บริหารระดับสูง จากภาคเอกชน นักธุรกิจชั้นนำใน เมืองไทย เช่น นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บมจ. บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ นายแพทย์ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ประธาน คณะผู้บริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ BDMS นายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ. อมตะ คอร์ปอเรชัน นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการ บมจ. ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น และผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมรับฟังการเสวนามากกว่า 70 คน

การจัดเสวนา ฯ ครั้งนี้ ฉายภาพแนวคิดของการพัฒนาโครงการพัฒนาชายฝั่งทะเลตะวันออก หรือ "อีสเทิร์นซีบอร์ด" (ESB) และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 5 (พ.ศ.2525 – 2529) ซึ่งเป็นช่วงการพัฒนาประเทศที่สำคัญของไทย โดยผ่านพ้นวิกฤตเศรษฐกิจอย่างรุนแรงในสมัยนั้น และได้ผลักดันให้เกิดการลงทุนครั้งใหญ่ ช่วยให้เศรษฐกิจไทยในช่วงกว่า 30 ปีก่อนเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยมีความต่อเนื่องมายังแผนพัฒนาฯ
ฉบับที่ 6 และฉบับที่ 7 ที่ช่วยให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (GDP) เติบโตเฉลี่ยสูงถึง 9.3%

ซึ่งแนวคิดจากแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 5 ดังกล่าว จะเป็นต้นแบบสำคัญเพื่อเตรียมการจัดทำแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 ซึ่งพบผลกระทบจากสถานการณ์โควิดและเกิดวิกฤตเศรษฐกิจใกล้เคียงกับในอดีต

นอกจากนี้ การพัฒนาพื้นที่ อีอีซี ในปัจจุบัน ยังได้นำแนวคิด และต่อยอดเพิ่มสิ่งที่ได้รับจากอีสเทิร์นซีบอร์ด ที่สำคัญ ๆ เช่น แนวคิดให้เกิดการพัฒนาต่อเนื่อง ด้วยการมี พ.ร.บ. และสำนักงานอีอีซี การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ สนามบินอู่ตะเภา ขยายท่าเรือมาบตาพุด และแหลมฉบัง รถไฟความเร็วสูง ลดการพึ่งพางบประมาณรัฐและเงินกู้ ด้วยสัญญา PPP ที่โปร่งใส รัดกุม และรัฐได้ประโยชน์สูงสุด การส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงที่ไม่เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น 5G ระบบโซลาร์เซลล์ ยานยนต์ไฟฟ้า และการสร้างงานให้เยาวชนในพื้นที่
มีรายได้ดี รวมทั้ง ทำงานกับท้องถิ่น กลุ่มสตรี เยาวชน เพื่อให้โครงการอีอีซีอยู่คู่กับชุมชนได้อย่างยั่งยืน


พร้อมกันนี้ อีอีซีจะปรับแผนทำงานให้หนักเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว เพื่อชดเชยส่วนที่หายไปจากโควิด ทั้งนี้ จากการประมาณการ พบว่าประเทศไทยจำเป็นต้องเพิ่มการลงทุนอีกปีละ 6 แสนล้านบาท เพื่อดึงเศรษฐกิจให้ขยายตัว 4.5 – 5% ให้ไทยก้าวสู่ประเทศที่พัฒนาได้ในปี 2572

สำหรับการเสวนาดังกล่าว ภาคเอกชน และนักธุรกิจชั้นนำ ได้ร่วมแสดงความคิดเห็นตรงกันว่า มีความจำเป็นต้องร่วมขับเคลื่อนอีอีซี ให้เกิดการลงทุนต่อเนื่อง ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ ๆ และการลงทุนในอุตสาหกรรมนวัตกรรมขั้นสูง ที่ อีอีซี พร้อมดึงดูดนักลงทุนทั่วโลกให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ช่วยให้เศรษฐกิจไทยเติบโตในระยะยาว


