• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - hs8jai

#6241
เอกชน เล็งเสนอยกเลิก Thailand Pass และ Test&Go ลดภาระนทท.

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย จัดประชุมหารือเพื่อรับฟังความเห็นผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคใต้ (กระบี่ พังงา ภูเก็ต) เพื่อเตรียมความพร้อมก้าวสู่ Next Normal ของการท่องเที่ยวไทย โดยที่ประชุมหารือกันในประเด็นการส่งเสริมและดึงดูดนักเดินทางต่างชาติมาไทย โดยได้เสนอให้รัฐบาลพิจารณายกเลิกการลงทะเบียน Thailand Pass และ Test&Go ในระยะถัดไป โดยอาจพิจารณาให้สายการบินช่วยตรวจผล RT-PCR ภายใน 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง และเอกสาร Vaccine Passport ที่แสดงข้อมูลการรับวัคซีนครบโดสก่อนขึ้นเครื่อง หากเข้าตามหลักเกณฑ์ดังกล่าว ให้สามารถเดินทางเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องตรวจและกักตัวในคืนแรก แต่ใช้การตรวจด้วย ATK แทน เพื่อไม่ให้เกิดภาระและเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับนักเดินทาง ซึ่งหลายประเทศก็ได้ดำเนินการในลักษณะดังกล่าวแล้ว เชื่อว่าจะสร้างบรรยากาศในการเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศได้มากขึ้น

ทั้งนี้ หอการค้าจังหวัด และผู้ประกอบการในพื้นที่ ยังจะร่วมกันรณรงค์และและกำชับให้ผู้ประกอบการและประชาชน ปฏิบัติตามมาตรการของสาธารณสุข โดยเฉพาะการเว้นระยะห่างเพื่อป้องกันการเกิดคลัสเตอร์ใหม่

นายสนั่น กล่าวเสริมว่า ที่ผ่านมาหอการค้าไทย เน้นให้ความสำคัญการส่งเสริมและพัฒนา Trade & Travel ควบคู่กันไป เพราะหากมองจากจุดแข็งของประเทศ พบว่านักธุรกิจและนักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงมองประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทาง ทั้งการทำธุรกิจ การพักผ่อนท่องเที่ยว หรือแม้แต่การพักอาศัยในระยะยาว แม้ว่าสถาการณ์ความขัดแย้งของรัสเซียและยูเครน จะกระทบต่อจำนวนนักท่องเที่ยวอยู่บ้าง แต่ยังคงมีโอกาสทำตลาดกับนักท่องเที่ยวอินเดียที่มีศักยภาพ และซาอุดีอาระเบียที่เพิ่งมีการเปิดความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทย และมีการเปิดเที่ยวบินตรงมายังไทยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ถือเป็นความหวังใหม่ที่จะเกิดขึ้นกับภาคการท่องเที่ยวไทย ที่เป็นนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีกำลังซื้อสูง

ส่วนการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ ยังสามารถเติบโตได้ดีในช่วงนี้ อันเป็นผลมาจากมาตรการสนับสนุนของรัฐบาลผ่านโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน" ที่ได้รับการตอบรับที่ดี ภายหลังเปิดให้ลงทะเบียนเพิ่มเติม 2 ล้านสิทธิเมื่อเดือนที่ผ่านมา มีการใช้สิทธิไปแล้วเกือบ 1 ล้านสิทธิ โดยหลังจากนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และหอการค้าไทย จะหารือร่วมกันถึงความเป็นไปได้ในการนำเสนอรัฐบาลให้มีการสนับสนุนงบประมาณโครงการดังกล่าวเพิ่มเติม

รวมถึงมาตรการและโครงการกระตุ้นการท่องเที่ยวต่างๆ ทั้ง Happy Model (โมเดลอารมณ์มีความสุข) สร้างต้นแบบการท่องเที่ยวคุณภาพ โครงการประชุมเมืองไทย ช่วยชาติ พร้อมโปรโมทวันธรรมดาน่าเที่ยว Workcation เพื่อให้เกิดกระแสตื่นตัวในการท่องเที่ยวภายในประเทศมากขึ้น

ด้าน น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุว่า ททท. ตั้งเป้าหมายปี 65 ตลาดในประเทศมีจำนวนนักท่องเที่ยว 160 ล้านคน/ครั้ง ตลาดต่างประเทศ 10 ล้านคน รายได้ทางการท่องเที่ยว 1.28 ล้านล้านบาท ถึงแม้ว่าจะมีการระบาดของโอมิครอน แต่ก็ได้มีการเตรียมแผนเพื่อให้การท่องเที่ยวของประเทศไทยกลับมา โดยให้ความสำคัญกับการเพิ่มสัดส่วนกลุ่มลูกค้าคุณภาพและนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง เน้นสินค้าและบริการการท่องเที่ยวที่มีมาตรฐานคุณภาพ และนำเสนอแนวคิด BCG Model เชื่อมโยงการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบเพื่อความยั่งยืน

นอกจากนั้น ผู้ประกอบการในพื้นที่ยังได้เสนอให้รัฐบาลสนับสนุนแหล่งเงินทุนช่วยผู้ประกอบการภาคการท่องเที่ยว ควบคู่กับการจัดทำแผนการดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างชาติ เน้นสื่อสารให้มีความชัดเจนและต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดการ Restart ธุรกิจท่องเที่ยว ซึ่งหอการค้าไทย จะเชื่อมกับภาคการเงินเพื่อช่วยผู้ประกอบการในการเติมทุนต่อไป

 
#6243
กลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ชูกลยุทธ์ ปี 2565 ยกระดับการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินแบบครบวงจร แนะนำวางแผนการเงินการลงทุน

นายฉี ชิง-ฟู่  กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ LHFG เปิดเผยกลยุทธ์ปี 2565 ว่า เมื่อเดือนกันยายน 2564 CTBC Bank ซึ่งเป็นธนาคารเอกชนอันดับ 1 ในไต้หวัน ได้ถือหุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 35.62 เป็นร้อยละ 46.61 ของทุนที่ชำระแล้ว และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ นับเป็นการเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันและเติบโตของกลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ในการก้าวสู่ระดับนานาชาติ

โดยกลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จะนำศักยภาพด้านดิจิทัลแบงก์กิ้ง และความเชี่ยวชาญในการให้บริการด้วยแพลตฟอร์มโซลูชันทางการเงินที่ครบวงจรของ CTBC Bank ที่จะร่วมพัฒนา Digital Infrastructure และ Platform เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าภายใต้แนวคิด Customer Centric และเร่งขยายธุรกิจที่มีมาร์จินสูง การมีพันธมิตรทางธุรกิจที่ดีและมุ่งเน้นการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินอย่างมืออาชีพ รวมทั้งเร่งขยายฐานลูกค้าโดยส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่ครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์สินเชื่อ เงินฝาก ธุรกรรมด้านต่างประเทศ ประกันชีวิตและประกันวินาศภัย การลงทุน ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าได้รับบริการและมีผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด

สำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2564 กลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มีกำไรสุทธิจำนวน 1,383.7 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 32.7 เมื่อเทียบกับปี 2563 จากการตั้งสำรองเข้ม แม้ NPLs จะลดลงจากร้อยละ 2.77 เมื่อสิ้นปี 2563 เหลือร้อยละ 2.44 เมื่อสิ้นปี 2564 และจะเห็นได้ว่าอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage Ratio) เพิ่มขึ้นจาก 148.4% เมื่อไตรมาสที่ 3 ของปี 2564 เป็น 179.1% ณ สิ้นปี 2564 โดยเมื่อ CTBC Bank เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เมื่อเดือนกันยายน 2564 ซึ่ง CTBC Bank เห็นว่าสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนายังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง จึงมีความเห็นให้ธนาคารตั้งสำรองเพิ่มขึ้นจาก 1,738.0 ล้านบาท ในงวด 9 เดือนของปี 2564 เป็น 3,283.8 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2564 ทั้งนี้เพื่อสร้างความมั่นใจในการดำเนินกลยุทธ์ในปี 2565 ซึ่งธนาคารจะเร่งขยายธุรกิจและขยายสินเชื่อรายย่อยเพิ่มขึ้น

ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มีระดับเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง โดยมีอัตราเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) อยู่ที่ 18.4% และเงินกองทุนชั้นที่ 1 อยู่ที่ 16.1% สูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำที่ 11.0% และ 8.5% ตามลำดับ ที่กำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย

นางสาวชมภูนุช ปฐมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH Bank กล่าวว่า ปี 2565 ธนาคารมีแผนขยายสินเชื่อ 6-7% และยังคงเน้นขยายฐานลูกค้าสินเชื่อในภาคอุตสาหกรรมที่เห็นว่ามีแนวโน้มเติบโต การนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการธุรกรรมต่างประเทศในรูปแบบดิจิทัล (Digital Trade Finance) และเร่งขยายสินเชื่อบุคคล การปรับโครงสร้างภายใน เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพในการทำงานเพื่อให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว การปรับภาพลักษณ์สาขาให้มีความ Premium การยกระดับการให้บริการพร้อมกับการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินอย่างมืออาชีพ การพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อความมั่งคั่งที่ครอบคลุมไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์กองทุนรวม และผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตรูปแบบต่างๆ รวมทั้ง ธนาคารยังคงให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ธุรกิจและลูกหนี้รายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโคโรนาอย่างต่อเนื่องต่อไปเพื่อให้ลูกค้าสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ซึ่งจะส่งผลให้ประเทศมีเศรษฐกิจที่ดีขึ้น

ธนาคารยังคงเดินหน้าพัฒนา Digital Infrastructure และ Platform เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าภายใต้แนวคิด Customer Centric ที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีส่งมอบให้ลูกค้าทุกกลุ่ม ทุกวัย ธนาคารเปิดให้บริการเงินฝากดอกเบี้ยพิเศษ Pro-Fit Digital Savings ที่ได้ดอกเบี้ยสูงถึง 1.5% ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี รวมถึงบริการแอปพลิเคชัน Profita เพื่อสนับสนุนการซื้อ-ขาย-สับเปลี่ยนกองทุนที่รองรับคำสั่งได้ตลอด 24 ชั่วโมง มาพร้อมฟีเจอร์มากมายช่วยให้ลงทุนได้อย่างรวดเร็วทันสถานการณ์ อัดแน่นข้อมูลกองทุนแบบจัดเต็ม ทั้งจากกองทุนระดับโลกที่ผ่านการแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ แบบกระชับเข้าใจง่ายเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า เพื่อสนับสนุนให้ลูกค้ามีความพร้อมก้าวสู่มือโปรด้านการลงทุน ซึ่งสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Profita ผ่าน Apple Store และ PlayStore โดยฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ "แอปพลิเคชัน Profita" เช่น 

ฟังก์ชันค้นหากองทุนตามความต้องการ เช่น เลือกกองทุนที่มีผลตอบแทนย้อนหลังสูงสุด, เงินปันผล, Morningstar Rating หรือกองทุนแนะนำโดย LH Bank Advisor

ฟังก์ชัน DCA ที่ช่วยสร้างวินัยการลงทุนแบบประจำได้ทั้ง แบบรายสัปดาห์หรือรายเดือน 

Robo Advisor ผู้ช่วยอัจฉริยะที่วางแผนการลงทุนพร้อมปรับพอร์ตการลงทุนอัตโนมัติ

ฟังก์ชันแจ้งเตือนกำไร-ขาดทุน ตามความต้องการเมื่อถึงค่าที่กำหนด

ด้านนายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด หรือ LH Fund กล่าวว่า ปี 2565 บริษัทยังคงเน้นการเติบโตของสินทรัพย์โดยการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่แบบ Asset Allocation มากกว่าที่จะเน้นเป็นรายสินทรัพย์ (Single Asset) เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มีพฤติกรรมการลงทุนไม่เหมือนกัน รวมทั้งการเพิ่มฐานลูกค้าประเภทสถาบัน และเน้นกลุ่มลูกค้า Ultra High Net Worth รวมถึงเพิ่มช่องทางการจำหน่ายรูปแบบใหม่ๆ ผ่าน Digital Platform เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า และสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้มากขึ้น

ภาพรวมการบริหารจัดการกองทุนในปี 2564 บริษัทมีขนาดกองทุนที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการ นับรวมกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) มีมูลค่าประมาณ 63,851 ล้านบาท เติบโตประมาณ 10% สำหรับกองทุนส่วนบุคคล (Private Fund) มีขนาดกองทุน 9,418 ล้านบาท เติบโตประมาณ 12% ส่วนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) มีขนาดกองทุน 5,808 ล้านบาท เติบโตประมาณ 56%

นายกานต์ อรรถธรรมสุนทร กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH Securities กล่าวว่า ปี 2565 บริษัทยังคงมุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืนภายใต้การสนับสนุนของกลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ และจากเครือข่ายความเชี่ยวชาญระดับโลกของ CTBC Bank รวมถึงการสร้างฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ควบคู่กับการพัฒนาผลิตภัณฑ์การลงทุน การเพิ่มช่องทางบริการผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล เช่น การเปิดบัญชีและยืนยันตัวตนแบบออนไลน์ การขยายลูกค้าในกลุ่ม Mass ที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่เติบโตอย่างโดดเด่นในตลาดการเงินของไทย    

