• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Fern751

#2623
COLOR ตั้งเป้ารายได้ปี 65 โต 15% เริ่มรับรู้ฯงานผลิตทุ่นโซลาร์ลอยน้ำใน Q1

นายพีรพันธ์ จิวะพรทิพย์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.สาลี่ คัลเล่อร์ (COLOR) เปิดเผยกับ "อินโฟเควสท์" ว่า บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ปี 65 เติบโต 15% เมื่อเทียบกับฐานรายได้ปี 64 คาดทำได้มากกว่า 1 พันล้านบาท ตามการฟื้นตัวของยอดขายส่วนธุรกิจหลักผลิตเม็ดพลาสติก เบื้องต้นคาดว่าจะเติบโตอย่างน้อย 6-8% ตามการฟื้นตัวภาพรวมเศรษฐกิจไทยที่ประเมินว่าจะเติบโตได้มากกว่า 3% สนับสนุนยอดขายในกลุ่มสินค้าที่เกี่ยวข้องกับพลาสติกประเภทบรรจุภัณฑ์ อุปโภคบริโภค ชิ้นส่วนยานยนต์ และผลิตภัณฑ์พลาสติกเกี่ยวข้องอื่นๆ

นอกจากนี้ บริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจใหม่ผ่านบริษัท เดอะบับเบิ้ลส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยด้านพลังงานทดแทน โดยเป็นผู้ผลิตทุ่นโซลาร์ลอยน้ำ (Floating Solar) เพื่อใช้ในระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนทุ่นลอยน้ำ (Floating PV System) ซึ่งได้มีการการทดสอบระบบเรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นคาดว่าจะสามารถผลิตส่งมอบให้กับลูกค้าได้ตั้งแต่ไตรมาส 1/65 ประเมินรายได้เป็นสัดส่วนเกือบ 10% ของรายได้รวม

ทั้งนี้ ในเฟสแรกบริษัทวางเป้าหมายผลิตทุ่นโซลาร์ลอยน้ำประมาณ 15 เมกะวัตต์ ก่อนจะเริ่มติดตั้งเครื่องจักรผลิตทุ่นโซลาร์ลอยน้ำในเฟสถัดไปในปี 66 เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายระยะ 2 ปีที่ต้องการเพิ่มการผลิตให้ได้อย่างน้อย 45 เมกะวัตต์ คาดจะรับรู้รายได้เต็มปีในปี 67 เป็นต้นไป เป็นส่วนเสริมความแข็งแกร่งด้านศักยภาพทำกำไรให้เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่บริษัทมีอัตรากำไรสุทธิเฉลี่ยอยู่ที่ราว 5%

"ทุ่นโซลาร์ลอยน้ำส่วนใหญ่ที่ใช้กันในไทยยังต้องนำเข้าจากต่างประเทศเป็นหลัก ซึ่งการที่ลูกค้าส่วนมากให้ความสนใจทุ่นโซลาร์ลอยน้ำของบริษัทเพราะมีบริการหลังการขายที่สะดวก ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าให้ความสนใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มการนิคมอุตสาหกรรม และกลุ่มเอกชนที่มีพื้นที่บึงน้ำ เช่น โรงงานผลิตน้ำตาล เป็นต้น ขณะเดียวกันก็ได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ที่รับงานก่อสร้างกลุ่มผู้ผลิตโรงไฟฟ้าและขยายฐานเข้าสู่ลูกค้ากลุ่มชุมชนอีกด้วย"นายพีรพันธ์ กล่าว
#2624
แสนสิริ เคาะมูลค่าเสนอขาย 'หุ้นกู้ดิจิทัลแสนสิริ' ไม่เกิน 2,000 ล้านบาท เปิดจองซื้อพร้อมกัน 18 มกราคมนี้ เริ่ม 8.30 น.

นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แสนสิริ และ ธนาคารกรุงไทยได้รับกระแสตอบรับที่ดี จากการเปิดตัว 'หุ้นกู้ดิจิทัลแสนสิริ' หุ้นกู้ที่คนไทยทุกคนเข้าถึงได้ เป็นรายแรกของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเอเชีย ภายใต้ความร่วมมือของแสนสิริและธนาคารกรุงไทยในการปฎิวัติการลงทุนหุ้นกู้ภาคเอกชนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และเป็นก้าวสำคัญในการขยายศักยภาพของแอปฯ เป๋าตัง ให้ตอบโจทย์เรื่องการออมและการลงทุนไปอีกขั้น โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ มีนักลงทุนให้ความสนใจสอบถามมายังทุกช่องทางการสื่อสารของแสนสิริเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ล่าสุด แสนสิริได้กำหนดมูลค่าการเสนอขายหุ้นกู้ดิจิทัลแสนสิริในครั้งนี้ อยู่ที่ไม่เกิน 2,000 ล้านบาท โดยเป็นมูลค่าเสนอขายตามแผนที่ได้วางไว้ในการเป็นหุ้นกู้ที่คนไทยทุกคนเข้าถึงได้ มูลค่า 1,000 ล้านบาท และมีหุ้นกู้สำรองเพื่อการเสนอขายเพิ่มเติม (กรีนชู) อีกจำนวน 1,000 ล้านบาท ซึ่งแสนสิริคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีเช่นเดียวกับ หุ้นกู้แสนสิริ i-EASY ที่ประสบความสำเร็จในการพลิกโฉมการลงทุนให้เข้าถึงง่ายและเท่าเทียมในปีที่ผ่านมา จากความโดดเด่นและแตกต่างของหุ้นกู้ดิจิทัลแสนสิริ ในการเป็น 'หุ้นกู้ที่คนไทยทุกคนเข้าถึงได้' อีกหนึ่งทางเลือกในการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนสม่ำเสมอ ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นต่ำสุดเพียง 1,000 บาท เป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ดอกเบี้ยคงที่ 3.10% ต่อปี ระยะเวลาลงทุนเพียง 2 ปี 6 เดือน รับดอกเบี้ยทุก 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ นอกจากนี้ หุ้นกู้ดิจิทัลแสนสิริ ยังมีสภาพคล่องด้วยการซื้อ/ขายหุ้นกู้ได้ทันทีในตลาดรองแบบ real-time 24 ชั่วโมง ผ่านวอลเล็ตซื้อขายหุ้นกู้บนแอปฯ เป๋าตัง หลังหุ้นกู้เข้าวอลเล็ตได้อีกด้วย โดยจะเปิดจองพร้อมกัน 8:30 น. ของวันที่ 18 มกราคม 2565 นี้ ผ่านวอลเล็ตซื้อขายหุ้นกู้ บนแอปพลิเคชันเป๋าตังเท่านั้น เพื่อให้นักลงทุนรายย่อยเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม

ด้านนายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงระหว่างวันที่ 5 - 13 มกราคมที่ผ่านมา มีนักลงทุนลงทะเบียนในวอลเล็ตซื้อขายหุ้นกู้ บนแอปฯ 'เป๋าตัง' ของธนาคารกรุงไทยเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนที่สูงมาก ทั้งนี้ส่วนนึงคาดว่า มาจากผู้ที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้ดิจิทัลแสนสิริ ที่ต้องการลงทะเบียนบนวอลเล็ตซื้อขายหุ้นกู้บนแอปฯ เป๋าตัง เพื่อเตรียมการจองซื้อไว้ก่อนวันที่ 18 มกราคม 2565 ซึ่งเป็นวันเปิดให้จองซื้อเป็นวันแรก

สำหรับผู้ที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้ดิจิทัลแสนสิริ สามารถลงทะเบียนวอลเล็ตซื้อขายหุ้นกู้บนแอปฯ 'เป๋าตัง' ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และเปิดจองซื้อพร้อมกันตั้งแต่เวลา 08.30 น. วันที่ 18 มกราคม 2565 จนกว่าจะมีผู้จองซื้อหุ้นกู้เต็มจำนวนเสนอขาย จองซื้อขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท ทวีคูณครั้งละ 1,000 บาทสูงสุดไม่เกิน 50 ล้านบาทต่อราย ทั้งนี้ผู้สนใจสามารถศึกษาขั้นตอนการลงทะเบียนสมัครบริการวอลเล็ตซื้อขายหุ้นกู้ได้ในแอปฯเป๋าตังล่วงหน้าก่อนถึงวันซื้อจริง
#2625



องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะให้ประเทศสมาชิกยกเลิกหรือผ่อนปรนมาตรการการห้ามเดินทางระหว่างประเทศ แม้ว่ายังจะมองว่าการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังคงน่าวิตกกังวลก็ตาม

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า คณะกรรมการฉุกเฉินของ WHO ได้ยื่นข้อเสนอแนะชุดหนึ่งต่อผู้อำนวยการใหญ่ WHO ซึ่งตัดสินใจว่าการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังคงเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ (PHEIC)

คณะกรรมการฯ ระบุว่า ไม่ควรใช้หลักฐานการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดเป็นแนวทางหรือเงื่อนไขเดียวที่จะอนุญาตให้สามารถเดินทางระหว่างประเทศได้ เนื่องจากมีการเข้าถึงวัคซีนอย่างจำกัดทั่วโลก ตลอดจนการกระจายวัคซีนที่ไม่เท่าเทียมกัน

นอกจากนี้ คณะกรรมการยังแนะนำให้ประเทศต่าง ๆ ดำเนินการสอบสวนทางระบาดวิทยาของการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ปฏิสัมพันธ์ระหว่างคนและสัตว์ และกำหนดเป้าหมายการเฝ้าระวังสัตว์ที่เป็นตัวกลางและแหล่งสะสมโรคที่อาจเกิดขึ้น

ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ ยังเรียกร้องให้มีการติดตามตรวจสอบแบบเรียลไทม์และแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และวิวัฒนาการในสัตว์ โดยระบุว่า ข้อมูลดังกล่าวจะช่วยให้เข้าใจในภาพรวมและสามารถระบุเชื้อไวรัส ตลอดจนการประเมินความเสี่ยงด้านสาธารณสุขได้ทันท่วงที
#2626
VPS SSD VPS รายวัน VPS รายเดือน
VPS SSD เช่า ddc ddc i5 ddc i9 ddc server
----------------------
บริการให้เช่าเครื่อง VPS และ Dedicated
VPS เริ่มต้น 150บาท
Dedicated เริ่มต้น2500บาท
Network 1gbps [share]
Brandwidth Unlimited
ฟรีไฟล์วอกันยิงเครื่องเซิฟเวอร์
--------------------
1.เช่าเครื่องโดยระบบอัตโนมัติกด> : https://sun-vps.com/
2.วีดีโอสอนเช่าเครื่องผ่านเว็บ : https://bit.ly/2Xj5Ukh
--------------------
#2628
ดาวโจนส์ปิดร่วง 339.82 จุด, Nasdaq ปรับฐาน หลังหุ้นเทคโนฯดิ่งหนัก

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันพุธ (19 ม.ค.) ขณะที่ดัชนี Nasdaq ทรุดตัวลงอย่างต่อเนื่องและเข้าสู่การปรับฐาน (Correction) เนื่องจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐได้ฉุดหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงอย่างหนัก นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,028.65 จุด ลดลง 339.82 จุด หรือ -0.96%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,532.76 จุด ลดลง 44.35 จุด หรือ -0.97% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,340.26 จุด ลดลง 166.64 จุด หรือ -1.15%

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ดัชนี Nasdaq เข้าสู่การปรับฐานแล้วในวันพุธ เนื่องจากดัชนีทรุดตัวลง 10.7% จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ทำไว้เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2564 ซึ่งโดยปกติแล้วการปรับฐานจะเกิดขึ้นเมื่อดัชนีทรุดตัวลง 10% จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งล่าสุด โดยดัชนี Nasdaq ร่วงลงหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.9% เมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2562 ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.

แจ็ค แอบลิน นักวิเคราะห์จากบริษัท Cresset Capital กล่าวว่า ความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยและการใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินของเฟดส่งผลให้นักลงทุนทุบขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี เนื่องจากบริษัทในภาคส่วนนี้จำเป็นต้องพึ่งพาอัตราดอกเบี้ยต่ำในการกู้ยืมเงินเพื่อลงทุนด้านนวัตกรรม

ทั้งนี้ FedWatch Tool ของ CME Group ระบุว่า นักลงทุนให้น้ำหนักมากกว่า 90% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นเดือนที่เฟดยุติโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)

หุ้น 9 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยร่วงลง 1.81% โดยหุ้นไนกี้ ดิ่งลง 1.25% หุ้นคาปรี โฮลดิ้งส์ ร่วงลง 1.02% โดยคาปรีเป็นบริษัทที่เกิดจากการควบรวมกิจการระหว่างไมเคิล คอร์ส โฮลดิ้งส์ และจิอันนี เวอร์ซาเช่

ดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดิ่งลง 1.37% โดยหุ้นเทสลา ร่วงลง 3.38% หุ้น NVIDIA ร่วงลง 2.23% หุ้นแอปเปิล ร่วงลง 2.10% หุ้นอัลฟาเบท ลดลง 0.65% หุ้นแอมะซอน ร่วงลง 1.65% หุ้นอินเทล ร่วงลง 2.08%

ดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลง 1.81% นำโดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ ร่วงลง 1.98% หุ้นเจพีมอร์แกน ลดลง 1.69% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก ร่วงลง 1.98% หุ้นซิตี้กรุ๊ป ร่วงลง 1.65% หุ้นมาสเตอร์การ์ด ดิ่งลง 1.52%

อย่างไรก็ดี หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ดีดตัวขึ้น 0.39% หลังจากธนาคารเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 4/2564 ที่ระดับ 82 เซนต์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 76 เซนต์ โดยได้แรงหนุนจากธุรกิจบริหารสินทรัพย์ และวาณิชธนกิจ

หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ พุ่งขึ้น 1.83% หลังธนาคารเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 4 ที่ระดับ 2.01 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.91 ดอลลาร์ โดยได้ปัจจัยหนุนจากธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง

หุ้นพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (P&G) พุ่งขึ้น 3.6% ขานรับผลกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 4 ซึ่งอยู่ที่ 1.66 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.65 ดอลลาร์ เนื่องจากการที่บริษัทปรับขึ้นราคาสินค้าได้ช่วยชดเชยผลกระทบจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งขึ้น และค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการขนส่ง

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 1.4% ในเดือนธ.ค. สู่ระดับ 1.702 ล้านยูนิต และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.650 ล้านยูนิต จากระดับ 1.678 ล้านยูนิตในเดือนพ.ย. โดยตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านได้แรงหนุนจากสภาพอากาศอบอุ่นในเดือนธ.ค. แม้ได้รับผลกระทบจากการพุ่งขึ้นของราคาวัสดุก่อสร้าง และการขาดแคลนแรงงาน

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเดือนม.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ยอดขายบ้านมือสองเดือนธ.ค. และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนธ.ค.จาก Conference Board
#2629

ดัชนีดาวโจนส์พลิกร่วงลงสู่แดนลบ โดยปรับตัวลงเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน ขณะที่ตลาดถูกกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ โดยนักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

ณ เวลา 23.33 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 35,340.14 จุด ลบ 28.33 จุด หรือ 0.08%

ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุดในช่วงแรก ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่ง

ราคาหุ้นของแบงก์ ออฟ อเมริกา, มอร์แกน สแตนลีย์ และพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล ต่างดีดตัวขึ้น หลังเปิดเผยผลประกอบการดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

บริษัทจำนวน 33 แห่งในดัชนี S&P 500 ได้รายงานผลประกอบการในไตรมาส 4 แล้ว โดยเกือบ 70% ในจำนวนดังกล่าวมีผลประกอบการสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

อย่างไรก็ดี ภาวะการซื้อขายในตลาดได้รับผลกระทบจากการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.9% ในวันนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2562 ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.

นอกจากนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี พุ่งขึ้นสู่ระดับ 1.06% โดยอยู่เหนือระดับ 1% เป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี

ทั้งนี้ พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีถือเป็นพันธบัตรที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาของตราสารหนี้ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง หากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวขึ้น จะทำให้บริษัทต่างๆ เผชิญต้นทุนที่สูงขึ้นจากการชำระหนี้ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทเหล่านี้ลดการลงทุน และลดการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน

นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 25-26 ม.ค. หลังจากที่เจ้าหน้าที่เฟดหลายรายต่างแสดงความเห็นสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.เพื่อสกัดเงินเฟ้อ ซึ่งรวมถึงนางลาเอล เบรนาร์ด หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟด, นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟด สาขาชิคาโก, นายแพทริก ฮาร์เกอร์ ประธานเฟด สาขาฟิลาเดลเฟีย และนางแมรี ดาลี ประธานเฟด สาขาซานฟรานซิสโก

FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักมากกว่า 90% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นเดือนที่เฟดยุติโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)

โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้ และจะเริ่มปรับลดขนาดงบดุลในเดือนก.ค.หรือเร็วกว่านั้น จากปัจจุบันที่พุ่งสูงกว่า 8 ล้านล้านดอลลาร์
#2630


ปัญหารูขุมขนกว้าง เป็นหนึ่งในสัญญานที่บ่งบอกถึงความอ่อนล้าร่วงโรยของผิว สาว ๆ ที่ต้องเผชิญกับปัญหารูขุมขนกว้าง มักตามมาด้วยใบหน้าที่เริ่มมีสิว ริ้วรอย แลดูหยาบกร้านไม่เรียบเนียนสม่ำเสมอ หลายคนไม่ทราบว่าสาเหตุสำคัญที่ทำให้ใบหน้าดูหยาบกร้าน มีรูขุมขนกว้างก็คือผิวขาดความชุ่มชื้นนั่นเอง เพราะโดยปกติแล้วร่างกายของเราจะหลั่งไขมันตามธรรมชาติเพื่อช่วยปกป้องผิว แต่ปริมาณไขมันที่มากเกินไปก็จะทำให้รูขุมขนกว้างและเกิดปัญหาสิวตามมา ซึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้ร่างกายผลิตไขมันมากเกินความจำเป็น ก็เพราะผิวขาดความชุ่มชื้น ทำให้ร่างกายต้องการสร้างไขมันขึ้นมาเพื่อปกป้องชั้นผิว เมื่อไขมันมากเกินไปก็ทำให้เกิดริ้วรอยและรุขุมขนที่กว้างและมองเห็นได้ชัดตามมา ซึ่งปัญหานี้สามารถจัดการได้ด้วยการคอยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว

คีลส์ สกินแคร์ชั้นนำจากนิวยอร์คเราจึงขอแนะนำ Hydro-Plumping Serum Concentrate เซรั่มลดรูขุมขน ที่โดดเด่นในการเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างต่อเนื่อง ช่วยฟื้นบำรุงผิวจากภาวะผิวขาดน้ำทำให้ผิวเนียนนุ่ม ดูกระชับอิ่มเอิบและอ่อนเยาว์

Hydro-Plumping Serum Concentrate เซรั่มลดรูขุมขน เติมความชุ่มชื้นให้กับผิว

Hydro-Plumping Serum Concentrate เป็น เซรั่ม kiehl's ที่โดดเด่นในการดูแลปัญหาผิวขาดน้ำ ซึ่งปัญหาผิวขาดน้ำนั้น มักจะเกิดขึ้นเมื่ออายุผิวของเราเพิ่มมากขึ้น Hydro-Plumping Serum Concentrate จึงได้รับการปรับปรุงสูตรใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเพิ่มความชุ่มชื้นโดยนำ เอพิเดอร์มัล ไฮเดรชั่น ฟิลเลอร์ มาใช้ในแนวทางใหม่ตามสูตรของเซรั่มคีลส์  ส่วนผสมทางวิทยาศาสตร์อันล้ำสมัยนี้ เมื่อรวมอยู่ในสูตรผสมแล้วจะช่วยเติมน้ำให้กับผิวและมอบผลลัพธ์ในการเพิ่มความอิ่มเอิบที่คงอยู่ได้อย่างยาวนาน รวมถึงช่วยให้ผิวดูยืดหยุ่นขึ้นถึง 93%

Hydro-Plumping Serum Concentrate เป็นเซรั่มทาหน้าสูตรปรับปรุงใหม่ที่ช่วยเสริมความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างต่อเนื่อง ช่วยฟื้นบำรุงผิวจากภาวะผิวขาดน้ำ โดยนำเทคโนโลยี serum-to-liquid technology นวัตกรรมที่ทำให้เซรั่มแตกตัวเป็นน้ำมาใช้ เพื่อพัฒนาให้สูตรผสมที่ได้รับการปรับปรุงนี้สามารถซึมซาบสู่ผิวชั้นนอกระดับตื้น ๆ ได้ลึกสูงสุดถึง 10 ชั้น จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและทำงานเพื่อเติมและเสริมระดับความชุ่มชื้นของผิว ฟื้นฟูความเด้ง ความยืดหยุ่น และความอิ่มเอิบดูอ่อนเยาว์สู่ผิว

ปัญหาผิวร่วงโรย เกิดความหมองคล้ำ รูขุมขนกว้างไม่กระชับ ต้องการเติมน้ำให้ผิวอย่างเร่งด่วน เป็นปัญหาผิวที่ทุกคนสามารถพบเจอได้ หากต้องการแก้ปัญหาเหล่านี้ เพียงใช้เซรั่มลดรูขุมขน HYDRO-PLUMPING SERUM CONCENTRATE เซรั่มสูตรปรับปรุงใหม่ของคีลส์ เป็นประจำทุกวันทั้งเช้าและก่อนนอน ก็ช่วยให้ผิวของคุณแลดูกระชับ ผิวแลดูกระจ่างใส อิ่มน้ำและอ่อนเยาว์ขึ้น
#2631
BRI เผยยอดพรีเซลปี 64 ทุบสถิติรับเปิดโครงการใหม่-ดีมานด์แนวราบแข็งแกร่ง

นางศุภลักษณ์ จันทร์พิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บริทาเนีย (BRI) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบในช่วงไตรมาส 4/64 ยังคงมีดีมานด์ที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง แม้มีสถานการณ์ระบาดระลอกใหม่จากโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน โดยในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา บริษัทสามารถทำยอดขายได้ตามเป้าหมายที่ 2.01 พันล้านบาท ส่งผลให้มียอดพรีเซลรวมในปีที่ผ่านมาสูงกว่า 8.3 พันล้านบาท ถือเป็นสถิติสูงสุดใหม่นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ

ปัจจัยที่สามารถทำยอดพรีเซลได้ดี มาจากการจัดแคมเปญเปิดตัวที่อยู่อาศัยแนวราบ 6 โครงการใหม่ในช่วงไตรมาสสุดท้ายที่ผ่านมา อาทิ โครงการไบรตัน บางปะกง, โครงการบริทาเนีย แพรกษา สเตชั่น เป็นต้น ส่งผลให้สามารถทำยอดพรีเซลได้กว่า 500 ล้านบาท ในช่วง 2 วันของการจัดแคมเปญ คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 28% ของยอดขายทั้งหมดในช่วงไตรมาส 4/64 เนื่องจากศักยภาพโครงการใหม่ที่ตั้งอยู่ในทำเลที่ดี มีการพัฒนาแบบบ้านและฟังก์ชันที่ตอบโจทย์วิถีชีวิต New Normal ประกอบกับสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจพิจารณาเลือกซื้อที่อยู่อาศัยแนวราบในโครงการบ้านจัดสรรเพิ่มขึ้น รวมถึงภาครัฐได้ผ่อนปรนมาตรการ LTV (Loan to Value) หรือการกำหนดอัตราส่วนการให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน

"ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 เราพบว่าผู้บริโภคสนใจเลือกซื้อบ้านและทาวน์โฮมเพิ่มขึ้น เนื่องจากตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยที่ต้องการพื้นที่ทำกิจกรรมต่างๆ มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน โดยโครงการของบริทาเนียได้พัฒนาแบบบ้าน ฟังก์ชัน พื้นที่ส่วนกลาง ให้สามารถรองรับความต้องการของผู้บริโภค" นางศุภลักษณ์ กล่าว
ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันประเมินภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบในปี 65 ยังมีแนวโน้มเติบโตจากปีที่ผ่านมา โดยได้รับปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม ภาคการส่งออกที่ปรับตัวดีขึ้น และมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐ เช่น การผ่อนปรนมาตรการ LTV มาตรการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนและค่าจดจำนอง เป็นต้น จะส่งผลให้ผู้บริโภคมีความสามารถในการซื้อบ้านได้เพิ่มขึ้น และจากสถานการณ์ราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับเพิ่มขึ้นและมีความกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนค่าก่อสร้างและความสามารถการทำกำไรของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งได้มุ่งเน้นการบริหารจัดการซัพพลายเชน ตั้งแต่กระบวนการจัดหาวัสดุก่อสร้างจากผู้ผลิตหรือซัพพลายเออร์ในราคาที่สมเหตุสมผล จนถึงการดูแลการก่อสร้างตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการส่งมอบที่อยู่อาศัยแก่ลูกค้า

"แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจและสถานการณ์โควิดในประเทศยังมีความไม่แน่นอน แต่เรามองว่าภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบในปีนี้ยังมีแนวโน้มเติบโตและมีกำลังซื้ออย่างต่อเนื่อง โดยจะต้องพัฒนาแบบบ้านและฟังก์ชันให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า ซึ่งบริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญกับแนวคิด Human Centric เน้นลูกค้าเป็นจุดศูนย์กลาง มุ่งเน้นการศึกษาทำความเข้าใจพฤติกรรมและปัญหาในการอยู่อาศัย และนำสิ่งเหล่านั้นมาวิเคราะห์พัฒนาแบบบ้านที่ปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัย มีฟังก์ชันใช้สอยที่สามารถตอบสนองความต้องการและช่วยแก้ไขปัญหาในการอยู่อาศัย รวมถึงมุ่งเน้นคัดเลือกที่ดินในทำเลที่มีศักยภาพ เช่น ติดถนนใหญ่, ใกล้รถไฟฟ้า ทางด่วน สิ่งอำนวยความสะดวก เป็นต้น" นางศุภลักษณ์ กล่าว
#2632
ภาวะตลาดหุ้นเกาหลีใต้: หุ้นโซลปิดลบ 21.96 จุด นักลงทุนกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ย

ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน ซึ่งถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี ขณะเดียวกันนักลงทุนยังกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ (KOSPI) ปิดวันนี้ที่ 2,842.28 จุด ลดลง 21.96 จุด หรือ -0.77% มีปริมาณซื้อขายปานกลางที่ 457 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 9.6 ล้านล้านวอน (8.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) และมีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในสัดส่วน 653 ต่อ 230 ตัว

ภาวะตลาดหุ้นจีน: เซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดลบ 11.73 จุด นลท.เทขายหุ้นรถยนต์ไฟฟ้า
 
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดลบในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหุ้นกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าและกลุ่มเฮลธ์แคร์ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน

ทั้งนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ 3,558.18 จุด ลดลง 11.73 จุด หรือ -0.33%

ดัชนีหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ร่วงลง 2.78% ขณะที่ดัชนีหุ้นกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าดิ่งลง 3.7%

นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาส 4/2564 ของจีนขยายตัวเพียง 4% เนื่องจากเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีได้ถูกกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะสายพันธุ์โอมิครอน

โกลด์แมน แซคส์ ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในปี 2565 ลงสู่ระดับ 4.3% จากเดิมที่ระดับ 4.8% โดยระบุว่ารัฐบาลจีนกำลังเผชิญกับความยากลำบากมากขึ้นในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน
#2633
เพิ่มจุดบริการใหม่ล่าสุด "ตู้ตรวจเครดิตบูโรด้วยตนเอง" ณ สถานีกลางบางซื่อ จุดฉีดวัคซีนโควิด-19 สร้างภูมิคุ้มกันสุขภาพกายและเช็กสุขภาพทางการเงิน

บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) เพิ่มจุดบริการ "ตู้ตรวจเครดิตบูโรด้วยตนเอง" แห่งใหม่ล่าสุด ณ สถานีกลางบางซื่อ จุดฉีดวัคซีนโควิด-19 สร้างภูมิคุ้มกันสุขภาพกายและเช็กสุขภาพทางการเงินกับเครดิตบูโรไปพร้อม ๆ กัน รองรับผู้ใช้บริการได้ทั่วถึง ถือเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งทางรางที่ใหญ่ที่สุดของไทยและอาเซียนซึ่งเชื่อมต่อทุกระบบและรองรับการเดินทางทุกรูปแบบทั่วไทยอีกด้วย เพิ่มช่องทางการเข้าถึงข้อมูลเครดิตของตนเองที่สะดวกและรวดเร็ว รับรายงานรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (NCB e-Credit Report) ทางอีเมลได้ทันที ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ความต้องการของประชาชนในสังคมยุคดิจิทัลในปัจจุบัน พร้อมให้บริการตรวจข้อมูลเครดิตแบบสรุป (ฟรี) ข้อมูลเครดิตและเครดิตสกอริ่ง ตั้งแต่วันนี้?เป็นต้นไป

นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ เครดิตบูโร เปิดเผยว่า เครดิตบูโรมุ่งพัฒนาและให้ความสำคัญในการเข้าถึงข้อมูลเครดิตของตนเองมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนทราบประวัติทางการเงินของตนเองในฐานะที่เป็นเจ้าของข้อมูล ป้องกันภัยการเงินในยุคปัจจุบัน เตรียมความพร้อมก่อนขอสินเชื่อต่าง ๆ จากสถาบันการเงิน และช่วยตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลเครดิตของตนเองอีกด้วย เครดิตบูโรจึงเพิ่มช่องทางการตรวจข้อมูลเครดิตเพื่ออำนวยความสะดวกให้เจ้าของข้อมูลเพิ่มมากขึ้นในการเข้าถึงรายงานข้อมูลเครดิตและเครดิตสกอริ่งอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดเพิ่มจุดบริการ "ตู้ตรวจเครดิตบูโรด้วยตนเอง" (ตู้คีออส) ณ สถานีกลางบางซื่อ ซึ่งปัจจุบันเปิดเป็นศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด-19 หรือเป็นที่ทราบกันดีในชื่อ "ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ" เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันสุขภาพกายและสามารถเช็กสุขภาพทางการเงินกับเครดิตบูโรไปพร้อม ๆ กันได้ด้วย อีกทั้ง ในอนาคตอันใกล้ สถานีกลางบางซื่อจะเป็นศูนย์กลางจุดเชื่อมต่อของเส้นทางคมนาคมทุกระบบและรองรับการเดินทางทุกรูปแบบทั่วไทย ผู้ใช้บริการสามารถตรวจข้อมูลเครดิตแบบสรุป ข้อมูลเครดิตและเครดิตสกอริ่งผ่านตู้คีออส โดยรับรายงานรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (NCB e-Credit Report) ทางอีเมลได้ทันที สะดวก รวดเร็ว ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ความต้องการของประชาชนในสังคมยุคดิจิทัลในปัจจุบัน เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 - 23.00 น. เริ่มแล้ววันนี้?เป็นต้นไป

สำหรับจุดบริการ "ตู้คีออส" จะตั้งอยู่บริเวณด้านหลังเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ประตูทางเข้า 1 (จุดติดตั้งนาฬิกาประจำสถานี หรือนาฬิกาหน้าปัดหมายเลข ๙) ซึ่งในปัจจุบันสถานีกลางบางซื่อถูกเปิดเป็นจุดให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 สำหรับประชาชนเพื่อเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันสุขภาพกาย ป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 รวมทั้งตู้คีออสดังกล่าวยังเป็นจุดให้บริการเช็กสุขภาพทางการเงินอีกด้วย นับเป็นการเพิ่มความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลเครดิตให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นอย่างมาก สถานีกลางบางซื่อถือเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งทางรางที่ใหญ่ที่สุดของไทยและอาเซียนซึ่งเชื่อมต่อทุกระบบรางและรองรับการเดินทางทุกรูปแบบทั่วไทย ซึ่งนับเป็นสุดยอดศูนย์กลางการเดินทางสมัยใหม่เพื่อรองรับผู้ใช้บริการทุกระดับอย่างแท้จริง