ทั้งนี้การสรุปข้อมูล และการถอดบทเรียนที่ได้รับจากการเสวนาฯ ในครั้งนี้ สกพอ. จะได้นำข้อมูล ชุดความรู้ที่ได้รับประกอบการจัดตั้ง ศูนย์การเรียนรู้ พิพิธภัณฑ์เขตพัฒนาพิเศษชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกประเทศไทย (EEC Learning Center /EEC Museum) และมูลนิธิเพื่อการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก

ซึ่งจะเป็นศูนย์การเรียนรู้สำคัญ ของการพัฒนาพื้นที่ภาคตะวันออก และพร้อมจะเป็นแหล่งเรียนรู้ของนักลงทุนรุ่นใหม่ และผู้ที่สนใจได้ศึกษาถึงความเป็นมาของ อีสเทิร์นซีบอร์ด และการพัฒนาอีอีซี ที่จะเป็นต้นแบบของการพัฒนาประเทศ ต่อไป
#3157


    สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ "อย." ให้ประชาชน ซื้อ "ชุดตรวจโควิด-19" ได้เองแล้ว เช็ครายละเอียดของ Antigen Test Kits ที่วางขายทั้งหมดได้ ที่นี่

    ศบค. รายงานถึงความคืบหน้าในการอนุญาตให้ประชาชนสามารถซื้อหาชุดตรวจโควิด-19 หรือ Antigen Test Kits เพื่อใช้ในการตรวจคัดกรองเชื้อโควิด-19 เบื้องต้น เองได้ ในขณะนี้นั้น ผู้ที่สนใจ หรือต้องการใช้ชุดตรวจโควิด-19 สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. อนุญาตให้ ทุกคนสามารถซื้อชุดตรวจเองได้แล้ว โดย แบ่งเป็น 2 จุดใหญ่ๆ คือ 
    [list=1]
    • สถานพยาบาล เช่น โรงพยาบาล
    • สถานขายยาแผนปัจจุบันที่มีเภสัชกรประจำ 
    ยิ่งไปกว่านั้น ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. เองยังได้รวมรายละเอียดเกี่ยวกับชุดตรวจโควิด-19 หรือ Antigen Test Kits ที่ปลอดภัย และได้มาตรฐานตามข้อกำหนด โดยผู้ที่สนใจ หรือต้องการทราบรายละเอียดสามารถเข้าไปตรวจสอบรายชื่อของชุดตรวจได้ทางช่องทางออนไลน์ ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ คลิกที่นี่ 


    โดยรายละเอียดของชุดตรวจโควิด-19 และน้ำยา Antigen Test Kits ที่ได้รับการอนุญาตผลิต และนำเข้าจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา นั้น แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลักด้วยกัน คือ 
    #3158


     
    การตรวจเลือด เป็นวิธีหนึ่งสำหรับเพื่อการตรวจสอบและก็บ่งชี้ถึงการทำงานของอวัยวะต่างๆภายในร่างกาย ซึ่งจะเป็นตัวช่วยให้หมอสามารถวินิจฉัยโรคแล้วก็สภาวะผิดปกติต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นด้านในตัวเราได้ง่ายขึ้น เหตุเพราะเลือดเป็นตัวกลางของการลำเลียงสารต่างๆทั้งน้ำ อาหาร เชื้อโรค เชื้อไวรัส รวมทั้งสิ่งแปลกปลอมอื่นๆไปทั่วร่างกายเรา การตรวจเลือดจึงเป็นแนวทางหนึ่งซึ่งสามารถหาสิ่งแปลกปลอมภายในร่างกายเราได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว อย่างไรก็ดีการตรวจเลือดเพียงอย่างเดียวไม่สามารถที่จะฟันธงถึงความผิดปกติและก็โรคที่เป็นได้ เพราะว่ายังมีปัจจัยอีกหลายประเภทที่ส่งผลให้ผลตรวจเลือดอยู่ในเกณฑ์ผิดปกติ ดังเช่นว่า อาหารที่ทาน ระดู การออกกำลังกาย ปริมาณแอลกอฮอล์ที่ดื่ม หรือการใช้ยาบางชนิด ฉะนั้นจึงต้องควรมีการซักประวัติพร้อมกันกับการตรวจสอบเพิ่มเติมอีก เป็นต้นว่า ตรวจฉี่แล้วก็อื่นๆตามดุลยพินิจของแพทย์ และเนื่องด้วยสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญรวมทั้งการที่ในสมัยปัจจุบันการแพทย์ต่างเจริญก้าวหน้า องค์ประกอบส่งเสริมสอดคล้องกันขนาดนี้ เราก็ควรที่จะใส่ใจตนเองด้วยการหมั่นดูแลร่างกายอยู่ตลอด การกินอาหารที่ดีรวมทั้งการออกกำลังกายจะทำให้พวกเราสามารถมีร่างกายแข็งแรงได้ แม้กระนั้นในร่างกายเราก็อาจมีความผิดปกติ โรคแฝง หรือโรคแทรกซ้อนต่างๆที่ไม่แสดงอาการ ซึ่งบางทีอาจกระทบต่อชีวิตประจำวันทั้งต่อตัวเองและก็ผู้อื่น ทั้งในปัจจุบันรวมทั้งในอนาคต การตรวจเลือดและก็การตรวจร่างกายรายปีก็จะช่วยให้พวกเราสามารถรู้รวมทั้งคิดหาวิธีป้องกัน แก้ไข รักษาหรือแนวทางที่พวกเราจะอยู่ร่วมกับความผิดปกตินั้นๆได้
     