ปี 2564 เป็นอีกหนึ่งปีที่ถือได้ว่าเราประสบความสำเร็จในหลายด้าน โดยเฉพาะการพัฒนาระบบนิเวศทางธุรกิจใหม่ๆ (Ecosystems) เช่น บริการจองหุ้นเพิ่มทุนออนไลน์ (E-RO) บริการวางหลักประกันผ่าน QR Payment เป็นต้น
#6244
World Today: ประเด็นข่าวต่างประเทศน่าติดตามวันนี้  3, 2022

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเกือบ 600 จุดในวันพุธ (2 มี.ค.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยน้อยกว่าที่นักลงทุนวิตกกังวล นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นมากกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,891.35 จุด เพิ่มขึ้น 596.40 จุด หรือ +1.79%

-- นายกัว ซู่ชิง ประธานคณะกรรมการกำกับดูแลการธนาคารและประกันภัยของจีน (CBIRC) เปิดเผยว่า จีนคัดค้านและไม่ขอออกมาตรการคว่ำบาตรทางการเงินต่อรัสเซียตามที่หลายประเทศได้ดำเนินการอยู่ในขณะนี้

ทั้งนี้ สำนักข่าวซีเอ็นบีซีเปิดเผยถ้อยแถลงของนายกัวในวันพุธ (2 มี.ค.) ว่า "ทุกฝ่ายกำลังจับตามองความขัดแย้งทางทหารหรือสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน โดยกระทรวงการต่างประเทศจีนได้แถลงจุดยืนของจีนอย่างชัดเจนไปแล้วและนโยบายต่างประเทศของเราสอดคล้องกัน"

-- สมัชชาใหญ่แห่งองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) มีมติเรียกร้องให้รัสเซียถอนกำลังทหารออกจากยูเครนโดยทันที

มติดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากสมาชิก 141 ประเทศ จากทั้งหมด 193 ประเทศ ขณะที่ 35 ประเทศงดออกเสียง ซึ่งรวมถึงจีน อินเดีย ปากีสถาน บังกลาเทศ แอฟริกาใต้ และเวียดนาม ส่วน 5 ชาติ ซึ่งได้แก่ รัสเซีย เบลารุส ซีเรีย เกาหลีเหนือ และเอริเทรีย ลงคะแนนเสียงคัดค้าน

-- นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนนี้ พร้อมกับคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 5 ครั้งในปีนี้ หลังจากที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน

ทั้งนี้ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 100% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 15-16 มี.ค.

-- นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า เฟดจะยังคงทำตามแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ แม้ว่าวิกฤตการณ์ในยูเครนได้สร้างความไม่แน่นอนอย่างมากต่อแนวโน้มในอนาคต

"สิ่งบ่งชี้สำหรับเศรษฐกิจสหรัฐมีความไม่แน่นอนอย่างมาก และเราจะจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด" นายพาวเวลกล่าวต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวานนี้ ก่อนที่จะกล่าวต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันนี้ (3 มี.ค.)

-- กระทรวงการขนส่งและสำนักงานการบินสหรัฐ (FAA) ออกแถลงการณ์ระบุว่า คำสั่งห้ามเครื่องบินรัสเซียใช้น่านฟ้าสหรัฐจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 มี.ค.เวลา 21.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับเช้าวันที่ 3 มี.ค.เวลา 09.00 น.ตามเวลาไทย

เครื่องบินที่จะได้รับผลกระทบจากคำสั่งดังกล่าว ได้แก่ เครื่องบินโดยสารและเครื่องบินขนส่งสินค้า รวมทั้งเครื่องบินเช่าเหมาลำ

-- นายดมิโทร คูเลบา รมว.ต่างประเทศยูเครน กล่าวว่า ยูเครนต้องการให้มีการพิจารณาทบทวนสิทธิของรัสเซียในการเป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC)

"เราเชื่อมั่นว่าหากมีการศึกษาข้อกฎหมายก็จะพบว่ารัสเซียมีความไม่ชอบธรรมและทำผิดกฎหมายในการอยู่ในคณะมนตรีความมั่นคง" นายคูเลบากล่าว
-- กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ได้เสร็จสิ้นการประชุมในวันนี้แล้ว โดยที่ประชุมมีมติยึดมั่นตามข้อตกลงเดิม โดยจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพียง 400,000 บาร์เรล/วันสำหรับเดือนเม.ย.

ก่อนหน้านี้ โอเปกพลัสมีมติในเดือนก.ค.2564 ในการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 400,000 บาร์เรล/วันในแต่ละเดือน จนถึงเดือนเม.ย.2565

-- บริษัท Nord Stream 2 AG ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการท่อส่งก๊าซ Nord Stream 2 ที่มีกำหนดจัดส่งก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียไปยังเยอรมนี ออกแถลงการณ์ยืนยันว่าบริษัทไม่ได้ทำการยื่นล้มละลาย ตามที่มีข่าวปรากฎในสื่อก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ดี บริษัทยอมรับว่าได้ประกาศยุติสัญญาว่าจ้างพนักงาน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรจากสหรัฐ

-- นางเจน ซากี โฆษกทำเนียบขาว กล่าวว่า สหรัฐเปิดกว้างที่จะใช้มาตรการคว่ำบาตรต่ออุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซของรัสเซีย แต่ก็จะพิจารณาถึงผลกระทบต่อตลาดโลกและราคาพลังงานในสหรัฐก่อนที่จะมีการดำเนินการดังกล่าว

"เรากำลังพิจารณามาตรการคว่ำบาตรดังกล่าว โดยเราได้วางทางเลือกนี้อยู่บนโต๊ะแล้ว แต่เราจำเป็นต้องพิจารณาถึงผลกระทบทั้งหมดที่จะเกิดขึ้น"
-- นายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน เปิดเผยว่า คณะผู้แทนรัสเซียพร้อมที่จะเข้าร่วมการเจรจาสันติภาพกับยูเครนในวันนี้ ซึ่งเป็นการเจรจารอบ 2 เพื่อคลี่คลายความขัดแย้ง หลังจากที่รัสเซียบุกโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ.