"ตู้คีออส" ยังรองรับกระแสโลกยุคดิจิทัล เพิ่มความสะดวก รวดเร็ว รอรับรายงานได้ทันที สามารถเลือกประเภทรายงานข้อมูลเครดิตได้ตามต้องการ ผู้ที่สนใจตรวจข้อมูลเครดิตแบบสรุป ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ เพียงแค่ใช้บัตรประชาชนของตนเอง สำหรับผู้ที่สนใจตรวจข้อมูลเครดิตและเครดิตสกอริ่ง (เฉพาะรายการบุคคลธรรมดาของตนเอง) ผ่านตู้คีออสดังนี้ได้ง่าย ๆ โดยเตรียมพร้อมก่อนใช้บริการ ได้แก่ 1) บัตรประชาชนของตนเอง 2) หมายเลขโทรศัพท์มือถือของตนเอง (เพื่อรับรหัส OTP) 3) อีเมลของตนเอง (สำหรับรับรายงานรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (NCB e-Credit Report) ทางอีเมล สำหรับการชำระค่าบริการจะมี 2 รูปแบบ คือ 1) จ่ายได้ทันที แค่สแกน QR Code ที่หน้าจอตู้คีออส หรือ 2) จ่ายผ่าน QR Code ที่จัดส่งไปทางอีเมลของท่านและต้องชำระภายใน 24 ชั่วโมงเท่านั้น โดยหลังจากที่ท่านทำการตรวจเครดิตบูโรที่ตู้คีออสเสร็จสิ้นแล้ว รายงานจะถูกจัดส่งเป็นรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (NCB e-Credit Report) ไปยังอีเมล (E-mail Address) ของท่านทันที เป็นไฟล์ PDF และรหัส (Password) ที่ใช้ในการเปิดไฟล์รายงาน จะถูกส่งไปยังหมายเลขโทรศัพท์มือถือ ตามที่ท่านได้ลงทะเบียนไว้กับธนาคารหรือสถาบันการเงินเท่านั้น ทั้งนี้ขอให้ตรวจสอบข้อมูลอีเมลของท่าน ในกล่องเข้า (Inbox) หรือจดหมายขยะ (Junk) หรือถังขยะ (Trash) หรือสแปมเมล (Spam) ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.ncb.co.th หรืออีเมล consumer@ncb.co.th

นอกจากนี้ ท่านสามารถใช้บริการ "ตู้คีออส" อื่น ๆ ณ ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร บนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส หมอชิต ชิดลม (ภายในสถานี) หรือที่บริเวณท่าเรือวังหลัง (ใกล้ประตูทางเข้าโรงพยาบาลศิริราช) และชั้น 4 ศูนย์การค้า ดิ อเวนิว รัชโยธิน กรุงเทพฯ ทั้งนี้ เครดิต บูโรตระหนักและให้ความสำคัญเรื่อง "การป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 แบบครอบจักรวาล (Universal Prevention for COVID-19)" โดยปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้บริการและเจ้าหน้าที่ ภายในศูนย์ตรวจเครดิตบูโรทุกแห่ง ได้แก่ การใส่หน้ากากอนามัย ตรวจอุณหภูมิ บริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ จัดลำดับการเว้นระยะห่าง ระหว่างการให้บริการ การชำระเงินผ่าน QR Code เพื่อลดการสัมผัส และการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการระบาดโควิด-19 ตามที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขแนะนำไว้

ทั้งนี้ เครดิตบูโรได้ให้ความสำคัญในการสร้างวินัยทางการเงินด้วยตนเอง และการเข้าถึงข้อมูลเครดิตของตนเองมาอย่างต่อเนื่อง โดยอำนวยความสะดวกให้กับเจ้าของข้อมูลในการตรวจสอบรายงานข้อมูลเครดิตได้อย่างรวดเร็ว หลากหลายช่องทาง อันจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในช่วยตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลเครดิตของตนเอง ป้องกันภัยการเงินในยุคปัจจุบัน และตระหนักถึงการสร้างวินัยทางการเงินด้วยตนเองอย่างยั่งยืน ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการลดโอกาสการก่อหนี้ของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่หรือนิวเจน เช่น การรู้จักออม การใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาหนี้สินล้นตัวของตนเอง อันจะก่อให้เกิดปัญหาครอบครัว สังคม และปัญหาหนี้ครัวเรือนในระดับมหภาค รวมทั้งการรณรงค์สร้างวัฒนธรรม "ออมก่อนกู้ คิดก่อนใช้ มีวินัย เมื่อมีหนี้" เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนมีการวางแผนการเงิน พร้อมมีวินัยในการออมเงินและรักษาเครดิตของตนเอง เป็นการกระตุ้นและส่งเสริมให้ประชาชนทั่วไปได้ตระหนักในเรื่องการออม ภาระหนี้ การบริหารจัดการหนี้ การมีวินัย ใช้หนี้ครบใช้หนี้ตรงตามเวลา เพราะอยากเห็นคนไทยมีวินัยทางการเงินเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
#2634
กรมประมง หนุนผู้ประกอบการ-เกษตรกรผลิตสัตว์น้ำปลอดภัยไร้โควิด-19

นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ รองอธิบดีกรมประมง กล่าวว่า กรมประมงเล็งเห็นความสำคัญในการยกระดับคุณภาพและมาตรฐานของระบบการผลิตสินค้าสัตว์น้ำทั้งห่วงโซ่อุปทาน ดังนั้น เพื่อช่วยในการแก้ไขปัญหาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงกำหนดมาตรฐานเฉพาะกิจเพิ่มเติม จากมาตรฐานสุขอนามัยครอบคลุมในทุกกระบวนการของการตรวจสอบ ตั้งแต่การขนส่งจากแหล่งจับ แหล่งเลี้ยง แหล่งกระจายสินค้า จนกระทั่งการเข้าสู่ระบบจำหน่ายให้กับผู้บริโภคในตลาดต่างๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับสินค้าสัตว์น้ำว่า มีกระบวนการจัดการที่มีคุณภาพและปลอดภัย

สำหรับในปีงบประมาณ 64 ที่ผ่านมา ได้มีการออกกำหนดมาตรการเพิ่มเติมเฉพาะกิจในการป้องกันการปนเปื้อนเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ ซึ่งมีผลบังคับใช้ในกลุ่มผู้ประกอบการกระบวนการผลิตที่เกี่ยวข้อง 4 ประเภท ได้แก่ 1. เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ 2. ชาวประมง-เรือประมง 3. ผู้ประกอบการสะพานปลา-ตลาดกลางค้าสัตว์น้ำ และ 4. ผู้ประกอบการร้านค้า Modern Trade

ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 65 กรมฯ ได้เข้าตรวจประเมินเพื่อต่ออายุใบรับรองการปฏิบัติตามมาตรการเพิ่มเติมเฉพาะกิจ ในการป้องกันการปนเปื้อนเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สำหรับ Modern Trade ที่ดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดย บมจ.สยามแม็คโคร (MAKRO) เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการร้านค้าที่ผ่านการรับรองแบบกลุ่ม จำนวนทั้งสิ้น 130 สาขาทั่วประเทศ และได้ใช้หลักเกณฑ์ในการสุ่มตรวจประเมินให้การรับรองแบบกลุ่มตามมาตรฐาน ISO 17065 โดยได้จำนวนตัวแทนในการตรวจประเมิน จำนวน 11 สาขา ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 เขตพื้นที่ ดังนี้

1. เขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล จำนวน 5 สาขา ได้แก่ สาขานครอินทร์ สาขาแจ้งวัฒนะ จังหวัดนนทบุรี สาขาศรีนครินทร์ สาขาลาดพร้าว กรุงเทพฯ และสาขาจังหวัดนครปฐม