    การตรวจผ่านแล็บก็นับว่าเป็นอีกช่องทางสำหรับคนทั่วๆไปอย่างพวกเราที่ไม่ต้องการไปแออัดในโรงพยาบาลนานนัก ลดความแออัดในพื้นที่โรงพยาบาลที่มีล้นหลาม การตรวจผ่านแล็บนั้นพวกเราจะรู้ผลไวกว่า ไม่จำเป็นต้องรอใบสั่งจากหมอ แค่พวกเราโทรศัพท์หาแล็บเพื่อปรึกษาการรับบริการและก็แนวทางเตรียมความพร้อม ต่อจากนั้นก็สามารถเข้าไปตรวจเลือดได้เลย สะดวกอย่างยิ่งสำหรับคนไทยในปัจจุบันที่มีพฤติกรรมเสี่ยงเกี่ยวกับการได้รับเชื้อ HIV จำนวนมาก จากการร่วมเพศโดยไม่ใส่ถุงยางอนามัยหรือไม่ป้องกัน ในอีกกรณีหนึ่งก็มีคนบางกรุ๊ปที่เข้ารับการตรวจเพื่อดูผลเองเฉยๆโดยไม่มีความรู้ความชำนาญเพียงพอจึงไม่เข้าใจว่าผลตรวจเลือดแต่ละจุดแต่ละค่าหมายถึงอะไร รวมทั้งบางทีอาจส่งผลให้ไม่ได้ป้องกันอย่างถูกต้อง โดยเหตุนี้การตรวจเลือดด้วยตนเองก่อนไปโรงพยาบาล ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการความรวดเร็วไม่อยากอยู่แออัดในโรงพยาบาล แต่ก็ยังอยากได้รับคำแนะนำแล้วก็วินิจฉัยจากหมอ 





    สำหรับคนเหนือโดยเฉพาะคนพิษณุโลก เรามีที่ตรวจเลือดพิษณุโลกแนะนำ มันก็คือ พิษณุโลกเซ็นทรัลแล็บ สถานปฏิบัติการรวมทั้งตรวจวิเคราะห์ เน้นให้บริการด้านการตรวจเลือด รวมทั้งตรวจสุขภาพ ซึ่งมีอุปกรณ์ตรวจวิเคราะห์ที่นำสมัย และก็น้ำยาที่ใช้ตรวจจากประเทศอเมริกา ดำเนินงานโดยนักเทคนิคการแพทย์ผู้มีความชำนาญที่สามารถให้คำปรึกษาทางการตรวจแก่ผู้รับบริการ และก็ที่สำคัญที่สุดการควบคุมคุณภาพทางห้องปฏิบัติการรวมทั้งการทำความสะอาดฆ่าเชื้อพื้นที่ที่ให้บริการตามมาตรฐาน ยึดหลักความปลอดภัยและความลับของผู้ป่วยเป็นสำคัญ ทำให้ผู้รับบริการเชื่อมั่นได้ว่าจะได้รับผลการตรวจที่ถูกต้อง แม่นยำ แล้วก็มีความปลอดภัยในการรับบริการ ถ้าสนใจอยากเข้ารับบริการกับทางพิษณุโลกเซ็นทรัลแล็บ สามารถโทรปรึกษาการให้บริการ-การเตรียมตัวเพื่อตรวจได้ในเวลาทำการเปิดบริการ : วันจันทร์-วันศุกร์ 07.00 - 20.00 น.แล้วก็วันเสาร์-วันอาทิตย์ 07.00 - 17.00 น.โทรศัพท์ 05525958
    #3159