"ในช่วงค่ำวันนี้ คณะผู้แทนของเราพร้อมที่จะรอพบคณะผู้แทนของยูเครน" นายเพสคอฟกล่าว
-- ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่เปิดเผยในวันนี้ได้แก่ เกาหลีใต้มีกำหนดเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2564, จีนเตรียมเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนก.พ.จากไฉซิน, ฝรั่งเศส และเยอรมนีจะเปิดเผยข้อมูลดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนก.พ.จากมาร์กิต, อียูเตรียมเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนก.พ.จากมาร์กิต และอัตราว่างงานเดือนม.ค., อังกฤษจะเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนก.พ.จากมาร์กิต/ซีไอพีเอส

ทางด้านสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนก.พ.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคบริการเดือนก.พ.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนม.ค.
#6245
GDP เกาหลีใต้ขยายตัว 1.2% ใน Q4/64 หลังส่งออกแข็งแกร่ง

ธนาคารกลางเกาหลีใต้เปิดเผยในวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเกาหลีใต้ขยายตัว 1.2% ในไตรมาส 4/2564 ซึ่งส่งผลให้ตัวเลข GDP ตลอดปี 2564 ขยายตัวที่ระดับ 4% โดยได้แรงหนุนจากการส่งออกที่แข็งแกร่งเกินคาด

รายงานของธนาคารกลางเกาหลีใต้ระบุว่า ตัวเลข GDP ปี 2564 ไม่เปลี่ยนแปลงจากการประมาณการเบื้องต้น แต่ตัวเลข GDP ในไตรมาส 4 ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยจากตัวเลขประมาณการเบื้องต้นซึ่งอยู่ที่ 1.1%

ทั้งนี้ ตัวเลข GDP ปี 2564 ที่ขยายตัว 4% บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจเกาหลีใต้เริ่มฟื้นตัว หลังจากที่หดตัวลง 0.9% ในปี 2563 เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่วนตัวเลข GDP ไตรมาส 4 ที่ขยายตัว 1.2% บ่งชี้ว่าเศษฐกิจมีการขยายตัวอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ที่ขยายตัวเพียง 0.3%

ธนาคารกลางเกาหลีใต้ระบุว่า ปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนการขยายตัวของ GDP ในไตรมาส 4 นั้น มาจากยอดการส่งออกและกิจกรรมในภาคบริการที่ปรับตัวได้ดีเกินคาดในช่วงเวลาดังกล่าว

สำหรับรายงานการส่งออกล่าสุดของเกาหลีใต้ระบุว่า ยอดส่งออกเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 20.6% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ 5.391 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากการส่งออกชิป, ยานยนต์ และสินค้าสำคัญอื่น ๆ เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ยอดนำเข้าเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 25.1% แตะที่ 5.307 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่งผลให้เกาหลีใต้มียอดเกินดุลการค้า 840 ล้านดอลลาร์ในเดือนก.พ.

 
#6246
EntertainmentMusicคุยเรื่องรัก กับ "พัด  Zweed n' Roll" เจ้าของบทเพลงเศร้าที่ทำให้เราได้เข้าใจตัวเองและความสัมพันธ์มากยิ่งขึ้น "การรักตัวเองคือการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเรา" EntertainmentMusicคุยเรื่องรัก กับ "พัด  Zweed n' Roll" เจ้าของบทเพลงเศร้าที่ทำให้เราได้เข้าใจตัวเองและความสัมพันธ์มากยิ่งขึ้น "การรักตัวเองคือการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเรา" EntertainmentMusicคุยเรื่องรัก กับ "พัด  Zweed n' Roll" เจ้าของบทเพลงเศร้าที่ทำให้เราได้เข้าใจตัวเองและความสัมพันธ์มากยิ่งขึ้น "การรักตัวเองคือการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเรา" EntertainmentMusicคุยเรื่องรัก กับ "พัด  Zweed n' Roll" เจ้าของบทเพลงเศร้าที่ทำให้เราได้เข้าใจตัวเองและความสัมพันธ์มากยิ่งขึ้น "การรักตัวเองคือการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเรา" EntertainmentMusicคุยเรื่องรัก กับ "พัด  Zweed n' Roll" เจ้าของบทเพลงเศร้าที่ทำให้เราได้เข้าใจตัวเองและความสัมพันธ์มากยิ่งขึ้น "การรักตัวเองคือการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเรา" 


https://bit.ly/3sE83qU
#6247
เครมลินเผยรัสเซียพร้อมเจรจาสันติภาพรอบ 2 กับยูเครนวันนี้
 
นายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน เปิดเผยว่า คณะผู้แทนรัสเซียพร้อมที่จะเข้าร่วมการเจรจาสันติภาพกับยูเครนในวันนี้ ซึ่งเป็นการเจรจารอบ 2 เพื่อคลี่คลายความขัดแย้ง หลังจากที่รัสเซียบุกโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ.

"ในช่วงค่ำวันนี้ คณะผู้แทนของเราพร้อมที่จะรอพบคณะผู้แทนของยูเครน" นายเพสคอฟกล่าว
อย่างไรก็ดี นายเพสคอฟปฏิเสธที่จะเปิดเผยสถานที่จัดการเจรจา โดยระบุแต่เพียงว่า "ผมจะยังไม่ประกาศก่อนถึงเวลา"

ทั้งนี้ การเจรจารอบแรกระหว่างคณะผู้แทนของรัสเซียและยูเครนได้มีขึ้นเมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา แต่ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลงแต่อย่างใด

EU ไฟเขียวคว่ำบาตรเบลารุสเพิ่มอีก หลังหนุนรัสเซียบุกยูเครน

สำนักประธานาธิบดีฝรั่งเศส เปิดเผยว่า ทูตจากสหภาพยุโรป (EU) อนุมัติมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ต่อเบลารุส หลังสนับสนุนให้รัสเซียบุกยูเครน

แถลงการณ์ระบุว่า การคว่ำบาตรจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเบลารุส โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมค้าไม้ เหล็ก และโพแทสเซียม

อนึ่ง เจ้าหน้าที่ EU ระบุในช่วงต้นสัปดาห์นี้ว่า หนึ่งในเป้าหมายของการออกมาตรการคว่ำบาตรครั้งนี้คือ การตัดช่องทางการส่งออกสินค้าของเบลารุสไปยังยุโรป หลังจากที่ได้ดำเนินการคว่ำบาตรไปก่อนหน้านี้ เมื่อครั้งที่ปธน.อเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโกแห่งเบลารุส ใช้ความรุนแรงปราบปรามการประท้วงหลังจากการเลือกตั้งเมื่อเดือนส.ค. 2563

 
#6248
จีนเริ่มอพยพพลเมืองออกจากยูเครนแล้ว

หนังสือพิมพ์โกล. ไทม์สของจีนรายงานในวันนี้ว่า จีนเริ่มอพยพพลเมืองออกจากยูเครนแล้ว

รายงานระบุว่า นักศึกษาราว 400 รายที่อาศัยอยู่ในเมืองโอเดสซาของยูเครน และอีก 200 รายจากกรุงเคียฟ เดินทางออกจากยูเครนแล้วเมื่อวันจันทร์ (28 ก.พ.) และคาดว่าประชาชนอีก 1,000 รายจะถูกอพยพไปยังประเทศเพื่อนบ้านในวันนี้

ขณะเดียวกัน ทางการจีนได้ระงับแผนสำหรับเที่ยวบินเช่าเหมาลำเพื่ออพยพพลเมืองจีนออกจากยูเครนในช่วงสุดสัปดาห์ หลังจากสถานการณ์ทวีความรุนแรงขึ้น โดยสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำยูเครนระบุว่ามีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย

ก่อนหน้านี้ ชาวจีนที่อาศัยอยู่ในยูเครนไม่ได้รับคำแนะนำให้เดินทางออกนอกประเทศเหมือนกับพลเมืองประเทศอื่น ๆ ก่อนที่รัสเซียจะบุกโจมตียูเครน เนื่องจากเจ้าหน้าที่จีนได้ปฏิเสธคำเตือนจากสหรัฐและพันธมิตรว่ารัสเซียจะบุกโจมตี

ด้านนายหวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนได้กล่าวแก้ต่างให้กับแนวทางของจีน โดยระบุว่า กระทรวงและสถานทูตจีนในยูเครนได้ออกคำเตือนด้านความปลอดภัยอย่างทันท่วงที

ทั้งนี้ มีชาวจีนประมาณ 6,000 รายอาศัยอยู่ในยูเครน
#6249
NINE ทำดีลให้กลุ่ม VGI เข้าถือหุ้นสลับเข้าเทคธุรกิจบริหารพื้นที่สถานีรถไฟฟ้า

บมจ.เนชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็ดดูเทนเมนท์ (NINE) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนไม่เกิน 984,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท เพื่อเสนอขายต่อบุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ให้แก่ จากบริษัท พอยท์ ออฟ วิว (พีโอวี) มีเดีย กรุ๊ป จำกัด (POV) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บมจ.วีจีไอ (VGI) จำนวน 953,500,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท คิดเป็นสัดส่วน 70.65% และ บริษัท เวิร์ค เอ็กซ์ จำกัด จำนวน 15,350,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 1.14% และ Sliver Reward Holdings Limited จำนวน 15,150,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 1.12% ในราคาเสนอขายหุ้นละ 3.30 บาท รวมมูลค่า 3,247,200,000 บาท

พร้อมทั้งออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 240,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) ในอัตราการจัดสรร 1.5232 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุน ในราคาเสนอขายหุ้นละ 3.30 บาท รวมมูลค่า 792,000,000 บาท

ทั้งนี้ บริษัทจะลดทุนจดทะเบียนจำนวน 25,000,000 บาท จากเดิม 390,549,286 บาท เป็น 365,549,286 บาท โดยการ ตัดหุ้นสามัญที่ยังไม่ได้ออกจำหน่ายจำนวน 25,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท จากนั้นจะเพิ่มทุนจดทะเบียนจำนวน 1,224,000,000 บาท เป็น 1,589,549,286 บาท ด้วยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน 1,224,000,000 หุ้น

นอกจากนั้น บริษัทจะเข้าซื้อหุ้นสามัญในบริษัท กรุ๊ปเวิร์ค จำกัด (GW) เป็นจำนวน 62,500 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท คิดเป็นสัดส่วน 100% ของหุ้นทั้งหมดใน GW จากผู้ถือหุ้นเดิม 3 ราย ได้แก่ (1) VGI (2) บริษัท เวิร์ค เอ็กซ์ จำกัด และ (3) Sliver Reward Holdings Limited ในราคาซื้อขายจำนวนไม่เกิน 110 ล้านบาท

GW ประกอบธุรกิจบริหารจัดการพื้นที่เชิงพาณิชย์บางส่วนบนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสจำนวน 5 สถานี และบริหารพื้นที่ขายสินค้าบริเวณท่าเทียบเรือ 3 แห่ง ที่มุ่งเน้นการใช้พื้นที่ดังกล่าวเพื่อนำเสนอแบรนด์ของร้านค้าต่อผู้บริโภค และเป็นช่องทางการซื้อขายสินค้าที่เหมาะสมกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีการสัญจรผ่านสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสและท่าเรือ อันมีแนวโน้มเติบโตขึ้นในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา

และ NINE จะเข้าทำสัญญาให้สิทธิบริหารจัดการพื้นที่เชิงพาณิชย์บนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส (License to Manage and Operate Merchandising Space Agreement) จำนวนไม่เกิน 31 สถานี (ซึ่งรวมถึงพื้นที่บนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสที่ GW ได้รับสิทธิ และที่บริษัทฯ ได้รับสิทธิในการบริหารจัดการอยู่ในปัจจุบัน) กับ VGI ซึ่งเป็นผู้ได้รับสัมปทานในการบริหารจัดการพื้นที่บนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสดังกล่าวจาก บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) (BTSC) สัญญาดังกล่าวมีระยะเวลาประมาณ 7.5 ปี (สิ้นสุดวันที่ 4 ธ.ค.72) และคู่สัญญาอาจต่อสัญญาได้ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในสัญญา โดยคาดว่ามีมูลค่ารวมของสัญญาประมาณ 2,665.93 ล้านบาท

ขณะที่ VGI เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้เข้าลงทุนและให้สิทธิการเช่าพื้นที่เชิงพาณิชย์บนเครือข่าย BTS Skytrain แก่ NINE ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจบริหารจัดการร้านค้า ที่มีความมุ่งมั่นในการปรับปรุงพื้นที่เชิงพาณิชย์เครือข่ายรถไฟฟ้าบีทีเอสให้มีรูปแบบทันสมัย โดยปัจจุบันได้เริ่ม pilot phase บนสถานีเซนต์หลุยส์ และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

นายเนลสัน เหลียง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ VGI กล่าวว่า บริษัทจึงเล็งเห็นถึงโอกาสในการเพิ่มศักยภาพในการบริหารงานบนพื้นที่ดังกล่าว จึงมีแผนเฟ้นหาผู้มีความเชี่ยวชาญมาช่วยยกระดับการดำเนินงานในธุรกิจประเภทนี้ และจากการที่ NINE ได้เข้าไปบริหารจัดการพื้นที่บนสถานีเซนต์หลุยส์ ซึ่งเป็นสถานีนำร่องนั้น ผลลัพธ์เบื้องต้นคือเราเพิ่มพื้นที่ให้เช่าใหม่ๆ ได้กว่า 100% รวมถึงได้มีการจัดรูปแบบพื้นที่เช่าเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าได้ดียิ่งขึ้นด้วย

โดยในปีที่ผ่านมา ค่าเช่าพื้นที่เชิงพาณิชย์มีสัดส่วนรายได้เพียง 10-15% ของรายได้ทั้งหมดเท่านั้น จึงเป็นที่คาดการณ์ว่าด้วยการผสมผสานกลยุทธ์ด้านการปรับปรุงพื้นที่เชิงพาณิชย์ร่วมกับการได้บริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์เพิ่มเติมบนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสร่วมกับพื้นที่เดิมนั้นจะทำให้รายได้ด้านการโฆษณาของ VGI เติบโตขึ้น 20% อย่างมีนัยสำคัญ