2. เขตพื้นที่ภาคตะวันออก จำนวน 4 สาขา ได้แก่ สาขาจังหวัดระยอง สาขาแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี สาขาจังหวัดฉะเชิงเทรา และสาขากบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี

3. เขตพื้นที่ภาคตะวันตก จำนวน 2 สาขา ได้แก่ สาขาจังหวัดกาญจนบุรี และสาขาจังหวัดเพชรบุรี

นอกจากนี้ กรมประมงยังร่วมกับ MAKRO ทำการจัดฝึกอบรมออนไลน์ผ่านระบบปฏิบัติการไมโครซอฟท์ทีม เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจในเรื่องการผลิตสัตว์น้ำให้ปลอดภัย มีคุณภาพตามมาตรฐานจีเอพี (มกษ.7436-2563) สำหรับฟาร์มเลี้ยงสัตว์น้ำเพื่อการบริโภค และการดูแลคุณภาพสัตว์น้ำหลังการจับ ให้แก่เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำซึ่งเป็นฟาร์มเครือข่ายของบริษัทฯ และผู้ผลิตสินค้าประมง รวมถึงพนักงานของบริษัทฯ จำนวนทั้งสิ้น 71 ราย

ทั้งนี้ กรมประมงเชื่อมั่นว่าจะสามารถยกระดับให้ผู้ผลิตสัตว์น้ำก้าวสู่มาตรฐานความปลอดภัย จนเกิดการยอมรับในระดับสากล ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจว่า สินค้าสัตว์น้ำที่ผลิตออกจำหน่าย เป็นสินค้าที่ดี มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน และปลอดภัยต่อผู้บริโภคอย่างแท้จริง

 
#2635


ใครที่ใช้หูฟังมาเนิ่นนานคงจะได้เวลาความสะอาดเพื่อเพิ่มความสบายหูกันมากขึ้นกว่าเดิม เพราะจะมาเปิดสูตรการทำความสะอาดแบบหมดเปลือก ทั้งหูฟังไร้สาย และประเภทอื่น ๆ หลายคนเลือกใช้งานกันอยู่ ซึ่งใครจะใช้แบบไหน ต้องการรู้วิธีทำความสะอาดอย่างไรบ้าง ก็ไปติดตามพร้อมกันได้ ณ บัดนี้ รับรองลดความเสี่ยงการเกิดโรคเกี่ยวกับหูได้จริง

วิธีการทำความสะอาดหูฟังไร้สายและประเภทอื่น ๆ เรื่องที่คนชอบใช้ต้องรู้

1. ให้แกะที่ครอบหูฟังออกก่อน หรือเอายางนิ่ม ๆ หรือซิลิโคนที่ครอบอยู่มาทำความสะอาด ซึ่งอาจใช้น้ำสบู่อ่อน ๆ มาผสมน้ำ หรือแข่น้ำอุ่นก็ได้ ทำให้คราบสกปรกต่าง ๆ หลุดลอก แต่ที่อยากให้เลี่ยงคือน้ำยาทำความสะอาดต่าง ๆ เพราะจะทำลายความชุ่มชื้น ผิววัสดุแห้งกว่าเดิม
2. มาเช็ดตัวหูด้วยการใช้น้ำยาโดยเฉพาะ หรือแอลกอฮอล์ผสมน้ำ อาจใช้สำลีหรือผ้าเปียก แต่ต้องเป็นผ้าที่ไม่มีขน เพราะบางครั้งขนที่อยู่กับผ้าหลุด หรือตกค้างติดอยู่ในรูหูฟัง
3. กรณีที่เป็นหูแบบแบน มีหน้าจอสัมผัสเป็นรู ให้เอาไม้จิ้มฟันแคะออก ทำให้เบามือ
4. นำ Hydrogen Peroxide ประมาณ 3% มาผสมในน้ำ แล้วใช้แปรงสีฟันที่ขนนุ่มจุ่ม ขัดไปตามซอกเล็กซอกน้อย แต่ก็ไม่ควรขัดมากจนเกินไป จากนั้นก็ใช้ผ้าเปียกหรือน้ำอุ่นเช็ดซ้ำเอาคราบสกปรกออกอีกครั้ง
5. คอตตอนบัดที่เป็นไม้สำลีชุบในน้ำอุ่นอีกครั้ง แล้วลูบไล้เบา ๆ เอาคราบต่าง ๆ ออกจนหมด แล้วใช้แอลกอฮอล์ หรือผ้าเปียกน้ำมาเช็ดซ้ำอีกครั้ง เท่านี้ก็เรียบร้อย

ส่วนการทำความสะอาดหูฟังเกมมิ่ง จริง ๆ แล้วอยากให้ดูที่วัสดุที่ผลิต ส่วนใหญ่จะเป็นหนัง ซิลิโคน หรือพลาสติก แนะนำว่าให้ใช้แอลกอฮอล์มาเจือจางเล็กน้อยกับน้ำกลั่น หรือน้ำสะอาด จากนั้นก็ใช้ผ้ามาเช็ดอีกครั้งให้ทั่ว และต้องไม่ลืมที่จะถอดหัวครอบออกก่อนด้วย เพื่อการทำความสะอาดด้านในสะดวกมากขึ้น ไม่ทำให้สาร หรือกลิ่นใด ๆ ตกค้างอยู่ การเช็ดก็ใช้สำลี คอตตอนบัด มาปั่น ๆ ถู ๆ หูเอาคราบออก แล้วใช้ผ้าเปียกมาเช็ดซ้ำอีกครั้ง

ต่อจากนี้ไปไม่ว่าอุปกรณ์ประเภทไหนก็จะเหมือนใหม่ได้อีกครั้ง พร้อมให้การฟังมีแต่เสียงที่เพิ่มอรรถรสในการใช้งานอย่างสมบูรณ์แบบมากที่สุด ทั้งนี้ อยากแนะนำการบำรุงรักษาอุปกรณ์นี้ด้วยการเก็บไว้ในกล่องเมื่อไม่ใช้งาน และในกล่องก็ควรมีการดูดซับเอาความชื้นออก ด้วยซิลิก้า ป้องกันเชื้อรา การเช็ดควรใช้ผ้าขนนุ่มเสมอ สุดท้ายสำคัญมากพยายามเลี่ยงการใช้หูฟังร่วมกันคนอื่น มีเป็นของตนเองดีที่สุด
#2636
วธ.ประสาน 29 สมาคมกลุ่มศิลปินและกลุ่มเครือข่ายอุตสาหกรรมบันเทิง เปิดขึ้นทะเบียนรับการช่วยเหลือเยียวยาผลกระทบจากโควิด-19

นายประสพ เรียงเงิน รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรมและโฆษกกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติมอบหมายให้กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ร่วมกับกระทรวงแรงงาน พิจารณาแนวทางช่วยเหลือเยียวยาบรรเทาความเดือดร้อนแก่กลุ่มศิลปินและกลุ่มเครือข่ายอุตสาหกรรมบันเทิงที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โดยจากการหารือร่วมกันในส่วนของกลุ่มศิลปินและกลุ่มเครือข่ายอุตสาหกรรมบันเทิงที่มีอายุเกิน 65 ปีที่เป็นกลุ่มแรงงานนอกระบบและไม่เข้าข่ายเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 ตาม พ.ร.บ.ประกันสังคม พ.ศ.2533 และที่แก้ไขเพิ่มเติมให้แจ้งความประสงค์เพื่อขึ้นทะเบียนรับการช่วยเหลือเยียวยาจากรัฐบาลผ่านสมาคมเครือข่ายอุตสาหกรรมบันเทิงและสมาคมศิลปินพื้นบ้าน ทั้งหมด ๒๙ สมาคม ได้แก่

1. สมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ 2.สมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย 3. สมาคมวิชาชีพภาพยนตร์และดิจิทัลมีเดีย 4. สมาคมผู้ประกอบการแอนิเมชั่นและคอมพิวเตอร์กราฟฟิกส์ไทย 5. สมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์เกมไทย(TGA) 6. สมาคมดิจิทัลคอนเทนต์ไทย (DCAT) 7. สมาคมนักเขียนบทละครโทรทัศน์ 8. สมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย 9. สมาคมส่งเสริมวิชาชีพวิทยุและโทรทัศน์ไทย 10. สมาคมผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์ 11. สมาคมผู้บริหารการผลิตภาพยนตร์ต่างประเทศ 12. สมาคมไทยธุรกิจอิเล็คโทรนิคบันเทิง 13. สมาคมการค้าผู้ประกอบการธุรกิจบันเทิงไทย 14. สมาคมการค้าผู้ผลิตภาพยนตร์สารคดีไทย 15. สมาพันธ์สมาคมวิชาชีพวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ (RTBPF) 16. มูลนิธิสวัสดิการนักแสดง 17. สมาคมศิลปินตลกแห่งประเทศไทย 18. สมาคมดนตรีแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ 19. สมาคมนักเพลงลูกทุ่งแห่งประเทศไทย 20.สมาคมผู้ประกอบอาชีพระบบแสงเสียงภาพไทย 21. สมาคมลิเกประเทศไทย 22. สมาคมเพลงพื้นบ้านภาคกลางประเทศไทย 23. สมาคมอุปรากรจีน 24. สมาคมศิลปินขับซอล้านนา 25. สมาคมกลองและศิลปะการแสดงล้านนา 26. สมาคมศิลปินพื้นบ้านอีสานใต้ 27. สมาคมหมอลำอีสาน 28. สมาคมหนังตะลุงปักษ์ใต้ และ 29.สหพันธ์สมาคมโนราแห่งประเทศไทย

นายประสพ กล่าวอีกว่า สำหรับกลุ่มศิลปินและกลุ่มเครือข่ายอุตสาหกรรมบันเทิงที่มีอายุเกิน 65 ปีทั้งผู้ที่เป็นสมาชิกและผู้ที่ไม่ได้เป็นสมาชิก 29 สมาคมข้างต้นสามารถไปติดต่อแจ้งความประสงค์เพื่อขึ้นทะเบียนรับการช่วยเหลือเยียวยาที่สมาคมต่างๆ ในสาขาอาชีพนั้นๆ ได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 24 มกราคมนี้ โดยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนวัฒนธรรม 1765 หรือ ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊กกระทรวงวัฒนธรรม หรือ เว็บไซต์กระทรวงวัฒนธรรม www.m-culture.go.th ทั้งนี้ วธ.จะประสานงานกับ 29 สมาคมเพื่อรวบรวมข้อมูลและจำนวนกลุ่มศิลปินและกลุ่มเครือข่ายอุตสาหกรรมบันเทิงที่มีอายุเกิน 65 ปีที่ได้แจ้งความประสงค์เพื่อขึ้นทะเบียนไว้ เพื่อเสนอของบประมาณช่วยเหลือเยียวยาผลกระทบจากโรคโควิด-19 จากรัฐบาลต่อไป
#2637
สายน้ำมัน คาบูหัวใจ

คลิกที่รูปภาพเพื่อซื้อสินค้า
4x6


สายน้ำมัน คาบูหัวใจ

การใช้งาน ใช้เป็นท่อส่งผ่านน้ำมันเชื้อเพลิงจากถังน้ำมันไปสู่หัวฉีดเครื่องยนต์ ทนต่อความร้อนภายในห้องเครื่องยนต์ สามารถใช้ได้กับไบโอดีเซล แก๊สโซฮอล์ E10/E20/E85 น้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซล
ยางชั้นใน ยางสังเคราะห์ ทนต่อสารแอลกอฮอล์ที่ผสมอยู่ในเชื้อเพลง และทนต่อการซึมผ่านของน้ำมันได้ดี
ชั้นเสริมแรง เสริมความแข็งแรงด้วยด้ายสังเคราะห์ทอละเอียด มีความยืดหยุ่นสูง
ยางชั้นนอก ยางสังเคราะห์ ทนต่อโอโซนและความร้อน

คลิกที่ข้อความเพื่อซื้อสินค้า

สายน้ำมัน คาบูหัวใจ
#2638
ASW เปิดยุทธศาสตร์ปี 65 ลุยเต็มอัตราศึก! ประกาศบิ๊กดีล JV ยักษ์อสังหาฯ ชั้นนำของญี่ปุ่น "ทาคาระ เลเบ็น" พร้อมเข้าเทกฯ คอนโดฯรัชดา-สุทธิสาร " แม็กซี่ พรีเมียร์ วัน "

" แอสเซทไวส์ " ผงาดปีเสือ เปิดกลยุทธ์ขยายธุรกิจ ประกาศร่วมทุน "ทาคาระ เลเบ็น" ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำญี่ปุ่น ที่มีชื่อเสียงมายาวนานกว่า 50 ปี เข้าถือหุ้น เตรียมพร้อมลุยพัฒนาคอนโดฯ ย่านบางนา โครงการแรก "แอทโมซ บางนา" มูลค่ากว่า 2,200 ล้านบาท พร้อมสบช่องเข้าลงทุนใน "แม็กซี่ พรีเมียร์ วัน" ในสัดส่วน 100% นำร่องโปรเจคแรก Maxxi Prime Ratchada-Sutthisan คอนโดฯ Low Rise ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสุทธิสารและส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีลาดพร้าว มูลค่า 570 ล้านบาท บิ๊กบอส "กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์" ระบุเพิ่มศักยภาพธุรกิจ มั่นใจผลตอบแทนสุดคุ้ม หนุนรายได้-กำไรโตแกร่ง

นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) (ASW) ) ผู้พัฒนาอสังหาฯ ที่เป็นผู้นำด้านไลฟ์สไตล์ ด้วยแนวคิด "ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ" หรือ "We build Happiness" เปิดเผยว่า ในปี 2565 บริษัทฯ เดินหน้าขยายธุรกิจเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง โดยได้เข้าร่วมทุน (Joint Venture Agreement) กับบริษัท Takara Leben (ทาคาระ เลเบ็น) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงและมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจอสังหาฯ มายาวนานกว่า 50 ปี โดยบริษัทฯจะถือหุ้นในสัดส่วน 51% และทาคาระ เลเบ็น จะถือหุ้นในสัดส่วน 49% โดยจะร่วมกันพัฒนาโครงการคอนโดฯ "แอทโมซ บางนา" มูลค่าโครงการกว่า 2,200 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการโลว์ไรส์ขนาดใหญ่บนทำเลศักยภาพย่านบางนา ใกล้รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว และ MRT สายสีเหลือง ประเดิมเป็นโครงการแรก

ทั้งนี้ Takara Leben เป็นบริษัทในเครือ ทาคาระ กรุ๊ป เป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำที่พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมและบ้านเดี่ยวมากว่า 500 โครงการ ทั้งยังประกอบธุรกิจโรงผลิตไฟฟ้าและธุรกิจโรงแรมในญี่ปุ่น ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2515 จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียวเมื่อปี พ.ศ. 2547 และจะดำเนินธุรกิจครบ 50 ปีในปีนี้

นายคาซูอิชิ ชิมาดะ (Kazuichi Shimada) CEO บริษัท ทาคาระ เลเบ็น จำกัด กล่าวว่า บริษัทมองหาพันธมิตรที่มีความแข็งแกร่งในแต่ละประเทศ เพื่อร่วมกันสร้างโอกาสในการเติบโต โดยแอสเซทไวส์ เป็นบริษัทมหาชนที่มีความมั่นคงและอนาคตไกลในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของไทย พิสูจน์ได้จากทั้งคุณภาพของโครงการ และความสามารถในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังมีปรัชญาในการดำเนินธุรกิจตรงกัน คือ ยึดมั่นในการออกแบบความสุขเพื่อการอยู่อาศัย บริษัทจึงมั่นใจและตัดสินใจร่วมทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในประเทศไทยเป็นครั้งแรก