    การสัมมนา "Restart เศรษฐกิจไทยฝ่าภัยโควิด" จัดโดย การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และ กรุงเทพธุรกิจ เมื่อวันที่ 15 ก.ค.2564 ผ่านระบบซูมได้ระดมความเห็นภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อกำหนดแนวทางการฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบจากโควิด-19

    ส.อ.ท.แนะรีบตรวจเชื้อแยกผู้ป่วย 

    นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ระบุว่า การรีสตาร์ทประเทศต้องพูดได้ว่าเครื่องยนต์ของเราหลวมหมดแล้ว การติดเครื่องอีกครั้งคงทำได้ลำบาก เพราะอุตสาหกรรมค้าปลีกและการท่องเที่ยวยังไม่ดี แม้ว่าการส่งออกไปได้

    ดังนั้น ส.อ.ท. มองว่า การมีเครื่องตรวจเชื้อโควิดแบบ "แรบิดแอนติเจน เทสต์" ก็เป็นตัวช่วยที่ดี และรัฐจะต้องรีบจัดการในเรื่องนี้ ซึ่ง ส.อ.ท.เองก็เตรียมสั่งซื้อเพื่อนำมาใช้ในกลุ่มภาคอุตสาหกรรมได้มีโอกาสตรวจเชื้อ และจะส่งมอบให้กับโรงพยาบาลด้วย เพราะหากพบว่ามีการติดเชื้อก็จะส่งผลให้เกิดการกักตัวในภาคการผลิตทำให้การทำงานของภาคอุตสาหกรรมสะดุดลง และเท่าที่หารือกันในอุตสาหกรรมต่างๆปัจจุบันพบผู้ติดเชื้อเกือบทุกกลุ่มอุตสาหกรรมแล้ว

    เตรียมประเทศให้พร้อมรับลงทุน

    นายสุพันธุ์ กล่าวว่า การที่หลายประเทศเริ่มฟื้นตัว ซึ่งหากวันนี้ ไทยไม่มีโควิดเชื่อว่า การลงทุนจะเข้าสู่ไทยจำนวนมาก ซึ่งจำเป็นที่ไทยจะต้องเร่งแก้ความยาก–ง่ายในการทำธุรกิจ (อีส ออฟ ดูอิ่ง บิสซิเนส) โดยปรับกฎเกณฑ์ภาครัฐจากการกำกับดูแลมาเป็นการอำนวยความสะดวกให้มากขึ้น โดยเฉพาะการตรวจคนเข้าเมือง ศุลกากร การนำเข้า-ส่งออก ควรแก้ไขให้ทันสมัย


    อย่างก็ตาม ขณะนี้ ส.อ.ท. ได้ตั้งทีมงาน 5 คณะ เพื่อมาร่วมแก้ไขปัญหากับภาครัฐทั้งเรื่องรักษาด้านเยียวยาและป้องกัน ซึ่งเตรียมพร้อมแก้ไขปัญหาในอนาคต เพราะมองว่าเรื่องของวัคซีนและการระบาดยังอีกยาวต้องเตรียมพร้อมอยู่ร่วมกันไม่เสียหายไปมากกว่านี้

    "ค้าปลีก"แนะฉีดยาให้ตรงจุด

    นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่นจำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การรีสตาร์ทเศรษฐกิจ ผู้ประกอบการต้องโฟกัส 4 เรื่อง ได้แก่ 