ธุรกรรมนี้นับว่าเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายของกลยุทธ์ O2O Marketing Solutions ของ VGI ผ่านการสนับสนุนของ NINE ซึ่งจะทำให้ VGI สามารถมอบบริการให้กับลูกค้าหรือแบรนด์ได้ครอบคลุมมากกว่าธุรกิจโฆษณา Offline-to-Online และการให้บริการด้านบริการชำระเงิน และด้านธุรกิจการจัดจำหน่าย แต่การผสมผสานระหว่าง O2O Marketing Solutions เข้ากับพื้นที่เชิงพาณิชย์ระดับพรีเมียมเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ต่างๆ ต่อผู้โดยสารของเราจะเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังมากสำหรับแบรนด์ต่างๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการขายและเข้าถึงผู้บริโภค ซึ่งเราสามารถนำเสนอการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุด รวมทั้งยังมีข้อมูลเชิงลึกที่มากขึ้นตามความต้องการของลูกค้า

ทั้งนี้ธุรกรรมดังกล่าวต้องได้รับอนุมัติจากผู้ถือหุ้น NINE ซึ่งจะพิจารณาเพื่ออนุมัติการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อบุคคลในวงจำกัด (Private Placement) จำนวน 984 ล้านหุ้นให้กับ VGI และนักลงทุนรายอื่นๆ รวมถึงการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) 240 ล้านหุ้น ซึ่งหากจองเต็มจำนวน VGI จะเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่มีสัดส่วนการถือหุ้นที่ 60% และ NINE จะสามารถระดมทุนได้สูงถึง 4,000 ล้านบาท เพื่อขยายความสำเร็จบนเครือข่ายพื้นที่เชิงพาณิชย์ของ BTS

นี่เป็นอีกหนึ่งข้อตกลงครั้งสำคัญสำหรับ VGI ซึ่งตามมาอย่างร้อนแรงหลังจากประสบความสำเร็จในการเป็นหุ้นส่วนและลงทุนในบมจ.เจ มาร์ท(JMART) รวมถึงการลงทุนในบริษัท แฟนสลิ้งค์ คอมมูนิเคชั่น จำกัด ผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซแบบ Omni-channel และการจัดการแบรนด์ชั้นนำสำหรับแบรนด์จีน
#6250
รับออกแบบ Line Sticker สำหรับองค์กร บริษัทอีกหนึ่งช่องทางการโฆษณาในยุค Social Media ครองโลก กับบริการรับออกแบบสติ๊กเกอร์ไลน์ แบรนด์ องค์กร หรือสินค้าที่อยากมีสติกเกอร์ไลน์เป็นของตัวเองโดดเด่นไม่ซ้ำใคร ในแบบที่คุณกำหนดได้เองโดยสามารถใช้ได้กับโปรแกรมยอดฮิตอย่าง LINE และรวมไปถึงทุกแอพพลิเคชั่นแชท ด้วยการออกแบบเพียงครั้งเดียวเท่านั้น โดยบริษัทรับทําสติ๊กเกอร์ไลน์มืออาชีพ ทีมงานคุณภาพ "การันตีจากผลงานลูกค้า มากกว่า 5,000 ชุด" 
#6251
เสริมคาง สมุทรปราการอาเซียนบิวตี้คลีนิคศัลยกรรมต้นๆของประเทศดูแลทุกปัญหาความสวย  
ผิวพรรณ ศัลยกรรมตกแต่ง และก็เวชศาสตร์ชะลอวัย พร้อมการดูแลความสวยสดงดงาม
เสริมคาง สมุทรปราการแบบองค์รวม ตั้งแต่ศีรษะถึงปลายตีน โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ  
แล้วก็ คณะทำงานมืออาชีพ 
เสริมคาง สมุทรปราการทั้งไทยและก็ต่างชาติ 


https://bit.ly/3hRCMe1
#6252
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 596.40 จุด รับพาวเวลส่งสัญญาณขึ้นดบ.น้อยกว่าคาด

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเกือบ 600 จุดในวันพุธ (2 มี.ค.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยน้อยกว่าที่นักลงทุนวิตกกังวล นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นมากกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,891.35 จุด เพิ่มขึ้น 596.40 จุด หรือ +1.79%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,386.54 จุด เพิ่มขึ้น 80.28 จุด หรือ +1.86% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,752.02 จุด เพิ่มขึ้น 219.56 จุด หรือ +1.62%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นหลังจากนายพาวเวลได้แถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวานนี้ว่า เฟดจะยังคงทำตามแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ แม้ว่าวิกฤตการณ์ในยูเครนได้สร้างความไม่แน่นอนอย่างมากต่อแนวโน้มในอนาคต โดยนายพาวเวลระบุว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งละ 0.25%

ถ้อยแถลงของนายพาวเวลช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวล หลังจากที่ก่อนหน้านี้ตลาดได้รับแรงกดดันอย่างหนักจากการที่เจ้าหน้าที่เฟดหลายคนซึ่งรวมถึงนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ ได้ออกมาส่งสัญญาณสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนมี.ค.

ทั้งนี้ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 100% ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 15-16 มี.ค. นอกจากนี้ นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเพียง 5 ครั้งในปีนี้ หลังจากที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน

ตลาดยังได้แรงหนุนจากรายงานของออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง (ADP) ซึ่งระบุว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 475,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 400,000 ตำแหน่ง นอกจากนี้ ADP ได้ปรับตัวเลขการจ้างงานในเดือนม.ค.เป็นเพิ่มขึ้น 509,000 ตำแหน่ง จากเดิมรายงานว่าลดลง 301,000 ตำแหน่ง

หุ้นทั้ง 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้น นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้น 2.55% ทั้งนี้ หุ้นโกลด์แมน แซคส์ พุ่งขึ้น 2.49% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา เพิ่มขึ้น 1.62% หุ้นเจพีมอร์แกน พุ่งขึ้น 2.07% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก ทะยานขึ้น 3.84%

ดัชนีหุ้นกลุ่มวัสดุพุ่งขึ้น 2.24% โดยหุ้นยูเอส สตีล คอร์ป พุ่งขึ้น 3.93% หุ้นนิวมอนท์ เพิ่มขึ้น 1.13% หุ้นฟรีพอร์ท-แมคมอแรน ดีดตัวขึ้น 0.522% หุ้นวัลแคน มาเทเรียลส์ พุ่งขึ้น 2.18%

ดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้น 2.2% หลังจากราคาน้ำมัน WTI ทะยานขึ้นเหนือระดับ 110 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเชฟรอน พุ่งขึ้น 2.95% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน พุ่งขึ้น 2.55% หุ้นเอ็กซอน โมบิล เพิ่มขึ้น 1.72% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ บวก 1.11%

หุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 2.06% หลังมีรายงานว่าแอปเปิลเตรียมเปิดตัว iPhone และ iPad ระบบ 5G ราคาประหยัดรุ่นใหม่ในงานอีเวนต์ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 8 มี.ค.นี้

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.พ.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 415,000 ตำแหน่ง

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดซึ่งมีกำหนดกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันนี้ (3 มี.ค.) โดยการแถลงจะเริ่มขึ้นในเวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 22.00 น.ตามเวลาไทย
#6253
'TNITY' ท็อปฟอร์ม ปี 64 กำไรกว่า 250 ล้าน พุ่งขึ้น 91.75% รายได้เติบโตทุกช่องทาง ผลตอบแทนเงินลงทุนงอกเงย บอร์ดอนุมัติแจกปันผล 1 บาทต่อหุ้น สำหรับผลการดำเนินงานปี 2564
 Facebook 

นายชาญชัย กงทองลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทรีนีตี้ วัฒนา (TNITY) เปิดเผยว่า บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิในปี 2564 จำนวน 250.14 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 1.18 บาท เพิ่มขึ้น 91.75 % จากงวดปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 130.45 ล้านบาท กำไรที่เพิ่มขึ้นหนุนให้ส่วนของผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1,755.85 ล้านบาท จากเมื่อสิ้นปี 2563 ที่มีจำนวน 1,579.18 ล้านบาท ขณะที่อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) ขึ้นมาอยู่ที่ 14.92 % ต่อปี สูงกว่าปี 2563 ที่มีอัตรา 8.21% ต่อปี

'ผลการดำเนินงานของบริษัทเพิ่มขึ้นตามตลาดหุ้นไทยปี 2564 ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้น 14.4 % โดยดัชนีสิ้นเดือน ธ.ค.ปิดที่ 1,657.62 จุด เพิ่มขึ้นจาก 1,449.35 จุด เมื่อปีก่อน เป็นผลจากรัฐบาลทั่วโลกยังคงอัดฉีดสภาพคล่องและมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เป็นปีที่สอง ทำให้ปริมาณเงินส่วนเกินบางส่วนไหลเข้าสู่ตลาดทุน โดยเฉพาะสินทรัพย์เสี่ยงทั้งหุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์ หนุนให้มูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์เฉลี่ยต่อวันทั้งปีอยู่ที่ 93,846 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.79% จากปี 2563 ที่ 68,607 ล้านบาท' นายชาญชัย กล่าว

นายชาญชัย กล่าวว่า ในปี 2564 บริษัทและบริษัทย่อย มีรายได้รวมทั้งสิ้น 1,008.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40.50% จากปี 2563 ที่มีรายได้ 717.44 ล้านบาท โดยแหล่งรายได้ที่สำคัญที่เติบโตในทุกช่องทาง ประกอบด้วย รายได้ค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 45.23% รายได้ดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมเพิ่มขึ้น 37.15% รายได้ค่าที่ปรึกษาเพิ่มขึ้น 287% และกำไรและผลตอบแทนรวมจากเงินลงทุนรวมเพิ่มขึ้น 22.60%

นายชาญชัย กล่าวว่า จากผลการดำเนินงานของบริษัทที่เติบโตท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลอีกในอัตราหุ้นละ 0.75 บาทต่อหุ้น คิดเป็นเงินทั้งสิ้น 160.80 ล้านบาท ซึ่งเมื่อรวมกับเงินปันผลระหว่างกาลที่จ่ายไปแล้วในเดือนกันยายน 2564 ในอัตราหุ้นละ 0.25 บาทเป็นเงิน 53.60 ล้านบาท รวมทั้งปีบริษัทจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น ในอัตราหุ้นละ 1 บาท คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลในอัตรา 84.74% ของกำไรสุทธิ รวมเป็นเงินที่จ่ายปันผลทั้งสิ้น 214.40 ล้านบาท โดยกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record date) ในวันที่ 28 มี.ค.2565 ซึ่งวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) คือวันที่ 25 มี.ค.2565 และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้น ในวันที่ 18 พ.ค 2565 พร้อมอนุมัติเพิ่มวงเงินในการออกและเสนอขายหุ้นกู้วงเงิน 5,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจในปีนี้ โดยจะขออนุมัติต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ในวันที่ 29 เม.ย.2565
#6254
XSpring Digital พร้อมเปิดบริการ Q2/65 รุกธุรกิจนายหน้า-ผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัล

บมจ.เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล (XPG) ประกาศรุกตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลเต็มสูบหลังบริษัท เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล จำกัด (XSpring Digital) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ผ่าน License Activation จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เมื่อวันที่ 18 ก.พ.65 ที่ผ่านมา ทำให้สามารถให้บริการการเป็นนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลและผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างเป็นทางการ

โดยเอ็กซ์สปริง ดิจิทัล เผยความพร้อม 100% รุกตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล เปิดกระดานชู 3 จุดแข็งครองใจนักลงทุนไทยในฐานะผู้ให้บริการแบบ One-Stop Service เจ้าแรกในประเทศไทย พร้อมจับมือพันธมิตรกลุ่มทุนยักษ์ใหญ่มอบโอกาสการลงทุนที่เหนือกว่า ตั้งเป้าครองส่วนแบ่งตลาด 1 ใน 3 ของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลไทย และจะกลายเป็นหนึ่งในธุรกิจที่สร้างรายได้หลักแก่กลุ่มบริษัท XPG

ทั้งนี้ เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล คาดว่าพร้อมเปิดให้บริการแพลตฟอร์มการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลแบบครบวงจร ภายในไตรมาสสองของปีนี้ ผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน XSPRING ซึ่งรองรับทั้งบนระบบปฏิบัติการ Android และIOS

นางสาววรางคณา อัครสถาพร ผู้จัดการใหญ่ XPG เปิดเผยว่า เอ็กซ์สปริง เห็นโอกาสการลงทุนในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งปัจจุบันถือเป็นหนึ่งสินทรัพย์ยอดนิยมในพอร์ตของกลุ่มนักลงทุนทุกระดับทั้งการลงทุนระยะสั้นและระยะยาว ดังนั้น เราจึงเตรียมแผนพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่งในการนำเสนอโอกาสใหม่ๆ ที่ครอบคลุมการลงทุนทุกรูปแบบให้แก่นักลงทุน ด้วยแพลตฟอร์มที่สามารถเข้าถึงทุกการลงทุนอย่างง่ายดาย ผ่านเอ็กซ์สปริง ดิจิทัล ที่ดำเนินธุรกิจด้านสินทรัพย์ดิจิทัล