นอกจากนี้ บมจ. แอสเซทไวส์ได้แจ้งการเข้าซื้อกิจการบริษัท แม็กซี่ พรีเมียร์ วัน จำกัด ในสัดส่วน 100% ของทุนจดทะเบียน เพื่อขยายการลงทุนในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งบริษัท แม็กซี่ พรีเมียร์ วัน จำกัด เป็นผู้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม Maxxi Prime Ratchada-Sutthisan คอนโดฯ ฯ Low Rise สูง 8 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 218 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 570 ล้านบาท ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสุทธิสารประมาณ 400 เมตร และส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีลาดพร้าว ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณกลางปี 2565 โดยปัจจุบันสร้างเสร็จแล้วประมาณ 83%

"โครงการนี้ผ่านการคัดสรรมาเป็นอย่างดี สอดคล้องกับหลักการพัฒนาโครงการของแอสเซทไวส์ คือ เน้นสร้างความสุขในการอยู่อาศัย ผ่านทั้งทำเลศักยภาพ ตัวโครงการที่ดี การออกแบบห้องพักที่สวยงามลงตัว และการมอบความสุขด้วยส่วนกลาง (Facility) ที่มอบให้อย่างเต็มที่ โครงการมีกำหนดจะเสร็จสิ้นในไตรมาสแรกของปี 2565 ซึ่งหมายความว่าพร้อมโอนกรรมสิทธิ์เพื่อสร้างรายได้ให้กับบริษัทได้ในเวลาอันรวดเร็ว ช่วยลดระยะเวลาในการพัฒนาโครงการ ทั้งยังเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะได้อัตราผลตอบแทนภายใน (IRR) สูงกว่าการพัฒนาโครงการเองจากที่ดินเปล่า " นายกรมเชษฐ์ กล่าว

"ASW เราแสวงหาการลงทุนในทุกรูปแบบ การร่วมมือหรือ Synergy เพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ถือเป็นแนวทางการดำเนินธุรกิจของบริษัท ทั้งกับพันธมิตรในลักษณะ Joint Venture และการเข้าซื้อกิจการบริษัท แม็กซี่ พรีเมียร์ วัน จำกัด เพราะเป็นการสร้างโอกาส เพิ่มศักยภาพความแข็งแกร่งให้กับ ASW มากยิ่งขึ้น อีกทั้งเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับการพัฒนาโครงการอสังหาฯ ผลักดันรายได้และกำไรเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และยั่งยืนในอนาคต" นายกรมเชษฐ์กล่าว
#2639
เลือกได้ว่างั้น!อาซาร์ปัดซบนิวคาสเซิ่ลย้ำย้ายเล่นทีมใหญ่เท่านั้น

สื่อดังในสเปน ตีข่าว เอแด็น อาซาร์ จอมทัพกระดูกเปราะ เรอัล มาดริด ไม่แยแสที่จะไปเล่นให้ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด แม้ต้นสังกัดจะยอมรับข้อเสนอแล้วก็ตาม โดยเหตุผลก็คือนักเตะจะย้ายทีมก็ต่อเมื่อได้เล่นให้สโมสรใหญ่เท่านั้น ส่วนทีมหนีตายไม่เอาเด็ดขาด

     เอแด็น อาซาร์ เพลย์เมกเกอร์ชาวเบลเยียมของ เรอัล มาดริด ปฏิเสธย้ายไปเล่นกับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด แม้ 'ราชันชุดขาว' ต้นสังกัดจะยอมรับข้อเสนอ 40 ล้านยูโร (ราว 1,520 ล้านบาท) บวกรายได้อื่นๆ อีก 10 ล้านยูโร (ราว 380 ล้านบาท)

     จอมทัพวัย 30 ปี ต้องพบกับช่วงเวลาที่ย่ำแย่นับตั้งแต่ที่ย้ายจาก 'สิงโตน้ำเงินคราม' เชลซี มาเล่นในถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาเบว เมื่อปี 2019 ด้วยค่าตัวขั้นต้น 88 ล้านปอนด์ (ราว 3,872 ล้านบาท) โดยเหตุผลสำคัญเพราะเจอกับอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อหลังต้นขาเล่นอย่างมาตลอด

     แม้ปัจจุบัน ดาวเตะทีมชาติเบลเยียม จะหายเจ็บแล้วแต่อนาคตของเขาก็ยังดูมืดมนในยุคกุนซือคาร์โล อันเชลอตติ ที่มักจะใช้งาน วินิซิอุส จูเนียร์ กับ โรดรีโก้ มากกว่า 

     ด้าน ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานสโมสร คาดหวังที่จะปล่อย อาซาร์ ออกไปในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะรอบ 2 เดือนมกราคมนี้ เพื่อเป็นการเตรียมพื้นที่ต้อนรับ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ที่จะย้ายจาก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง มาอยู่กับ 'โลส บลังโกส' แบบไม่มีค่าตัวตอนซัมเมอร์นี้

     สอดคล้องกับรายงานของ 'เอล นาซิอองนาล' สื่อดังในแดนกระทิงดุ ที่ระบุว่า เปเรซ ยอมรับข้อเสนอจำนวน 40 ล้านยูโรพร้อมกับรายได้อื่นๆ อีก 10 ล้านยูโร จาก นิวคาสเซิ่ล ซึ่งต้องการเสริมแกร่งให้กับทีมในการดิ้นรนหนีการตกชั้นในฤดูกาลนี้

     อย่างไรก็ตาม อาซาร์ ปัดที่จะย้ายไปเล่นกับทัพ 'สาลิกาดง' อย่างไม่มีเยื่อใย โดยสื่อฉบับเดิมอ้างว่านักเตะจะย้ายทีมก็ต่อเมื่อได้ไปเล่นให้กับสโมสรยักษ์ใหญ่อย่างเช่น เชลซี เป็นต้น

     ทั้งนี้ 'สิงห์บลูส์' ตกเป็นข่าวพัวพันจะดึงตัว อาซาร์ ซึ่งประสบความสำเร็จกับทีมมาตลอด 7 ปีพร้อมซัดไป 110 ประตูกับ 92 แอสซิสต์ จากจำนวน 352 เกมที่เล่นให้กับพวกเขา กลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง  
#2640

ฟิทช์ โซลูชันส์เปิดเผยว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและจีนยังคงมีแนวโน้มที่ตึงเครียด ซึ่งจะส่งผลให้จีนเดินหน้ากระจายการนำเข้าสินค้าเกษตร และอาจทำให้ส่วนแบ่งตลาดสินค้าเกษตรในจีนลดต่ำลง

ทั้งนี้ ฟิทช์ โซลูชันส์คาดการณ์ว่า จีนอาจจะลดการซื้อถั่วเหลืองและสินค้าเกษตรประเภทอื่น ๆ จากสหรัฐ ในขณะที่สถานการณ์การเมืองระหว่างสองประเทศยังคงตึงเครียด โดยคาดว่าบราซิลจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้ชนะในเกมการค้าครั้งนี้ ซึ่งปัจจุบันบราซิลมีส่วนแบ่งตลาดสินค้าเกษตรในจีนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอีก โดยสินค้าเกษตรดังกล่าวได้แก่ เนื้อวัวและฝ้าย

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า แม้จีนซื้อสินค้าเกษตรจำนวนมากจากสหรัฐในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะข้อตกลงการค้าที่ลงนามร่วมกันในเดือนมี.ค. 2563 แต่ความสัมพันธ์ของสองชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจกลับถดถอยลง โดยส่วนใหญ่เป็นความขัดแย้งในประเด็นฮ่องกง, ไต้หวัน, สิทธิมนุษยชน, ต้นตอการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และอีกหลายประเด็น

นอกจากนี้ ฟิทช์ โซลูชันส์ยังได้ระบุถึงประเด็นอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจสินค้าเกษตรในปี 2565 ซึ่งรวมถึงต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นและปัญหาห่วงโซ่อุปทาน โดยฟิทช์ระบุว่า ความสัมพันธ์อันตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีนได้ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อระบบโลจิสติกส์ เนื่องจากข้อพิพาทที่รุนแรงขึ้นจะส่งผลให้เส้นทางการค้าสะดุดลง