    1.ทำให้ตัวเบาที่สุดอยู่ได้ยาวที่สุด โดยเร่งจัดการระบายสต็อก เพื่อ "กอดเงินสด"

    2.กอดเงินสดให้ได้มากที่สุดเพราะอนาคตธนาคารอาจไม่ปล่อยสินเชื่อแม้มีเครดิต

    3.ก่อนเจาะตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้กลับมอง "ดีมานด์ลูกค้าในไทย" ซึ่งมีอยู่แม้น้อยลงและยากขึ้น แต่ต้องหาให้เจอด้วยทุกกลยุทธ์ใหม่ทั้งออฟไลน์ ออนไลน์ ทุกรูปแบบเป็นทางเลือกใหม่ให้ลูกค้า

    4.ผู้ประกอบการค้าปลีกร่วมกันตรึงราคาสินค้านานที่สุดและทำให้สินค้าไม่ขาดตกบกพร่อง

    "รัฐต้องฉีดยาให้ตรงจุดจะได้ไม่เสียงบประมาณโดยใช่เหตุ ปัญหาใหญ่ขณะนี้คือ ความมั่นใจ และจะปลดล็อกเงินในกระเป๋าของกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อออกมาใช้จ่ายได้อย่างไร ซึ่งมาตรการยิ่งใช้ยิ่งได้ถือว่าดี แต่มีความซับซ้อน ไม่เอื้อต่อการใช้จ่ายของกลุ่มคนมีเงิน"


    มั่นใจหลังวิกฤติเข้มแข็งขึ้น

    นายญนน์ กล่าวว่า เวลานี้เศรษฐกิจอัมพาตไปครึ่งตัว เพราะ 3 เสาหลัก ภาคการผลิต ท่องเที่ยว และค้าปลีก ที่มีความเชื่อมโยงกันโดยตรงได้รับผลกระทบหนักเมื่อภาคหนึ่งกระทบจะเป็นโดมิโนเอฟเฟคท์กับ 2 ภาคที่เหลือ

    เมื่อสถานการณ์คลี่คลาย ต่างชาติกลับเข้ามาเยือนไทยจากนั้นเชื่อว่าภาคเอกชนจะเดินหน้าจัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย กำลังซื้อจะเกิดขึ้น ผลักดันให้ธุรกิจไทยฟื้นตัวกลับมา และเดินเครื่องได้เกิน 100%

    "หากเราผ่านวิกฤติซ้อนวิกฤติครั้งนี้ไปได้จะแข็งแรงยิ่งขึ้นประเทศไทยมีความพร้อมหลายอย่าง อยู่ในท็อปส์อินดัสทรีระดับโลก โดยเฉพาะรีเทล เราอยู่ใน ท็อป 10-15ไม่ธรรมดา เราพยายามพลิกตัวเอง ซ้อมอย่างเต็มที่ เมื่อโลกเปิดน่าจะเป็นแต้มต่อที่ดี"

    นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท). กล่าวว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ที่มีการระบาดซ้ำหลายระลอกส่งผลต่อภาคการท่องเที่ยวภายในประเทศอยู่ภาวะขึ้นลง และแนวโน้มภาคท่องเที่ยวปี 2564 ต่อเนื่องปี 2565 ยังเสี่ยงจากระบาดซ้ำ

    ด้านแนวโน้มการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย เมื่อ เดือน พ.ค.ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย 6,052 คน ลดลงจากปี 2562 ก่อนเจอวิกฤติโควิด-19 ซึ่งมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเกือบ 40 ล้านคน เฉลี่ย 3 ล้านคนต่อเดือน ขณะที่นักท่องเที่ยวไทย เดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา มี 3.6 ล้านคน-ครั้ง น้อยกว่าปีปกติซึ่งเฉลี่ย 10 ล้านคน-ครั้งต่อเดือน ด้านอัตราเข้าพักของโรงแรมเดือน มิ.ย. เฉลี่ยอยู่ที่ 7.89% เท่านั้น ต่ำกว่าประมาณการณ์จุดวิกฤติของภาคธุรกิจโรงแรมซึ่งอยู่ที่ 28%