ในปีที่ผ่านมานอกจากความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ในฐานะผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล ได้แก่ สิริฮับ โทเคน Real Estate-backed ICO ตัวแรกของไทยที่สามารถระดมทุนได้ถึง 2,400 ล้านบาท และยังถือเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการด้านสินทรัพย์ดิจิทัลเพียงไม่กี่รายในประเทศไทยที่ได้รับ 4 ใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง ได้แก่ 1) นายหน้าซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี 2) นายหน้าซื้อขายโทเคนดิจิทัล 3) ผู้ค้าคริปโทเคอร์เรนซี และ 4) ผู้ค้าโทเคนดิจิทัล

และในวันนี้เอ็กซ์ปริง ดิจิทัลมีความพร้อม 100% หลังจากผ่าน License Activation จากสำนักงาน ก.ล.ต. อย่างเป็นทางการ ทำให้สามารถดำเนินธุรกิจทั้ง 4 ประเภทนี้ได้อย่างเต็มรูปแบบและถูกต้องตามกฎหมาย ด้วยแพลตฟอร์มที่พร้อมรองรับนักลงทุนทุกระดับ พร้อมเดินหน้าเป็นผู้ให้บริการทางการเงินและการลงทุนดิจิทัลแบบ One-stop Service เจ้าแรกในประเทศไทย

XSpring Digital พร้อมบุกตลาดครองใจนักลงทุนด้วย 3 จุดแข็งเหนือคู่แข่ง

การผนึกกำลังพันธมิตรยักษ์ใหญ่ (Partnership) - เอ็กซ์ปริง ดิจิทัล มีพันธมิตรหลากหลายประเภทธุรกิจที่จะช่วยให้ระบบ Ecosystem ครบวงจร ให้สิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่าและตอบโจทย์นักลงทุนทุกระดับ
การเชื่อมต่อกับตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลก (Global Liquidity) ? เอ็กซ์ปริง ดิจิทัลเชื่อมโยงนักลงทุนสู่ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลกผ่าน Coinbase ทำให้นักลงทุนสามารถลงทุนในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลกได้ซึ่งทำให้การซื้อขายมี High Liquidity สามารถลงทุนได้ในปริมาณมาก อีกทั้งยังสามารถซื้อขายในราคาที่เป็นมาตรฐานระดับเดียวกับตลาดโลกอีกด้วย ช่วยเปิดประตูสู่โลกการลงทุนในต่างแดนให้นักลงทุนได้แบบไร้ขีดจำกัด
แพลตฟอร์มการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลครบวงจร (Convergent Digital Asset Trading Platform) - บริษัทฯ นำเสนอแพลตฟอร์มซื้อขายและแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลกแบบครบวงจร ใช้งานง่าย และมีความมั่นคงปลอดภัยสูง โดยมีระบบ KYC ลูกค้าที่ใช้งานง่าย ระบบการอนุมัติการเปิดบัญชีที่รวดเร็ว ตลอดจน ลูกค้าสามารถลงทุนซื้อขายในตลาดต่างประเทศในสกุลเงินไทยและถอนเงินออกมาเป็นสกุลเงินไทยได้โดยไม่ต้องรอการซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนสกุลเงินตราต่างเทศ โดยนักลงทุนสามารถเทรดได้ทั้ง 2 ช่องทางทั้งเว็บไซต์และแอปพลิเคชันทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
"จากความพร้อมทุกด้านที่กล่าวมา ทำให้ เอ็กซ์ปริง ดิจิทัลเชื่อมั่นว่าเราจะสามารถก้าวสู่การเป็นผู้ให้บริการทางการเงินและการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลแบบ One-stop Service เจ้าแรกในไทย ที่นำเสนอบริการทางการเงินและการลงทุนในระบบดิจิทัลแบบครบวงจร นักลงทุนสามารถทำธุรกรรมซื้อขายทั้งคริปโทเคอร์เรนซี และโทเคนดิจิทัลได้ในเจ้าเดียว ครอบคลุมทั้งในตลาดแรกและตลาดรอง เชื่อมต่อ Exchange ทั้งตลาดเงินในไทยและต่างประเทศได้อย่างไร้รอยต่อ ตั้งเป้าส่วนแบ่ง 1 ใน 3 ของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลไทย ตามแผนที่วางไว้

และจะยังคงเสริมสร้างจุดแข็งในความเป็น Financial Ecosystem ครบวงจร เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนาตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลไทยให้เป็นตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลขนาดใหญ่ระดับภูมิภาคและระดับโลก รวมไปถึงการขยายสินทรัพย์ลงทุนไปยังผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มีโอกาสเติบโตสูงต่อไป ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าจะทำให้ เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล เป็นกลุ่มธุรกิจหลักที่สร้างรายได้จำนวนมหาศาลแก่ เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล อย่างชัดเจนในปี 65 นี้" นางสาววรางคณา กล่าว
#6255
SAM เข้าร่วมงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้ กรมบังคับคดีที่ไบเทค บางนา
บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM โดยนายสุโชค พิมลกิตติกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและทีมงานปรับโครงสร้างหนี้ของ SAM ร่วมเปิดโต๊ะเจรจาไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ร่วมกับเจ้าหน้าที่ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท กรมบังคับคดี ในงาน มหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน ครั้งที่ 1 จัดโดยกรมบังคับคดี ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค ห้องภิรัชฮอลล์ 1-3 บางนา กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา การร่วมงานครั้งนี้ SAM สามารถช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนลูกค้าปรับโครงสร้างหนี้มีทางออกรวมทั้งได้ข้อยุติในการแก้ไขปัญหาหนี้สินร่วมกัน และสามารถกลับไปดำเนินชีวิตได้ตามปกติ

EKH ร่วมงาน Opportunity Day โชว์ผลงานปี 64โดดเด่น
 
นายแพทย์อำนาจ เอื้ออารีมิตร (กลาง) กรรมการและผู้อำนวยการโรงพยาบาล บริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด (มหาชน) (EKH) พร้อมผู้บริหาร ร่วมนำเสนอข้อมูลประจำปี 2564 ของบริษัทฯ ในงาน Opportunity Day โดยระบุว่า ภาพรวมกำไรส่วนของผู้ถือหุ้นบริษัทเท่ากับ 344.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 378.27% รับปัจจัยหนุนจากโควิด-19 ทำให้มีผู้เข้ารับรักษาจำนวนมากและมีรายได้เพิ่มจากการตรวจหาเชื้อ และให้บริการฉีดวัคซีน รวมถึงยังมีผู้เข้ารับบริการทางการแพทย์ทั่วไปอย่างต่อเนื่อง ช่วยสนับสนุนให้รายได้ และกำไรปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนภาพรวมธุรกิจปี 2565 คาดว่าจะเติบโตจากผู้ป่วย IPD และ OPD จากการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน และการเปิดโรงพยาบาลเฉพาะทางสำหรับผู้สูงอายุในช่วงไตรมาส2/65