    ต่างชาติเริ่มเที่ยวไทยชัดไตรมาส 4

    ททท.มองว่าถ้าคุมการระบาดได้ดีและเร็ว การกระจายวัคซีนเป็นไปตามแผน จะทำให้คนไทยมั่นใจเที่ยวอีกครั้ง และการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาตินั้นพื้นที่ไหนพร้อมก็ทยอยเปิด และจะเริ่มเห็นตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาอย่างมีนัยสำคัญไตรมาส 4 ต่อเนื่องไตรมาส 1 ปีหน้า โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้ ททท.คงเป้าหมายนักท่องเที่ยวไทย 100 ล้านคน-ครั้ง นักท่องเที่ยวต่างชาติ 3 ล้านคน สร้างรายได้รวม 8.5 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 4-5% จากปีที่แล้ว ส่วนปี 2565 ตั้งเป้ารายได้ตลาดในและต่างประเทศ 2.5 ล้านล้านบาท ฟื้นตัว 80% ของรายได้ปี 2562 ซึ่งปิดที่ราว 3 ล้านล้านบาท

    "มอบให้สำนักงาน ททท.ในต่างประเทศทำการตลาดเพื่อให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่อยู่ในใจนักท่องเที่ยว อีกสิ่งสำคัญ คือ การวิเคราะห์คู่แข่งเพราะแม้มีโควิดแต่ประเทศต่างๆ ไม่หยุดทำตลาด"
    #3160


    นายราชัย ปิยวาจานุสรณ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปีนี้บริษัทเน้นขยายตลาดต่างจังหวัดต่อเนื่องโดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องจากภาพรวมของตลาดที่อยู่อาศัยยังคงมีทิศทางเติบโตได้ดี และกำลังซื้อ ที่สำคัญไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 มากนัก โดยเฉพาะโครงการแนวราบของจังหวัดที่เศรษฐกิจภายในแข็งแกร่ง อย่างจังหวัดขอนแก่น ทำให้บริษัท ศุภาลัยอิสาน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ บมจ.ศุภาลัย พัฒนาโครงการ "ศุภาลัย รอยัล ริเวอร์ ขอนแก่น" ซึ่งเป็นโครงการต้นแบบของบ้านสวยสไตล์รีสอร์ท ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ต้องการบ้านเดี่ยว

    โครงการ "ศุภาลัย รอยัล ริเวอร์ ขอนแก่น"เกิดจากแนวคิดพัฒนาบ้านเดี่ยวสุดหรู 2 ชั้น บรรยากาศรีสอร์ท ริมแม่น้ำชี บนเนื้อที่กว้างขวางกว่า 63 ไร่ บ้านสำหรับครอบครัว ราคาเริ่มต้น 3.06-8.59 ล้านบาท บนพื้นที่ใช้สอย150-318 ตร.ม. ที่เติมเต็มไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตด้วยสวนสาธารณะขนาดใหญ่ สระว่ายน้ำ สนามเด็กเล่น ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง กล้อง CCTV และเข้า-ออกโครงการด้วยระบบอัตโนมัติ Easy Pass

    โดยล่าสุดจัดโปรโมชั่นร้อนรับหน้าฝน "ศุภาลัยให้เต็ม 10" จัดเต็มของแถม 10 รายการ ประกอบด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้า 6 รายการ ได้แก่ ตู้เย็น 2 ประตู Smart TV เครื่องซักผ้าฝาหน้า เครื่องฟอกอากาศ เครื่องดูดฝุ่น ไมโครเวฟ และฟรีค่าใช้จ่ายวันโอน 4 รายการ ได้แก่ ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ ค่าจดจำนอง ค่าส่วนกลาง 1 ปีแรก ค่ามิเตอร์ไฟและค่ามิเตอร์น้ำ ไร้กังวล! ด้วยเงื่อนไขกู้ไม่ผ่านยินดีคืนเงิน สำหรับลูกค้าที่ซื้อบ้านและคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ และจองภายในวันที่ 1 ก.ค. – 30 ก.ย. 64 เท่านั้น